แชร์

2.ทำลายกล่องดวงใจ

ผู้เขียน: Myเหมยลี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-01 13:27:45

เสียงก้อนหินกระทบเข้าที่หลังของคนร่างอ้วนอย่างสุดแรง เป็นพละกำลังมหาศาล จนทำให้อี้ฟูถึงกับล้มกลิ้งลงไปนอนกับพื้นดินอย่างรวดเร็ว

บรรยากาศตอนนี้เงียบสงบ บรรดาเสียงสัตว์ป่าน้อยใหญ่เริ่มกู่ร้องขึ้นมา ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัว แสงอาทิตย์ยามอัสดงเริ่มค่อยๆคืบคลานล่วงลับไปอย่างช้าๆ

แต่ทันใดนั้นเอง....

สตรีร่างเล็กที่นอนแน่นิ่ง กลับลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ นางใช้ขาถีบไปที่จุดสงวนของบุรุษร่างอ้วนตรงหน้าอย่างเต็มแรง

"โอ้ยย......" อี้ฟูร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อจุดสำคัญในชีวิตของเขาถูกทำลายลวไปต่อหน้าต่อตา มือหนารีบจับไปที่กล่องดวงใจของตนเองโฮ้ร้องด้วยความเจ็บปวด และจุกเสียด จนใบหน้าเขียวคล้ำ

สตรีร่างเล็กลุกขึ้นนั่งราวกับตุ๊กตาล้มลุก สายตาเย็นชายังคงมองดูบรรยากาศรอบตัวอย่างมึนงง แววตาที่ดุร้ายฉายขึ้นมาจากดวงตาของนางจนน่าขนลุก

เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างถาโถมเข้ามาในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม นางค่อยๆไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะใช้แววตาดุร้าย เพ่งเล็งไปที่บุรุษตรงหน้าอย่างกับแมลงวันหัวเขียวตัวหนึ่ง

"บัดซบ!!!..." สตรีร่างเล็กสบถออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

อี้ฟูยังคงมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การที่จะมีเมียสักครั้ง ทำไมถึงได้ยากเย็นแสนเข็ญถึงเพียงนี้ เขามองไปที่สตรีตรงหน้า แววตานางราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน แววตาในตอนนี้ ดูดุร้ายชวนให้ขนหัวลุกเป็นอย่างมาก

"ถอดออกมา....." สตรีตรงหน้าคำรามเสียงเย็นชาออกมา นางใช้นิ้วชี้ไปที่อาภรณ์ของอี้ฟู เขาก็รีบถอดอาภรณ์ โยนไปให้นางอย่างอัตโนมัติ และรีบหันหน้าหนีอย่างหวาดกลัว

ชุดที่ขาดรุดรุยถูกสับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่นาน จากนั้นนางจึงลุกขึ้นเดินเข้าไป แล้วหยุดอยู่เบื้องหน้าบุรุษตัวปัญหาของเรื่องราวทั้งหมด

"เจ้าชื่ออี้ฟูสินะ...?

"ใช่ๆๆ น้องหรงเอ๋อร์..เจ้าแค่ยิมยอมให้ข้าดีๆ ข้าก็ไม่ต้องเปลืองแรงใช้กำลังให้เจ้าต้องเจ็บตัวเช่นนี้....?

"เจ้า...อยากจะสนุกกับข้ามากเลยหรือ....? สตรีตรงหน้าแสยะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

"ช..ใช่แล้ว..." บุรุษร่างอ้วนรีบฉีกยิ้มให้สตรีร่างเล็กตรงหน้า เผยแววตาเจ้าเล่ห์ขึ้นมาในทันที

"หึ...อยากสนุกกับข้า ก็ไม่ยาก เจ้าแค่เดินเข้ามาใกล้ๆข้าสิ...ข้าจะพาเจ้าสนุก อย่าง..ไม่..มี..วัน..ลืม เชียวละ" สตรีร่างเล็กรีบกล่าวเน้นคำหลังสุดออกมา นางยกยิ้มที่มุมปาก เผยแววตาชั่วร้ายมองไปที่บุรุษร่างอ้วนตรงหน้าอย่างเย้ยหยัน

อี้ฟูดีใจจนลืมตัว เขารีบวิ่งเข้าไปหาสตรีตรงหน้าตามคำขอ ฝ่ามือใหญ่ๆ กำลังจะลูบไล้ไปที่ใบหน้าอันขาวผ่องของคนตัวเล็ก แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้สัมผัส

สตรีตรงหน้ากลับใช้แรงเพียงน้อยนิด บิดไปที่ข้อมือของอี้ฟูเสียงดัง"เปราะ!!!!ทันที

"อ้ากกก......" อี้ฟูร้องตะโกนลั่นป่าด้วยความเจ็บปวด ไม่นานเขาก็ล้มตัวลง นอนคดตัวกองอยู่ที่พื้นราวกับไส้เดือดถูกน้ำร้อน

ไม่เพียงเท่านั้น สตรีร่างเล็กเดินเข้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว นางใช้เท้าข้างหนึ่งยกขึ้น เหยียบไปที่กล่องดวงใจของอี้ฟู แล้วบดขยี้ลงไปช้าๆ ไม่นานก็เริ่มกดแรงลงไปที่ปลายเท้าอย่างสุดกำลัง

"อ้ากกก....." บุรุษร่างอ้วนตะโกนออกมาอย่างสุดแรง เมื่อกล่องดวงใจที่หวงแหนที่สุด ถูกบดขยี้ด้วยเท้าเล็กๆแต่มีพลังมหาศาล ยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดปานจะขาดใจตาย

เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนอี้ฟูไม่ทันได้ตั้งตัว เขาได้แต่ทนรับความเจ็บปวดในครั้งนี้อย่างอดสู ใบหน้าของอี้ฟูแสดงความโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ร้องโอดครวญออกมาอย่างกล้ำกลืน

"นังปีศาจ.....ข้าจะบอกท่านพ่อให้จัดการกับเจ้า คอยดูเถอะ......?

"ปีศาจ.....อืม ช่างเป็นชื่อที่น่าฟังยิ่งนัก ถ้าเช่นนั้น...เจ้าจงมองข้าให้ดีๆ จงอย่าได้กระพริบตาเชียว ว่าปีศาจที่เจ้าเคยเห็นมา โหดร้ายเหมือนกับข้าหรือไม่...?

แววตาของนางในตอนนี้คล้ายกับวิญญาณร้ายเข้าสิงร่าง พร้อมจะกำจัดทุกคนที่อยู่ตรงหน้าให้สิ้นซากในทันที

"จ...เจ้าจะทำอะไรข้า ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย...โอ้ยย...."

อี้ฟูเบิกตากว้างอย่างตกใจ เผยให้เห็นแววตาดุร้ายของสตรีร่างเล็ก สิ้นเสียง...อี้ฟูร้องตะโกนดังลั่นป่า ไม่นานก็มีชายหนุ่มอีกสามคน ที่กำลังเฝ้าดูต้นทางอยู่ด้านนอก วิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์อย่างลุ้นระทึก

ชายทั้งสามร่างกายกำยำ ได้ล้อมรอบสตรีร่างเล็กเอาไว้อย่างรวดเร็ว

"เฮ้อออ.....ช่างเป็นร่างที่ไร้ประโยชน์เสียจริง กลับไปข้าจะต้องบำรุงร่างนี้ให้มากเสียหน่อย ตัวเล็กเยี่ยงนี้ ช่างน่ารำคาญใจยิ่งนัก.."

สตรีร่างเล็กส่ายหัวไปมา นางใช้สายตาเหยียดหยาม มองชายหนุ่มทั้งสามที่ยังยืนลังเลอยู่อย่างไม่กระพริบตา

สถานการณ์ตอนนี้เหมือนนางเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ตรงกันข้าม นางกลับไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้าน หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย

"พวกเจ้ายังจะมัวยืนรออะไรอยู่อีก รีบจัดการนางให้ข้าเร็วเข้าสิ....? อี้ฟูรีบออกคำสั่งกับลูกน้องทั้งสามคน

"คิดจะจัดการข้ารึ!!! ถ้าทำได้ก็ลองเข้ามาดู...." สตรีร่างเล็กไม่รอช้า นางถีบชายหนุ่มทั้งสามคนไปไม่ยั้ง จนพวกเขาสามคนนอนลงไปกองกับพื้นอย่างง่ายดาย

บุรุษหนุ่มสามคนต่างกระเสือกกระสนรีบลุกขึ้นยืน เตรียมตัวจะวิ่งหนี แต่ถูกสตรีตรงหน้ากระโดดถีบไปอีกครั้งเข้าเสียก่อน จนพวกเขาล้มลุกคลุกคลาน แล้วกระทืบซ้ำลงไปทันทีอย่างไม่ปรานี

"จะหนีรึ ไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก ไหนพวกเจ้าอยากจะสนุกกับข้าอย่างไรเล่า ข้ายังสนุกไม่เต็มอิ่มเลย พวกเจ้าคิดจะหนีแล้วรึ อยู่เล่นเป็นเพื่อนข้าก่อนสิพี่ชายทั้งสาม.."

แววตาสตรีร่างเล็ก จ้องมองชายหนุ่มทั้งสามอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ชายหนุ่มทั้งสามรู้สึกขนหัวลุกไปทั้งตัวทันที

สตรีร่างเล็กเตะไปที่ปลายคางของชายหนุ่มทั้งสามจนสลบไปในที่สุด นางรีบหันกลับไปมองตัวต้นเรื่องอย่างไม่กระพริบตา ทำเอาบุรุษร่างอ้วนกลัวจนฉี่ราด ไหลนองออกมาเต็มพื้นอย่างไม่รู้ตัว

"ท่านพี่อี้ฟู นี้ท่านดีใจ..ถึงกับฉี่ราดออกมาเลยหรือ..? สตรีร่างบางกระพริบตาปริบๆ ถามออกไปอย่างเย้ยหยัน

"อย่า...อย่าเข้ามานะ เจ้า..เจ้ามันปีศาจชัดๆ....อย่าเข้ามานะ...."

"ไอ๋หย๋า.....ข้าก็ไม่อยากจะเข้าใกล้ท่านนักหรอก แต่น้องหรงเอ๋อร์คนนี้ มิใช่คนเดิมอีกต่อไป ข้ามิอาจทนเห็นคนที่เลวทรามระยำต่ำช้า ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงนี้ได้อีก ข้าก็แค่...รู้สึกคันมือคันเท้าขึ้นมาเอาเสียดื้อๆ เอ๋..จะทำอย่างไรต่อไปดีน๊า...?

"อย่า..ข้ากลัว..แล้ว อย่าทำอะไรข้าเลย....ข้าจะไม่ทำอะไรเจ้าอีกแล้ว...ข้าสัญญา" อี้ฟูรีบตะโกนร้องขอชีวิต จากสตรีร่างเล็กที่อยู่ตรงหน้า

"แล้วเมื่อครู่ ที่เจ้าทำกับข้าเยี่ยงสัตว์เล่า ข้าไม่เห็นเจ้าจะสำนึกผิดอะไรขึ้นมาเลย...? สตรีตรงหน้าเดินเข้าไป นางใช้เท้ากระทืบไปที่กล่องดวงใจของอี้ฟูอีกครั้ง ก่องจะลงน้ำหนักบดขยี้แทบจะแหลกคาเท้าของนางอย่างอำมหิตเลือดเย็น

"อ้าก...."

"หึ...ในเมื่อของรักของเจ้า มันชอบสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นดีนัก เช่นนั้นข้าจะช่วยสงเคราะห์ กำจัดมันทิ้งให้เจ้าเอง"

"ย..อย่านะ..อ้ากกกก....." อี้ฟูสลบลงไปในทันทีด้วยความเจ็บปวด

"เฮ้ออ.....เจ้าอ้วนนี้ ช่างทนมือทนเท้าข้าดียิ่งนัก แต่ช่างเถอะ โชคดี..พวกเจ้าก็อาจรอด หากโชคร้าย...พวกเจ้าก็ตกเป็นอาหารของสัตว์ป่าไปสะ ข้าลาละ...."

หลังจากจัดการกับอันธพาลทั้งสี่คนเป็นที่เรียบร้อย สตรีร่างบางไม่รอช้า นางรีบจัดชุดให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะเดินหันหลังจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

เสียงลมพัดผ่านต้นไม้ใหญ่ ยอดไม้สั่นไหวไปมา สตรีร่างบางปัดมือทำความสะอาดร่างกายของนางจนเรียบร้อย นางตั้งใจจะลงจากเขา เพื่อกลับไปหามารดาเจ้าของร่างนี้ ตอนนี้ร่างกายนางเริ่มร้าวระบมเป็นอย่างมาก

"อ่ะ....ร่างนี้ช่างอ่อนแอเสียจริง ยังไม่ทันที่จะออกแรง ก็รู้สึกหมดแรงไปจนหมดเสียแล้ว..." สตรีร่างบางมองไปรอบๆป่าเหล่านี้ ก่อนจะนั่งพักเอาแรงชั่วครู่

เมื่อนึกย้อนไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางก็รู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก นางตายในขณะกำลังปฎิบัติหน้าที่ในสนามรบ คงไม่สามารถกลับไปยังโลกเดิมที่นางจากมาได้อีกเป็นแน่ จู่จู่ก็มาปรากฎตัวยังร่างนี้เข้าอย่างไม่รู้สาเหตุ ความทรงจำร่างนี้ยังคงถาโถมมาเป็นระลอกคลื่นอย่างต่อเนื่อง

"ยัยแก่ชั่วร้ายนี้ กล้าขายหลานสาวแท้ๆตัวเองอย่างไร้มนุษยธรรม ข้าจะต้องสั่งสอนนางให้หลาบจำ" สตรีร่างบางสบถออกมาทันทีอย่างหงุดหงิด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   3.ช่วยข้าด้วย

    ตอนนี้หรงหรงรู้สึกปวดหัว ราวกับจะระเบิดแตกออกเป็นเสี่ยงๆ สตรีร่างบางยังคงนั่งประติดประต่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจ้าของร่างเดิม ยิ่งความทรงจำเริ่มประทุมากขึ้นเท่าไหร่ หรงหรงก็ยิ่งสมเพชตนเองมากขึ้นเท่านั้น "เฮ้ออ...หรงหรงนะหรงหรง ทำไมชีวิตของเจ้าถึงได้อนาถใจถึงเพียงนี้ พ่อต้องมาตายตั้งแต่ตอนที่เจ้ายังไม่ทันได้ลืมตาดูโลก เเถมแม่เจ้าก็ดันมาป่วยใกล้ตาย ตัวเจ้าเองก็ไร้ซึ่งวาสนา เจ้าอดทนมาอย่างยากลำบากได้ยังไรตั้งหลายปี ดูมือเจ้าสิ หยาบกร้านออกเสียอย่างนี้ ยังดีที่เจ้ามีผิวพรรณที่ละเอียดอ่อนนุ่มนิ่ม ในเมื่อข้าได้มาเกิดใหม่ในร่างของเจ้า ข้าจะทวงคืนความยุติธรรมให้เจ้าเอง จงหลับให้สบายเสียเถิด ต่อไปนี้..แม่ของเจ้าก็เหมือนกับแม่ของข้า ข้าจะดูแลนางแทนเจ้าให้ดีเอง เจ้ามิต้องเป็นห่วงอีกต่อไป" สิ้นเสียงที่เอ่ยจบ เหมือนวิญญาณเจ้าของร่างเดิมจะรับรู้ เสียงลมพายุพัดเเรงขึ้นมาอย่างกระทันหัน ไม่นานเสียงลมก็เงียบสงบลง ทำให้บรรยากาศเริ่มกลับมาวังเวงขึ้นอีกครั้ง "ฟิ้ววววว....." กระต่ายสองตัววิ่งผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว หรงหรงแอบเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา นางรู้สึกได้ว่า ยังไงวันนี้ นางต้องได้ของติดมือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   4.เย็บแผลสด

    "แขนขวากระดูกร้าว แขนซ้ายหัก ขาทั้งสองข้างหัก ด้านหลังมีรอยดาบลากยาวต้องรีบเย็บ อกขวาก็ต้องรีบเย็บเหมือนกัน มิเช่นนั้นเจ้าคงได้ตาย เพราะมีเลือดไหลออกหมดตัวเป็นแน่ เฮ้ออออ......ข้าอยากจะรู้เสียจริง เจ้าไปขวางทางผู้ใหญ่ที่ใดเข้า ถึงได้มีชะตากรรมเยี่ยงนี้ พวกเขาช่างโหดเหี้ยมอำมหิตเสียจริง ดูท่าเจ้าคงสู้พวกเขาไม่ได้ พวกเขาคงจะแข็งแกร่งกว่าเจ้ามาก เจ้าถึงมีสภาพยับเยินเช่นนี้...? "พวกเขาคงอิจฉาใบหน้าของข้า....? *.....* หรงหรงถึงกับพูดไม่ออก เมื่อได้ยินเช่นนั้น... "หึ...เจ้าช่างหลงตัวเองเสียจริง.." หรงหรงเบะปากมองบน "งั้นก็เป็นโชคดีของแม่นาง....? "ปากเจ้านี้ไม่น่ารอดมาได้ น่าจะโดนฟันทิ้งเสีย....? หรงหรงเผลอยิ้มอย่างหมั่นไส้ออกมา ถึงแม้หรงหรงได้ตายจากโลกเดิมไปแล้ว แต่โลกนี้ก็ยังมีหนุ่มหล่อหลงเหลืออยู่ แม้ตอนนี้ร่างกายของเขาจะยังไม่สมบูรณ์ครบถ้วน แต่นางก็ไม่รู้จักใครเลยในโลกใหม่ นอกจากบุรุษตรงหน้าผู้นี้ "ข้าชอบเวลาแม่นางยิ้ม....? หรงหรงรีบหุบยิ้มลงทันทีเมื่อได้ยิน "เจ้านี้นะ อย่าได้คิดจะยั่วยวนข้าเชียว...รอข้าอยู่ตรงนี้ ประเดี๋ยวข้าจะรีบกลับมา" "แต่ว่า...? บุรุษตรงหน้าเหมื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   5.ดาม

    หรงหรงเบิกตาโตอย่างตะลึง นางมองเห็นอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยปรากฎขึ้น มีทั้งยาชา ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ และยาอีกหลายชนิดมากมายครบวงจร "อาเฉิน...ตอนนี้ท่านไม่ต้องทนเจ็บ และไม่ต้องกังวลว่าบาดแผลจะติดเชื้ออีกแล้ว....? หรงหรงสวมกอดโม่เฉินทันทีอย่างลืมตัว โม่เฉินยังคงมึนงงไม่เข้าใจในความหมายของนาง และไม่รู้ว่าสตรีตรงหน้ากำลังเอ่ยถึงเรื่องอะไร เขาไม่ค่อยเข้าใจในคำพูดของนางสักเท่าไหร่ แต่ดูจากปฎิกิริยาที่นางแสดงออกมา ก็น่าจะเป็นเรื่องดี เมื่อได้สติขึ้นมา หรงหรงจึงรีบปล่อยมือที่โอบกอดบุรุษตรงหน้าออกอย่างรวดเร็ว นางรู้สึกเขินอายเล็กน้อย กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวนาง ทำให้โม่เฉินรู้สึกผ่อนคลายยิ่งนัก "นั้นคือกล่องอันใด....? โม่เฉินมองไปดูสิ่งของในมือสตรีตรงหน้าอย่างสงสัย หรงหรงตกใจ นึกว่านางจะเห็นแค่คนเดียว "ท่านเห็นด้วยหรือ..? "อืม..เห็นสิ..มีสิ่งใดผิดปกติงั้นหรือ...? "เปล่า...มันเป็นกล่องยาที่สำคัญมาก สามารถช่วยชีวิตท่านได้.." หรงหรงเริ่มล้างแผลที่ไหล่ซ้าย จากนั้นนางจึงล้างแผลไปที่บริเวณบาดแผลที่สำคัญก่อน อย่างชำนาญและรวดเร็ว "อันนี้เรียกว่าเข็มฉีดยา ในหลอดคือยาชา ทำให้ท่านไม่รู้ส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   6. ปฎิเสธ....?

    หรงหรงนั่งลงมืออย่างพิถีพิถัน นางตักน้ำรดโคนผมให้โม่เฉิน เพื่อล้างคราบเลือดออกไปก่อนสองถึงสามรอบ ก่อนจะเทน้ำมันระเหยที่ทำจากธรรมชาติ นวดให้ทั่วทั้งบริเวณศรีษะของเขา และขยี้เบาๆจนเกิดฟองอย่างระแวดระวัง เพราะกลัวว่าหนังศรีษะเขา จะมีบาดแผลในส่วนที่นางมองไม่เห็นอีก โชคดีที่เจ้าของร่างเดิมทำน้ำมันระเหยไว้หลายขวด... ปกติชาวบ้านในหมู่บ้านระเเวกแถวนี้ ไม่มีเงินมากพอ ที่จะซื้อข้าวของเครื่องใช้แพงๆ แตกต่างกับคนในเมืองหลวง เพียงข้าวจะกรอกหม้อ ยังต้องใช้แรงงานหลายวันกว่าจะมีปัญญาซื้อมา ชาวบ้านที่นี้จึงอยู่กันอย่างประหยัดมัธยัสถ์ ไม่ค่อยใช่จ่ายฟุ่มเฟือยเหมือนกับคนในเมืองหลวง หรงหรงสระผมให้โม่เฉิน นางค่อยๆเกาอย่างเบามือ เพราะกลัวว่าเขาจะเจ็บ จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกหลายรอบ "อาเฉิน ท่านเป็นบุรุษคนแรกที่ข้าสระผมให้ และเป็นบุรุษคนแรกที่ข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ตั้งแต่เกิดมา...ข้าไม่เคยสระผมหรือเปลี่ยนเสื้อผ้าให้บุรุษคนใดมาก่อน ท่านเชื่อหรือไม่...? "เชื่อสิ นี้ถือว่าข้าเป็นบุรุษคนแรกของเจ้าสินะ.." โม่เฉินก็คิดในใจเช่นเดียวกันกับนาง นางก็เป็นสตรีคนแรก ที่เขายอมเปิดใจให้นางเห็นเรือนร่างและ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   7.ตรวจอาการ

    รุ่งเช้าที่อากาศแจ่มใส.... หรงหรงตื่นแต่เช้าตรู่ นางนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะมัวแต่คิดเรื่องไร้สาระ หรงหรงจึงลงมือเข้าครัวทำอาหารตั้งแต่รุ่งสาง หลังจากนั้นนางรีบออกไปหาบน้ำที่ท้สยหมู่บ้านมาใส่ไว้ในตุ่ม บ้านเรือนบางหลังก็เริ่มทยอยตื่นขึ้นมาบ้างแล้วประปราย "หรงเอ๋อร์...เจ้าช่างขยันจริงเชียว ตื่นมาหาบน้ำตั้งแต่เช้าตรู่ นางเมิงช่างโชคดีที่มีบุตรสาวเช่นเจ้าจริงๆ" ลุงจางในหมู่บ้านตะโกนถามไถ่สารทุกข์สุกดิบแล้วเอ่ยชื่นชมนาง "ท่านลุงก็พูดเกินไปเจ้าคะ นี้เป็นหน้าที่ของข้าที่ควรจะทำในฐานะลูกเจ้าคะ.." "อืม...แม่เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง...? "ท่านแม่ดีขึ้นมากแล้วเจ้าคะ ขอบน้ำใจท่านลุงจางที่ยังเป็นห่วง ข้าต้องกลับไปแล้ว จะรีบกลับไปดูแลท่านเเม่ต่อเจ้าคะ.." "ได้...ไปดีมาดีนะนางหนู..." "เจ้าคะท่านลุง" หรงหรงหาบน้ำจนเต็มตุ่มทุกใบ นางมองไปที่โม่เฉินอย่างหมั่นไส้ เขายังคงนอนหลับตาอยู่ ก่อนจะรีบเบือนหน้าหนี เพื่อเข้าไปดูอาการมารดาของเจ้าของร่างเดิม เมื่อเห็นสภาพหญิงชราตรงหน้า หรงหรงถึงกลับตื่นตระหนกตกใจขึ้นมา ร่างกายหญิงชราตรงหน้า ดูซูบผอมเกือบเหลือแต่โครงกระดูก หน้าตาที่อิดโรยเหมือนนอนรอความตา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   8. นางเมิงถูกพิษ

    หรงหรงรีบหยดเลือดพิสูจน์หาสาเหตุทันที เลือดสีแดงกายเป็นสีดำในชั่วพริบตาเดียว สตรีร่างบางยังไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ นางจึงหยิบเข็มเงิน เพื่อพิสูจน์หาพิษให้แน่ชัดอีกครั้ง ผลที่ได้...ปลายเข็มเงินกลายเป็นสีดำสนิทขึ้นมาทันที "ร่ายกายได้รับพิษ ท่านแม่....ท่านถูกพิษได้เช่นไรเจ้าคะ...? หรงหรงรีบหันไปถามหญิงชราตรงหน้าอย่างสงสัย "จะถูกพิษได้เยี่ยงไร แม่ก็กินยาตามที่ท่านย่าของเจ้าให้มาตลอด นอกจากนั้น...แม่ก็ไม่ได้กินยาที่ไหนอีกเลย...? นางเมิงตอบไปตามความจริง "ท่านย่า นี้ท่านย่าเป็นคนนำยามาให้ท่านตลอด เลยหรือเจ้าคะ...? "ใช่...ทำไมหรือ....? "อ่อ...เปล่าเจ้าคะ..." "ก็ลำพังบ้านเรา ไม่มีตำลึงซื้อยาที่แพงเช่นนั้นหรอก ท่านย่าเจ้าเป็นคนจิตใจดีมีเมตตา นางช่วยส่งยามาให้แม่ต้มกินในทุกๆเดือน" "ท่านแม่...ขอข้าดูห่อยาที่ท่านย่าส่งมา ได้ไหมเจ้าคะ...? "ได้....นั้นไง วางข้างตระกร้าผ้าตรงนั้น แต่ยาน่าจะใกล้หมดแล้วแหละ ประเดี๋ยวอีกไม่นาน ย่าเจ้าน่าจะให้คนนำมาส่งให้เพิ่ม" หรงหรงที่ได้ฟังกัดฟันกรอดขึ้นมาอย่างโกรธเคือง.. หรงหรงรีบลุกขึ้นเดินไปหยิบห่อยาขึ้นมาดู เพียงนางเปิดห่อยาออก นางก็ได้กลิ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   ว่าที่สามี

    "หรงเอ๋อร์!!! รีบตามแม่เข้ามาในห้องประเดี่ยวนี้ แม่ต้องการคำอธิบาย...? นางเมิงทำหน้าตาขึงขังไม่พอใจเป็นอย่างมาก แววตานางลุกโชนราวกับเปลวไฟที่กำลังร้อนระอุ พร้อมที่จะปะทุได้ทุกเมื่อ หญิงชราผู้นี้อยากจะรู้จริงๆเชียว ว่าบุตรสาวตัวดีของนางกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ถึงได้พาบุรุษลึกลับไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่ไหนก็ไม่รู้ กลับมาพักที่ชายคาเดียวกันเช่นนี้ หากเป็นเพียงญาติสนิท นางยังพอจะอนุโลม แต่นี้นางเมิงไม่รู้จักบุรุษผู้นี้เสียด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเขามีที่มาที่ไปอย่างไร ยิ่งทำให้นางเมิงไม่พอใจเอามากๆ "ท่านแม่ ท่านฟังข้า...." หรงหรงทำหน้าตาสำนึกผิด "ไม่ แม่ไม่ฟัง รีบไล่เขาออกไป" หญิงชรารีบเอ่ยตัดบท "ท่านแม่....แต่เขาคือผู้มีพระคุณของลูกนะเจ้าค่ะ ลูกจะกล้าไล่ผู้มีพระคุณของลูกไปได้อย่างไรกัน ท่านแม่เคยสอนลูกเอง ว่าเป็นหนี้ต้องทดแทนบุญคุณคน ลูกจะหลงลืมได้เยี่ยงไร" หรงหรงชักเอาแม่น้ำทั้งแปดขึ้นมาสาธยาย จนมารดาเริ่มคล้อยตาม "ได้...แม่จะให้โอกาสเจ้าได้อธิบาย หากเจ้ามีเหตุผลไม่เพียงพอ แม่จะตีเจ้าให้ตาย และไล่ตะเพิดบุรุษผู้นั้นออกบัดประเดี๋ยวนี้.....? หรงหรงเงียบไปครู่หนึ่ง นางจึงได้เริ่มพูดความจริ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   10. ปรึกษาหารือ..

    "เพลี้ยะ.!!!" ฝ่ามือหยาบกร้านฟาดไปที่ต้นแขนบุตรสาวไม่ยั้ง "โอ้ยยย...." "ท่านแม่ พอแล้ว ข้าสำนึกผิดไปแล้วจริงๆ" หรงหรงรีบหยิบฝ่ามือหญิงชราขึ้นมาเป่า เมื่อเริ่มเห็นรอยเป็นสีแดง หญิงชรารีบสะบัดมือออกไปในทันที สายตาเพชรฆาตมองไปที่บุตรสาวตัวดี ไม่รู้ว่าบุตรสาวกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ถึงได้พาบุรุษลึกลับที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่ไหนก็ไม่รู้ กลับมาพักที่ชายคาเดียวกันเช่นนี้ หากเป็นเพียงญาติสนิท นางยังพอจะอนุโลมให้ แต่นี้นางเมิงไม่รู้จักบุรุษผู้นี้เสียด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเขามีที่มาที่ไปอย่างไร ยิ่งทำให้นางเมิงรู้สึกไม่พอใจเอามากๆ "ท่านแม่ ท่านฟังลูกสาวท่านอธิบายก่อนสิ...." หรงหรงทำหน้าตาสำนึกผิด พร้อมกับขยับเข้าไปใกล้หญิงชรา "ไม่ แม่ไม่ฟัง รีบไล่เขาออกไปให้ไว.." หญิงชรารีบเอ่ยตัดบท "ท่านแม่....แต่เขาคือผู้มีพระคุณของลูกนะเจ้าคะ ลูกจะกล้าไล่ผู้มีพระคุณของลูกไปได้อย่างไรกัน ท่านแม่เคยสอนลูก ว่าเป็นหนี้ต้องทดแทนบุญคุณคน ลูกจะหลงลืมได้เยี่ยงไรเจ้าคะ..." หรงหรงชักเอาแม่น้ำทั้งแปดขึ้นมาสาธยาย จนมารดาเริ่มมีท่าทีอ่อนลง "ได้...แม่จะให้โอกาสเจ้าได้อธิบาย หากเจ้ามีเหตุผลไม่เพียงพอ แม่จะตีเจ้าให้ตาย แล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05

บทล่าสุด

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   36.สัตว์เลี้ยงตัวแรก

    หรงหรงรีบเร่งฝีเท้า กว่านางจะเดินกลับถึงเรือน ก็เป็นเวลาในยามซวี(19.00-21.00) แสงตะเกียงริบหรี่ ส่องสะท้อนออกมาตามบ้านเรือนแต่ละหลังคาเรือน ราวกับแสงของหิ่งห้อยระยิบระยับ สตรีร่างบางเดินมาหยุดที่ทางเข้าหน้าประตูเรือนของตนเอง ด้วยท่าทางที่เหนื่อยล้า ก่อนจะรีบปรับลมหายใจให้เป็นปกติที่สุด เพราะในระหว่างทาง หรงหรงรีบเร่งฝีเท้าเดินจ้ำอ้าว และใช้วิชาตัวเบาสลับกันไปมาอย่างไม่หยุดพัก หากขืนนางกลับมาช้ากว่านี้ เกรงว่ามารดากับโม่เฉินคงจะต้องอยู่ไม่สุขเป็นแน่... "หรงเอ๋อร์....นั้นใช่ลูกหรือไม่....? นางเมิงจุดตะเกียงนั่งรอบุตรสาวตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน จนตอนนี้ท้องฟ้ากลายเปลี่ยนเป็นสีดำมืดสนิท เมื่อหญิงชรามองเห็นเพียงเงเลือนลาง ก็จดจำได้ว่าเงาที่เห็น จะต้องเป็นบุตรสาวของตนอย่างแน่นอน "ใช่เจ้าคะ ข้าคือหรงเอ๋อร์ของท่านแม่ตัวจริงเสียงจริงแน่นอน..." เมื่อได้ยินเสียงบุตรสาวตอบรับ หญิงชราก็รีบกระโจนตัววิ่งออกไปเปิดประตูเรือนด้วยความเร็วแสง แล้วแอบถอยหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อเห็นว่าบุตรสาวกลับมาอย่างปลอดภัยดี โม่เฉินมองดูจากระยะไกล เมื่อเห็นว่าหรงหรงกลับมาอย่างปลอดภัย เขาจึงรีบถอนหายใจ

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   35.ขึ้นเขาอีกครั้ง

    ท้องฟ้าสีครามกับบรรยากาศที่สดใส พร้อมต้อนรับรุ่งอรุณในอีกไมช้า หรงหรงตื่นขึ้นมาตามสัญชาตญาณ เพื่อเตรียมตัวขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรราวกับเข็มนาฬิกาอย่างรู้หน้าที่ "หรงเอ๋อร์...จะไปแล้วรึ....? น้ำเสียงอันอ่อนโยนดังแว่วมาจากทางด้านหลัง ทำให้หรงหรงต้องรีบหันกลับไปมองทันที "อ้าว...ตื่นแล้วหรือ กลับไปนอนต่ออีกสักหน่อยเถิด พระอาทิตย์ยังไม่ทันจะขึ้น ท่านรีบตื่นขึ้นมาทำสิ่งใด ยามนี้มิใช่เวลาทำงานเสียหน่อย... " หรงหรงหันไปเอ่ยถามโม่เฉิน เมื่อเห็นเขากำลังนั่งอยู่บนรถเข็นแล้วจ้องมองมาที่นาง "นอนไม่หลับ...แล้วนั้นหรงเอ๋อร์จะไปนานหรือไม่...? โม่เฉินจ้องมองไปที่หรงหรงอย่างรอคำตอบ เมื่อเห็นคนตรงหน้ากำลังกุลีกุจอกับการเก็บสัมภาระ "อืม...วันนี้อาจจะใช้เวลานานกว่าทุกวัน ข้าคิดว่าจะเดินข้ามเขาขึ้นไปอีกสักสองลูก เผื่ออาจจะเจอโสมภูเขาและสมุนไพรล้ำค่าที่หายากเพิ่มขึ้น หากคาดคะเนไม่ผิด คงน่าจะกลับมาตอนพลบค่ำโน้นแหละ..." กล่าวจบ หรงหรงก็หันกลับไปจัดแจงกระเป๋าสัมภาระต่อ เพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง "หากข้าเดินได้ก็คงจะดี หรงเอ๋อร์จะได้ไม่ต้องมาทนลำบากอยู่เช่นนี้เพียงลำพัง ข้าช่างเป็นคนที่ไร้ประโยชน์เสียจริง.

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   34.กระชับความสัมพันธ์

    หลังจากหรงหรงได้เริ่มสอบถามอาการป่วยจากภรรยาลุงเหลียง หรงหรงจึงรีบเดินทางกลับไปที่บ้านลุงเหลียง พร้อมกับภรรยาลุงเหลียงในเวลาไม่นาน พอมาถึงกระท่อมที่มุงจากหญ้าคาที่ท้ายหมู่บ้าน หรงหรงก็ได้ยินเสียงลุงเหลียงนอนร้องโอดครวญดังแว่วมา เมื่อเปิดประตูมองเข้าไปดู ลุงเหลียงกำลังนอนเอามือกอดท้องไว้แน่น เขาบิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวด ราวกับไส้เดือนถูกน้ำร้อนลวก "ท่านป้า ปกติท่านลุงกินข้าวมากน้อยเพียงใดหรือเจ้าคะ...? หรงหรงหันไปสอบถามอาการลุงเหลียงจากปากภรรยาเขาในทันที "กินข้าวมื้อละชามตรงตามเวลาทุกวัน เอ๊ะ...นางหนู...เหตุใดเจ้าจักต้องถามหาถึงอาการสามีข้าเช่นนี้ หรือว่าเจ้าเกิดคิดจะเบี้ยวขึ้นมา ไม่ยอมจ่ายค่ารักษาให้สามีข้าเอาเสียดื้อๆ...? ภรรยาลุงเหลียงมองหรงหรงอย่างชั่งใจ "จะเป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไรกันเจ้าคะ ข้ามิคิดจะบิดเบี้ยวแน่นอนหากว่าสาเหตุมาจากอาหารที่เรือนข้าจริง ข้าจักต้องจ่ายค่าเสียเวลาให้ท่านลุงอย่างสมเหตุสมผลแน่นอน ส่วนเรื่องที่ข้าถาม เพียงเพราะอยากรู้ถึงสาเหตุให้แน่ชัด ข้าจะได้วินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น..." "วินิจฉัย....แม่นยำ.....? "ใช่เจ้าคะท่านป้า..." "

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   33.ตัดขาดความสัมพันธ์

    หรงหรงทำทียกท่อนฟืนชูขึ้น สองผัวเมียก็ได้แต่ร้องตะโกนห้ามปราม ไม่กล้าเข้าไปใกล้อย่างอกสั่นขวัญแขวน แม่เฒ่าอิ๋นแทบจะเป็นลมทั้งยืน ในใจนางลุ้นระทึกยืนดูเหตุการณ์ อย่างกระสับกระส่าย "ข้ากับท่านแม่ มิมีสิ่งใดต้องเสีย แต่หากว่าเป็นพวกท่าน นั้นก็ไม่แน่ ข้ามีแค่สองปากหากินอย่างไรก็ได้ แต่พวกท่านมีตั้งหกปาก คงจะต้องลำบากน่าดู ข้าจะดูสิว่า....พวกท่านจะทนหิวตายไปในช่วงหน้าหนาวที่ใกล้จะมาถึงได้อย่างไร หากไม่มีธัญพืชให้เหลือพอประทังชีวิตทั้งครอบครัว...? หรงหรงทำทีจะโยนท่อนฟืนขึ้นไปบนยุ้งฉาง "หยุดนะหรงเอ๋อร์ นี้เจ้าบ้าไปแล้วหรือ...? ท่านป้าสะใภ้รีบตะโกนห้ามปรามหลานสาวอย่างหวาดหวั่น "หรงเอ๋อร์ เจ้าใจเย็นลงก่อน มีอะไรก็ค่อยๆพูด ค่อยๆจากัน อย่าได้วู่วามไปเชียว..." ฮ้าวสิงรีบเกลี้ยกล่อมหลานสาว "ที่ผ่านมา พวกท่านพากันใช้ธัญพืชส่วนของท่านแม่ไปอย่างไม่คำนึง ทั้งกิน ทั้งขาย ข้าล้วนไม่ถือสาหาความ ถือเสียว่า...ข้ายกหนี้ให้พวกท่านทั้งหมด และถือว่า...ข้าได้ทดแทนบุญคุณของตระกลูไปจนหมดสิ้น ในเมื่อบิดาของข้าได้ตายจากโลกนี้ไปนานแล้ว นับตั้งแต่วันนี้ ตระกูลของพวกท่าน ถือเสียว่าได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับข้าไ

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   32.ธัญพืช...

    หนึ่งเดือนผ่านไป..... เรือนไม้หลังใหม่ใช้เวลาแก้แบบหลายครั้ง จึงทำให้ต้องขยายเวลาในการก่อสร้างเพิ่มขึ้น ตอนนี้ตัวเรือนทั้งด้านนอกและด้านใน ถูกสร้างเสร็จจนหมดทุกห้อง มีห้องครัว ห้องกินข้าว เรือนรับรอง รวมไปถึงห้องนอน แต่ละห้องล้วนถูกสร้างสรรค์ออกมา ได้อย่างปราณีตและมีแบบแผน หรงหรงรู้สึกพอใจกับผลงานชิ้นเอกที่ตนได้เป็นคนออกแบบเป็นอย่างมาก แต่ละโครงสร้างที่นางตั้งใจลงลายเส้นไปในกระดาษ ถูกสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อลังการ จนเกินความคาดหมาย ซึ่งในส่วนที่เหลือ เพียงแค่ตกแต่งและลงพื้นสีก็เป็นอันแล้วเสร็จ ช่างไม้ฉู่กับลูกมือทุกคนใช้เวลารวมกันร่วมสองเดือนเศษ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดการเอาไว้ เพราะกว่าจะสร้างเรือนหลังนี้ให้ตรงตามความพอใจของเจ้าของเรือน พวกเขายังต้องรื้อแก้ใหม่ไปอีกหลายรอบ หรงหรงยอมทุ่มตำลึงไปไม่อั้น หวังให้เรือนออกมาแข็งแรงและทนทาน เพื่อทนต่อแดดและลมฝน เนื่องจากเรือนไม้หลังใหม่ กว้างขวางโอ่อ่ากว่าแต่ก่อนจนเทียบกันไม่ติด บวกกับเนื้อที่ว่างเปล่าที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้นานโดยเปล่าประโยชน์ หรงหรงจึงได้สั่งให้ช่างไม้ฉู่สร้างกำแพงรอบบ้านขึ้นมาใหม่ โดยรื้อถอนตัวเรือนหลังเก่

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   31.เอาคืน....

    "กรี้ดดดดดดด!!!!!"เสียงลั่วลั่วกรีดร้องดังลั่นด้วยความเจ็บปวด หรงหรงไม่รีรอ นางใช้แรงเพียงน้อยนิดกระชากเส้นผม บีบบังคับให้ลั่วลั่วเงยหน้าขึ้นมา โดยไม่ให้ลั่วลั่วได้ทันตั้งตัว ก่อนจะเหลือบไปทางชาวบ้านที่กำลังยืนมองดูเหตุการณ์อย่างลุ้นระทึก เมื่อหนังศรีษะลั่วลั่ว ถูกหรงหรงดึงกระชากเข้าให้ ลั่วลั่วพลันน้ำตาเล็ด แสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา "หรงหรง นี้เจ้ากำลังทำบ้าอันใดกัน...? แม่เฒ่าอิ๋นกัดฟันกรอดเอ่ยออกมาอย่างโมโห เมื่อเห็นหรงหรงดดึงกระชากผมหลานสาวของตนอย่างไม่สะทกสะท้าน "ไอ๋หย่า.....นี้ข้ายังมิทันจะได้เริ่ม ใยพวกท่าน....ถึงได้พากันทำสีหน้าอย่างกับมีคนตายเยี่ยงนั้นด้วยเล่า อย่าพึ่งตกตะลึงกันไปก่อนสิเจ้าคะ นี้ข้ายังมิทันจะออกแรงเลยด้วยซ้ำ..." "นี้เจ้ากลายเป็นบ้าไปแล้วหรือ จู่จู่ก็มากระชากผมหลายสาวข้า ยังไม่รีบปล่อยมือเจ้าออกอีก ดูสิ...ลั่วลั่วคงจะเจ็บน่าดู..." "อ่อ...แล้วข้ามิใช่หลานสาวท่านหรอกหรือ เมื่อครู่ท่านยังจะเป็นจะตายเพราะข้าอยู่เลย ฉไนเลย...ตอนนี้กลับลืมข้าไปเสียเล่า....? "นี้เจ้า...." แม่เฒ่าอิ๋นยืนกำมือแน่นอย่างโกรธเคือง "พวกท่านมองดูนี้สิ....จากที่ข้าได้สัมผัส เหมือ

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   30.พิสูจน์...

    แม่เฒ่าอิ๋นรีบมองดูชาวบ้านที่กำลังคล้อยตามอย่างลำพองใจ นางรีบหันไปกระซิบกระซาบกับหลานสาว เพื่อเร่งให้ลั่วลั่วพูดต่อไปเรื่อยๆอย่าได้หยุดปาก เพราะคำพูดของหลานสาวดูจะมีน้ำหนักมากกว่าตน ซึ่งล่าสุดแม่เฒ่าอิ๋นพึ่งจะถูกตัดสินคดีความไปสดๆ ร้อนๆ หากให้ตนเองเป็นตัวตั้งตัวตี เกรงว่าชาวบ้านนั้นจะไม่หลงเชื่อ พวกชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ ล้วนเชื่อมั่นในคำพูดของหลานสาวมากกว่าตนแน่นอน เพราะตั้งแต่ลั่วลั่วเกิดมา นางไม่เคยทำเรื่องให้ต้องเสี่ยมเสียชื่อเสียงเลยสักครั้ง ชาวบ้านทุกคนต่างรู้ดี "ลั่วลั่ว เจ้ารีบบอกทุกคนไปสิว่า ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่.....? แม่เฒ่าอิ๋นรีบกำชับหลานสาว "เจ้าคะท่านย่า....." เมื่อลั่วลั่วบังเอิญหันไปสบตาเข้ากับหรงหรง นางพลันรู้สึกถึงแรงกดดัน เริ่มแสดงท่าทีกล้าๆกลัวๆออกมา "ตกลงเรื่องราวเป็นมาอย่างไรกันแน่.....? ท่านผู้นำหมู่บ้านรู้สึกมึนงงกับเรื่องราวในตอนนี้ "น....นางเป็นตัวปลอมเจ้าคะ นางไม่ใช่น้องสาวของข้าแน่นอน.." ลั่วลั่วยืนชี้นิ้วไปทางหรงหรง "ตัวปลอม...ว่าแต่เจ้าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ว่าข้าเป็นตัวปลอม....? หรงหรงนั่งลงไปที่เก้าอี้ข้างโม่เฉิน ในมือนางถือส้มอยู่ลู

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   29.แสดงละคร...

    ลั่วลั่วที่กำลังซักผ้าใกล้เสร็จ เมื่อพวกนางสามคนเห็นว่าหรงหรงกำลังเดินถือตระกร้าผ้า เพื่อมุ่งหน้ามาทางลำธารที่พวกนางทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ พวกนางต่างหันไปมองหรงหรง ราวกับเห็นศัตรูตัวฉกาจ ชิงหยวนและชิงผิง พวกนางสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องที่อายุไล่เลี่ยกันกับลั่วลั่ว พ่อแม่ของพวกนางเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกันมาก จึงทำให้ชิงหยวนและชิงผิง สนิทกับลั่วลั่วไปโดยปริยาย โดยทั้งสามคนมักจะชอบไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง และมาไปหาสู่ไม่เคยขาดอยู่เป็นประจำ เพราะเรือนของพวกนางสองคน อยู่เพียงฝั่งตรงข้ามกับเรือนลั่วลั่ว จึงทำให้สตรีทั้งสาม สนิทชิดเชื้อกันมาตั้งแต่จำความได้ สตรีทั้งสามคนกำลังพูดคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน แต่พอเห็นว่าหรงหรงกำลังเดินผ่านไป พวกนางก็หยุดชะงักลงทันที ก่อนจะสุมหัวกันซุบซิบนินทาเรื่องจิปาถะ ตามสัญชาตญาณของหญิงสาวชาวบ้าน หรงหรงเดินอ้อมไปอีกฝาก แล้วนั่งลงซักผ้าอยู่เพียงลำพัง โดยไม่ได้สนใจสายตาของสตรีทั้งสามแม้แต่น้อย "ลั่วลั่ว...ข้าได้ยินมาว่าญาติผู้น้องของเจ้า ถึงกับต้องใช้ร่างกายไปแลกเอาเงินมาปลูกเรือนหลังใหม่ เป็นเรื่องจริงหรือไม่...? ชิงหยวนตะโกนถามเสียงดังเพื่อให้หรงหรง

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   28.ลูกแมว....

    ท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำคืน หรงหรงรู้สึกอ่อนเพลียจากการขึ้นเขาไปล่าสัตว์เมื่อตอนกลางวันอยู่ไม่น้อย โดยนิสัยของนางควรจะหลับสนิทไปตั้งแต่หัวค่ำ แต่ลางสังหรณ์ของนางบอกว่า วันนี้จะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมาแน่ๆ หรงหรงจึงได้หลับๆตื่นๆ และลุกขึ้นออกมาสูดอากาศในกลางดึกเพียงลำพัง สตรีร่างบางใช้วิชาตัวเบาดีดตัวเองให้ลอยขึ้นไปกลางอากาศอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านตาอยู่ในบริเวณลานบ้าน ในมือนางพลางกัดแอปเปิ้ลไปคำ พร้อมทั้งแหงนหน้ามองไปบนฟ้า เพื่อดูทิวทัศน์ในยามค่ำคืน ทิวทัศน์ในยามนี้ช่างแตกต่างในตอนกลางอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้มีเพียงความมืดสนิทและเสียงจิ้งหรีดเรไร ต่างร้องขับขานประสานเสียงกันขึ้นลงเป็นจังหวะ อยู่เป็นครั้งคราว ค่ำคืนที่มืดสนิททำให้ผู้คนรู้สึกหดหู่ บนท้องฟ้ามีดวงดาวประปรายเพียงน้อยนิด หรงหรงพลันเหลือบไปเห็นถึงความเคลื่อนไหวของเงาคนนอกรั้วบ้าน นางมองผ่านเเสงตะเกียงริบหรี่ ที่ส่องออกไปทางฝั่งประตูรั้วได้อย่างชัดเจน หากหลับตาฟังให้ดีๆ จะได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเบาของคนจำนวนหนึ่งจากทางด้านนอก ลำพังเพียงคนธรรมดาทั่วไปไม่อาจสัมผัสได้ถึงความผิดปกติอ

DMCA.com Protection Status