เถ้าแก่ใหญ่เองก็ร้อนรนขึ้นมาถ้าหากหออันดับหนึ่งเกิดเรื่องขึ้น พวกเขาเองก็เดือดร้อนยิ่งไปกว่านั้น ในเมื่อล้วนมากินข้าวกันที่หออันดับหนึ่งกันทั้งนั้น เช่นนั้นพวกเขาถ้าปกป้องได้แค่ไหนก็ต้องทำ ทว่าตอนนี้ดูจะปกป้องคนเหล่านี้ไม่ไหวแล้ว"ไม่อย่างนั้น รอท่านโหวกินเห็ดเชียนเสวี่ยเสร็จก่อนค่อยว่ากันดีไหม? ถึงอย่างไรเห็ดเชียนเสวี่ยถ้าแช่น้ำแล้ว ต้องฝานแผ่นลงหม้อภายในหนึ่งเค่อ ตอนนี้ในครัวเองก็เตรียมจะฝานแผ่นแล้วด้วย ถ้าเสียเวลาไปคงไม่ดีนัก"คิดไม่ถึงว่าพอเถ้าแก่ใหญ่พูดถึงเรื่องนี้ ก็หยุดโหวผิงเอินไว้ได้จริงๆ"อย่างนั้นหรือ?""ท่านโหว พวกเราเดิมทีก็มาเพื่อเห็ดเชียนเสวี่ย จะให้พวกแมลงไม่กี่ตัวนี้ทำพวกเราเสียเวลาไม่ได้นะ" ชายอ้วนอีกคนก็เอ่ยตามขึ้นมา"ได้ เช่นนั้นก็เห็นแก่หน้าเห็ดเชียนเสวี่ยแล้วกัน"โหวผิงเอินชี้พวกไป๋หู่ "แต่คนพวกนี้ยังไปไหนไม่ได้ ให้อยู่ที่นี่ไปก่อน ให้พวกเขาเห็นพวกเรากินกันจนอิ่มหมีพีมันก่อน แล้วพวกเราค่อยไปชำระหนี้""ถูกต้องถูกต้อง"คนเหล่านั้นพอโบกมือ ด้านนอกก็มีพวกคนคุ้มครองเรือนล้อมกรอบเข้ามาทันที ขวางทางพวกไป๋หู่เอาไว้นี่คือไม่ให้พวกเขาออกไปจริงๆ"ไปๆๆ ขึ้นชั้น
"ฮ่าๆๆ น่าสนใจ นิสัยดุดันเสียด้วย"เขาเห็นพวกของไป๋หู่ตามเข้ามา ยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง ก็อดปรบมือพูดขึ้นมาไม่ได้ "ที่แท้พวกเขาก็เป็นองครักษ์สาวงามนี่เอง? มิน่าอารมณ์ถึงเป็นแบบเดียวกับเจ้า ถ้าเจ้าเงยหน้าขึ้นมาเร็วกว่านี้ ข้าเองคงจะอ่อนโยนขึ้นบ้างแล้ว""โหวผิงเอินสินะ? เจ้ากำเริบเสิบสานต่อไปเถอะ เจ้าแบบนี้ก็ดูลับๆ ล่อๆ ดี""ฮ่าๆ ข้าชอบที่สาวงามมาชมข้าแบบนี้ มาๆๆ มานั่งนี่ จะให้สาวงามยืนแกร่วได้อย่างไร? มานั่งนี่มา เดี๋ยวข้าจะป้อนเห็ดเชียนเสวี่ยให้เจ้าสักคำ!"ฟู่จาวหนิงก็เดินตรงไปทางเขาจริงๆเสี่ยวชิ่นร้อนรน "คุณหนู!"สืออีเองก็หน้าเปลี่ยนสีแล้วแม้จะรู้ว่าฟู่จาวหนิงเองก็มีฝีมือพอตัว บนตัวมีเข็มพิษอยู่ไม่น้อย ไม่ค่อยจะเสียเปรียบใคร แต่ก็ยังกลัวว่านางจะเกิดเรื่องอยู่ดีแต่ฟู่จาวหนิงโบกมือให้พวกเขาจากทางด้านหลัง เป็นสัญญาณว่าไม่ต้องตามมาตอนที่ฟู่จาวหนิงใกล้จะเดินไปอยู่ข้างๆ โหวผิงเอิน เถ้าแก่ใหญ่ก็วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น"ท่านโหว วันนี้เกรงว่าคงจะไม่ได้กินเห็ดเชียนเสวี่ยแล้ว ข้าน้อยจึงรีบขึ้นมาขอโทษท่านโหวเสียก่อน ท่านโหวกับเหล่าคุณชายโปรดสั่งอาหารอื่นเถิด?""เจ้าว่าอะไรนะ?"โหวผ
ฟู่จาวหนิงรีบวิ่งลงไปชั้นล่างสืออีพวกเขาเองก็รีบตามไป ตอนนี้โหวผิงเอินสนแต่จะเข้าไปคุยกับองค์ชายสอง เตรียมจะไปอาละวาดกับหออันดับหนึ่ง จึงไม่ได้สนใจพวกเขาเลย"พวกเจ้าห้ามเข้าไป"ฟู่จาวหนิงตอนวิ่งมาถึงห้องครัวก็ถูกคนห้ามเอาไว้"ไป๋หู่" นางร้องขึ้นทันทีพวกของไป๋หู่เข้ามา กันผู้ช่วยพ่อครัวไว้ ให้ฟู่จาวหนิงวิ่งเข้าไปได้อย่างสะดวกด้านหลังครัวมีเรือนเล็กอยู่หลังหนึ่ง ใต้ชายคามีเก้าอี้ยาวหลายตัววางไว้ ตอนนี้มีคนนอนอยู่บนเก้าอี้ยาวหลายตัวนั้น ข้างๆ มีคนล้อมเขาอยู่ ล้วนลนลานทำอะไรกันไม่ถูกและพ่อครัวซุนที่นอนอยู่ยังมีอาการชักอยู่ฟู่จาวหนิงพอเห็น สีหน้าก็เปลี่ยนไปรีบวิ่งมาด้วยและกำชับขึ้นด้วย "กันพวกเขาออก"ตัวนางเองพุ่งตรงไปยังพ่อครัวซุน "หลีกไป อย่ามาล้อมดูเขา!""เจ้าเป็นใครน่ะ? เจ้าเข้ามาที่นี่ทำอะไร?"คนเหล่านั้นดูแล้วน่าจะเป็นคนที่คอยช่วยในห้องครัว ตอนนี้ล้อมกันอยู่ข้างๆ พ่อครัวซุนฟู่จาวหนิงไม่สนพวกเขา พอเดินเข้าไป ก็ยกมือหนีบเข็มออกมา แล้วแทงลงไปบนหัวของพ่อครัวซุนทันที"เจ้าทำอะไรน่ะ!"คนข้างๆ ตกตะลึง รีบจะยื่นมือเข้าไปตบนาง แต่พอจะลงมือก็ถูกพวกไป๋หู่กับสืออีแยกออกมาแล้
เถ้าแก่ใหญ่เองก็เหงื่อตกฝ่ามือ"คนอื่นห้ามแทงมั่วซั่ว แต่คุณหนูพวกเราทำได้ ไม่ใช่สิ คุณหนูของพวกเราเองก็ไม่ได้แทงมั่วซั่ว นางกำลังรักษาอาการป่วย" ไป๋หู่เอ่ยขึ้น"พ่อครัวซุนถ้าหากเกิดตายขึ้นมา นั่นจะไม่ใช่ความผิดของนางหรอกหรือ?" โหวผิงเอินหัวเราะเย็นชาขึ้นมาพูดตลกอะไร หญิงสาวที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบคนนี้น่ะหรือเป็นหมอเทวดา?สืออีตอบอย่างไม่ต้องคิด "ถ้าท่านพูดแบบนี้ หลังจากนี้ป่วยจนตายไปก็ไม่มีหมอใหญ่คนไหนกล้ามารักษาให้หรอก""เจ้าพูดว่าใครจะป่วยตาย?!"โหวผิงเอินโมโหขึ้นมา นี่ไม่ใช่กำลังแช่งเขาหรือ?ตอนที่เขากำลังจะถลกแขนเสื้อ องค์ชายสองก็กดบ่าเขาไว้ "โหวผิงเอิน ใจเย็นๆ อย่าบุ่มบ่าม"โหวผิงเอินหงุดหงิด แต่ก็ไม่กล้าคัดค้านองค์ชายสองน้องสาวเขาแม้จะเป็นพระชายาคนโปรด แต่เสด็จแม่ขององค์ชายสองเองก็เป็นพระชายาคนโปรดเช่นกัน ยิ่่งไปกว่านั้นมีความรักกับองค์จักรพรรดิมาตั้งแต่เยาว์วัยด้วยองค์จักรพรรดิโปรดปรานพระชายาหมิ่น แต่ก็ยังเคาระต่อเสด็จแม่ขององค์ชายสองอยู่พอสมควรองค์ชายสองพูดออกมาแล้ว คนทั้งหมดจึงไม่กล้าขยับ ล้วนยืนอยู่ที่นี่มองดูฟู่จาวหนิงช่วยชีวิตคน"เจ้าว่า นางถูกพวกเราจ้องมองเ
ฟู่จาวหนิงตอนค่ำยังต้องเข้ามาให้ยาน้ำกับพ่อครัวซุนอีกยิ่งไปกว่านั้นยังต้องตรวจสอบส่วนสมองของเขาให้ละเอียดอีกด้วย"ท่านตอนนี้นอนให้สบายเถอะ ไม่ต้องคิดอะไรมาก"ฟู่จาวหนิงพูดพลางเดินเข้ามา มองไปทางเถ้าแก่ใหญ่เถ้าแก่ใหญ่ตอนนี้พอมองนางก็รู้สึกเหมือนกำลังมองเห็นผู้วิเศษนอกโลก อ่อไม่สิ เหมือนกับเซียนมากกว่า"มีคนที่ละเอียดรอบคอบไหนไหม ต้องมาคอยดูแลอยู่ข้างๆ เขา คอยจับตาดูสถานการณ์เขาตลอดเวลา""มีมีมี ภรรยาของพ่อครัวซุนเป็นคนละเอียดอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังเหมาะที่สุดด้วย ข้าให้คนไปตาสะใภ้ซุนเข้ามาแล้ว""ดี รอนางมาถึงแล้วบอกข้าหน่อย ข้ามีเรื่องที่ต้องระวังกำชับกับนาง""ใช่ๆๆ"เถ้าแก่ใหญ่ฟังคำนางโดยสัญชาตญาณ ในตอนนี้สิทธิ์อำนาจและแรงกล่อมที่ฟู่จาวหนิงแสดงออกมานั้นแกร่งมาก"เถ้าแก่ใหญ่ เถ้าแก่ใหญ่ แล้วเห็ดวิญญาณพวกนั้นจะทำอย่างไรดี?"มีพ่อครัวอีกคนถามขึ้นอย่างร้อนรนเห็ดวิญญาณ คือเห็ดที่มีเฉพาะในภูเขาบางลูกของต้าชื่อเท่านั้น เห็นชนิดนี้หายากมาก เติบโตก็ช้า ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแค่ในช่วงเวลาสนี้ ผลผลิตน้อยถึงน้อยมาก หายากเอามากๆ ด้วยตอนนั้น นายท่านฮั่วของหออันดับหนึ่งใช้เห็ดชนิดนี้มาทำ
"เขาตอนนี้ต้องนอนบนเตียงเพื่อพักผ่อน ลุกขึ้นมาไม่ได้ ต่อให้ลุกมาได้ก็ยังทำงานไม่ได้""ใครให้หน้าเจ้ามากันเนี่ย? เห็นว่าตัวเองหน้าตาดูดีหน่อย เจ้าก็คิดว่าตัวเองมาขวางข้าได้แล้วหรือ? แค่แทงคนไปไม่กี่ที ก็คิดว่าตนเองเป็นหมอเทวดาแล้วหรือ?"โหวผิงเอินกำหมัดตั้งท่าจะฟาดไปทางนาง"โหวผิงเอิน!"องค์ชายสองก็ตาไวคว้าข้อมือเขาไว้พวกไป๋หู่ก็ตั้งท่าจะลงมือแล้ว"จะลงมือกับหญิงสาวคนหนึ่งได้อย่างไรกัน? จะว่าไป นางเองก็เป็นหมอใหญ่จริงๆ เจ้าไม่เห็นหรือว่าพ่อครัวซุนพูดออกมาได้แล้วเมื่อครู่?"องค์ชายสองขวางเตือนโหวผิงเอินไปด้วย มองฟู่จาวหนิงไปด้วยเขารู้สึกสนใจตัวฟู่จาวหนิงเสียแล้วทั้งๆ ที่รู้จักตัวตนฐานะของพวกเขาทางนี้ แต่ก็ยังเยือกเย็นอยู่ได้นางไม่ใช่คนต้าชื่อ แต่น่าจะไม่ใช่พวกองค์หญิงท่านหญิงอะไรด้วย เพราะตัวตนฐานะเช่นนี้ไม่น่าจะแอบหนีมาต้าชื่อเงียบๆ แล้วยังไม่เผยตัวตนฐานะของตัวเองออกมาอีกยิ่งไปกว่านั้น องค์ชายสองเองก็เชื่อมั่นว่าสายตาตนเองไม่พลาดคุณหนูราชวงศ์ บนตัวเองจะมีความหยิ่งทะนงอยู่บ้าง เป็นสิ่งที่เพาะบ่มมาตั้งแต่ยังเล็กแต่ฟู่จาวหนิงบนตัวไม่มีสิ่งเหล่านี้ แต่กลับมีความเชื่อมั่น
