ตอนที่ 11 มิได้เอาใจแต่กำลังเจรจา เรือนใหญ่ ตระกูลเสิ่น เสิ่นซูอิงนั่งเคียงข้างเสิ่นฮูหยินฟังอี้เหมยรายงานเรื่องวันนี้ ด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม “อืม วันนี้พวกเจ้าทำได้ดีมาก” จากนั้นลัวมามาก็หยิบถุงเงินส่งให้อี้เหมย หญิงสาวรับมาด้วยสีหน้าแช่มชื่น“ขอบพระคุณฮูหยินเจ้าค่ะ”“หากมีเรื่องอันใดก็รีบมาแจ้งข้า เรื่องในเรือนนั้นเพียงเล็กน้อยก็ต้องรายงานทั้งหมด”สีหน้าของอี้เหมยคล้ายมีเรื่องบางอย่าง สวีเหยียนจึงถามขึ้น“มีเรื่องอันใด” “ก่อนที่บ่าวจะออกมา พ่อบ้านได้นำเสื้อคลุมขนจิ้งจอกหิมะหายากตัวหนึ่งมามอบให้แม่นางกู้ เห็นว่าเป็นของที่ท่านโหวเป็นคนสั่งการกำชับเป็นพิเศษเจ้าค่ะ” “เสื้อคลุมจิ้งจอก ?”“เจ้าค่ะ..สิ่งของอื่น ๆ ที่ได้รับในวันนี้ ใบหน้าแม่นางกู้ล้วนเต็มไปด้วยยินดี ทว่ามีเพียงเสื้อคลุมขนจิ้งจอกตัวนี้ ที่นางมองด้วยสายตาเศร้าสร้อย บ่าวยังแอบเห็นนางยิ้มเย้ยหยันที่มุมปากด้วยเจ้าค่ะ” เสิ่นซูอิงคิ้วขมวด“ท่านแม่ เรื่องเช่นนี้ก็ต้องให้บ่าวมันรายงานด้วยหรือเจ้าค่ะ ข้ามองว่าดูพวกเราจะใส่ใจนางมากไปเสียหน่อย”ในสายตาเสิ่นซูอิง กู้เฉียวจิงก็เป็นเพียงสตรีที่ไม่มีฐานะอันใด แม้นา
ตอนที่ 12 เพื่อรอยยิ้มของสาวงาม กู้เฉียวจิงถือโอกาสทานมื้อเย็นที่เรือนของบุตรชาย กำชับบุตรชายให้ตั้งใจเล่าเรียนก่อนที่จะกลับเรือน ในขณะที่ เดินผ่านเรือนไผ่หยกของเสิ่นเยี่ยหงภายในเรือนมีโคมไฟจุดเพียงด้านหน้า คล้ายเจ้าของเรือนไม่อยู่ก็หยุดฝีเท้าเอ่ยถามอี้หลิง “ท่านพี่ยังไม่กลับมาอีกหรือ”“ท่านโหวเข้าวังไปตั้งแต่เช้า จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่กลับเจ้าค่ะ” กู้เฉียวจิงพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะก้าวฝีเท้าเดินกลับเรือนของตน ภายในใจก็ครุ่นคิดไปพลางกู้ซวินแม้จะมีใบหน้าหล่อเหลาดั่งบิดา ทว่ากลับมีท่วงท่างดงามสง่าเฉกนักปราชญ์ น้ำเสียงก็อบอุ่นและใสกระจ่างดั่งสายธารน้ำไหลในฤดูใบไม้ผลิ มิน่ามีท่าทีดุดันเฉกแม้ทัพแม้แต่น้อย เหตุใดถึงได้ติดตามบิดาไปออกทัพได้นะนางเดินผ่านทางเดินเลี้ยวผ่านประตูหลายบาน กว่าจะมาถึงหน้าเรือนของตนเอง กู้เฉียวจิงพลันตระหนักได้ว่า เรือนของนางอยู่ไกลยิ่งนัก นางยิ้มมุมปากบางแต่ไม่เอ่ยอันใด หลังจากชำระร่างกายเปลี่ยนชุดเสร็จ นางก็สั่งให้ทุกคนออกไป เปิดตู้ยาสำรวจยาต่าง ๆ อีกครั้ง ตระกูลกัว กัวเล่อเยี่ยน หลังจากตรวจคุณสมบัติของยาก็ทำให้ใบหน้างามคิ้วขมวดอ
ตอนที่ 13 ถือโอกาส กู้เฉียวจิงเดินกลับเรือนด้วยอาการเหม่อเล็กน้อย มือในแขนเสื้อกำเงินยี่สิบตำลึงที่พึ่งได้จากกัวเล่อเยี่ยนเบา ๆ สิ่งที่นางต้องการมิใช่เงิน เสิ่นเยี่ยหงมีทั้งพลังและอำนาจ หากนางจะสลัดบุรุษผู้นี้จะต้องอาศัยบารมีผู้อื่นร่วมด้วย ไม่อยากนั้นหากหนีออกไปโดยไม่วางแผนอาจจะถูกจับกลับมาไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีก สร้างความสัมพันธ์กับผู้ที่มีวาสนาสูงสุดในที่นี่นับว่าเป็นหนทางที่ดีและสะดวก ตอนนี้นับได้ว่าเป้าหมายสำเร็จในระดับหนึ่ง เมื่อมาถึงเรือนสาวใช้ก็ช่วยกู้เฉียวจิงปรับเปลี่ยนชุด เสร็จแล้วนางก็หันไปบอกสาวใช้ทั้งสอง “ข้าอยากจะนอนพักสักครู่ พวกเจ้าออกไปเถอะ” เมื่อประตูปิดสนิท กู้เฉียวจิงจึงเริ่มออกกำลังกายแบบเสริมกล้ามเนื้อ “ถึงแม้จะไม่วรยุทธ์หรือวิชาตัวเบา อย่างไรก็ไม่อาจปล่อยให้กลายเป็นสตรีอ่อนแอได้” ทว่าร่างกายของกู้เฉียวจิงบอบบางยิ่งนัก แขนขาไร้เรี่ยวแรง จับไปส่วนใดก็ล้วนอ่อนนุ่ม กู้เฉียวจิงรู้สึกขัดใจ นางจึงหวังจะบริหารสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่ ทว่า ยืดแขนขาไม่กี่ท่า เสียงหายใจของนางก็กระชั้นถี่ เมื่อรู้สึกว่าไม่ไหว
ตอนที่ 14 ยอมรับข้อเสนอ ระหว่างเส้นทางกลับจวน กู้เฉียวจิงนิ่งเงียบไร้วาจาไปตลอดทาง นางครุ่นคิดถึงตัวละครชื่อหลีเซียวหยวน ผู้บัญชาการองค์รักษ์เสื้อแพร คนผู้นี้ไม่ใช่มิตรและศัตรูของเสิ่นเยี่ยหง แต่นับได้ว่าเป็นกำลังสำคัญขององค์รัชทายาท ฉากพบกันในวันนี้ในนิยายไม่ได้เอ่ยถึง จากการถูกหลีเซียวหยวนหยอกล้อ นี้คงเป็นสาเหตุที่ทำให้กู้เฉียวจิงกลายเป็นอนุ และคงเป็นนางที่บีบคั้นตนเองเสียมากกว่า เมื่อกลับมาถึงจวน กู้เฉียวจิงปรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเสร็จก็ไล่สาวใช้ออกไป บอกว่าต้องการอยู่คนเดียวนางเปิดมิติตู้ยากำลังจะหยิบยาล้างแผลสดพลันสายตามองไปเห็นขวดยาภารกิจ เป็นฮูหยินเอกเสิ่นเยี่ยหง ปรากฏชื่อยาขึ้นมาแล้ว ชะล้างไขกระดูก หญิงสาวขมวดครุ่นคิด แล้วหยิบขวดยาออกมาอ่านสรรพคุณ ช่วยล้างไขกระดูกสร้างพลังลมปราณ วิชาตัวเบาโฉบบินดั่งนกอินทรีย์ พลังเยี่ยงเจ้ายุทธภพ กู้เฉียวจิง เบิกตากว้างอ้าปากค้างไปชั่วขณะ นี้ยิ่งกว่าคำว่าโกงเสียอีก นับว่าคุณสมบัติของยาทำให้ กู้เฉียวจิง รู้สึกหวั่นไหวเป็นอย่างมากยิ่งเกิดเหตุการณ์เฉกวันนี้ยิ่งทำให้มีวรยุทธ์ติดกาย และในฐานะนักฆ่ามาก่อน ความฝัน
ตอนที่ 15 แสร้งปล่อยเพื่อจับ รุ่งอรุณมาเยือนแต่กู้เฉียวจิงก็ยังไม่ได้สติ อี้เหมยรู้สึกผิดปกติจึงไปตามหมอตรวจอาการ หมอฟางลู่หลังจากจับชีพจรเสร็จก็เอ่ยพูดขึ้น “แม่นางกู้เพียงอ่อนล้าปล่อยให้นางพักผ่อนและดื่มยาบำรุง อาการก็จะดีขึ้น”อี้เหมยพยักหน้ารับคำ หลังจากท่านหมอกลับไปนางก็ไปกำชับห้องครัวตุ๋นน้ำแกงบำรุงร่างกายรอกู้เฉียวจิงตื่นเมื่อประตูปิดลง ดวงตาของกู้เฉียวจิงก็พลันลืมขึ้น ตั้งแต่ตอนที่หมอมาตรวจร่างกาย นางก็รู้สึกตัวแต่เสแสร้างหลับต่อ ดวงตาใสกระจ่างกะพริบถี่ เพื่อมองเบื้องหน้าอีกครั้งชัดมากทุกอย่างเห็นชัด แม้กระทั่งเสียงที่อยู่รอบนอกเรือน เสียงองค์รักษ์ตรวจเวรยามด้านข้าง ไกลออกไปหากตั้งใจฟังนางยังได้ยินเสียงบุตรชายของนาง มหัศจรรย์ยิ่งนัก กู้เฉียวจิงสะทกสะท้านใจ นี่คือความพิเศษของคนฝึกวรยุทธ์หรือ นางขยับกายลุกขึ้นรู้สึกถึงร่างกายที่เบาคล้ายจะล่องลอยได้ พอนางลุกขึ้นยืนฝีเท้าก็แผ่วเบาไร้เสียง กู้เฉียวจิงรู้สึกคอแห้ง กำลังจะรินน้ำดื่ม น้ำในกา เย็นเสียแล้ว จึงเอ่ยพูดขึ้น “ใครอยู่ข้างนอกบ้าง”อี้หลิงที่รอปรนนิบัติก็รีบพูดขึ้น “ข้าน้อยเองเจ้าค่ะ”จากนั้นก็
ตอนที่ 16 หน้ากากมนุษย์กัวเล่อเยี่ยนเงยหน้ามองระเบียงที่ทอดยาวด้านหน้า วันนี้คาดว่าคนผู้นั้นคงจะเอ่ยเรื่องนั้นอย่างแน่นอน นางลอบถอนหายใจเบา ๆ จากนั้นก็เร่งฝีเท้าจนกระทั่งมาถึงตำหนักบูรพา ขันทีหน้าประตูเมื่อมองเห็นนางก็รีบเดินเข้ามาทักทาย“คุณหนูกัวองค์รัชทายาทรับสั่งเอาไว้หากท่านมาแล้วให้เข้าไปได้เลยขอรับ”“ขอบคุณมู่กงกง” เสียงพูดคุยหน้าประตูทำให้ชิงโยวเหลียนวางพู่กันลง นัยน์ตาดอกท้อทอประกายอ่อนโยน “หม่อมฉันถวายพระพรองค์รัชทายาทเพคะ” “เล่อ เล่อ เจ้ามาแล้ว มานี่สิ เราได้ชาชิงเหลียนมาใหม่ ข้ารับรองว่าเจ้าต้องชอบแน่ๆ”องค์รัชทายาท ผู้ที่มีมีใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ เรียวคิ้วคมดุจกระบี่ นัยน์ตาพราวกลิ่นอายสูงศักดิ์เปี่ยมด้วยวาสนา แววตาที่จ้องมองมาก็กระชากวิญญาณของผู้คนได้ ทว่ากัวเล่อเยี่ยนกลับพินิจมองดูแค่สีหน้าของชายหนุ่มเท่านั้น “ขอบพระทัยพระองค์ วันนี้ทรงมีอาการเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”ชิงโยวเหลียนพยักหน้าเบา ๆ “ดีขึ้นมาบ้างแล้ว ยาลูกกลอน ที่เจ้าให้มาใหม่ทำให้เราหายใจโล่งขึ้น อาการแน่นหน้าอกก็ลดลงด้วยนะ”กัวเล่อเยี่ยน เดินไปคุกเข่าด้านข้างชิงโยวเหยียน กำลังจะเอ่ยขออภัย ชา
ตอนที่ 17 ข้าไม่ยินยอมเป็นอนุใกล้ที่จะกำหนดวันแต่งเกาเหยาชุนเข้าจวน เพื่อป้องกันความผิดพลาดและก่อนที่จะพูดคุยกับบุตรชาย เสิ่นฮูหยินจึงเรียกกู้เฉียวจิงเข้าไปพูดคุย“ข้าคารวะเสิ่นฮูหยินเจ้าค่ะ”กู้เฉียวจิงยังคงมีอัปกริยาเรียบร้อย แม้จะไม่ตรงแบบแต่ก็มิได้ดูเคอะเขินน่าขายหน้า เสิ่นฮูหยินหรี่ตามองพินิจอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น“ลุกขึ้นเถอะ เจ้ามาอยู่ที่จวนได้หลายวันแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง คุ้นเคยกับที่นี่บ้างแล้วหรือยัง”“เรียนฮูหยิน ข้าเริ่มคุ้นเคยบ้างแล้วเจ้าค่ะ”เสิ่นฮูหยินถอนหายใจเบา ๆ คล้ายมีเรื่องหนักใจบางอย่าง “ในเมื่อเริ่มคุ้นเคยแล้ว เจ้าคงพอรู้อยู่บ้างกระมังว่าท่านหงอี้โหวคือบรรดาศักดิ์ที่พระราชทาน มีฐานะสูงส่งฮูหยินเอกก็ต้องเพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน...ข้าพูดเช่นนี้อย่าหาว่าข้าใจดำเลยนะ”กู้เฉียวจิง เงยหน้ามองเสิ่นฮูหยินคล้ายตกตะลึงอยู่บ้าง จากนั้นนางก็ก้มหน้าพูดตอบ“ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ...ข้าตระหนักถึงฐานะของตนเองดี ตั้งแต่คืนแรกที่มาอยู่ที่นี่ ข้าก็ได้บอกเจตนากับท่านโหวไปแล้ว ว่าต้องกลับหมู่บ้านอี้หลาง แม้ว่าข้าจะเป็นหญิงชาวบ้าน ทว่าก็ไม่เคยคิดจะเป็นอนุผู้ใด” ดวงตาของเ
ตอนที่ 18 มีเงินเท่านั้น กู้เฉียวจิงเดินกลับเรือน ภายใจใจอดเยาะเย้ยตนเองไม่ได้ เมื่อไรกันนะที่นางกลายเป็นคนอ่อนไหวเช่นนี้ เมื่อถึงเรือนนางก็บอกให้อี้เหมยและอี้หลิงออกจากห้องไป แววตาเหม่อลอยสีหน้าเย็นชาไม่อยากจะคุยกับผู้ใดและต้องการจะอยู่คนเดียวทำให้บ่าวทั้งสองไม่เอ่ยถามสิ่งอื่นเพียงแต่ช่วยปิดประตู “ชิงชิง ชูชู” กู้เฉียวจิงเอ่ยเรียกองค์รักษ์เงา เพียงพริบตาภายในห้องก็ปรากฏร่างของสตรีสองคน การเคลื่อนไหวที่ไร้สุ้มเสียงเช่นนี้ สร้างความตื่นเต้นให้กับกู้เฉียวจิงไม่น้อย นางยิ้มบางพลางคิดในใจนางควรใส่ใจสิ่งนี้มากกว่า จึงพูดขึ้น “ข้าจะออกไปข้างนอก” จากนั้นนางก็ยื่นหน้ากากที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับนางออกไปให้ชิงชิง จากนั้นก็หยิบหน้ากากอีกอันสวมให้กับตนเอง หน้ากากหนังมนุษย์แม้จะรู้สึกระคายเคืองอยู่บ้างแต่ก็นับว่าใช้งานได้ดี ยากที่จะมีคนมองเห็นว่านางสวมหน้ากาก นางหมุนเอียงหน้าไปมามองดูความละเอียดอีกครั้งก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับชูชูแล้วเร่นกายออกไป กู้เฉียวจิงทะยานออกไปยังนอกเมืองเมื่อไปถึงเชิงเขา ไร้ผู้คน นางก็พูดขึ้น “ข้าอยากจะวัด
ตอนที่ 57 หวังเว่ยซิน..ได้ตามที่ขอในถนนเส้นหนึ่งในอำเภอเล็ก ๆ มีรถม้าคันนี้กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง ภายในรถม้ามีเด็กสาววัยแรกแย้มอยู่ประมาณห้าหกคน ทุกคนล้วนมีผิวพรรณละเอียดใบหน้าหมดจด เค้าโครงรูปหน้าชัดโตขึ้นย่อมเป็นหญิงงามอย่างไม่ต้องสงสัย“ฮื้อ ฮื้อ...ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าครอบครัวข้าจะขายข้า” เสียงเด็กสาวร้องไห้สะอื้นจนตัวโยก บางคนร้องจนหมดแรงหลับไป กู้เฉียวจิงตอนนี้อยู่ในร่างของ หวังเว่ยซิน หนึ่งในสาวงามที่ถูกครอบครัวขายมา เด็กสาวตรอมใจตายยกร่างให้กู้เฉียวจิง อย่างไม่อาลัยอาวรณ์พร้อมขอไปเกิดใหม่ทันทีนางนิ่งเงียบสนิทพยายามทบทวนเรื่องราวของตนเองจากความทรงจำเจ้าของร่างพร้อมกับตรวจสอบพรว่าได้ครบหรือไม่ ในข้อที่หนึ่งขอไปเกิดใหม่พร้อมความทรงจำและวรยุทธ์ ข้อนี้ผ่านไม่มีข้อผิดพลาดถูกต้องตามเจตนา ข้อสอง เกิดในครอบครัวที่นางสามารถเลือกใช้ชีวิตด้วยตนเองได้ทันที นับว่าใช่ ตอนนี้นางมีมารดาและน้องชายแต่นางถูกขายออกมาโดยผู้ที่ได้ว่าเป็นย่าแท้ ๆ อำมหิตสุด ๆ แต่ก็ยังถูกต้องตามที่ขอ หวังเว่ยซินยิ้มแห้ง ๆ ส่วนข้อสาม คงต้องรอสักระยะ ได้ยินคนขับรถม้า
ตอนที่ 56 พรหนึ่งข้อกับตัวละครลับ ในที่สุดกู้เฉียวจิงก็ทนความง่วงไม่ไหว คล้อยหลับไปในตอนดึก ค่ำคืนในฤดูหนาวสายลมพัดเย็นยะเยือก ในห้วงคลับคล้ายเหมือนฝัน นางได้พบกับคนผู้หนึ่งยืนอยู่กลางหิมะ ใบหน้าเหมือนกับนางในตอนนี้ไม่ผิดเพี้ยน “เจ้าคือ กู้เฉียวจิงคนนั้น?” หญิงสาวคนนั้นยิ้มละมุนตอบ “ใช่ข้าเอง...ข้ามาขอบคุณท่าน หากไม่มีท่านทุกอย่างคงไม่ลงเอ่ยเช่นนี้...ข้าซึ้งใจท่านนัก” กล่าวตามจริง กู้เฉียวจิงก็รู้สึกว่าตนเองไม่ได้ทำอันใดมากนัก แค่ทำตามคำสั่งและระงับอารมณ์ให้มากเท่านั้นเอง จึงกล่าว “ข้าทำตามภารกิจ...เจ้ามิต้องขอบคุณ” นางส่ายหน้า “ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณ” กู้เฉียวจิงมองคนเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิดแววตาฉายความสงสัย “ท่านไปอยู่ที่ไหนมาเหตุใดพึ่งปรากฏกาย” “ข้าก็อยู่กับท่าน...หนึ่งร่างสองวิญญาณ”กู้เฉียวจิงเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ความเข้าใจหนึ่งผุดขึ้นใช่แล้ว..กู้เฉียวจิงเจ้าของร่างไม่ได้บอกว่านางตาย มิน่า ๆ หลายครั้งนางก็มีความรู้สึกลึกซึ้งกับเสิ่นเยี่ยหง คงจะเป็นความรู้สึกของสตรีคนนี้ นางเอ่ยถ
ตอนที่ 55 หลบหน้า “ซื่อจือ” กู้เฉียวจิงเอ่ยเรียกกู้ซวินด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความยินดี รอยยิ้มของเด็กชายหันมามองมารดาอบอุ่นเป็นพิเศษ ชวนให้ใบหน้าระบายด้วยรอยยิ้มอิ่มเอมกับความสุขที่ล้นออกมาทั้งใจ ความสุขนี้มากเกินบรรยาย หลังจากออกกำลังไป ฝึกกระบี่ไปหลายกระบวนท่าแล้ว กู้ซวินก็มานั่งข้างมารดา รับน้ำมาดื่มพลางเอ่ยถามมารดา “ท่านแม่...ผู้ที่ตัดเส้นแขนขา จะสามารถฝึกฝนวรยุทธ์ได้อีกหรือไม่ขอรับ” กู้เฉียวจิงกระพริบตาเล็กน้อยสายตาอ่อนโยน มองบุตรชายเป็นกังวลนางก็รู้สึกใจอ่อน “ไม่ต้องห่วง...แม่มีหนทางช่วยพ่อเจ้า” ดวงตาบุตรชายเป็นประกายขึ้นมา “จริงหรือขอรับ” “แม่มิเคยโกหกเจ้า” “ป่ะ..เปล่าขอรับ ลูกแค่ตื่นเต้นเกินไป” “เอาล่ะ ไปอาบน้ำเสียก่อน...ทานอาหารให้เรียบร้อยอย่าได้ให้อาจารย์ต้องรอ” เด็กชายตอบรับทันที “ขอรับท่านแม่”ผลัดออกจากบุตรชาย กู้เฉียวจิงก็กลับไปที่เรือนไปหยอกล้อเสิ่ยซูเวยสักพักก่อนจะออกจากจวนไป โรงหมอฮุ๋ยหวง กัวเล่อเยี่ยนชำเลืองมองกู้เฉียวจิง ใบหน้าของนางคล
ตอนที่ 54 เบื้องหน้าเบื้องหลัง กู้เฉียวจิงอ่านสารจากชิงชิงด้วยความรู้สึกหลากหลายทั้งปลื้มปิติกับเด็กน้อย ทั้งโมโหที่เสิ่นเยี่ยหงเสียท่าให้ผู้อื่น ภายในใจกระวนกระวายอารมณ์ปั่นป่วนอึดอัดไม่รู้ด้วยเหตุใด แม้นางจะเข้าใจว่าเหตุใดเสิ่นเยี่ยหงต้องชิงรีบตัดเส้นเอ็นสร้างความตระหนกเพื่อเบี่ยงเบนให้อีกฝ่ายมีเวลาไตร่ตรองน้อยลง แล้วส่งมอบกู้ซวินออกมาให้เร็วที่สุด กระนั้นนางก็ยังอยากจะฟาดกระบี่ใส่อีกฝ่ายเช่นเคย นางสูดลมหายใจเข้าระงับอารมณ์ ยื่นสารไปยังตะเกียงดูมันมอดไหม้พลางเอ่ยถาม ซูซู “คาดว่าพวกเขาจะถึงเมืองหลวงเมื่อไร” “น่าจะไม่เกินสิบวันเจ้าค่ะ ทว่าท่านบัญชาการน่าจะถึงภายในห้าวันนี้” กู้เฉียวจิงผงกศีรษะ แล้วส่งสัญญาให้ซูซูออกไป ในสถานการณ์เช่นนี้ นางคาดเดาว่าตู้ยาต้องมีภารกิจ จึงเปิดขึ้นมาดู ภารกิจที่ห้า มอบยาต่อเส้นเอ็นให้เสิ่นเยี่ยหง เหอะ เหอะ คาดไม่ผิด ผลตอบแทนที่จะได้รับยังไม่ปรากฏ กู้เฉียวจิงยิ้มที่มุมปาก จะเป็นอะไรนะ สิ่งที่นางจะได้รับในครั้งนี้ เงิน อำนาจ ความสามารถ นางล้วนมีค
ตอนที่ 53 นับว่าก้าวหน้าขึ้น กู้ซวินกวัดแกร่งกระบี่ในมืออย่างรวดเร็ว หลังจากใช้กระบี่ปกป้องตนเอง พลิกพลิ้วกายฟาดฝ่ามือใส่อย่างแรง หักแขนขากลุ่มโจรเสียงร้องโหยหวนดังไม่ขาดสาย เหล่าทหารองค์รักษ์ต่างยืนตะลึงนิ่งอึ้งงันไป พลันได้สติกลับมาก็ชูกระบี่ขึ้นเตรียมกระโจนเข้าไปร่วมต่อสู้ ทว่าพวกเขา ต่างหยุดชะงัก หลังจากเห็นฝ่ามือของเสิ่นเยี่ยหงยกมือขึ้นห้าม ชายหนุ่มปรายสายตามองดูบุตรชาย ตัวเล็ก ๆ ของเขาถูกโอบล้อมด้วยจำนวนที่มากกว่ายี่สิบคน กระนั้นเด็กชายกลับดูปลอดโปร่งไร้ความกังวล แค่นี้ก็เห็นถึงความเหนือชั้น ดูรับมือได้ไม่ยาก ชายหนุ่มยกปากยิ้มเย้ยหยันในตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตนเองควรมีสีหน้ายังไง จะปลาบปลื้มชื่นชมหรือตกตะลึงคาดไม่ถึงกันแน่ เห็นเหล่าทหารต่างหยุดชะงักมองดูตาค้าง กู้ซวินก็ตะโกนลั่นมา “พวกท่านชักช้าอันใด ไยไม่รีบตามหมอมาดูอาการท่านพ่อเดี๋ยวนี้” เสิ่นเยี่ยหงยิ้มดูแคลนตนเอง หมอทหารที่เตรียมมาเพื่อช่วยเหลือกู้ซวินกลับมาต้องรักษาตัวเขาแทน เหล่าโจรภูเขามองกู้ซวินอย่างตะลึงพรึงเพริด เด็กคนหนึ่งใบหน้าไร้เดียงสา แต่กลับแข็ง
ตอนที่ 52 ซ้อนซ้อนแผน ชิงชิงติดตามขึ้นภูเขาจนกระทั่งจุดทางลับ กลุ่มคนร้ายค่อย ๆ ทยอยหายเข้าไปให้โพร่งไม้นางกำลังจะตามเข้าไปก็ถูก หลีเซียวหยวนสะกัดเอาไว้ “ข้าจะตามเข้าไปเอง เจ้าจงไปตามคนของข้ามา” ชิงชิงพยักหน้าจากนั้นก็เร้นกายออกไปภายในโพร่งมืดสนิท มีเพียงแสงจากโคมไฟเล็ก ๆ ที่นำทางด้านหน้า ส่วนคนที่อยู่ข้างหลัง แม้กระทั่งมือตนเองก็มองไม่เห็น กู้ซวินถูกคนร้ายคนหนึ่งแบกอยู่ช่วงกลางขบวน เด็กชายถูกจี้สะกัดจุดนิทราแต่เขาคลายจุดด้วยตนเองไปแล้ว จึงรับรู้ของการติดตามมาของอาจารย์กู้ซวินลอบฟังเสียงลมหายใจของแต่ละคน หนึ่งหรือสองคนในนี้มียอดฝีมืออยู่ เด็กชายจึงหลับแสร้งหลับต่อไป พวกมันพาเด็กชายไปขังไว้ในห้องหนึ่ง “ต้องมัดมือมัดเท้าหรือไม่”“เด็กตัวแค่นี้ไม่ต้องหรอก ให้มันได้นอนหลับสบายสุดท้ายในชีวิต” จากนั้นพวกมันก็ออกไปเฝ้าหน้าห้อง กู้ซวินจึงลุกขึ้นนั่งดูสำรวจรอบกาย หลีเซียวหยวนรอจังหวะแล้วลอบเข้าไป เอ่ยถามเสียงเบา “หวาดกลัวหรือไม่”เด็กชายส่ายหน้า “ไม่กลัวขอรับ ยิ่งรู้ว่าอาจารย์ติดตามมายิ่งไม่มีสิ่งใดให้กลัว”หลีเซียวหยวนนั่งล
ตอนที่ 51 งานเลี้ยงต้อนรับ ตลอดการเดินทางของเสิ่นเยี่ยหงต้องผ่านหลากหลายหมู่บ้านหลากหลายอำเภอ ชายหนุ่มไม่เพียงไม่ปกปิดฐานะยังเข้าร่วมงานเลี้ยงที่เหล่าขุนนางท้องถิ่นจัดเตรียมไว้ให้อย่างสำราญ “ฮ่า ฮ่า ชายแดนบูรพาได้แม่ทัพกลับมาดูแลย่อมสงบไปหลายอีกปีอย่างแน่นอนขอรับ” นายอำเภอแห่งหนึ่งกล่าวยกย่ออย่างไม่ขัดเขิน “มิกล้า มิกล้า ท่านกล่าวหนักเกินไปแล้ว” จากนั้นนายอำเภอก็ชำเลืองมองไปยังเกาเหยาชุนที่ยังนั่งเด่นสง่าร่วมงานเลี้ยงไม่มีท่าทีว่าจะกลับ เขาปรายส่งสายตาให้คนตนเอง เสิ่นเยี่ยหงชำเลืองมองเห็นก็หันไปกล่าว “ฮูหยินเดินมาเหน็ดเหนื่อย...เจ้าไปพักเสียเถอะ...” ชาในมือของเกาเหยาชุนชะงักเพียงเล็กน้อย แววตาฉายความกรุ่นโกรธผุดขึ้นมาเพียงแวบหนึ่งก็หายไป นางก้มหน้าพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เจ้าค่ะ...วันนี้เหนื่อยล้าไม่น้อย เช่นนั้นข้าต้องเสียมารยาทกับใต้เท้าทุกท่านด้วยนะเจ้าคะ” ในเมื่อเกาเหยาชุนลุก ฮูหยินใต้เท้าผู้อื่นก็ต่างลุกขอตัวพอสตรีออกไปหมดแล้วนายอำเภอก็ส่งสัญญาณ เสียงดนตรีบรรเลงก็ดังขึ้นพร้อมนางรำที
ตอนที่ 50 ไม่หนีตอนนี้จะหนีตอนไหน ยามเช้าในช่วงฤดูหนาวยังคงเจิดจ้า กู้เฉียวจิงที่ยืนนิ่งอยู่บนต้นไม้ใหญ่ ชุดคลุมสีดำปลิวไสวไปกับสายลมดวงหน้างดงามแววตาฉายความเย็นชาความกังวลฉายในแววตา บุรุษที่ปรากฏกายข้างกายนางปราดสายตามองนางครู่หนึ่งแล้วกล่าว “ไม่ต้องห่วง อย่างไรกู้ซวินก็เป็นลูกศิษย์ของข้า” กู้เฉียวจิงเบนหน้าออกจากขบวนรถม้าของหงอี้โหว ที่กำลังเคลื่อนออกจากตัวเมือง สบตาหลีเซียวหยวนพลางโค้งศีรษะกล่าว “รบกวนท่านแล้ว” “อืม..เรื่องที่เจ้าให้ข้าสืบ หลายอย่างคาดเดาได้ไม่ลำบาก ไปครั้งนี้ต้องการไปหาหลักฐานเพิ่มเท่านั้น” “ข้าเป็นหนี้บุญคุณท่านอีกแล้ว”นัยน์ตาจิ้งจอกประกายไหว จ้องมองแล้วตอบ “เจ้าช่วยงานข้าเสียมากกว่า..นับว่าเป็นเบาะแสที่ดี” กู้เฉียวจิงยิ้มมุมปากเรียว ทอดหายใจเบาบาง “หวังว่าจะไม่ร้ายแรงเกินไป” ชายหนุ่มพยักหน้าครั้งหนึ่งให้หญิงสาว กู้เฉียวจิงโค้งศีรษะจากนั้นเขาก็จะทะยานออกไปรวมกลุ่มกับองค์รักษ์แล้วควบม้าออกเดินทาง หลังจากนั้นกู้เฉียวจิงเองก็เร้นกายหายออกไปจากตรงนั้น ไ
ตอนที่ 49 ภารกิจที่สี่ที่แสนอันตราย เสิ่นเยี่ยหงไม่มากวนใจกู้เฉียวจิงมากนัก อาจจะเป็นเพราะถูกผู้อาวุโสห้ามปราม เพราะนางกำลังถูกย่างกู้เฉียวจิงคล้ายกำลังจะตายทั้งเป็นนาง ทั้งความเจ็บปวดในการคลอด ทั้งอยู่ไฟหลังคลอด นางผู้ที่เป็นฮูหยินเอกหงอี้โหว มีบ่าวไพร่ดูแลมากมายยังรู้สึกเหนื่อยล้าเพียงนี้ ความอดทนอดกลั้นทั้งชีวิตเหมือนถูกใช้ไปหมดแล้วในคราวนี้ นี่คือคอร์สฝึกฝนนักฆ่าชัด ๆ มิน่าเล่าเหล่าฮูหยินเรือนหลังถึงได้โหดเหี้ยมกันเหลือเกิน นางเข้าใจแล้ว กู้เฉียวจิงเปิดตูยาหยิบ ยาหอมออกมาสูดดมอย่างแรง พลันสายตาก็มองเห็น ภารกิจที่สี่ ให้กู้ซวินติดตามเสิ่นเยี่ยหงไปชายแดน ความเหนื่อยล้าเมื่อสักครู่หายไปจนหมดสิ้น กู้เฉียวจิงเบิกตากว้าง มองด้วยความรู้สึกตื่นตระหนก เป็นไปไม่ได้ ภารกิจนี้ หัวใจของนางสั่นสะท้าน กู้ซวินตายเพราะติดตามบิดาไปยังชายแดน เป็นไปไม่ได้ที่นางจะยินยอม ข้อแลกเปลี่ยนคืออะไรกันเหตุใดตู้ยาถึงกล้าเสนอเงื่อนไขเช่นนี้ หลังจากนั้นเรื่องนี้ก็ค้างคาใจ