เฉียวสือเนี่ยนแวะกลับมาที่ตระกูลเฉียวสักหน่อยแม้ว่าเธอเพิ่งได้พบกับคุณตามาเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ตอนนี้เธอก็อยากจะเจอคุณตาอีกแล้ว เธอจึงมาอยู่กับเขา และคอยพูดคุยกับเขาคุณตาได้ทราบเรื่องของคุณลุงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอบอกกับคุณตาตั้งแต่วันนั้นที่ออกมาจากบ้านของคุณลุงคุณตาย่อมโมโหแน่นอน แต่เธอบอกคุ
เมื่อมาถึงยังธนาคารเพื่อการลงทุนอี้หมิง เฉียวสือเนี่ยนก็เข้าร่วมการประชุมกับทุกคนอย่างเรียบง่ายจากนั้นเฉียวสือเนี่ยนได้โทรหาลู่เฉินหนาน เพราะอยากจะทราบว่าช่วงนี้ฮั่วเยี่ยนฉือจะไปที่ไหนบ้าง“สือเนี่ยน ฉันกำลังอยากจะโทรหาเธออยู่พอดี!”เสียงของลู่เฉินหนานฟังดูค่อนข้างเป็นกังวลใจ “สองสามวันนี้ฉันติดต่อ
ลู่เฉินหนานเร็วมาก เมื่อเฉียวสือเนี่ยนลงมาชั้นล่าง เขาก็ขับรถมาแล้วหลังจากรับเฉียวสือเนี่ยนและเห็นเธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ลู่เฉินหนานก็ถามอย่างกังวล “สือเนี่ยน ทำไม่เธอถึงขมวดคิ้วแบบนั้นล่ะ เธอเป็นห่วงพี่ฉือเหรอ?”รู้ว่าลู่เฉินหนานจงใจหยอกล้อ เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่มีอารมณ์จะสนใจ จึงเล่าเนื้อหาในโทรศัพท์ที
จำต้องบอกว่าลู่เฉินหนานให้ความสนใจไปในส่วนที่ต่างจากคนทั่วไปจริง ๆแม้จะบอกว่าความเป็นห่วงของเฉียวสือเนี่ยนไม่เหมือนที่ลู่เฉินหนานเข้าใจ แต่เธอก็ไม่อาจโต้แย้งออกไปได้เธอมาอยู่ที่นี่แล้ว หากฝืนพูดว่าตัวเองไม่เป็นห่วงฮั่วเยี่ยนฉือแม้แต่นิดเดียว ลู่เฉินหนานคงไม่เชื่อแน่นอน“ฉันกลัวว่าฮั่วเยี่ยนฉือจะเข
ได้ยินคำถามของลู่เฉินหนาน เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาบ้างเหมือนกันถ้ามีแค่เรื่องรายงานความเคลื่อนไหวอย่างเดียว เลขาห่าวคงไม่กลัวถึงขนาดนี้ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่เธอเกี่ยวข้องอาจจะร้ายแรงอยู่บ้างเป็นไปดังคาด เมื่อเลขาห่าวเห็นท่าทางเย็นชาที่หาได้ยากของลู่เฉินหนาน ก็กลัวยิ่งกว่าเดิมเธอพูดเส
เห็นเบอร์ของฮั่วเยี่ยนฉือ เฉียวสือเนี่ยนก็ลังเลเล็กน้อยครั้งก่อนพวกเขาแยกกันอย่างไม่น่ายินดีนัก และตอนนี้เพื่อเรื่องของคุณลุง ฮั่วเยี่ยนฉือจึงเป็นฝ่ายถูกกระทำขนาดนี้วันนั้นเขายังได้รับบาดเจ็บเพราะเธอด้วยแต่เธอมาหาเขาเพียงเพราะจะทำเรื่องที่นายท่านฮั่วมอบหมายมาให้สำเร็จลุล่วงหลังจากนี้เธอต้องเผชิญ
เฉียวกั๋วเซิ่งเดินมาข้างหน้าเพื่อทักทายฮั่วเยี่ยนฉือ ถานซูหงก็มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า เฉียวเล่อเยียนไม่ได้เรียกคน และทำเพียงแค่ยิ้มบางอย่างสุภาพหลังจากฮั่วเยี่ยนฉือทักทายพวกเขา สายตาก็เบนมาทางเฉียวสือเนี่ยนโดยไม่ได้ตั้งใจเฉียวสือเนี่ยนสบสายตากับฮั่วเยี่ยนฉือ และพบความซับซ้อนในก้นบึ้งดวงตาของเข
ก่อนหน้านี้เฉียวสือเนี่ยนอยู่ในสภาพตึงเครียดที่สูงมาโดยตลอด จนไม่มีกระจิตกระใจจะสนใจความผิดปกติของตัวเองเลยตอนนี้เธอรู้สึกวิงเวียนศีรษะ ปากลิ้นแห้งไปหมด เฉียวสือเนี่ยนทนไม่ไหว จึงเดินเซและหยิบน้ำเย็นออกมาจากตู้เย็น จากนั้นตัวเธอก็ล้มฟุบลงไปบนเตียงอย่างมึน ๆ นอนเถอะ นอนหลับแล้วก็จะได้ไม่ต้องสนใจและ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั