แชร์

8. นางเมิงถูกพิษ

ผู้เขียน: Myเหมยลี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-02 09:34:18

หรงหรงรีบหยดเลือดพิสูจน์หาสาเหตุทันที เลือดสีแดงกายเป็นสีดำในชั่วพริบตาเดียว สตรีร่างบางยังไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ นางจึงหยิบเข็มเงิน เพื่อพิสูจน์หาพิษให้แน่ชัดอีกครั้ง

ผลที่ได้...ปลายเข็มเงินกลายเป็นสีดำสนิทขึ้นมาทันที

"ร่ายกายได้รับพิษ ท่านแม่....ท่านถูกพิษได้เช่นไรเจ้าคะ...? หรงหรงรีบหันไปถามหญิงชราตรงหน้าอย่างสงสัย

"จะถูกพิษได้เยี่ยงไร แม่ก็กินยาตามที่ท่านย่าของเจ้าให้มาตลอด นอกจากนั้น...แม่ก็ไม่ได้กินยาที่ไหนอีกเลย...? นางเมิงตอบไปตามความจริง

"ท่านย่า นี้ท่านย่าเป็นคนนำยามาให้ท่านตลอด เลยหรือเจ้าคะ...?

"ใช่...ทำไมหรือ....?

"อ่อ...เปล่าเจ้าคะ..."

"ก็ลำพังบ้านเรา ไม่มีตำลึงซื้อยาที่แพงเช่นนั้นหรอก ท่านย่าเจ้าเป็นคนจิตใจดีมีเมตตา นางช่วยส่งยามาให้แม่ต้มกินในทุกๆเดือน"

"ท่านแม่...ขอข้าดูห่อยาที่ท่านย่าส่งมา ได้ไหมเจ้าคะ...?

"ได้....นั้นไง วางข้างตระกร้าผ้าตรงนั้น แต่ยาน่าจะใกล้หมดแล้วแหละ ประเดี๋ยวอีกไม่นาน ย่าเจ้าน่าจะให้คนนำมาส่งให้เพิ่ม"

หรงหรงที่ได้ฟังกัดฟันกรอดขึ้นมาอย่างโกรธเคือง..

หรงหรงรีบลุกขึ้นเดินไปหยิบห่อยาขึ้นมาดู เพียงนางเปิดห่อยาออก นางก็ได้กลิ่นฉุนขึ้นจมูกอย่างรุนแรง ดูก็รู้ว่ามิใช่ยาดี

"นี้ถึงกับคิดจะฆ่ากันให้ตายเชียวรึ ยัยแก่หนังเหนียวคนนี้ เห็นทีข้าคงปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้ว.." หรงหรงบ่นพึมพำเสียงเบาอย่างฉุนเฉียว ก่อนจะปรับสีหน้าหันกลับมาทางหญิงชราอย่างปกติที่สุด

"เป็นอย่างไรบ้างหรงเอ๋อร์ แค่ก...แค่ก...?

"ท่านแม่ ข้ารู้สึกว่ายาพวกนี้มีปัญหา"

"มีปัญหาอย่างนั้นรึ....?

"ต่อไปนี้ข้าจะดูแลเรื่องยาให้ท่านเอง หากท่านย่านำยามาให้ท่านอีก ให้ท่านแม่เก็บยาพวกนั่นเอาไว้ให้ข้าตรวจสอบดูก่อนนะเจ้าคะ....?

"เพราะเหตุใด...? นางเมิงถามออกไปอย่างสงสัย

"ท่านแม่ลองคิดดูสิ ท่านกินยาพวกนี้อย่างต่อเนื่อง แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย อาการมีแต่ทรุดหนักลงไปเรื่อยๆ ท่านแม่ไม่เคยสงสัยบ้างเลยรึเจ้าคะ....?

"ที่เจ้าพูดมา ก็มีส่วนถูก...."

"ท่านแม่เพียงกินยาที่ข้าต้มก็พอ อีกไม่นานท่านแม่จะกลับมาเดินเหินได้ปกติอีกครั้ง ส่วนยาพวกนี้ ข้าจะเอาไปกำจัดทิ้งเสีย ส่วนเรื่องยาพวกนี้...ท่านแม่จะต้องเก็บไว้เป็นความลับ ห้ามแพร่งพรายให้คนอื่นรู้แม้แต่คนเดียวนะเจ้าคะ.." หรงหรงรีบกำชับมารดา

"ได้แม่รับปาก.." นางเมิงมองดูบุตรสาวอย่างไม่เชื่อสายตา นี้ใช่บุตรสาวนางจริงๆใช่ไหม เหตุใดนิสัยใจคอบุตรสาว จึงได้เปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน

"ตอนนี้เพียงแค่ให้น้ำเกลือบำรุงร่างกายไปก่อน หลังจากนั้นค่อยทยอยขับพิษที่ตกค้างออกไปให้หมด..." หรงหรงหยิบขวดน้ำเกลือออกมา ยิ่งทำให้นางเมิงสงสัยมากยิ่งขึ้น

"ขวดน้ำสีขาวๆนั้นรึ ที่เจ้าเรียกว่าน้ำเกลือ มิใช่เอาไว้กินหรอกหรือ...?

"อันนี้คือน้ำเกลือใช้ในการรักษา กินไม่ได้เจ้าคะ เวลาหาเส้นเลือดอาจจะเจ็ยเหมือนมดกัด ท่านแม่จะรู้สึกอึดอัดชั่วครู่ แต่หลังจากนั้น...ท่านแม่จะรู้สึกดี และมีเรี่ยวแรงมากขึ้นเจ้าคะ.."

"วิเศษปานนั้นเชียว...?

"ของที่ท่านเซียนให้มาเองกับมือ เหตุใดจะไม่วิเศษละเจ้าคะ"

"แล้ว...ท่านเซียนตนนั้นหนุ่มหรือแก่...? หรงหรงแทบจะสำลักน้ำลายตัวเองออกมาในคำถามของมารดา

"ท่านแม่...!!!" หรงหรงรู้ว่ามารดากำลังจะสื่อถึงอะไร

"เอาเถอะ เอาเถอะ แม่ก็แค่ถามดู ช่างเถอะตอนนี้แม่ไม่อยากรู้แล้ว..."

หลังจากให้น้ำเกลือเริ่มซึมซับเข้าสู่ร่างกาย นางเมิงใบหน้ากลับมามีเลือดฝาดอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานนางเมิงก็ลุกขึ้นนั่งได้เอง โดยที่ไม่ต้องมีบุตรสาวคอยพยุง

"หรงเอ๋อร์...ยาของท่านเซียนช่างวิเศษเสียจริง แม่รู้สึกดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ท่านเซียนอยู่ที่ใด..ถ้าแม่เดินได้คล่อง แม่จะไปขอบคุณท่านเซียนด้วยตัวแม่เอง"

"เป็นถึงท่านเซียน เรามิอาจพบเจอได้ง่ายๆ หรอกเจ้าคะ ตอนนี้พิษอาจจะยังมหลงเหลืออยู่บ้าง ยังขจัดออกไม่หมด ข้าจะรีบขึ้นเขาไปหาสมุนไพร เพื่อกำจัดพิษที่ตกค้างให้หมด ท่านแม่จะได้หายขาดจากโรคนี้เสียทีน่ะเจ้าคะ.."

"จริงของเจ้า แม่คิดน้อยไป หรงเอ๋อร์...ถ้าเจ้าพบท่านเซียนอีกครั้ง เจ้าต้องรีบขอบคุณท่านเซียนแทนแม่ เจ้าอย่าลืมเชียว....?

"ได้ๆๆๆ ท่านเเม่...นี้ท่านฟังข้าพูดเมื่อครู่อยู่หรือเปล่าเจ้าคะ....?

"อือ...เจ้าบอกจะขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพร ตอนนี้แม่รู้สึกดีขึ้นกว่าแต่ก่อน เจ้ามิต้องห่วงแม่ แต่ยังไงก็อย่าลืมรีบไปขอบคุณท่านเซียนให้แม่อีกครั้งเชียวนะ ได้ยินหรือไม่....?

"เจ้าคะ เจ้าคะ ข้าได้ยินแล้ว.." หรงหรงเพียงคิดในใจ นางนี้แหละเทพเซียน จะให้นางไปขอบคุณใครได้อีก คิก....คิก

หรงหรงลืมเรื่องโม่เฉินไปอย่างสิ้นเชิง แต่รออีกสักพักค่อยบอกมารดาเรื่องเขาก็ยังไม่สาย หากบอกตอนนี้ เกรงว่านางเมิงจะเป็นลมล้มพับไป เนื่องด้วยร่างกายที่ยังไม่ฟื้นตัวดี รอให้ร่างกายนางเมิงฟื้นตัวแข็งแรงดีขึ้นอีกหน่อย หรงหรงค่อยบอกหญิงชราในภายหลังก็ยังไม่สาย

"ท่านแม่ ตอนนี้ท่านนอนพักผ่อนก่อนเถิด ข้าว่าจะออกไปเก็บสมุนไพรบนเขามาเพิ่มอีกสักหน่อย..."

"ได้ ระวังตัวด้วยละ.....?

"เจ้าคะ..." หรงหรงเดินออกมาพร้อมกับข้าวต้มหนึ่งถ้วย นางเดินมาหาโม่เฉินที่ลานข้างบ้าน อย่างรู้หน้าที่

"อาเฉิน...เลยเวลากินข้าวกินยาแล้ว ท่านคงจะหิวแย่แล้วกระมัง....?

"ไม่เป็นไรข้าทนได้ ตอนนี้ข้ากำลังมองดูลูกนกตัวน้อย เหมือนมันกำลังจะหลอกล่อให้แม่นกกินเหยื่อ ลูกนกตัวนี้ช่างซนยิ่งนัก...หรงเอ๋อร์..เจ้ามีความคิดเห็นเช่นไรกับลูกนกตัวนี้....?

หรงหรงรู้ได้ในทันที ว่าโม่เฉินกำลังหลอกต่อว่านางอยู่อย่างแน่นอน นางแหงนหน้ามองขึ้นไปบนต้นไม้ ก็ไม่เห็นมีนกอยู่แม้แต่ตัวเดียว

ชิ...บุรุษผู้นี้ช่างร้ายกาจยิ่งนัก กล้าต่อว่านางอย่างนั้นหรือ....?

"อาเฉิน นี่ท่านแอบฟังเรื่องที่ข้าคุยกันกับท่านแม่ของข้า....? หรงหรงมองไปที่โม่เฉินเป็นเชิงตำหนิ

"จะแอบฟังได้อย่างไร เรือนเจ้ามิได้เก็บเสียง ข้าก็แค่ได้ยิน...มิได้ตั้งใจแอบฟังเสียหน่อย คิดไม่ถึงว่าหรงเอ๋อร์ไม่ใช่แค่เก่งเรื่องการแพทย์เพียงอย่างเดียว เจ้ายังมีความสามารถในการพูดจาเกลี้ยกล่อมคนป่วยได้อีกด้วย หากเพียงเเค่มองผิวเผิน เจ้าก็เป็นเพียงแค่หญิงสาวชาวบ้านธรรมดาทั่วไป หาไม่...ข้าคงคิดว่าหรงเอ๋อร์เป็นท่านแม่ทัพแอบปลอมตัวมา เพื่อมาสืบดูความเป็นอยู่ของราษฎร....?

"อาเฉินช่างมองข้าสูงส่งเกินไป ข้ามิกล้ารับไว้ มิกล้า มิกล้า นี้มันเป็นความสามารถส่วนตัวของข้าโดยเฉพาะ ผู้อื่นไม่สามารลอกเลียนแบบได้ อาเฉินอย่าได้คิดเป็นอื่นเชียว..."

"อืม...นับถือ นับถือ"

"แน่นอน คิก...คิก..." หรงหรงยิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะ

"หรงเอ๋อร์ช่างเก่งกาจยิ่งกว่าผู้ใด คำพูดช่างประกาศิตไร้เทียมทาน" โม่เฉินมองนางด้วยแววตาที่ยกย่องชื่นชม

"อย่ามัวเสียเวลาต่อปากต่อคำอยู่เลย รีบกินข้าวได้แล้ว จะได้กินยาตาม วันนี้ข้ามีธุระต้องไปทำ ข้าจะรีบล้างแผลให้ท่านก่อน.."

"พักผ่อนไม่เต็มที่ ยังต้องไปที่ใดอีก...?

"ข้าจะขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรให้ท่านแม่ ไปไม่นานหรอก จะรีบกลับมาให้ทันมื้อเย็น ท่านอย่าได้ห่วงไปเลย.."

"ข้ารู้ว่าหรงเอ๋อร์เก่ง ดูแลตัวเองได้ แต่ก็ต้องระวังตัวทุกฝีก้าวด้วยเช่นกัน เข้าใจหรือไม่...? โม่เฉินรู้ว่านางมีวรยุทธ์สูงส่ง แถมนางยังมีความลับอีกตั้งมากมายที่เขารู้ไม่หมด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อดเป็นห่วงนางไม่ได้อยู่ดี

"ข้าเข้าใจแล้ว ฝากท่านดูแลเรือนและท่านแม่ข้าด้วย....." หรงหรงเดินมาจับที่แก้มของโม่เฉินเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป พร้อมมุ่งหน้าตรงไปบนเขา

โม่เฉินได้แต่มองตามหลังสตรีร่างบางที่กำลังเดินจากไปอย่างช้าๆ สายตาเขายังคงจดจ่อมองนางจนสุดสายตา

ฝากกดติดตาม กดไลท์เป็นกำลังใจ

คอมเมนต์ติชมไรท์กันด้วยนะคะ

ขอบพระคุณมากคะ

🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   ว่าที่สามี

    "หรงเอ๋อร์!!! รีบตามแม่เข้ามาในห้องประเดี่ยวนี้ แม่ต้องการคำอธิบาย...? นางเมิงทำหน้าตาขึงขังไม่พอใจเป็นอย่างมาก แววตานางลุกโชนราวกับเปลวไฟที่กำลังร้อนระอุ พร้อมที่จะปะทุได้ทุกเมื่อ หญิงชราผู้นี้อยากจะรู้จริงๆเชียว ว่าบุตรสาวตัวดีของนางกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ถึงได้พาบุรุษลึกลับไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่ไหนก็ไม่รู้ กลับมาพักที่ชายคาเดียวกันเช่นนี้ หากเป็นเพียงญาติสนิท นางยังพอจะอนุโลม แต่นี้นางเมิงไม่รู้จักบุรุษผู้นี้เสียด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเขามีที่มาที่ไปอย่างไร ยิ่งทำให้นางเมิงไม่พอใจเอามากๆ "ท่านแม่ ท่านฟังข้า...." หรงหรงทำหน้าตาสำนึกผิด "ไม่ แม่ไม่ฟัง รีบไล่เขาออกไป" หญิงชรารีบเอ่ยตัดบท "ท่านแม่....แต่เขาคือผู้มีพระคุณของลูกนะเจ้าค่ะ ลูกจะกล้าไล่ผู้มีพระคุณของลูกไปได้อย่างไรกัน ท่านแม่เคยสอนลูกเอง ว่าเป็นหนี้ต้องทดแทนบุญคุณคน ลูกจะหลงลืมได้เยี่ยงไร" หรงหรงชักเอาแม่น้ำทั้งแปดขึ้นมาสาธยาย จนมารดาเริ่มคล้อยตาม "ได้...แม่จะให้โอกาสเจ้าได้อธิบาย หากเจ้ามีเหตุผลไม่เพียงพอ แม่จะตีเจ้าให้ตาย และไล่ตะเพิดบุรุษผู้นั้นออกบัดประเดี๋ยวนี้.....? หรงหรงเงียบไปครู่หนึ่ง นางจึงได้เริ่มพูดความจริ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   10. ปรึกษาหารือ..

    "เพลี้ยะ.!!!" ฝ่ามือหยาบกร้านฟาดไปที่ต้นแขนบุตรสาวไม่ยั้ง "โอ้ยยย...." "ท่านแม่ พอแล้ว ข้าสำนึกผิดไปแล้วจริงๆ" หรงหรงรีบหยิบฝ่ามือหญิงชราขึ้นมาเป่า เมื่อเริ่มเห็นรอยเป็นสีแดง หญิงชรารีบสะบัดมือออกไปในทันที สายตาเพชรฆาตมองไปที่บุตรสาวตัวดี ไม่รู้ว่าบุตรสาวกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ถึงได้พาบุรุษลึกลับที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่ไหนก็ไม่รู้ กลับมาพักที่ชายคาเดียวกันเช่นนี้ หากเป็นเพียงญาติสนิท นางยังพอจะอนุโลมให้ แต่นี้นางเมิงไม่รู้จักบุรุษผู้นี้เสียด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเขามีที่มาที่ไปอย่างไร ยิ่งทำให้นางเมิงรู้สึกไม่พอใจเอามากๆ "ท่านแม่ ท่านฟังลูกสาวท่านอธิบายก่อนสิ...." หรงหรงทำหน้าตาสำนึกผิด พร้อมกับขยับเข้าไปใกล้หญิงชรา "ไม่ แม่ไม่ฟัง รีบไล่เขาออกไปให้ไว.." หญิงชรารีบเอ่ยตัดบท "ท่านแม่....แต่เขาคือผู้มีพระคุณของลูกนะเจ้าคะ ลูกจะกล้าไล่ผู้มีพระคุณของลูกไปได้อย่างไรกัน ท่านแม่เคยสอนลูก ว่าเป็นหนี้ต้องทดแทนบุญคุณคน ลูกจะหลงลืมได้เยี่ยงไรเจ้าคะ..." หรงหรงชักเอาแม่น้ำทั้งแปดขึ้นมาสาธยาย จนมารดาเริ่มมีท่าทีอ่อนลง "ได้...แม่จะให้โอกาสเจ้าได้อธิบาย หากเจ้ามีเหตุผลไม่เพียงพอ แม่จะตีเจ้าให้ตาย แล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   11. ตาขวากระตุก...

    นางเมิงมองดูบุรุษตรงหน้าอย่างไม่ลดสายตา นางมองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่นาน แล้วจึงเอ่ยออกไป "เจ้าชื่อว่ากระไร......? "ข้าชื่อโม่เฉินขอรับ ท่านแม่..." "ใครเป็นแม่ของเจ้า...เรียกข้าว่าท่านน้าก็พอ.." "คิก...คิก" หรงหรงแอบหลุดหัวเราะออกมา เมื่อได้เห็นว่ามารดาตำหนิคำเรียกของโม่เฉิน "ได้ขอรับ ท่านน้า..." "เจ้า...อย่าได้คิดว่าเจ้าหน้าตาดี แล้วจะมาล่อลวงหรงเอ๋อร์ของข้า หากข้ายังอยู่ เจ้าไม่มีวันได้สมใจกมายแน่นอน ข้าจะจับตาดูเจ้าทุกฝีก้าว จงอยู่อย่างเจียมตัวดีๆ.." "ข้าให้สัญญาขอรับ ข้าจะไม่มีวันชิงสุกก่อนห่ามเเน่นอน ข้าจะให้เกียรติหรงเอ๋อร์ และปกป้องนางจนสุดชีวิต เท่าที่ข้าจะทำได้ขอรับ" *.....* คำพูดเขาดูกำกวมยิ่งนัก..... "หึ...จงจำคำพูดของเจ้าเอาไว้ให้ดีเถิด หากข้าไม่อนุญาติ พวกเจ้าทั้งสองก็ห้ามใกล้ชิดกัน ทำได้เพียงแค่รักษาเท่านั้น ได้ยินหรือไม่...? พูดจบหญิงชราก็หันสายตาไปมองค้อนบุตรสาวทันทีเพื่อเป็นการตักเตือน หรงหรงรีบหลุบตามองต่ำและยิ้มเจือนๆออกมา "ขอรับ" โม่เฉินตกปากรับคำอย่างจริงจัง "ตอนนี้ที่เรือนก็มีเพียงแค่ห้องเดียว ข้าจะเอาผ้ากั้นกลางระหว่างห้องเอาไว้ หรงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   12.ลูกสะใภ้...

    "พวกท่านพาคนบุกมายังเรือนของข้ามากมายเยี่ยงนี้ มาด้วยเหตุอันใดมิทราบ....? หรงหรงเอ่ยออกไป โดยไม่สนใจคำพูดของแม่เฒ่าอิ๋นเมื่อครู่ ทำกับว่าแม่เฒ่าอิ๋นเป็นเพียงอากาศธาตุสำหรับนาง "หรงเอ๋อร์....เจ้าจะพูดเช่นนี้ก็มิได้..." แม่เฒ่าอิ๋นรีบเอ่ยแทรกขึ้นมา "หุบปาก ข้ามิได้ถาม" หรงหรงเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นล้วนแต่ตกตะลึงอ้าปากค้าง เหตุใดหญิงสาวที่เคยอ่อนโยนไร้เดียงสา ถึงได้มีท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้นมาเยี่ยงนี้ ราวกับว่านางมิใช่หรงหรงคนเดิม ทุกคนต่างคิดไปในทิศทางเดียวกัน "นี้เจ้า...เจ้ากล้าขึ้นเสียงกับข้าเชียวรึ ข้าเป็นย่าเจ้านะ...? "เหอะ....ชั่วชีวิตนี้ ข้าไม่เคยมีญาติพี่น้องที่ไหน ข้ามีเพียงท่านแม่เพียงคนเดียว คนอื่นข้าล้วนไม่นับญาติ.." *.....* ชาวบ้านหลายคนที่อยู่ในบริเวณนั้น ต่างตกตะลึงไปกับคำพูดของหญิงสาวตรงหน้าขึ้นมาอีกครั้ง... "ชิช่ะ....พวกเจ้าสองคนเลิกโต้เถียงกันไปมาได้แล้ว...ข้ามาในนามลูกชายของข้า สินสอดก็เอาไปแล้ว ยังจะแสร้งทำเป็นไม่รู้อิโหน่อิเหน่อยู่อีก มีที่ใดกัน....ภรรยาทุบตีสามี ...? นายท่านเซิ๋นยังพูดขึ้นต่อ.... " พวกเจ้ายังจะมัวย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   13.เจ็ดตำลึงทอง

    สตรีในสมัยนี้ ล้วนถือชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญ นางเมิงจึงต้องรีบออกตัวปกป้องบุตรสาวเพียงคนเดียว บวกกับความรักความห่วงใยที่มีต่อบุตรสาวเกินกว่าจะพรรณนา นางเมิงมีหรือจะยอมให้ใครมาแตะต้องแก้วตาดวงใจของนาง มิมีวันเสียหรอก "ในเมื่อเป็นเรื่องเข้าใจผิด พวกเจ้าก็จงแยกย้ายกันได้แล้ว..." ท่านผู้นำหมู่บ้านหันไปทางสองผัวเมียตัวต้นเรื่อง "ประเดี๋ยวก่อน...เรื่องค่าสินสอดข้านั้นกระจ่างแล้ว แต่เรื่องที่นังหนูหรงหรงทำร้ายร่างกายบุตรชายข้าเล่า พวกเจ้าสองแม่ลูกจะรับผิดชอบเช่นไร.....? นายท่านเซิ๋นมองไปที่หรงหรง คิดว่าตนเองถือไพ่เหนือกว่านาง "อ่อ....พอดีเลย ข้าก็พึ่งจะนึกขึ้นมาได้อยู่เรื่องหนึ่ง พวกท่านทุกคนลองสังเกตุดูร่องรอยฟกช้ำตามร่างกายของข้าสิเจ้าคะ..." "ตายแล้ว...นั้นมันร่องรอยการถูกทำร้ายชัดๆ" ชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนออกมา "ใช่แล้ว นี้เป็นร่องรอยจากการถูกทำร้ายแน่นอนเจ้าค่ะ ข้าขอสาบานได้..." หรงหรงแสร้งเอามือปาดน้ำตา"โถ้ๆๆ ร่างกายนางบอบบางเยี่ยงนั้น นังหนู...รีบบอกลุงมาเถอะ ตกลงใครเป็นคนทำร้ายเจ้ากันแน่....? ท่านผู้นำหมู่บ้านถามด้วยความเป็นห่วง"ท่านลุงลองไปถามบุตรชายตัวดีของท่านลุงเซิ๋นสิเจ้าคะ ว่าร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   14.ลวนลาม

    นางเมิงและบุตรสาว ช่วยกันเข้าครัวทำกับข้าวจึงเสร็จเร็วกว่าทุกวัน อาหารหลายอย่างถูกจัดวางบนจานดูน่ารับประทาน พอถึงเวลาอาหาร ทุกคนก็นั่งล้อมวงกินอาหารพร้อมหน้ากันเป็นครั้งแรก หรงหรงหยิบตะเกียบเป็นคนแรก นางคีบอาหาร และตักน้้ำแกงส่งให้มารดาไปคนแรก "ท่านแม่รีบกินสิเจ้าค่ะ...ผัดผักสดๆ กับน้ำแกงแสนอร่อยสูตรพิเศษที่ลูกคิดค้นขึ้นมาเอง กินตอนที่กำลังร้อนๆ อร่อยเหาะเลยละเจ้าค่ะ..." "อืม....เจ้าเองก็รีบกินเยอะๆเถอะ ดูตัวเจ้าตอนนี้สิ...ผอมแห้งอย่างกับอะไรดี..." นางเมิงกล่าว ก่อนจะช้อนสายตามองไปที่โม่เฉิน ไม่นานนางก็กล่าวขึ้นอีก "แล้วเหตุใดเจ้าถึงไม่กิน...รึว่าอาหารพื้นเพพวกนี้ เจ้ากลืนไม่ลงคออย่างงั้นสินะ.....? นางเมิงรีบกล่าวเหน็บแนม โม่เฉินกำลังปริปาก แต่ถูกหรงหรงกล่าวแทรกขึ้นมาก่อน "มาอาเฉิน...รีบกินข้าวได้แล้ว..." หรงหรงรีบคีบอาหารป้อนไปที่ปากให้โม่เฉิน ท่ามกลางสายตาหญิงชรา โม่เฉินยังคงแน่นิ่ง ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย *.....* นางเมิงเมื่อมองไปเห็นบุตรสาวกำลังตั้งท่าคีบอาหารป้อนไปให้บุรุษตรงหน้า นางถึงกับเบิกตาโต จนตะเกียบที่ถืออยู่ในมือ หล่นลงพื้นอย่างกระทันหัน "ต้ายแล้วหรงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   15.ขั้นตอนการรักษา

    เมื่อสลัดความคิดทั้งหมดทิ้งไป โม่เฉินจึงรีบเอ่ยถาม "หรงเอ๋อร์.....? "หือ....? หรงหรงขานรับ ก่อนจะหันกลับไปมองทางต้นเสียงอย่างสงสัย "เจ้ามิใคร่รู้หรือ ว่าข้าเป็นผู้ใด และมาจากไหน...? "ทำไมต้องอยากรู้ด้วยเล่า หากท่านอยากบอก สักวันหนึ่ง ท่านก็คงจะบอกข้าเองโดยที่ข้าไม่ต้องถาม..." หรงหรงกล่าวออกไปด้วยความสัตย์จริง "เช่นนั้น ใบหน้าข้ายังมีสิ่งใดติดอยู่อีก ใยหรงเอ๋อร์ถึงได้จดจ้องมองข้าด้วยเล่า....? "เปล่า ก็ใครบอกให้อาเฉินเกิดมาหน้าตาดีเช่นนี้เล่า มองนิด มองหน่อย ท่านคงมิบุบสลายไปหรอกกระมัง.....? หรงหรงยังคงนั่งมองใบหน้าโม่เฉินต่อไปอย่างไม่ละสายตา "แล้วถ้ามีบุรุษอื่น...ที่หน้าตาดีกว่าข้าเล่า หรงเอ๋อร์คงจะจ้องมองเขา เหมือนกับที่กำลังจ้องมองข้าอยู่แบบนี้ ใช่หรือไม่.....? โม่เฉินรีบถามกลับ "มันจะเหมือนกันได้เช่นไร...อาเฉินเป็นคนของข้า ท่านอนุญาติให้ข้าสามารถจับต้องท่านได้ โดยที่ไม่ต้องเสียตำลึงแม้แต่แดงเดียว แต่บุรุษอื่น คงมิใช่อย่างแน่นอน...." แววตาสตรีร่างบางเปล่งประกายขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเอ่ยถึงบุรุษรูปงามอื่นขึ้นมา "นั่นปะไร...เหตุใดสีหน้าถึงได้เผยพิรุจเช่นนี้..แสดง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   16.เก้าอี้รถเข็น

    หรงหรงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ นางรีบเร่งฝีเท้าเดินไปที่ร้านค้าในหมู่บ้านเพื่อหวังจะซื้อเหล้ารสชาติดีหนึ่งไหกับไก่อีกหนึ่งตัว ก่อนจะหิ้วสัมภาระที่พึ่งจะซื้อมา เดินฮัมเพลงไปตลอดทั้งทาง เพื่อไปหาท่านลุงฉู่ที่ท้ายหมู่บ้านอย่างอารมณ์ดี ท่านลุงฉู่....ถือเป็นช่างไม้ฝีมือดีอันดับหนึ่งอีกหนึ่งคนของหมู่บ้าน เขาสามารถสร้างผลงานการออกแบบ รวมถึงการต่อเติมเรือนที่แข็งแรง และยังทนทานกว่าช่างทุกคนในหมู่บ้าน ขนาดช่างฝีมือในระแวกใกล้เคียง ยังต้องมาเรียนรู้งานเพิ่มเติมจากช่างไม้ฉู่อยู่เป็นประจำ ทุกคนในหมู่บ้าน รวมไปจนถึงเพื่อนบ้านในระแวกใกล้เคียงหลายคน ต่างพากันมาใช้บริการกับช่างไม้ฉู่อยู่เป็นประจำ เรียกได้ว่าแถบจะทุกครัวเรือน ล้วนเป็นฝีมือของช่างไม้ฉู่แทบจะทั้งหมด หากเอ่ยถึงช่างไม้ฝีมือดี คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักช่างไม้ฉู่.... คำล้ำลือถึงความสามารถของช่างไม้ฉู่ยังมีอีกมายมาย ไม่ใช่เฉพาะแต่สร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านเป็นเท่านี้ เขายังสามารถสร้างโต้ะกินข้าว เก้าอี้ โต้ะเครื่องแป้ง และอุปกรณ์ที่ทำจากไม้อีกหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับผู้จ้างวาน ว่าจะสั่งให้ช่างไม้ฉู่ออกแบบได้ตามกำลังทรัพย์ที่มี ขอเพียงมีแบบร่าง ช่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08

บทล่าสุด

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   36.สัตว์เลี้ยงตัวแรก

    หรงหรงรีบเร่งฝีเท้า กว่านางจะเดินกลับถึงเรือน ก็เป็นเวลาในยามซวี(19.00-21.00) แสงตะเกียงริบหรี่ ส่องสะท้อนออกมาตามบ้านเรือนแต่ละหลังคาเรือน ราวกับแสงของหิ่งห้อยระยิบระยับ สตรีร่างบางเดินมาหยุดที่ทางเข้าหน้าประตูเรือนของตนเอง ด้วยท่าทางที่เหนื่อยล้า ก่อนจะรีบปรับลมหายใจให้เป็นปกติที่สุด เพราะในระหว่างทาง หรงหรงรีบเร่งฝีเท้าเดินจ้ำอ้าว และใช้วิชาตัวเบาสลับกันไปมาอย่างไม่หยุดพัก หากขืนนางกลับมาช้ากว่านี้ เกรงว่ามารดากับโม่เฉินคงจะต้องอยู่ไม่สุขเป็นแน่... "หรงเอ๋อร์....นั้นใช่ลูกหรือไม่....? นางเมิงจุดตะเกียงนั่งรอบุตรสาวตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน จนตอนนี้ท้องฟ้ากลายเปลี่ยนเป็นสีดำมืดสนิท เมื่อหญิงชรามองเห็นเพียงเงเลือนลาง ก็จดจำได้ว่าเงาที่เห็น จะต้องเป็นบุตรสาวของตนอย่างแน่นอน "ใช่เจ้าคะ ข้าคือหรงเอ๋อร์ของท่านแม่ตัวจริงเสียงจริงแน่นอน..." เมื่อได้ยินเสียงบุตรสาวตอบรับ หญิงชราก็รีบกระโจนตัววิ่งออกไปเปิดประตูเรือนด้วยความเร็วแสง แล้วแอบถอยหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อเห็นว่าบุตรสาวกลับมาอย่างปลอดภัยดี โม่เฉินมองดูจากระยะไกล เมื่อเห็นว่าหรงหรงกลับมาอย่างปลอดภัย เขาจึงรีบถอนหายใจ

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   35.ขึ้นเขาอีกครั้ง

    ท้องฟ้าสีครามกับบรรยากาศที่สดใส พร้อมต้อนรับรุ่งอรุณในอีกไมช้า หรงหรงตื่นขึ้นมาตามสัญชาตญาณ เพื่อเตรียมตัวขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรราวกับเข็มนาฬิกาอย่างรู้หน้าที่ "หรงเอ๋อร์...จะไปแล้วรึ....? น้ำเสียงอันอ่อนโยนดังแว่วมาจากทางด้านหลัง ทำให้หรงหรงต้องรีบหันกลับไปมองทันที "อ้าว...ตื่นแล้วหรือ กลับไปนอนต่ออีกสักหน่อยเถิด พระอาทิตย์ยังไม่ทันจะขึ้น ท่านรีบตื่นขึ้นมาทำสิ่งใด ยามนี้มิใช่เวลาทำงานเสียหน่อย... " หรงหรงหันไปเอ่ยถามโม่เฉิน เมื่อเห็นเขากำลังนั่งอยู่บนรถเข็นแล้วจ้องมองมาที่นาง "นอนไม่หลับ...แล้วนั้นหรงเอ๋อร์จะไปนานหรือไม่...? โม่เฉินจ้องมองไปที่หรงหรงอย่างรอคำตอบ เมื่อเห็นคนตรงหน้ากำลังกุลีกุจอกับการเก็บสัมภาระ "อืม...วันนี้อาจจะใช้เวลานานกว่าทุกวัน ข้าคิดว่าจะเดินข้ามเขาขึ้นไปอีกสักสองลูก เผื่ออาจจะเจอโสมภูเขาและสมุนไพรล้ำค่าที่หายากเพิ่มขึ้น หากคาดคะเนไม่ผิด คงน่าจะกลับมาตอนพลบค่ำโน้นแหละ..." กล่าวจบ หรงหรงก็หันกลับไปจัดแจงกระเป๋าสัมภาระต่อ เพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง "หากข้าเดินได้ก็คงจะดี หรงเอ๋อร์จะได้ไม่ต้องมาทนลำบากอยู่เช่นนี้เพียงลำพัง ข้าช่างเป็นคนที่ไร้ประโยชน์เสียจริง.

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   34.กระชับความสัมพันธ์

    หลังจากหรงหรงได้เริ่มสอบถามอาการป่วยจากภรรยาลุงเหลียง หรงหรงจึงรีบเดินทางกลับไปที่บ้านลุงเหลียง พร้อมกับภรรยาลุงเหลียงในเวลาไม่นาน พอมาถึงกระท่อมที่มุงจากหญ้าคาที่ท้ายหมู่บ้าน หรงหรงก็ได้ยินเสียงลุงเหลียงนอนร้องโอดครวญดังแว่วมา เมื่อเปิดประตูมองเข้าไปดู ลุงเหลียงกำลังนอนเอามือกอดท้องไว้แน่น เขาบิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวด ราวกับไส้เดือนถูกน้ำร้อนลวก "ท่านป้า ปกติท่านลุงกินข้าวมากน้อยเพียงใดหรือเจ้าคะ...? หรงหรงหันไปสอบถามอาการลุงเหลียงจากปากภรรยาเขาในทันที "กินข้าวมื้อละชามตรงตามเวลาทุกวัน เอ๊ะ...นางหนู...เหตุใดเจ้าจักต้องถามหาถึงอาการสามีข้าเช่นนี้ หรือว่าเจ้าเกิดคิดจะเบี้ยวขึ้นมา ไม่ยอมจ่ายค่ารักษาให้สามีข้าเอาเสียดื้อๆ...? ภรรยาลุงเหลียงมองหรงหรงอย่างชั่งใจ "จะเป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไรกันเจ้าคะ ข้ามิคิดจะบิดเบี้ยวแน่นอนหากว่าสาเหตุมาจากอาหารที่เรือนข้าจริง ข้าจักต้องจ่ายค่าเสียเวลาให้ท่านลุงอย่างสมเหตุสมผลแน่นอน ส่วนเรื่องที่ข้าถาม เพียงเพราะอยากรู้ถึงสาเหตุให้แน่ชัด ข้าจะได้วินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น..." "วินิจฉัย....แม่นยำ.....? "ใช่เจ้าคะท่านป้า..." "

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   33.ตัดขาดความสัมพันธ์

    หรงหรงทำทียกท่อนฟืนชูขึ้น สองผัวเมียก็ได้แต่ร้องตะโกนห้ามปราม ไม่กล้าเข้าไปใกล้อย่างอกสั่นขวัญแขวน แม่เฒ่าอิ๋นแทบจะเป็นลมทั้งยืน ในใจนางลุ้นระทึกยืนดูเหตุการณ์ อย่างกระสับกระส่าย "ข้ากับท่านแม่ มิมีสิ่งใดต้องเสีย แต่หากว่าเป็นพวกท่าน นั้นก็ไม่แน่ ข้ามีแค่สองปากหากินอย่างไรก็ได้ แต่พวกท่านมีตั้งหกปาก คงจะต้องลำบากน่าดู ข้าจะดูสิว่า....พวกท่านจะทนหิวตายไปในช่วงหน้าหนาวที่ใกล้จะมาถึงได้อย่างไร หากไม่มีธัญพืชให้เหลือพอประทังชีวิตทั้งครอบครัว...? หรงหรงทำทีจะโยนท่อนฟืนขึ้นไปบนยุ้งฉาง "หยุดนะหรงเอ๋อร์ นี้เจ้าบ้าไปแล้วหรือ...? ท่านป้าสะใภ้รีบตะโกนห้ามปรามหลานสาวอย่างหวาดหวั่น "หรงเอ๋อร์ เจ้าใจเย็นลงก่อน มีอะไรก็ค่อยๆพูด ค่อยๆจากัน อย่าได้วู่วามไปเชียว..." ฮ้าวสิงรีบเกลี้ยกล่อมหลานสาว "ที่ผ่านมา พวกท่านพากันใช้ธัญพืชส่วนของท่านแม่ไปอย่างไม่คำนึง ทั้งกิน ทั้งขาย ข้าล้วนไม่ถือสาหาความ ถือเสียว่า...ข้ายกหนี้ให้พวกท่านทั้งหมด และถือว่า...ข้าได้ทดแทนบุญคุณของตระกลูไปจนหมดสิ้น ในเมื่อบิดาของข้าได้ตายจากโลกนี้ไปนานแล้ว นับตั้งแต่วันนี้ ตระกูลของพวกท่าน ถือเสียว่าได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับข้าไ

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   32.ธัญพืช...

    หนึ่งเดือนผ่านไป..... เรือนไม้หลังใหม่ใช้เวลาแก้แบบหลายครั้ง จึงทำให้ต้องขยายเวลาในการก่อสร้างเพิ่มขึ้น ตอนนี้ตัวเรือนทั้งด้านนอกและด้านใน ถูกสร้างเสร็จจนหมดทุกห้อง มีห้องครัว ห้องกินข้าว เรือนรับรอง รวมไปถึงห้องนอน แต่ละห้องล้วนถูกสร้างสรรค์ออกมา ได้อย่างปราณีตและมีแบบแผน หรงหรงรู้สึกพอใจกับผลงานชิ้นเอกที่ตนได้เป็นคนออกแบบเป็นอย่างมาก แต่ละโครงสร้างที่นางตั้งใจลงลายเส้นไปในกระดาษ ถูกสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อลังการ จนเกินความคาดหมาย ซึ่งในส่วนที่เหลือ เพียงแค่ตกแต่งและลงพื้นสีก็เป็นอันแล้วเสร็จ ช่างไม้ฉู่กับลูกมือทุกคนใช้เวลารวมกันร่วมสองเดือนเศษ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดการเอาไว้ เพราะกว่าจะสร้างเรือนหลังนี้ให้ตรงตามความพอใจของเจ้าของเรือน พวกเขายังต้องรื้อแก้ใหม่ไปอีกหลายรอบ หรงหรงยอมทุ่มตำลึงไปไม่อั้น หวังให้เรือนออกมาแข็งแรงและทนทาน เพื่อทนต่อแดดและลมฝน เนื่องจากเรือนไม้หลังใหม่ กว้างขวางโอ่อ่ากว่าแต่ก่อนจนเทียบกันไม่ติด บวกกับเนื้อที่ว่างเปล่าที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้นานโดยเปล่าประโยชน์ หรงหรงจึงได้สั่งให้ช่างไม้ฉู่สร้างกำแพงรอบบ้านขึ้นมาใหม่ โดยรื้อถอนตัวเรือนหลังเก่

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   31.เอาคืน....

    "กรี้ดดดดดดด!!!!!"เสียงลั่วลั่วกรีดร้องดังลั่นด้วยความเจ็บปวด หรงหรงไม่รีรอ นางใช้แรงเพียงน้อยนิดกระชากเส้นผม บีบบังคับให้ลั่วลั่วเงยหน้าขึ้นมา โดยไม่ให้ลั่วลั่วได้ทันตั้งตัว ก่อนจะเหลือบไปทางชาวบ้านที่กำลังยืนมองดูเหตุการณ์อย่างลุ้นระทึก เมื่อหนังศรีษะลั่วลั่ว ถูกหรงหรงดึงกระชากเข้าให้ ลั่วลั่วพลันน้ำตาเล็ด แสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา "หรงหรง นี้เจ้ากำลังทำบ้าอันใดกัน...? แม่เฒ่าอิ๋นกัดฟันกรอดเอ่ยออกมาอย่างโมโห เมื่อเห็นหรงหรงดดึงกระชากผมหลานสาวของตนอย่างไม่สะทกสะท้าน "ไอ๋หย่า.....นี้ข้ายังมิทันจะได้เริ่ม ใยพวกท่าน....ถึงได้พากันทำสีหน้าอย่างกับมีคนตายเยี่ยงนั้นด้วยเล่า อย่าพึ่งตกตะลึงกันไปก่อนสิเจ้าคะ นี้ข้ายังมิทันจะออกแรงเลยด้วยซ้ำ..." "นี้เจ้ากลายเป็นบ้าไปแล้วหรือ จู่จู่ก็มากระชากผมหลายสาวข้า ยังไม่รีบปล่อยมือเจ้าออกอีก ดูสิ...ลั่วลั่วคงจะเจ็บน่าดู..." "อ่อ...แล้วข้ามิใช่หลานสาวท่านหรอกหรือ เมื่อครู่ท่านยังจะเป็นจะตายเพราะข้าอยู่เลย ฉไนเลย...ตอนนี้กลับลืมข้าไปเสียเล่า....? "นี้เจ้า...." แม่เฒ่าอิ๋นยืนกำมือแน่นอย่างโกรธเคือง "พวกท่านมองดูนี้สิ....จากที่ข้าได้สัมผัส เหมือ

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   30.พิสูจน์...

    แม่เฒ่าอิ๋นรีบมองดูชาวบ้านที่กำลังคล้อยตามอย่างลำพองใจ นางรีบหันไปกระซิบกระซาบกับหลานสาว เพื่อเร่งให้ลั่วลั่วพูดต่อไปเรื่อยๆอย่าได้หยุดปาก เพราะคำพูดของหลานสาวดูจะมีน้ำหนักมากกว่าตน ซึ่งล่าสุดแม่เฒ่าอิ๋นพึ่งจะถูกตัดสินคดีความไปสดๆ ร้อนๆ หากให้ตนเองเป็นตัวตั้งตัวตี เกรงว่าชาวบ้านนั้นจะไม่หลงเชื่อ พวกชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ ล้วนเชื่อมั่นในคำพูดของหลานสาวมากกว่าตนแน่นอน เพราะตั้งแต่ลั่วลั่วเกิดมา นางไม่เคยทำเรื่องให้ต้องเสี่ยมเสียชื่อเสียงเลยสักครั้ง ชาวบ้านทุกคนต่างรู้ดี "ลั่วลั่ว เจ้ารีบบอกทุกคนไปสิว่า ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่.....? แม่เฒ่าอิ๋นรีบกำชับหลานสาว "เจ้าคะท่านย่า....." เมื่อลั่วลั่วบังเอิญหันไปสบตาเข้ากับหรงหรง นางพลันรู้สึกถึงแรงกดดัน เริ่มแสดงท่าทีกล้าๆกลัวๆออกมา "ตกลงเรื่องราวเป็นมาอย่างไรกันแน่.....? ท่านผู้นำหมู่บ้านรู้สึกมึนงงกับเรื่องราวในตอนนี้ "น....นางเป็นตัวปลอมเจ้าคะ นางไม่ใช่น้องสาวของข้าแน่นอน.." ลั่วลั่วยืนชี้นิ้วไปทางหรงหรง "ตัวปลอม...ว่าแต่เจ้าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ว่าข้าเป็นตัวปลอม....? หรงหรงนั่งลงไปที่เก้าอี้ข้างโม่เฉิน ในมือนางถือส้มอยู่ลู

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   29.แสดงละคร...

    ลั่วลั่วที่กำลังซักผ้าใกล้เสร็จ เมื่อพวกนางสามคนเห็นว่าหรงหรงกำลังเดินถือตระกร้าผ้า เพื่อมุ่งหน้ามาทางลำธารที่พวกนางทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ พวกนางต่างหันไปมองหรงหรง ราวกับเห็นศัตรูตัวฉกาจ ชิงหยวนและชิงผิง พวกนางสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องที่อายุไล่เลี่ยกันกับลั่วลั่ว พ่อแม่ของพวกนางเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกันมาก จึงทำให้ชิงหยวนและชิงผิง สนิทกับลั่วลั่วไปโดยปริยาย โดยทั้งสามคนมักจะชอบไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง และมาไปหาสู่ไม่เคยขาดอยู่เป็นประจำ เพราะเรือนของพวกนางสองคน อยู่เพียงฝั่งตรงข้ามกับเรือนลั่วลั่ว จึงทำให้สตรีทั้งสาม สนิทชิดเชื้อกันมาตั้งแต่จำความได้ สตรีทั้งสามคนกำลังพูดคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน แต่พอเห็นว่าหรงหรงกำลังเดินผ่านไป พวกนางก็หยุดชะงักลงทันที ก่อนจะสุมหัวกันซุบซิบนินทาเรื่องจิปาถะ ตามสัญชาตญาณของหญิงสาวชาวบ้าน หรงหรงเดินอ้อมไปอีกฝาก แล้วนั่งลงซักผ้าอยู่เพียงลำพัง โดยไม่ได้สนใจสายตาของสตรีทั้งสามแม้แต่น้อย "ลั่วลั่ว...ข้าได้ยินมาว่าญาติผู้น้องของเจ้า ถึงกับต้องใช้ร่างกายไปแลกเอาเงินมาปลูกเรือนหลังใหม่ เป็นเรื่องจริงหรือไม่...? ชิงหยวนตะโกนถามเสียงดังเพื่อให้หรงหรง

  • เกิดมาอีกทีก็มีสามีเป็นเทพบุตรถึงสองคน   28.ลูกแมว....

    ท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำคืน หรงหรงรู้สึกอ่อนเพลียจากการขึ้นเขาไปล่าสัตว์เมื่อตอนกลางวันอยู่ไม่น้อย โดยนิสัยของนางควรจะหลับสนิทไปตั้งแต่หัวค่ำ แต่ลางสังหรณ์ของนางบอกว่า วันนี้จะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมาแน่ๆ หรงหรงจึงได้หลับๆตื่นๆ และลุกขึ้นออกมาสูดอากาศในกลางดึกเพียงลำพัง สตรีร่างบางใช้วิชาตัวเบาดีดตัวเองให้ลอยขึ้นไปกลางอากาศอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านตาอยู่ในบริเวณลานบ้าน ในมือนางพลางกัดแอปเปิ้ลไปคำ พร้อมทั้งแหงนหน้ามองไปบนฟ้า เพื่อดูทิวทัศน์ในยามค่ำคืน ทิวทัศน์ในยามนี้ช่างแตกต่างในตอนกลางอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้มีเพียงความมืดสนิทและเสียงจิ้งหรีดเรไร ต่างร้องขับขานประสานเสียงกันขึ้นลงเป็นจังหวะ อยู่เป็นครั้งคราว ค่ำคืนที่มืดสนิททำให้ผู้คนรู้สึกหดหู่ บนท้องฟ้ามีดวงดาวประปรายเพียงน้อยนิด หรงหรงพลันเหลือบไปเห็นถึงความเคลื่อนไหวของเงาคนนอกรั้วบ้าน นางมองผ่านเเสงตะเกียงริบหรี่ ที่ส่องออกไปทางฝั่งประตูรั้วได้อย่างชัดเจน หากหลับตาฟังให้ดีๆ จะได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเบาของคนจำนวนหนึ่งจากทางด้านนอก ลำพังเพียงคนธรรมดาทั่วไปไม่อาจสัมผัสได้ถึงความผิดปกติอ

DMCA.com Protection Status