ฮั่วเยี่ยนฉือสีหน้าราบเรียบ เขาไม่ได้พูดตอบแต่กลับเอ่ยว่า “คุณลุงหลี ป๋อโจวเป็นแค่หนึ่งในบริษัทเพื่อการลงทุนที่อยู่ภายใต้ฮั่ว กรุ๊ปเท่านั้น มีหน้าที่และความรับผิดชอบที่ค่อนข้างเรียบง่าย คุณหลีอยู่ที่นั่นก็เรียนรู้อะไรได้ไม่มากหรอกครับ หากลุงหลีอยากจะฝึกฝนคุณหลี ผมว่าให้เธอไปบริษัทที่เติบโตกว่าน่าจะเ
หลีพัวถิงเช็ดน้ำตาให้หลีซูเหยียนด้วยท่าทางปวดใจ ก่อนจะพยักหน้าพร้อมพูดอย่างรับประกันว่า “แน่นอน”เมื่อหลีซูเหยียนได้ยิน ก็โผเข้าสู่อ้อมกอดของหลีพัวถิงทันที ก่อนที่จะเริ่มร้องไห้ด้วยความน้อยใจปนซาบซึ้ง “คุณพ่อ หนูรู้ว่าคุณพ่อกำลังโกหกหนูอยู่ หนูไม่ได้มีความสามารถอะไรเลย หนูไม่เก่งเลยสักนิดเดียว”“หนู
เฉียวสือเนี่ยนกล่าว “ฉันนึกถึงเมื่อก่อน ขอเพียงเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นกับป๋ายอีอี คุณก็ตำหนิติเตียนฉันอย่างไม่สนความถูกต้อง โดยไม่ให้โอกาสฉันได้อธิบายเลยสักนิดเดียว และต่อให้ฉันอธิบายไปแล้ว คุณก็ไม่เชื่ออยู่ดี แถมยังหาว่าฉันเป็นคนชั่วร้าย และยังบอกว่าฉันเกินที่จะเยียวยาแล้วด้วย”สีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉื
ฟู่เถียนเถียนรู้สึกไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก “ต่อให้ชอบฮั่วเยี่ยนฉือ แต่การเพ่งเล็งเธอแบบนี้มันก็ไม่มีความหมายอะไรเลยนี่นา คิดว่าทำแบบนี้แล้วฮั่วเยี่ยนฉือจะชอบหล่อนหรือไง?”เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของหลีซูเหยียนเหมือนกัน“บางทีอาจเป็นเพราะไม่ชอบหน้าฉันเท่านั้น จึงอยากจะระบายออกมามั้ง?”เฉียว
เฉียวสือเนี่ยนเอ่ยปลอบใจ “เรื่องแบบนี้เราควบคุมไม่ได้หรอก ต่อให้ไม่มีตระกูลหลีก็ยังมีตระกูลอื่น เราแค่ทำในส่วนของเราให้ดีก็พอ”ซ่งม่านพยักหน้าเบา ๆ “ที่เธอพูดมามันก็ถูกอยู่หรอก เพียงแต่หลีซูเหยียนมีธุรกิจใหญ่โตที่เมืองกั่งเฉิงแต่ไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อ หล่อนกลับมาเปิดบริษัทที่เมืองไห่เฉิงเสียอย่างนั้
เมื่อได้ยินคำพูดของซ่งชิงชวน เฉียวสือเนี่ยนก็อึ้งไปเล็กน้อยจากนั้นเธอพลันเอ่ยด้วยความเปิดเผยว่า “จะเรียกว่ากลัวก็ไม่ถูกหรอกค่ะ แต่ฉันไม่ค่อยชินกับการเดินเล่นกับคนที่ไม่ค่อยสนิท”ซ่งชิงชวนได้ฟังก็ส่งเสียงหัวเราะเล็กน้อย “สือเนี่ยน เราก็รู้จักกันมานานพอสมควรแล้วนะครับ ในใจของคุณยังมองว่าผมเป็นคนที่ไม
“ไม่มีใครรู้ค่ะ” เสียงของฮั่วอวี่ซานเบาลงกว่าเดิม “พ่อกับแม่ทะเลาะกัน หนูรู้สึกกลัวมาก ก็เลยอยากมาหาพี่ชายกับพี่ แต่พวกพี่กลับไม่มีใครอยู่บ้านเลย…”ออกมาโดยไม่บอกใครเลยแบบนี้ มันชักจะอันตรายเกินไปแล้วเฉียวสือเนี่ยนทำใจกล่าวตำหนิฮั่วอวี่ซานไม่ลงมองเวลาแล้วจึงรู้ว่าตอนนี้ใกล้จะสามทุ่มแล้ว เดาว่าคุณน
อาจเป็นเพราะกำลังนึกถึงเหตุการณ์ตอนทะเลาะกัน ใบหน้าอันอ่อนโยนเสมอมาของฟางเชี่ยนหรูจึงดูเฉยชาขึ้นเล็กน้อย“อวี่ซานออกไปเล่นข้างนอกเองตั้งแต่พวกเราเริ่มกินข้าวกันแล้ว คงเป็นเพราะเสียงที่คุณท่านฮั่วคว่ำโต๊ะมันดังเกินไป พอเธอมาเห็นเข้าก็เลยตกใจ”สายตาของฟางเชี่ยนหรูมองไปที่ดวงหน้าของฮั่วอวี่ซานอีกครั้ง
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั