สิบชั้น เขาจะปีนขึ้นไปเหรอ?ไม่สนใจการกระทำที่อธิบายไม่ได้ของฮั่วเยี่ยนฉือ เฉียวสือเนี่ยนขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนเมื่อออกจากลิฟต์ ป้าหวังก็กำลังอุ้มเสี่ยวควีนยืนอยู่หน้าประตู“คุณเฉียว ทำไมถึงอยู่คนเดียวล่ะคะ คุณชายฮั่วไม่ได้ลงไปหาคุณเหรอคะ?”จากคำพูดของป้าหวัง เฉียวสือเนี่ยนจึงรู้สาเหตุที่ฮั่วเยี่ยนฉือลง
โจวเทียนเฉิงโอดครวญอยู่ในใจ การอยู่ให้เป็นและการเป็นมนุษย์นั้นช่างยากจริง ๆ แต่การเป็นผู้ช่วยของฮั่วเยี่ยนฉือนั้นยากกว่าเสียอีก!คนอื่นเป็นผู้ช่วยแค่ทำงานตามหน้าที่ก็พอ แต่เขาไม่เพียงแต่ต้องทำงานตามหน้าที่ให้ดี ทว่ายังต้องคิดหาวิธีชื่นชมหมอนรองคอของเจ้านายด้วยว่าเหมาะกับเขาอย่างไรด้วย?ประธานฮั่วฟัง
หลังถามจบ เฉียวสือเนี่ยนก็ตอบกลับมาทันที“หลีซูเหยียนพุ่งเป้ามาที่ฉัน เธอแอบทำเรื่องนี้ เพราะคิดจะสร้างเกมประเภทเดียวกับ wor เพื่อแย่งตลาดแน่ ๆ เลย!”ฮั่วเยี่ยนฉือพูด “ฉันให้ลู่เฉินหนานตรวจสอบสถานการณ์อย่างละเอียดแล้ว แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงมาก”คิ้วงามของเฉียวสือเนี่ยนขมวดแน่นกว่าเดิม “ฉันคิดว่าไม่
คุณผู้หญิงเหอได้ยินแบบนั้นก็รีบปฏิเสธบอกว่าหลังตัวเองกลับบ้านและไตร่ตรองเรื่องนี้แล้ว ก็รู้สึกว่าควรขอโทษเฉียวสือเนี่ยนอย่างเป็นทางการนี่เป็นยิ่งกว่าการขอโทษอย่างเป็นทางการ นี่คือการอ้อนวอนที่ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีคนขับรถบังเอิญขับรถมาพอดี เมื่อเขาเห็นสถานการณ์ทางด้านนี้ ก็รีบลงจากรถมาตรวจสอบสถานการณ์
เฉียวสือเนี่ยนไม่เพียงแต่รู้สึกว่านี่เป็นปัญหาเท่านั้น แต่ยังมีความอันตรายแฝงอยู่อีกด้วย“ซ่งชิงชวน ฉันขอบคุณมากที่คุณช่วยฉัน แต่ถ้าเป็นเพียงเพราะความอึดอัดเล็กน้อยที่ฉันได้รับ ก็ไม่ควรที่จะให้ตระกูลเหอต้องชดใช้มากขนาดนี้” เฉียวสือเนี่ยนกล่าวถ้าเป็นแบบนี้ ไม่เพียงแต่เธอจะเป็นหนี้บุญคุณซ่งชิงชวน แต่
แม้ว่าฮั่วเยี่ยนฉือจะรู้สึกผิดหวัง แต่หากเทียบกับการที่เฉียวสือเนี่ยนต้องตีตัวออกห่างหรือหลบหน้าเขา เขาก็รู้สึกว่าสถานการณ์ในตอนนี้ก็ไม่แย่นักอย่างน้อยเฉียวสือเนี่ยนยังยอมที่จะไว้ใจเขาเมื่อคิดได้แบบน้้น ความรู้สึกของฮั่วเยี่ยนฉือก็กลับมาเป็นปกติเขาเริ่มคุยกับเฉียวสือเนี่ยนเกี่ยวกับเรื่องของหลีซูเ
ระหว่างทางกลับ ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้ถามอะไรเฉียวสือเนี่ยน และปล่อยให้เธอพักผ่อนอยู่เงียบ ๆ เมื่อกลับมาถึงคอนโดหมิงเยว่ ฮั่วเยี่ยนฉือมองเฉียวสือเนี่ยนที่นอนอยู่เบาะหลัง แม้ร่างกายของเธอจะมีเนื้อหนังมากกว่าแต่ก่อนนิดหน่อย แต่ก็ยังคงบอบบางอยู่บางทีอาจจะเพราะเครียดเรื่องบริษัท คิ้วงามของเธอจึงขมวดแน่นเล
ความออดอ้อนของหลีซูเหยียนทั้งไม่ใกล้ชิดจนเกินไปทั้งรักษาความนุ่มนวลซึ่งกำลังพอเหมาะพอดีตราบใดที่เป็นคนอ่อนโยนต่อผู้หญิง ใคร ๆ ก็ไม่สามารถปฏิเสธคำขอของหล่อนได้ดูสิ มีผู้ชายสองคนที่อยู่ในห้องผู้โดยสารวีไอพีดูเหมือนแทบจะพยักหน้าแทนฮั่วเยี่ยนฉืออยู่แล้ว“ขอโทษด้วย ไม่สะดวก”ฮั่วเยี่ยนฉือกลับเพิกเฉยต่อ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั