เฉียวสือเนี่ยนอึ้งไปเล็กน้อยคุณท่านฮั่วอยากให้ฮั่วเยี่ยนฉือแต่งงานกับหลีซูเหยียนหรือ?แต่นี่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ปกติมากฮั่วเยี่ยนฉือเคยบอกว่าตระกูลหลีมีอำนาจใหญ่โตค้ำฟ้า แถมยังมีพื้นเพเคยทำงานราชการมาก่อน หากทั้งสองตระกูลมาดองกัน ก็นับเป็นการผนึกกำลังได้อย่างมหาศาลทีเดียว“ไม่ว่าผมจะหย่ามานานแค่ไ
คนรับใช้ได้ขึ้นมาถึงชั้นบนแล้ว พวกเขามองฮั่วเยี่ยนฉือด้วยท่าทางตื่นตระหนกเมื่อได้ยินพวกเขาเรียกขานเธอว่าคุณเฉียว คิ้วของฮั่วเยี่ยนฉือพลันขมวดเป็นปมที่แน่นขึ้นในทันทีแต่ไม่มีใครรู้ความคิดของเขา พวกเขายังคงมองเข้าไปภายในห้องหนังสือด้วยความตื่นตระหนกตกใจฮั่วเยี่ยนฉือเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถา
เธอมองข้ามสีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือไป เฉียวสือเนี่ยนเอ่ยด้วยใบหน้าราบเรียบ “การที่ตระกูลหลีเห็นด้วยกับการแต่งงาน งั้นก็หมายความว่าทางนั้นพึงพอใจต่อคุณ พ่อของคุณก็พอใจต่อหลีซูเหยียนเหมือนกัน การแต่งงานที่ทั้งสองครอบครัวสนับสนุนแบบนี้ดีมากเลยนะ”“เธอรู้สึกว่าตระกูลหลีดี หรือว่าอยากจะรีบ ๆ ไล่ฉันไปไกล ๆ ม
เฉียวสือเนี่ยนพูดอย่างอดไม่ได้ “ถ้าคุณมีเวลาว่าง จะไปกับฉันก็ได้นะ”“ว่างอยู่แล้ว!” โม่ซิวหย่วนรีบพูดอย่างรู้สึกตื่นเต้น “พอผมจัดการธุระในมือเสร็จ ผมจะรีบกลับเมืองไห่เฉิงทันที!”“…” เฉียวสือเนี่ยนหลังจากคุยกับโม่ซิวหย่วนเสร็จ เฉียวสือเนี่ยนก็โทรนัดฟู่เถียนเถียนให้ออกมากินข้าวด้วยกันแต่ฟู่เถียนเถีย
เมื่อได้ฟังคำเรียกร้องที่ยาวเป็นหางว่าวของคุณนายเวิน ฟู่เถียนเถียนก็หัวเราะออกมาด้วยความโกรธทันที“คุณผู้หญิงหวง ศาสตราจารย์เวิน พวกคุณมีความสามารถในการบล็อกคำพูดของคนอื่นแบบอัตโนมัติเหรอ? หรือว่าฉันยังพูดไปอย่างไม่ชัดเจนมากพอคะ?”ฟู่เถียนเถียนพูดใหม่อีกครั้งหนึ่ง “ฉันจะไม่กลับมาอยู่กินกับเวินจิ๋งหล
เวินจิ๋งหลี่ย่อมไม่สามารถยืนมองเฉย ๆ ได้ เขาเองจึงรีบวิ่งเข้าไปหามารดาเช่นกัน“จิ๋งหลี่ ให้ฟู่เถียนเถียนไปซะ…” คุณนายเวินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง“แม่…”“จิ๋งหลี่ นี่ลูกยังอยากให้แม่ของลูกเสียใจอีกเหรอ?” คุณท่านเวินพูดตัดบทเวินจิ๋งหลี่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเวินจิ๋งหลี่เงยหน้าขึ้นและอยากจะอธิบายต่อฟู่เถี
เมื่อเห็นท่าทางเคร่งขรึมและท่าทางอยากจะปกป้องเธอของลู่เฉินหนาน ฟู่เถียนเถียนก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นกว่าเดิมอีกเล็กน้อยหลายปีมานี้ นอกจากเฉียวสือเนี่ยนก็ไม่มีใครปกป้องเธอแบบนี้เลย“ไม่ใช่เพราะเรื่องในห้างครั้งก่อนหรอก”ฟู่เถียนเถียนบอกถึงสาเหตุที่คุณท่านเวินเรียกหาเธอ รวมถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องพั
“ขอบคุณนะ” ฟู่เถียนเถียนพูดจากใจจริงลู่เฉินหนานมองเธอ “ฉันหวังว่าในสักวันหนึ่ง เธอจะไม่ขอบคุณฉันไม่ว่าฉันจะทำเรื่องอะไรหรือพูดอะไรกับเธอ”ฟู่เถียนเถียนมองคู่ตาที่ยาวเรียวและหางตายกเฉี่ยวของลู่เฉินหนาน เธอย่อมรู้ดีว่าคำพูดนี้ของเขาหมายความว่าอย่างไรมีเพียงคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเท่านั้นจึงจะพ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั