จากนั้นเถียนไฉ่หลินกับปี้หลียนก็ช่วยกันพาไป๋ซู่ฮวาเข้าไปในบ้าน ไป๋ซู่ฮวาจับมือแม่สามีแน่นก่อนจะหลับไปด้วยความเพลียไป๋ลู่อาสาไปตามหยางหนิงเฉิงเพราะนางรู้ว่าเขาไปดักไก่ป่าตรงไหน เขาเคยบอกว่าหากหลานสามมีอะไรให้ไปตามเขาได้ที่ไหนบนเขา"ลู่ลู่ จะไปที่ใดหรือ" อาหลี่เห็นนางเดินไปทางหลังบ้านก็ถาม""ข้าจะไปตามหลานเขย หลานสามนางงอแงนักข้ากลัวว่าแม่สามีนางจะรังเกียจเอาได้ เลยจะไปตามที่เขาเคยบอกไว้น่ะ"อาหลี่ยิ้มกริ่ม อืมไม่เคยได้อยู่กับนางสองต่อสองสักครั้ง มีโอกาสสักที จึงเอ่ยว่าเขาจะไปเป็นเพื่อน"ไปกันเถอะ ท่านแม่ทัพน่าจะใกล้กลับมาแล้ว อาจจะเจอกันกลางทางก้ได้ มาข้าอุ้มเจ้าดีกว่ามัวแต่เดินเดี๋ยวจะเย็นเสียก่อน"อาหลี่อุ้มไป๋ลู่ดีดตัวจากในบ้านข้ามกำแพงพานางเหินไปยังป่าด้านใน คนละทางกับที่หยางหนิงเฉิงบอกเลย เขารู้ดีว่าองครักษ์ส่งข่าวให้ท่านอ๋องแล้ว ว่าพระชายามาถึงแแล้วท่านอ๋องน่าจะกำลังรีบกลับมา ส่วนคนในอ้อมกอดไม่รู้อะไรสักอย่างเลย เขาแอบยิ้มไป๋ลู่กอดเขาแน่นนางกลัวตกหยางหนิงเฉิงได้ไก่ป่ามาห้าหกตัว คนของเขาบอกว่าเสด็จแม่มาถึงได้หนึ่งชั่วยามแล้ว ตอนนี้อยู่กับเมียเขาในห้องเพราะอยู่ๆนางก็แพ้ท้องงอแงขึ
บริเวณทางมาบ้านหยางหนิงเฉิง เซียวผิงผิงที่เพิ่งจะกลับมาจากที่ตามบิดาไปต่างเมืองก็รีบมาหาไป๋ซู่ฮวาทันทีที่ได้ข่าวว่านางตั้งครรภ์ในมือมีของฝากไป๋ซู่ฮวามากมาย เดินมาดีๆอยู่ๆก็ถูกรถม้าที่กำลังวิ่งมาก็เบียดจนนางล้มลงคลุกฝุ่นข้างทาง เซียวผิงผิงโมโหจนควันออกหู ตะโกนด่าตามหลัง"ไอ้บ้าที่ไหนตาบอดหรือ ไม่เห็นคนเดินหรือไง รีบไปไหนหนักหนากลัวไม่ทันไว้ทุกข์ให้บิดาเจ้าหรือ"จากนั้นก็ก้มลงเก็บของที่ตกหล่นไปด้วยด่าไปด้วย ลู่เปียวสั่งหวังเฮ่าจอดรถม้า ได้ยินเสียงนางด่าเขาก็อยากบีบคอยายเด็กไม่รู้ที่ตายคนนี้นัก ก่อนจะเปิดม่านออกมาแล้วเอ่ยกลับไป"บ้านข้าไม่มีใครตายหรอก แต่ถ้าไม่หุบปากเจ้าอาจตายได้นังหนู"ลู่เปียวเอ่ยแก่สตรีตรงหน้าที่ตอนนี้บนหัวมีแต่เศษหญ้ากระโปรงเลอะฝุ่น หน้าตามอมแมม โชคดีที่ข้าวของที่นำมาฝากเพื่อนรักไม่เสียหายเท่าไหร่ เซียวผิงผิง มองหน้าคนที่ด่าและข่มขู่นาง รูปหล่อเสียด้วยแต่ปากไม่ดีน่ารังเกียจ"นี่ไอ้หน้าอ่อน ที่นี่หมู่บ้านเล็กๆไม่ใช่ถนน เจ้าจะรีบควบม้าไปไหน อ้อเจ้าบอกว่ายังไม่ได้ไว้ทุกข์ก็แปลว่ายังไม่ตายแต่คงไม่นานกระมัง จะรีบไปดูใจหรือ"พูดจบก็ถกชายกระโปรงเดินผ่านรถม้าเขาไปไม่ไยดี ลู
"เสี่ยวฮวาข้ามาแล้ว คิดถึงเจ้าแทบบ้าเลยข้าไปค้าขายกับท่านพ่อไปค้าขายที่ต่างเมือง มีขนมมาฝากเจ้าเยอะเลยด้วย ได้ยินว่าเจ้าท้องแล้วยินดีด้วยนะ อ้อสวัสดีเจ้าค่ะพี่หนิงเฉิง"เซียวผิงผิงทักทายไป๋ซู่ฮวากับหยางหนิงเฉิง ก่อนจะหันไปทำสีหน้างงงวยที่เห็นสตรีอีกคนนางงามนักแม้จะดูอายุสามสิบแต่งามเหลือเกิน"อ้อ ผิงผิงนี่ท่านแม่ของข้าน่ะ" หยางหนิงเฉิงแนะนำ เซียวผิงผิงจึงทำความเคาระจี้ฮุ่ยซิน"สวัสดีเจ้าค่ะท่านป้าหยาง ข้าชื่อผิงผิง ท่านป้าเจ้าคะท่านสวยจัง ท่านเหมือนพี่สาวพี่หนิงเฉิงมากกว่ามารดาเสียอีก"จี้ฮุ่ยซินยิ้มให้กับสหายของสะใภ้ มิน่าบุตรชายหลงใหลที่นี่นัก ผู้คนจริงใจคิดอะไรก็พูดอย่างนั้น แต่ก็ยังมีอีกคนที่ยืนหน้าบึ้ง"เหอะ ประจบสอพลอ"ลู่เปียวแค่นเสียงเยาะนาง"แล้วไง ไม่มีคนประจบเจ้าล่ะสิ ที่บ้านแม่ไม่รักหรือ"เซียวผิงผิงก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกันหยางหนิงเฉิงไม่ใส่ใจทั้งคู่เพราะเห็นสีหน้าคนรักไม่ค่อยดีจึงอยากพาไปพัก ไป๋ซู่ฮวาเรียกหาไป๋เจินทันที"อาสามล่ะ อาสามอยู่ไหน มีใครเห็นอาเล็กบ้าง ท่านพี่ท่านย่าจะขายอาเล็กให้เศรษฐีวังพรุ่งนี้จะมารับคนแล้ว ท่านช่วยอาเล็กทีนางอยู่ที่ไหน"ไป๋ซู่ฮวาร้อนใจจนหยางหนิงเ
ไป๋เจินที่เห็นอาหลี่กลับมาแต่ไม่เห็นน้องสาวก็แปลกใจ "อาหลี่ไป๋ลู่ล่ะ ท่านไปไหนกันมา"ไป๋เจินรู้สึกไม่ดี ไป๋ซู่ฮวาที่นอนอยู่ในบ้านอยู่ๆก็ฝันร้ายร้องกรี๊ดออกมาจนหยางหนิงเฉิงตื่นทันทีเขาเรียกนาง"ฮวาเอ๋อร์เป็นอะไรไป ฝันร้ายหรือบอกพี่มาสิ" จี้ฮุ่ยซินที่ได้ยินเสียงก็รีบมากับปี้เหลียน เห็นสะใภ้ตัวสั่นก็สอบถามบุตรชาย"เฉิงเอ๋อร์เกิดเรื่องอะไรขึ้น ฮวาเอ๋อร์เป็นอะไรไป" ไป๋ซู่ฮวาร้องไห้หาไป๋เจิน"ฮือๆๆอาสามข้าฝันร้ายอาเล็กเล่านางอยู่ที่ใด " อาหลี่ตกใจ"อาซ้อข้าเพิ่งจะส่งนางเข้านอนนางไม่ได้อยู่ที่เรือนใหม่หรือ คุณชายซูหยางไป๋ลู่อยู่หรือไม่" ซูหยางส่ายหน้า หยางหนิงเฉิงถามว่าเกิดอะไรขึ้น อาหลี่จึงเล่าทุกอย่างให้ฟัง"หลังจากนั้นเล่าอาหลี่ อาเล็กพูดอะไรกับเจ้าอีกบอกมา เจ้าบอกข้ามาฮือๆท่านพี่ข้าๆ""อาหลี่เล่ามาไวไว ให้องครักษ์ตามหานางเกณฑ์คนมาทั้งหมดเลย" หยางหนิงเฉิงสั่ง อารมร์เมียเขาไม่คงที่หยุนซานบอกแล้ว จากนั้นอาหลี่ก็นึกได้ก่อนจะเอ่ย"อาซ้อนางบอกว่าให้ข้าอย่าลืมนางเชงเม้งก็อย่าลืมมาหานาง ให้เอาขนมโก๋มาด้วย หรือว่านางคิดจะ ไม่นะ"อาหลี่วิ่งออกไปแล้ว ไป๋ซู่ฮวาเป็นลมไปแล้ว หยางหนิงเฉิงให้ถงเหมินเข้า
บ้านใหญ่"ไป๋เจินเจ้าเป็นบ้าหรืออย่างไร ตะวันยังไม่ทันขึ้นก็มาร้องงิ้วแต่เช้าเชียว" ไป๋จิ้งพี่ชายคนโตโวยวาย เขาหลับอยู่ดีๆ น้องชายก็มาโวยวายหน้าบ้าน"ท่านพ่อท่านแม่ เอาสัญญาขายตัวน้องเล็กคืนมา ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าอกตัญญูนะ บีบจนลูกสามต้องฆ่าตัวตายพวกท่านยังเป็นคนอยู่หรือ ไป๋เจี้ยน ฟางซื่อพวกท่านตายหมดแล้วหรือ"เสียงโวยวายปลุกให้ชาวบ้านตื่นแต่เช้า ไป๋จ้านที่ตอนนี้มีคนไปเรียกก็รีบมาทันที มาทันได้ยินไป๋เจินเรียกชื่อมาราดาและบิดา เรื่องอะไรกันปกติไป๋เจินสุภาพอ่อนโยนนี่นา เซียวผิงผิงตื่นนานแล้วได้ยินเสียงมาจากบ้านไป๋ซิ่ว อาไป๋ลู่ฆ่าตัวตายหรือ ไม่ได้นางต้องช่วยเพื่อนรักกำจัดบ้านใหญ่สารเลวนี่ ก่อนจะย่องออกมายืนฟังเงียบๆ"ใครบอกข้าทีเรื่องอะไรกัน ไป๋เจินนั่นคือบิดากับมารดาเจ้าเหตุถึงใช้น้ำเสียงและคำพูดเช่นนั้น""ท่านปู่จ้านข้ารู้เจ้าค่ะ พวกเขาขายอาไป๋ลู่จะให้ไปเป็นอนุเศรษฐี พวกเขารับเงินมาแล้วด้วยเมื่อวานไป๋ซิ่วไปหาเรื่องเสี่ยวฮวาถึงบ้าน ท่านปู่จ้านเสี่ยวฮวาแพ้ท้องน่าสงสารมากเลยเจ้าค่ะ ชาวบ้านทุกคนท่านลุงท่านป้า พวกท่านมีอาชีพมีรายได้ไม่ใช่เพราะนางหรือ เสี่ยวฮวาแพ้ท้องหนักสอนอาชีพพวกท่านไม
หลังจากจัดการสกุลไป๋เรียบร้อยชาวบ้านต่างก็แยกย้าย ไป๋เจี้ยนกับไป๋จิ้งถูกทางการโบยคนละห้าสิบที ไป๋ซิ่วกับแม่เฒ่าไป๋และสะใภ้ใหญ่ถูกโบยคนละยี่สิบทีไป๋เจินไม่สงสารสักนิด ในเมื่อรักบ้านใหญ่มากนักก็เชิญร่วมทุกข์ร่วมสุขกันเสียให้พอ เขาเดินตามหยางหนิงเฉิงกลับมาที่เรือน ไป๋ซู่ฮวาที่ถูกอุ้มกลับมาหลับไปแล้วหยางหนิงเฉิงค่อยๆวางนางลงบนเตียง เขาแทบอยากจะเผาเรือนคนบ้านไป๋จริงๆ เมียเขายิ่งอ่อนแอเห็นนางเป็นเช่นนี้เขายิ่งปวดใจ ก้มลงจุมพิตหน้าผากเกลี้ยงเกลานั้น ใบหน้าสวยตอนนี้ดูซีดเซียวจี้ฮุ่ยซินที่ตอนนี้ถูกทุกคนเรียกนางว่าท่านป้าหยางก็เดินเข้ามาในบ้าน เห็นบุตรชายน้ำตาคลอเขาคงรักสตรีตรงหน้ามากจริงๆหยางหนิงเฉิงปกติเป็นสุภาพชน นิสัยอบอุ่นเหล่าคุณหนูทั้งหลายต่างก็หมายปองอยากแต่งงานกับเขาตั้งแต่มีเรื่องเยี่ยนอ๋องบิดาของเขาแต่งชายารองเข้ามา เขากลับกลายเป็นคนละคน รังเกียจสตรีไม่อยู่เมืองหลวงฝ่าบาทแต่งตั้งให้เป็นหนิงอ๋องตั้งแต่อายุสิบห้า พระราชทานตำหนักที่นอกเมืองเขาปลูกต้นไผ่ปล้องม่วงไว้มากมายจึงตั้งชื่อตำหนักว่าเรือนไผ่ม่วงตำหนักที่ที่ฮ่องเต้พระราชทานมาให้ ใหญ่โตกว่าตำหนักเยี่ยนอ๋องผู้เป็นบิดาถึงสามเท
หยางหนิงเฉิงอุ้มไป๋ซู่ฮวาออกมา ก่อนจะวางนางลง ด้านหน้ามีอะไรบางอย่างมีผ้าคลุมอยู่ หยางหนิงเฉิงกำลังจะเปิดก็มีเสียงเล็กๆดังมาก่อน"เสี่ยวฮวาๆ ข้ามาแล้วโอ๊ยเหนื่อยมากเลย ข้าไปต่อแถวร้านจี้หรงมาซื้อบ้วยดอง เอ่อพุทราเชื่อม ถังหูหลู่แล้วก็เอ่อ อะไรนะอ้อแตงหวาน มีแตงหวานด้วยข้าไม่รู้ว่าแตงอะไรลูกละตั้งห้าตำลึง ถ้าไม่รักเจ้าไม่ยอมจ่ายหรอกนะ"ไป๋ซู่ฮวายิ้มให้กับเซียวผิงผิง เด็กคนนี้มีน้ำใจกับนางเสมอ แบ่งขนมแบ่งของกินให้ตลอด แบ่งให้กระทั่งอาเล็กของนางลู่เปียวจำเสียงยายเด็กปากเสียเมื่อวานได้ ก็หันมาทันที แต่ไม่ใช่สิเด็กคนเมื่อวานมอมแมมเหมือนลูกหมาคลุกฝุ่น แต่สตรีตรงหน้างามนัก แม้ไม่งามเทียบเท่าพี่สะใภ้แต่ดวงตาคู่นั้น ปากเล็กๆนั่นชวนให้รั้งเข้ามาหาแล้วจับนาง อืมมมแต่ดูเหมือนเซียวผิงผิงจะไม่คิดเหมือนเขา เห็นหน้า เอ่ยปากก็กระแนะกระแหนบรรพบุรุษเขาทันที"อ้าวนึกว่าใครที่แท้ไอ้หน้าขาวคนเมื่อวานนี่นา ที่บ้านจัดงานเรียบร้อยแล้วหรือ ฝังไวจังเห็นเพิ่งจะรีบร้อนไว้ทุกข์อยู่เมื่อวาน เหอะ""บิดาเจ้าสิตาย นังเด็กบ้าข้าเป็นผู้ตรวจการนะ อยากถูกขังคุกหรือ""โอ้ ไอ้หน้าขาวอย่างเจ้า ท่าทางหยิบโหย่งมือเรียวอย่างก
จวนอ๋องเยี่ยนในเมืองหลวงเพล้งๆ!!! เสียงถ้วยชาแตกกระจาย หยางเสวียนเยี่ยนกวาดทุกอย่างลงจากโต๊ะ ใคร? คนทำเรื่องนี้มันเป็นใครกล้าทำเรื่องสารเลวเช่นนี้"ลิ่วต่ง เจ้าไปสืบมาใครเป็นคนริเริ่มทำเรื่องนี้ ไปที่ตำหนักไผ่นอกเมืองด้วยดูว่าจี้ฮุ่ยซินสตรีใจแคบคนนั้น กำลังทำเรื่องเลวทรามอะไรลับหลังข้ากันแน่เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับนางแน่ๆ""ท่านอ๋อง พระชายาไม่ได้ประทับที่ตำหนักไผ่พ่ะย่ะค่ะ ทรงเสด็จไปสวดมนต์ให้หนิงอ๋องที่วัดหานสุ่ยมานานเดือนครึ่งแล้ว"ลิ่วต่งรายงาน เมื่อไม่กี่วันก่อนมีสตรีหม้ายหลายคนอยู่ๆก็อยากแต่งงานใหม่ แต่เพราะสามีตายยังไม่ครบปี ทางบ้านสามีจึงไม่อนุญาต จากนั้นก็ฟ้องร้องว่าพวกนางคบชู้สุดท้ายกลายเป็นเรื่องถกเถียงกัน กลายเป็นว่าชาวบ้านเหล่านั้นหยิบยกเรื่องเขากับชายารองว่าเหตุใดพวกเขาทำได้ทั้งที่สามีของหลิงเซียงโลงศพยังไม่ทันเย็นเลยแล้วเหตุใดสตรีอื่นถึงทำไม่ได้คนบ้านเดิมของสูยกว่างผิงอดีตสามีของหลิงเซียงเองก็ออกมาร้องรำในเรื่องนี้เช่นกัน มันต้องมีคนสร้างเรื่อง สิบกว่าปีไม่มีใครกล่าวถึงแต่ว่าใครล่ะที่มีความสามารถคิดได้ถึงเพียงนี้เขาแต่งนางเข้ามาสิบเอ็ดปีแล้ว อยู่ๆเรื่องที่นางคบชู้ก
หยางหนิงเฉิงจัดการกองทัพเข้าที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกเขามาอยู่ที่นี่ได้ห้าปีแล้ว ไป๋ซู่ฮวาคลอดบุตรชายให้เขาอีกสองคนบุตรสาวอีกหนึ่งคนตอนนี้ผลผลิตจากแดนใต้ราคาดีมาก โดยเฉพาะกุ้งแห้งกับผงปรุงรสที่ทำจากปลาและกุ้งตากแห้งนำมาบดผสมกับเครื่องเทศเป็นสินค้าขายดีจริงๆ ส่งเข้าเมืองหลวงและเหลาอาหารต่างๆ ชาวประมงที่ตอนนี้ลืมตาอ้าปากได้ไป๋ซู่ฮวาตามหาต้นปาล์มจนเจอ ในที่สุดก็ปลุกต้นปาล์มได้กว่าสองพันต้น ตามพื้นที่ต่างๆ ต้นไหนโตแล้วให้ผลผลิตแล้วนางก็ปล่อยไว้ตอนนี้ผลผลิตของจวนอ๋องก็คืออาหารทะเลแบบแห้ง ผงปรุงรส น้ำมันปาล์ม นางเสาะหาพื้อที่น้ำเค็มจนเจอ แคว้นอู่ไม่ขาดแคลนเกลือแล้ว เพราะพระชายาหนิงอ๋องรู้วิธีทำเกลือได้ไป๋ซู่ฮวากำลังคำนวณบัญชีอยู่ นางเพิ่งให้นมเจ้าตัวเล็กไป ตอนนี้หยางหยางได้แปดเดือนแล้ว สวามีไม่มีทีท่าจะหยุดทำลูกเลยจริงๆ เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย"คนงามของพี่ สมบัติไม่รู้กี่ร้อยล้านตำลึงทองนับไม่ไหว หากลูกน้อยอีกหน่อยใครจะรักษาเล่าทูนหัว""แล้วลูกไม่ออกเรือนแต่งงานหรือเพคะ พระองค์ถึงจะขยันทำอยู่คนเดียว อื้อ"หยางหนิงเฉิงจูบนางเรียกร้อง ปลดสายรัดเอวก่อนจะฝังใบหน้าหล่อเหลาลงเต้าอวบอิ่
จนมื้อค่ำเรียบร้อย ไป๋ซู่ฮวาที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอ่างอาบน้ำ กำลังนั่งหลับตาผ่อนคลายนางเหนื่อยมาก จนกระทั่งน้ำกระเพื่อม นางจึงลืมตาขึ้นมองก็เห็นคนตัวโตลงมานั่งในอ่างกับนาง พร้อมเนื้อตัวล่อนจ่อน"ท่านอ๋อง ยิ่งนับวันยิ่งหน้าด้านหรือไม่เพคะ""สองเดือนแล้วเด็กดี ยังไม่ได้รักเจ้าเลยนะคืนนี้ไม่ยอมแล้ว มาพี่ช่วยอาบน้ำดีกว่าจะได้เสร็จไวๆ""อย่ามาเจ้าเล่ห์พระองค์ทรง อื้ออออ" หยางหนิงเฉิงไม่ฟังรั้วนางมาจูบดูดดื่ม กดท้ายทอยนางไว้ไม่ให้หนีเขา มือหนากอบกุมทรวงอกขยำรุนแรงเพราะอารมณ์คิดถึงก่อนจะดันแผ่นหลังนางขึ้นก้มลงมาดูดปลายถันสีหวานจนไป๋ซู่ฮวาที่ตอนแรกดุเขาเสียงเข้ม ตอนนี้กลับกลายเป็นครางเสียงหวานรัญจวน"อ๊าๆๆๆ ท่านอ๋องเมียเสียว อื้อดูดเบาๆสิเพคะ หัวนมจะหลุดติดปากแล้ว""ไม่ไหวแล้วคิดถึงเหลือเกินคนดี ฮวาเอ๋อร์ยืนขึ้นให้พี่หน่อย หันหลังมาโน้มตัวไปข้างหน้าเอามือเกาะขอบอ่างไว้"ไป๋ซู่ฮวาทำตามที่เขาบอก หยางหนิงเฉิงจับแก่นกายร้อนผ่าวถูไถกลีบบอบบางที่มีน้ำหวานใสๆหลั่งออกมาเคลือบจากนั้นก็กดลงไปในร่องสีชมพูสวย"อื้อ แน่นจังเด็กดี เสียวจังฮวาเอ๋อร์พี่รักเจ้าเหลือเกิน""อื้อ ท่านแม่ทัพทวนของท่านช่างใหญ่โตนัก
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ซ่งไทเฮากับสกุลกัวหาเด็กทั้งสามเลิกแล้วมคนไม่เจอ งานเลี้ยงเลิกแล้วเรียบร้อย ทุกคนต่างกลับไปเพื่อพักผ่อน วันพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางไกล เมื่ออยู่ในห้อง หยางหนิงเฉิงที่นอนให้เมียรักหนุนแขนอยู่มืออีกข้างลูบไหล่มนเบาๆ ไปซู่ฮวาเอ่ยถามเขาเพราะอยากรู้ถึงดินแดนทางใต้"ท่านอ๋อง ดินแดนทางใต้ติดทะเลหรือเพคะ""อืม อยากไปดูหรือ น้องหญิงของพี่รู้จักทะเลด้วยหรือ ที่นี่อยู่ไกลที่นั่นตั้งสองพันลี้นะ""เอ่อ เคยได้ยินคนคุยกันนะเพคะ ว่าทะเลสวยมากแต่เวลามีพายุก็น่ากลับมากเช่นกัน หม่อมฉันอยากเห็นสักครั้งเพคะ""ได้ พี่จะพาเจ้าไป ตอนนี้นอนก่อนเถอะคนงามของพี่ดึกมากแล้วนะ"ไป๋ซู่ฮวาที่กระเถิบเข้าหาอ้อมกอดสามี หยางหนิงเฉิงกอดนางแนบแน่นสตรีที่เขาไม่เคยคิดว่าจะรัก สตรีที่ได้มาด้วยเล่ห์กลของผู้อื่น สุดท้ายนางคือสตรีที่คู่ควรกับเขาที่สุด ลมหายใจของนางสม่ำเสมอหยางหนิงเฉิงจุมพิตเรือนผมนาง กระซิบเบาๆก่อนจะหลับตามไป"ฮวาเอ๋อร์พี่รักเจ้า"ยามซื่อทุกคนมารวมตัวกันที่ลานกลางหมู่บ้านเพื่อเตรียมออกเดินทาง ไป๋เข่อซินร้องไห้กอดบิดากับมารดาแน่น หยางตงชิงกอดไป๋จิงถิงกับโจวซิ่วเหม่ยร้องไห้"เสี่ยว
ไป๋ซู่ฮวาที่ถูกเขาเคี่ยวกรำทุกคืนตั้งแต่วันที่นางยอมให้เขาคืนนั้น ตอนนี้ไม่มีแรงจะสั่งงานบ่าวไพร่แล้ว หยางหนิงเฉิงเดินผิวปากมาหาแต่เมียนั่งบนเตียงมองมาตาเขียวปั้ด "ทูนหัว เมื่อคืนพี่ไม่ตั้งใจจะกวนจริงๆนะ สงสัยจะมาจากสุราสมุนไพรที่เสด็จพี่ให้ชิม แค่สองจอกเท่านั้นเอง ยังดีที่พี่ไม่ชิมเยอะ""อย่ามาหาข้ออ้างหยางหนิงเฉิง ท่านหื่นกามเช่นนี้ต้องแยกเรือนแล้ว ตั้งแต่ยามไฮ่จนยามเหมามีใครเขาลามกหื่นกามเท่าท่านบ้าง ข้าปวดเอวไปหมดแล้วคนบ้า งานการไม่ต้องทำแล้ว หากคู่แฝดไม่ถึงขวบแล้วข้าตั้งครรภ์อีกล่ะก็แยกห้องนอนถาวรจนกว่าพวกเขาจะสิบขวบ""ไม่ได้สิเมียจ๋าต่อไปขอคืนละหนึ่งชั่วยามพอไม่มากกว่านั้นแล้วคนดี นะๆ น้องหญิงพี่สัญญาวันหลังจะไม่ดื่มสุรานั่นอีก""หนิงอ๋อง ออกไปเลยนะคนบ้า นี่แน่ะ"ตุ๊บๆ เสียงวัตถุตกกระทบพื้น หยางหนิงเฉิงโดดหลบทันที เมียปาหมอนใส่เขาแทบจะทุกใบที่อยู่เตียง ก่อนจะตัดสินใจรวบนางกักไว้ในอ้อมกอด พลิกนางลงใต้ร่างจูบนางดูดดื่ม ไป๋ซู่ฮวารักเขามากนางรักเขาไม่คิดว่าชีวิตนี้จะรักคนๆหนึ่งได้ อยู่ด้วยกันมาปีกว่าเขาไม่เคยให้นางเจ็บช้ำน้ำใจสักครั้ง นอกจากเรื่องนี้เรื่องเดียวเขากินเก่งก
วันต่อมาไม่นานรถม้าก็เคลื่อนที่จนมาถึงอารามที่ฉินกุ้ยเฟยถือศิลบวชอยู่ ฮ่องเต้ให้คนไปแจ้งว่ามีคาราวาสมาขอพบนาง ไม่นานแม่ชีคนนึงก็เดินออกมา นางเดินหลังตรงแต่ยังคงสำรวมมีความเป็นคนสูงศักดิ์แม้จะอยู่ในชุดนักบวชทันทีที่ทั้งคู่พบกันหยางตงอวี้ยิ้มให้นาง ฉินกุ้ยเฟยไม่คิดว่าจะเจอกับเขาที่นี่จึงทำความเคารพ แต่เขาจับข้อศอกนางไว้ก่อนจะพูดคุย"ซวงเอ๋อร์ไม่พบเจ้าหลายปีสบายดีหรือไม่""ซวงเอ๋อร์สบายดีเพคะ ฝ่าบาททรงมาไกลถึงเพียงนี้ไทเฮาจะทรงทำเรื่องลับหลังตอนไม่ประทับอยู่วังหรือไม่เพคะ""วางใจเถอะ นางชดใช้กรรมแล้วล่ะ วันนี้ข้าพาคนๆนึงมาพบเจ้าด้วย ชิงเอ๋อร์มาพบเสด็จแม่เจ้าได้แล้ว"หยางตงอวี้หันไปเรียกหยางตงชิงไม่นานเขาก็ดินออกมาจากห้องรับรอง ทันทีที่ฉินกุ้ยเฟยเห็นหน้าเขานางก็ร้องไห้ เดินไปกอดเขาแน่น"ชิงเอ๋อร์ๆลูกแม่ เจ้ายังสบายดี แม่กังวลว่าพวกเขาจะพบเจอเจ้าหรือไม่ เพราะเจ้าคล้ายฝ่าบาทมากนัก ฮืฮๆๆลูกแม่""ส เสด็จแม่ อย่าร้องไห้เลยพ่ะย่ะค่ะ ลูกสบายดีท่านพ่อท่านแม่เลี้ยงดูอย่างดีไม่เคยให้ลำบากพ่ะย่ะค่ะ""แม่รู้ๆ พวกเขาผัวเมียเป็นคนดียิ่งนัก แม่เองก็คิดว่าฝากไม่ผิดคน"หยางตงอวี้อยากให้แม่ลูกได้คุยกันมา
ยามเฉินทุกคนต่างเตรียมรถม้าวันนี้ฮ่องเต้กับรัชทายาทจะเสด็จไปเยี่ยมหมู่บ้านกันดารหาทางแก้ปัญหาอีกหลายที่ เมื่อเสร็จธุระแล้วก็ขึ้นรถเตรียมออก รถม้าวิ่งมาไกลมากแล้ว ไป๋ซูหยางนึกถึงคำพูดบิดามารดาและพี่สาว จึงตัดสินใจไปเข้าเฝ้าพระบิดาก่อนจะตกลงไปเยี่ยมมารดาผู้ให้กำเนิด"พี่ใหญ่ ข้าอยากปรึกษาท่านเรื่องมารดาของข้าขอรับ""ทำไมหรือ เสี่ยวหยางเจ้าสับสนว่าตนเองอยากไปเยี่ยมนางหรือไม่ ควรไปดีหรือเปล่าใช่ไหม""ขอรับ ข้าไม่อยากให้ท่านพ่อกับท่านแม่เสียใจ แต่ใจหนึ่งก็อยากไปเห็นนางสักครั้งขอรับ""เสี่ยวหยาง นางเป็นมารดาให้กำเนิดนับว่ามีบุญคุณ อีกอย่างนางใช้ทั้งชีวิตปกป้องเจ้าจนได้มาเจอท่านพ่อกับท่านแม่ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาบ้านใหญ่จะทำไม่ดีกับเจ้าไว้มาก แต่อย่างน้อยก็คงดีกว่าเจ้าต้องถูกคนพยายามฆ่าทุกวัน ควรไปขอบคุณนางด้วยตนเองสักครั้ง ให้นางได้เห็นว่าเจ้าเติบใหญ่เพียงใดในตอนนี้""ขอรับพี่ใหญ่ ข้าจะไปบอกท่านพ่อกับท่านแม่ก่อน""อืม ท่านแม่พ่อกับท่านแม่จิตใจโอบอ้อมไม่มีทางขัดขวางเจ้าหรอก ไปเถอะ"้ไป๋ซูหยางออกไปแล้ว เขารู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับพี่สาว ไม่รู้ว่าไปอยู่วังหลวงจะเป็นเช่นไร แม้จะมีพี่เข่อซินจะไปอยู่
หยางหนิงเฉิงที่ตอนนี้กอดไป๋ซู่ฮวาอยู่บนเตียง คู่แฝดเป็นเด็กรู้ความยิ่งนัก กินเสร็จก็นอนไม่เคยงอแงสักนิด เมื่อวานรัชทายาทมาหาพี่สาวพี่น้องพูดคุยกันสักพัก เขาอยากให้ทั้งคู่มีเวลาส่วนตัวมากกว่านี้เพราะหยางหนิงเฉิงจะไม่กลับวังหลวง แต่จะเลยไปดินแดนทางใต้ทันที เขาเป็นห่วงภรรยาหากเดินทางไปๆมาๆนางอาจไม่ไหวอีกอย่างเขาทิ้งทัพใหญ่มาปีกว่าแล้วต้องกลับไปจัดการ จิ้งหยวนไปดูแลให้แล้วทิ้งเซียวอ้ายเย่วไว้ที่นี่ นางตั้งครรภ์อยู่เดินทางไม่ไหวอีกอย่างในกองทัพอาหารการกินสำหรับคนท้องย่อมลำบากก่อนไปไป๋ซู่อวา จัดการเสบียงให้พวกเขาหนึ่งต้าน นับว่าเยอะไม่น้อยในช่วงที่ไม่มีสงครามเช่นนี้ การเจรจาชายแดนเป็นไปได้ด้วยดี รับทายาทเสนอให้คุยกันเรื่องแลกเปลี่ยนอาหาร ราษฎรอยู่ดีมีสุขก็ไม่ต้องแย่งที่ทำมาหากินกันให้เดือดร้อน"วันนี้ไท่จื่อเก่งมากนัก สามารถแก้ปัญหาที่ดินเมืองกว่างสุยสำเร็จ อีกทั้งยังทรงจัดการทรัพยากรน้ำได้ดี จัดสรรพันธ์พืชให้เหมาะกับฤดูกาล ฝ่าบาททรงเอ่ยชมไม่น้อย""เสี่ยวหยางเป็นเด็กหัวดีเรียนรู้ได้ไวนักเจ้าค่ะ เมื่อวานเขามาปรึกษาเรื่องจะไปพบมารดาบังเกิดเกล้าดีหรือไม่ เขาไม่อยากให้ท่านพ่อท่านแม่รู้สึกเสี
หยางตงชิงหลับไปแล้วคอพับไปมา หยางตงอวี้จับบุตรชายนอนหนุนตัก ฉุ่กงกงที่หันมาหาจะเอ่ยเรียกฮ่องเต้เห็นภาพนั้นก็น้ำตาไหล พลันคิดถึงภาพที่องค์ชายนอนหนุนตักเสด็จแม่ สนมจางมักลูบหัวฝ่าบาทเสมอสมัยที่ยังเป็นองค์ชายน้อยภาพนั้นหายไปหลังจากจางกุ้ยเฟยประชวรแล้วจากไป ฝ่าบาทจึงเหลือเพียงความว้าเหว่อ้างว้างในใจตลอดมาหลายปี จนกระทั่งเด็กสาวที่ชื่อไป๋เข่อซินเข้ามาถึงมีร้อยแย้มพระสรวลอีกครั้ง ตอนนี้ภาพนั้นกำลังกลับมา ภาพองค์ชายที่ทรงยิ้มแย้มกับเขาทรงห่วงใยบ่าวไพร่เสมอเขากับเย่กงกงรับใช้ข้างกานมาตั้งแต่ยังเป็นองค์ชายตัวน้อยๆ"ท่านอาฉู่ ข้าได้ขนมมาฝากท่านด้วยขนมงาที่ร้านจินเซียง""ท่านอาเย่ว ข้าไม่อยากอยู่ตำหนักบูรพาเลยท่านพาข้าไปเที่ยวนอกวังหน่อยนะ ๆๆท่านอาเย่นะๆ ""ท่านอาฉู่ วันนี้ข้าหนีเสด็จพ่อออกไปเที่ยวตลาดมาคนเยอะแยะเลย มีสุราดอกท้อให้ท่านหนึ่งกาด้วย"หยางต้งอวี้เงยหน้าจากใบหน้าบุตรชายก่อนจะสบตาคนสนิทที่ติดตามเขาตั้งแต่เขาสี่ขวบตั้งแต่เสด้จแม่ยังเป็นเป็นเฟยด้วยซ้ำ"ท่านอาฉู่ เขาช่างเหมือนข้าในวัยเด็กจริงๆท่านว่าไหม""พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท ไท่จื่อคล้ายพระองค์มากนัก เฉลียวฉลาดรูปงาม""แวะตลาดด้านหน้าสักหน่
หยางเสวียนเยี่ยนกับหยางเสียนรุ่ยกับเมืองหลวงไปได้ครึ่งเดือนกว่าแล้ว ตอนนี้ฮ่องเต้เสด็จประพาสไปยังหมู่บ้านต่างๆที่ไป๋ซู่ฮวาได้ไปบุกเบิกเส้นทางการค้าและการเกษตรเอาไว้หยางตงอวี้เป็นอัจฉริยะไม่เกินจริง เพียงไม่นานก็เข้าใจโครงสร้างและปัญหาทั้งหมดของสภาพดิน ฟ้า อากาศและเริ่มแก้ปัญหาได้แล้ว สมแล้วที่ถูกเลือกให้เป็นฮ่องเต้ ราษฎรแคว้นอู่ไม่ต้องมาทนอดอยากอีกต่อไปวันนี้เขาเรียกบุตรชายมาด้วยเพื่อไปหมู่บ้านที่ทำสุราหมัก ส่วนหมู่บ้านข้างๆกันทำสุราขม(น้ำส้มสายชู) ถั่วเหลืองที่ผลผลิตเคยมีมากจนต้องมาเททิ้งกลับนำมาแปรรูปได้หลายอย่างนักไป๋ซูหยางนั่งอยู่บนรถม้า รอฟังคำสั่งบิดาอย่างเดียวเหมือนปกติ บางครั้งเสด็จพ่อก็ให้เขาเสนอความคิดเห็นบ้าง บรรยากาศในรถม้าเงียบเกินไปจนกระทั่งผู้เป็นบิดาเอ่ยขึ้นก่อน"ชิงเอ๋อร์ที่ผ่านมาพ่อทอดทิ้งเจ้า ไร้ความสามารถในการปกป้องเจ้าลูกโกรธพ่อหรือไม่""ไม่พ่ะย่ะค่ะ""มาสั่งข้างๆพ่อหน่อย วันนี้ไม่มีฮ่องเต้ ไม่มีรัชทายาทมีเพียงบิดากับบุตรชายที่กำลังคุยเรื่องครอบครัว"ไป๋ซูหยางที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแซ่ราชวงศ์เรียบร้อยแล้ว องค์รัชทายาทหยางตงชิง เขาเขยิบมานั่งใกล้กับบิดา หยางตงอวี้โ