แม่ทัพหนุ่มทั้งดูดดื่มทั้งไล้เลียผลอิงเถาของนาง เขาฟอนเฟ้นอกอวบใหญ่ของนางจนพอใจ จึงได้ไล้เลียลงไปจนทั่วร่างอวบของนาง ไม่มีส่วนไหนในร่างกายขาวผ่องนี้ที่เขายังไม่ได้สัมผัส โม่โฉวจดจำได้ทุกรายละเอียดบนเรือนร่างขาวผ่องของเมียรัก ที่ตอนนี้เขายอมรับอย่างเต็มปากแล้วว่านางคือเมียของเขา เมื่อไล้เลียร่างอวบจนพอใจแล้ว จึงได้เลื่อนตัวลงไปที่เนินอวบของนาง เขาขย้ำมันอย่างมันมือ มันอวบใหญ่จนล้นมือของเขา แม่ทัพหนุ่มฟอนเฟ้นมันจนพอใจแล้วจึงได้สอดนิ้วแกร่งของเขาเข้าไปทีละนิด เขาหยอกเย้านางด้วยการสอดนิ้วถูไถที่ปากทางเข้าและครูดผ่านเมล็ดดอกไม้ของนางไปมา ส่งผลให้ร่างอวบดิ้นพล่านด้วยความเสียวซ่าน นางทั้งดิ้นพล่านไปมาและโยกสะโพกอวบเข้าหานิ้วแกร่งของเขาเพราะนางเองก็เสียวจนเกินจะทนแล้ว แม่ทัพหนุ่มชักนิ้วแกร่งของเขาเข้าออกช้าๆแต่ไม่ยอมเร่งจังหวะเสียทีจนเยว่ซินโยกสะโพกอวบเข้าหานิ้วแกร่งของเขาอย่างบ้าคลั่งเพราะนางเสียวเหลือเกิน เสียวจนเกินจะทนแล้ว“ อ๊า อ๊าา ท่านพี่ ได้โปรด ข้าเสียว เสียวเหลือเกินอ๊ายย อ๊าา อ๊า ท่านพี่ รักข้า เดี๋ยวนี้ รักข้า ได้โปรด อ๊าา อ๊าา อ๊าย อ๊าาย ” นางตัดสินใจอ้อนวอนเขาเพราะนางเส
ด้านในห้องนอนที่ตอนนี้เร่าร้อนเหลือเกิน แม่ทัพหนุ่มเมื่อแตกพ่ายไปแล้วสมใจ ก็พลิกร่างอวบของเมียรักลงนอนคว่ำแล้วยกสะโพกอวบของนางขึ้นบีบเค้นก้นอวบอั๋นของนางอย่างเมามันจนมันขึ้นสีแล้วจึงได้สอดลำกายอวบใหญ่ของเขาเข้าไปในร่องอวบของนางจากทางด้านหลังแล้วก็เร่งกระแทกร่องอวบของนางอย่างเร่าร้อนทันที เยว่ซินที่ตอนนี้หลงมัวเมากับราคะที่ถูกคนด้านหลังปลุกปั่นจนนางร้อนรักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นางโยกสะโพกอวบรับลำกายของสามีอย่างเร่าร้อน ปากก็ร้องครวญครางอย่างสุขสมยิ่งนัก นางเองก็เสร็จสมไปนับครั้งไม่ถ้วน บัดนี้ก็เริ่มเสียวซ่านจนทนไม่ไหวจึงได้โยกสะโพกอวบรับแรงกระแทกที่รุนแรงของสามีอย่างร่านรัก“ เมียจ๋า เมียรัก พี่รักเจ้า รักมากเหลือเกิน โอ้ววว โอ้ววว โอ้ววว ” แม่ทัพหนุ่มที่รู้สึกมีความสุขจนแทบทนต่อไปไม่ไหว เขาร้องครวญครางอย่างสุขสม พลางสารภาพความในใจของเขาออกไปจนสิ้น ขณะที่บั้นเอวหนาก็เร่งกระแทกนางอย่างเร่าร้อน จนเมื่อแตกพ่ายไปอีกครั้ง เขาจึงได้กดร่างอวบของนางลงนอนแนบกับฟูกหนาแล้วตัวจับเจ้าลูกชายตาเดียวที่มันยังไม่อิ่มเอมกับรสรักของนางสอดเข้าไปในร่องอวบของนางทางด้านหลังอีกครั้งแล้วโยกบั้นเอวหนาเร่งก
แต่เรื่องราวมันคงจะมีมูลไม่อย่างนั้นจดหมายนี่จะเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วอี้หลานก็พลันลุกออกไปจากเรือนของแม่นมหลิวเพื่อออกไปขึ้นรถม้ามุ่งหน้าไปที่ภัตตาคารจินเยว่เพื่อไปพิสูจน์ว่าสิ่งที่นางรับรู้มาในจดหมายนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ขณะที่นั่งรถม้าไปอี้หลานร้อนใจยิ่งนัก วันนี้หากเป็นเรื่องจริงนางจะตบนังสาวใช้แพศยานั่นให้ตายเลย โทษฐานกล้าบังอาจมาแย่งสามีของนาง นางงูพิษ ไว้ใจไม่ได้เลย กล้าคิดจะตีเสมอกับข้า แย่งพี่โม่โฉวมาจากนังเยว่ซินไม่ได้ กลับจะมาแย่งสามีของข้า มันน่านัก อี้หลานก่นด่าไปตลาดทางที่มุ่งหน้าไปภัตตาคารโม่โฉวยอมรับกับใครๆว่าเยว่ซินคือเม่ียของเขา ให้ทุกคนเรียกนางว่าฮูหยิน และเยว่ซินที่บัดนี้ในหัวใจของนางก็มีแม่ทัพหนุ่มเข้ามาเกือบจะเต็มหัวใจไปเสียแล้ว นางรักเขา นางจึงคิดว่าจะลองเปิดใจใช้ชีวิตคู่กับชายที่นางรัก แม้นางเองจะรู้ว่าปลายทางนางอาจจะต้องพบเจอความเจ็บปวดใจในความรักครั้งนี้ก็เป็นได้ เพราะครอบครัวของเขาไม่มีทางยอมรับได้ว่านางคือสะใภ้ โม่โฉวเองก็รู้จึงยังอยู่ที่ค่ายทหารกับเมียรักเพราะไม่อยากจะให้น้องสาวมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตคู่ของเขากับเยว่ซินที่กำลังหวานชื่น เขากับภรร
มือหนากดนางนั่งลงแล้วบีบปากนางเบาๆ พลางดันลำกายที่แข็งขึงชิดปากนาง คนสวยเงยหน้ามองใบหน้าคมคายของสามี แล้วอ้าปากไล้เลียตัวตนแข็งแกร่งของเขา “ โอ้วววว โอ้วววว ” เว่ยหลงครวญคราง อี้หลานไล้เลียลำกายอวบใหญ่ของสามีไปมาด้วยลีลาเร่าร้อน และอ้าปากรับลำกายแกร่งของเขาเข้าไป แล้วออกแรงดูดดึงมันอย่างแรง นางทำดังเช่นกำลังไล้เลียถังหูลู่ขนมโปรดของนางอยู่ สะโพกหนากระตุกเกร็งหลายๆ เว่ยหลงดันตัวตนเข้าปากของภรรยาอย่างรุนแรง บั้นเอวหนาไหวโยก เริ่มจากจังหวะที่เนิบนาบจนกระทั่งรัวเร็ว ถี่ยิบ จนกระทั่งถึงขีดสุดของความอดทน เขาก็ปลดปล่อยน้ำรักออกมาอย่างมากมาย อี้หลานชันตัวลุกขึ้นด้วยท่วงท่าที่เย้ายวน มองสบตาสามีด้วยดวงตาหวานฉ่ำ สองมือยกขึ้นคล้องคอหนาของเขาเอาไว้ แววตาเย้ายวนนัก แล้วเขย่งเท้าขึ้นไล้เลียริมฝีปากหนาของเขา ทั้งริมฝีปากล่างและบน ด้วยลีลาที่ยั่วยวน “ท่านพี่ว่า… ข้าพอจะสวยสู้หนิงเยว่ซินได้หรือเปล่า ” เว่ยหลงไม่ตอบอะไรออกมา แต่แววตาครึ้มไปด้วยความเสน่หา เขาบดจูบลงที่ริมฝีปากอวบอิ่มของภรรยา แล้วส่งลิ้นหนารุกไล่ลิ้นเล็กที่อ่อนนุ่มของนาง จนเกี่ยวพันกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใครสองม
แต่มาคิดอีกที โม่โฉวแต่งงานเพื่อช่วยแยกสตรีนางนั้นจากน้องเขย ในเมื่อตอนนี้อี้หลานบอกว่าสำเร็จแล้ว เจ้าลูกเขยตัวดีกลับมาอยู่กับร่องกับรอยแล้ว เขาเองก็เบาใจ จึงคิดว่าจะคืนอิสระให้แก่โม่โฉวให้เขาได้สมรักกับสตรีที่เขาเคยรักมาก ที่จำต้องห่างไกลกันและบัดนี้เป็นโอกาสที่ดีที่นางหวนกลับมาแล้ว เขาจึงจะให้รางวัลแก่โม่โฉวโดยการหมั้นหมายคนรักเก่าที่เขาเคยรักมากให้กับเขา โม่โฉวคงจะทั้งแปลกใจและดีใจอย่างมากแน่นอน ส่วนสตรีนางนั้นก็คงให้นางออกไปจากจวนเสีย เพราะไม่ได้มีหนังสือสมรสด้วยกัน จะหย่าเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ เมื่อไม่ได้รักกันจะฝืนทนอยู่กันไปไปทำไม แผนการณ์ของพวกเขาก็สำเร็จลงด้วยดีแล้ว เรื่องการแต่งงานกามะลอก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เมื่อคิดได้ดังนั้น ท่านคหบดีจางก็เอ่ยขึ้นว่า “ ถ้าเจ้าไม่ขัดข้อง ลุงจะขอหมั้นหมายเจ้าให้กับโม่โฉ่ว ถ้าเจ้าตัวเขารู้คงจะดีใจมากแน่ๆ เอาละลุงจะไปหาพ่อเจ้าที่จวนเองจะได้พูดคุยกันเรื่องนี้ หากเจ้าตกลง ลุงก็จะได้จัดเตรียมสินสอดไปที่จวนของเจ้าเลย เจ้าจะว่าอย่างไร ” คหบดีจางถามอึ้งหยงอย่างต้องการคำตอบและแน่นอนว่าอึ้งหยงที่ยังมีใจให้กับโม่โฉวก็ย่อมจะยินดีนัก นางตอบตกลงทันที ด้วย
เยว่ซินที่ได้ยินและรู้เห็นทุกอย่างใบหน้างามของนางซีดเผือดไปเล็กน้อย เมื่อพอจะมองออกว่าญาติพี่น้องของสามีต้องการให้เขาแต่งงานกับสตรีนางนี้ที่เป็นอดีตคนรักของเขา ที่ท่านลุงของเขาถึงกับไปหมั้นหมายนางให้กับเขาแล้ว ทั้งๆที่พวกเขาก็รู้ว่าเยว่ซินเองก็เพิ่งแต่งเข้ามา แต่ก็นั่นแหละนะ นางเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่พวกเขาไม่ต้องการใช้แล้ว เพราะเขี่ยนางให้พ้นทางของพวกเขาได้แล้ว ทั้งๆที่นางไม่เคยคิดอะไรกับเว่ยหลงแม้สักนิด พวกเขามีเพียงมิตรภาพของมิตรสหายวัยเด็กเพียงเท่านั้น แต่ด้วยความหวาดระแวงของอี้หลานจึงให้พี่ชายลงทุนไปสู่ขอนางมาเป็นฮูหยินและบัดนี้ อี้หลานคงจะไม่มีปัญหากับสามีแล้ว จึงพยายามจะให้พี่ชายของนางได้แต่งงานรับสตรีอื่นเข้ามา โดยไม่ได้บอกว่าพี่ชายของนางเพิ่งจะแต่งงานหยินเข้ามาได้เพียงไม่นาน แต่ก็นั่นแหละ ในเมื่อพวกเขาไม่ได้คิดว่านางคือสะใภ้ คือภรรยาของโม่โฉว ก็คงไม่ได้นับว่านั่นคือการแต่งงานที่แท้จริง แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับท่าทีของสามีของนางที่ไม่แม้แต่จะปริปากปฏิเสธพวกเขา หรือกับสตรีที่เคยเป็นอดีตคนรักของเขาที่บัดนี้กลับกลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาไปแล้ว ไม่ปริปากบอกสตรีนางนั้นสักคำว่า
เยว่ซินเปลี่ยนอาภรณ์ใหม่แล้วให้บ่าวชายไปตามรถม้ามาให้นาง นางจำเป็นต้องใช้รถม้าของจวนแม่ทัพไปก่อน แล้วหากเมื่อจัดการธุระเสร็จสิ้นแล้ว นางจะเรียกรถม้ารับจ้างไปขนข้าวของย้ายออกมาจากจวนแม่ทัพ เมื่อนางไปถึงร้านค้าผ้าไหมและแพรพรรณหลากชนิดที่เป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในตลาดก็ไปขอพบคุณชายเผยซึ่งหลงจู๊ที่ดูแลร้านค้าของเขาบอกว่าเขาไปตรวจคลังสินค้า แต่จะให้คนงานไปส่งนางไปพบเขาที่คลังสินค้าได้เยว่ซินจึงได้เดินไปบอกให้รถม้าของจวนแม่ทัพกลับไปก่อน แล้วขากลับนางจะหารถกลับไปเอง จากนั้นเยว่ซินจึงได้นั่งรถม้าไปกับคนงานของร้านผ้าไหมเพื่อไปพบคุณชายเผยอี้หลิง เมื่อถึงคลังสินค้าคนงานก็พานางเดินเข้าไปในในเรือนหลังเล็กๆหลังหนึ่งที่เป็นที่นั่งทำงานของหลงจู๊และและหากคุณชายเผยมาตรวจงานที่คลังสินค้าเขาก็มักจะนั่งตรวจบัญชีอยู่ในนี้เมื่อเยว่ซินเดินเข้าไป คุณชายเผยเงยหน้าขึ้นมองนางอย่างแปลกใจ “ เยว่เอ๋อ เหตุใดมาหาข้าถึงที่นี่ได้ มีเรื่องอันใดเร่งร้อนหรือไม่ ” เขาเอ่ยถามนางขณะที่เยว่ซินทรุดนั่งลงตรงหน้าเขา พร้อมกับคนงานชายรินน้ำชาร้อนมาวางตรงหน้านาง “ ข้าจะมาถามคุณชายว่าข้อเสนอที่ท่านเคยบอกกับข้ายังอยู่เช่นเดิมหรือไ
โม่โฉวที่อึดอัดใจไม่น้อยที่เหมือนท่านลุงมัดมือชกเขาให้หมั้นหมายกับอึ้งหยงอดีตคนรักที่เขาเคยรักนางมาก ใช่อดีตเขาเคยรักนางมาก แต่บัดนี้ในหัวใจของเขามันมีแต่เยว่ซินจนเต็มพื้นที่ไปหมดแล้ว เขาแค่ตกใจและแปลกใจที่อยู่ๆ อึ้งหยงอดีตคนรักก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า อดีตเขาเคยรักและคิดถึงนางอย่างมากมาย รักมาก และทรมานกับการพลัดพรากจนต้องออกไปสู้ศึกที่ชายแดนอยู่ตลอด ไม่ค่อยกลับมาที่จวนเพราะเกรงจะหวนไปคิดถึงอดีตคนรักให้ต้องเจ็บปวดใจอีก เขาสู้ศึกอยู่หลายปี ทั้งศึกน้อยใหญ่ จนไม่มีเวลาคิดถึงสตรีที่เคยเป็นที่รัก แต่แล้ววันหนึ่งความคิดถึงนางก็เลือนลางไปตามวันเวลา และเหลือเพียงรอยจางๆอยู่ในความทรงจำ เขาแค่ตกตะลึงที่อยู่ๆ นางก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา และตกใจที่ท่านลุงไปหมั้นหมายนางให้กับเขาทั้งๆที่เขาแต่งงานแล้ว มีเมียแล้ว ไปตั้งหลายเดือน เขาเองกำลังคิดคำพูดอยู่ที่จะไม่ให้อดีตคนรักต้องเสียใจที่เขาจะต้องปฏิเสธนาง เพราะเขามีเมียแล้ว และเขารักเมียของเขามาก โม่โฉวตัดสินใจเอ่ยขึ้นทันที หลังจากปล่อยให้ท่านลุงกับอี้หลานพร่ำพูดเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการแต่งงานของเขา จนเขาเองก็อึดอัดใจเหลือเกิน แม้ความกตัญญูจะค้ำคอ
หลังจากเป่าเอ๋อลงมาจากรถม้าของว่าที่สามี แล้วนางก็ยืนรอส่งเขาจนรถม้าแล่นลับตาไป ในอกของนางพองฟูและเบ่งบานไปด้วยความสุขความสมหวัง นางไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่านางจะได้เป็นสตรีที่ชายที่มีฐานะสูงส่งกว่านางจะหันมามอง นางแทบไม่เคยคิดว่านางจะเป็นหญิงที่ร้องครวญครางอยู่บนตักของเขาอย่างเมื่อครู่ที่ในรถม้า เมื่อถูกเขาจูบมัดจำและฟอนเฟ้นร่างงามของนาง ว่าที่สามีจากไปพร้อมกับคำสัญญาว่าอีกสามวันเราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างที่ปรารถนาแล้วหลังจากนั้นฮุ่ยหลินก็ต้องเป็นฝ่ายมาส่งเจ้าสาวขึ้นเกี้ยวในอีกสามวันต่อมา และไปร่วมพิธีแต่งงานเล็กๆที่จวนของรองแม่ทัพหนุ่มกับสามี เพราะท่านเจ้ากรมไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาไปที่จวนของรองแม่ทัพเหลียงโดยที่ไม่มีเขาไปด้วยอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็เป็นอันว่าเป่าเอ๋ออดีตสาวใช้ของฮุ่ยหลินก็กลายเป็นอนุของรองแม่ทัพเหลียงอย่างเต็มตัวแล้ว และเขามีทีท่าว่าทั้งรักและหลงไหลนางมาก ถึงขนาดให้มาอยู่ที่เรือนเล็กข้างๆเรือนหลักของเขา ฮุ่ยหลินก็หวังว่าต่อไปชีวิตของเป่าเอ๋อจะราบรื่นสมหวังและมีความสุขกับชายที่นางรักเช่นนี้ตลอดไปหนึ่งปีต่อมา ฮุ่ยหลินคลอดบุตรชายที่เป็นแก้วตาดวงใจของจวนสกุลฮั่ว เขาตัว
ท่านเจ้ากรมหนุ่มค่อยๆ ขยับเอวสอบของตนเองช้าๆ แล้วค่อยๆเร่งจังหวะ “ อื้อ… อะ อะ อ๊าาย อื้อ อู๊ยยย อู๊ยย อู๊ยยย….” แล้วค่อยๆ โยกขย่มนางอย่างรุนแรงจนกลายรัวบั้นเอวถี่ยิบ โถมเข้าไปในกายของนางอย่างรุนแรง ฮุ่ยหลินหอบหายใจกระชั้น นางเสียว เสียวเหลือเกิน แอ่นสะโพกอวบให้เขาทิ่มแทงเข้ามาอย่างไม่ยั้ง “ อ๊าา อู๊ยยย อู๊ยยย อาาา ซี๊ด … อู๊ยยย ” เสียงครางกระเส่าของนางยิ่งทำให้คนบนร่างแทบจะคลั่ง เขากัดฟันเอาไว้แน่น เพื่อห้ามตัวเองไม่ให้หลั่งออกมา เพราะร่องอวบของนางตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่งรุนแรง ตับ ตับ ตับ ตับ ตับ คุณชายหนุ่มก้มลงดูดผลอิงเถาของนางอีกครั้ง ขณะที่รัวบั้นเอวไม่ยั้งใส่ร่องรักของนาง แทงเข้าแทงออกอย่างรุนแรง เขาทั้งงัดทั้งเสย เข้าออกจนกระทั่งฮุ่ยหลินกระตุกเกร็งหลายๆครั้ง แล้วเสร็จสมไปก่อน นางหายใจแรงๆ หอบเหนื่อยยิ่งนักขณะที่เจ้าบ่าวหมาดๆ ยิ่งโหมกระหน่ำกระแทกร่องสวาทของนางอย่างรุนแรง ด้วยจังหวะกระชั้นชิด เหงื่อไหลโทรมกาย ก่อนที่ทั้งสองจะกอดรัดกันแล้วร่องสวาทของฮุ่ยหลินก็ตอดรัดดูดกลื่นน้ำรักอุ่นของสามีของนางจนหมดสิ้นทุกหยาดหยดที่เขามี เจ้ากรมหนุ่มล้มตัวลงบนอกอวบของนางแล้วหายใจหอบอย่า
ยิ่งนางดิ้นรนและกรีดร้องบอกเขาว่าไม่อยากจะเป็นของเขา ฟู่เฉิงยิ่งออกแรงดูดผลอิงเถาของนางแรงยิ่งขึ้นส่งผลให้ฮุ่ยหลินเสียวซ่าน เสียวขึ้นมาอย่างรวดเร็วอย่างห้ามเอาไว้ไม่ได้ ” อ๊าย อ๊าา อื้อ..อื้อ…" ฮุ่ยหลินครางเสียงสั่นระรัว นางรู้สึกวาบหวามอย่างห้ามตนเองเอาไว้ไม่ได้ นางรับรู้ว่าบัดนี้น้ำรักในร่องอวบของนางนั้นไหลออกมาจนเปรอะเปื้อนตามง่ามขา ช่าง….น่าอาย น่าอับอายเหลือเกิน ไม่นะ นี่ร่างกายของข้า มันสยบยอมเขาอีกแล้ว ไม่นะ ไม่….ท่านเจ้ากรมหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากอกอวบของนาง เขาจ้องมองนางด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความต้องการอย่างมากมาย จนเจ้าสาวหมาดๆ เบือนหน้าหลบสายตาคมนั้น เจ้ากรมหนุ่มถอดอาภรณ์ของตนเองทีละชิ้นขณะที่ตาก็จ้องมองใบหน้าหวานที่เริ่มแดงระเรื่อ แก้มนวลของนางน่าจูบยิ่งนัก เมื่อกายล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นไปทั้งตัวเปลือยเปล่า เขาก็เบียดต้นขาแข็งแกร่งนั้นแทรกผ่านเรียวขาขาวอวบทั้งสองข้างของนาง แล้วถูไถเสียดสีโหนกบุปผาไปมา แค่เพียงเท่านี้ก็ส่งผลให้ฮุ่ยหลินร้องครวญครางอย่างบ้าคลั่งแล้ว นางบิดกายไปมาเพราะความเสียวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ไม่ใช่การดิ้นรนหนีไปจากคนบนร่างอีกแล้ว ป
รองแม่ทัพหนุ่มหลงลืมฮุ่ยหลินไปจนหมดสิ้นเมื่อพบสตรีบริสุทธิ์ผุดผ่องที่แม้อ่อนหัดแต่นางเรียนรู้ได้รวดเร็วนัก แม้นางยังใหม่ในเกมรัก และนางก็มีทุกอย่างที่สตรีควรจะมี ผิวพรรณผุดผาดหน้าอกอวบใหญ่และสะโพกที่ผายกำลังดี เขาคิดว่าหากนางได้สวมอาภรณ์ชั้นดี นางก็คงไม่ต่างกับคุณหนูในห้องหอทั้งหลายในเมืองนี้ แม้นางไม่งามเท่าฮุ่ยหลินแต่นางกล้าและเร่าร้อนกว่ามาก นางกล้าทำทุกอย่างตามใจเขา นางไม่เขินอายยามเริงรัก ปล่อยใจและกายให้กับเขาอย่างเต็มที่ ทั้งสองพากันไปโยกขย่มกันในถังน้ำในห้องนอนของอดีตคุณหนูของนางที่บัดนี้ไม่ได้ใช้งานแล้ว เรือนนี้เป็นเรือนว่างที่ปิดเอาไว้ ไม่มีใครมาที่นี่อีก เพราะเก็บข้าวของไปหมดแล้ว ตลอดคืนเรือนหลังน้อยนี้กลายเป็นเรือนรักของรองแม่ทัพเหลียงและเป่าเอ๋ออนุหมาดๆของเขาที่ต่างก็หลงไหลในกันและกัน จนบทรักที่เร่าร้อนดำเนินไปตลอดค่ำคืน เพราะต่างก็ยังไม่อิ่มเอมในกันและกัน คนสนิทของรองแม่ทัพหนุ่มทั้งสองคนที่ติดตามมางานเลี้ยงในวันนี้ นั่งเฝ้าอยู่หน้าเรือนเพราะนายของเขายังอยู่ข้างใน เสียงเริงรักของทั้งสองได้ยินออกมาเป็นระยะตลอดทั้งคืน ทหารคนสนิทต่างยักคิ้วให้แก่กันอย่างร
นายท่านหนุ่มก้มลงชิมน้ำหวานจากร่องอวบของนางจนเหือดแห้ง เขาดื่มมันอย่างเอร็ดอร่อย แล้วอยู่ๆเขาก็จับร่างอวบพลิกคว่ำลงฟูกนอนหนานุ่มนั้น พร้อมกับดึงบั้นท้ายอวบอัดของนางขึ้นให้มันลอยสูงพอที่เขาจะสอดเจ้าลูกชายที่แข็งขึงไปหมดของเขาจ่อเข้ากับร่องอวบของนางจากทางด้านหลัง “ อ๊าาา อ๊าาย นายท่านเจ้าคะ สอดมันเข้ามา ได้โปรดเจ้าค่ะ กระแทกข้าเสียที อ๊าา อ๊าา อ๊ายยย “ สาวใช้คนงามแอ่นก้นงามงอนของนางส่ายไปมาเพื่อยั่วยวนเขาอย่างถึงที่สุด ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน แต่ทนไม่ไหวแล้ว นางร่าน ร่านเหลือเกินแล้ว และนางต้องการเขา ชายที่เป็นสามีของนาง ในใจของเป่าอันมันแอบมีเขาซุกซ่อนเอาไว้ ตั้งแต่พบเขาคราวแรกพร้อมกับคุณหนู แต่นางมิกล้าอาจเอื้อมได้แต่แอบเมียงมอง และเก็บเอาเขาไปฝันตามภาษาสาวรุ่นที่ต้องการไออุ่นจากคนรัก นางคิดว่าความรักครั้งนี้มัันไม่มีทางจะเป็นไปได้ เพราะชายที่นางบังอาจแอบรัก เป็นคนรักของคุณหนูของนาง ” เป๋าเอ๋อ เจ้าร่านชายเช่นนี้ ถูกใจข้ายิ่งนัก ข้าจะกระแทกเจ้าแล้ว กระแทกเจ้าให้มิดด้าม ขย่มแรงๆ ให้เจ้าเดินไม่ได้เลยคอยดู “ รองแม่ทัพหนุ่มที่บัดนี้อารมณ์รักพุ่งขึ้นสูงมาก จนพร่ำพูดคำ
สาวใช้ตัวน้อยครวญครางออกมาอย่างอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป จำต้องปล่อยเสียครางดังแมวที่ขู่ฟ่อเบาๆ แต่มันก็เบาบางมากจนคนใต้ร่างแทบไม่รู้สึกอะไร และยิ่งครางยิ่งถูกเขาบดจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ลิ้นสากหนาของเขานั้นเข้าเกี่ยวพันลิ้นเล็กของเป่าเอ๋ออย่างดูดดื่ม เขาดื่มกินความหอมหวานราวกับน้ำผึ้งนั้นอย่างมัวเมา รู้สึกติดใจนัก นางเป็นเพียงสาวใช้แต่นางสดใหม่และหวานหอมยิ่งนัก ทำเอารองแม่ทัพหนุ่มติดใจนางเข้าแล้วส่วนหัวใจดวงน้อยของเป่าอันที่มันเคยแอบหลงรักเขา และแอบมองเขา แต่ไม่กล้าคิดเกินเลย บัดนี้มันรู้สึกวูบโหวงในใจอย่างที่ไม่เคยมาก่อน เรี่ยวแรงที่ควรจะมีเอาไว้ขัดขืนเขากลับเหือดหายไปที่ใดไม่รู้ได้ มือที่ควรจะผลักร่างหนาของเขาออกไป กลับไม่ยอมเคลื่อนไหวทำตามหน้าที่ของมันราวกับยอมให้เขาลงทัณฑ์บนเรือนกายของนาง แต่นางผิดอันใดเล่า เขาพร่ำบอกว่าเขาต้องการให้นางชดเชยให้เขา แต่ไม่ได้บอกว่าผิดอะไร แต่เขาดูแค้นเคืองมาก หรือเขาจะผิดหวังจากคุณหนูของนางเสียก็ไม่รู้ได้ จึงได้มาลงที่นางเช่นนี้ เป๋าเอ๋อครุ่นคิด ดวงตาของเขาที่จ้องมองที่นางในคราวแรกมันจึงเต็มไปด้วยไม่พอใจ แต่บัดนีี้คนที่ดูโกรธแค้นเหล
ร่างบางถูกกระชากจนนางเซหลุนๆตามแรงของบุรุษที่นางคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาคือท่านรองแม่ทัพเหลียงจงฮั่นนั่นเอง เป่าเอ๋อปลิวลงไปนั่งอยู่บนเตียงสี่เสาหลังใหญ่ในห้องนอนของคุณหนูของนางที่บัดนี้ข้าวของถูกขนย้ายไปหมดแล้วเหลือเพียงเครื่องเรือนที่ไม่จำเป็นต้องขนไปเพราะที่เรือนใหญ่ก็มีอยู่แล้ว จึงได้ทิ้งเอาไว้ที่เรือนหลังนี้เตียงสี่เสานั้นก็ไม่ได้ถูกยกไปเช่นกัน เมื่อร่างของสาวใช้ที่ก็มีความงามไม่น้อยของอดีตสตรีที่เขาหลงรักปักใจลงไปกองอยู่บนฟูกแล้ว “ เอาละถอดอาภรณ์ออกให้หมด ” รองแม่ทัพหนุ่มเอ่ยขึ้น ดวงตาคมดุจเหยี่ยวจ้องมองเป่าเอ๋ออย่างบีบบังคับ เป่าเอ๋อไม่เคยเห็นท่าทางดุดันของรองแม่ทัพหนุ่มมาก่อน วันนี้เขาเปลี่ยนไปอย่างมาก นางเคยแต่เห็นเขาสุภาพ และนุ่มนวลกับคุณหนูของนาง แต่วันนี้เขาดูดุดันและดูกรุ่นโกรธอย่างมาก เป่าเอ๋อเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลานั้น “ ทำไมข้าจะต้องถอดด้วย ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ ” เป่าเอ๋อก็ยังอดที่จะต่อว่าเขาไม่ได้แม้จะรู้ว่าตัวเองไม่มีทางสู้ใดๆ เลย “ จะถอดดีๆ หรือว่าจะให้ข้าเรียกคนสนิทของข้าเข้ามาเป็นผัวของเจ้าด้วย จะยอมเป็นเมียข้าเพียงแค่คนเดียวหรืออยากจะได้ผัวทีเดียวห
“ แต่ท่านป้าเจ้าคะ ฮุ่ยหลินไม่ได้ตั้งครรภ์นะเจ้าคะ หากท่านเจ้ากรมฯต้องการรับผิดชอบฮุ่ยหลิน คงไม่จำเป็นหรอกเจ้าค่ะ ฮุ่ยหลินบอกกับเขาไปแล้วว่าให้เลิกแล้วต่อกัน ฮุ่ยหลินไม่ได้ติดใจอะไรอีก แต่ต่อไปท่านเจ้ากรมไม่ควรจะมายุ่งเกี่ยวกับฮุ่ยหลินอีก ” นางรีบเอ่ยคัดค้าน เพราะไม่อยากจะแต่งงานกับคนปากร้ายผู้นี้แล้ว “ จะได้อย่างไรกันเล่า ท่านพี่ของเจ้ากับเจ้าได้เสียกันแล้ว บ่าวไพร่รู้กันไปทั้งจวน พ่อบ้านฮั่วเพิ่งมาบอกกับย่าว่าบ่าวไพร่มันซุบซิบกันไปทั้งจวนแล้ว เจ้าไม่อายหรือ แต่งงานกับพี่เขาเสีย อย่าขัดคำท่านป้าของเจ้าเลย ” เมื่อท่านย่าออกโรงอีกคนฮุ่ยหลินจึงไม่กล้าปฏิเสธ ได้ก้มหน้านิ่งเงียบยอมจำนนแต่โดยดี ส่วนคนที่นั่งส่งสายตาวิบวับนั่นยกยิ้มอย่างสมใจหลังจากนั้นฮูหยินใหญ่ก็เริ่มวางแผนการจัดงานแต่งงานของบุตรชายอย่างวุ่นวาย และสั่งให้้ช่างจากร้้านขึ้นชื่อของเมืองมาวัดตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวถึงจวน สั่งให้ตัดชุดที่ปราณีตและงดงามที่สุด เรื่องราคาไม่เกี่ย'อยู่แล้ว เพราะเป็นการแต่งงานของท่านเจ้ากรมอาญาบุตรชายคนเดียวของจวน ส่วนคนตัวโตที่นับจากแน่ใจว่าเขาจะได้เมียรักมาครอบครองอย่างถูกต้องแน่แล้ว ใบหน้าเ
“ ไม่เห็นจะเป็นไร เขากำลังจะหมั้นหมายจะแต่งงานกันแล้ว ผู้ใหญ่ก็พูดคุยตกลงกันแล้ว อีกไม่นานนางก็จะกลายเป็นฮูหยินของเขา พวกเขาออกไปด้วยกันคงจะอยากหาเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ให้ได้มีเวลาพลอดรักกันบ้าง คนกำลังจะหมั้นหมายกัน และรองแม่ทัพเหลียงก็ดูจะหลงไหลฮุ่ยหลินอย่างกับอะไร ช่างพวกเขาเถอะ ไม่ใช่เรื่องของลูก ” แล้วมารดาของท่านเจ้ากรมก็จะออกเดินต่อไปยังเรือนของท่านย่า แต่แล้วก็จำต้องชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเดินอีกครั้ง “ ไม่ใช่เรื่องของข้าอย่างไรขอรับท่านแม่ นางเป็นเมียของข้า เป็นมาหลายครั้งแล้ว ป่านนี้ลูกของข้าก็อาจจะอยู่ในท้องของนางแล้วก็ได้ แล้วท่่านแม่จะให้นางแต่งงานออกไปกับชายอื่นได้ลงคอหรือขอรับ ข้าปลุกปล้ำนางที่สวนเพราะหึงหวงที่นางออกไปกับชายอื่น และไปนอนกับนางแทบจะทุกค่ำคืนหลังจากนั้นที่เรือนเล็ก ลูกย่องไปหานางและสั่งไม่ให้นางกับสาวใช้ของนางบอกใครในเรื่องนี้ และเมื่อตอนที่ท่านย่ากับท่านแม่ไม่อยู่ที่จวน ลูกก็หลอกนางว่าป่วย นางจึงได้ขึ้นมาดูอาการของลูกที่บนเรือน แล้วลูกก็ปล้ำนางอีก และนอนอยู่ด้วยกันในห้องของลูกมาตลอดจนถึงเมื่อคืนนี้ขอรับท่านแม่ นางเป็นเมียของลูกแล้ว ไ