แววตาของฮั่วเยี่ยนฉือสะท้อนความรู้สึกบางอย่างที่ต่างออกไป ทำให้เฉียวสือเนี่ยนอึ้งไปเล็กน้อย“เฉียวสือเนี่ยน ครั้งที่แล้วถึงแม้ป๋ายอีอีจะไม่ได้แจ้งความ แต่ถ้าคนมันจนตรอกก็ทำได้เหมือนกัน ถ้าป๋ายอีอีแจ้งความ คนที่จะเจ็บหนักที่สุดคือเธอนะ” ฮั่วเยี่ยนฉือพูดขึ้นอีกเฉียวสือเนี่ยนดึงสายตากลับมา “เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับคุณ”ฮั่วเยี่ยนฮือยื่นมือออกไปเชยคางของเธอขึ้น “เธอเป็นภรรยาของฉัน เรื่องของเธอเกี่ยวกับฉัน”เฉียวสือเนี่ยนสะบัดมือเขาออกอย่างไม่ชอบใจ “เดี๋ยวก็จะไม่ใช่แล้ว”“ใครบอกว่าไม่ใช่?”ฮั่วเยี่ยนฉือมองเธอด้วยแววตาลุ่มลึก “เฉียวสือเนี่ยน ฉันไม่ชินที่เธอย้ายออกไป ฉันไม่ชอบใจที่เธออยู่กับผู้ชายคนอื่น ฉันคงจะมีความรู้สึกต่อเธอแล้วล่ะ”เฉียวสือเนี่ยนสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้ในชาติที่แล้ว เธอร้องขอแค่คำนี้คำเดียวจนตัวเองดูไร้ค่าแต่ฮั่วเยี่ยนฉือไม่เคยชายตามองเธอสักครั้งในชาตินี้ เพียงเธอแค่อยากหย่าเพื่อให้หลุดพ้นจากฮั่วเยี่ยนฉือ เขากลับบอกว่ามีความรู้สึกต่อเธอ?ช่างไร้สาระจริง ๆเธอในชาติที่แล้ว ทั้งน่าสงสารทั้งน่ารังเกียจ“เธอแต่งงานเพราะความรู้สึก งั้นตอนนี้ช่วยคิดเรื่องหย่าอีกทีได้ไหม?”
เฉียวเล่อเยียนเชิดหน้าขึ้นอีกครั้ง “เรื่องต่างหูครั้งที่แล้ว เขาอธิบายให้ฉันฟังแล้ว เป็นเพราะเพื่อนโกหกเขา เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวกับเขา ส่วนเรื่องที่ส่งข้อความหาเธอก็เพราะอยากทำความเข้าใจฉัน”“ตอนนี้ฉันก็ไม่มีคนที่ชอบ หยวนหงจื้อเอาใจฉัน ปากก็หวาน ทำไมฉันจะตกลงคบกับเขาไม่ได้? เฉิงหว่านซินก็เคยพูดแล้วว่า ผู้ชายแบบเขาเหมาะกับฉันที่สุด”“เฉิงหว่านซิน?” เฉียวสือเนี่ยนจับจุดสำคัญที่ได้ยิน “เธอสนิทกับเฉิงหว่านซินเมื่อไหร่กัน?”เฉียวเล่อเยียนเหลือบมองเฉียวสือเนี่ยน “ฉันรู้ว่าเฉิงหว่านซินเป็นเพื่อนสนิทของเธอ แต่ก็คงไม่ได้มีกฎว่าห้ามไม่ให้ฉันไปยุ่งกับเธอใช่ไหม?”เฉียวสือเนี่ยน “ตอนนี้เฉิงหว่านซินไม่ใช่เพื่อนสนิทของฉัน แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น ทำไมพวกเธอถึงติดต่อกัน เฉิงหว่านซินเป็นคนเข้าหาเธอก่อนงั้นเหรอ?”เฉียวเล่อเยียนเล่าว่า “แม่เรียกเฉิงหว่านซินให้มาที่บ้านหลายครั้ง เพื่อเป็นการขอบคุณที่เธอแนะนำธุรกิจให้ ครั้งที่แล้วฉันอยู่บ้านพอดี เธอก็เลยเพิ่มเพื่อนไลน์ฉันมา พอว่าง ๆ ก็เลยทักมาคุยน่ะ”เมื่อได้ยินดังนั้น คิ้วของเฉียวสือเนี่ยนก็ขมวดเข้าหากันทันทีเฉิงหว่านซินชักจูงเธอมาเป็นพวกไม่ได้ จึงเริ่มเข้าหา
“โอเค โอเค ฉันรู้แล้ว ขี้บ่นกว่าแม่ฉันอีก!”เฉียวเล่อเยียนรู้สึกพึงพอใจ และไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่เฉียวสือเนี่ยนพูดผิดตรงไหน เธอวิ่งออกจากห้องไปอย่างร่าเริงเฉียวสือเนี่ยนทอดถอนใจอย่างโล่งอกยังดีที่เฉียวเล่อเยียนมาคุยกับเธอเรื่องนี้ ไม่อย่านั้นเอคงไม่รู้ว่าเรื่องไปถึงขั้นไหนแล้วอีกไม่นานเธอก็จะต้องออกไปเจอกับหยวนหงจื้อแล้วเฉียวสือเนี่ยนไลน์ไปหาหยวนหงจื้อ เพื่อบอกเขาว่าเธอกลับมาแล้วหยวนหงจื้อนัดเธอออกมาเจอพรุ่งนี้ตอนบ่ายจริง ๆ เมื่อวางโทรศัพท์ลง เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก เธอจึงเดินไปนั่งพักที่ระเบียงแต่เธอกลับเห็นว่าฮั่วเยี่ยนฉือกำลังยืนอยู่ที่ระเบียงห้องนอนรับรองแขกเช่นกันเขาสวมชุดนอนสีน้ำเงินที่เธอซื้อให้ ความสูงและใบหน้าที่หล่อเหลาทำให้เขาดูราวกับภาพวาดในตอนนี้เขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับใครบางคนในเวลาทำงาน เขาจริงจังเป็นอย่างมาก รัศมีที่แผ่กระจายออกมารอบตัวเขา ทำให้ผู้คนที่พบเห็นต้องยอมสวามิภักดิ์เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จ ฮั่วเยี่ยนฉือก็สังเกตเห็นเธอเฉียวสือเนี่ยนไม่ได้หลบตา ทั้งสองจ้องมองกันสักพัก“เฉียวสือเนี่ยน คำถามที่ฉันถามก่อนหน้านี้ เธอได้คำตอบแล้วหรือยัง“ท
ฟู่เถียนเถียนตอบ “ฮั่วเยี่ยนฉือจัดการเรื่องป๋ายอีอีไม่เหมาะสมจริง ๆ แต่ฉันได้ยินลู่เฉินหนานบอกว่า เป็นเพราะเกิดความเข้าใจผิดระหว่างนั้น ฮั่วเยี่ยนฉือเป็นห่วงเธอพอสมควร ถ้าเธอไม่ได้ต้องการจะหย่ามากขนาดนั้น ฉันก็จะสนับสนุนการตัดสินใจของเธอเช่นกัน”เฉียวสือเนี่ยนงุนงงมากกว่าเดิม “เถียนเถียน เรื่องสำคัญที่เธอเรียกฉันออกมาพูดคือเรื่องนี้เหรอ? การตัดสินใจที่จะหย่าของฉัน เธอก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ?”“ฉันรู้ แต่ในเมื่อเธอดึงดันที่จะหย่าแล้วทำไมไม่ระวังขนาดนี้ แม้แต่ไม่ป้องกันด้วยซ้ำ” ฟู่เถียนเถียนไม่เข้าใจมีอารมณ์ก็หลับนอนด้วยกัน แต่ทำไมไม่ป้องกันล่ะ?เฉียวสือเนี่ยนไม่เข้าใจ “ป้องกันอะไร?”ฟู่เถียนเถียนมองเธออย่างเอือมระอา “เฉียวสือเนี่ยน เธอแกล้งโง่หรือโง่จริง ๆ กันแน่ เธอท้อง!”“ท้อง!”เฉียวสือเนี่ยนตะโกนร้องอย่างตกใจ เธอผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันที เส้นผมที่กำลังเปียกชื้นจากการอบไอน้ำมีน้ำหยดลงมา ทำให้เปียกไปทั่วทุกที่แม้แต่คนที่นอนอยู่ห้องข้าง ๆ ก็เหมือนกับตกใจไปกับเธอด้วย เพราะมีเสียงบางอย่างตกลงที่พื้นช่างทำผมที่อยู่ด้านนอกเมื่อได้ยินเสียงดังโวยวายก็รีบวิ่งเข้ามา ก่อนจะรีบยื่นผ้าให้เฉียวสือเน
“แล้วเธอจะบอกฮั่วเยี่ยนฉือไหม?”“ไม่!”เรื่องนี้เฉียวสือเนี่ยนมั่นใจเป็นอย่างมากถ้าฮั่วเยี่ยนฉือรู้ เรื่องการหย่าก็จะยิ่งยากไปกันใหญ่ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูคุณตาและคุณย่าฮั่ว เรื่องนี้จะยากเข้าไปอีกเธอไม่อยากถูกขังไว้ในชีวิตแต่งงานเพราะลูก“เพราะฉะนั้น เธอจะแอบไปคลอดลูกเงียบ ๆ คนเดียวเหรอ?” ฟู่เถียนเถียนถามอีกครั้งเหมือนกับแม่ของเธอที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว?เฉียวสือเนี่ยนยอมรับว่าตัวเองไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้นความจริงแล้ว เมื่อได้ยินคำถามของฟู่เถียนเถียน ในใจของเฉียวสือเนี่ยนก็มีทางเลือกที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วเธอบีบมือตัวเองแน่น ก่อนจะถามเสียงสั่น “สถานการณ์ของฉันในตอนนี้ สามารถได้รับการผ่าตัดได้เมื่อไหร่?”เมื่อเห็นแววตาที่สะท้อนความเจ็บปวดของเฉียวสือเนี่ยน ฟู่เถียนเถียนก็รู้สึกปวดใจด้วยเช่นกัน “เนี่ยนเนี่ยน เธออย่าตัดสินใจเร็วขนาดนั้น คิดให้ดีอีกหน่อยสิ”ความจริงแล้วฟู่เถียนเถียนก็รู้ว่า ถ้าหย่ากันจะไม่สามารถเก็บเด็กเอาไว้ได้อาจเป็นเพราะตัดสินใจแล้ว เฉียวสือเนี่ยนจึงค่อย ๆ ทำใจให้เย็นลง “ไม่ต้องคิดแล้ว เด็กมาผิดเวลา เก็บไว้ก็จะทำให้เรื่องยุ่งยากเข้าไปใหญ่ อีกอย่างตอนนั้นฉันโดนวางยา เด็
คาดไม่ถึงว่าคนที่ปรากฏตัวจะเป็นซ่งม่าน!เฉียวสือเนี่ยนคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าซ่งม่านจะมาที่โรงแรมนึกถึงเรื่องที่ซ่งม่านถูกโม่ซิวหย่วนและเธอทำให้โกรธแทบตาย เมื่อสองวันก่อนที่ลานจอดรถของสนามบิน บางทีซ่งม่านอาจจะยังคับแค้นใจจึงอยากมาสร้างปัญหาให้เธอ?“คุณเฉียวช่วยเปิดประตูหน่อย ฉันมีเรื่องต้องถามคุณ”บางทีอาจเป็นเพราะได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอ ซ่งม่านจึงพูดผ่านตาแมวด้วยความจริงจังเป็นอย่างมากสุดท้ายเฉียวสือเนี่ยนก็เปิดประตูที่นี่คือโรงแรมดังนั้นจึงรับประกันด้านความปลอดภัยได้หากซ่งม่านมาหาเรื่องจริงๆ ครั้งแรกอาจหนีได้แต่ครั้งที่สิบห้าย่อมหนีไม่พ้น[footnoteRef:1] ยิ่งไปกว่านั้นพวกเธอก็ร่วมมือกันแล้ว [1: หมายถึง หนีได้เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่สุดท้ายย่อมหนีไม่พ้น] ประตูห้องถูกเปิดออก ก่อนซ่งม่านจะเข้าไปในห้องเฉียวสือเนี่ยนใจดีหยิบขวดน้ำส่งให้เธอ“ฉันไม่ดื่ม!” ซ่งม่านปฏิเสธหน้าอกของเธอกระเพื่อมขึ้นลง ดวงตาแดงก่ำราวกับกำลังเผชิญกับเรื่องสิ้นหวังบางอย่าง ท่าทีเหมือนทั้งกำลังอิจฉาทั้งกำลังโกรธ“คุณซ่ง เกิดอะไรขึ้นกับคุณ มีใครรังแกคุณเหรอคะ?” เฉียวสือเนี่ยนถามอย่างไม่เข้าใจซ่งม่านได้ยินก็ยิ่งมีโ
เฉียวสือเนี่ยนยังคิดจะโน้มน้าวเธอ “คู่หมั้นไปมีลูกกับผู้หญิงคนอื่น ไม่ใช่ว่าคุณควรรีบตีตัวออกห่าง และอยู่ให้ไกลจากผู้ชายแบบนี้เหรอ?”“ถึงคุณไม่อยากปล่อยมือ แต่คุณก็ควรจะให้โม่ซิวหย่วนมาให้คำอธิบายกับคุณ ไม่ใช่มาแก้ปัญหาด้วยตัวเองแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”เมื่อซ่งม่านได้ยินคำพูดนี้ ความน้อยเนื้อต่ำใจและความโกรธแค้นก็ยิ่งรุนแรงขึ้น “ถ้าฉันไม่มาจัดการด้วยตัวเอง แล้วพี่ซิวหย่วนจะกล้าแตะต้องเธอได้ยังไงล่ะ!”“เฉียวสือเนี่ยน เธอคงรู้ว่าต้องไปจัดการเรื่องลูกยังไง ถ้าต้องการเงินเท่าไรก็บอกฉันได้! ไม่อย่างนั้นถ้าพลาดโอกาสนี้ไป ครั้งหน้าฉันจะไม่พูดด้วยดี ๆ แบบนี้แน่!”เฉียวสือเนี่ยนรู้ว่าซ่งม่านคงไม่ถูกโน้มน้าวง่าย ๆ ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคของตัวเองการตอบสนองของซ่งม่านพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ใครที่เป็นฝ่ายหวั่นไหวก่อนในความสัมพันธ์ ย่อมเป็นฝ่ายดูต่ำต้อยเธอรู้สึกเห็นใจซ่งม่านก็เรื่องหนึ่ง แต่ก็ไม่อาจปล่อยให้ซ่งม่านมารังแกกันได้ใบหน้าเล็กของเฉียวสือเนี่ยนเย็นชาขึ้น “คุณซ่ง ถ้าวันนี้คุณจะมาเพื่อข่มขู่ฉัน ก็ต้องขอโทษด้วยที่คุณคงต้องผิดหวังแล้ว เรื่องของฉัน ฉันจัดการเองได้ จะเก็บเด็กไว้ไหมก็เป็นเรื่อ
ได้ยินแบบนั้น เฉียวสือเนี่ยนก็หยุดต่อปากต่อคำกับโม่ซิวหย่วน“ฉันไม่คิดจะบอกเรื่องที่ท้องให้ฮั่วเยี่ยนฉือรู้ เด็กคนนี้ฉันก็ไม่ได้คิดจะเก็บไว้เหมือนกัน แต่การผ่าตัดต้องใช้เวลาสักระยะ หากฮั่วเยี่ยนฉือรู้เรื่องนี้เข้า ฉันหวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม”ถ้าฮั่วเยี่ยนฉือรู้เรื่องเด็กเข้า ไม่ว่
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั