เมื่อเสียงกรีดร้องของหญิงสาวสิ้นสุดลง ต่อมาก็เป็นเสียงด่าทอหวีดแหลมของผู้หญิงวัยกลางคนอีกคนเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู เฉียวสือเนี่ยนกับฟู่เถียนเถียนก็มองตากัน“ฉันอยากไปดูละครสนุก” เฉียวสือเนี่ยนพูดอย่างกระตือรือร้นฟู่เถียนเถียน “ฉันเองก็อยากดู”ด้วยเหตุนี้ทั้งสองคนจึงเข้าขากันเป็นอย่างดี วิ่งไปที่ประ
สองวันมานี้ฮั่วเยี่ยนฉือยุ่งมากจริง ๆ เพราะธนาคารเพื่อการลงทุนของหลีซูเหยียนกำลังเปิดกิจการ จึงมีเรื่องหลายอย่างต้องเตรียมพร้อมถึงคุณท่านหลีจะหาผู้ช่วยที่สามารถช่วยงานได้มาให้เธอแล้ว แต่หลีซูเหยียนก็ยังยุ่งจนเท้าแทบไม่ติดพื้นดังนั้น ฮั่วหย่วนเจ๋อจึงบอกให้ฮั่วเยี่ยนฉือไปชี้แนะและนั่งรักษาการช่วยหลี
ฮั่วเยี่ยนฉือไม่รับตอบคำถามของเฉียวสือเนี่ยน หาผ้ามาให้เธอคลุมขาก่อนเป็นอย่างแรกเมืองไห่เฉิงเริ่มเข้าสู่ปลายฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แม้ว่าสภาพอากาศในเมืองแห่งนี้จะดีและในห้องก็อุ่น แต่พอเปิดหน้าต่าง ฮั่วเยี่ยนฉือก็กลัวว่าเฉียวสือเนี่ยนจะหนาว“หมอบอกว่า ผู้หญิงต้องทำตัวให้อุ่นอยู่ตลอดเวลา” ฮั่วเยี่ยนฉือให้
เมื่อได้ยินข่าวนี้ คิ้วเรียวสวยของเฉียวสือเนี่ยนก็ขมวดมุ่นเมื่อวานฮั่วเยี่ยนฉือเพิ่งบอกเธอว่าหลีซูเหยียนสนใจวงการเกม บอกให้เธอระวังอยู่เลยวันนี้หลีซูเหยียนมาที่นี่เสียแล้ว“เธอมาทำอะไรที่นี่?” เฉียวสือเนี่ยนถามซ่งม่านส่ายหน้า “ไม่แน่ใจ หล่อนมากับผู้ช่วย ฉันเห็นหล่อนเมื่อกี้ ก็เลยมาบอกเธอก่อน”“เร
แม้ว่าซ่งม่านกับซ่งชิงชวนจะเป็นพี่น้องกัน แต่การไปทำอะไรกับคอมพิวเตอร์เขาในห้องทำงานก็ไม่เหมาะสมอยู่ดีซ่งม่านได้ยินแบบนั้น ใบหน้าได้รูปก็เผยรอยยิ้มซุกซนออกมา “ฉันอยากทดสอบอะไรหน่อย”เฉียวสือเนี่ยนไม่เข้าใจ “ทดสอบอะไร?”“พี่ชายฉันมักจะรอบคอบทุกเรื่อง ปกติจะตั้งรหัสผ่านเข้าคอมกับโทรศัพท์ไว้ตลอด แค่จะ
ซ่งม่านพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน แน่นอนว่าเฉียวสือเนี่ยนเข้าใจสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อโดยอัตโนมัติ ซ่งม่านคงจะคิดว่าซ่งชิงชวนแอบช่วยเธอสืบข้อมูลเพราะเขารู้สึกดีต่อเธอ แต่เฉียวสือเนี่ยนกลับคิดว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้นเธอกับซ่งชิงชวนไม่ได้พูดคุยกันมากขนาดนั้น หากจะบอกว่าซ่งชิงชวนรู้สึกดีต่อเธอ มันคงจะฟังดู
เมื่อได้ยินคำถามของฮั่วเยี่ยนฉือ เฉียวสือเนี่ยนก็พยักหน้า “ไปสิ แล้วก็บังเอิญเจอกับพวกเราพอดี”เฉียวสือเนี่ยนสงสัยเป็นอย่างมากว่าหลีซูเหยียนรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนและจงใจไปที่นั่นด้วยฮั่วเยี่ยนฉือบอกว่า หลีซูเหยียนได้ยื่นข้อเสนอให้บริษัทเกม wor แต่ถูกผู้รับผิดชอบปฏิเสธไปแล้วหลีซูเหยียนช่างกล้าจริง ๆ ท
เมื่อเห็นว่าเฉียวสือเนี่ยนมีแผนในใจแล้ว ฮั่วเยี่ยนฉือก็ไม่ได้เสนอความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติม เพียงแต่เตือนเฉียวสือเนี่ยนให้ระวังตัวเมื่อพูดคุยกันเสร็จ เฉียวสือเนี่ยนก็มองดูเวลา “ดึกแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ”แม้ว่าฮั่วเยี่ยนฉือยังไม่อยากกลับ แต่ก็ไม่ได้หาข้ออ้างเพื่ออยู่ต่อ เขาลุกขึ้นจากโซฟาทันใดนั้น
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั