ฟู่เถียนเถียนเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพบว่าเป็นลู่เฉินหนานที่กำลังเดินมาหาเธอเขากุมมือเธอเอาไว้ “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”ฟู่เถียนเถียนส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”คุณท่านเวินและคุณนายเวินต่างหันมามองลู่เฉินหนานคุณนายเวินรู้จักเขา และดูออกตั้งนานแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและฟู่เถียนเถียนไม่ธรรมดา ตอนนี้เมื่อเห็นว
“ถึงแม้ว่านายจะทนได้ แต่ฉันไม่อยากเห็นนายต้องอับอาย” ฟู่เถียนเถียนพูดต่อ “ฉันไม่อยากให้นายเกลียดฉันมากขึ้น เพราะต้องทนกับความอับอายครั้งแล้วครั้งเล่า”“ดังนั้น ถ้าสุดท้ายเราจะต้องจบลงด้วยการเป็นคู่รักที่มีแต่ความแค้น สู้จบตอนนี้ดีกว่า”เมื่อได้ยินฟู่เถียนเถียนพูดดังนั้น ลู่เฉินหนานก็ทั้งขำทั้งฉิว “ก
เฉียวสือเนี่ยนลูบเสี่ยวซื่อพร้อมกับถามขึ้น “คุณหลีมีอะไรจะบอกฉันหรือคะ?”หลีซูเหยียนพูดอย่างไม่สบายใจนัก “คุณลุงฮั่วจริงจังเรื่องการแต่งงานของฉันกับประธานฮั่วมาก ได้ยินมาว่าช่วงนี้เขาได้กดดันประธานฮั่วเป็นอย่างมาก ถึงขั้นติดต่อกับบอร์ดบริหารบางคนเพื่อพยายามปลดเขาจากตำแหน่งประธานบริษัทอีกด้วย”เฉียวส
เมื่อได้ยินคำพูดของโม่ซิวหย่วน ในใจเฉียวสือเนี่ยนพลันรู้สึกขมขื่นขึ้นมาเล็กน้อยโม่ซิวหย่วนเคยบอกว่าคนตระกูลโม่ล้วนค่อนข้างยึดติดกับความคิดของตัวเอง เฉียวสือเนี่ยนจึงไม่รู้ว่าคุณท่านโม่จะยอมลดทิฐิหรือไม่แต่ครั้งนั้นที่โม่ซิวหลินนัดพบเธอ เขาก็มีท่าทีที่เด็ดเดี่ยวมาก เขาดูไม่มีทีท่าว่าจะอยากกอบกู้สถา
“ไม่…”“ได้!” ซ่งม่านพูดตัดบทเฉียวสือเนี่ยนที่กำลังจะกล่าวปฏิเสธ “ไม่เป็นไร ไม่ต้องประหยัดแทนพี่ชายฉันหรอก ปกติเขาเข้มงวดกับฉันมาก เอะอะก็เข้ามาควบคุมการใช้จ่ายเงินของฉัน! เป็นโอกาสหายากที่เขาจะใจกว้างแบบนี้ เราคิดซะว่าที่นี่เป็นโรงอาหารก็แล้วกัน!”“ไม่ได้การละ ฉันจะต้องตามให้ผู้ดูแลร้านนี้มารับเรื่
ตั้งแต่ครั้งก่อนที่เฉียวสือเนี่ยนได้ยินฮั่วเยี่ยนฉือกับคุณท่านฮั่วทะเลาะกันจากด้านนอกห้องหนังสือ จากนั้นเธอก็ไม่เจอเขาที่บ้านใหญ่อีกเลยเธอไม่คิดว่าวันนี้คุณท่านฮั่วจะมาเมื่อคุณนายฮั่วเห็นเขา สีหน้าที่เดิมทียังคงยิ้มแย้มพลันเจือด้วยความเย็นชาหลายส่วนและฮั่วอวี่ซานก็น่าจะเป็นเพราะว่าคุณท่านฮั่วเข้ม
ระหว่างพลิกหน้ากระดาษอยู่นั้น เฉียวสือเนี่ยนก็ไปเห็นภาพที่ตัวเธอกับโม่ซิวหย่วนกำลังหยอกล้อกันในสวนสัตว์เข้า ซึ่งมันถูกฮั่วอวี่ซานวาดเอาไว้อย่างสมจริงทีเดียว“พี่ เป็นเพราะว่าพี่ชายฉันไม่ดีกับพี่ พี่ก็เลยคิดจะไปคบหากับพี่ชายคนนี้เหรอคะ?” ฮั่วอวี่ซานถามเสียงเบาเฉียวสือเนี่ยนมองฮั่วอวี่ซาน “อวี่ซาน ทำ
เฉียวสือเนี่ยนคิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ คุณนายฮั่วจะมาพูดเรื่องนี้กับเธอ เธอจึงพูดปลอบโยนว่า “คุณป้าอย่าเสียใจไปเลยค่ะ ตอนนี้อวี่ซานได้รับการดูแลจากคุณป้าเป็นอย่างดีแล้ว”คุณนายฮั่วส่ายหน้า ภายในน้ำเสียงอันแหบพร่าเจือด้วยความรู้สึกผิดหลายส่วน “ถ้าไม่ใช่เพราะเกิดอุบัติเหตุจนต้องคลอดก่อนกำหนด อวี่ซานก็คงจะมีส
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั