Home / แฟนตาซี / เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี / เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๕ คุณพี่ผู้เจ้าชู้ประตูดิน (๑)

Share

เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๕ คุณพี่ผู้เจ้าชู้ประตูดิน (๑)

last update Last Updated: 2024-12-31 00:49:37

“ได้สิ จักให้พิศดูจนพอใจเลยเชียว”

อสุราหนุ่มว่า หย่อนท่อนขาแกร่งลงนั่งขัดสมาธิแบบไม่เรียบร้อยนัก เปิดเผยส่วนที่ผงาดแข็งขืนราวกับท่อนซุงจะจะตรงหน้าหล่อน

ตอนที่สระบัวที่เคยเห็น ช่วงบนบกก่อนที่จะถูกพาลงน้ำที่เขาถอดจนชีเปลือยล่อนจ้อนมันยังหดตัวอยู่ แต่แค่นั้นก็ใหญ่โตมโหฬารเหลือคณา สาวเจ้ากลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ พลิกตัวกลับไปนั่งคุกเข่าอย่างเกร็งตัว ประจันหน้ากับสิ่งมหัศจรรย์อย่างมิหวั่นเกรง

ที่ไหนกัน หล่อนตัวสั่นริกๆ ยามเมื่อแสงจันทร์ต้องกับส่วนปลายหัวที่โค้งมน มันเงาวับและมีเส้นเลือดเป็นปล้อง ส่วนปลายบานเหมือนดอกบัวตูมสีออกชมพูหม่นเล็กๆ ขนาดส่วนท่อนแข็งนั้นราวกับท่อนซุงสีเนื้อที่ผงาดชูชันอยู่ตรงหน้าเธอ

อีแบบนี้... จักเข้าไปได้หรือ ไม่ทะลวงไส้ทะลวงพุงหล่อนหรือไร

“ใหญ่โตใช่หรือไม่” อีกฝ่ายเองก็ยืดอกผาย ภาคภูมิใจในขนาดของตนเอง “อย่าได้กลัวไป ธุลีในน้ำของพี่ช่วยให้น้องผ่อนคลายได้ ดื่มมันก่อนแล้วน้องจะครอบครองพี่ได้ทั้งหมด”

“ประเดี๋ยวก่อนค่ะ” เธอยังปะติดปะต่อกระไรมิได้ความสักเท่าใดนัก เลยนั่งเรียบเรียงอยู่ “ธุลีใต้น้ำ... อสุจิ”

หรือว่า

“นี่คุณพี่จะต้องทำเรื่องวิตถารต่อหน้าเด็ก แล้วหนูต้องกินน้ำค
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๕ คุณพี่ผู้เจ้าชู้ประตูดิน (๒)

    เขารำพันออกมาถึงเรื่องราวของตน มิได้อยากสัปดนจนโดนสาวเจ้ารังเกียจรังงอน หากแต่นี่คือประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาของต้นตระกูลยักษ์ เนื่องจากว่าขนาดอันใหญ่โตที่จักทำให้อีกฝ่ายเจ็บร้าวเอาได้ จึงจำต้องมีน้ำอมฤตไว้ผ่อนคลายจิตใจ พิศดูดีๆ ก็อาจคล้ายกับยาเสียสาวนั่นแลฝ่ายบุรุษมัจฉาก็นิ่งเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมา“ข้าเป็นเพียงแค่ปลาในสระบัวของท่าน มิรู้เรื่องกระไรเช่นนี้ดอก”“ข้าจักต้องทำเช่นไร ให้นางยอมรับสิ่งที่เป็นข้า”“...”“หรือเพราะนางเป็นมนุษย์ที่ยังถือพรหมจารีย์ ถึงยังมิคุ้นชินกับประเพณีเช่นนี้?”“ข้าคิดว่าเช่นนั้นนายเหนือหัว ท่านควรเข้าหานางด้วยความเยือกเย็น มิจำเป็นต้องวู่วาม”“เช่นนั้นเองหรือ” สุวรรณราพณ์ยักษาทอดมองภาพกายาอันใหญ่โตและใบหน้ารูปงามของตนเองที่ปรากฎบนผิวน้ำ มันบิดเบี้ยวบึ้งบูดพอๆ กับในฤทัยของเขา รวบรวมความกล้าเหลือเกินกว่าที่จักแปลงกายไปดูนางสีฟันกับกิ่งข่อย จนเห็นนางอ้างว้างหนาวเหน็บจึงเข้าไปโอบกอดอย่างทนดูมิได้ภักดีรอนางมาร้อยกว่าปี จนเกิดใหม่เป็นยักษารูปงามชน ก็อยากจักครองราชย์ สร้างเนื้อสร้างตัว สร้างเมืองให้อุดมสมบูรณ์ หากแต่พันธะสัญญาที่ท่านมอบไว้กับฤาษีต

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๕ คุณพี่ผู้เจ้าชู้ประตูดิน (๓)

    “คิกๆ ดูท่านจักอยากได้เจ้าเป็นเมียนักเชียว ถึงได้มาบ่นรำพึงกับข้าที่บึงอยู่บ่อยๆ แถมครานี้ยังมอบคาถาให้ข้าพูดคุยโต้ตอบได้เสียด้วย” บุรุษปลาบู่หัวเราะคิกคักท่าทางมีเลศนัย “ไยเจ้าไม่ไปถามท่านผู้นั้นเองเล่า ว่าเจ้าควรทำเช่นไร”“เอ้ะ คุณปู่ปลา ก็หนูมาถามคุณปู่เพราะหนูเองก็ไม่กล้าไปถามเขาตรงๆ ยังไงล่ะคะ” อีกฝ่ายยกมือข้างหนึ่งที่ไม่ได้ค้ำสะพานไม้ขึ้นมาท้าวสะเอว “แล้วเขามาแอบดูเราอย่างนี้ หนูจะต้องทำอย่างไรต่อดี”“เผชิญหน้าไปตรงๆ ซิ ท่านน่าจักอยากพูดคุยบางอย่างกับเจ้านะ”“แต่หนู...”“ไยมานั่งหมอบตรงนี้อยู่คนเดียวหรือน้อง?”“ว้ายตาเถร!” มธุรสสะดุ้งโหยง ตกใจเสียงทุ้มต่ำที่มาประชิดด้านหลังราวกับว่าอีกฝ่ายเดินเข้ามาเฉียดใกล้เมื่อไหร่มิอาจทราบได้ และเพราะตนกำลังชะเง้อคอลงไปชิดกับผิวน้ำอยู่นั่นเอง นางจึงเผลอหกคะเมนหัวทิ่มหัวตำลงไปในสระบัวตามที่อุทานไว้จริงๆบุ๋งๆเสียงนางหายใจเป็นฟองอากาศใต้น้ำ เพราะหัวทิ่มลงมาในท่าที่ไม่ถูกต้องนัก เส้นเลยยึดตรงหัวเข่า ทำให้นางปวดขามิสามารถตีขาในน้ำว่ายขึ้นไปรับอากาศได้ ทำได้แค่เพียงค่อยๆ ร่วงหล่นลงสู่ก้นบึงอย่างน่าอนาถแต่ทว่าดวงตาที่พร่ามัวมองเห็นกายาใหญ่โตกำลั

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๕ คุณพี่ผู้เจ้าชู้ประตูดิน (๔) จบตอน

    ‘น้องจันทร์แจ้งว่านางมิพร้อมจักร่วมหลับนอนกับข้า อดทนรอได้ฤาไม่’ถ้ากูมิได้เสพสมกับหญิงสาวตนใดในเพลานี้ กูจักอาละวาดและยึดร่างกายเจ้า จับสนมทุกนางกินให้หมดเสีย!‘มิได้ เจ้าจำต้องรับฟังคำขอของข้าด้วย’เสียงดื้อดึงในหัวของเขาเงียบลงไปชั่วอึดใจ ก่อนที่จะหัวเราะขบขันได้สิ หากแต่... มึงต้องเรียกตองนวลมาให้กูเสพสังวาสกับนางในคืนนี้ มึงทำเพื่อแลกกับชีวิตของสนมทุกคนได้หรือไม่?เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นที่หน้าผากของบุรุษยักษา เขาคืออสุราผู้บำเพ็ญตบะและสั่งสมอาคมอันแก่กล้ามานานหลายร้อยปี และถือพรหมจารีย์ เพื่อจักได้มีชีวิตรักเคียงข้างคู่ชะตาของเขาเพียงเท่านั้นแต่ถ้าเป็นความบ้าคลั่งในกายเขา ที่ถูกเพรียกชื่อว่า ‘สังวรีราพณ์’ นั้น เขามิแน่พระทัยนักเขามีชีวิตและห่วงหาแต่เจ้าจันทร์เพียงเท่านั้น หญิงอื่นเขาหาได้สนใจไม่‘ข้าจักเรียกนางมาให้เจ้า ในคืนนี้’สังวรีราพณ์ นั้นคือยักษาที่เร้นกายในความมืดมิดภายใต้ดวงจิตของสุวรรณราพณ์มาตลอดร้อยปีที่เขาถือกำเนิดขึ้น ดวงจิตอันมืดมิด เผยเป็นยักษาขนาดมหึมา กายาสีทมิฬกับห้าสิบหัตถ์ รอยอักขระสีทองคำเต็มทั่วกายา ไฟสุมกายมันท่ามกลางบัลลังก์กองกระดูกมนุษย์แลความมืดมิดที่ย

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๑)

    “คุณพี่เรียกข้าหรือ”เสียงกังวานใสของตองนวลดังภายในหอนอนปีกขวาในยามราตรีกาล นางกำลังนั่งผัดหน้า แต้มนิดแต้มหน่อยอย่างพึงใจสูรย์ตรีแย้มยิ้มเมื่อเห็นว่าพระสนมดูสุขีดี พลางหมอบกราบอย่างนอบน้อม“เจ้าค่ะพระสนม ดูองค์เหนือหัวต้องการท่านมากทีเดียว”“ข้าควรจักทำสีหน้าเช่นไรดีล่ะ” วันเวลาผ่านไปหลายชั่วยาม หลังจากที่รับนางเด็กเจ้าจันทร์นั้นมา คุณพี่ก็มีรับสั่งเรียกเธอจนได้ แม้นว่าก่อนหน้าจักเห็นตามติดเจ้าจันทร์อยู่เสียหลายวัน รู้มั้ยว่านางต้องทนหนาวเหน็บกายายามค่ำคืน ไร้อ้อมกอดอบอุ่นของท่านมานานเพียงไหน“พระสนมเพียงทำสีหน้าปรกติ ก็งามเกินกว่าใครมาเปรียบแล้วเจ้าค่ะ”“ปากหวานเหลือเกินหนา” นางผินหน้าสะเทิ้นอายรับคำชม ตองนวลเม้มปากกับกระดาษสีชาด ริมฝีปากเต่งตึงฉาบด้วยสีสัน นางแต้มมือกับกลีบปากให้เนื้อสีดูนวลชวนเย้ายวนตาขึ้นเพียงนิด จึงค่อยๆ หยัดกายลุกจากโต๊ะเครื่องแป้ง“ข้าจักรีบไปหาคุณพี่ประเดี๋ยวนี้”ในหอนอน เรือนที่ใหญ่โตโอ่อ่าปรากฏเป็นวังมรกตที่สวยงาม ร่างสะโอดสะองในชุดไทยโบราณงามวิจิตรค่อยๆ ย่างก้าวเข้าไปภายใน ประตูไม้ถูกแง้มไว้แต่พอดี นางจึงค่อยๆ แอบมองลอดดูด้านในอย่างตื่นเต้น“เข้ามาสิตองนว

    Last Updated : 2025-01-02
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๒)

    มธุรสพยายามดิ้นรนทั้งที่บัดนี้กายสาวเปลือยเปล่า ผิวขาวผ่องสะท้อนแสงจันทร์เปล่งประกายสุกใส ผิดแผกจากสาวงามที่สังวรีราพณ์เคยลิ้มรสผ่านกายาของไอ้สุวรรณราพณ์ เนื้อนวลเปล่งสีทองประกาย สาวงามเช่นหล่อน เมื่อชาติก่อนคงทำบุญมามาก ชาตินี้จึงเกิดมาด้วยรูปโฉมงดงามราวกับนางอัปสรเช่นนี้“อยากรู้เสียจริงว่าไฉนไอ้สุวรรณราพณ์ถึงหวงแหนเจ้านัก ข้าจักลิ้มรสเจ้ามิให้เหลือ ให้มันได้รู้ซึ้งว่าข้านี่แหละที่ควรจักครองร่างนี้”สุวรรณราพณ์พร่ำพูดคำที่มธุรสไม่สามารถทำความเข้าใจได้ กายาใหญ่ยามสะท้อนแสงจันทร์ พร้อมกับดวงตาสีชาดที่แลดูหมายมั่นว่าจักเอาหล่อนมารวบหัวรวบหางให้ได้ทำให้มธุรสหวีดร้องในลำคอ นางพลิกตัวเพื่อคลานลงจากเตียง หากแต่ก็ถูกรั้งข้อเท้าเอาไว้ แลถูกลากให้นอนราบคว่ำหน้าบนเตียงสังวรีราพณ์คว้าสะโพกนางให้ยกเชยขึ้น สำรวจความงามของบั้นท้ายขาวผ่อง ตรงใจกลางกลีบดอกลำดวนนั้นช่างงดงาม เป็นสีชมพูอ่อนแลสั่นระริกจากเนื้อตัวของนางปลายตชฺชะนี (นิ้วชี้) แลมชฺฌิมา (นิ้วกลาง) แหวกกลีบเนื้อนวลที่ปิดสนิทแนบชิดกันออก เผยโพรงแคบแน่นขนัดที่เต้นตุบๆ ด้านในเป็นสีชมพูเข้ม งดงามเมื่อได้เชยชมดวงหน้าคมคายโน้มเข้ามาใกล้บั้นท้า

    Last Updated : 2025-01-02
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๓) จบตอน

    เช้าตรู่วันต่อมา มธุรสตื่นขึ้นมาพร้อมกับคราบน้ำตานางค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่ง ผิวเนียนนุ่มมีแต่กลิ่นสมุนไพรฉุนจมูก เจ้าตัวจ้อยค่อยๆ ใช้หลังมือนวลปาดน้ำตาของตนเอง พลางค่อยๆ วางเท้าลงบนพื้นกระดาน หยัดยืนขึ้นเต็มความสูง“... พี่สูรย์จันทร์” เธอเรียกชื่อของบ่าวอสุรีประจำกายตน เมื่อคืนพอหัวถึงหมอนก็ร้องไห้จนหลับไปเลย โดยมีพี่สูรย์จันทร์ค่อยลูบเนื้อลูบตัว ทำแผลหายาทาให้อยู่ไม่ห่างในยุคนี้ คนที่ใจดีไปมากกว่าพี่สูรย์จันทร์... คงไม่มีอีกแล้วแม้แต่เจ้ายักษ์นั่นที่เกือบจะไว้ใจ ก็ทำร้ายเราจนเจ็บใจ เจ็บกายไปหมด“... ต้องหนี” มธุรสพึมพำกับตนเองใช่ ต้องหนีไปจากที่นี่ เพราะเธอไม่สามารถทนอยู่เพื่อประสบพบหน้ากับชายผู้นั้นได้อีกแล้วมธุรสคิดพลางห่มกายที่เปลือยเปล่ากับผ้าแพรยาวคลุมได้ทั้งตัว พลางค่อยๆ ลับๆ ล่อๆ เดินกะเผลกๆ ลงไปตามกระไดเรือน มองซ้ายมองขวา เลือกไปในที่ที่ทหารอารักขามองไม่เห็นพอเข้าไปในป่าละม่อมนางก็วิ่ง วิ่งจนสุดชีวิต วิ่งโดยไม่หันกลับไปมองข้างหลัง จนเข้ามาในเขตป่าใหญ่ที่ติดกับป่าละม่อมรอบสระบัว นางมองไปด้านหลังเห็นวังมรกตอยู่ลิบๆคนตัวเล็กหอบแฮ่ก พลางล้มตัวลงนั่งกลางป่า เสียงนกและเสีย

    Last Updated : 2025-01-02
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๑)

    รุ่งสาง... สุวรรณราพณ์ปรากฎกายอยู่ริมสระบัวไม่ใกล้ไม่ไกลกับวังมรกตของตน เป่าปี่ชวาอย่างเศร้าศร้อย เมื่อเขาทุกข์พระทัยเรื่องใด มักเลือกที่จะปลดปล่อยด้วยบทเพลงเสียดแทงดวงใจผู้ที่ได้ฟังความเจ็บปวด เศร้าหมองนั้นส่งผ่านเสียงของปี่ ไปยังฝูงปลาบู่เผือกที่ว่ายวนไปมาอยู่ในสระบัว คุณปู่ปลาบู่นั้นจึงได้ส่งเสียงพูดคุยกับท่าน“วันนี้เพลงปี่ท่านเศร้าศร้อยเหลือเกิน ท่านมีเรื่องทุกข์ใจอันใดฤา” สุวรรณราพณ์ทอดมองไปอย่างน่านน้ำใส ผ่อนปรนลมหายใจออกมาพลางท้าวแขนไว้ที่ข้อเข่าที่ถูกยกชันขึ้นบนสะพานริมน้ำ“ข้าคงถูกน้องจันทร์เกลียดเข้าแล้ว” เขาพูดพลางยกปี่ชวามาวางแนบไว้บนหน้าตักใหญ่ รุ่งสางหมอกยามเช้านั้นลงที่เนิ่นน้ำจนเกิดคล้ายๆ ก้อนปุยเมฆเหนือนั้น ทั้งหนาวแลสวยงาม “เมื่อคืนนี้ ข้าเผลอปล่อยตนข่มเหงรังแกน้องเข้า จนน้องจันทร์เจ็บปวดทั้งกายแลใจ”“ท่านจึงมาขับกล่อมด้วยเพลงปี่เช่นนี้หรือ เหตุใดจึงไม่ไปพูดคุยปรับความเข้าใจกันเล่า”“เจ้าเป็นเพียงแค่ปลา... มันมิง่ายเช่นนั้นดอก”“ถึงท่านจักเป็นนายเหนือหัวของเมืองนี้ ก็มิใช่ว่าท่านจักรู้ไปเสียทุกเรื่องดอกหนา” เจ้าปลาบู่เผือกชรานั้นพูดด้วยท่าทางแปลกๆ มันดูฉลาดเกินกว่า

    Last Updated : 2025-01-24
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๒)

    งั้นจักปล่อยให้ไอ้ท้าวไกรสิงห์นั้นได้เมียมึงไปหรืออย่างไร ไอ้หน้าโง่ ให้กูครองกายมึงเสีย ถ้ามิอยากให้นางนั่นถูกกรงเล็บครุฑนั่นจิกคอดับดิ้นชีวี!“มันก็เพราะมึงมิใช่ฤา ที่เข่นฆ่าพวกของมันจนมันต้องมาเอาชีวีเมียกู”กูก็กำลังจักชดใช้ให้มึงอยู่นี่อย่างไร สุรสียงดุกร้าวมีรอยยิ้มขบขัน ที่พูดไปหาได้มีความรู้สึกสำนึกอยากจักชดใช้อยู่จริงไม่ ก็เพียงแค่อยากฆ่าเท่านั้นสุวรรณราพณ์นิ่งงันไปชั่วอึดใจ เพราะนอกจากน้องนางของเขา ถึงอีกใจอยากจักสั่งสมความดีตามที่พระฤาษีท่านว่า แต่อีกใจใครจักเป็นจักตายก็ช่างมัน“ถ้ากูให้มึงครองร่าง จักไม่ฆ่าใครไปมากกว่าไอ้ท้าวไกรสิงห์ใช่หรือไม่” เสียงหัวเราะก้องกังวาน สังวรีราพณ์กำลังคิดแผนการกบฏครั้งใหญ่ หากแต่ปากกลับเอื้อนเอ่ยวาจาตระบัดสัตย์กูให้สัญญาทางด้านฝั่งของมธุรส นางกำลังกระถดถอยไปยังหัวพระแท่นของท้าวไกรสิงห์ พลางมองกล้ามเนื้อสุดเย้ายวนขาวผ่องเป็นยองใยตรงหน้าที่ถูกซ่อนไปด้วยทับทรวงแลสังวาลย์ แต่ก็ยังปกปิดความแซ่บนั่นไม่มิดจักสุวรรณราพณ์ก็ดี หนุมานก็ดี อีตาครุฑนี่ก็ดีมีแต่คนหุ่นดีทั้งนั้นเลย!“จ้องกระไรมิวางตาเช่นนั้น”“อะ... เอ่อ” หากแต่เสียงทุ้มดุดันก็ขัดต่อภ

    Last Updated : 2025-01-24

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๖ ชายาครุฑ (๒)

    อ้อมกอดแห่งครุฑสีชาตินั้นทำให้นางยากจักถอนกายออก ความอบอุ่นที่ไม่ทราบเหตุผลว่าเพราะเหตุใดชายผู้นี้ถึงได้เลือกนางเป็นมารดาผู้ให้กำเนิด กรรณิกาอัปสรไม่คิดหวังให้ท้าวไกรสิงห์ใฝ่รักใฝ่หานาง หล่อนหมดหวังไปตั้งแต่พระสวามีคนก่อนแล้วสุวรรณราพณ์มองกรรณิกาที่อยู่ในร่างของเจ้าจันทร์เป็นเพียงแค่ตัวแทนหญิงที่ห่างกายเขาไปเมื่อนานมาแล้ว เขามักตัดพ้อรำพันทุกค่ำคืนว่าหญิงในอดีตชาตินั้นร้างรักเขาเนื่องจากเป็นอสูรรูปชั่ว แม้นมียศถาบรรดาศักดิ์มากมาย ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจนางได้หารู้ไม่ว่าทุกอย่างนั้นคือบ่วงกรรมที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องเผชิญ ฝ่ายท้าวไกรสิงห์นั้นไม่สามารถระลึกชาติก่อนได้ แต่เขามีสะพานกรรมที่ต้องวนเวียนชดใช้ อดีตชาติของท้าวไกรสิงห์ก่อนจักมาเกิดเป็นครุฑนั้น คืออดีตพรานบุญที่หลงรักมธุรสวดี อัปสราสาวที่ลงมาล้อเล่นน้ำอาบแสงจันทร์กลางป่าหิมพานต์ในสระอโนดาต แลเสพสมกับหล่อนกลางสระงาม โดยที่หล่อนเมามายรสน้ำเงาจันทร์ ทำให้หลงลืมคิดว่าพรานบุญนั้นคือสามีของตนเฉกเช่นทศกุมภัณฑ์เมื่อทศกุมภัณฑ์มาพบการก่อกบถเข้า จึงทำการฆ่าพรานบุญคนนั้นจนตายในชาติก่อน ชิงเมียรักกลับมาสู่อ้อมอก พรานบุญนั้นสาปแช่งก่อนตายตกว่าชาติ

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๖ ชายาครุฑ (๑)

    ก่อนพบรักกับอัปสรมธุรสวดี ทศกุมภัณฑ์เคยมีภรรยาเป็นยักษีรูปร่างงดงามสะสวย นางเสวยทิพย์มิกินเนื้อคนต่างจากเขาผู้เป็นสวามี นางถูกตบแต่งกับเขาเพียงเพื่อสานไมตรี ทศกุมภัณฑ์อัปลักษณ์หากแต่มียศศักดิ์บริวารมาก ตระกูลยักษ์ฝั่งนั้นจึงส่งนางปารตีเป็นเมียกำนัล การตบแต่งที่มิได้เริ่มต้นด้วยความรัก สุดท้ายทศกุมภัณฑ์กลับหลงรูปโฉมอัปสราจนทิ้งนางน้ำตาตกในตลอดมานางยักษ์ปารตีเองก็มิได้เหลียวแลเนื่องจากสวามีนั้นโหดเหี้ยมทานแต่เนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อสัตว์เนื้อมนุษย์ไม่ขาดปาก นางที่เป็นยักษ์เสวยทิพย์ชั้นสูง จึงตีตนออกห่าง จนเป็นช่องโหว่ให้อีกฝ่ายนั้นไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย อยู่ของนางดีๆ ก็ต้องมารับรู้ว่าสวามีของตนนั้นได้ลิ้มรสเชยชมนางอัปสรชั้นสูง พร้อมกับเอานางอัปสรมธุรสวดีเข้ามากกกอดถึงในรังนอนนิมมานเทพเองต้องการดวงตาของนางยักษ์ปารตี เนื่องจากดวงตาของนางเป็นดวงตาที่สาม สามารถเปิดโลกแห่งความตายทั้งปวงได้ การมีดวงตาของนางเอาไว้ในครอบครอง มิว่าจักเป็นนรกภูมิหรือสรวงสวรรค์ เขาจักเป็นชายผู้มากศักดาจนมีแต่คนอยากคบหาพาที เขาจึงส่งนางอัปสรมธุรสวดีเข้าหาทศกุมภัณฑ์หวังยั่วยวนหาโอกาสฆ่าชิงดวงตาที่สามของนางปารตี แต่นางอั

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๕) จบตอน

    “เมื่อเจ้าเติบใหญ่กว่านี้ พ่อจักบอกทุกอย่าง อดทนรอแล้วทำตามที่พ่อเอ่ยได้หรือไม่” แน่นอนว่าพระสุวรรณราพณ์รู้ดีถึงพลังที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดของบุตรแฝด แต่เนื่องจากอินมุกแลจันทร์ดายังมิมีวุฒิภาวะหรือการเผชิญหน้ากับโลกภายนอกมากพอที่จะเข้าใจเรื่องราวในอดีตชาติของตน เขาจึงอยากรอให้ลูกทั้งสองเติบโตมากกว่านี้ก่อน“ไม่! ท่านควักดวงตาแม่แท้ๆ ของข้า แลยังขับไสไล่ส่งแม่ที่แท้จริงของพวกเราไปไกลบ้านไกลเมือง หากมิรักใคร่เนื่องจากพวกเราเป็นสายเลือดมนุษย์ ท่านพ่อก็บอกข้ามาตามตรงเถิด!” จันทร์ดาได้ฟังพี่ชายว่าเช่นนั้นก็ใจตกไปอยู่แทบตาตุ่ม ยืนร่ำไห้กอดอินมุกที่หยัดยืนสู้ตัวน้อยๆ ประจันหน้ากับกษัตริย์เมืองยักษ์ที่ถือเป็นบิดาแท้ๆ ของตน ตั้งแต่เกิดมาบิดาไม่เคยพูดดีด้วยนอกเสียจากมองเขาเป็นตัวปัญหา แม้นจักเป็นลูกของสตรีที่มิได้รัก แต่ก็มีหัวจิตหัวใจเช่นกัน“ควักดวงตา? หมายความว่าเช่นไร” สีหน้าของพระสุวรรณราพณ์นั้นสับสน ชวนให้สองเด็กแฝดชะงักไป“พระมารดาของเจ้านั้นอยู่ที่เมืองจันทร์ นางตาบอดเพราะถูกควักลูกตาไปด้วยฝีมือของพระบิดาของพวกเจ้า เนื่องด้วยนางมิเป็นที่โปรดปรานเท่ากับสนมคนที่สิบสองอย่างนางอัปสรที่นามว

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๔)

    “ไสหัวไปเสีย ก่อนที่กูจักบั่นคอมึงให้ดับดิ้นอยู่ตรงนี้” พอได้ยินอีกฝ่ายตีฝีปากกลับอย่างมั่นอกมั่นใจเช่นนั้นอสุราหนุ่มยิ่งพิโรธเหลือ เขารู้เรื่องราวทุกอย่างที่หล่อนลงมาแลแปลงกายเป็นอัปสรเพื่อเข้ามาเป็นสนมคนที่สิบสาม แต่เขาไม่สามารถล่วงรู้ได้ถึงช่วงที่นางดำรงอยู่บนสรวงสวรรค์กับนิมมานเทพ มิอาจรู้ได้ว่ามันได้เป่าหูกระไรนางไว้บ้าง“อย่าลืมเสีย สุวรรณราพณ์... ไม่สิ ไอ้ทศกุมภัณฑ์เอ๋ย”“...!”“มธุรสวดีจักไม่มีวันตกเป็นของมึง แม้นชาตินี้หรือชาติไหน กูจักตามราวีมึงทุกชาติไป เพื่อให้ได้มาซึ่งหญิงที่กูหมายครอง”ไวกว่าความคิด พระสุวรรณราพณ์เขวี้ยงดาบทมิฬตรงไปยังร่างตรงหน้าหวังฟาดฟันด้วยความเกรี้ยวโกรธสุดกำลัง แต่ร่างนั้นกลับสลายหายไปเป็นเพียงไอหมอกเย็นเยียบโอบล้อมรอบดาบดำมืดก่อนที่จักถึงตัว พระสุวรรณราพณ์เรียกดาบทมิฬกลับมาสู่ฝ่ามือใหญ่ กวาดสายตามองไปรอบๆ พลางขบฟันกรอดอย่างขัดเคืองมาทั้งที ก็ทิ้งเพลิงกัลป์ไว้เลยสิหนา“ทะ... ท่านพ่อ ข้า...” อินมุกมีสีหน้าหวาดกลัวเมื่อผู้เป็นพ่อหมุนตัวใหญ่โตหันกลับมา ดวงตาสีชาดหรี่ลงมองบุตรชายที่ยืนตัวสั่น พระสุวรรณราพณ์ทำได้เพียงเดินนำหน้าลูกไปเท่านั้น“ตามพ่อมา อิ

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๓)

    “พระมารดาของเจ้านั้นอยู่ที่เมืองจันทร์ นางตาบอดเพราะถูกควักลูกตาไปด้วยฝีมือของพระบิดาของพวกเจ้า เนื่องด้วยนางมิเป็นที่โปรดปรานเท่ากับสนมคนที่สิบสองอย่างนางอัปสรที่นามว่ากรรณิกา”“!!!” ทั้งอินมุกแลจันทร์ดาเบิกตากว้าง เป็นจริงดั่งสัญชาตญาณที่ว่ามารดาของตนนั้นไม่อยู่ที่นี่ ตัวจริงนั้นอยู่เมืองจันทร์ ส่วนตัวปลอมที่แปลงเป็นมารดาของพวกเขานั้นคือหนึ่งในสนมที่เป็นนางสวรรค์แต่ยิ่งหดหู่ใจไปกว่านั้น... คือเรื่องที่บิดาเลือกที่จะควักลูกตาของพระมารดาไป เนื่องจากไม่เป็นที่โปรดปรานดั่งเช่นสนมที่เป็นนางอัปสร มันช่างน่าเศร้านัก นี่ท่านพ่อไม่มีความรักต่อแม่เราเลยหรือ“... ว่าต่อได้หรือไม่” ท้ายที่สุดเด็กชายก็อดรนทนไม่ได้ ด้วยความอยากรู้เรื่องราวของแม่ที่แท้จริงจึงเอ่ยปากถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงจากเมื่อครู่“จงมอบความเชื่อใจให้แก่ข้าเสียก่อน จึงจักเล่าต่อได้” นิมมานเทพถือโอกาสออกกลอุบายดึงบุตรของพระสุวรรณราพณ์มาเป็นพวกด้วยค่าของเรื่องราวของหญิงที่เขามินึกใส่ใจอย่างธิดาเจ้าจันทร์“ข้าแลน้องสาวจักเชื่อใจเจ้า”“อินมุก... เจ้ามิรักพระบิดาหรือ เจ้าเชื่อใจข้ามากกว่าพระบิดาหรือ ทั้งๆ ที่มันอาจจักเป็นคำโก

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๒)

    มิรู้ดอกว่าแปลงกายมาหลอกพ่อด้วยเหตุอันใด แต่จักมิยอมญาติดีกับแม่อัปสรสวรรค์นั่นเด็ดขาด“ข้ามิพูดคุยหรือทำดีต่อนาง ยัยนั่นมิใช่แม่ของข้า แม่ของข้าชื่อเจ้าจันทร์ ข้าจำกลิ่นไอของแม่ข้าได้ดี!”“อินมุก จริงๆ แล้วแม่ของเจ้า...”“เลิกพยายามจักโป้ปดข้า หาความดีความชอบมาสู่นังอัปสรนั่นเสียที ท่านพ่อรักหลงนางจนมิเห็นหัวข้าแลน้องจันทร์ดาเลยด้วยซ้ำ!” ว่าพลางก็กัดฟันข่มความรู้สึกโกรธแค้นนางอัปสรนั่น ฉุดแขนจันทร์ดาที่ยืนมองท่านพ่อกับพี่ชายต่อล้อต่อเถียงกันและวิ่งตามแรงจับจูงของพระเชษฐาไปอย่างว่าง่ายอินมุกวิ่งมาจนถึงบึงบัว กำหมัดแน่นในข้างที่ไม่ได้จูงฝ่ามือเล็กของน้องสาว จันทร์ดาเอียงคอมองพี่ชายฝาแฝดที่บัดนี้น้ำตาหยดลงสู่ผิวแก้มสุกปลั่ง“พี่อินมุก โอ๋ โอ๋ พี่อินมุกอย่าร่ำไห้เลยเจ้าค่ะ” เสียงหวานปลอบประโลมพี่ชายเพียงแผ่วเบา ตระกองกอดพี่ชายแนบแน่นเท่าที่จำความได้ อินมุกกับจันทร์ดามีสูรย์วันบ่าวยักษีตนหนึ่งคอยดูแลเป็นแม่นมให้ตั้งแต่เล็ก สายใยอบอุ่นระหว่างพวกเขาและพระมารดาแน่นแฟ้น อินมุกและจันทร์ดาเชื่อว่ามารดาคลอดตนด้วยความรักใคร่ เมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ถามถึงแม่ของตนที่มีนามว่าเจ้าจันทร์นางสูรย์

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๑)

    “มิมีสาส์นตอบรับส่งมาจากเมืองครุฑเลยพะย่ะค่ะฝ่าบาท... จนบัดนี้แล้ว”เหล่าทหารกราบทูลกับพระสุวรรณราพณ์ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ใหญ่มหึมา ได้ความว่าสาส์นท้ารบนั้นอาจส่งไปถึงเมืองครุฑ แต่ฝ่ายไอ้ท้าวไกรสิงห์อาจยังเล่นตุกติกมิยอมส่งสาส์นกลับมา ทำตัวยั่วโมโหเก่งจริงๆพระสุวรรณราพณ์เข้าใจว่ามันนึกแค้นเคืองที่ในอดีตชาติต้นกำเนิดเผ่าพันธุ์ยักษ์เช่นทศกุมภัณฑ์ (ซึ่งก็คือตัวเขาเองนั่นแล) นั้นเข่นฆ่าฉีกเนื้อเทือหนังครุฑอย่างโหดร้ายเพียงเพื่อชิงเมียรักกลับมาสู่อ้อมอก แม้นจักมาเจอเมียในร่างไร้วิญญาณก็ตาม แถมในอดีตก่อนเจอคู่ชะตา สังวรีราพณ์ก็ได้ไปบุกเมืองครุฑด้วยความหิวกระหายเนื้อสดหลังจากจำศีลไม่กินเนื้อมาเกือบห้าสิบปีจนตบะแตกด้วยดวงจิตทมิฬที่สอง สุดท้ายก็ฆ่าพวกครุฑแลครุฑีไปเกินครึ่ง แถมยังกินจนเหลือแต่กองกระดูกนกให้ดูต่างหน้าอีกด้วยเรียกได้ว่าเขาเองก็เป็นตัวการที่ทำให้ฝั่งไอ้ท้าวครุฑนั้นมีความอาฆาตแค้นจนต้องชิงสิ่งสำคัญออกไปอย่างเช่นภาชนะอย่างธิดาเมืองจันทร์ที่มีดวงจิตมธุรสวดีอยู่ในนั้น แม้นสุดท้ายจะสู้พลังวังชาของพระสุวรรณราพณ์ไม่ได้ก็ตามที่ส่งสาส์นท้ารบไป เพื่อจักให้มันจบมันสิ้นไป ให้มันได้ระบายอาร

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๔ ข้ารักลูก หาได้รักท่าน (๕) จบตอน

    แต่พระมเหสีเจ้าจันทร์กลับต่างออกไป ตลอดสามวันหลังคลอดเด็ก นางแวะมาแอบดูเด็กทั้งสองแลพยายามเข้าหาอยู่หลายครา แต่เด็กแฝดปฏิเสธการเข้าหาของแม่ สูรย์วันคิดว่าวันเดียวเธอคงล้มเลิกแล้ว เพราะคงมิมีใครอยากมีลูกกับยักษ์ สนมทุกคนที่ท่านนำพา ก็ล้วนแต่มิเต็มใจตกเป็นเมียทั้งสิ้นแต่นางกลับไม่เคยยอมแพ้ ยังแวะมาขอกอดขออุ้มอยู่ทุกวันแม้จักรู้ว่าเด็กทั้งสองจักต้องกระจองอแงแลผลักไสนางด้วยเดียดฉันท์เลือดมนุษย์“พระมเหสีทรงอยากอุ้มบุตรธิดาหรือเพคะ”“อะ... อื้อ” สาวเจ้าพยักหน้าหงึกหงัก ดวงหน้าซีดเซียว อาจเพราะยังป่วยอยู่“ท่านอินมุกแลท่านจันทร์ดายังมิคุ้นชินนัก แต่สักวันคงจักคุ้นได้แน่” นางว่าด้วยความหวังดี ฝ่ายกรรณิกาเองก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่จากทุกวันที่โดนลูกปฏิเสธ มันออกจักฝังใจมิน้อยแต่อย่าหวังว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่ของเธอจักมีเพียงแค่นี้หญิงสาวค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้เด็กหัวจุกทั้งสอง ค่อยๆ ยกจันทร์ดาขึ้นมาก่อนเพราะลูกหญิงมักอ่อนโยนกว่าคนพี่เล็กน้อย พร้อมกับยกบุตรสาวที่ทำตาโตมาแนบอกอิ่ม“จันทร์ดา... นี่แม่เองนะ”“...”“จันทร์ดา แม่รักหนู... แม้จักเป็นช่วงเพลาเพียงสั้นๆ ก็ตาม”หมับ!“อึก...!” แต่ยั

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๔ ข้ารักลูก หาได้รักท่าน (๔)

    ทำเป็นไม่รู้ต่อไป เพื่อรักษานางไว้ รวมถึงรักษาสัมพันต่อสรวงสวรรค์ มิเช่นนั้นทุกอย่างจักยากขึ้นเกือบเท่าตน ทั้งการสัญจร รวมถึงพันธะสงบศึกที่มีมาตั้งแต่อดีตชาติระหว่างสรวงสวรรค์แลโลกอสูรเป็นเพียงอสูร มีอำนาจมากมายเพียงไหน สุดท้ายยังถูกชิงไปได้ด้วยเทวดาอยู่ดีส่วนเด็กสาวผู้มิรู้ประสากระไรทั้งนั้น ได้แต่สั่นสะเทือนอยู่บนกายใหญ่เนื่องจากร่างกายเล็กจ้อยแสนเปราะบาง นางครางครวญเสียงสะท้านหวามไหว กอบโกยอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ท่าทางนี้มองเห็นดวงหน้าของยักษาได้ถนัด เขากำลังจ้องมองหล่อนอย่างเปรมปรีดิ์ รบกวนจิตใจเหลือเกินทำมาเป็นจ้องมองเหมือนรักเหมือนหลงยิ่งนัก จักทำให้ร่างน้อยๆ นี่เป็นของโปรดของเจ้าให้ได้เลยเชียวว่าพลางก็พยายามขยับบั้นเอวน้อยเพื่อคลึงความใหญ่โต แต่กลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ ถึงร่างกายจะแปลงตนเป็นอัปสร แต่ก็รับความรู้สึกได้ทุกอณูไม่ต่างกับร่างกายมนุษย์จนเริ่มชักไม่แน่ใจ ว่าตนเองเป็นอัปสร หรือมนุษย์กันแน่หรือนางหลอมรวมกับร่างเจ้าจันทร์ไปแล้ว?คิดเพ้อฝันพลางส่ายหัว ร่างนั้นจำแลงเป็นการเวกกลับสู่เมืองจันทร์ไปแล้ว สุวรรณราพณ์ตกเป็นของนางแทนที่เจ้าจันทร์แล้ว นี่ล่ะค

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status