นางสาวบีกลับมาหานายกล้าอย่างปลอดภัยโดยไร้เงานายเหล็กมาส่งถึงท่า พอเห็นสีหน้าสุนัขเลี้ยงส่วนตัวทำท่าทางเป็นห่วงก็อยากจะระบายความอัดอั้นออกมาเสียเดี๋ยวนั้น แต่เพราะภพนี้ไม่มีใครที่สามารถไว้ใจได้ทั้งนั้น หล่อนจึงปิดปากเงียบจนกระทั่งนายกล้าพายเรือกลับและพามาส่งถึงเรือนนางสาวบีไม่ได้หลับมาทั้งคืนเลยไม่ได้ลงนิมิตแห่งความตายอันแสนสะดวกไปหาขุนแสนคำ หล่อนพยายามร่างแผนการคร่าวๆ เป็นภาษาเขียนในยุคปัจจุบันที่คุ้นเคยกับมัน แต่ก็ต้องขยำทิ้ง เนื่องจากหล่อนเองก็ไม่รู้ว่าคราวหน้า นายเหล็กจะเปลี่ยนใจแล้วสังเวยชีวิตหล่อนทันทีที่ได้เถ้ากระดูกหรือเปล่าให้หมามาดูก็ยังรู้ว่าไอ้ตัวใหญ่นั่นมองนางบัวงามเป็นแค่เพียงเครื่องมือไว้ใช้ทำลายผัวตนเอง สันนิษฐานว่าเพราะนางบัวงามอาจเป็นจุดอ่อนเดียวของขุนแสนคำ ไม่รู้ชาติที่แล้วอีหญิงนี่มันจะโง่และชั่วอะไรขนาดนั้น คิดแล้วก็อยากตีอกชกหัวตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด ความร่านนำพาหายนะมาสู่ตัวชัดๆวันนี้หลวงศรีจันทร์ให้บ่าวหญิงมาจับหล่อนแต่งเนื้อแต่งตัวตั้งแต่เช้า เนื่องจากต้องไปพบเจอพระยาสิงขรที่เรือนใหญ่ของพ่อ เขายอมมาที่นี่เพื่อมาคุยดูใจกับลูกหลวงที่ยศศักดิ์ต้อยต่ำกว่า คงจะคลั
นางสาวบีเริ่มบทสนทนาด้วยความปากแซ่บแบบที่ไม่แคร์ว่าอีกฝ่ายจะมียศฐาบรรดาศักดิ์สูงส่งกว่าพ่อของร่างหญิงที่มาสิงสู่สักเพียงใด อย่าคิดนะว่าแค่มียศมีอย่าง มีเงินแล้วจะมาขอผู้หญิงง่ายๆ เหมือนซื้อผักซื้อปลา เธอเองก็มีภารกิจที่ต้องทำเหมือนกัน ภารกิจที่ต้องแลกกับชีวิต ไม่มาเสียเวลากับอีตาลุงที่หวังอยากได้เสียกับผู้หญิงเด็กคราวลูกและคาดหวังว่าจะถูกจับใส่ตะกร้าล้างน้ำจนบริสุทธิ์ผุดผ่องมาให้หรอก แต่ก็แปลก ที่คนตรงหน้าไม่ได้ออกทรงโวยวายใหญ่โตแบบพวกเจ้ายศเจ้าอย่างทั่วไป กลับกันตาลุงร่างใหญ่กลับนิ่งงันเมื่อหล่อนร่ายจบ พร้อมกับหรี่ตาลงมองหล่อนราวกับมองมดปลวก ว่าแต่สายตาแบบนี้มันดูคุ้นๆ นะ เหมือนใครบางคนที่รู้จัก “กูอาจจักคิดมิผิดก็ได้ที่เลือกมึง” “ฮะ?” “กูรู้ดีว่าหลวงศรีจันทร์มิสามารถจับมึงใส่ตะกร้าล้างน้ำจนสะอาดเอี่ยม แต่ก็มิคิดว่าจักปากกล้าถึงเพียงนี้” “...” “มึงรู้หรือไม่ว่ากูเป็นใคร กูที่ขึ้นตรงกับพระองค์ กูสามารถกราบทูลให้ท่านทราบว่าหลวงศรีจันทร์เอามึงมาหลอกขายกูได้อย่างไร แล้วพ่อมึงก็อาจจักมีความผิดที่คิดมายั่วยุคนเช่นกู รู้หรือไม่ว่าองค์เหนือหัวสามารถสั่งฆ่าครอบครัวของมึงได้” “...” “อ
“แล้วถ้าฉันถอนตัว พี่จะทำของใส่ร่างกายนี้อย่างไรล่ะ” นางสาวบีพอรู้อยู่ว่าเรื่องมันจะต้องลงเอยเช่นนี้ ถ้าขุนแสนคำเลือกแผนนี้ เลือกพระยาคราวพ่อที่มีเมียสองลูกสามแบบนี้ เธอก็ต้องมีโอกาสไปเผชิญหน้ากับเหล่าเมียๆ ลูกๆ ของเขาที่ไม่รู้ว่าจะพร้อมต้อนรับเมียเด็กคราวลูกที่เคยผ่านการเป็นหม้ายผัวตายมาครั้งหนึ่งหรือเปล่าอยู่แล้ว อีกอย่างทำมาขนาดนี้แล้ว จะให้ถอนตัวก็คงเร็วไปนัก “อย่างน้อยมีฉันอยู่ แถมพี่ก็ได้ร่างสิงสู่ เราจะได้เป็นผัวเมียกันจริงๆ เลยยังไงล่ะ” “มึงนี่มัน...” ไม่รู้หรอกว่าชาติก่อนเป็นหญิงเช่นไร แต่ขุนแสนคำคิดว่าคนตรงหน้ามันช่างเจ้าเล่ห์เพทุบาย อวดดี และไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ จนน่าหงุดหงิดเสียจริง “ฉันจะแต่งงานกับพี่ แล้วย้ายไปอยู่ในเรือนใหญ่ของพระยาสิงขร ขอเพียงนัดแนะมาว่าวันไหน ฉันจะเกณฑ์บ่าวหอบข้าวของไปหาเลยเจ้าค่ะ” “คิดดีแล้วรึ มิมีศักดิ์ศรีเลยหรือไร” ร่างพระยาคราวพ่อยกมือขึ้นกอดอก หรี่ตาลงมาหญิงสาวร่างเล็กตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ไม่มีร่องรอยการโดนทำร้ายใดๆ แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ ชายผู้นั้นที่เรียกนางมาหาถึงถิ่นนั้นใช้อาคมพรางสถานที่ไว้จนไม่สามารถมองเห็นได้ ปรกติไม่ว่านางบัวงามจะไปท
ออกคำสั่งในฐานะผัว?ยังไม่ทันได้ตบแต่งหมั้นหมายกันเป็นขั้นเป็นตอน ไอ้ผีแก่นี่ก็คิดจะแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกับตัวเธอเสียแล้วอ้อ แต่อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ บางทีขุนแสนคำอาจจะหมายถึงร่างที่เธอมาสิงอยู่ก็ได้ ก็อดีตเคยเป็นผัวเมียกันนี่เนอะ อีกอย่างขุนเสืออาจเป็นก้างขวางคอสำหรับภารกิจเสี่ยงตายด้วย เป็นตัวละครที่ไม่จำเป็นจะต้องเข้ามาอยู่ในแผนเลยเพราะจะเข้ามาปั่นป่วน พาเสียกันทั้งระบบก็ดีเหมือนกัน อย่างไรก็ไม่ได้ชมชอบการเสพสู่กันในครอบครัวสายเลือดเดียวกันอยู่ล่ะ จะไปตัดเยื่อใยให้ขาดสะบั้นเอาก็แล้วกัน“พี่ไม่ต้องห่วง ไม่ว่ายัยนี่จะเคยชอบน้องชายหน้าหล่อใจยักษ์นั่นสักเท่าไหร่ แต่ขอบอกเลยว่าหมอนั่นไม่ใช่สเป็คฉันเลยสักนิด”“มันผู้นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กูถึงแก่ความตาย คงมิใช่คนที่จักยอมรามือจากตัวอีบัวงามโดยง่าย ที่เข้าหานางบัวงาม... อาจเพราะทรัพย์สมบัติ”“...” โหคุณพี่ แม่นอย่างกับจับวาง“งั้นก็ยกให้มันแลแม่มันไปทั้งหมดเสียจักเป็นไร อย่างไรสมบัติมันก็งอกเงยได้ทุกเมื่อ ยิ่งมีกูอยู่มึงยิ่งมิต้องกังวลว่าจักอยู่อย่างลำบาก”รูปประโยคมันดูเอ้ะๆ อยู่นะ ทำไมเหมือนคุณผัวสายเปย์ที่กำลังเอาเงินฟาดเพ
ขุนเสือนึกคิดกับตนเองท่ามกลางท่าทีที่ดูปั่นป่วนเล็กน้อยที่ออกผ่านสีหน้า มือไขว้หลังยืนจ้องมองบานหน้าต่างนานแสนนาน ในขณะที่แม่จันทร์งามเองก็ลอบมองผ่านด้านหลังของบุตรชายนอกสมรส หล่อนรับรู้เรื่องราวที่หลวงศรีจันทร์ทำกับบุตรสาวอย่างดี แต่หล่อนไม่สามารถห้ามปรามกิเลสความอยากได้อยากมีของผัวได้ แต่เมื่อเห็นว่าบุตรชายจากเมียบ่าวทำท่าทางหวงพี่สาวอย่างออกนอกหน้าตอนที่นั่งประจันหน้ากับพระยาสิงขรที่มีบริวารใหญ่โต ก็อดไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปข่มขุนเสือเคยพยายามจะทำลายงานหมั้นหมายของพี่สาวในสมัยตบแต่งกับขุนแสนคำ เด็กคนนี้มีรังสีอันตรายบางอย่าง ที่จะปรากฎขึ้นเมื่อมีคนแย่งของรักไปหล่อนรู้ดี... บัวงามเป็นหญิงที่งามทั้งกายทั้งใจ ไม่มีใครที่จะไม่หลงรักแม้แต่บุตรชายคนละแม่ขุนเสือควรรู้สึกตัวได้แล้วว่าตนเองนั้นไม่คู่ควรกับบัวงาม ไม่ว่าจะเป็นฐานันดรแรกเกิด หรือแม้แต่สถานะพี่น้องต่างแม่ที่ตีตราชัด“เจ้าเสือ... เธอรู้ดีว่าเธอมิมีวันเทียบพี่ได้ อย่าหลงคิดว่าตนเองมีสิทธิ์กระไรในตัวของบัวงาม ฉันรู้ว่าเธอรักบัวงามมาก... แต่คนเป็นพ่อล้วนคัดสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้บุตรสาวคนโต” หล่อนขยับไปข้างบุตรชายนอกสายเลือดตน เหล
ตัดมาที่ฝั่งนางสาวบี บัดนี้หล่อนนอนอยู่ใต้ร่างของคนที่ขึ้นชื่อว่าจะเป็นผัวใหม่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ถึงร่างกายจะใช่แต่จิตวิญญาณนั้นไม่ แรงปรารถนาแข็งขืนอยู่ที่ฝ่ามือเล็ก หลังจากที่ถูกอุ้มมาที่เรือนใหญ่ ด้วยเพราะเป็นพระยาสิงขรบ่าวทั้งหลายที่คอยเฝ้ายามหน้าเรือนจึงทำทีเหมือนมองไม่เห็นการกระทำบัดสีกลางวันแสกๆ นี้มันคงจะเป็นเรื่องปกติของคนใหญ่คนโตที่ชนผู้น้อยจะทำเหมือนมองไม่เห็นการกระทำที่ไม่สมควร จนกระทั่งเขาวางหล่อนลงบนฟูกนอนและเชื้อเชิญกัน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ไอ้ส่วนที่แข็งปั๋งที่เธอจับอยู่ มันไม่ธรรมดาแล้ว“พี่จ้องจะทำของใส่ฉันแน่ๆ” เสียงหวานกระเส่า หล่อนไม่ได้โหยหาหากแต่ร่างกายมันเป็นไปเอง มันเหมือนไม่ใช่ตัวของตัวเองเอาเสียเลย พอรู้ว่าคนตรงหน้ากำลังกำหนัด ร่างกายก็รุ่มร้อนราวกับจับพิษ “ใช่ไหม แฮ่ก พี่จะทำของใส่ฉันใช่ไหม”“ถึงแม้ท่านพระยาจักมีอาคมติดตัว แต่กูยังมิถูกเจ้าของร่างอนุญาตให้กระทำการใด อย่างน้อยถ้าจักสอดของสกปรกเข้าตัว ในนิมิตถึงจักดี” แม้ต่อหน้าหญิงสาวจะพ่นคำพูดคำจาโหดร้ายออกมา แต่สีหน้านั้นพร้อมรบเต็มที่ ร่างกายกำยำหยัดกายแกร่ง ปล่อยให้สาวเจ้าปลดอาภรณ์ลงอย่างไม่ชำนา
พระยาสิงขรกลับมาถึงเรือนใหญ่ช่วงหัวค่ำพร้อมคณะบริวารที่ตามไปสู่ขอบุตรีหลวงศรีจันทร์ถึงเรือนทิศเหนือ เมื่อขึ้นกระไดเรือนขึ้นมา ก็พบกับ ‘ท่านผู้หญิงทองพิน’ ภริยาเอกของพระยาสิงขรที่ทำหน้าที่เป็นแม่เจ้าเรือน คอยดูแลปกครองบ้านเรือนโดยรวม ดูเหมือนว่า ‘แม่เอื้องน้อย’ อนุภรรยานั้นจะปิดเรือนหลับนอนไปแล้วพระยาสิงขรนั้นมีเมียสองคน ไม่นับรวมเมียบ่าวและหญิงนครโสเภณี เนื่องจากของปลุกกำหนัดทำให้ภรรยาทั้งสองไม่สามารถรองรับความต้องการของท่านได้เต็มที่ จึงได้มีการพูดคุยว่าจะมีบ้านเล็กบ้านน้อยแต่ไม่ผูกมัดให้ต้องรำคาญใจอย่างไรท่านผู้หญิงทองพินก็เป็นภริยาหลวงของท่าน ทุกครั้งที่ท่านกลับมาช้า หล่อนจะมายืนรอพร้อมบ่าวหญิงถือตะเกียงรอผัวกลับเรือนเสมอท่าทางที่ดูเหนือกว่าผู้เป็นผัวในบางคราทั้งที่ผัวมีศักดิ์เป็นถึงพระยานาหมื่น ทำให้ขุนแสนคำกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ด้วยหวังว่าหล่อนจะไม่ล่วงรู้ว่าภายในกายเนื้อของท่านพระยาเป็นผีร้ายที่มาอ้อนวอนขอร้องท่านเพื่อสิงสู่“ฉันให้บ่าวจัดเตรียมที่นอนหมอนมุ้งให้ท่านแล้วเจ้าค่ะ” แต่เมื่อทุกย่างก้าวที่ประหวั่นวิตกมาถึงตัว หญิงสาวที่ถึงแม้จะดูมีอายุแต่ก็ยังคงความงดงามเอาไว้ จนพอค
“ถ้าฉันจักขอบุตรสาวของคุณหลวงไปอยู่เหย้าอยู่เรือนปรนนิบัติรับใช้ทองพินจักได้หรือไม่?”รุ่งเช้าในวันต่อมา พระยาสิงขรกลับมาที่เรือนใหญ่ของหลวงศรีจันทร์อีกครั้ง เขาเข้ามาด้วยจุดประสงค์ที่จะสู่ขอบุตรสาวของท่านมาอยู่ในความดูแลของเรือนใหญ่ในนามท่านผู้หญิงทองพิน ซึ่งเมื่อหลวงศรีจันทร์ผู้มากโลภะได้ยินชื่อของภรรยาหลวงท่านพระยา ถึงกับมองหน้ากับเมียตัวเองอย่างใช้ความคิด ดูอีกฝั่งจะติดใจบัวงามจนวันรุ่งต้องมาร้องขอตัวไปครองถึงบ้านเลยสิหนาอย่างนี้มันต้องเรียกให้สูงๆ หน่อย ก็ลูกสาวของเราดันสวยขนาดนี้“กระผมมิขัดข้องดอก แต่... ถ้ายังมิได้จับจองเป็นพิธีละก็...”“ฉันรู้ดี จึงเตรียมสิ่งนี้มาเพื่อซื้อตัวหล่อน” ชายร่างใหญ่ว่าพลางพยักเพยิดให้บ่าวรับใช้วางห่อผ้าท่าทางมีน้ำหนักลงตรงหน้า ยามเมื่อหลวงศรีจันทร์เปิดห่อออก ก็พบกับเครื่องทองสว่างเจิดจ้าที่ล้วนประติมากรรมอย่างประณีตด้วยของล้ำค่าดั่งเช่นทองคำ ทั้งเครื่องทองเครื่องประดับที่ฉลุลวดสายอย่างวิจิตร จนหลวงวัยกลางคนถึงกับดวงตาลุกวาว “การหมั้นหมายจักจัดที่เรือนใหญ่ของฉัน อย่าได้ห่วงไป แม่บัวงามจักได้อยู่ใกล้ชิดฉัน แลฉันจักให้ความสำคัญกับหล่อนไม่เป็นรองใครเป
หมับพลันนั้นพอนึกถึงดวงหน้าคมคายของพระยาสิงขรก่อนหน้าที่หลั่งน้ำตาราวกับจะแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ดวงตานั้นบ่งบอกว่าหลงรักปักใจกับนางบัวงามคนนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น แต่ที่สุมไฟความแค้นก็เพราะสิ่งที่เมียตัวเองทำมันเกินให้อภัยน่าแปลกที่นางสาวบีเห็นภาพซ้อนทับใบหน้าของพระยาสิงขรที่ถูกแทนที่ด้วยขุนแสนคำที่กำลังร่ำไห้ ในตอนนั้นจึงเผลอใจตกเป็นของเขาท่ามกลางพายุฝนฟ้าคะนองที่โหมกระหน่ำแต่เมื่อเมฆครึ้มหายลับฟ้าไป ภาพตรงหน้ามีเพียงเขาที่ทิ้งให้หล่อนนอนเดียวดายอยู่บนฟูกเท่านั้รเธอไม่ได้มอบใจให้ขุนแสนคำเต็มร้อยเปอร์เซ็น แต่การที่นอนกับเขาหลายครั้ง มันก็ไม่แปลกที่จะมีความรู้สึกบางอย่างก่อเกิดขึ้นอยู่บ้างเล็กๆ น้อยๆแต่... ก็ตามนั้นล่ะนางสาวบีเป็นแค่หญิงงามเมืองให้เขาซื้อตัวจอง หน้าที่ในโลกนี้มีเพียงแค่นี้เธอไม่ควรมีความรู้สึกอะไรกับขุนแสนคำ อย่างไรก็ตายไปแล้วทั้งคู่ มันเป็นไปไม่ได้หรอก และถึงจะมีโอกาสเป็นไปได้สักสิบเปอร์เซ็นล่ะก็ เขาก็ไม่ใช่ของของเธออยู่ดีว่าแล้วก็ฉีกยิ้มต่อหน้ายิ่งยงที่ยืนจ้องมองเรือนร่างของหล่อนอย่างเปิดเผย ดวงตาของเขานั้นดูไร้พิษภัย หากแต่มองออกได้ง่ายดายเหลือเกินนะเด็กหนุ่มกับหญิ
“ถ้ามิใช่แล้วจักเป็นใครที่มีธุระกงการกับเรื่องนี้ได้... อ้อ หรือจักเป็นทองพินเจ้าคะ?”“อย่าละลาบละล้วงถึงนาง หล่อนรู้ดีว่าหล่อนแค่เพียงตบแต่งเพื่อมีลูกให้ฉันเท่านั้น มิว่าจักเป็นหล่อนหรือทองพิน”นั่นคือความคิดในใจของขุนแสนคำที่อยากพูดออกมาแทนใจท่านพระยา ก็เพราะเขาเผลอไปหลงรักเมียเอกที่จ้องจะฉีกอกกันทุกคราที่มีโอกาส ภายในบ้านของท่านมันถึงวุ่นวายได้ขนาดนี้ มีลูกลูกก็ไม่รัก เมียที่รักมากก็ไม่เคยรัก แบบนี้หนามยอกต้องเอาหนามเข้าบ่ง เป็นคติประจำใจของเขาถึงเขาจะทำแบบนั้นกับเรื่องของตนเองไม่ได้ก็ตามแม่เอื้องน้อยชะงักงันเมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าแดงก่ำอดกลั้นไม่ให้อารมณ์ระเบิดใส่สามีผู้ร้างรัก มันเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ดวงตาสีฟ้าครามหม่นแสงลงทันที อีกฝ่ายนั้นไม่เคยไยดีหล่อน หล่อนย่อมรู้ดีที่สุด แต่ใจเจ้ากรรมมันดันลุ่มหลงเขาไปเสียแล้วแม้นกระทั่งยอมคลอดเด็กที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา จนลูกเกลียดหล่อนไปรักเอาแต่ทองพิน แค่นี้ยังมิพออีกหรือหล่อนเสียสละไม่มากพออีกหรือ“คุณพี่รู้ดีว่าฉันรอคุณพี่มาร่วมเตียงด้วยนานเพียงไร คุณพี่มิคิดแยแสฉัน มิต่างกระไรกับเจ้ามิ่ง เลือดเนื้อเชื้อไขที่มาจากฉ
“อื้อ... พี่แสน” เสียงครางฮือจากสาวเจ้าพร่ำเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงหวามหวานยังคงดังชิดกกหู ขุนแสนคำนั้นปลดผ้านุ่งออกพร้อมๆ กับเข็มขัดเงินแวววาว ปลดปล่อยความใหญ่โตที่ผงาดออกมานอกผืนผ้าอาจจะดูง่าย ดูร่านเหลือเกินที่ยอมเรียกชื่อตามที่อีกฝ่ายอ้อนขอโดยที่ลืมตัวไปว่าอีกฝ่ายเห็นหล่อนเป็นเพียงผลประโยชน์ หรือเรียกง่ายๆ ว่าทาสสวาทดีๆ เท่านั้นแต่เธอไม่ผิดสักหน่อยที่จะเผลอไผลยั่วเย้าเขาเพราะรสของตัณหาอย่างไรเราทั้งคู่ก็ไม่ได้เชื่อมใจถึงกันด้วยเรื่องราวดีๆ นอกจากเซ็กซ์และราคะอันร้อนแรงอยู่แล้วหล่อนรักสนุกไม่เน้นผูกพัน ส่วนเขาก็แค่เอาหล่อนไว้คลายใคร่กำหนัด แถมยังจ้องจะหาทางสับขาหลอกลงมือฆ่าร่างที่นางสาวบีสิงสู่อยู่ให้ตายไปแบบช้าๆ อีกด้วยอย่างไรโลกโน้นเธอก็ตายไปแล้วนี่ โลกนี้ไม่ต่างจากโลกหลังความตายหรือบ่วงกรรมที่ต้องมาตามชดใช้ เขาตาย เราก็ตาย เขาผี เราก็ผีผีมันไม่มีความรู้สึกหรอกไม่มีความรักกับใครที่นี่ที่เป็นเรื่องสุขนิยมทั้งนั้นสู้เอาด้านมืดทุกอย่างมาสาดใส่กันตรงๆ ไปเลยจะดีกว่า ฉีกอกพูดคุยกันไปเลยว่าแท้จริงแล้วมนุษย์เรามันเป็นอย่างไร มันมัวเมาไปด้วยกิเลสราคะ รสแห่งการเอาชนะ เกมที่เดิมพันด
“ไม่มีอารมณ์อ่ะ อ้อนวอนหน่อยสิ” นางสาวบีไม่ใช่หญิงในครรลองคลองธรรมหรือยอมใครได้โดยง่าย เธอเป็นคนตรงไปตรงมา อะไรที่เอาคืนได้แม้เล็กน้อยก็จะทำ เป็นหญิงสาวที่แสบสันโดยธรรมชาติ“กงการกระไรที่จักต้องอ้อนวอนมึง เป็นหญิง มีหน้าที่ออดอ้อนบำเรอผัวก็พอ”ผัว! เต็มปากเต็มคำเลยเนอะแสดงว่าตอนนี้หื่นแบบอันลิมิต แอบกลัวแล้ว“แล้วกงการอะไรที่ฉันจะต้องยอมพี่ตลอดด้วยล่ะ?” หล่อนสู้ขาดใจ ถึงปกติเขาจะรุกหล่อนเองทุกที แต่ดูคราวนี้สายตานั่นบ่งบอกว่าอยากให้สาวเจ้าออนท็อปให้เต็มแก่ แต่ติดที่ทิฐินั้นสูงเสียดฟ้า ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองอยากเป็นฝ่ายโดนรุกไล่บ้าง“ปรนเปรอกูซะ เดี๋ยวนี้” ขุนแสนคำไม่สนใจฟัง ออกคำสั่งอย่างเอาแต่ใจ“ไม่”“บำเรอกู”“อยากทำก็ทำเองไหม สมัยไหนแล้ว มาบังคับกันแบบนี้ฉันแจ้งตำรวจได้นะ ข้อหาบังคับข่มขู่หวังกระทำชำเรา รู้ไหมว่าถึงเป็นผัวเมียกัน ถ้าไม่สมัครใจก็เท่ากับข่มขืนนะจ๊ะ” คราวนี้ได้ทีสอนกฎหมายประเทศไทยยุค 4.0 เสียเลย ในยุคที่กฎมลเฑียรบาลในสมัยก่อนไม่มีกฎข้อไหนที่ถูกสร้างออกมาปกป้องเพศหญิง ก็ช่วงนี้มันยุคชายเป็นใหญ่นี่นา บางทีแค่เอาตัวรอดยังยากเลยด้วยซ้ำ เรื่องนี้รู้ดีแต่มันหมั่นไส้โว้ยน
บ่วงกรรมที่เขาฆ่าพ่อฆ่าแม่หล่อนและทำลายหมู่บ้านโจรจนราบเป็นหน้ากลอง ทำให้นางโจรอย่างหล่อนสิ้นชื่อต้องเข้ามาอยู่ในสภาพแวดล้อมในชีวิตของเขา จำเป็นต้องปั้นหน้าปั้นตายอมตกเป็นเมียมันโดยไม่เต็มใจ ต้องทำตัวเหมือนรักคนที่เกลียดจนจับใจ และปรนนิบัติรับใช้มันทุกเมื่อเชื่อวันรู้ไหม... มันแค้นเหลือเกิน แค้นจนอยากจักฆ่าให้สิ้นเสียเดี๋ยวนั้นพระยาสิงขร... มิว่าจักในอดีตหรือปัจจุบัน เอ็งมันก็ระยำยิ่งนักตัดภาพมาที่อีกฝั่ง นางสาวบีแหงนหน้ามองเรือนไทยขนาดใหญ่โตที่ดูหรูหรา หากแต่กลับสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่างวนเวียนอยู่รอบๆ ราวกับคลื่นขมุกขมัวส่งกลิ่นเน่าเฟะลอยมาตามลม เรือนไทยหลังนี้ไม่ธรรมดาเอาเสียเลยเมื่อเข้ามาภายในหอกลางที่ถูกตบแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่น่าจะราคาแพงพอสมควร ก็ปรากฎร่างสะโอดสะองของหญิงวัยกลางคนดูงดงามและเยือกเย็นนั่งนั่งรวบมือรออยู่ที่ตั่งไม้สักใหญ่ กรอบภาพที่ทำจากทองด้านหลังคือภาพองค์ครุฑที่ดูขลังขับให้ท่านผู้หญิงดูน่าหวั่นเกรงไปอีกระดับ นางสาวบีคุกเข่าลงตรงหน้าหล่อน พร้อมกับหมอบกราบแนบปลายเท้างามเป็นพิธีทักทายอย่างที่เตี๊ยมกันมากับขุนแสนคำพอเงยหน้าขึ้นมา ก็พบกับเด็กหนุ่มหน
“ถ้าฉันจักขอบุตรสาวของคุณหลวงไปอยู่เหย้าอยู่เรือนปรนนิบัติรับใช้ทองพินจักได้หรือไม่?”รุ่งเช้าในวันต่อมา พระยาสิงขรกลับมาที่เรือนใหญ่ของหลวงศรีจันทร์อีกครั้ง เขาเข้ามาด้วยจุดประสงค์ที่จะสู่ขอบุตรสาวของท่านมาอยู่ในความดูแลของเรือนใหญ่ในนามท่านผู้หญิงทองพิน ซึ่งเมื่อหลวงศรีจันทร์ผู้มากโลภะได้ยินชื่อของภรรยาหลวงท่านพระยา ถึงกับมองหน้ากับเมียตัวเองอย่างใช้ความคิด ดูอีกฝั่งจะติดใจบัวงามจนวันรุ่งต้องมาร้องขอตัวไปครองถึงบ้านเลยสิหนาอย่างนี้มันต้องเรียกให้สูงๆ หน่อย ก็ลูกสาวของเราดันสวยขนาดนี้“กระผมมิขัดข้องดอก แต่... ถ้ายังมิได้จับจองเป็นพิธีละก็...”“ฉันรู้ดี จึงเตรียมสิ่งนี้มาเพื่อซื้อตัวหล่อน” ชายร่างใหญ่ว่าพลางพยักเพยิดให้บ่าวรับใช้วางห่อผ้าท่าทางมีน้ำหนักลงตรงหน้า ยามเมื่อหลวงศรีจันทร์เปิดห่อออก ก็พบกับเครื่องทองสว่างเจิดจ้าที่ล้วนประติมากรรมอย่างประณีตด้วยของล้ำค่าดั่งเช่นทองคำ ทั้งเครื่องทองเครื่องประดับที่ฉลุลวดสายอย่างวิจิตร จนหลวงวัยกลางคนถึงกับดวงตาลุกวาว “การหมั้นหมายจักจัดที่เรือนใหญ่ของฉัน อย่าได้ห่วงไป แม่บัวงามจักได้อยู่ใกล้ชิดฉัน แลฉันจักให้ความสำคัญกับหล่อนไม่เป็นรองใครเป
พระยาสิงขรกลับมาถึงเรือนใหญ่ช่วงหัวค่ำพร้อมคณะบริวารที่ตามไปสู่ขอบุตรีหลวงศรีจันทร์ถึงเรือนทิศเหนือ เมื่อขึ้นกระไดเรือนขึ้นมา ก็พบกับ ‘ท่านผู้หญิงทองพิน’ ภริยาเอกของพระยาสิงขรที่ทำหน้าที่เป็นแม่เจ้าเรือน คอยดูแลปกครองบ้านเรือนโดยรวม ดูเหมือนว่า ‘แม่เอื้องน้อย’ อนุภรรยานั้นจะปิดเรือนหลับนอนไปแล้วพระยาสิงขรนั้นมีเมียสองคน ไม่นับรวมเมียบ่าวและหญิงนครโสเภณี เนื่องจากของปลุกกำหนัดทำให้ภรรยาทั้งสองไม่สามารถรองรับความต้องการของท่านได้เต็มที่ จึงได้มีการพูดคุยว่าจะมีบ้านเล็กบ้านน้อยแต่ไม่ผูกมัดให้ต้องรำคาญใจอย่างไรท่านผู้หญิงทองพินก็เป็นภริยาหลวงของท่าน ทุกครั้งที่ท่านกลับมาช้า หล่อนจะมายืนรอพร้อมบ่าวหญิงถือตะเกียงรอผัวกลับเรือนเสมอท่าทางที่ดูเหนือกว่าผู้เป็นผัวในบางคราทั้งที่ผัวมีศักดิ์เป็นถึงพระยานาหมื่น ทำให้ขุนแสนคำกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ด้วยหวังว่าหล่อนจะไม่ล่วงรู้ว่าภายในกายเนื้อของท่านพระยาเป็นผีร้ายที่มาอ้อนวอนขอร้องท่านเพื่อสิงสู่“ฉันให้บ่าวจัดเตรียมที่นอนหมอนมุ้งให้ท่านแล้วเจ้าค่ะ” แต่เมื่อทุกย่างก้าวที่ประหวั่นวิตกมาถึงตัว หญิงสาวที่ถึงแม้จะดูมีอายุแต่ก็ยังคงความงดงามเอาไว้ จนพอค
ตัดมาที่ฝั่งนางสาวบี บัดนี้หล่อนนอนอยู่ใต้ร่างของคนที่ขึ้นชื่อว่าจะเป็นผัวใหม่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ถึงร่างกายจะใช่แต่จิตวิญญาณนั้นไม่ แรงปรารถนาแข็งขืนอยู่ที่ฝ่ามือเล็ก หลังจากที่ถูกอุ้มมาที่เรือนใหญ่ ด้วยเพราะเป็นพระยาสิงขรบ่าวทั้งหลายที่คอยเฝ้ายามหน้าเรือนจึงทำทีเหมือนมองไม่เห็นการกระทำบัดสีกลางวันแสกๆ นี้มันคงจะเป็นเรื่องปกติของคนใหญ่คนโตที่ชนผู้น้อยจะทำเหมือนมองไม่เห็นการกระทำที่ไม่สมควร จนกระทั่งเขาวางหล่อนลงบนฟูกนอนและเชื้อเชิญกัน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ไอ้ส่วนที่แข็งปั๋งที่เธอจับอยู่ มันไม่ธรรมดาแล้ว“พี่จ้องจะทำของใส่ฉันแน่ๆ” เสียงหวานกระเส่า หล่อนไม่ได้โหยหาหากแต่ร่างกายมันเป็นไปเอง มันเหมือนไม่ใช่ตัวของตัวเองเอาเสียเลย พอรู้ว่าคนตรงหน้ากำลังกำหนัด ร่างกายก็รุ่มร้อนราวกับจับพิษ “ใช่ไหม แฮ่ก พี่จะทำของใส่ฉันใช่ไหม”“ถึงแม้ท่านพระยาจักมีอาคมติดตัว แต่กูยังมิถูกเจ้าของร่างอนุญาตให้กระทำการใด อย่างน้อยถ้าจักสอดของสกปรกเข้าตัว ในนิมิตถึงจักดี” แม้ต่อหน้าหญิงสาวจะพ่นคำพูดคำจาโหดร้ายออกมา แต่สีหน้านั้นพร้อมรบเต็มที่ ร่างกายกำยำหยัดกายแกร่ง ปล่อยให้สาวเจ้าปลดอาภรณ์ลงอย่างไม่ชำนา
ขุนเสือนึกคิดกับตนเองท่ามกลางท่าทีที่ดูปั่นป่วนเล็กน้อยที่ออกผ่านสีหน้า มือไขว้หลังยืนจ้องมองบานหน้าต่างนานแสนนาน ในขณะที่แม่จันทร์งามเองก็ลอบมองผ่านด้านหลังของบุตรชายนอกสมรส หล่อนรับรู้เรื่องราวที่หลวงศรีจันทร์ทำกับบุตรสาวอย่างดี แต่หล่อนไม่สามารถห้ามปรามกิเลสความอยากได้อยากมีของผัวได้ แต่เมื่อเห็นว่าบุตรชายจากเมียบ่าวทำท่าทางหวงพี่สาวอย่างออกนอกหน้าตอนที่นั่งประจันหน้ากับพระยาสิงขรที่มีบริวารใหญ่โต ก็อดไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปข่มขุนเสือเคยพยายามจะทำลายงานหมั้นหมายของพี่สาวในสมัยตบแต่งกับขุนแสนคำ เด็กคนนี้มีรังสีอันตรายบางอย่าง ที่จะปรากฎขึ้นเมื่อมีคนแย่งของรักไปหล่อนรู้ดี... บัวงามเป็นหญิงที่งามทั้งกายทั้งใจ ไม่มีใครที่จะไม่หลงรักแม้แต่บุตรชายคนละแม่ขุนเสือควรรู้สึกตัวได้แล้วว่าตนเองนั้นไม่คู่ควรกับบัวงาม ไม่ว่าจะเป็นฐานันดรแรกเกิด หรือแม้แต่สถานะพี่น้องต่างแม่ที่ตีตราชัด“เจ้าเสือ... เธอรู้ดีว่าเธอมิมีวันเทียบพี่ได้ อย่าหลงคิดว่าตนเองมีสิทธิ์กระไรในตัวของบัวงาม ฉันรู้ว่าเธอรักบัวงามมาก... แต่คนเป็นพ่อล้วนคัดสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้บุตรสาวคนโต” หล่อนขยับไปข้างบุตรชายนอกสายเลือดตน เหล