เฉียวสือเนี่ยนใคร่ครวญอยู่สักพัก แล้วจึงปฏิเสธออกมา “ขอบคุณ แต่ไม่ดีกว่า ฉันมีเรื่องมากมายให้ทำทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลหรอก”ฮั่วเยี่ยนฉือพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ให้ป้าหวังอยู่ที่นี่กับเธอต่อ ป้าเขาดูแลได้”เฉียวสือเนี่ยนส่ายหน้า “ถึงจะชอบแต่ก็ไม่ได้จำเป็นต้องครอบครอง ฉันแค่ดูด้วยตาก็พอ”ได้ยินแบ
เฉียวสือเนี่ยนคิดว่านี่เป็นโอกาสอันดีหลังผ่านการพิจารณาและคัดเลือกมาแล้วหนึ่งรอบ ในที่สุดเธอก็จำชื่อสตูดิโอและที่อยู่ของอีกฝ่ายได้เฉียวสือเนี่ยนและซ่งม่านเดินทางไปตามที่อยู่นั้น พวกเธอพบว่าสตูดิโอของอีกฝ่ายมีขนาดแค่ไม่กี่สิบตารางเมตร จำนวนคนที่รวมทั้งผู้สร้างกับผู้ออกแบบแล้วมีเพียงสามสี่คนเท่านั้น
ไม่รั้งรอให้หลีพัวถิงพูดจา ชายสูงวัยคนนั้นก็กล่าวชมออกมาเสียงดังลั่น “โดยเฉพาะคิ้วกับตา แทบจะโขกกันออกมาเลยเชียว!”เฉียวสือเนี่ยนมองคิ้วคมและดวงตาเป็นประกายสดใสของนายท่านหลี แม้ว่าจะเลยวัยกลางคนไปแล้ว แต่กลับดูไม่แก่ชราเลยสักนิดเดียว ช่วงคิ้วและดวงตามีแต่ความองอาจ พอเดาออกได้เลยว่าตอนหนุ่ม ๆ จะต้องเ
“ประธานฮั่วกับคุณโม่เป็นห่วงคุณมากนะคะ กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรกับคุณ พวกเขาถึงได้รีบไปแบบนั้น” หลีซูเหยียนพูดจาหยอกเย้าเฉียวสือเนี่ยนหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และไม่ได้คุยเรื่องนี้กับหลีซูเหยียนอีก แต่แสดงความขอบคุณที่หล่อนพานายท่านหลีไปร่วมงานเพราะการมาถึงงานของนายท่านฮั่ว คนมากมายเลยไ
เฉียวสือเนี่ยนประหลาดใจเหลือเกิน ชายวัยกลางคนคนนั้นดูท่าทางแข็งแรงดี แถมกอล์ฟก็ไม่ได้นับเป็นกีฬาที่ต้องใช้แรงอะไรมากมายด้วยซ้ำ แล้วเขาได้รับบาดเจ็บได้อย่างไรกัน?ถามความกับคนอื่นสักพัก เฉียวสือเนี่ยนถึงได้รู้ว่า ที่แท้รถชมวิวที่ชายวัยกลางคนคนนั้นนั่งอยู่มีปัญหา ขณะที่กำลังขับเคลื่อนอยู่นั้น จู่ ๆ ก
ได้ยินแบบนั้นแล้ว ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้ตอบออกไปทันที แต่กลับมองไปทางเฉียวสือเนี่ยนเฉียวสือเนี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณมีงานประชุมสำคัญอยู่ไม่ใช่เหรอ รีบไปเถอะ”ฮั่วเยี่ยนฉือไม่แปลกใจกับคำตอบของเฉียวสือเนี่ยนนัก เขาเอ่ยขอโทษกับชายคนนั้น “ขอโทษนะครับ คงต้องเอาไว้วันอื่นแล้ว”ชายคนนั้นรีบส่งเสียงห
ฟู่เถียนเถียนชี้แจง “บริษัทลูกที่เมืองข้าง ๆ มีปัญหาน่ะ เขาเลยรีบไปจัดการ”“ลู่เฉินหนานนี่ไม่เลวเลย นับวันยิ่งบริหารกิจการได้เข้ามือ” เฉียวสือเนี่ยนเอ่ยชมฟู่เถียนเถียนพาลนึกถึงสิ่งที่ลู่เฉินหนานพูดไว้กับเธอ ว่าเขาอยากเป็นผู้ชายที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เพื่อมอบความมั่นคงให้เธอได้มากพอ ในใจข
ฟู่เถียนเถียนมองเวินจิ๋งหลี่ “มีอะไรเหรอคะ?”เมื่อเห็นดวงหน้ารูปไข่แสนสดใสกับดวงตาชุ่มฉ่ำที่ไร้แววคลื่นอารมณ์ใด ๆ ของฟู่เถียนเถียนแล้ว เวินจิ๋งหลี่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี เขารับรู้ได้ถึงเพียงแต่ความลนลานในใจตนเองเท่านั้น จึงอยากรั้งฟู่เถียนเถียนเอาไว้ตามสัญชาตญาณฟู่เถียนเถียนคาดเดาความคิดของ