“บ้านคุณอยู่ทางไหนครับ?”
จีเซลหันไปเอ่ยถามยูแอลที่ตอนนี้ขึ้นมานั่งอยู่บนรถของเขาหลังจากที่นั่งแท็กซี่กลับมายังตึกใหญ่ค่ายเพลงของเขา ตัวเธอเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เธอใจกล้าที่จะมากับเขา ยูแอลหันไปมองคนที่นั่งข้างๆ ฝั่งคนขับ ภายในสมองมีความคิดที่อยากจะลองใจตัวเองมากกว่านี้ อยากจะรู้ว่าตัวเองจะกล้ามากกว่านี้อีกไหม เพราะตอนที่มากับเขาเธอไม่มีอาการแพนิคอย่างที่เธอเคยเป็น มันทำให้เธอแปลกใจไม่น้อยระคนสงสัยว่าเป็นเพราะน้ำสีใสฤทธิ์แอลกอฮอล์แรงหรือเป็นเพราะเขา...เป็นที่ตัวบุคคล จีเซลยังคงเลิกคิ้วขึ้นเพื่อรอคำตอบเตรียมที่จะสตาร์ทรถไปส่งเธอ แต่...
“คุณยู....”
คำพูดถูกกลืนเข้าไปกับริมฝีปากกระจับนั่นโดยไม่ทันที่เขาจะได้ตั้งตัว เขาไม่ได้คิดที่จะรวบรัดตัดตอนเธอเลยสักนิด แต่กลับโดนเธอจู่โจมก่อนเสียอย่างนั้น ลิ้นเล็กเริ่มซุกซนชอนไชเข้าไปในโพรงปากเป็นเชิงหยอกล้อ ด้วยสัญชาตญาณมีหรือที่เขาจะปฏิเสธรสจูบที่แสนเร่าร้อนนั้น มือหนาทั้งสองจับไหล่เพรียวประคองเธอที่โน้มตัวเข้ามาหาเขาไว้ เขาไม่อยากให้มั
พูดจบริมฝีปากได้รูปก็ช่วงชิงประทับริมฝีปากอิ่มเอิบทันที ลิ้นหนาแทรกแซงเข้าไปในโพรงปากเล็กหยอกเย้าลิ้นเล็กที่กล้ามาซุกซนกับเขาในตอนแรก ก่อนที่แขนแกร่งทั้งสองข้างจะคว้าร่างบางขึ้นมานั่งบนตักตน เขาหยัดตัวลุกขึ้นทั้งอย่างนั้นโอบอุ้มร่างบางขึ้นจนตัวลอยทั้งที่ริมฝีปากยังไม่ยอมละจากรสจูบเลย สองแขนเรียวกอดรัดคอหนายินยอมก้มหน้าลงรับจูบของคนที่อุ้มตนอยู่นักร้องหนุ่มที่ว่าแพรวพราวเจ้าเสน่ห์แค่บนเวทีเท่านั้น บัดนี้ได้แสดงให้เห็นว่าเขาทรงเสน่ห์มากบนเวทีรักต่างจากคนอื่นเขาเล่าลือกันว่าเขาเป็นคนจืดชืดขี้อายเมื่อสปอตไลท์ดับลง...แขนแกร่งค่อยๆ ประคองร่างบางลงบนเตียงกว้างสีน้ำเงินเข้มอย่างอ่อนโยน แต่รสจูบของเขากลับไม่ได้อ่อนโยนเลย...มันช่างดูหิวกระหายราวกับสัตว์ร้ายที่พร้อมจะกลืนกินเธอ“แน่ใจใช่ไหมครับ? หยุดตอนนี้ยังทันนะครับ”ละจากจูบมองใบหน้าสวยแล้วตั้งคำถามด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง ยูแอลจ้องมองเขาทั้งที่แขนเรียวของเธอยังคล้องคอหนาไม่ปล่อย เธอพยักหน้าเบาๆ ด้วยสายตาที่ออดอ้อน ยิ่งเห็นสีหน้าของเธอที่แตกต่างจากทุกที เขาก็ยิ่งอยากเห็นมากกว่านี้ข
เกือบฟ้าสางที่สองร่างเปลือยนอนทอดกายกอดกันไม่ปล่อยบนเตียงกว้างสีน้ำเงินหลังจากผ่านศึกรบศึกรักมาตั้งแต่เข้าคอนโด เขายังคงนอนกอดเธอแม้ว่าเธอจะนอนหันหลังให้เขาก็ตาม เกือบจะหลับสนิทก็ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงจากคนที่นอนหันหลังให้ในอ้อมกอด“ฮึกๆ ...ฮือ...ไม่นะ...อย่าทำอะไรฉันเลย...”เสียงสะอื้นไห้ตัวสั่นเทาทั้งที่เธอยังหลับตาแน่นสนิท น้ำตาใสไหลลงอาบแก้มเนียนโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร จีเซลหยัดตัวลุกขึ้นเปิดโคมไฟหัวเตียงฝั่งตัวเองเพื่อตรวจดูว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่า เขาชะโงกหน้าโน้มตัวไปมองหญิงสาวว่าเธอตื่นหรือกำลังละเมอกันแน่“บอกว่าไม่ไง!!อย่าทำกับฉันแบบนี้!!ปล่อย!!ขอร้อง...อย่าทำ ฮือๆๆ”ดิ้นแรงขึ้นพร้อมกับละเมอออกเสียงดัง สีหน้าของเธอดูขอร้องอ้อนวอนสุดชีวิตทั้งที่หลับตาแน่นสนิท จีเซลเห็นอย่างนั้นก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอไปเจออะไรมาถึงได้มีอาการขนาดนี้ แขนเรียวที่เกร็งตัวขึ้นตรงอกสั่นเทิ่มน้ำตานองหน้าจนน่าสงสาร ยิ่งเห็นแบบนั้นเขายิ่งรู้สึกเจ็บในใจ ไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนี้เลย
เจซียังคงนั่งขมวดคิ้วแน่นอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง และวันนี้ก็เหมือนเช่นเคย...ท็อปเปอร์มานั่งดื่มไวน์แบรนด์หรูพ่วงด้วยสาวสวยนุ่งน้อยห่มน้อยหรือเรียกว่าไม่นุ่งน่าจะใกล้เคียงมากกว่า แม้ว่าบรรยากาศจะดูน่าสนุกแต่เขากลับไม่ได้รู้สึกเอ็นจอยไปด้วยเลย แม้ว่าแฟนสาวที่เขาไม่ได้ยอมรับว่าเป็นแฟนจะมานั่งยั่วยวนเขาอยู่บนโต๊ะก็ตาม“กูจะกลับละ”พูดจบก็ลุกพรวดขึ้นอย่างหงุดหงิด ตรงหน้าไม่ได้ทำให้เขารู้สึกสบายใจหรือหลงระเริงได้อีกต่อไป เพราะภาพในหัวมีแต่ภาพของยูแอลกับจีเซลยืนกอดกันแน่นราวกับคนรักมันวนเวียนอยู่ไม่หยุด ท็อปเปอร์ที่นั่งโอบเอวลูบไล้สาวสวยนุ่น้อยห่มน้อยอีกมือหนึ่งถือบุหรี่มวนใหญ่ละความสนใจจากสาวๆ เหล่านั้นแล้วหันไปมองเพื่อนสนิทของตน“รีบกลับไปไหน...แฟนมึงก็อยู่นี่” ท็อปเปอร์กล่าว“นั่นสิคะ...ทำไมวันนี้พี่เจซีดูอารมณ์ไม่ดีจังเลยคะ?”หญิงสาวที่เรียกตัวเองว่าแฟนของเขาเอ่ยขึ้นเสียงหวานพร้อมกับกรีดกรายปลายนิ้วเรียวไล้ไปตามแผงอกแกร่งของเขา เจซีหลุบตามองหญิงสาวอย่างไม่สบอ
เป็นหนึ่งค่ำคืนที่เขาและเธอได้ใช้เวลาด้วยกัน เพราะมีปัญหามากมายเลยจบด้วยการที่เขายอมนอนกอดเธอเฉยๆ ปล่อยให้เธอได้พักผ่อนอย่างไม่คิดจะฝืนใจถ้าเธอไม่อยากทำ จีเซลทำให้เธอรับรู้ถึงความรู้สึกของการถูกรักจริงๆ ไม่ใช่แค่ทำตัวเหมือนคู่รักหวานชื่น แต่มันคือการให้เกียรติเธอในหลายๆ เรื่องด้วยเช้านี้เป็นเช้าที่เธอตื่นขึ้นมาก่อนแต่ยังคงนอนมองใบหน้าของชายหนุ่มที่กำลังหลับตาพริ้มไม่ตื่น เป็นครั้งแรกที่เธอนอนมองหน้าผู้ชายที่ตัวเองยังไม่ได้ให้สถานะ แม้แต่เจซีเขาก็มักจะตื่นก่อนเธอจึงไม่เคยที่จะได้มองใบหน้าของเขาชัดๆ ใกล้ๆ แบบนี้เลย มือเล็กค่อยๆ เลื่อนเข้าไปลูบไล้ใบหน้าหล่อนั้นอย่างเบามือราวกับว่ากลัวเขาจะตื่นขึ้นเพราะเธอ ปลายนิ้วเรียวกรีดกรายไปตามอวัยวะบนใบหน้าเบาๆ ทั้งคิ้วเข้มเรียวสวย ดวงตาเฉี่ยวที่กำลังปิดสนิท จมูกโด่งเป็นสันชัดและริมฝีปากได้รูปพอดีกับใบหน้าหมับ!!“เอ๊ะ!...ตะ...ตื่นอยู่เหรอ?”เพราะมัวแต่สังเกตใบหน้าของเขาใกล้ๆ จนไม่ทันได้สังเกตเปลือกตาที่เปิดขึ้น มือหนาคว้าข้อมือเล็กไว้ทันทีจนทำให้ยูแอลรู้สึกเขินไม่น้อย...ใครกันจะไม่เขินที่โดนจ
การเดทของทั้งคู่คืออยู่ช่วยร้านขนมหวานคุณยายของยูแอลทั้งวันยันมืดค่ำ โดยที่จีเซลและยูแอลนั้นช่วยกันทำขนมหยอกล้อกันไปอยู่หลังร้านโดยที่อยู่ในสายตาของหญิงชราเป็นระยะๆ คุณยายมองดูทั้งคู่ที่ดูมีความสุขก็ยิ้มออกมา...นานแล้วที่เธอไม่เห็นหลานสาวของตัวเองยิ้มออกมาเต็มที่ขนาดนี้ ตลอดหกเดือนที่กลับบ้านมาหลานสาวมักจะร้องไห้อยู่คนเดียวในห้องเสมอ ถึงแม้จะส่งยิ้มให้เธอที่เป็นยายทุกวันแต่ภายนัยน์ดวงตากลับดูเศร้า หญิงชราเลี้ยงดูหลานสาวมาเองกับมือตั้งแต่ที่พ่อแม่ของเธอเสียไปเพราะอุบัติเหตุทำไมจะดูไม่ออก แต่พอคบกับชายหนุ่มคนนี้ที่พามาบ้านครั้งแรกหลานสาวคนสวยก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นและยิ้มแย้มมากขึ้นจนสังเกตเห็น“โอ๊ะ...แฮะๆ ...ขอโทษครับพี่”“ไม่ต้องมาแฮะๆ เลย ดูสิเนี่ยแป้งกระจายไปหมดแล้ว บอกแล้วว่าให้ดูอยู่เฉยๆ”“ก็ผมอยากช่วยพี่นี่ครับ”ยูแอลทำตาดุใส่ชายหนุ่มตรงหน้าแต่ใบหน้าก็ยังเปื้อนรอยยิ้ม ก่อนจะเอามือปิดปากตัวเองกลั้นหัวเราะเมื่อแป้งที่กระจัดกระจายเพราะเขานวดแป้งไม่ดีมันฟุ้งกระจายไปจนมาเกาะที่ผมสี
“ใช่ค่ะ...เพราะอย่างนั้นฉันไม่อยากทำให้จีเซลเสียใจ ขอให้เลิกยุ่งกับฉันสักที”“หึ...เห็นทีจะไม่ได้...”“ไม่ได้ก็ต้องได้...ทุกอย่างมันจบไปนานแล้ว”“มันจบแค่กับเธอ ไม่ใช่กับพี่...เธอคือคนที่พี่รักและรักมากที่สุด รักมาตลอด”“คุณเป็นคนทำมันพังเอง...ลืมไปแล้วเหรอ?”“พี่รู้แอล...พี่รู้...พี่ขอโอกาสจะไม่ได้เลยเหรอ? ให้โอกาสกันสักครั้งไม่ได้เลยเหรอไง?”“ไม่มีโอกาสสำหรับคนที่ตั้งใจทำเรื่องผิดพลาดค่ะ ไม่มีโอกาสสำหรับคนนอกกายนอกใจ”“พี่ไม่ได้นอกใจเธอ...พี่ไม่เคยนอกใจ นั่นมันแค่...”“เลิกพูดเถอะค่ะยิ่งพูดยิ่งดูแย่ คุณกลับไปเถอะ...เรื่องของเราให้มันจบสักที”หลังจากที่ที่ยืนเถียงกันอยู่นานยูแอลเลือกที่จะตัดบทเตรียมจะหันกลับเข้าบ้าน ภาพที่เธอหันหลังเตรียมจะเดินจากไปทำให้เจซีตื่นตระหนกราวกับว่ามันจะหายไปกลายเป็นจุดเล็กๆ ลงเรื่อยๆ และลับตาไปในที่สุด เจซีเอื้อมมือออกไปไวกว่าความคิด...เขาคว้าเธอเข้ามากอดจากด้านหลังแม้ว่า
จีเซลค่อนข้างอึ้งกับการกระทำของเธอ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกเงยหน้าขึ้นอย่างข่มใจ...ก่อนจะยอมหันกลับไปประจันหน้ากับเธอ เขาจับไหล่เพรียวนั้นจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ดูดุดันมันแตกต่างจากที่เธอเคยเห็น สายตาของเขาดูน่ากลัว...นี่สินะที่เขาบอกว่าคนอ่อนโยนอารมณ์ดียิ้มเก่งเวลาโกรธจะน่ากลัว เพราะสายตานั้นทำให้เธอถึงกับพูดไม่ออก“พี่มั่นใจในคำพูดของตัวเองใช่ไหม?”“อะ...เอ่อ...อือ...”“พี่มั่นใจใช่ไหมที่จะไม่ให้ผมกลับ? ...มั่นใจใช่ไหมว่ารับความโกรธของผมไหว?”“...อือ...ขอแค่ทำให้นายหายโกรธ”ตอบออกไปแม้ภายในใจจะรู้สึกหวั่นใจไม่น้อย กลัวว่าเขาจะทำอะไรรุนแรงที่เธอคาดไม่ถึง...เพราะเธอพึ่งเคยเห็นเขาโกรธไม่รู้เลยว่าเขาจะเป็นคนยังไง ไม่ทันได้คาดคิดต่อจีเซลคว้าเอวอุ้มเธอด้วยมือข้างเดียวและพาเธอไปยังเตียงห้าฟุตสีขาวลายตารางหมากรุกของเธอ เขาโยนเธอลงบนเตียงนั้นก่อนจะเข้าไปคร่อมทับร่างเธอไว้“ตรงไหน!ตรงไหนที่มันแตะต้องพี่...ปาก...!!”“จะ..จีเซล...อื้ม!!”
“ไม่ๆๆๆ ไม่มีอะไรค่ะยาย เมื่อกี้หนูเปิดตู้เสื้อผ้าสงสัย...ประตูมันลั่นเพราะปิดไม่สนิท แฮะๆ”แม้จะฟังไม่ขึ้นแต่ก็พูดไปก่อนพร้อมกับส่งยิ้มให้ยายตน นั่นยิ่งทำให้ยายตัวเองสงสัยไปกันใหญ่ชะเง้อคอมองตู้เสื้อผ้าของเธอนิ่งอยู่นาน ยูแอลแทบจะหายใจหายคอไม่ทั่วท้องแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร“เอาล่ะๆ จะกินอะไรก่อนไปไหม? เดี๋ยวยายทำให้”“ไม่เป็นไรจ้ะ นี่ก็สายแล้วเดี๋ยวหนูขอแต่งตัวก่อน”“งั้น...ยายไม่กวนแล้ว”หญิงชราพูดจบก็หันหลังกลับเดินออกจากห้องไปแต่โดยดี ยูแอลเดินตามไปส่งหน้าห้องเมื่อเห็นยายของตนเดินลงบันไดไปแล้วก็รีบปิดประตูล็อคกลอนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเห็นจีเซลยืดกอดอกพิงประตูตู้เสื้อผ้าหันมองเธอด้วยสีหน้าที่ดูเอาเรื่องไม่น้อย“เอ่อ...แฮ่ๆ ไม่อาบน้ำ...ก่อนเหรอ?”“ไม่ต้องมาแฮ่ๆ เลย...มีที่ไหนซ่อนแฟนตัวเองจากครอบครัวไว้ในตู้เสื้อผ้า”“โธ่ ก็ฉันกลัวยายตีหลังลายนี่...”“พี่ก็ไม
จากการออกไปเดทดินเนอร์หลายๆ ที่ด้วยกัน จากที่ขอทำงานเต้นก็ได้ทำและเธอก็ได้สร้างทีมนักเต้นทีมใหม่ขึ้นมาโดยมีซาซ่าและเกรซเป็นผู้ร่วมทีม แถมยังเปิดรับสมัครนักเต้นคนอื่นๆ ที่อยากร่วมงานอีกด้วย จากการกดดันของวงบียอนด์ที่ให้ประธานค่ายอย่างคริสต้องเซ็นสัญญารับทีมของยูแอลเข้ามาเป็นนักเต้นหลักในค่าย แต่ยังคงมีวงอื่นจากค่ายอื่นมาจ้างงานได้และมันต้องผ่านการแสกนจากวงบียอนด์ก่อนยูแอลได้กลับมาเฉิดฉายบนเวทีอีกครั้ง และแน่นอนมาเธอเป็นที่สนใจของไอดอลหนุ่มหน้าใหม่อีกหลายวงๆ จนจีเซลต้องตามไปคุมแทบจะทุกงาน จากที่ยุ่งๆ อยู่แล้วยุ่งกว่าเดิมเสียอีก ไอดอลที่ว่างานเยอะยังไม่เท่ายูแอลตอนนี้เลย...เธอไม่ได้งานเยอะแต่เธอบ้างานจนแทบจะไม่มีเวลาให้เขา...มันน่าน้อยใจจริงๆ ...“เย็นนี้ไป...ดินเนอร์กันไหม? ผมจองร้านไว้แล้ว”“อ๋อ โทษทีนะจีเซล วงไซบอกซ์มีกินเลี้ยงขอบคุณหลังจบงานน่ะ ฉันเป็นหัวหน้าทีมด้วยสิ”“.........”“ไปก่อนนะ ไว้วันอื่นนะคะ จุ๊บ!” ยูแอลเดินเข้ามาจุ๊บที่แก้มของเขาเบาๆ ก่อนจะรีบเดินไปหาเพื่อนๆ ที่ยืนรออยู่
“จีเซล!!!” ยูแอลถึงกับอึ้งหันไปมองชาร์วีที่ตอนนี้เขาแค่ยกยิ้มเพียงเท่านั้น ไม่คิดว่าจีเซลจะกลับมาเร็วขนาดนี้และสีหน้าของเขาที่เข้ามาเห็นดูเหมือนว่าเขาเข้ามาเห็นตั้งแต่ก่อนที่ชาร์วีจะปล่อยมือจากเธอเสียอีกแน่ๆ ยูแอลรีบเดินเข้าไปหาจีเซลที่ขบเคี้ยวเขี่ยวฟันอย่างหงุดหงิด“มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะ...ฉันก็แค่จะล้มแล้วชาร์วีก็..”“มาช่วยไว้สินะครับ....”“ใช่ๆ แค่นั้นจริงๆ ...”“สงสัยผมคงต้องล่ามพี่ไว้บ้างแล้วล่ะครับ จะได้ไม่ต้องไปเที่ยวล้มที่ไหนอีก” จีเซลพูดพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะคว้าข้อมือของเธอเดินออกจากห้องฟิตเน็ตไปทันที ชาร์วีมองตามอ้าปากค้างก่อนจะแบะปากยักไหล่แล้วเดินกลับไปออกกำลังกายต่อพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง“ไอ้จีเซลขี้หึงเป็นบ้าเลยแฮะ...คลั่งรักอะไรขนาดนั้น” พูดไปพลางยกน้ำหนักไปอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่สนใจเท่าไหร่นัก (อย่าให้ถึงทีนายนะนายชาร์วี!)จีเซลลากยูแอลให้เดินตามเขาไปยังห้องรับแขกก่อนจะหยุดชะงักฝีเท้าแล้วหันมาทางเธอด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่
“สวัสดีครับ...ผมเป็นหมอที่คุณชาร์วีส่งมาครับ” ชายหน้าประตูพูดขึ้นพร้อมกับยื่นบัตรประจำตัววิชาชีพโชว์หน้ากล้อง จีเซลเห็นอย่างนั้นก็โล่งอกก่อนจะตอบรับเขา“ครับ...เชิญครับ” จีเซลกดเปิดประตูอัตโนมัติให้คุณหมอเข้ามาก่อนจะเดินนำไปที่ที่ยูแอลนั่งอยู่ ยูแอลลุกขึ้นหวังจะกล่าวสวัสดีแต่คุณหมอกลับรีบบอกให้เธอนั่งลง“ไม่เป็นไรครับ นั่งก่อนเถอะครับคนไข้”“อ๋อ ค่ะ” ยูแอลพูดจบก็หย่อนตัวนั่งโดยมีจีเซลคอยพยุงอยู่ข้างๆ และจับมือเธอไว้ ก่อนจะยกข้อเท้าของเธอขึ้นมาวางบนหน้าขาของเขา คุณหมอที่ถืออุปกรณ์การแพทย์เข้ามาก็เริ่มล้างแผลทำความสะอาดอย่างเบามือและพันแผลให้เธอ“อย่าให้แผลโดนพวกเครื่องสำอางอีกนะครับ...ไม่อย่างนั้นติดเชื้อแน่หรือแผลอาจจะเป็นเชื้อรา”“ค่ะ”“ช่วงอาทิตย์แรกหมอจะเข้ามาล้างแผลให้นะครับ และอย่าลืมทานยาให้ตรงเวลาจนหมดแผงที่หมอให้ไป”“ได้ค่ะ”“อ๋อ แล้วก็คุณจีเซลไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เรื่องนี้จะเป็นความลับ...ยังไงผมก็เป็นหมอประจำบ้านของคุ
เวลาผ่านล่วงเลยไปจนต้องได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เจซี ยูแอลและจีเซลได้เข้ามาถ่ายทำเอ็มวีอย่างที่เจซีคอยลั่นปากไว้กับแฟนคลับเพื่อแก้ข่าวให้ยูแอลด้วย จึงได้ไปถ่ายงานสถานที่ที่คล้ายกันกับบ้านของยูแอลแทน เพราะเจซีไม่อยากให้ยูแอลเข้าไปเจอยายด้วยสภาพที่ผอมโซกว่าเดิมอย่างนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมายูแอลก็พยายามที่จะไม่ทำให้เจซีโกรธแม้จะต้องแสดงให้เขาเชื่อก็ตาม...เพื่อรอวันที่จะเจอจีเซลอย่างเช่นวันนี้...ทุกคนต่างเดินทางมาถึงสถานที่ถ่ายทำกันหมดแล้ว เจซีและยูแอลเองก็มาถึงก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมงเพราะต้องมาแต่งตัวแต่งหน้าลองเข้าฉากหามุมกล้องที่ถูกใจ และจีเซลดันมาถึงก่อนพวกเธอเสียอีก...แต่เขาแค่ลอบมองเธอเป็นระยะเท่านั้นไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจเธอเท่าไหร่นัก ทุกอย่างดำเนินได้ด้วยดี...ตามเนื้อหาเอ็มวีคือเธอต้องเป็นผู้หญิงที่เดินจากเจซีไปเพื่อไปหาจีเซลเมื่อเพลงเปิดขึ้นยูแอลถึงกับอึ้งไม่อยากเชื่อว่าทั้งสองคนจะทำงานเข้ากันได้ดีถึงขนาดอัดเพลงออกมาได้อย่างน่าทึ่ง แค่ฟังก็รู้ว่าจะต้องติดหูมากแค่ไหน ใครจะไปรับรู้ว่าเบื้องหลังเวทีที่มีการร่วมงานกันมันคือการแข่งขันที่จะต้องทำออกมาให้ดีที่สุดเพราะมันจะมีก
หลังจากที่จีเซลแอบขับรถตามเจซีไปก็ได้รู้ที่อยู่ของเจซีและยูแอล แต่เขากลับไม่ได้ทำอะไรผลีผลามเหมือนก่อนหน้านี้เคยเป็น เขาเพียงแค่จ้องมองคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นพร้อมกับเชิดหน้าเอามือเท้าหน้าต่างรถที่เปิดกระจกอยู่และยกยิ้มขึ้น... ก่อนจะกลับรถตรงไปยังบริษัทเพื่อที่จะทำงานต่อในช่วงเช้าเกรซและซาซ่าเดินทางมายังค่ายเพลงบีคริส ค่ายที่วงบียอนด์สังกัดอยู่เพราะช่วงบ่ายมีซ้อมเต้นกับวงพวกเขา แต่ทั้งสองสาวเลือกที่จะมาก่อนเวลาประมาณสองชั่วโมงเพื่อดักรอจีเซล ตั้งใจว่าจะส่งข่าวให้เขาได้รับรู้ถึงความยากลำบากของเพื่อนสาวของตน...ยังไงจีเซลก็ต้องได้รับรู้ และทั้งสองก็รอได้ไม่นานก็เห็นวงบียอนด์เดินเข้าบริษัทมากันครบวง แต่จะรอช้ากว่านี้คงจะไม่ได้ ทั้งสองจึงพยักหน้าให้กันแล้วรีบวิ่งไปยังจีเซลทันที“คุณจีเซล!” เกรซเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นตระหนก จีเซลหันมองเกรซและซาซ่าด้วยสีหน้าสงสัยแต่...เพื่อนรุ่นพี่อย่างซันชายน์รีบเข้ามาขวางหน้าไว้เสียก่อน“มีอะไรหรือครับคนสวย คิดถึงผมขนาดนั้นเลยเหรอ?” ซันชายน์เอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มร่า เกรซหันไปมองเขาตาขวางก่อนจะผลั
สองร่างกอดกันแน่นบนเตียงกว้างสีน้ำเงินเข้ม ชุดนอนถูกร่นออกอย่างง่ายดายเพราะมันเป็นเพียงชุดกระโปรงยาวสีขาวตัวบาง ชุดชั้นในนั้นไม่มีให้เกะกะเนื่องจากคิดว่าต้องนอนแล้วถึงไม่ได้ใส่มัน...อีกอย่างไม่ใช่บ้านของเธอจึงไม่ได้เตรียมมาเปลี่ยน ร่างบางบิดเร่าอยู่ใต้ร่างหนากัดปากตัวเองแน่นเมื่อคนด้านบนเลื่อนมือไปไปกอบกำเต้าสวยพอดีมือก่อนจะเลื่อนลงไปดูดกลืนปลายยอดนั้นอย่างไม่ลดละ รุนแรงจนตัวเกร็งไปหมด..“อึ๊..อื้ม” เสียงครางออกมาผ่านลำคอจากการสกัดกลั้นมันเอาไว้ด้วยความทรมาน แอ่นอกรับริมฝีปากนั้นอย่างลืมตัวแม้ว่ามือเล็กจะพยายามดันไหล่ไล่เขาออกไปก็ตาม แต่ก็แปรเปลี่ยนเป็นจิกเกร็งไหล่แกร่งนั้นแน่น...ห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้เลย...มือหนาอีกข้างจับขาเรียวของเธอให้อ้าออกพอที่จะแทรกร่างของตัวเองเข้าไปอยู่ระหว่างขานั้น ทั้งที่ปากยังคงไม่ว่างคอยปรนเปรอพรมจูบไปทั่วบริเวณอกสวย ก่อนจะเลื่อนใบหน้าพรมจูบไปทั่วหน้าท้องแบนราบจยไปถึงส่วนนูน... มือหนาข้างหนึ่งบีบคลึงเต้าตึงอีกข้างหนึ่งบดขยี้จุดอ่อนไหวจนร่างบางสะดุ้งโหยงและเบือนหน้าหนี แต่ก็ต้องหันหน้ากลับมาหลุบตามองส่วนล่างเม
แม้เรื่องราวกำลังจะแก้ไขได้มันก็ต้องกลับตอกย้ำถึงปัญหาใหม่อีกครั้ง เรื่องที่กำลังจะคลี่คลายกลายเป็นปมหนักและใหญ่กว่าเดิม ความสุขที่มีนั้นอยู่ไม่ได้นานจริงๆ จีเซลจ้องมองชายหญิงที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารของครอบครัวเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง สายตาเฉี่ยวยังคงจ้องมองผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนสาวของพี่ชายตัวเอง...“แอลคะ? ทานอันนี้ไหม? เดี๋ยวพี่ตักให้”“...ขอบคุณค่ะ...”“ดูรักกันดีจังเลยนะลูก คบกับยูแอลมานานหรือยังล่ะเจซี”“ปีนี้ก็เข้าปีที่ 11แล้วครับแม่” เจซีตอบพร้อมกับปรายสายตามองจีเซลอย่างยิ้มๆ จีเซลได้แต่จบกรามแน่นจ้องมองเจซีอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ดูเหมือนว่าเจซีจะรู้เรื่องมาแต่แรกแล้วจากท่าทางที่นั่งยิ้มหน้าระรื่นอย่างนั้น“ไม่คิดเลยว่าจะเป็นไอดอลทั้งคู่ จีเซลไม่รู้จักพี่เขาหรือลูก” ผู้เป็นแม่หันไปเอ่ยถามตาใสมองลูกทั้งสองสลับกัน“ไม่...”“รู้จักสิครับ ผมกำลังจะร่วมงานกับน้องชายอย่างจีเซลพอดี” เจซีเอ่ยขัดจีเซลขึ้นมาทันทีและยังหันไปยิ้
“กูจะลาออกจากวง” จีเซลเอ่ยขึ้นหลังจากที่พูดคุยกับเพื่อนๆ เรื่องเดิมคือเรื่องของยูแอลมาได้สักพัก เขาตั้งใจไว้อย่างนั้นก็เพราะไม่อยากสร้างปัญหาให้เพื่อนๆ ที่กำลังจะไปได้ดีให้มาเดือดร้อนเพราะเรื่องของเขา การกระทำที่จีเซลคิดว่าตัวเองคิดดีแล้วทำให้เพื่อนๆ ในวงถึงกับช็อกค้างมองหน้ากันไปมาอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง“กูไม่อนุมัติ” ดีนขยับแว่นตาใสทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเอ่ยขึ้นเสียงเรียบแทบจะทันทีโดยไม่ต้องคิด ราวกับว่าเขาได้คำนวณไว้แล้วว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นและเขาเองในฐานะหัวหน้าก็ได้คิดแผนการที่ช่วยเพื่อนร่วมวงของตนไว้อยู่แล้ว ...ถ้าขาดใครคนใดคนหนึ่งไปมันก็จะเป็นวงบียอนด์ต่อไปไม่ได้“ดีน กูคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว...กูก็รักในงานนี้ แต่กูรักพวกมึงมากกว่า อย่าให้กูเป็นตัวปัญหาของพวกมึงเลย” จีเซลเอ่ย“แล้วมึงคิดว่ารักพวกกูอยู่ฝ่ายเดียวเหรอวะ?” ชาร์วีอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสีย“มีอะไรมึงก็ไม่ค่อยบอกพวกกู มันก็เลยกลายเป็นแบบนี้” วินซ์เอ่ยเสริมด้วยท่าทีจริงจังผิดกับนิสัยขี้เล่นของเขา รอบ
“ฮะ?!!! ยูแอลลาออกจากทีม?!!” เกรซและซาซ่าพูดขึ้นเสียงดังพร้อมกันอย่างไม่อยากเชื่อคำพูดของหัวหน้าทีมอย่างแจ็คกี้เท่าไหร่นัก วันนี้อุตส่าห์ได้มาเจอกับวงบียอนด์แต่จู่ๆ เธอก็ลาออกกะทันหันเสียอย่างนั้น ที่ไม่น่าเชื่ออีกอย่างคือเป็นไปไม่ได้ที่ยูแอลจะไม่บอกพวกเธอเลย ถ้าไม่รู้เรื่องจากจีเซลพวกเธอคงจะโกรธเพื่อนสาวไม่น้อย“เพื่อนเธอได้ดีแล้ว แฟนไม่ให้ทำงานแล้วก็ถือว่าสบายแล้วนี่ จะทำเสียงตกใจอะไรกันขนาดนั้น” แจ็คกี้เอ่ยพร้อมทำท่าตกใจที่ทั้งสองคนตะโกนขึ้นมา เกรซและซาซ่าหันมองหน้ากันอย่างสงสัยก่อนที่ซาซ่าจะเอ่ยถามขึ้นเพราะทนความสงสัยในใจไม่ไหว“แล้ว...ยัยแอลของพวกฉันมาบอกพี่แจ็คเองเลยเหรอ??”“ก็...เปล่านะ คุณเจซีเป็นคนมาบอก เพราะไม่อยากให้ยูแอลทำงานแล้ว”“แล้วสัญญานักเต้นล่ะ?” เกรซถามต่อ“คุณเจซีจัดการให้เรียบร้อยแล้ว แถมยังให้ค่าผิดสัญญามาตั้งก้อนนึง”แจ็คกี้พูดพร้อมกับตาแวววาวเป็นประกายเมื่อนึกถึงเงินก้อนนั้น เขาตั้งใจที่จะเอามาพัฒนาทีมเต้นของตนเอง ถึงแจ็คกี้จะหน้าเง