เฉิงหว่านซินพูดทั้งน้ำตานองหน้า “เนี่ยนเนี่ยน ฉันถูกบังคับจริง ๆ ตอนนี้ฉันบอกเรื่องทุกอย่างกับเธอไปหมดแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรปิดบังเธอแล้ว เธอช่วยไปพูดขอร้องกับฮั่วเยี่ยนฉือให้ฉันได้ไหม?”เฉียวสือเนี่ยนเยาะเย้ยออกมา “เธอทำผิดตั้งมากมายขนาดนั้น คิดจะอาศัยแค่ปากพูดอย่างเดียวเพื่อพลิกสถานการณ์เนี่ยนะ มันม
ฮั่วเยี่ยนฉือเดินมายังด้านนอกแล้ว เขากดเลื่อนหน้าจอ เอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “โทรมาหาฉันตอนนี้ มีเรื่องอะไรล่ะ?”แม้ว่าฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้วจะไม่ได้ต่างอะไรจากยามปกติมากนัก แต่หากลองฟังให้ดี ๆ แล้วก็จะสัมผัสได้ถึงความดีใจเล็ก ๆ ที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของเขาเดี๋ยวนี้ จำนวนครั้งที่เฉียวสือเน
ครั้นฮั่วเยี่ยนฉือพูดจบโดยไม่แสดงสีหน้าอะไรแล้ว เขาก็เดินไปยังลิฟต์ที่อยู่ด้านหน้าโจวเทียนเฉิงถอนหายใจออกมาเบา ๆยังคิดอยู่เลยว่า ประธานฮั่วได้รับสายจากเฉียวสือเนี่ยนแล้วจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ดูทรงจากตอนนี้แล้วก็ไม่ได้ดีตรงไหนเลยเฮ้อ โอกาสที่เขาจะได้เงินโบนัสของเดือนนี้กลับมาหายวับไปกับตาแล้ว
ลู่เฉินหนานไม่อยากให้ฮั่วเยี่ยนฉือไปด้วยกัน เพราะกลัวว่าฟู่เถียนเถียนจะโกรธแต่เหตุผลไม่ใช่เพราะเขาไม่ได้ถูกเชิญเขารู้ดีว่า ฟู่เถียนเถียนไม่ชอบหน้าพี่ฉือเพราะเรื่องของเฉียวสือเนี่ยน ถ้าเขาพาไปโดยไม่แจ้งล้วงหน้า ฟู่เถียนเถียนก็คงด่าเขาแน่ ๆถึงฟู่เถียนเถียนจะอดทนไม่ชักสีหน้าใส่พี่ฮั่วได้ แต่คนเย็นช
ลู่เฉินหนานพูดยิ้ม ๆ “ไม่หรอก เธอเหมือนพวกหล่อนที่ไหนล่ะ นอกจากเธอจะเป็นเพื่อนสนิทของพี่สะใภ้แล้ว ก็นับว่าเป็นเพื่อนฉันเหมือนกัน เพื่อเพื่อนแล้ว อย่าว่าแต่เข้าร่วมการแข่งขันเลย ต่อให้ต้องเสี่ยงอันตรายถูกมีดปักเอวทั้งสองข้างฉันก็จะไม่ปฏิเสธ”เมื่อพูดถึงสิ่งนี้ ฟู่เถียนเถียนก็พูดอย่างนึกสนุก “ถูกมีดปั
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของลู่เฉินหนาน ฟู่เถียนเถียนก็พอจะเดาอะไรได้“กิจกรรมลุ้นรางวัลในร้านวันนั้นฮั่วเยี่ยนฉือเป็นคนเตรียมการณ์ แล้วที่เฉียวสือเนี่ยนจับได้รางวัลก็เป็นฝีมือของเขาเหรอ?” ฟู่เถียนเถียนเอ่ยถามลู่เฉินหนานพยักหน้า “เถียนเถียน พี่ฉือคงอยากตามง้อพี่สะใภ้กลับมาจริง ๆ เธออย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกพี
“เฉียวสือเนี่ยน นี่เธอกำลังบอกฉันอ้อม ๆ ว่าที่ฉันสนิทกับผู้หญิงคนอื่นมากเกินไป มันทำให้เธออึดอัดใจอย่างนั้นเหรอ?”เมื่อเหลือบมองใบหน้าอย่างกับร้ายกาจของโม่ซิวหย่วน เฉียวสือเนี่ยนก็ส่งเสียงเหอะ “งั้นฉันจะบอกคุณตรง ๆ ฉันรังเกียจที่จะให้คุณไปด้วย ถ้าคุณมีเวลานักก็ไปหาความสุขเองไม่ดีกว่าเหรอ!”โม่ซิวหย่
ในห้องทำงานเมื่อกี้ซ่งม่านเพิ่งพูดถึงเธอกับโม่ซิวหย่วนมา ตอนนี้ยังมาถูกฟู่เถียนเถียนแซวอีก เฉียวสือเนี่ยนเริ่มรู้สึกเหนื่อยใจแล้วสิ “หยุดเลย ฉันกับโม่ซิวหย่วนเหมาะที่จะเป็นเพื่อนร่วมรบอย่างเดียวเท่านั้น ความสัมพันธ์อย่างอื่นลืมไปได้เลย”“เฉียวสือเนี่ยน คงไม่ใช่ว่าเธอยังลืมฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้หรอกนะ?”
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั