เดิมทีคิดว่าฮั่วเยี่ยนฉือจะออกไปแล้ว แต่รอให้เฉียวสือเนี่ยนล้างหน้าแปรงฟันออกมาเสร็จ ในห้องรับแขกก็ได้กลิ่นหอมโชยมาเมื่อเฉียวสือเนี่ยนเดินออกไปดู ก็เห็นฮั่วเยี่ยนฉือจะกำลังจัดวางอาหารเช้าอยู่อย่างคาดไม่ถึงบนโต๊ะไม่เพียงมีแค่ของหวาน และอาหารคาวอย่างโจ๊กเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะยังมีอาหารตามข้างทางอย่
เมื่อสายวางไปแล้ว เธอก็ขี้เกียจจะโทรไปโดนสั่งสอนอีกหลังจากนั้นแม่สามีก็โทรศัพท์มาหาอีกครั้ง ฟู่เถียนเถียนเมื่อจะทำแล้วต้องทำให้ถึงที่สุด เธอจึงปิดเครื่องไปเลยคาดว่าแม่สามีจะมาตำหนิถึงที่บ้าน ฟู่เถียนเถียนจึงหยิบกระเป๋าและออกไปดูหนังตั้งแต่แต่งงานมา เธอไม่ค่อยมีกิจกรรมผ่อนคลายอะไรนอกจากจะรวมตัวช้
หลังจากนั้นพวกเพื่อนของลู่เฉินหนานก็มาถึง และดื่มด้วยกันอีกหลายแก้วดูเวลาดึกแล้ว ฟู่เถียนเถียนจึงขอตัวออกมา“ฉันให้คนขับรถไปส่งเธอนะ”กลัวเธอปฏิเสธ ลู่เฉินหนานจึงอธิบาย “เธอเป็นผู้หญิงคนเดียว และดึกขนาดนี้อีก ให้คนขับรถไปส่งจะปลอดภัยกว่า”ฟู่เถียนเถียนพนักหน้าขอบคุณหลังส่งฟู่เถียนเถียนขึ้นรถ ลู่เฉ
ฟู่เถียนเถียนถอยไปด้านหลัง และหลบฝ่ามือของคุณแม่หมอเวินไปแต่เธอสะดุดถังขยะที่อยู่ตรงปลายเท้า จนล้มลงไปนั่งบนที่นั่งทำจากไม้ลูกแพร์ และหลังศีรษะก็กระแทกเข้ากับพนักพิงไม้ฟู่เถียนเถียนเจ็บจนเอามือกุมศีรษะ“แม่ อย่าทำแบบนี้สิครับ!” เมื่อเห็นว่ามารดาคิดจะลงมือ หมอเวินก็รีบห้ามปราม“จิ๋งหลี่ ลูกยังจะปกป
นี่คือชีวิตที่ดีเหรอ?อาจจะเป็นเพราะในใจของหมอเวินเป็นชีวิตที่ดีล่ะมั้งถึงอย่างไรรูปร่างหน้าตาของเขา ฐานะทางครอบครัว และการงานล้วนเหนือกว่าอย่างมาก ถือว่าเป็นเทพบุตรในใจของทุกคนก็อย่างที่แม่สามีบอก คนที่อยากแต่งงานกับเขาต่อแถวยาวเหยียด เธอสามารถแต่งงานกับเขาได้ถือว่าโชคดีแล้วฟู่เถียนเถียนแค่รู้สึ
นี่มันก็จะมากเกินไปแล้วนะ!“รอหลังจากดำเนินการเรื่องหย่าเสร็จแล้ว เอาสิ่งของที่ซื้อให้หมอเวินออกมาให้หมด ถึงอย่างไรแม่สามีก็ดูถูกสิ่งของที่เธอซื้ออยู่แล้ว ไม่ต้องเหลือไว้ให้เขาแม้แต่ชิ้นเดียว!”ฟู่เถียนเถียนกลับสงบนิ่ง “ช่างเถอะ ก็แค่การหย่า ไม่ถึงกับต้องฉีกหน้ากันขนาดนี้หรอก”เฉียวสือเนี่ยนคิดดูก็ถ
ครั้นได้ยินคำพูดของป๋ายอีอี ฮั่วเยี่ยนฉือจึงต้องหันไปมองเฉียวสือเนี่ยนที่สีหน้าเย็นเยียบอีกครั้งเขายังไม่ได้ตอบกลับป๋ายอีอี แต่กลับผุดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีที่ฮั่วเยี่ยนฉือละออกจากที่นั่ง ป๋ายอีอีก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน“สือเนี่ยน คุณฟู่ ขอโทษนะคะ”ถึงปากจะพูดขอโทษ ทว่าสายตาของป๋ายอีอีกลับเจือความเ
“ต่อไปอย่าได้ยั่วโมโหเฉียวสือเนี่ยนอีก” ฮั่วเยี่ยนฉือเอ่ยเสียงเย็นชามือของป๋ายอีอีที่กำลังเช็ดคราบเปื้อนอยู่นั้นชะงักในทันที ขอบตาพลันแดงก่ำขึ้นมาเช่นกัน “เยี่ยนฉือ คุณคิดว่าฉันเป็นคนผิดงั้นเหรอ?”ฮั่วเยี่ยนฉือยังคงสีหน้าเย็นชาไม่สนใจ เขาไม่ตอบแต่กลับถามกลับไป “มาหาผมเพราะมีธุระไม่ใช่เหรอ?”ได้ยินแ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั