แชร์

บทที่ 6 : การพัฒนาของวงแหวนเวท

ผู้เขียน: MIN-G
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-03 21:42:56

“ฉันจะแสดงให้เห็นเองนี่แหละ ว่าฉันสมควรจะได้รับมัน!! ไม่ใช่แกคนเดียวสักหน่อยที่มีความสามารถนั้น!” ชายคนนั้นเริ่มมีเปลวไฟปะทุออกมารอบตัว และออร่ารอบ ๆ ตัวของเขาก็เริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นเช่นกัน

‘สีม่วง?!’ อาคุมุถึงกับตกใจในทันทีเมื่อได้เห็นออร่านั้น ซึ่งมันปรากฏให้เห็นถึงความน่าเกรงขามและแรงกดดันโดยรอบ

“อิชิโร่! ใจเย็น ๆ ก่อนไม่เป็นหรือไง?!” อากิระเอ่ยปากบอกกับชายคนนั้น ซึ่งเขามีนามว่า "ฟุโด อิชิโร่" เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของอากิระ แต่ด้วยความที่ไม่ค่อยเอาใจใส่ในหน้าที่การงาน ไม่มีความรับผิดชอบ และด้วยความสามารถรอบด้านที่ด้อยกว่าน้องชาย ทำให้ไม่ได้รับสืบทอดเป็นหัวหน้าตระกูลต่อไป

“ห๊าา? นี่แกเรียกชื่อฉันตรง ๆ เลยเหรอ แกไม่นับพี่นับน้องกันแล้วใช่ไหม? อยากจะเป็นศัตรูกันใช่ไหม?!” ด้วยความเอาแต่ใจของอิชิโร่ ทำให้เขาดูเหมือนยังไม่น่านับถือเท่าที่ควร คนส่วนใหญ่ในตระกูลจึงไม่เคารพและเชื่อฟังเขา ทำให้เขาน่าเกรงขามเพียงเพราะว่าเป็นพี่ชายของอากิระก็เท่านั้น

“เฮ้อ!.. นี่พี่ยังคิดจะทำตัวเหมือนเด็กไม่เปลี่ยนเลยหรือไง อยู่ต่อหน้าเด็กก็ยังจะทำตัวเป็นเด็กเหมือนเดิม แบบนี้มันจะไปมีคุณสมบัติอะไรที่สามารถเข้ามารับหน้าที่และตำแหน่งนี้ได้ล่ะ!!” อากิระตอบกลับไปจึงทำให้อิชิโร่สงบสติอารมณ์ได้เล็กน้อย แต่มันก็ยังไม่จบเพียงแค่นั้น

“ที่แกพูดมันก็ใช่อยู่... แต่แกบอกว่าฉันเป็นเด็กเหรอวะ?!!” อิชิโร่สงบสติได้เพียงชั่วคราว เขาก็เกิดระเบิดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้เขาพร้อมที่จะโจมตีโดยไม่ลังเลเลยสักนิด

“ดาวตกเพลิงนรก!!” อิชิโร่ตะโกนออกมาพร้อมกับชี้นิ้วไปทางอากิระ ได้มีวงแหวนเวทสีแดงปรากฏให้เห็นรอบข้อมือ และมีวงแหวนเวทขนาดใหญ่ปรากฏอยู่สูงเหนือศีรษะของเขา

ลูกบอลเพลิงจำนวนมากพุ่งออกมาจากวงแหวนเวทขนาดใหญ่นั้น ซึ่งพลังโจมตีก็ดูน่าสะพรึงกลัวมาก

“แกเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหมเนี่ย? โล่เพลิงคุ้มกายา!” อากิระนั้นใช้ทักษะการป้องกัน ปรากฏให้เห็นเกราะกำบังเปลวเพลิงขนาดใหญ่ห่อหุ้มร่างกายของอากิระเอาไว้ แต่ที่มากไปกว่านั้นคือเขาทำให้มันป้องกันชูยะและอาคุมุไว้ด้วย

‘ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย? ลุงคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ เป็นเหมือนอย่างที่คิดไว้เลย’

การโจมตีของอิชิโร่นั้นไร้ผล ไม่สามารถเจาะทะลุการป้องกันของอากิระไปได้

“ชิ! นี่แกไปซุ่มฝึกมาหรือไงกัน?” อิชิโร่ถามกลับไปด้วยความฉุนเฉียว เพราะที่ผ่านมาการโจมตีของอิชิโร่นั้นจะทำอะไรได้บ้างเล็กน้อย ถึงแม้ความสามารถจะต่างกันอยู่พอสมควร แต่มันก็ไม่น่าจะห่างชั้นกันขนาดนี้

“ก็นี่มันฉัน ไม่ใช่นายที่เอาแต่อวดเบ่งไปวัน ๆ ไม่มีอะไรพัฒนาสักอย่าง แล้วจะมาบอกว่าคู่ควรกับตำแหน่งที่สูงศักดิ์เนี่ยนะ”

ในตอนนี้อิชิโร่ทำได้แค่กำมือไว้แน่น และระงับความโกรธเอาไว้ เพราะตอนนี้เขาก็ได้สร้างความขายหน้าให้หลาย ๆ คนได้เห็นมามากพอแล้ว

“แกก็ดูแลองค์ชายน้อยให้ดี ๆ ก็แล้วกัน อย่าให้มีไอ้เด็กเมื่อวานซืนแบบนี้มาทำให้เสียระบบที่วางไว้อีก” ว่าแล้วอิชิโร่ก็หันหลังให้และหายตัวไปโดยการใช้วงแหวนเวทในการเคลื่อนที่ กลุ่มคนนับสิบก็หายไปด้วยเช่นกัน

“ท่านลุงเป็นถึงหัวหน้าตระกูลเลยนะครับ ทำไมคนพวกนั้นถึงตามคนอย่างลุงอิชิโร่ ผมล่ะสงสัยมานานแล้ว” ชูยะที่เห็นอย่างนั้นบ่อยครั้งแล้วจึงตัดสินใจถามออกไปในครั้งนี้

“ที่ตามเขาไปก็มีแต่คนที่เข้าข้างเขาทั้งนั้นแหละองค์ชาย คนที่ติดตามเราก็คงจะยังหาตำแหน่งไม่เจอ เราต้องรีบกลับไปแล้วล่ะ” อากิระตอบกลับไป

“เจ้าหนู ยังไงนายก็ระวังตัวไว้หน่อยล่ะเพราะช่วงนี้คนจากตระกูลใหญ่ต่างออกเดินทางตามหาของล้ำค่า ตอนนี้ฉันกับองค์ชายต้องไปก่อนแล้วล่ะ”

“เอ่อ.. ครับ” อาคุมุพูดตอบกลับอากิระ

“ไว้เจอกันใหม่ล่ะน้องชาย” ชูยะพูดบอกกับอาคุมุ หลังจากนั้นทั้งสองก็หายไปด้วยทักษะการเคลื่อนที่ด้วยวงแหวนเวท

“ตระกูลใหญ่กับของล้ำค่า.. แล้วองค์ชายนี่โผล่มาได้ยังไงกัน ถ้าเกิดว่าเพิ่งจะใช้ทักษะวงแหวนเวทได้ก็น่าจะอยู่ใกล้ ๆ นี้หรือเปล่า.. แต่เดี๋ยวนะ ถ้าเกิดว่าเขาพัฒนาวงแหวนเวทไปแล้วล่ะ เพราะว่าขนาดของวงแหวนเริ่มต้นนั้นแค่ 1 เมตรเองนี่ มันยังไงกันแน่เนี่ย?”

ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ เพราะถ้าเขาอยู่ใกล้ ๆ เหมือนอย่างที่อาคุมุคิดไว้ล่ะก็ วงแหวนเวทขององค์ชายนั้นคงจะต้องมีความยาวเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 100 เมตรหรือมากกว่านั้น ไม่อย่างนั้นคงจะไม่สามารถมาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ได้เป็นแน่แท้

“เฮ้อ!.. แสงอัสนีบาต”

อาคุมุหันฝ่ามือไปทางพื้นดิน เสียงระเบิดดังขึ้นมา ความรุนแรงของแสงอัสนีบาตปะทะกับพื้นบริเวณนั้นจนมันเกิดเป็นรูอีกครั้ง

ตู้มม!

“อยู่ดี ๆ ก็นึกขึ้นได้ มันใช้ได้แบบคล่องแคล่วแล้วจริง ๆ ด้วย นี่แหละถึงจะเป็นก้าวแรกที่สมบูรณ์แบบ..”

“นี่มัน.. อะไรอีกแล้วเนี่ย?”

อาคุมุยังไม่ทันได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น เขาก็ต้องรู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดในร่างกายอีกครั้ง

วงแหวนเวทสีฟ้าได้ปรากฏขึ้นมาบริเวณข้อมือของเขา มันเปล่งประกายเป็นแสงสีฟ้าที่เจิดจ้าออกมา ความสว่างของแสงสีฟ้านั้นแทบจะทำให้อาคุมุต้องหลับตาลง หลังจากนั้นแสงที่เคยสว่างก็เริ่มลดน้อยลง มันเริ่มกระพริบพร้อม ๆ กับแสงที่ค่อย ๆ หายไปทีละนิด จนกระทั่งแสงสว่างนั้นหายไปจนหมด

“มันหมายความว่าอะไรกัน?”

วงแหวนสีฟ้าบริเวณข้อมือของเขานั้นหมุน 1 ครั้ง หลังจากนั้นมันก็หายไป ซึ่งอาคุมุก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันคืออะไรกันแน่

“นั่นน่ะคือการพัฒนาของวงแหวนเวท” ได้มีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเขา ซึ่งคนคนนั้นที่พูดขึ้นมาก็คืออิซามุนั่นเอง

“พ่อ.. มาตั้งแต่เมื่อไรครับ?” อาคุมุถามกลับไปในทันที เพราะเขาไม่รู้สึกเลยด้วยซ้ำว่ามีคนอยู่ใกล้ ๆ พ่อของเขาอาจจะเพิ่งมาถึงก็เป็นได้

“พ่อก็กลับมาเมื่อไม่นานนี้แหละ ได้เห็นตอนวงแหวนเวทของลูกพัฒนาขึ้นมาพอดี”

“พัฒนาที่ว่า หมายถึงอะไรเหรอครับ?” อิซามุนั้นมาเห็นตอนที่วงแหวนของอาคุมุนั้นเกิดการพัฒนา นี่จึงเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้รู้เกี่ยวกับการพัฒนาในครั้งนี้

“ก็.. พัฒนาคุณสมบัติและความสามารถรอบด้านของวงแหวนเวทไงล่ะ เช่นขนาดและความรุนแรงของพลังโจมตี” อิซามุพูดยังไม่ทันจบ อาคุมุก็เกิดสงสัยขึ้นมาในทันที

“พลังโจมตี? ทำไมมันถึงเพิ่มพลังโจมตีได้ล่ะครับ”

“ตอนที่ลูกปล่อยพลัง ก็จะเห็นได้ว่ามันมีวงแหวนเวทปรากฏขึ้นบริเวณข้อมือใช่ไหมล่ะ? เพราะวงแหวนเวทนี่แหละคือตัวกลางในการปล่อยพลังเวท ภายในร่างกายของเรานั้นแค่ผลิตพลังเวทออกมาแล้วส่งมันผ่านอวัยวะต่าง ๆ แต่วงแหวนเวทนั้นทำหน้าที่ในการปล่อยพลังโดยตรง ซึ่งถ้าวงแหวนเวทไม่พัฒนา การโจมตีและหลาย ๆ อย่างของเราก็จะไม่พัฒนาเช่นกัน”

อิซามุพูดจบก็เห็นสีหน้าของอาคุมุที่กำลังบึ้งตึงในทันที

“โธ่พ่อ! ทำไมไม่บอกผมตั้งแต่แรกกันเล่า ผมคิดว่าผมปล่อยพลังเวทผ่านฝ่ามือมาโดยตลอดเลยนะ” แต่ขณะนั้นอาคุมุก็นึกบางอย่างขึ้นได้ในทันที

‘หรือว่า.. วงแหวนเวทขนาดใหญ่ของตาลุงนั่นในตอนนั้น แบบนี้นี่เอง!’

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก็พ่ออยากให้ลูกได้เห็นการพัฒนาของวงแหวนเวทก่อนนี่ ให้ลูกได้เอะใจก่อนว่ามันคืออะไร เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นใช่ไหมล่ะ พ่อถึงได้ปล่อยให้ลูกฝึกเองไงล่ะ” อิซามุตอบกลับไปแล้วเขาก็เตรียมที่จะเดินเข้าไปในบ้าน

“แล้วก็หลุม.. เก็บมันด้วยล่ะ ฮ่า ฮ่า” เขาพูดกับอาคุมุก่อนที่จะเดินเข้าไป

“ครับ ๆ ผมเข้าใจแล้ว”

“แต่ก่อนอื่น.. สร้างวงแหวนเวท!” เขาคว่ำฝ่ามือลงพร้อมกับพูดออกไป และนั่นก็ทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก

“โอ้โห!!”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 7 : ขุมทรัพย์

    การพัฒนาของวงแหวนเวทนั้นทำให้เห็นถึงความต่างในทันที เพราะขนาดของวงแหวนเวทเริ่มต้นนั้นมีความยาวเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่เพียงแค่ 1 เมตร แต่ในตอนนี้...“นี่มันอะไรกันเนี่ย?!!”ความแตกต่างนั้นปรากฏให้เห็นโดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น ตามที่อาคุมุเห็นก็คงจะมีขนาดความยาวเส้นผ่านศูนย์กลางสักประมาณ 100 เมตรได้“ฉันยืนอยู่ตรงกลาง... จากด้านนั้นถึงอีกด้านหนึ่งมันไกลพอสมควรเลยนะเนี่ย มิน่าล่ะในตอนนั้นองค์ชายถึงโผล่มาตรงนี้ได้ คงจะเพิ่งพัฒนาสำเร็จแล้วก็อยู่ไม่ไกลจากจุดที่ฉันอยู่สินะ”เขายืนพูดกับตัวเองและคิดไตร่ตรองสิ่งที่ผ่านมาอยู่อย่างนั้น ความน่าจะเป็นที่มีโอกาสมากที่สุดก็คงไม่พ้นแนวคิดของเขาในตอนนี้แต่ในขณะที่สิ่งนั้นยังไม่กระจ่าง ก็ได้มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นอีกครั้ง“หืม?!! นั่นใครน่ะ?!” ในตอนนี้เขาเปิดใช้วงแหวนเวทอยู่ และด้วยการพัฒนาของวงแหวนเวทจึงทำให้ประสาทสัมผัสการรับรู้ของเขาพัฒนาขึ้นตามไปด้วย“แบบนี้เองสินะ” ใครก็ตามที่อยู่ในรัศมีของวงแหวนเวท เขาจะรับรู้ได้อย่างทันท่วงที แต่ไม่สามารถรับรู้ตำแหน่งแบบเฉพาะเจาะจงได้ ไม่สามารถระบุตำแหน่งนั้นออกมาได้ไม่นานนัก เขาก็ไม่สามารถรับรู้ถึงบุคคลปริศนานั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-03
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 8 : การประลอง?

    อาคุมุที่แอบดูอยู่ในจุดลับสายตา ซึ่งก็คือบริเวณต้นไม้ใหญ่หลังพุ่มไม้ ตำแหน่งของเขาในตอนนี้นั้นมีระยะห่างจากตำแหน่งขององค์ชายชูยะกับอากิระมากพอสมควร แต่เขาก็ยังคงมองเห็นทุกการกระทำได้ซึ่งเขาเห็นบางสิ่งที่เขาไม่เคยได้เห็นมาก่อนทั้งในโลกก่อนความตายของเขาและในโลกนี้ ถึงแม้จะยังใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้ไม่นานนักก็ตาม แต่ตอนนี้เขาได้เห็นมันแล้ว“มหาศาลชะมัด”ซึ่งนั่นก็คือทอง เพชร อัญมณี และของล้ำค่าต่าง ๆ ที่ดูระยิบระยับเป็นอย่างมากในสายตาของเขา จึงทำให้เขาตาเป็นประกายได้ในทันทีอากิระนั้นควบคุมดูแลการขนย้ายทรัพย์สินออกมาจากอุโมงค์ ซึ่งมันมีมากเกินกว่าที่จะขนย้ายเพียงไม่กี่รอบก็เสร็จสิ้นได้ จากที่อาคุมุนั้นเห็นคือกลุ่มคนนับหลายสิบคนต่างขนย้ายของมีค่าเหล่านั้นด้วยรถเข็น และขนย้ายขึ้นรถม้าอีกครั้งหนึ่ง รถม้านั้นก็มีจำนวนมากอีกเช่นกัน ราวกับว่าเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว“จะว่าไป ที่ลุงอากิระบอกว่าคนจากตระกูลใหญ่นั้นออกตามหาของล้ำค่า แต่ทำไมที่ฉันเห็นตรงนี้กลับเป็นองค์ชายกับตัวเขาเองแล้วก็คนของเขาล่ะเนี่ย”ทันใดนั้นอาคุมุก็นึกสงสัยอีกว่าขนย้ายแบบนี้ไม่กลัวการลอบโจมตีเลยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เขาจึงคิด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-03
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 9 : บุคคลปริศนา

    ในเมื่อตัวตนขององค์ชายชูยะนั้นไม่ค่อยชัดเจน แต่ด้วยความไม่ชัดเจนนี้นั่นเองที่ทำให้อาคุมุต้องการหาคำตอบ แต่ในตอนนี้มีสิ่งที่ต้องทำนั่นก็คือแข็งแกร่งขึ้นเพื่อไปต่อสู้และล่ารางวัล... รวมถึงล่าแต้ม B ไปในตัวด้วย แน่นอนว่าเขาไม่รอช้าที่จะอยากทำให้สำเร็จ“สร้างวงแหวนเวท!” ว่าแล้วเขาก็ใช้การเคลื่อนที่ด้วยวงแหวนเวทแล้วมุ่งหน้ากลับไปที่บ้าน ซึ่งระหว่างทางนั้นกลับได้พบเจอปีศาจเวทมนตร์อยู่ตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นปีศาจเวทมนตร์ที่หลงมาตัวเดียวปีศาจเวทมนตร์ตนนั้นมีรูปร่างผอมบาง ความสูงเพียงประมาณ 1 เมตร ผิวหนังสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีแดง ใบหน้าคล้ายกับมนุษย์แต่มีจมูกที่แหลมยาว ใบหูคล้ายกับมนุษย์ มีฟันที่แหลมคม รอบ ๆ ตัวมีออร่าสีขาวค่อนข้างที่จะเบาบาง และสิ่งที่โดดเด่นคือกรงเล็บบริเวณมือสองข้าง ซึ่งแต่ละข้างมีเพียงอันเดียว เป็นกรงเล็บที่มีความแหลมคมพร้อมกับมีออร่าสีฟ้าอ่อนปกคลุมอยู่“ได้โอกาสทดสอบฝีมือพอดีเลย อยากรู้เหมือนกันว่าฉันจะทำอะไรมันได้บ้าง”พูดจบเขาก็หาตำแหน่งที่เหมาะสมในการโจมตีระยะไกล เพราะในตอนนี้เขายังไม่มีอาวุธหรือทักษะการโจมตีระยะประชิด แน่นอนว่ามันคือสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก หลังจา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-03
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 10 : พี่ชายที่แสนดี

    อาคุมุกลับมาถึงหน้าบ้านพร้อมกับคำถามที่อยู่ในหัวมากมายเต็มไปหมด“เขาเป็นใครกันแน่นะ...”แน่นอนว่าสิ่งที่เขายังคงคาใจมากที่สุดนั้นเกี่ยวกับเรื่องขององค์ชายชูยะ ซึ่งก็คือการที่พลังเวทขององค์ชายนั้นเป็นเวทน้ำแข็ง แต่เมื่อตอนที่เขาแอบดูการขนย้ายของล้ำค่าอยู่ในป่าแล้วองค์ชายชูยะได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา ในตอนนั้นได้เกิดความร้อนที่ถ้าใช้พลังทั้งหมดก็คงแทบจะแผดเผาตัวเขาไปได้ในทันทีอีกทั้งชายปริศนาที่ได้มาช่วยให้เขารอดตายไปอย่างหวุดหวิด พลังเวทของชายคนนั้นซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับพลังเวทขององค์ชายชูยะความแข็งแกร่งของปีศาจเวทมนตร์ ทั้งที่เป็นเพียงปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1 แข็งแกร่งเกินกว่าที่อาคุมุจะรับมือไหว“เหมือนกับว่าเขางัดท่าไม้ตายออกมาจัดการกับปีศาจเวทมนตร์นั่นเลยนะ นี่มันบ้าเกินไปแล้ว แต่รอให้ถึงเวลาของฉันก่อนเถอะ... ฉันจะไม่ยอมโดนเล่นงานแบบนี้อีกแน่นอน”“แต่ตอนนี้จะมืดแล้ว เข้าไปนอนก่อนแล้วกัน”ว่าแล้วเขาก็เดินเข้าไปในบ้าน ซึ่งพบว่าอิซามุนั้นไม่อยู่ จึงเดินไปดูที่ห้องของเก็น พบว่าเขานอนหลับแทบไม่รู้สึกตัว ทั้งสะกิดหรือเรียกก็ไร้วี่แววที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนนี้“อะอ้าว... หมอนี่นอนหลับสนิท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-03
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 11 : เรื่องแปลกประหลาด

    “ลืมไปเลยว่าได้แต้ม B ก็เท่ากับว่ามีพลังที่เพิ่มมากขึ้น แล้วไม่ได้แต้ม B แค่จากการฆ่าพี่ชายสักหน่อย แบบนี้ฉันก็ได้เพิ่มอีกสิเนี่ย”การลงมือปลิดชีพคนซึ่งเกิดขึ้นติดต่อกัน 2 ครั้ง แน่นอนว่าอาคุมุนั้นมีแต้ม B ที่มากขึ้น แต่เหตุการณ์นั้นมันมีมาติด ๆ กันจึงทำให้เขาลืมเรื่องผลที่ได้รับ ซึ่งก็คือพลังที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว“อยากรู้ชะมัดว่าจริง ๆ แล้วได้มาเท่าไหร่”ว่าแล้วอาคุมุก็ดึงแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นตัวเลขบนหัวไหล่ของเขา ซึ่งตัวเลขที่ปรากฏนั้นไม่ใช่ตัวเลขทุกตัว แต่ปรากฏเป็นค่า k(kilo) [1]“หืม... 3k(3,000) งั้นเหรอ? มันเป็นเพราะหัวไหล่ฉันเล็กไปหรือเปล่านะเลขถึงเป็นแบบนี้”ในตอนนี้อาคุมุนั้นมีแต้ม B อยู่ที่ 3,000 แต้ม ซึ่งมันเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับเด็กอายุ 6 ปี แน่นอนว่าสำหรับผู้ใหญ่บางคนมันก็ยังคงเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงมากเช่นเดิม เนื่องจากในกลุ่มของชาวบ้านธรรมดา การทำอะไรก็ตามเพื่อที่จะได้รับแต้ม B นั้นไม่ค่อยจะเกิดขึ้นกับกลุ่มคนเหล่านี้สักเท่าไร“ทั้ง 2 ศพเลยเหรอลูก? มีดของพ่อด้วย รู้ได้ไงว่าห้องพ่อมีมีดล่ะเนี่ย”“พ.. พ่อ?!”แต่อาคุมุยังไม่ทันได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น ก็พบว่าอิซามุนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-03
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 12 : ทหารราบ?

    “มากันหลายคนเลยนะพวกนั้น แต่ตอนนี้ฉันจะไปไหนได้ล่ะเนี่ย คงต้องหาที่หลบแล้วดูแผนที่ก่อน”อาคุมุหนีออกมาในทันทีเมื่อมีการโจมตีโดยกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ซึ่งถ้านับจากเสียงฝีเท้าที่อาคุมุได้ยินนั้น จำนวนคนคงไม่ต่ำกว่าสิบเป็นแน่แท้เขาใช้การเคลื่อนที่ด้วยวงแหวนเวทเพียงครั้งเดียว ซึ่งก็คือเคลื่อนที่มาได้ 100 เมตร แล้วจึงหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ในป่าซึ่งบดบังเขาได้มิดชิด ทั้งยังรอบด้านมีพุ่มไม้เป็นส่วนใหญ่ บวกกับท้องฟ้าในช่วงหัวค่ำ แต่ต้องแลกมาด้วยการที่ไม่มีแสงไฟจากหมู่บ้าน“รอบด้านมืดชะมัดเลย แต่เดี๋ยวนะ?!!”ทันใดนั้นเขาก็ได้พบสิ่งที่ไม่เคยสังเกตมาก่อนหลังจากมีแต้ม B ซึ่งนั่นก็คือความสามารถการมองเห็นในที่มืดหรือในที่ที่มีแสงน้อย นี่คือความสามารถพื้นฐานแต่ในอนาคตมันอาจพัฒนาไปได้อีก แต่ในตอนนี้เขายังไม่พบความสามารถใหม่ ๆ ไปมากกว่าเท่าที่ใช้ได้“แล้วก็ออร่ารอบตัวฉัน... ที่เป็นสีฟ้าเข้ม” เขาตั้งสมาธิพร้อมกับมองเพ่งไปยังร่างกายของตนเอง และค่อย ๆ ถ่ายเทพลังออกมา ซึ่งออร่ารอบ ๆ ตัวเขานั้นเป็นสีฟ้าเข้ม แน่นอนว่าด้วยแต้ม B ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก พลังและทักษะรอบด้านต่างพัฒนาขึ้นอย่างมากเช่นกัน“ไม่มีจังหวะได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-03
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 13 : ปราการชั้นแรก

    หลังจากที่อาคุมุได้พูดคุยกับเรย์เล็กน้อย เขาก็พบว่าความในใจของเรย์นั้นมีมากมาย และทหารราบส่วนใหญ่ล้วนมีบางอย่างที่ไม่สามารถโต้ตอบหรือตอบกลับตามที่ควรจะเป็นได้เลยแม้แต่น้อย‘ฉันคงไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เพราะมันคือเรื่องที่เกี่ยวกับองค์จักรพรรดิอย่างแน่นอน... ช่องโหว่ของจักรพรรดิจะเปลี่ยนเป็นปราการที่แข็งแกร่งของฉัน ทหารราบนี่แหละจะเป็นพันธมิตรกลุ่มแรก’นั่นคือสิ่งที่อาคุมุคิด โดยเขาจะอาศัยผลจากการที่อำนาจขององค์จักรพรรดินั้นมีมาก มากเสียจนกดขี่ข่มเหงทุกสิ่งอย่างและดันตัวเองขึ้นไปในจุดสูงสุด ซึ่งเขาจะทำให้เรย์และทหารราบในหน่วยของเรย์นั้นมาเป็นพันธมิตร“ผมรู้นะครับว่าลุงเรย์หมายถึงอะไร... และผมก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่พวกคุณนั้นเจอคืออะไร แค่ได้ยินจากลุงเรย์เพียงไม่กี่ประโยคผมก็กระจ่างแล้วล่ะครับ” อาคุมุพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบและใบหน้าที่จริงจัง ซึ่งเมื่อเรย์และนายทหารคนอื่น ๆ ในรถม้าได้ยินต่างก็แปลกใจพร้อมกับมองหน้ากันอีกครั้ง“เฮ้ย! ฉันว่ามันจะมากเกินไปแล้วนะโว้ย ตั้งแต่ที่พวกเราไปหาแกโดยที่แกอยู่ในป่าคนเดียวตอนกลางคืน ตอนที่กำลังเดินมาขึ้นรถม้าแกก็ไปเดินอยู่ข้างหลัง ทั้งยังทำอวดเก่งใส่หั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-03
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 14 : หัวเราะทีหลังดังกว่า

    “ในเมื่อเราเป็นพันธมิตรกันแล้ว เราควรจะต้องเริ่มจากอะไร? ถ้ามีแผนแล้วตอนนี้แผนของนายคืออะไรงั้นเหรอเจ้าหนู?” เรย์กล่าวถามกับอาคุมุซึ่งอาคุมุเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตอบกลับ“ผมต้องถามก่อนว่ารถม้าจะมุ่งหน้าไปที่ไหนเหรอครับ? แล้วก็ตั้งแต่แรกเริ่มแท้จริงแล้วจะส่งตัวผมให้กับใคร?”“เดิมทีรถม้าพวกฉันจะตรงไปยังเมืองบาระ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ ๆ เมืองชิโตเสะนี่แหละ แล้วก็เรื่องส่งตัว.. เห้อ! เด็กอะไรฉลาดเป็นบ้า ไม่ได้มีการคุยกันแค่เพียงเล็กน้อยหรอก พวกฉันจะต้องส่งตัวนายให้หน่วยสอบสวนของนักเวท แล้วก็ดูเหมือนว่า...” เรย์พูดแล้วก็หยุดไป‘ส่งตัวฉันให้นักเวทจริง ๆ ด้วย’“ดูเหมือนว่าอะไรเหรอครับ?” เมื่อได้ยินอย่างนั้นอาคุมุจึงถามกลับไป“ดูเหมือนว่าองค์จักรพรรดิจะต้องการตัวนายน่ะสิ แล้วก็ไม่อยากรอนานนัก จึงให้พวกฉันพานายตรงไปยังพระราชวังที่เมืองหลวงเลย แล้วก็ต่อจากนี้จะเป็นขั้นตอนไหนฉันก็ไม่รู้ เพราะทหารราบฝ่ายนอกอย่างพวกฉันมีสิทธิ์ทำได้แค่เข้าไปส่งตัวคนสักคนหนึ่งจากสถานที่ห่างไกลเพียงเท่านั้น แต่ฉันรู้มาว่าหน่วยสอบสวนของนักเวทน่ะ... โหดร้ายมากเลยล่ะ”‘แบบนี้ก็เข้าทางฉันสิ’“ในเมื่อเป็นแบบนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-03

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 30 : เขตแดนพลังเวท?

    นักเวทที่เหลือนั้นหายไปพร้อมกันด้วยความเร็วอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งแน่นอนว่านั่นคงเป็นเวทที่ใช้ในการเคลื่อนที่“หายไปหมดเลย เวทเคลื่อนที่สินะครับ” พูดจบอาคุมุก็หันไปทางองค์ชายชูยะ ซึ่งองค์ชายนั้นเดินออกมาหลังจากทำการรักษาให้กับอากิระแล้ว“อืม การต่อสู้ทุกครั้งต้องมีนักเวทที่เชี่ยวชาญในการใช้เวทเคลื่อนที่อย่างน้อยสักหนึ่งคน ถึงจะเป็นนักเวทชุดขาวก็เถอะนะ แต่ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้แล้วไม่มีเวทเคลื่อนที่ก็คงตายยกกลุ่ม”“แล้วก็สีหน้าท่าทางของพวกเขามัน...” อาคุมุยังไม่ทันได้พูดจนจบแต่อย่างใด องค์ชายชูยะก็ตอบกลับในทันที“ก็เพื่อทำให้ไม่ผิดสังเกตนั่นแหละ และมันเป็นกลอุบายอย่างหนึ่งที่มีโอกาสทำให้ศัตรูใจอ่อน หรือดึงเวลาเอาไว้เพราะหนึ่งในนั้นต้องมีสักคนกำลังร่ายเวทขนาดใหญ่อยู่ และอาจเป็นคนที่อยู่แนวหลังซึ่งนายยังเดินไปไม่ถึง อีกทั้งยังไม่ได้อยู่ในระยะสายตาของนาย จึงทำให้ร่ายเวทได้ไม่ยากนัก” องค์ชายชูยะอธิบาย“แต่ว่าปล่อยไว้แบบนี้จะเป็นอะไรไหมครับ? เหมือนว่าพวกเขาจะได้ข้อมูลกลับไปรายงานองค์จักรพรรดิแล้ว”“ก็ค่อนข้างเสียเปรียบอยู่พอสมควร การฝึกก็จะลำบากยิ่งขึ้นเพราะสถานที่แห่งนี้เป็นที่เดียวที่ฉันใช้ เ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 29 : สถานที่แห่งเลือด

    นักเวททุกคนถูกพันธนาการไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งทักษะนี้นั้นราวกับว่ามันคือทักษะขั้นสูง เพราะในการควบคุมให้ตรงกับตำแหน่งที่ต้องการนั้นคงมีความยากเป็นแน่ อีกทั้งองค์ชายชูยะก็ใช้มันได้ด้วยความชำนาญ อาคุมุจึงมั่นใจได้อีกอย่างหนึ่งว่าองค์ชายชูยะอาจจะเป็นชายปริศนาคนนั้นที่เคยได้ช่วยเขาไว้แท่งน้ำแข็งจำนวนมากออกมาจากวงแหวนเวทสีส้มด้วยความรวดเร็ว ทั้งหมดนั่นล้อมรอบตัวของนักเวทเอาไว้และเป็นคุกน้ำแข็งในที่สุด‘ทักษะพันธนาการนี้แข็งแกร่งมากเลยนะเนี่ย’ นี่เป็นอีกครั้งที่อาคุมุได้เห็นการใช้ทักษะพันธนาการแบบหมู่ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่อาคุมุจะต้องกลับไปฝึกฝนและนำออกมาใช้ให้ได้ โดยเริ่มจากทักษะพันธนาการทั่วไปที่เขาจะต้องทำให้ชำนาญและคล่องแคล่วที่สุด“ลุงอากิระน่ะยังไม่ตายหรอก แต่คนที่จะตายก็คงหนีไม่พ้นลุงอิชิโร่... ใช่ไหม?” องค์ชายชูยะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ แต่แววตาทั้งสองกลับไม่ใช่แบบนั้นอาคุมุที่ได้ยินอย่างนั้นก็พยายามจะลุกขึ้นไปดูอาการของอากิระ แต่เขาก็ต้องแปลกใจที่ทักษะพันธนาการด้วยด้ายของนักเวทคนนั้นยังคงอยู่ ถึงแม้จะถูกพันธนาการด้วยคุกน้ำแข็งขององค์ชายชูยะ“เลิกเรียกฉันว่าลุงสักทีสิองค์ชาย!

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 28 : บาดแผล

    “ชิ! เพราะไอ้โง่คนเดียวเลยทำให้นักเวทชุดขาวอย่างเราถูกเด็กตัวแค่นี้หยามได้ ผู้ใหญ่หัวอ่อนน่ะมันมีแค่ไม่กี่คนหรอกนะเฟ้ย!!” หนึ่งในนักเวทพูดจบก็กระโดดขึ้นไปลอยค้างอยู่ในอากาศ“ปีกแห่งลม!” เขาใช้ทักษะพลังเวท ได้มีปีกซึ่งเป็นปีกแห่งลมปรากฏขึ้นมาที่ร่างกายของเขา จึงทำให้นักเวทคนนั้นสามารถบินได้“ไม่ธรรมดาเลยนะครับ”“ทักษะแบบนี้น่ะ มีน้อยคนที่จะสามารถใช้ได้ เพราะฉะนั้นแล้วก็เตรียมรับการโจมตีแบบที่นายไม่เคยเจอมาก่อนได้เลย!” ว่าแล้วนักเวทคนนั้นก็บินพุ่งตรงเข้ามาหาอาคุมุด้วยความเร็ว“กรงเล็บแห่งลม!!” ที่มือทั้งสองของนักเวทนั้นได้มีพลังเวทมาห่อหุ้ม จนก่อตัวเป็นกรงเล็บที่พร้อมสำหรับการโจมตี“บาทาไร้เงา... ผมไม่ยืนอยู่นิ่ง ๆ เพื่อให้โดนการโจมตีหรอกนะครับ” อาคุมุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบและแผ่วเบาขณะที่หลบการโจมตี ทั้งยังพูดในตอนที่เห็นการเคลื่อนที่ของนักเวทนั้นช้าลง จนกระทั่งเขาไปยืนอยู่ข้างหลังนักเวทคนนั้น“แสงอัสนีบาต!!” เมื่อสิ้นเสียงของอาคุมุ วงแหวนเวทสีฟ้าปรากฏขึ้นรอบข้อมือของเขา ตามด้วยการโจมตีจากแสงอัสนีบาตที่ออกมาจากวงแหวนเวทสีฟ้าเข้ม ซึ่งปรากฏให้เห็นอยู่หน้าฝ่ามือของอาคุมุ“อ่อก! ธ.. โธ่เว

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 27 : การต่อสู้ในสถานที่ฝึกฝน

    “ฆ่ามันซะ!!!” อิชิโร่ตะโกนสั่งการนักเวทที่อยู่ข้างหลังเขา ซึ่งจำนวนที่มีนั้นไม่ได้น้อยเลย ทั้งยังมีมาสมทบเพิ่มอีกหลายคน โดยนักเวททุกคนนั้นใส่ชุดคลุมที่มีหมวกสีขาว ปิดหน้าด้วยผ้าสีดำ ไม่สามารถคาดเดาพลังเวทของคนพวกนี้ได้เลยแม้แต่น้อย“คิดจะลงมือแล้วก็เตรียมตัวรับแรงกระแทกไว้เลย!” อากิระตะโกนโต้ตอบพร้อมกับเตรียมที่จะต่อสู้ ซึ่งขณะนี้อาคุมุนั้นกำลังหลับตาและทำการบางอย่างอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นแล้วหันไปถามอากิระ“ลงมือได้ไหมครับ?”“แน่นอน! นี่น่ะมันคือการเปิดศึกแล้วไงล่ะ”เมื่อได้ยินอย่างนั้น อาคุมุก็ชี้นิ้วขึ้นไปข้างบนในทันที“มองดูข้างบนสิครับลุง”“ทำอะไรของแกน่ะเจ้าหนู? จะให้ฉันมองวิวที่มันเหมือนกับท้องฟ้า...” อิชิโร่พูดยังไม่ทันจบประโยค เขาก็ต้องตกตะลึงในทันที เพราะเหนือศีรษะของทุกคนขึ้นไปนั้น มีวงแหวนเวทขนาดเล็กอยู่เต็มไปหมด“แสงอัสนีบาต!!” เมื่อสิ้นเสียงของอาคุมุ วงแหวนเวทสีฟ้าได้ปรากฏขึ้นรอบข้อมือของเขา พร้อมกับการโจมตีด้วยสายฟ้าที่ลงมาจากข้างบนตู้มมม!!!“อ่อก! โธ่เว้ย” นักเวทจำนวนหนึ่งที่กำลังพุ่งเข้ามาหาอากิระนั้นโดนการโจมตีที่รุนแรงของอาคุมุเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าจำนวนวงแหวน

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 26 : ทรยศ

    หลังจากที่อาคุมุได้พูดคุยกับองค์ชายชูยะเล็กน้อย องค์ชายชูยะก็บอกให้อากิระนั้นนำทางและพาอาคุมุไปยังที่พัก ซึ่งสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือองค์ชายนั้นจัดการเตรียมที่พักให้เป็นอย่างดี ซึ่งที่พักนั้นอยู่ในตึกใหญ่ที่อยู่นอกพระราชวัง แต่แค่นี้ก็ดีเกินกว่าที่อาคุมุนั้นต้องการแล้ว ทั้งยังมีสถานที่สำหรับใช้ในการฝึกที่อากิระจะแนะนำหลังต่อจากนี้ เริ่มจากการที่อากิระนั้นผลักประตูบานยักษ์ หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปตามโถงทางเดิน จนกระทั่งมาถึงห้องพักห้องหนึ่ง “นี่แหละห้องของนาย ลองเข้าไปดูสิ” อากิระกล่าวหลังจากที่เดินมาแล้วหยุดอยู่หน้าห้อง 06 นั่นคือหมายเลขห้องของเขา เมื่อได้ยินอย่างนั้นอาคุมุจึงเดินเข้าไป ในที่สุดก็มาถึงห้องของอาคุมุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งห้องนอนนั้นเป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมที่มีกำแพงเป็นสีขาวล้วนรอบด้าน มีเตียงนอนและของใช้ต่าง ๆ ครบครัน ทั้งโต๊ะทำงาน ตู้หนังสือ โคมไฟ หรือแม้กระทั่งดาบเล่มหนึ่งที่วางอยู่ แน่นอนว่าห้องนี้นั้นมีขนาดความกว้างมากกว่าห้องของเขาที่บ้าน ทั้งยังมีความสะดวกสบายมากเป็นพิเศษ ซึ่งเขาไม่แปลกใจเท่าไรเพราะนี่เป็นที่ที่องค์ชายชูยะเตรียมไว้ให้ “ห้องกว้างมากเลยล่ะครั

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 25 : อยากพบ?

    ความประมาทของอาคุมุทำให้ตัวเขาเองได้รับบาดเจ็บมากที่สุดเท่าที่เคยเจอมา เสื้อขาดตามแนวของการโจมตีจนเผยให้เห็นรอยแผลเป็นปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน นี่คือบาดแผลขนาดใหญ่แผลแรกของเขา “จะเป็นยังไงล่ะครับ... ถ้าผมเก็บกวาดตรงนี้ซะหมด? แต้ม B ของผมคงจะมีเยอะมากและแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดเลยล่ะ มันคงจะดีต่อตัวผมมากเลยนะครับ” อาคุมุพูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก สายตาของเขานั้นดูน่ากลัวราวกับปีศาจอย่างไม่ต้องสงสัย “ม.. ไม่เอาน่า มันคงไม่ดีต่อตัวนายนักหรอก” คาซูโอะพูดด้วยน้ำเสียงและร่างกายที่มีอาการสั่นกลัวเล็กน้อย “ที่ไม่ดี.. เพราะกลัวตายหรือเปล่าครับ? ถ้าอย่างนั้น...” อาคุมุพูดยังไม่ทันจบก็ได้มีชายคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา “นายควรพอได้แล้วนะน้องชาย คนพวกนี้ทำอะไรนายไม่ได้หรอก” “เอ๋? องค์ชาย?” ซึ่งชายคนนั้นก็คือองค์ชายชูยะนั่นเอง เขาปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับอากิระที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ในขณะที่อาคุมุไม่ทันได้สังเกตเห็น “องค์ชาย... ทั้งหมดเป็นฝีมือของเขาครับ!” คาซูโอะพูดขึ้นมาพร้อมกับชี้นิ้วไปยังอาคุมุ “คาซูโอะ... นายพามาแทบทั้งหน่วยเพื่อจัดการกับเด็กคนเดียวเนี่ยนะ? แต่ฉันจะบอกอะไรให้อย่าง.. เด็กคนนี้คือเพื่อน

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 24 : ความประมาท

    การโจมตีในครั้งนี้อาคุมุไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์อะไรมากนัก แค่ได้นำสิ่งที่ฝึกฝนมาประยุกต์แล้วทดลองใช้ก็ถือว่าเป็นกำไรสำหรับเขาแล้ว อีกอย่างคือเขาสามารถหนีไปได้อย่างแน่นอนด้วยการใช้บาทาไร้เงา สังเกตได้จากการที่เขาออกมาจากการปิดล้อมนั้นได้โดยง่าย เพียงแต่ว่า.. เขายังไม่ได้ฝึกทักษะที่ใช้ป้องกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ‘ไม่เป็นไร ยังไงเราก็พอหนีได้ล่ะนะ’ เมื่อควันเริ่มเบาบางลง เผยให้เห็นคนนับสิบนอนล้มอยู่ที่พื้นดิน โดยพื้นที่บริเวณรอบนั้นเป็นหลุมเป็นบ่อใหญ่พอสมควร “เอ๋? ทำไมถึงไม่ใช้เวทป้องกันล่ะเนี่ย?” อาคุมุเกิดความตกใจพอสมควรที่ไม่มีใครใช้เวทป้องกันเลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งแท้จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น “อึ่ก!... ไม่ใช่หรอก ใช้แล้วแต่ไม่ไหวต่างหาก” ชายหนุ่มผู้ที่เป็นหัวหน้าค่อย ๆ ยืนขึ้นและใช้ดาบที่อยู่ในมือประคองไว้ ซึ่งดาบของเขาติดตัวไว้ตำแหน่งไหนอาคุมุก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นคือการป้องกันกลับต้านพลังโจมตีของอาคุมุไม่ได้ ‘เดี๋ยวนะ เขาระดับสูงกว่าฉันมากเลยนี่ ทำไมถึงไม่ไหวได้ล่ะเนี่ย?’ “ฉันล่ะยอมใจนายจริง ๆ มิน่าล่ะองค์จักรพรรดิถึงต้องการตัว เอาล่ะฉันชื่อ "มิกาซูกิ คาซูโอ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 23 : ร้อนวิชา

    ในตอนนี้อาคุมุได้ผ่านการฝึกกับโทชิทั้งทักษะบาทาไร้เงาและการสร้างวงแหวนเวทเพื่อใช้โจมตีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เท่านี้ก็นับว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นมามากพอสมควรถ้าฟังจากที่โทชิได้บอกไว้ และหลังจากนี้ก็จะขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของตัวเขาเอง ความชำนาญในการใช้ทักษะต่าง ๆ จะทำให้เขาได้เปรียบในการต่อสู้.. แม้กระทั่งการวิ่งหนีอาคุมุนั่งลงและฝึกการสร้างวงแหวนเวทอีกครั้ง โดยเขาจะสร้างมันขึ้นมาสองอัน ตามเทคนิคที่เขาเข้าใจคาดว่าคงจะไม่ยากนัก“เอาล่ะ สร้างวงแหวนเวท!” เขาพูดขึ้นมาพร้อมกับยกแขนขวาขึ้นในระดับเอว หันฝ่ามือขึ้นและแยกนิ้วทั้งห้าออกจากกัน ซึ่งอาคุมุยังไม่ทันได้บีบอัดออร่าและพลังเวทไว้ตรงจุดเดียวแต่อย่างใด วงแหวนเวทสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นเหนือฝ่ามือของเขาในทันที“เอ๋? ทำแบบนี้ได้แล้วหรอกเหรอ? ถ้างั้น..” ว่าแล้วอาคุมุก็ยกแขนซ้ายขึ้นมาในระดับเดียวกันและทำแบบเดียวกัน โดยเขาแค่เกร็งแขนและยังไม่ทันได้พูดว่าสร้างวงแหวนเวทเลยด้วยซ้ำ มันก็ปรากฏขึ้นมาเหนือฝ่ามือเขาเสียแล้ว“เยี่ยมเลย! ทำได้เร็วกว่าที่คิดแฮะ” การที่เขาฝึกฝนต่อหลังจากเรียนรู้เทคนิควิธีใช้ ทำให้เขามีความเข้าใจและสามารถควบคุมพลังได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 22 : ควบคุมวงแหวนเวท

    หลังจากที่อาคุมุสามารถใช้ทักษะบาทาไร้เงาได้แล้วนั้น ทักษะอีกอย่างที่ควรมีก็คือการสร้างวงแหวนเวท ซึ่งเป็นการสร้างวงแหวนเวทไว้ใช้ในการโจมตีโดยตรง ต่างจากการสร้างวงแหวนเวทธรรมดาเพื่อใช้ในการเคลื่อนที่ เพราะมันทั้งควบคุมยากกว่าและสารพัดประโยชน์ยิ่งกว่า“ตอนนี้เราวิ่งเข้ามาลึกกว่าเดิม ถ้าพวกนั้นจะออกตามหาก็คงต้องใช้เวลาหน่อย แต่ว่าถ้าเป็นตำแหน่งนี้สิ่งที่ควรระวังมากที่สุดมันไม่ใช่พวกนักเวทน่ะสิ” โทชิพูดขึ้นมา“หรือว่าจะหมายถึง.. ปีศาจเวทมนตร์เหรอครับ?”“ใช่แล้วล่ะ เราอยู่ในจุดที่ใกล้กลางป่ามากเท่าไร โอกาสที่จะเจอกับปีศาจเวทมนตร์ก็มากขึ้นเท่านั้น ที่เราต้องระวังรองลงมาก็คือนักเวท.. แต่ก็นะ ในจักรวรรดินี้ถึงจะมีก็มีได้ไม่เยอะหรอก เพราะอะไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแต่จักรวรรดิไดจิเป็นจักรวรรดิที่มีปีศาจเวทมนตร์น้อยที่สุดในโลกนี้น่ะ”“ต้องมีเบื้องหลังสินะครับ”“ถึงเวลาเดี๋ยวนายก็จะรู้เอง”ป่าใหญ่แห่งนี้นั้นเป็นป่าที่อยู่ในเมืองไดอิกิ เรียกได้ว่ามันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของเมืองหลวง ซึ่งเดิมทีป่าก็เป็นตำแหน่งออกล่าของปีศาจเวทมนตร์อยู่แล้ว แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ทำให้จักรวรรดิแห่งนี้มีปีศาจเวทมนตร์ออกเพ

DMCA.com Protection Status