ฟางเชี่ยนหรูรู้ว่าลูกสาวคงจะตกใจมาก เธอจึงพูดปลอบประโลมต่อ โดยบอกว่าจะซื้อของขวัญให้เยอะ ๆ แล้วก็จะไม่ทะเลาะกับพ่ออีกแล้วด้วยแต่ไม่ว่าฟางเชี่ยนหรูจะพูดโน้มน้าวอย่างไร ฮั่วอวี่ซานก็ไม่ยอมกลับบ้านด้วยสักทีเธอถึงขั้นกอดแขนของเฉียวสือเนี่ยนไว้แน่น พร้อมกับร้องไห้และพูดขอร้องว่า “พี่ ฉันไม่อยากกลับไป ฉ
ฮั่วอวี่ซานบอกเฉียวสือเนี่ยนว่า “เป็นพี่ชาย”ฮั่วเยี่ยนฉือคงจะรู้ข่าวจากคุณนายฮั่วว่าฮั่วอวี่ซานอยู่ที่นี่กับเธอ ดังนั้นจึงโทรมาถามสถานการณ์เฉียวสือเนี่ยนไม่สนใจเขา ก่อนจะพูดกับฮั่วอวี่ซาน “ล้างมือก่อนนะ ค่อยไปกินบะหมี่”“ค่ะ” ฮั่วอวี่ซานไปล้างมืออย่างว่าง่ายขณะที่เฉียวสือเนี่ยนหยิบน้ำขึ้นมากำลังจ
เฉียวสือเนี่ยนและฮั่วเยี่ยนฉือมองไปที่ประตูพร้อมกันฮั่วอวี่ซานมีท่าทีตึงเครียดถึงอย่างไรก็เพิ่งผ่านพ้นการทะเลาะเบาะแว้งของพ่อกับแม่มา อารมณ์ของเธอจึงยังไม่มั่นคงนักเฉียวสือเนี่ยนออกแรงดิ้นรน ฮั่วเยี่ยนฉือก็ค่อย ๆ ปล่อยเธอเฉียวสือเนี่ยนเดินไปข้าง ๆ ฮั่วอวี่ซาน ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา “อวี่ซาน พวกเราไ
“หยุดนะ!”ขณะที่เสี่ยวซื่อส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าเวทนา เฉียวสือเนี่ยนก็ปัดซองขนมแมวเลียออกจากมือของหลีซูเหยียน “เธอบ้าไปแล้วเหรอ นี่มันคือการทารุณกรรมนะ!”เสี่ยวซื่อในตอนนี้มีรอยแดงปรากฏขึ้นที่มุมปาก มันร้องโหยหวนออกมาอย่างเจ็บปวด ขณะที่ขาทั้งสี่ปัดป่ายไปมาไม่หยุด พยายามจะหนีสุดชีวิตหลีซูเหยียนกอ
ในหลักฐานที่ทนายแสดงออกมาประกอบไปด้วยเรื่องที่หลีซูเหยียนฉีดยาให้เสี่ยวซื่อ ให้กินยา รวมถึงอาบน้ำและการเสริมความงาม จากข้อมูลแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า หลีซูเหยียนไม่แรงจูงใจหรือข้อสงสัยในการทารุณกรรมแมวตรงกันข้าม หลีซูเหยียนยังทะนุถนอมแมวเป็นอย่างมาก และมีคุณสมบัติที่เหมาะสมของการเป็น ‘ทาสแมว’ทว่า
เฉียวสือเนี่ยนรู้ว่า ในเรื่องนี้เธอกับฮั่วเยี่ยนฉือไม่อาจโน้มน้าวอีกฝ่ายได้เพิ่งผ่านพ้นการเผชิญหน้ากับหลีซูเหยียนมา เฉียวสือเนี่ยนจึงไม่มีแรงจะมาเถียงกับฮั่วเยี่ยนฉือยิ่งไปกว่านั้นเขาก็พาทนายมาเพื่อช่วยตนจริง ๆเฉียวสือเนี่ยนเปลี่ยนเรื่องคุย “เรื่องที่คุณตรวจสอบคนใช้ของตระกูลหลี ทำไมถึงไม่บอกฉันก่
เดิมเฉียวสือเนี่ยนอยากจะแกล้งเฉียวเล่อเยียนผลลัพธ์พอเธอพูดจบ ก็ได้ยินเสียงเฉียวเล่อเยียนวิ่งจากทางไหนมาไม่รู้ เอ่ยอย่างสนิทสนมและเอาใจ “พี่ใหญ่อวี๋ พี่รีบวางลงเร็ว เดี๋ยวฉันทำเอง!”เฉียวสือเนี่ยน “…”ชาติที่แล้ว แม้เฉียวเล่อเยียนกับเธอจะไม่ได้หันเข้าหากัน แต่เฉียวเล่อเยียนก็เรียบง่ายและตรงไปตรงมาเห
หลีซูเหยียนสวมชุดเดรสตัวเล็กระดับไฮเอนด์ ในมือถือกระเป๋าใบเล็กที่น่ารักหนึ่งใบ และท่าทางก็ดูอ่อนหวานและไร้เดียงสาเหมือนอย่างเคยเมื่อนึกถึงฉากที่หลีซูเหยียนแทงเข็มไปทางเสี่ยวซื่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย เฉียวสือเนี่ยนก็ปะทุความรู้สึกโกรธอยู่ในใจขึ้นมาอีกครั้งไม่นาน หลีซูเหยียนก็เดินมาตรงหน้าพวกเขา“คุณพ่
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั