เมื่อได้ยินชื่อเรียกนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็เงยหน้าขึ้นทันทีบริเวณนอกห้อง ชายหนุ่มแต่งตัวเหมือนหัวหน้ากำลังเดินนำทางฮั่วเยี่ยนฉือมาอย่างสุภาพฮั่วเยี่ยนฉืออยู่ในชุดสูทสีดำสั่งตัดโดยเฉพาะ ข้างในใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบ ๆ ดูสง่างาม หล่อเหลาเอาการอาจเป็นเพราะสังเกตเห็นสายตาของเฉียวสือเนี่ยน นัยน์ตาดำขลับข
เฉียวตงไห่ดูออกว่าเฉียวสือเนี่ยนกำลังไม่พอใจ เขาจึงเคาะหัวเธอเบา ๆ “เยี่ยนฉือนัดตาไว้ตั้งนานแล้ว วันนี้จะมาเล่นหมากรุกกับตา”เฉียวสือเนี่ยนเบ้ปาก “เขามาที่นี่บ่อยเหรอคะ?”ทีเมื่อก่อนฮั่วเยี่ยนฉือไม่เห็นจะมีเวลาว่างขนาดนี้เฉียวตงไห่ตอบ “อาทิตย์หนึ่งมาสองหน ตาบอกเขาแล้วว่าให้เขาทำงานของตัวเอง ไม่ต้อง
เมื่อเห็นโม่ซิวหย่วน เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยซ่งชิงชวนบอกว่าเขากลับไปที่เมืองเป่ยเฉิงแล้ว วันนี้อาจจะไม่กลับมาที่เมืองไห่เฉิงไม่ใช่เหรอ?ในขณะที่เธอกำลังคิด โม่ซิวหย่วนก็เดินเข้ามาใกล้เธอแล้วและเขาก็เห็นฮั่วเยี่ยนฉือที่นั่งอยู่เบาะหลังแถวเดียวกับเธอเช่นกันโม่ซิวหย่วนรู้สึกไม่ค่อยพอใจ
เวินจิ๋งหลี่ถูกผู้อำนวยการโรงพยาบาลผู้ชื่นชอบการปีนเขาลากออกมาด้วยกันเขาไม่อยากร่วมกิจกรรมนี้ แต่คำพูดของผู้อำนวยการทำให้เขาเปลี่ยนใจ“หมอเวิน คุณอย่าเอาแต่เครียดอยู่แบบนี้ทั้งวันสิ ควรออกไปข้างนอกบ้าง ไม่งั้นสาวคนไหนจะมาชอบคุณ?”เรื่องที่เวินจิ๋งหลี่ตามจีบฟู่เถียนเถียนไม่สำเร็จนั้น ถูกพูดถึงไปทั่ว
ฟู่เถียนเถียนเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพบว่าเป็นลู่เฉินหนานที่กำลังเดินมาหาเธอเขากุมมือเธอเอาไว้ “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”ฟู่เถียนเถียนส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”คุณท่านเวินและคุณนายเวินต่างหันมามองลู่เฉินหนานคุณนายเวินรู้จักเขา และดูออกตั้งนานแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและฟู่เถียนเถียนไม่ธรรมดา ตอนนี้เมื่อเห็นว
“ถึงแม้ว่านายจะทนได้ แต่ฉันไม่อยากเห็นนายต้องอับอาย” ฟู่เถียนเถียนพูดต่อ “ฉันไม่อยากให้นายเกลียดฉันมากขึ้น เพราะต้องทนกับความอับอายครั้งแล้วครั้งเล่า”“ดังนั้น ถ้าสุดท้ายเราจะต้องจบลงด้วยการเป็นคู่รักที่มีแต่ความแค้น สู้จบตอนนี้ดีกว่า”เมื่อได้ยินฟู่เถียนเถียนพูดดังนั้น ลู่เฉินหนานก็ทั้งขำทั้งฉิว “ก
เฉียวสือเนี่ยนลูบเสี่ยวซื่อพร้อมกับถามขึ้น “คุณหลีมีอะไรจะบอกฉันหรือคะ?”หลีซูเหยียนพูดอย่างไม่สบายใจนัก “คุณลุงฮั่วจริงจังเรื่องการแต่งงานของฉันกับประธานฮั่วมาก ได้ยินมาว่าช่วงนี้เขาได้กดดันประธานฮั่วเป็นอย่างมาก ถึงขั้นติดต่อกับบอร์ดบริหารบางคนเพื่อพยายามปลดเขาจากตำแหน่งประธานบริษัทอีกด้วย”เฉียวส
เมื่อได้ยินคำพูดของโม่ซิวหย่วน ในใจเฉียวสือเนี่ยนพลันรู้สึกขมขื่นขึ้นมาเล็กน้อยโม่ซิวหย่วนเคยบอกว่าคนตระกูลโม่ล้วนค่อนข้างยึดติดกับความคิดของตัวเอง เฉียวสือเนี่ยนจึงไม่รู้ว่าคุณท่านโม่จะยอมลดทิฐิหรือไม่แต่ครั้งนั้นที่โม่ซิวหลินนัดพบเธอ เขาก็มีท่าทีที่เด็ดเดี่ยวมาก เขาดูไม่มีทีท่าว่าจะอยากกอบกู้สถา
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั