"สอบติดมหาวิทยาลัยดี ๆ""เป้าหมายในการสอบมหาวิทยาลัยล่ะ?""แน่นอนอยู่แล้วว่าหลังจากเรียนจบก็หางานดี...ดีทำ"ฟ่านอวิ๋นเจ๋อพูดถึงตรงนี้ จู่ ๆ รู้สึกว่าผิดปกติเล็กน้อยหลินโจว: "เป้าหมายในการทำงานล่ะ? ทำเพื่อหาเงินสินะ? ดังนั้นตอนนี้ฉันหาเงิน มีอะไรผิด?""นาย!"ฟ่านอวิ๋นเจ๋อรู้สึกเหมือนตัวเองถูกหลอกล่อเข้าไป เขาหน้าเขียวหน้าดำ:"หลินโจว นายนี่ไม่มีรสนิยมจริง ๆ! เพื่อที่จะหาเงิน นายถึงกับไม่เรียนมหาวิทยาลัยเลยเหรอ?""ฉันพูดตอนไหนว่าฉันจะไม่เรียนมหาวิทยาลัย? เงินต้องหา มหาวิทยาลัยฉันก็ไม่มีทางที่จะส่งผลกระทบต่อการสอบ และฉันคิดว่า ฉันไม่จำเป็นต้องผ่านการแข่งขันเพื่อเข้าเรียนต่อ ก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ฉันอยากจะเข้าได้เหมือนกัน ดังนั้นทุกท่านอย่าเลียนแบบฉันล่ะ""....."ฟ่านอวิ๋นเจ๋อหมดคำพูดไปโดยสิ้นเชิงเขาถึงกับคิดว่าตัวเองกับหลินโจวคุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่ได้อยู่ในคลื่นความถี่เดียวกันแต่อวิ๋นรั่วซีกลับมองหลินโจวอย่างเหม่อลอยความคิดความอ่านของหลินโจวเปลี่ยนไปมีความรู้ลึกล้ำตั้งแต่เมื่อไหร่?ไม่เพียงความรู้ลึกล้ำ แถมยังมีความมั่นใจอย่างมากแตกต่างจากหลินโจวในอดีตที่พูดจากั
ฉินอวี่เถียนถูกฉินซู่หลานบีบบังคับให้เอาข้าวกล่องมาให้หลินโจวในตอนที่ได้รับข้าวสามกล่อง เธอก็ตกตะลึง และถามว่านอกจากตัวเองกับหลินโจว ยังมีอีกกล่องหนึ่งเอาให้ใครคำตอบที่ฉินซู่หลานตอบกลับก็คือ ให้หลินโจวสองชุดตลอดช่วงเช้านี้ ฉินอวี่เถียนงุนงงเป็นอย่างมากข้าวกล่องสองชุด หลินโจวกินได้แค่ชุดเดียวแน่นอน งั้นอีกชุดหนึ่งให้ใครกันแน่นะ?เธอมีความสงสัยแบบนี้ เมื่อเลิกเรียนเธอจึงวิ่งมาที่หน้าห้องมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 2แต่หลินโจวไม่อยู่พวกเขาบอกว่า เขากับเพื่อนร่วมโต๊ะถูกเรียกตัวไปมีบางคนหลังจากที่ได้ยินว่าเธอมาหาหลินโจว ก็พูดขึ้นข้าง ๆ เธอเหมือนกับตั้งใจและก็เหมือนกับไม่ได้ตั้งใจ:"นี่ หลินโจวมีแฟนแล้วเธอรู้แล้วยัง?""นี่เธอมาส่งข้าวกล่องแห่งความรักให้หลินโจวเหรอ?""สาวน้อย อย่าล้อเล่นเลย การเรียนสำคัญ คนเลวแบบนั้นไม่คุ้มค่าหรอก"ตอนแรก ฉินอวี่เถียนไม่เชื่อหลินโจว?มีแฟน?สารรูปอย่างเขาเนี่ยนะ นอกจากหน้าตาหล่อนิดหน่อย ใครจะไปชอบล่ะ?ได้ยินว่าเขาตามจีบดาวโรงเรียนอวิ๋นตั้งหลายปีก็ไม่สำเร็จข่าวปลอมเกินไปแล้ว!แต่ภายหลัง ฉินอวี่เถียนยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าไม่ถูกต้องจะต้องเอ
"เธอต้องรู้จักสื่อสาร รู้ไหม? ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร บอกกับแม่ให้หมด แม่ของเธอรักเธอมาก เธอพูดออกมา แม่ของเธอก็จะทำ แทนที่จะซ่อนสิ่งเหล่านี้ไว้ในใจ แบบนี้แล้ว พวกเธอสองคนแม่ลูกมีแต่จะเดินห่างกันออกไป เด็กผู้หญิง ออดอ้อนแม่ให้มากหน่อย""ฉันไม่ออดอ้อนหรอกนะ!"ฉินอวี่เถียนทำเสียงฮึดออกจากจมูก"และฉันก็ไม่ใช่เด็กน้อย หลินโจวนายสนใจตัวเองเถอะ คะแนนแย่ขนาดนั้น ยังเลียนแบบคนอื่นมีความรัก ก็แค่ลอกข้อสอบการทดสอบจำลองแล้วได้คะแนนดีจะมีประโยชน์อะไร? อย่างไรก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้""ฉันได้ยินว่าการแข่งขันคณิตศาสตร์มัธยมปีที่ 6 จะเริ่มต้นแล้ว โรงเรียนเริ่มทำการคัดเลือกคนแล้ว ถ้าหากสอบได้คะแนนดีก็ส่งเข้าเรียนได้เลย แต่นายไม่มีคุณสมบัติด้วยซ้ำ อวดเก่งอยู่ตรงนี้ทำอะไร?""?"บังเอิญจริง ๆเขาเพิ่งตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งในตอนที่กำลังจะพูดอะไร จู่ ๆ หลินโจวได้ยินเสียงเย้ยหยันดังมาจากที่ด้านหลัง:"หลินโจว อย่าคิดว่านายได้เข้าร่วมการฝึกอบรมการแข่งขันคณิตศาสตร์ ก็เข้าใกล้อวิ๋นรั่วซีได้ ฉันบอกนายให้นะว่าไม่มีทาง!"คนที่กำลังพูดอยู่ ก็คือฟ่านอวิ๋นเจ๋อเดิมทีเขาอยากจะมาที่ห้องเรียนพร้อมกับอวิ๋นรั่วซ
วิชานี้คือวิชาฟิสิกส์คุณครูฟิสิกส์กำลังอธิบายกระดาษคำตอบ หลินโจวฟังอย่างจริงจังหลายวันมานี้ เขาพบว่า วิชาเคมีฟิสิกส์เขาฟังเข้าใจพอประมาณแล้วการสอบครั้งหน้าจะต้องได้คะแนนดีแน่นอน แต่ยังต้องทำให้ความรู้แน่นหนาอีกสักหน่อยแต่หลิวซื่อหมิงไม่เหมือนกันสำหรับเขาแล้ว วิชาฟิสิกส์เหมือนกับกำลังฟังพระราชโองการอยู่ เขาไม่เข้าใจอะไรสักอย่างเรื่องกลศาสตร์กับวิชาไฟฟ้าอะไร และยังมีการรวมเข้าด้วยกัน ทำให้คนรู้สึกปวดหัวอย่างมากเขาที่ฟังไม่เข้าใจทำได้แค่หาอะไรให้ตัวเองทำเขาสะกิดหลินโจว สอบถามเสียงเบา:"พี่โจว วิชาที่แล้วตอนเลิกเรียน เด็กผู้หญิงที่รอพี่อยู่ที่หน้าประตูคือใครเหรอ?""น้องสาวฉัน""ชิ พี่มีเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อยแล้วยังต้องการน้องสาวอีกเหรอ? เอาแบบนี้นะพี่โจว เห็นแก่ที่ผมเป็นเพื่อนแท้ของพี่ พี่แนะนำน้องสาวให้ผมเถอะ?"ตอนเลิกเรียน เขาก็เห็นฉินอวี่เถียนแล้วถึงแม้จะแต่งตัวเหมือนผู้ชาย แต่ใบหน้านั้น สวยมากจริง ๆ นะ!นอกจากอายุน้อยไปหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร เขารอได้หลิวซื่อหมิงเพิ่งพูดจบ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ของหลินโจว:"หึ""พี่โจว หัวเราะอะไรน่ะ? พี่ไม่กลัวว่าผมจะเอาเรื่
ได้ยินเสียงคล่องแคล่วของเขา หลิวซื่อหมิงตกตะลึงไปหมดจนถึงตอนสุดท้าย โจวผิงก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม:"อืม หลินโจวตอบได้ไม่เลว หลิวซื่อหมิง นายดูหลินโจว นั่งแถวสุดท้ายเหมือนกัน เขาฟังอย่างไร? นายฟังอย่างไร? โจทย์ที่อธิบายในวันนี้ นายคัดลอกสิบครั้ง เลิกเรียนเอามาให้ฉัน""....."ไหนบอกว่าไม่รู้ว่าครูอธิบายอะไร?พี่โจว พี่ตั้งใจสินะ?หลิวซื่อหมิงอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออกวิชาสุดท้ายในตอนบ่ายคือวิชาพละครูพละของมัธยมปีที่ 6 เป็นเพราะป่วยบ่อยเกินไป ถึงแม้ไม่หยุดเรียน แต่เรียนไม่ถึงเดือนละครั้งด้วยซ้ำครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้นเพิ่งเข้าเรียน หลิ่วชิงเหยียนก็ประกาศให้เรียนด้วยตัวเองจางซูฉีก็เข้ามาเรียกตัวหลินโจว สวี่เนี่ยนชู และฟ่านอวิ๋นเจ๋อไปรอให้มาถึงห้องฝึกอบรมการแข่งขัน หลินโจวพบว่า คนอื่น ๆ ก็มาถึงแล้วจางซูฉีพูดขึ้นโดยตรง:"พอดีว่าวิชาสุดท้ายของทุกคนไม่ได้สำคัญมากนัก ฉันจึงเรียกทุกคนมา ทำการทดสอบก่อนฝึกอบรม ฉันต้องการรับรู้ถึงความสามารถของพวกเธอ จากนั้นทำการฝึกอบรมแบบมุ่งเน้นเป้าหมาย เอาล่ะ ทุกคนหาที่นั่งแล้วนั่งลงให้เรียบร้อยเถอะ"พวกนักเรียนพากันจับคู่สามคน สองคนแล้วหาที่นั
เธอเพิ่งนั่งลง ก็เห็นหลินโจวหยิบกระปุกดินสอของตัวเองขึ้นมาลวก ๆ"อ้าว บนเก้าอี้ตัวนี้มีน้ำ ฉันไปนั่งที่ประตูดีกว่า"อวิ๋นรั่วซี: ......เธอลุกขึ้นยืนมองดูเก้าอี้ของหลินโจวบนนั้นไม่มีน้ำด้วยซ้ำนี่เป็นเพราะหลินโจวไม่อยากนั่งกับเธอ?อวิ๋นรั่วซีไม่ยอมแพ้ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนอีก เตรียมจะตามหลินโจวไปในขณะนี้จางซูฉีพูดขึ้น:"เอาล่ะเอาล่ะ เลิกย้ายไปย้ายมาได้แล้ว รีบนั่งลงให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นเวลาจะไม่พอแล้ว!"อวิ๋นรั่วซีทำได้แค่นั่งลงด้วยความโมโหฟ่านอวิ๋นเจ๋อเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาเขามองดูอวิ๋นรั่วซี แล้วก็มองหลินโจว จู่ ๆ รู้สึกมีความพ่ายแพ้แต่ไม่เป็นไรครั้งนี้ ข้างกายเขาไม่มีสวี่เนี่ยนชูฟ่านอวิ๋นเจ๋อไม่เชื่อว่าหลินโจวจะยังสอบได้คะแนนดีในตอนที่กระดาษข้อสอบส่งมา หลินโจวหันกลับไปมองทางสวี่เนี่ยนชูเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อยก้มหน้าอยู่อย่างจริงจัง เหมือนไม่ได้สังเกตเห็นการกระทำของพวกเขาสองสามคนเขากำลังครุ่นคิด เพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อยจะหึงและโมโหไหมนะตอนนี้ดูท่า ตัวเองคิดมากไปแล้วแบบนี้ก็ดี เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว เพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อยน่าจะมีความสุขไปตลอดตัวเองให้ความสำ
ตอนนี้ได้เห็นกับตาตัวเอง ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามา ต่างกันโดยสิ้นเชิงในสายตาของทุกคน เผยความเลื่อมใสออกมากระดาษข้อสอบแจกใกล้จะหมดแล้ว ถึงตอนสุดท้าย จางซูฉีหยิบกระดาษคำตอบของหลินโจวออกมา“หลินโจว”"98 คะแนน"คะแนนนี้ออกมา สายตาของทุกคนก็มองไปทางหลินโจวอะไรนะ?การทดสอบจำลองครั้งแรก 150 คะแนน ตอนนี้ 98 คะแนนผ่านพอดี?นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?แจกกระดาษข้อสอบเสร็จ จางซูฉีถอนหายใจ:"คะแนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่จริง ๆ โดยเฉพาะหลินโจว แต่ไม่เป็นไร ยังมีโอกาส ครูไปรับน้ำก่อน พวกเธอร่วมหารือกันไปก่อน เดี๋ยวพวกเราเริ่มอธิบายโจทย์กัน"หลังจากจางซูฉีออกไป หลาย ๆ คนล้อมรอบสวี่เนี่ยนชูเอาไว้อย่างรวดเร็ว เพื่อชื่นชมเทพแห่งการเรียนด้วยความศรัทธาพวกเขาหยิบกระดาษข้อสอบของสวี่เนี่ยนชูขึ้นมา แอบพากันประหลาดใจยังมีคนอยากจะนั่งกับสวี่เนี่ยนชูด้วย จะได้ยกระดับประสิทธิภาพการเรียนฟ่านอวิ๋นเจ๋อกลับหัวเราะขึ้นมาโดยตรง:"หลินโจว นายทำอะไรน่ะ? ไม่มีสวี่เนี่ยนชู นายมีความสามารถแค่นี้เหรอ?"อวิ๋นรั่วซีที่ไม่ได้ไปหาสวี่เนี่ยนชูก็มองไปทางหลินโจวด้วยความแปลกประหลาดคะแนนนี้แตกต่างกันมากเกินไปหน่อยไหมหลิน
ตอนที่จางซูฉีกลับมา ทุกคนก็นั่งเรียบร้อยแล้วพอเขาดื่มน้ำแล้ว ก็เดินขึ้นไปบนโพเดียม มองไปรอบๆ สุดท้ายก็มองไปที่หลินโจว แล้วขมวดคิ้ว“หลินโจว นายมานั่งข้างหน้า ครั้งนี้คะแนนสอบของนายแย่มาก มานั่งข้างหน้าจะได้ฟังได้มากขึ้น”"ได้ครับ"หลินโจวหยิบกระดาษทดสอบขึ้นมา แล้วเดินไปข้างหน้าตอนที่เขาลุกขึ้น สวี่เนี่ยนชูก็ลุกขึ้นเช่นกันจางซูฉีรีบกล่าวว่า:“เพื่อนร่วมชั้นสวี่เนี่ยนชูไม่ต้อง อยากนั่งตรงไหนก็ให้นั่งตรงนั้น”อย่างไรเสียเธอก็เป็นผู้เข้าแข่งขันที่สอบได้คะแนนเต็มในการแข่งขันคณิตศาสตร์ จางซูฉีรู้ว่าเธอไม่สอบสุงสิงกับใคร จึงคิดว่าเธอชอบนั่งแถวสุดท้าย จึงปล่อยให้เธอเลือกได้ตามใจชอบสวี่เนี่ยนชูไม่หยุดเดิน:“ครูจางคะ หนูคิดว่าแถวสุดท้ายอยู่ไกลไปนิดหน่อย หนู...หนูมองเห็นไม่ค่อยชัดค่ะ”ขณะที่เธอพูด ก็ชี้ไปที่แว่นตาของตนเองฟ่านอวิ๋นเจ๋อ: ???ก่อนหน้านี้ใครกันที่พูดว่าตนเองสามารถมองเห็นได้จึงปฏิเสธคำขอร้องเปลี่ยนที่นั่งของหวังจื่อเฉิน?ทำไมสวี่เนี่ยนชูก็รู้จักพูดโกหกแบบหน้าตายแล้ว?จะต้องติดมาจากหลินโจวแน่ๆ!จางซูฉีไม่ทราบรายละเอียดเหล่านี้ เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า: "ได้ได้ได้ งั้นเธ
คนทั้งคนตกตะลึง“พี่ พี่โจว?”หลิวซื่อหมิงตบไปที่บนไหล่ของเขา:“ทำบื้ออะไรอยู่?นี่คือน้ำที่พี่โจวซื้อให้นาย ดูนายสิ โง่แล้วยังทำเป็นอวดฉลาดซื้อมาแค่สี่ขวด ทำให้พี่โจวของฉันไม่ได้ดื่มน้ำเลย!”เซี่ยตงชิง:???เขาพบว่า ทุกอย่างในวันนี้ดูเหมือนว่าจะผิดปกติไปเล็กน้อย“แต่ แต่ว่า พวกนายไม่ได้บอกให้ฉันซื้อห้าขวด…”“นายนับหัวคนไม่เป็นเหรอ?ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่โจวถึงไม่ให้นายไปห้าสิบบาท แต่ให้นายไปหนึ่งร้อยบาท?”“เป็นอย่างนี้เหรอ?”เซี่ยตงชิงกลืนน้ำลาย และมองหลินโจวอย่างงุนงงหลินโจว……เป็นอะไรไป?“เอาล่ะ อย่ามัวพูดมากอยู่เลย หลิวซื่อหมิงรีบมากวาดพื้นสิ!”“มาแล้ว!”หลิวซื่อหมิงรีบวิ่งไปแถวสุดท้าย หยิบไม้กวาดขึ้นมาและเริ่มกวาดเฉียนกั๋วกั่วก็กล่าวว่า:“ฉันก็จะช่วยด้วย ไม่ต้องเกรงใจ!”สวี่เนี่ยนชูไม่ได้พูดอะไร แต่เดินไปที่แถวสุดท้ายอย่างเงียบๆทั้งสามต่างก็ถือไม้กวาดกัยคนละด้ามเดิมทีหลิวซื่อหมิงตั้งใจจะกวาดแถวที่สอง แต่ถูกเฉียนกั๋วกั่วรั้งเอาไว้“หลิวซื่อหมิง พวกเราจะไปกวาดสองแถวข้างใน!”“ทำไมเหรอ?”หลิวซื่อหมิงรู้สึกไม่ยินยอมเล็กน้อยเฉียนกั๋วกั่วกลอกตาใส่ และชี้ไปทางหลินโจว ห
สามนาทีต่อมาเซี่ยตงชิงเช็ดปาก เคี้ยวข้าวคำสุดท้ายแบบลวกๆ และลุกขึ้นยืน:“ฉันกินเสร็จแล้ว”คนอื่นๆที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง :?หลินโจวเงยหน้าขึ้น: “ทำไมนายต้องกินเร็วขนาดนี้ด้วย?”“เดิม เดิมทีฉันเป็นคนกินข้าวเร็วอยู่แล้ว ฉันกลับห้องเรียนก่อนนะ”"เดี๋ยวก่อน"หลินโจวคว้าแขนเสื้อของเขาเอาไว้อีกครั้ง:“จู่ๆก็รู้สึกกระหายน้ำนิดหน่อย ในเมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ไปซื้อเครื่องดื่มมาให้ทุกคน คนละขวดก็แล้วกัน”ขณะที่พูด หลินโจวก็ควักเงินออกมาจากในกระเป๋า ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของเซี่ยตงชิง เขาก็เก็บเงินห้าสิบบาท เอาเงินแบงก์ร้อยออกมา แล้วยัดมันเข้าไปในมือของเซี่ยตงชิง"......"เซี่ยตงชิงมองดูการกระทำของหลินโจวด้วยความสับสน และพูดอย่างร้อนใจว่า:“ฉัน...รอให้พวกนายกินเสร็จก่อนแล้วค่อยไปซื้อเองดีไหม?”“ไม่ได้ จะสำลักตายแล้ว ขอร้องล่ะเพื่อนร่วมชั้นเซี่ย นายช่างเป็นคนดีจริงๆ”คำว่าคนดีทำให้เซี่ยตงชิงยินยอมเขารับเงินพร้อมอุ้มกล่องอาหารแล้ววิ่งไปที่ร้านสะดวกซื้อเล็กๆหลินโจวกล่าวอย่างขบขันว่า:“เอาล่ะ ทุกคนกินต่อเถอะ”คณะกรรมการแรงงานจางจิ่นหงตักข้าวกลับมาเผอิญเห็นภาพเหตุการณ์นี้เข้าเ
มาถึงโรงเรียนตอนหกโมงเช้าของวันรุ่งขึ้นอย่างตรงเวลาหลังจากอ่านหนังสือในตอนเช้าแล้ว หลินโจวก็หยิบกล่องข้าวออกมา และเตรียมจะไปทานข้าวกับเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อย เฉียนกั๋วกั่ว และหลิวซื่อหมิงแต่กลับถูกจางจิ่นหงสมาชิกคณะกรรมการแรงงานห้ามเอาไว้:“หลินโจว วันนี้กลุ่มนายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ นายอย่ามาเล่นลูกไม้นะ หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้วให้ตั้งใจทำความสะอาดให้ดีๆ อ้อใช่แล้วหวังลี่หยวนที่อยู่ในกลุ่มของพวกนายย้ายไปอยู่กลุ่มอื่นแล้วนะ ส่วนสวี่เนี่ยนชูให้มาอยู่กลุ่มพวกนาย อีกสักพักนายบอกเธอว่าจะต้องทำอะไรบ้าง”ระบบการทำความสะอาดของห้องสองปกติแล้วจะมีกลุ่มละสี่คนคนในกลุ่มของหลินโจว ได้แก่หลิวซื่อหมิง เพื่อนร่วมโต๊ะของหลิวซื่อหมิงเซี่ยตงชิง หวังลี่หยวนและหลินโจวหลินโจวในอดีต พอถึงเวรปฏิบัติหน้าก็จะเลือกที่จะลืม ดีแต่พูดงานไม่ทำหลิวซื่อหมิงก็มักจะเลียนแบบเขาเช่นกันส่งผลให้ มีเพียงแต่หวังลี่หยวนและเซี่ยตงชิงเท่านั้นที่ทำงานในกลุ่มนี้ทั้งสองคนมักจะพร่ำบ่นอยู่เสมอ และขอร้องจางจิ่นหงย้ายตนไปกลุ่มอื่น จางจิ่นหงไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่มาเร่งเร้าเขาด้วยตนเองทุกครั้งถ้าเร่งเร้าไม่ได้จริงๆ ต
ฉินซู่หลานที่กำลังขึ้นไปชั้นบนมองไปที่ฉินอวี่เถียนด้วยความประหลาดใจ“เมื่อก่อนแม่ทำอะไรลูกก็จะกินอันนั้นไม่ใช่เหรอ?”“นั่นมันเมื่อก่อน แต่วันนี้ หนูอยากกินข้าว หนูหิวแล้ว”น้ำเสียงของฉินอวี่เถียนแฝงด้วยความออดอ้อนเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะแตะท้องของตนเองหิวจริงๆแม้แต่เธอเองก็ยังไม่ทันได้สังเกตว่า ดูเหมือนว่าเธอจะทำตามที่หลินโจวพูด ทีละขั้นตอนเมื่อฉินซู่หลานได้ได้ยินดังนี้ก็รู้สึกเบิกบานใจลูกสาวรู้จักติดแม่แล้ว ดีจริงๆ!“ได้ได้ได้ หนูอยากกินอะไรแม่ก็จะทำอันนั้นให้ ลูกกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อน ทำเสร็จแล้วเดี๋ยวแม่เรียก”"ค่ะ"เปิดประตูห้องพอฉินอวี่เถียนเข้าไปในห้อง ก็เห็นกระต่ายมาร์ชเมลโลว์บนโซฟาเธออยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสมันโดยไม่รู้ตัว แต่พอเอื้อมมือไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็หยุดอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเข้าไปในห้องฉินอวี่เถียนถอดเสื้อผ้าผู้ชายออก แล้วหยิบเสื้อกล้ามกีฬาขึ้นมา เพื่อใช้เป็นชุดนอนแต่หลังจากที่ครุ่นคิดดูแล้ว จับพลัดจับผลูไม่รู้ยังไง เธอก็มาที่หน้าตู้เสื้อผ้าเปิดประตูตู้เล็กๆที่ถูกล็อคไว้ และหยิบชุดนอนหมีของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆชุดหนึ่งออกมาจากข้างในหลังจากทำท่าต่า
“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรก? ครั้งหน้าถ้ากลับมาดึกให้โทรบอกแม่รู้ไหม หนูกลับบ้านดึกขนาดนี้ แม่เป็นห่วงแทบแย่”น้ำเสียงของฉินซู่หลานอ่อนโยนขึ้น บางครั้งก็ปนกับเสียงสะอื้นไห้เธอยกมือขึ้น แล้วลูบหัวของฉินอวี่เถียนเบา ๆท่าทางที่ใกล้ชิดนี้ ทำให้ฉินอวี่เถียนแสบจมูกเธอพยายามที่จะเติบโตขึ้น พยายามที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วิธีการของตนเองปกป้องแม่อยู่ตลอดเวลาจู่ๆตอนนี้ก็รู้สึกว่า แม่ดูเหมือนว่ากำลังปกป้องตนเองมากกว่า?เธอลูบจมูก:“หนูรู้แล้วค่ะแม่ ครั้งหน้าหนูจะกลับมาให้เร็วกว่านี้”"อืม ดีมาก"หลังจากคุยกับฉินอวี่เถียนแล้ว ฉินซู่หลานก็มองไปที่หลินโจว“เสี่ยวโจว ขอบใจหลานมากนะที่ส่งเสี่ยวเถียนกลับมา คืนนี้หลานพักอยู่ที่นี่ไหม? ป้าจะทำอาหารมื้อดึกให้”“ไม่ต้องครับคุณป้า เห็นท่าทางของป้าแล้วผมก็รู้เลยว่า เฒ่าหลินก็จะต้องรอผมอยู่ที่ประตูบ้านแน่นอน ถ้าผมไม่กลับไป กลัวโดนทุบตีเหมือนกันครับ”ฉินซู่หลานครุ่นคิดดูแล้วมันก็ใช่ลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ตลอดไป ไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม“เอาล่ะ หลานอยากกินอะไรบอกป้ามาได้เลย ป้าทำเสร็จแล้วจะให้เสี่ยวเถียนเอาไปให้”“งั้นก็ ทำลูกชิ้นทอด
“ฉันรู้จักเธอแน่นอน แต่เธอกลายเป็นเทพแห่งการเรียนรู้ได้อย่างไร?”"อันดับที่หนึ่งของทั้งเมืองยังไม่ใช่เทพแห่งการเรียนรู้อีกเหรอ? เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ในสายวิทยาศาสตร์ ได้อันดับที่หนึ่งของทั้งเมือง เอาชนะผู้ชายได้ตั้งมากมาย ยอดเยี่ยมมากเลย ตอนนี้เธอเป็นไอดอลของฉัน! และจะเป็นแบบอย่างในการเรียนของฉันด้วย!"พอฉินอวี่เถียนพูดถึงสวี่เนี่ยนชู ก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากหลินโจวกลืนน้ำลายอย่างเงียบๆ พูดอย่างขบขันว่า:“เถียนเถียน เธอยังไม่รู้จักสวี่เนี่ยนชูใช่ไหม?”ไม่เช่นนั้นเมื่อวานนี้ สวี่เนี่ยนชูคงจะยืนข้างตนเองแล้วแถมยังถูกเธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนของตนอีก ทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงไม่ปฎิกิริยาอะไรเลยสักนิด“ใช่แล้ว ฉันไม่รู้จัก ทำไมเหรอ! คงจะมีโอกาสได้รู้จักเองแหละ”“ถ้าไม่เป็นอย่างนัั้นแล้วจะยังไง? ฉันจะแนะนำเธอให้รู้จักเอาไหม? ฉันค่อนข้างจะคุ้นเคยกับเธอดี”“พอเหอะ เทพแห่งการเรียนรู้ของฉันจะมารู้จักมักจี่กับนักเรียนเรียนแย่อย่างนายได้อย่างไร? เธอไม่ได้ตาบอกซะหน่อย! นายไม่ต้องใช้เธอมาเพื่อมาตีสนิทกับฉันหรอก”"......"“อีกอย่าง ตอนนี้ผลการเรียนของฉันยังไม่ดีพอ ไม่คู่ควรที่จะยืนอยู่ก
อยากจะหันกลับไปมอง แต่ก็ไม่กล้าฉินอวี่เถียนจึงทำได้แค่เพียงหดคอ และเดินไปข้างหน้าต่อไปใกล้แล้ว ใกล้จะถึงแล้วใกล้จะเดินออกไปแล้วในเวลานี้ ทันใดนั้นฉินอวี่เถียนก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าตรงคอของตนเองถูกคนคว้าเอาไว้เค้าโครงเรื่องในหนังผีมาสู่ความเป็นจริงฉินอวี่เถียนแทบจะเป็นบ้า!“อร๊าย~”เธออดไม่ได้ที่จะกรีดร้องขึ้นมาจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากเหนือศีรษะ"เถียนเถียน"เอิ่ม?นี่คือ……เสียงของหลินโจว?ฉินอวี่เถียนลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นจริงอย่างที่คาดไว้เธอเห็นหลินโจวขี่จักรยาน มองดูเธออย่างขบขัน“ร้องอะไรน่ะ? นั่นก็แค่หนูตัวหนึ่งก็เท่านั้น และมันก็วิ่งหนีไปแล้ว”ฉินอวี่เถียน:“……”“นายนายนาย ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่?”“ก็มาส่งเธอไง พี่พูดคำไหนคำนั้น!”“แต่ว่าเมื่อกี้นาย...”“เมื่อกี้กลับไปยืมจักรยานที่โรงเรียนไง แบบนี้มันจะเร็วกว่า เธอก็คงจะไม่อยากให้ป้าฉินกังวลใช่ไหม?”"......"ฉินอวี่เถียนไม่มีอะไรจะพูดเมื่อนึกถึงการกระทำที่ขี้ขลาดเมื่อครู่นี้ เธอแทบอยากจะหารอยแตกบนพื้นแล้วมุดเข้าไปฉินอวี่เถียนถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วอธิบายอย่างข้างๆคูๆว่า:
สิ่งที่ทำให้ฉินอวี่เถียนประหลาดใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ดูเหมือนว่าหลินโจวกำลังช่วยเรื่องการเรียนของเพื่อนร่วมชั้นด้วย?แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นจะน่ารำคาญนิดหน่อยแต่……หลินโจวเป็นคนจิตใจดีขนาดนี้จริงๆเหรอ?ฉินอวี่เถียนไม่อยากจะเชื่อเลย“ฉันเป็นพี่ชายของเธอ ฉันไม่สนใจเธอแล้วใครจะสนใจเธอ!”ฉินอวี่เถียนส่งเสียงเชอะ หันหลังกลับแล้วเดินไป“ฉันยอมรับตั้งแต่เมื่อไหร่?”“เฮ้อ? สาวน้อยคนนี้ รอก่อน เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอเอง”ตอนนี้ก็สี่ทุ่มครึ่งแล้ว ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียว เดินทางตอนกลางคืนไม่ปลอดภัย“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องยุ่ง ฉันรู้ทางกลับบ้าน”ฉินอวี่เถียนหันกลับมาอย่างดื้อรั้น แล้วเดินกลับบ้าน“น้องสาวจริงๆเหรอ?”หลิวซื่อหมิงชะโงกศีรษะ ด้วยสีหน้าที่งุนงง"ก็จริงน่ะสิ!"“แต่ว่า พ่อของพี่มีพี่เป็นลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ?”“ฉันจะมีแม่เลี้ยงไม่ได้เลยเหรอ?”"......"หลิวซื่อหมิงสำลักเขามองไปที่หลินโจวด้วยความประหลาดใจ: “พ่อของพี่หาแม่เลี้ยงให้พี่เหรอ? แถมยังพาน้องเลี้ยงมาอีกคนด้วย?”“นายเข้าใจถูกแล้ว”หลิวซื่อหมิงกลืนน้ำลาย หลังจากที่ทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างผิวเผินแล้ว ก็เริ่มกังวลข
“ได้ครับ ขอบคุณครับครูจาง”ทันทีที่หลินโจวพูดจบ เขาก็ได้ยินฟ่านอวิ๋นเจ๋อพูดด้วยความโกรธ:“หลินโจว แม้ว่าจะเอาคลังโจทย์ข้อสอบเหล่านั้นให้นาย นายจะอ่านเข้าใจเหรอ?”พูดจบ ฟ่านอวิ๋นเจ๋อก็เห็นสวี่เนี่ยนชูที่ยืนอยู่ด้านหลังหลินโจวยืนอยู่ตรงหน้าจางซูฉี:“ครูจางคะ หนูก็ขอชุดหนึ่งค่ะ”“เธอจะเอาไปทำอะไร? เธอไม่จำเป็นต้องฝึกทำโจทย์ แค่รักษามาตรฐานในปัจจุบันของเธอเอาไว้ก็พอแล้ว”"หนูอยากจะช่วยหลินโจวค่ะ"“อืม?”จู่ๆจางซูฉีก็นึกได้ว่าความก้าวหน้าของหลินโจวในช่วงนี้ สวี่เนี่ยนชูก็มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากให้เธอช่วยก็ดีเหมือนกัน"ได้ ครูจะเตรียมให้เธอด้วยหนึ่ง""ขอบคุณค่ะครู"สวี่เนี่ยนชูติดตามหลินโจวไปอย่างอารมณ์ดีสุดขีดฟ่านอวิ๋นเจ๋อ: ......เขาหันศีรษะด้วยความโกรธแ ละพูดกับอวิ๋นรั่วซีว่า:"รั่วซี เธอดูสองคนนั้นสิโง่หรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าครูจางให้มาเพียงพอแล้ว แต่ยังยืนกรานที่จะขอเพิ่ม กลยุทธ์ฝึกฝนทำโจทย์ใช่ว่าจะใช้ได้ผลกับทุกคน พวกเราแค่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญ .. "ยังไม่ทันได้พูดจบฟ่านอวิ๋นเจ๋อก็เห็นอวิ๋นรั่วซีลุกยืนขึ้นเช่นกันสายตาของเธอจับจ้องไปที่หลินโจวผู้ชายคนนี้