เฉียวสือเนี่ยนเข้าใจความหมายที่คุณย่าฮั่วพูด แต่เธอไม่อยากหลอกตัวเองและคนอื่น “คุณย่า ท่านไม่ต้องปลอบใจหนูหรอกค่ะ ทัศนคติของฮั่วเยี่ยนฉือหนูรู้ดี”ไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังคงเกลียดเธอ แม้จะเปลี่ยนความคิดจริง ๆ เธอก็ไม่อาจมีความคิดเพ้อฝันกับเขาได้อีกต่อไปความสัมพันธ์และสัญญาลับระหว่างเขากับป๋ายอีอี ชาต
“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว! ดื่มเหล้าแล้วมันจะทำไม? เธอคิดว่าที่ตัวเองใช้โทรศัพท์แพงขนาดนั้น และสวมเสื้อผ้าดี ๆ แบบนี้ได้ เงินมาจากไหนล่ะ? เอาใจประธานเซี่ยแล้ว เธอจะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในอนาคต! ”เมื่อได้ยินว่าประธานเซี่ยสองคำนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็เหลือบตาไปทางห้องที่พวกเขาเข้าไปโดยไม่รู้ตัวตอนนี้ประต
เฉียวสือเนี่ยนเห็นว่าฮั่วเยี่ยนฉือกลับมามีน้ำเสียงและท่าทางตามปกติแล้ว ยิ่งเพิ่มความมั่นใจว่า เมื่อกี้เขาจะต้องแกล้งเมาเพื่อหลอกเธอ!เธอโกรธจนเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และทิ้งฮั่วเยี่ยนฉือไว้เบื้องหลังกลิ่นหอมอ่อนๆ โชยเข้ามาสักพักหนึ่ง เงาร่างอันสวยงามของเฉียวสือเนี่ยนก็ห่างออกไปไกลแล้วฮั่วเยี่ยน
เขาทำได้แค่แกล้งเร่งคนขับรถอย่างสงบนิ่ง “ขับเร็วหน่อย”หากช้าอาจจะได้รับผลกระทบจาก ‘สงครามไฟ’ ก็ได้ขณะเดียวกันโจวเทียนเฉิงก็ด่าตัวเองอยู่ในใจไปด้วยว่า ‘ทำไมต้องมาประจวบกับการเล่นสนุกนี้ด้วยเนี่ย?’‘พักผ่อนอยู่บ้าน หยอกล้อกับเจ้าส้มอ้วนไม่ดีกว่าเหรอ?’เฉียวสือเนี่ยนถูกฮั่วเยี่ยนฉือกดทับจนไม่สามารถขั
เฉิงหว่านซินส่งมาหาเธอครั้งก่อนหลังเฉิงหว่านซินไปสั่งสอนป๋ายอีอีถึงบ้าน เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่ได้ติดต่อกับเธออีกเลยในไลน์ก็ปฏิเสธข้อความของเธอเช่นกันเวลานี้เฉิงหว่านซินส่งรูปภาพมาคาดว่าก็คงไม่ใช่เรื่องดีอะไร เฉียวสือเนี่ยนกดลบออก และใส่หมายเลขของเธอลงในบัญชีดำ[พี่สาว ขอร้องล่ะ พี่กดรับหน่อยนะ] โจวห
หญิงสาวคนนั้นเป็นคนที่เธอเห็นจริง ๆ เธอที่มีรูปร่างดี และเรียกเซี่ยลี่สยงว่า ‘คุณลุง’ คนนั้น! “นี่คือรูปที่ถ่ายเมื่อวานใช่ไหม ทำไมคนของคุณถึงไม่ห้ามล่ะ?” เฉียวสือเนี่ยนถามโม่ซิวหย่วนส่งเสียงหัวเราะอย่างขบคิดเล็กน้อย “คุณเฉียว เรื่องที่คนเขาปรารถนาร่วมกัน ใครจะห้ามได้? อีกอย่างรูปนี้คนของฉันก็ไม่ไ
โม่ซิวหย่วนยิ้มอย่างเย็นชาและชั่วร้าย “กล้าเล่นงานฉัน แม้ผิดกฎหมาย ฉันก็จะสั่งสอนให้กับพวกเธอ!”เมื่อเห็นท่าทีที่ไม่เกรงกลัวของโม่ซิวหย่วน รวมทั้งบอดี้การ์ดที่เข้ามาหาเธอ เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยเธอมั่นใจเกินไปหน่อย คิดว่าอาศัยการรู้ล่วงหน้าจากชาติที่แล้ว ก็จะคุยเรื่องการร่วมงานกับโม่ซ
ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้สนใจเขาชั้นล่าง โจวเทียนเฉิงคุ้มกันอยู่ด้านหลัง และพวกเขาก็ออกจากบาร์ไปเฉียวสือเนี่ยนรีบสะบัดมือของฮั่วเยี่ยนฉือออกสีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือเปลี่ยนในทันที และเอ่ยเสียงอย่างเย็นชา “เอากุญแจรถของเธอให้คนขับ และเธอมานั่งรถของฉัน”“เฉียวสือเนี่ยนสงสัย “คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันขับรถมา?”น้
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั