เมื่อปลายสายรับ ลู่เฉินหนานก็ถามทันที “พี่ฉือตอนนี้พี่คงจะไม่ได้อยู่ที่บริษัทใช่ไหม?”“มีเรื่องอะไร?” ฮั่วเยี่ยนฉือถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งลู่เฉินหนานถอนหายใจ “พี่ฉือ พี่จะเอาเวลาทุ่มกับงานทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ไม่ได้นะ ทำไมไม่หาเวลามาอยู่กับพี่สะใภ้บ้าง!”“มีเรื่องอะไรก็ว่ามา หยุดพูดไร้สาระ” ฮั่
ฟู่เถียนเถียนตื่นเต้นจนหน้าแดง “ไอดอลเฉียว เธอไอดอลของฉันจริง ๆ หล่อมาก!”“มาดื่ม ‘มอมสาวงาม’ อีกแก้ว”อาจเป็นเพราะดื่มเหล้าเข้าไป ทำให้เฉียวสือเนี่ยนรู้สึกมีความสุข เธอยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมด“ไอดอลเฉียว เธอจะดื่มแบบนี้ไม่ได้นะ ถึงแม้มันจะดื่มง่าย แต่ดีกรีแรงไม่เบานะ!”เฉียวสือเนี่ยนโบกมืออย่างไม่
“ผัวะ!”ชายพุงพลุ้ยยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็ถูกถีบอย่างแรงมาจากด้านหลัง ทำให้เขาชนเข้ากับโต๊ะและกวาดขวดเหล้าบนโต๊ะจนล้มระเนระนาดเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจลู่เฉินหนานเมื่อเห็นว่าด้านล่างเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น เขาจึงพุ่งออกจากที่นั่งและตะโกนเสียงดังใส่เพื่อนชายหญิงที่นั่งอยู่
“ถ้าเธอคิดว่าในใจฉันไม่มีเธอเลยอยากหย่ากัน งั้นพวกเราวางเรื่องหย่าลงก่อนได้ไหม ใช้เวลาอยู่ด้วยกันสักพักหนึ่ง ฉันจะพยายามทำในสิ่งที่เธอต้องการ”เฉียวสือเนี่ยนรู้ดีว่าอาจเป็นเพราะเธอ ‘ช่วยชีวิต’ เขาไว้ ทำให้ฮั่วเยี่ยนฉือเกิดความรู้สึกผิดในใจ จึงพูดอะไรแบบนี้ออกมาฮั่วเยี่ยนฉือวางตัวอยู่เหนือผู้คนมาตลอ
ฮั่วเยี่ยนฉือไม่เข้าใจว่าทำไมเฉียวสือเนี่ยนทำตัวห่างเหินกับเขาขนาดนี้เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเธอมีความรู้สึกต่อเขา แต่เธอก็ยังไม่วางความไม่พอใจลง“พี่ฉือ พี่สะใภ้ยังจะหย่ากับพี่อีกเหรอ?”ลู่เฉินหนานที่ยังไม่ได้รับคำตอบก็ถามขึ้นอีกครั้งก่อนที่เขาจะเคาะประตูห้องได้ยินเสียงของเฉียวสือเนี่ยนดังมาจากในห้องว่า
“นายชอบฟู่เถียนเถียน เพื่อนของเฉียวสือเนี่ยนใช่ไหม?”ฮั่วเยี่ยนฉือหัวเราะ “เธอแต่งงานแล้ว”ลู่เฉินหนานถูกจับได้ แต่เขาก็ไม่ได้โกรธแต่อย่างใด กลับตอบด้วยน้ำเสียงเสียดายแทน “ยังสาว ๆ อยู่แท้ ๆ ทำไมไม่ตัดสินใจดี ๆ ก่อนจะแต่งงานล่ะ?”“ไม่ได้รวมถึงพี่สะใภ้นะ เพราะพี่สะใภ้รักพี่ก็เลยแต่งงานกับพี่” ลู่เฉิน
เมื่อได้ยินคำพูดของฮั่วเยี่ยนฉือ เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกเอือมระอาทันที เมื่อวานเขาได้รับบาดเจ็บที่สมองไม่ใช่ที่เอวใช่ไหม ถึงได้หาเรื่องแบบนี้มาทะเลาะเฉียวสือเนี่ยนไม่อยากจะสนใจคำถามน่าเบื่อ ๆ ของเขา เธอจึงเดินเข้าห้องพักฟื้นไปฮั่วเยี่ยนฉือเองก็รู้สึกว่าตัวเองอ่อนไหวมากเกินไป เพียงแค่เฉียวสือเนี่ยน
เฉียวสือเนี่ยน [ต้องไปให้ได้เลยงั้นเหรอ เกรงใจกันหน่อยไหม]โม่ซิวหย่วน [ต้องมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ]เฉียวสือเนี่ยน “...”โม่ซิวหย่วนยังถือว่ามีจิตใจที่ดีอยู่บ้าง เขาได้ส่งคนขับรถมารับเธอเมื่อเฉียวสือเนี่ยนมาถึงร้านอาหารที่ถูกตบแต่งด้วยสไตล์สวนดอกไม้เมืองเจียงหนาน เธอก็เห็นคุณซ่ง
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั