โม่ซิวหย่วนยิ้มอย่างเย็นชาและชั่วร้าย “กล้าเล่นงานฉัน แม้ผิดกฎหมาย ฉันก็จะสั่งสอนให้กับพวกเธอ!”เมื่อเห็นท่าทีที่ไม่เกรงกลัวของโม่ซิวหย่วน รวมทั้งบอดี้การ์ดที่เข้ามาหาเธอ เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยเธอมั่นใจเกินไปหน่อย คิดว่าอาศัยการรู้ล่วงหน้าจากชาติที่แล้ว ก็จะคุยเรื่องการร่วมงานกับโม่ซ
ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้สนใจเขาชั้นล่าง โจวเทียนเฉิงคุ้มกันอยู่ด้านหลัง และพวกเขาก็ออกจากบาร์ไปเฉียวสือเนี่ยนรีบสะบัดมือของฮั่วเยี่ยนฉือออกสีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือเปลี่ยนในทันที และเอ่ยเสียงอย่างเย็นชา “เอากุญแจรถของเธอให้คนขับ และเธอมานั่งรถของฉัน”“เฉียวสือเนี่ยนสงสัย “คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันขับรถมา?”น้
ก็รู้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ ตอนที่เขาขึ้นไปชั้นสอง ความกังวลที่เผยในดวงตานั้น ก็คงเพราะเหตุผลนี้ล่ะมั้งโชคดีที่เธอไม่ได้ชอบคิดเข้าข้างตัวเองเหมือนแต่ก่อน ไม่งั้นคงโดนฮั่วเยี่ยนฉือจูงจมูกอีกแน่เฉียวสือเนี่ยนฉุนจนเอ่ยอย่างไร้ความรับผิดชอบ “ไม่อยากยุ่งเรื่องของฉัน งั้นก็รีบเซ็นใบหย่าซะสิ ฉับบอกแล้ว
ในดวงตาของฮั่วเยี่ยนฉือแฝงไปด้วยความห่างเหินเล็กน้อยแม้กระทั่งเขาจะยังขมวดคิ้วอีกด้วยการตอบสนองเช่นนี้ทำให้ป๋ายอีอีตกตะลึงความรู้สึกอับอายผุดขึ้นในหัวใจแต่ใบหน้าของป๋ายอีอีกลับไม่ปรากฏอะไรออกมาเลย เธอยืนตัวตรงอีกครั้ง และขอโทษอย่างอ่อนโยน“เยี่ยนฉือ ถึงอย่างไร เรื่องของวันนี้ก็เป็นความผิดของฉันเ
“แม้ความจริงแล้วเฉียวสือเนี่ยนจะน่ารำคาญ แต่ถึงยังไงพี่ก็ยังไม่ได้หย่าเลย จะไม่ค่อยดีหรือเปล่า?“ ลู่เฉิงหนานถามฮั่วเยี่ยนฉืออารมณ์ไม่ดี ”นายมีธุระอะไรก็ว่ามา ถ้าไม่มีก็ไสหัวไป“ เลขาเอาน้ำชามาส่งพอดี ลู่เฉิงหนานจึบส่งให้เขาอย่างเอาใจ ”พี่ฮั่ว ดื่มชาให้ชุ่มคอหน่อย”ความจริงแล้วฮั่วเยี่ยนสือรู้สึกไม่
เมื่อได้ยินที่เขาเอ่ย เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่ได้อับอายจนกลายเป็นโทสะเหมือนแต่ก่อนแล้วแถมยังถามเขาอย่างจริงจังมาก “นายกับฮั่วเยี่ยนฉือมีความสัมพันธ์ที่สนิทกันใช่ไหม งั้นนายโน้มน้าวเขาได้ไหม?“ลู่เฉิงหนานเอ่ยอย่างเย็นชา “ฉันกับพี่ฮั่วสนิทกันอยู่แล้ว แต่ฉันจะไม่โน้มน้าวให้พี่มาชอบเธอหรอกนะ!”“ฉันจะบอกว่า
จะต้องรีบหาเงินทำธุรกิจแล้ว“ที่คุณบอกว่าเป็นห่วงคือสิ่งนี้ใช่ไหม?”เฉียวสือเนี่ยนชี้ไปที่กระติกเก็บความร้อน “ฉันตั้งใจเพื่อมาส่งให้คุณจริง ๆ เพราะคุณย่าสั่งมาให้ฉันกำกับคุณให้ดื่มมันให้หมด”เมื่อคิดว่าเป็นชุดเหมือนครั้งก่อนอีก ฮั่วเยี่ยนฉือก็ปวดศีรษะ “เอาออกไป ฉันไม่มีเวลาจะทะเลาะกับเธอ”เฉียวสือเ
คุณผู้หญิงเซี่ยส่งเสียงหัวเราะ “เรื่องที่เหล่าเซี่ยถูกคนจับได้และเอามาข่มขู่ เธอรู้แล้วใช่ไหม?”เฉียวสือเนี่ยนประหลาดใจ “พูดแบบนี้ คุณผู้หญิงเซี่ยก็รู้แล้วเหรอคะ?”“เรียกฉันว่าพี่ถูเถอะ” ใบหน้าของถูหย่าลี่มีความความเย็นชาเล็กน้อย “สถานะคุณผู้หญิงเซี่ยนี้ ฉันรู้สึกว่ามันใช้ไม่ได้กับฉันแล้วล่ะ”ถูหย่
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั