ทันทีที่ฟู่เถียนเถียนพูดจบ ฝั่งของคุณหมอเวินก็ชะงักไป“เถียนเถียน วันนี้ฉันไม่ได้ทำโอที ไว้พอเธอกลับมาแล้ว พวกเราค่อยมาคุยกันดี ๆ อีกทีนะ”มีไม่มากนักที่คุณหมอเวินจะมีน้ำอดน้ำทนได้ขนาดนี้ เพราะเขายุ่งอยู่ตลอด เวลาพูดกับเธอเลยมักจะประหยัดคำ พูดจาชัดถ้อยชัดคำเสมอตอนนี้ เขากลับเป็นฝ่ายเสนอว่าอยากคุยกั
เฉียวสือเนี่ยนกล่าว “อาชีพของคุณหมอเวินสมควรได้รับความเคารพนับถือนะ แต่เขาไม่ได้ดีกับเธอเลย รับปากฉันนะ ว่าเธอจะไม่กลับไปเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของเขา”“รับปากจ้า รับปาก ต้องรับปากเธออยู่แล้ว!” ฟู่เถียนเถียนเอ่ย “ฉันไปทำงานก่อนนะ!”ครั้นทานข้าวเช้าแล้ว เฉียวสือเนี่ยนก็เดินทางไปถึงหย่วนเจิง กรุ๊ปทัน
การที่อยู่ ๆ เฉิงหว่านซินก็อยากเจอเธอขึ้นมานั้น ทำให้เฉียวสือเนี่ยนแปลกใจเพราะถึงอย่างไร คราวก่อนที่สถานีตำรวจ เฉิงหว่านซินก็บอกว่าเกลียดเฉียวสือเนี่ยนเข้าไส้“ซ่งม่าน คุณนั่งรถกลับไปที่บริษัทเองก่อนนะ ฉันมีธุระต้องให้ไปจัดการหน่อย” เฉียวสือเนี่ยนพูดกับซ่งม่านซ่งม่านกล่าว “เรื่องด่วนหรือเปล่า ต้อง
เฉียวสือเนี่ยนร้องเฮอะออกมาด้วยความเย็นชา “เฉิงหว่านซิน เธอไม่คิดว่ามันตลกเหรอตอนที่พูดเรื่องนี้ออกมา? ต่อให้เธอทำเรื่องพวกนั้นให้ฉัน แต่เธอคิดเหรอว่าฉันจะปล่อยเธอไปน่ะ?”ได้ยินแบบนั้นแล้ว ไม่รู้ว่าเฉิงหว่านซินเผลอไปคิดถึงอะไรเข้า ตัวเธอถึงได้สั่นงันงกแบบนั้น จากนั้นก็พูดจาอ้อนวอน “เนี่ยนเนี่ยน ฉัน
“เนี่ยนเนี่ยน ช่วยฉันเถอะนะ ฉันผิดไปแล้วจริง ๆ ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว!”พูดจบ เฉิงหว่านซินก็ตัวสั่นระริก ความหวาดกลัวในดวงตาเพิ่มขึ้นหลายส่วน “เนี่ยนเนี่ยน ฉันไม่ควรหักหลังเธอเลย แล้วก็ไม่ควรจ้างคนไปลักพาตัวเธอด้วย... เธอให้อภัยฉันได้ไหม ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ฉันสาบานว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก...”เห
เฉิงหว่านซินพูดทั้งน้ำตานองหน้า “เนี่ยนเนี่ยน ฉันถูกบังคับจริง ๆ ตอนนี้ฉันบอกเรื่องทุกอย่างกับเธอไปหมดแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรปิดบังเธอแล้ว เธอช่วยไปพูดขอร้องกับฮั่วเยี่ยนฉือให้ฉันได้ไหม?”เฉียวสือเนี่ยนเยาะเย้ยออกมา “เธอทำผิดตั้งมากมายขนาดนั้น คิดจะอาศัยแค่ปากพูดอย่างเดียวเพื่อพลิกสถานการณ์เนี่ยนะ มันม
ฮั่วเยี่ยนฉือเดินมายังด้านนอกแล้ว เขากดเลื่อนหน้าจอ เอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “โทรมาหาฉันตอนนี้ มีเรื่องอะไรล่ะ?”แม้ว่าฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้วจะไม่ได้ต่างอะไรจากยามปกติมากนัก แต่หากลองฟังให้ดี ๆ แล้วก็จะสัมผัสได้ถึงความดีใจเล็ก ๆ ที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของเขาเดี๋ยวนี้ จำนวนครั้งที่เฉียวสือเน
ครั้นฮั่วเยี่ยนฉือพูดจบโดยไม่แสดงสีหน้าอะไรแล้ว เขาก็เดินไปยังลิฟต์ที่อยู่ด้านหน้าโจวเทียนเฉิงถอนหายใจออกมาเบา ๆยังคิดอยู่เลยว่า ประธานฮั่วได้รับสายจากเฉียวสือเนี่ยนแล้วจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ดูทรงจากตอนนี้แล้วก็ไม่ได้ดีตรงไหนเลยเฮ้อ โอกาสที่เขาจะได้เงินโบนัสของเดือนนี้กลับมาหายวับไปกับตาแล้ว
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั