“งั้นตอนนี้หนูกังวลเรื่องอะไรล่ะ?”คุณย่าฮั่วถามขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เข้าใจ “เนี่ยนเนี่ยน เรื่องที่หนูกับเยี่ยนฉือจะหย่ากัน หนูจะไม่เปลี่ยนใจใช่ไหม?”เฉียวสือเนี่ยนไม่ตอบ แต่กลับเอ่ยขอโทษแทน “คุณย่าหนูขอโทษ หนูไม่รู้จริงิๆ ว่าลุงกับป้าไปรบกวนคุณย่า คงจะกวนใจคุณย่าใช่ไหมคะ?”เมื่อได้ยินดังนั้
“คุณไม่ได้ไปทานอาหารกับคุณย่าเหรอ?” เฉียวสือเนี่ยนถามอย่างแปลกใจ“ฉันกลับไปที่บ้านคนเดียว เมื่อคุณย่าเห็นว่าเธอไม่ไปก็ตำหนิว่าฉันรังแกเธอ คุณย่าตำหนิฉันก่อนจะไล่ให้กลับ”น้ำเสียงของฮั่วเยี่ยนฉือฟังดูไม่ดีนัก “เฉียวสือเนี่ยน เธอรู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้วแต่จงใจไม่ไป เพื่อให้ฉันถูกคุณย่าด่าใช่ไหม!”โดนด่
เมื่อเห็นคำเรียกที่คุ้นเคย และหมายเลขที่ไม่ได้บันทึกชื่อไว้ เฉียวสือเนี่ยนขมวดคิ้วแน่นเธอพอจะเดาออกว่าคนที่ส่งข้อความมาคือใคร[เนี่ยนเนี่ยน ฉันอยู่ที่ TIME สั่งค็อกเทลที่เธอชอบไว้ด้วย ฉันคิดถึงช่วงเวลาที่พวกเรานั่งดื่มด้วยกันจริง ๆ นะ]เป็นเฉิงหว่านซินจริง ๆ ด้วยเฉียวสือเนี่ยนคิดว่าหลังจากงานเลี้ย
ขั้นตอนไม่น้อยเลยทีเดียวในขณะที่เฉียวสือเนี่ยนกำลังวุ่นอยู่ในครัว ฮั่วเยี่ยนฉือก็เดินลงมาข้างล่าง รูปร่างสูงโปร่งของเขา ต่อให้สวมชุดอยู่บ้านสบาย ๆ ก็ไม่สามารถกลบรังสีความหล่อของเขาได้เขาเดินมาทางเธอด้วยย่างก้าวที่มั่นคง ดูแล้วเมื่อวานคงจะทำเบาไป ตอนนี้เขาจึงกลับมาเดินเหินได้ปกติฮั่วเยี่ยนฉือหยุดอ
มือของฮั่วเยี่ยนฉือลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของเฉียวสือเนี่ยนผิวของเธอเนียนนุ่มละเอียด เหมือนเขากำลังลูบบนหยกขาวเนื้อเนียน ฮั่วเยี่ยนฉือรู้สึกเหมือนไฟร้อนรุ่มในใจปะทุรุนแรงมากขึ้นทุกทีจากตอนแรกที่เขาแค่อยากทำโทษเธอ แค่ตอนนี้เขากลับควบคุมตัวเองไม่ได้ มือของเขาค่อย ๆ เลื่อนจากแผ่นหลังของเฉียวสือเนี่ยนมาย
เมื่อเฉียวสือเนี่ยนอาบน้ำและฉีดน้ำหอมเสร็จก็เดินลงมาด้านล่าง ในเวลานี้ฮั่วเยี่ยนฉือไม่อยู่แล้ว ส่วนพนักงานทำความสะอาดก็มาถึงแล้วเช่นกันเธอบอกให้พนักงานทำความห้องครัวและห้องนอน ก่อนที่เฉียวสือเนี่ยนจะมานั่งเล่นโทรศัพท์คุณตาตอบกลับข้อความของเธอ ถามว่าเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่าเฉียวสือเนี่ยนโทรศัพท์ไป
ได้ยินดังนั้น ฮั่วเยี่ยนฉือก็ขมวดคิ้วแน่นปกติแล้ว เวลาป๋ายอีอีทำอะไรจะอ่อนหวานและมีสติ แต่ทำไมวันนี้ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?“ผมต้องรู้เหรอ?” ฮั่วเยี่ยนฉือถามกลับเมื่อเห็นสีหน้าเมินเฉยของฮั่วเยี่ยนฉือ และยังมีรอยแผลสะดุดตาที่ริมฝีปากของเขา ป๋ายอีอีก็รู้สึกริษยาขึ้นมา เธอร้องไห้ออกมาอย่างเสียใจ“เยี่ยนฉือ
เฉียวสือเนี่ยนตอบตกลงทันทีเรื่องนี้ราบรื่นเกินกว่าที่เธอคิด เดิมทีเธอไม่ได้ตั้งความหวังไว้มาก เธอคิดเอาไว้ว่าต่อให้เจรจาไม่ลงตัว เธอก็จะขัดขวางไม่ให้ศาสตราจารย์มอบอำนาจให้หยวนหงจื้อใครจะรู้ว่า ฮั่วเยี่ยนฉือจะเป็นคนมอบอำนาจตัวแทนผู้ดูแลให้แก่เธอด้วยตัวเองเฉียวสือเนี่ยนเข้าใจเรื่องการลงทุน การโฆษณา
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั