“เฉียวสือเนี่ยน นี่เธอกำลังบอกฉันอ้อม ๆ ว่าที่ฉันสนิทกับผู้หญิงคนอื่นมากเกินไป มันทำให้เธออึดอัดใจอย่างนั้นเหรอ?”เมื่อเหลือบมองใบหน้าอย่างกับร้ายกาจของโม่ซิวหย่วน เฉียวสือเนี่ยนก็ส่งเสียงเหอะ “งั้นฉันจะบอกคุณตรง ๆ ฉันรังเกียจที่จะให้คุณไปด้วย ถ้าคุณมีเวลานักก็ไปหาความสุขเองไม่ดีกว่าเหรอ!”โม่ซิวหย่
ในห้องทำงานเมื่อกี้ซ่งม่านเพิ่งพูดถึงเธอกับโม่ซิวหย่วนมา ตอนนี้ยังมาถูกฟู่เถียนเถียนแซวอีก เฉียวสือเนี่ยนเริ่มรู้สึกเหนื่อยใจแล้วสิ “หยุดเลย ฉันกับโม่ซิวหย่วนเหมาะที่จะเป็นเพื่อนร่วมรบอย่างเดียวเท่านั้น ความสัมพันธ์อย่างอื่นลืมไปได้เลย”“เฉียวสือเนี่ยน คงไม่ใช่ว่าเธอยังลืมฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้หรอกนะ?”
วันต่อมา เฉียวสือเนี่ยนก็ได้ยินเรื่องที่หมอเวินโทรมาเธอรู้ว่าความแน่วแน่ของฟู่เถียนเถียนเริ่มสั่นคลอน“เถียนเถียน ถ้าเธอย้ายกลับไป เธอก็จะต้องทนรับแรงดูถูกจากแม่สามี และยังต้องทนใช้ชีวิตกล้ำกลืนแบบนั้นต่อไปนะ”เฉียวสือเนี่ยนโน้มน้าว “นอกเสียจากว่าหมอเวินกับแม่สามีของเธอจะเปลี่ยนความคิดตัวเอง เห็นเธ
เฉียวสือเนี่ยนเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นฮั่วเยี่ยนฉือที่ยืนอยู่ไม่ไกล!เขายังคงสวมชุดสูทสีดำสุดเนี้ยบ ด้านในเข้าชุดคู่กับเสื้อเชิ้ตสีเข้ม ใบหน้าเย็นชา ดวงตาแข็งกร้าวดำสนิทกำลังจ้องมองเธอและโม่ซิวหย่วนนิ่ง ๆทำไมฮั่วเยี่ยนฉืออยู่ที่นี่?เมื่อวานเธอได้โทรศัพท์ไปหาเขาเพราะต้องการคุยเรื่องของเฉิงหว่านซิน เขาก็
เฉียวสือเนี่ยนได้ยินดังนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนหน้านี้เธอไปทานอาหารกับโม่ซิวหย่วนกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ฮั่วเยี่ยนฉือก็มักจะหาเหตุผลมากมายเพื่อทำให้โม่ซิวหย่วนกลับไปครั้งนี้ก็ยากที่จะรับประกันว่าเขาจะไม่ใช้วิธีการเดียวกันแต่เธอไม่ได้อยากจะไปศูนย์อนุรักษ์แพนด้ากับโม่ซิวหย่วน ถ้าเขาจะไล่ให้โม่ซิวหย่
ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้ตอบ แต่สีหน้าของเขาเรียบนิ่ง แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาจำไม่ได้หญิงสาวยิ้มอย่างไม่ถือสา “ฉันคือหลีซูเหยียน ประมาณหนึ่งปีก่อนพวกเราเคยเจอกันที่งานเลี้ยงประเทศ Y ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นคุณกำลังคุยกับคุณพ่อ และฉันเผลอเดินชนคุณอย่างไม่ระวังจนทำเหล้าหกใส่คุณค่ะ”เมื่อได้ยินดังนั้น ฮั่วเยี่ยน
เฉียวสือเนี่ยนสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของฮั่วเยี่ยนฉืออีกครั้งวันนี้ที่สนามบิน บนเครื่องบินรวมไปถึงล็อบบี้โรงแรม เมื่อเห็นว่าเธอและโม่ซิวหย่วนอยู่ด้วยกัน ฮั่วเยี่ยนฉือก็ไม่ได้มีท่าทีบังคับให้เธอไปกับเขาเหมือนแต่ก่อน เมื่อครู่เขาไม่เพียงแต่บอกว่าจะตามจีบเธออีกครั้ง แถมยังให้สัญญาแบบนี้อีกด้วยฮั
สิ่งที่โม่ซิวหย่วนถามนั้นช่างไร้สาระแน่นอนว่าเธอไม่รู้เธอเคยถามเหตุผลจากเขาหลายครั้ง แต่เขาก็ทำให้เธออยากรู้แต่สุดท้ายก็ไม่บอกทุกครั้ง ตอนนี้เขาคิดที่จะบอกเธอแล้วงั้นเหรอ?“ทำไม?” เฉียวสือเนี่ยนถามอย่างสงสัย“อยากรู้ก็มานั่งเบาะหลังกับฉัน จะได้คุยสะดวก ๆ ” โม่ซิวหย่วนพูดเสียงสบาย ๆ“…”เฉียวสือเนี
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั