รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่โตโอ่อ่า สไตล์ยุโรปสีขาวสะอาดตาตัดกับหลังคาสีแดงสด ภายในรั้วรอบขอบชิด ต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา บ่งบอกถึงฐานะอันมั่งคั่งของผู้เป็นเจ้าของ หลี่เหมยฮัว ก้าวลงจากรถพร้อมกับ หลิวซินเยว่ ในชุดเดรสลายดอกไม้สีฟ้าอ่อน
"เยว่เยว่ นี่บ้านฉันเอง เข้ามาข้างในกันก่อนเถอะ" หญิงสาวผายมือเชื้อเชิญ
หลิวซินเยว่มองไปรอบๆ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ "บ้านเธอสวยมาก"
"บ้านของฉันยังไม่ได้ครึ่งของบ้านพี่หย่งเจี๋ย รายนั้นบ้านรวยมาก มีแต่สาวๆ เข้าหา ฉันละอยากจะเห็นจริงๆ ว่าพี่หย่งเจี๋ย จะตกหลุมรักสาวที่ไหนกัน เขาจะได้ไม่ต้องเป็นพ่อพวงมาลัยลอยชายไปมา" หลี่เหมยฮัวนินทาพี่ชายข้างบ้านอย่างเมามัน
หลิวซินเยว่ ยิ้มแหยๆ ให้กับความมองคนไม่ออกของแม่นางเอก ทั้งที่เมื่อก่อน คุณตัวร้ายแอบหลงรักเธอมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ยัยนี้ดันซื่อบื้อมองไม่ออกจนมองข้ามความรักของคุณตัวร้ายผู้น่าสงสารไป
หลี่เหมยฮัวพาหลิวซินเยว่ เดินเข้าไปในตัวบ้าน ภายในตกแต่งอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สักสีเข้มขรึม ตัดกับพื้นหินอ่อนสีขาวสะอาดตา แจกันลายครามโบราณตั้งอยู่ต
เมื่อเธอแต่งตัวเสร็จก็เตรียมตัวออกจากบ้าน "พร้อมแล้วใช่ไหมเยว่เยว่"หลี่เหมยฮัวถามด้วยรอยยิ้มสดใส"อืม ไปกันเถอะ"หลิวซินเยว่ตอบรับ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินควงแขนกันออกจากบ้านทันทีที่ก้าวพ้นประตูบ้าน เธอก็เห็นร่างสูงโปร่งของหวังหย่งเจี๋ยในชุดสูทสีดำเข้มดูหล่อเหลาเป็นอย่างมากปรากฏขึ้นตรงหน้า ดวงตาคมกริบของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นหลิวซินเยว่"เยว่เยว่" หวังหย่งเจี๋ยอุทานออกมาอย่างลืมตัว ดวงตาคมกริบเบิกกว้าง จ้องมองร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าราวกับต้องมนต์สะกดหลิวซินเยว่ในชุดราตรีสีแดงเพลิงนั้นช่างแตกต่างจากหญิงสาวที่เขาคุ้นเคยโดยสิ้นเชิง ชุดเข้ารูปรัดไปตามสัดส่วนโค้งเว้าช่วยขับเน้นให้ผิวขาวผ่องของเธอยิ่งดูเปล่งประกายราวกับหยกชั้นดี ไหล่ขาวเนียนที่โผล่พ้นขอบเสื้อนั้นเรียบลื่นน่าสัมผัส ดวงตากลมโตถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนดูเย้ายวน ริมฝีปากอิ่มทาด้วยลิปสติกสีแดงสดตัดกับผิวขาวๆ ยิ่งขับให้ใบหน้าของเธอดูสวยเฉี่ยวราวกับนางฟ้า"มีอะไรรึเปล่าคะพี่หย่งเจี๋ย" หลิวซินเยว่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แสร้งทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับท่าทางตะลึงงันของคุณตัวร้าย
ภายในห้องโถงใหญ่ของโรงแรมหรู บรรดาแขกเหรื่อในชุดราตรีและสูทสุดหรูต่างทยอยเดินเข้ามาภายในงานเลี้ยง จางเจียอินปรากฏตัวขึ้นในชุดเดรสยาวสีแดงเพลิงแสนสะดุดตา เผยให้เห็นผิวขาวผ่องราวกับหยวกกล้วย เธอเยื้องย่างเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มหวานละมุน ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆ เพื่อค้นหา ซุนเจ๋อ ชายหนุ่มรูปงามผู้เป็นที่เธอหมายปองแต่แล้วภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำให้รอยยิ้มของเธอแข็งค้าง ซุนเจ๋อกำลังเดินควงแขนมากับ หลี่เหมยฮัว ลูกสาวคนเดียวของนายพลหลี่ ใบหน้างามของเหมยฮัวแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างประณีต ชุดราตรีสีฟ้าประดับสร้อยคอมุกขับให้เธอดูโดดเด่นราวกับนางฟ้า หัวใจของจางเจียอินเจ็บแปลบราวกับถูกมีดกรีดลึก ความริษยาแล่นพล่านไปทั่วร่างกาย"ทำไม...ทำไมต้องเป็นยัยนั่น!" จางเจียอินพึมพำกับตัวเอง "ฉันทั้งสวย ทั้งรวยกว่ายัยเด็กกะโปโลคนนั้นตั้งเยอะ ทำไมพี่เจ๋อถึงเลือกมัน"เธอเดินหนีผู้คนพลุกพล่านออกมาอย่างหัวเสีย ที่มุมหนึ่งของงานเลี้ยง เซียวจ้าน กำลังจ้องมอง เยว่เยว่ หญิงสาวที่เดินควงคู่มากับไอ้หวังหย่งเจี๋ย หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงนั้นดูเย้ายวนเป็นอย่างมาก แม้ว่าเธอจะไม่ได้มาจากตระกูลสูงศัก
เมื่อสองสาวเดินไปห้องน้ำ ทันใดนั้นเอง ร่างสูงใหญ่ในชุดเครื่องแบบทหารเดินเข้ามาหาซุนเจ๋อและหวังหย่งเจี๋ย"ผู้พันซุน พอดีท่านจอมพลให้ผมมาเรียกคุณไปห้องรับรองครับ ท่านมีเรื่องจะคุยด้วย" นายทหารหนุ่มเอ่ยเสียงดังฟังชัดซุนเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย "เรื่องอะไรหรือครับ""เดี๋ยวคุณไปห้องรับรอง เดี๋ยวท่านก็คงจะมาพูดคุยรายละเอียดกับคุณเองครับ น่าจะเกี่ยวกับเรื่องภารกิจลับ" นายทหารผู้นั้นตอบเลี่ยงซุนเจ๋อพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปมองหวังหย่งเจี๋ย "พี่หย่งเจี๋ย ผมไปก่อนนะ ถ้าเหมยฮัวมาบอกว่าผมไปคุยกับท่านจอมผมพล"อาเจ๋อ" หวังหย่งเจี๋ยรั้งแขนน้องชายคนสนิทไว้ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล "นายทหารคนนั้นมีท่าทางแปลกๆ นายระวังตัวไว้ด้วยล่ะ"ซุนเจ๋อมองตามสายตาหวังหย่งเจี๋ยไปยังนายทหารหนุ่มอีกครั้ง แววตาของเขาดูร้อนรนและมีพิรุธอย่างที่หวังหย่งเจี๋ยว่าจริงๆ"อืม ผมจะระวังตัวไว้ครับ " ซุนเจ๋อพยายามฝืนยิ้มให้ชายหนุ่มที่เขานับถือก่อนจะเดินตามนายทหารคนนั้นไปหวังหย่งเจี๋ยมองตามแผ่นหลังของน้องชายคนสนิทด้วยความเป็นห่วง ลางสังหรณ์บางอย่างบอกกับเขาว่า คืนนี้จะต้องมีเ
ทางด้านหลิวซินเยว่ เธอเดินไปส่งหลี่เหมยฮัว เข้าห้องน้ำในโรงแรมที่จัดงานเลี้ยงทั้งสองเดินเคียงคู่กันไปตามทางเดิน ทันใดนั้นหลี่เหมยฮัวทำหน้าเหยเก "เยว่เยว่เธอรอฉันแป๊บนะ ฉันน่าจะปวดหนักนะ"หลิวซินเยว่พยักหน้ารับ "โอเค งั้นฉันรอเธอที่หน้าห้องน้ำนะ"หลี่เหมยฮัวรีบเดินเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เพื่อนสนิทยืนรออยู่หน้าห้องน้ำเพียงลำพัง บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัด ตอนนี้ทุกคนต่างสนุกสนานกันอยู่ที่ในงานเลี้ยงทันใดนั้น เธอก็รู้สึกถึงเงาตะคุ่มๆ ปรากฏขึ้นด้านหลัง ก่อนที่เธอจะทันได้หันไปมอง ก็มีมือของใครบางคนเอื้อมมาปิดปากเธอไว้แน่น"อื้อ" หลิวซินเยว่ดิ้นรนสุดแรง พยายามร้องขอความช่วยเหลือ แต่เสียงของเธอถูกกลืนหายไปกับฝ่ามือหยาบกร้าน หัวใจของเธอเต้นระรัว เป็นตัวเธอเองประมาทเกินไปและยึดติดกับเนื้อเรื่องในนิยายมากเกินไปจนลืมไปว่าตัวเองอาจตกเป็นเป้าหมายของศัตรูของคุณตัวร้ายได้"อย่าดิ้นนะ ถ้าแกไม่อยากเจ็บตัว" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นข้างหู น้ำเสียงเย็นยะเยียบ ส่งผลให้เธอขนลุกชันไปทั่วร่าง หลิวซินเยว่มองเห็นเพียงเงาเลือนรางของผู้หญิงสองคน พวกเธอสวมหมวกไหมพรมปิด
ในทางเดินคับแคบ เสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นตามจังหวะการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เสี่ยวหลัน และเสี่ยวเจิง พวกเธอเป็นลูกน้องฝีมือดีของนายพลเซียว พวกเธอเหลียวซ้ายแลขวาด้วยความระแวดระวัง ก่อนจะพยุงร่างบางของหญิงสาวที่หมดสติอยู่ในอ้อมแขนให้มั่นคงยิ่งขึ้น ใบหน้าหวานซีดเผือดไร้ซึ่งเลือดฝาดของหลิวซินเยว่ ทำให้เสี่ยวหลันอดรู้สึกสงสารไม่ได้ แต่ภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากนายน้อยเซียวจ้านสำคัญยิ่งกว่า"ต้องรีบหน่อยแล้ว" เสี่ยวเจิง เอ่ยขึ้น ขณะเลี้ยวเข้าสู่ทางเดินแคบๆ ด้านหลังห้องเก็บของชั้นใต้ดินของโรงแรมโรงแรมหรูแห่งนี้ภายนอกดูเหมือนธุรกิจธรรมดา แต่เบื้องหลังกลับเป็นของท่านนายพลเซียวกับคุณเจิ้งเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ร่วมมือกัน และที่สำคัญโรงแรมแห่งนี้ยังมีเส้นทางลับที่ซ่อนอยู่มากมาย เสี่ยวหลันเคยแอบได้ยินท่านนายพลพูดคุยกันว่าสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการหลบหนี หรือใช้เป็นทางลัดสำหรับการประชุมลับหญิงสาวก้าวผ่านประตูไม้บานเล็กที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เมื่อผลักเข้าไป กลับพบกับบันไดวนทอดยาวขึ้นไปเบื้องบน โคมไฟสลัวส่องสว่างเพียงเล็กน้อย บ่งบอกว่ามีคนใช้เส้นทางนี้อยู่เป็นประจำเสี่ยวหลั
นายพลหนุ่มใจเต้นโครมคราม เหงื่อกาฬแตกพลั่ก เขากระชับสมุดบัญชีในมือแน่น ราวกับมันคือหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะพลิกโฉมชีวิตของเขา เสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาทุกขณะยิ่งทำให้ความตื่นเต้นปั่นป่วนในอกเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เสียงลูกบิดประตูบิดดังแกร๊กปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์ เขาไม่รอช้า รีบวิ่งไปหลบหลังม่านกำมะหยี่สีแดงเลือดนกหนาหนัก หวังว่ามันจะบดบังร่างของเขาจากสายตาของเจ้าของโรงแรมได้เสียงประตูเปิดออกพร้อมกับเสียงฝีเท้าหนักๆ ตามมาด้วยเสียงหวานใสของหญิงสาว"ท่านประธานเจิ้งคะ ฉันเตรียมเอกสารสำหรับประชุมพรุ่งนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ""อืม วางไว้บนโต๊ะนั่นแหละ" เสียงทุ้มต่ำของชายวัยกลางคนตอบกลับ "แล้วเรื่องที่ฉันสั่งให้ไปสืบเป็นยังไงบ้าง""เรื่องที่ดินผืนนั้นเหรอคะ""ใช่""ฉันตรวจสอบแล้วค่ะ เป็นชื่อของของนายพลหวังจริงๆ ด้วยค่ะ"หวังหย่งเจี๋ยเบิกตากว้าง เขาไม่คิดว่าเจ้าของโรงแรมจะกำลังสืบเรื่องของเขาอยู่"ฮึ่ม ไอ้นายพลหวังนั่นมันช่างตาถึงจริงๆ " เสียงนั้นแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ "ที่ดินผืนนั้นทำเลดี เหมาะแก่การสร้างคาสิโนที่สุด เสียดายที่มันตกไปอยู่ในม
นายพลเซียวก้าวเข้ามาใกล้ จนหลิวซินเยว่รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนรดที่ใบหน้า ก่อนที่ริมฝีปากร้อนผ่าวจะประกบลงมา หลินซินเยว่เบี่ยงหน้าหลบ ริมฝีปากของเขาจึงเฉียดไปที่แก้มของเธอ ความรู้สึกขยะแขยงแล่นริ้วขึ้นมา ในเมื่อเธอไม่สามารถแก้แค้นหลี่เจี้ยนได้ เธอขอเอาความแค้นมาลงกับลาสบอสคนนี้ก็แล้วหลิวซินเยว่ผงะถอยหลัง ก่อนจะตวัดสายตาคมกริบจ้องเขม็งใส่นายพลหนุ่ม “นายพลเซียวคะ ฉันว่าคุณกำลังล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว”เซียวจ้านแสยะยิ้มมุมปาก ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าหาเธอทีละก้าว สายตาคมกล้าจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวราวกับสิงโตจ้องมองเหยื่ออันโอชะ “คนสวย อย่าดื้อด้านนักเลย ยอมเป็นของฉันเสียดีๆ”หลิวซินเยว่แค่นเสียงหัวเราะในลำคอ “ฝันไปเถอะ”"คุณหนีผมไม่รอดหรอก แล้วจะออกแรงเหนื่อยไปทำไป" พูดจบชายหนุ่มพุ่งเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว เธอเบี่ยงตัวหลบทันควัน ก่อนจะใช้จังหวะที่นายพลเซียวเสียหลัก เธอทุ่มเขาลงไปกองกับพื้นนายพลหนุ่มยันตัวลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นตามเสื้อผ้าอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะแสยะยิ้มมุมปากอย่างยียวน "หึ มีฝีมือไม่เบา
ในขณะเดียวกันทางฝั่งของหลี่เหมยฮัว ทันทีที่หลิวซินเยว่หายตัวไปหญิงสาวร้อนรนใจยิ่งนัก นับตั้งแต่ที่เธอหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในงานเลี้ยง หลี่เหมยฮัวเดินตามหาตัวเพื่อนสนิททั่วทุกซอกทุกมุมของโรงแรมหรูแห่งนี้แล้ว แต่ก็ไร้วี่แวว"เยว่เยว่ เยว่เยว่อยู่ไหน " เธอพร่ำเรียกชื่อผู้มีพระคุณของเธอด้วยความกังวลน้ำตาเริ่มคลอหน่วยตา หากหลิวซินเยว่เกิดอันตรายขึ้นมาเพราะเธอ เธอจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเด็ดขาดแต่แล้วสมาธิของเธอก็ต้องสะดุดลง เมื่อได้ยินเสียงโครมครามดังมาจากด้านบน เธอเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจ เห็นร่างของซุนเจ๋อ กระโดดลงมาจากระเบียงชั้นสองของโรงแรม หัวใจของเหมยฮัวหล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม"พี่เจ๋อ พี่เจ๋อ" เหมยฮัวร้องเรียกด้วยความตื่นตระหนก รีบวิ่งเข้าไปหาซุนเจ๋อที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น มือบางสั่นเทาขณะพยายามพยุงร่างสูงใหญ่ของพี่ชายให้ลุกขึ้น"พี่เจ๋อ ทำไมพี่ถึงกระโดดลงมาจากชั้นสองได้" เหมยฮัวถามด้วยความเป็นห่วง น้ำตาคลอหน่วย "พี่เจ็บตรงไหนบ้าง" หญิงสาวเอ่นถามอย่างร้อนรน "แล้วเกิดอะไรขึ้นคะพี่ ถึงได้อยู่ในสภาพนี้"ซุนเจ๋อพยายามฝืนลืมตาขึ้น แต่เปลื
เสียงประทัดดังสนั่นหวั่นไหว บอกให้คนเมืองหลวงรับรู้ว่าวันนี้เป็นวันมงคลสมรสของตระกูลหวัง งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี กำลังจะเริ่มต้นขึ้นภายในห้องโถงใหญ่ แขกเหรื่อมากมายต่างทยอยเดินทางมาร่วมแสดงความยินดี ในที่สุดวันนี้ วันที่หวังหย่งเจี๋ยเฝ้ารอคอยก็มาถึง หลังจากที่เขาต้องอดทนรอให้หลิวซินเยว่ คนรักของตนเรียนจบมหาวิทยาลัยตลอดหนึ่งปีเต็ม วันนี้เขาจะได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เขารักที่สุดเสียทีหวังหย่งเจี๋ยในชุดสูทสีดำดูที่ดูหล่อเหลา เขานั่งรอเจ้าสาวอย่างใจจดใจจ่อ เสียงประตูห้องแต่งตัวเปิดออก หวังหย่งเจี๋ยที่ยืนรออยู่ด้านนอกแทบหยุดหายใจ หัวใจเต้นโครมครามอยู่ในอก เสียงฝีเท้าของหญิงสาวที่เขารักดังใกล้เข้ามาทุกขณะ ก่อนที่ดวงตาคมจะเบิกกว้างเมื่อเห็นเจ้าสาวของเขาหลิวซินเยว่ในชุดเจ้าสาวสีแดงสดปักลวดลายด้วยดิ้นเงินระยิบระยับเข้ารูปกับเรือนร่างอรชร ใบหน้างดงามแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบาแต่ขับเน้นให้ดวงตากลมโตดูสดใสเป็นประกาย ริมฝีปากอิ่มทาด้วยลิปสติกสีแดงสดตัดกับผิวขาวผ่องราวกับหยกชั้นดี ยิ่งขับให้เธอดูงดงามราวกับนางฟ้า เธอเดินออกมาพร้อมหลี่เหมยฮัวเพื่อนสนิทของเ
พิธีหมั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น หลังเสร็จสิ้นพิธี หลี่เหมยฮัวและซุนเจ๋อคู่สามีภรรยาผู้เป็นเพื่อนสนิทของหลิวซินเยว่ ก็เข้ามาแสดงความยินดีหลิวซินเยว่ เข้ามาทักทายคนมี้งคู่ทันที "เหมยฮัว ดีใจจังที่มาได้" เธอกอดคุณนางเอกไว้แน่น"เยว่เยว่ ยินดีด้วยนะ วันนี้เธอสวยมาก" เหมยฮัวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม"ขอบคุณนะเหมยฮัว" เธอกล่าวขอบคุณ สายตาเหลือบไปเห็นหน้าท้องที่เริ่มใหญ่ขึ้นของคุณนางเอก"เหมยฮัว เธอเป็นอย่างไรบ้าง แพ้ท้องบ้างหรือเปล่า" หลิวซินเยว่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง"นิดหน่อยนะ ช่วงนี้ฉันแทบทานอะไรไม่ได้เลย"คนเป็นแม่หมาดๆ เอ่ยตอบ"ถ้าเธอไม่สบาย ไม่ต้องบังคับตัวเองมางานหมั้นฉันก็ได้นะ" หลิวซินเยว่กล่าว"ฉันจะไม่มางานหมั้นเพื่อนสนิทของฉันได้อย่างไร" เหมยฮัวตอบกลับด้วยรอยยิ้มสดใส แม้ใบหน้าจะซีดเซียวเล็กน้อยจากอาการแพ้ท้อง"แล้วตอนนี้เธอรู้หรือยังว่าได้ลูกชายหรือลูกสาว" หลิวซินเยว่เอ่ยถามอย่างตื่นเต้นพลางลูบท้องของเพื่อนเบาๆ"ยังไม่รู้เพศเลย" หลี่เหมยฮัวตอบ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ"ถ้าฉันมีลูกชาย แล้วเยว่เยว่มีลูกสาว พวกเราจับทั้งสองหมั้
ไม่นานนักพวกเขาทั้งคู่ก็ก้าวลงจากรถยนต์คันหรูด้วยท่าทางตื่นตาตื่นใจ เบื้องหน้าเธอคือร้านอาหารฝรั่งเศสตกแต่งสไตล์ยุโรป ดูหรูหรา ทันสมัย ตัดกับบรรยากาศรอบข้างอย่างสิ้นเชิง"ว้าว สวยจังเลยค่ะพี่หย่งเจี๋ย" เยว่เยว่อุทานอย่างตื่นเต้น ดวงตากลมโตเป็นประกายหวังหย่งเจี๋ยยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ "ชอบไหม?พี่ตั้งใจเลือกเลยนะ""ชอบมากค่ะ" หลิวซินเยว่พยักหน้าหงึกหงัก "ไม่คิดว่าปักกิ่งจะมีร้านแบบนี้ด้วย""ร้านนี้เพิ่งเปิดใหม่ เขาว่ากันว่าอาหารอร่อยมาก แถมบรรยากาศยังโรแมนติก เหมาะกับคู่รักอย่างเรา" หวังหย่งเจี๋ยขยิบตาให้หลิวซินเยว่ ก่อนจะคว้ามือบางของเธอเดินเข้าไปในร้านภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาว-ทอง ดูหรูหรา โอ่อ่า เสียงเพลงคลาสสิกบรรเลงเบาๆ สร้างบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก พนักงานในชุดยูนิฟอร์มสีขาวสะอาดตา โค้งคำนับต้อนรับทั้งสองด้วยรอยยิ้ม"โต๊ะริมหน้าต่าง วิวดีที่สุดครับ" หวังหย่งเจี๋ยบอกพนักงาน ก่อนจะพาหลิวซินเยว่ ไปนั่งประจำที่"พี่หย่งเจี๋ยคะ ที่นี่ดูแพงมากเลย" เยว่เยว่กระซิบเสียงเบา รู้สึกประหม่าเล็กน้อย"ไม่ต้องห่วงน่า พี่เลี้ยงเอง" หวังหย่
เวลาผ่านไปอย่ารวดเร็ว ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมากิจการร้านขายเสื้อผ้าบูติกที่ถนนหนานจิงขายดีเป็นอย่างมาก ภายในร้าน หลิวซินเยว่กำลังสาละวนอยู่กับการจัดเรียงเสื้อผ้าตัวใหม่ๆ"คุณหลิว เสื้อผ้าที่ทำออกมาขายแทบจะตัดเย็บไม่ทันแล้วนะ" เสียงจินฮวาดังขึ้นขณะกำลังแขวนชุดเดรสลายดอกไม้สีสดใส "ลูกค้าติดใจแบบเสื้อผ้าของเราใหญ่เลย คนแน่นร้านทุกวัน""จริงอย่างที่พี่จินฮวาว่า" เสี่ยวหลันพูดพลางจัดเรียงกางเกงยีนตัวใหม่ "เมื่อวานตอนบ่าย ฉันเห็นลูกค้าต่อแถวรอซื้อเสื้อผ้าหน้าร้านยาวเหยียดเลย"หลิวซินเยว่ยิ้มกว้าง พลางหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหม่ขึ้นมาพับอย่างบรรจง "ฉันก็ดีใจเหมือนกันที่ร้านของเราขายดีแบบนี้ ต้องขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยกันเต็มที่ขนาดนี้""แต่ว่านะคุณหลิว" จินฮวาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล "พวกเราจะทำเสื้อผ้าทันขายเหรอ?แค่พวกคุณซูกับป้าหวังคงไม่ไหวแน่ๆ "หลิวซินเยว่พยักหน้าเห็นด้วย "ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เราคงต้องหาคนมาช่วยเพิ่มแล้วล่ะ" หลังจากจัดของในร้านเสร็จเธอก็ไปหาแม่และป้าหวังที่บ้านของเธอเพื่อพูดคุยเรื่องสำคัญ"ป้าหวัง ...เหนื่อยหน่อยนะช่วงนี้ กว่าโ
เช้าวันรุ่งซินเยว่ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความรู้สึกตื่นเต้นปนยินดี เธอจัดแจงแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนที่เตรียมไว้ ก่อนจะลงไปข้างล่างเพื่อทานอาหารเช้ากับนางซูหลินผู้เป็นแม่"อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่" ซินเยว่กล่าวทักทายพร้อมกับนั่งลงที่โต๊ะอาหาร"อรุณสวัสดิ์จ้ะเยว่เยว่ เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม" นางซูหลินถามด้วยรอยยิ้ม"ค่ะแม่ เมื่อคืนหนูนอนหลับสบายมากเลยค่ะ"บนโต๊ะอาหารมีโจ๊กข้าวต้มร้อนๆ กับหมั่นโถววางอยู่ หลิวซินเยว่ตักโจ๊กเข้าปากพลางเล่าเรื่องราวที่ร้านเมื่อวานนี้ให้แม่ฟังด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข"แม่คะ เมื่อวานนี้คนมาซื้อเสื้อผ้าที่ร้านเยอะมากเลยค่ะ ขายดีจนสินค้าในร้านหายไปครึ่งหนึ่งเลย""จริงเหรอจ๊ะ แม่ดีใจด้วยนะลูก" นางซูยิ้มกว้าง "แล้วขายได้เงินเท่าไหร่ล่ะ""เมื่อวานขายได้ตั้ง 1,000 หยวนแน่ะค่ะ แม้ว่าจะลดราคาครึ่งหนึ่งก็ตาม" ซินเยว่บอกด้วยความภูมิใจ"เก่งมากจ้ะลูก"ซูหลินลูบหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดู "วันนี้แม่จะเอาเสื้อผ้าชุดใหม่ไปเติมที่ร้านให้เอง ลูกจะได้ไปงานแต่งงานของเหมยฮัวได้อย่างสบายใจ""ขอบคุณมากนะคะแม่" หลิวซินเยว่ยิ้มกว
สองอาทิตย์ต่อไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ร้านบูติกของหลิวซินเยว่ก็ได้เปิดทำการที่ถนนหนานจิง เธอจัดร้านแบบร้านขายเสื้อผ้าในห้างยุคปัจจุบัน ทำให้ร้านของเธอเป็นที่สนใจของคนทั่วไปเป็นอย่างมาก หน้าร้านเป็นกระจกใส มี หุ่นโชว์เสื้อผ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางร้านดูโดดเด่นสะดุดตา เสื้อผ้าสีสันสดใสตัดเย็บอย่างประณีตถูกสวมใส่โดยหุ่นเหล่านั้นราวกับมีชีวิตผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างชะงักฝีเท้า จ้องมองผ่านกระจกใสเข้าไปในร้านด้วยความสนใจ บ้างก็กระซิบกระซาบพูดคุยกันถึงความแปลกใหม่ บ้างก็จูงมือกันเข้ามาในร้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น"นี่มันร้านอะไรกันเนี่ย ตกแต่งแปลกตาดีจัง" หญิงสาวคนหนึ่งพูดกับเพื่อนที่เดินข้างกันหลิวซินเยว่ในชุดเดรสสีแดงสด ยืนยิ้มต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าเคาน์เตอร์ "ยินดีต้อนรับค่ะ เชิญชมสินค้าตามสบายได้เลยนะคะ วันนี้ร้านเราเปิดร้านวันแรก ลดราคา 50% ทุกชิ้นเลยค่ะ"เสียงพูดของหลิวซินเยว่ ดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาจับจ่ายซื้อของ"ลดตั้งครึ่งราคาเลยเหรอ จริงหรือเนี่ย" พี่สาวเฉิน สาวโรงงานเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น"จริงค่ะพี่สาววันนี้วันเดียวเท่านั้นนะค
หลี่ฉินจัดการวางร่างคุณหนูจางผู้แสนเย่อหยิ่งลงบนเตียง ตอนนี้ยาเริ่มออกฤทธิ์คุณหนูตัวร้ายมีอารมณ์เป็นอย่างมาก เขาจัดการถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายจนตัวของเขาเปลือยเปล่า ก่อนจะเดินเข้ามาหาคุณหนูตัวร้าย“นี่แกจะทำอะไรฉัน ไอ้คนขับรถ ปล่อยฉันนะ กรี๊ดดดดดด ไอ้โรคจิต”หลี่ฉินเมื่อได้ยินคุณหนูตัวร้ายด่า เขาจัดการประกบริมฝีปากของเธอทันที ก่อนจะจูบอย่างหนักหน่วง จางเจียอิน พยายามจะผลักคนขับรถออกจากร่างกายแต่เรี่ยวแรงเธอเริ่มหายไป แต่ยิ่งเธอดิ้น เธอยิ่งมีอารมณ์ร่วมมากขึ้นร่างบางแทบไม่อยากยอมรับ ว่าตอนนี้เธอรู้สึกดีและเสียวซ่านเป็นอย่างมาก จนน้ำในช่องทางรักฉ่ำเยิ้ม“ไอ้คนชั้นต่ำ แกวางยาฉันใช่ไหม แกปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ “เธอดิ้นรนอย่างสุดชีวิต“ยิ่งดิ้นผมยิ่งชอบ คุณหนูรู้รึเปล่าครับ” สิ้นเสียงชายหนุ่มริมฝีปากของเขาก็ประกบลงมาอีกครั้ง เสื้อที่เธอใส่ถูกเขาฉีกจนเกิดเสียงดังแขวกก่อนจะโยนทิ้งไปไหนก็ไม่รู้หลี่ฉินบีบขยำเข้าที่หน้าอกของคุณหนูตัวร้ายอย่างแรง ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากของเขาลงสู่ลำคอของเธอ ไล่เลียซอกคอ ไล่ลงมาจนถึงเนินอกขาว เข
ทางด้านจางเจียอิน ลูกสาวคนเดียวของจอมพลจาง ผู้ทรงอำนาจแห่งกองทัพจีน ใบหน้าสวยหวานของเธอซีดเผือด ริมฝีปากบางเม้มแน่น ดวงตาคู่คมฉายแววผิดหวังและโกรธแค้น"เป็นไปไม่ได้ นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาด" เจียอินพึมพำกับตัวเอง ขณะจ้องมองภาพข่าวในหนังสือพิมพ์ ข่าวประกาศการแต่งงานของ ซุนเจ๋อ ชายหนุ่มที่เธอหมายปองกับ หลี่เหมยฮัว ที่จะจัดขึ้นในอีก2อาทิตย์ ยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดในใจจางเจียอินวางแผนทุกอย่างอย่างรัดกุมเพื่อให้ได้ครอบครองซุนเจ๋อ แต่สถานการณ์กลับพลิกพลันให้ทั้งสองได้ลงเอยกัน ทุกอย่างกลับพังทลายลง ซุนเจ๋อ ไม่เพียงแต่หลุดรอดจากตกหลุมพรางของเธอ แต่เขายังไปแต่งงานกับศัตรูของเธอ"นังเหมยฮัว แกมันก็แค่ผู้หญิงหน้าด้าน ไร้ยางอาย" จางเจียอินกัดฟันกรอด "แกกล้าดียังไงมาแย่งพี่เจ๋อไปจากฉัน"ความโกรธแค้นในใจของจางเจียอิน พลุ่งพล่านราวกับไฟที่พร้อมจะเผาผลาญทุกสิ่ง เธอขยำหนังสือพิมพ์ในมือจนยับยู่ยี่ ก่อนจะปาลงพื้นอย่างแรง"กรี๊ดดด...มันเป็นไปไม่ได้ พี่เจ๋อจะแต่งงานกับนังเหมยฮัวได้อย่างไร" จางเจียอินอาละวาดข้าวปาข้าวของ แจกันใบสวยราคาแพงจะลอยละลิ่วในห้องไปกระ
เช้าวันรุ่งขึ้น หลิวซินเยว่รีบตื่นแต่เช้า วันนี้เป็นวันสำคัญที่หวังหย่งเจี๋ยจะมารับเธอไปร่วมงานประมูลที่ดิน ซึ่งเป็นก้าวแรกสู่ความฝันในการสร้างธุรกิจของเธอเสียงแตรรถดังขึ้นเบาๆ หน้าบ้าน ทำให้หลิวซินเยว่สะดุ้งเล็กน้อย เธอรีบแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อน เรียบง่ายแต่ดูดี หวีผมยาวสลวยให้เรียบร้อย ก่อนจะคว้ากระเป๋าถือใบเล็กแล้วรีบวิ่งลงไปข้างล่างหวังหย่งเจี๋ยยืนพิงรถจี๊ปสีเขียวเข้ม ใบหน้าคมคายประดับด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเมื่อเห็นหลิวซินเยว่เดินออกมา เขาก้าวเข้ามา"ขอโทษที่มาช้านะคะ พี่รอนานหรือเปล่า" หลิวซินเยว่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเกรงใจ"ไม่นานเลย พี่เองก็เพิ่งมาถึง" หวังหย่งเจี๋ยตอบ "พร้อมจะไปฟังผลการประมูลกันหรือยัง? "หลิวซินเยว่พยักหน้ารับ ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น "พร้อมแล้วค่ะ"หวังหย่งเจี๋ยปิดประตูให้เธอ ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ เขาสตาร์ทรถ แล้วขับออกไปบนถนนสายหลักหลิวซินเยว่มองออกไปนอกหน้าต่าง รถยนต์คันแล้วคันเล่าแล่นผ่านไปมา ผู้คนต่างรีบเร่งไปยังจุดหมายปลายทางของตนเอง บรรยากาศเต็มไปด้วยชีวิตชีวา"ตื่นเต้นไหม? " ช