กระทั่งเถ้าแก่หออันดับหนึ่งก็ยังลิงโลดขึ้นมา"ผู้อาวุโสตู้ ได้โปรดช่วยด้วย..."เขายังพูดไม่จบ ผู้อาวุโสตู้ก็ยกมือขวาขึ้นทุกคนมองเห็นว่ามือขวาของเขามีสามนิ้วพันผ้าอยู่ ตกตะลึงไปทันที"ขอโทษด้วย ข้าหลายวันก่อนไม่ทันระวังทำมือโดนลวก จับมีดไม่ไหว" ผู้อาวุโสตู้บอกราวกับน้ำเย็นถังหนึ่ง ราดลงไปบนหัวเถ้าแก่ใหญ่เขาจะร้องไห้ออกมาแล้วจริงๆ"แต่ว่า ถ้าหากข้าฝานเห็ดวิญญาณให้พวกเจ้า แล้วมีประโยชน์อะไรกัน?" ผู้อาวุโสตู้กลอกตา"ไม่ใช่ว่าฝานไม่ได้หรอกหรือ?"เสิ่นเสวียนพูดต่อ "ถ้าหากฝานได้ ผู้อาวุโสตู้ยังช่วยปรุงได้ด้วย เห็ดเชียนเสวี่ยที่ทำออกมาไม่มีทางด้อยกว่าพ่อครัวซุนแน่ ถึงตอนนั้น คนที่ฝานเห็ดได้ครึ่งชั่ง ผู้อาวุโสที่ปรุงได้อีกครึ่งชั่ง อย่างนี้เป็นอย่างไร?"พวกเขาก่อนหน้านี้ไม่ได้จองเห็ดเชียนเสวี่ยไว้ แต่เสิ่นเสวียนเห็นฟู่จาวหนิงมาที่นี่ เช่นนั้นก็ต้องลองชิมเสียหน่อย โอกาสหาได้ยากมาก"ได้!"เถ้าแก่ใหญ่ตบลงโต๊ะ จากนั้นก็บอกกับคนอื่นว่า "แขกทุกท่าน ถึงตอนนั้นก็จะเหลือให้เจ้านายของพวกเราแค่ครึ่งชั่ง และเฉลี่ยให้กับทุกท่นาที่จองไว้อีกประมาณครึ่งชั่ง ปริมาณลดลงประมาณคำหนึ่ง เช่นนี้ได้ไหม?
ฟู่จาวหนิงมองเสิ่นเสวียน จากนั้นก็มองผู้อาวุโสตู้ พวกเขาล้วนพยักหน้าให้กำลังใจนาง"เช่นนั้นข้าจะลองดู""สนใจแค่นั้นพอ" ผู้อาวุโสตู้เอ่ยขึ้นคนตระกูลฮั่วยังกล้ามาหาเรื่องนางอีกที่ไหน? เขาในอดีตสามารถมอบอาหารจานนี้ให้คนตระกูลฮั่วไปเปิดหออันดับหนึ่ง จึงสามารถสนับสนุนให้อีกฝ่ายใช้คำว่าอันดับหนึ่งได้ถึงได้กำเริบเสิบสานได้ขนาดนี้ฟู่จาวหนิงพยักหน้า และไม่มีการอิดออดอีก ล้างมือหยิบมีด มือหนึ่งก็ล้วงเห็ดวิญญาณออกมาฝานทีละดอกคนข้างๆ หลายคนยังเห็นว่านางดูไม่ค่อยคุ้นมือหน่อยๆ ด้วยแต่ไม่รอให้คนอื่นต้องมาสงสัย การเคลื่อนไหวของนางก็เร็วขึ้นแล้วมีดเล็กเล่มนั้นรวดเร็วจนทำให้คนมองไม่ออกว่าฝานลงไปแล้วหรือไม่!เห็ดนี้ต้องฝานหลายต่อหลายครั้ง กระทั่งว่ามองแล้วก็เหมือนยังครบถ้วนสมบูรณ์ดี แต่พอแช่ลงไปในน้ำจะบานแผ่ออกมา ลอยเป็นกลีบใสๆ หลายกลีบ มองแล้วเหมือนดอกไม้บนหิมะดอกหนึ่ง เบาบาง ขาวสะอาด ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มฟู่จาวหนิงฝานไปหนึ่งดอก วางใส่ในอ่างหยกขาวอีกอ่าง เห็ดนั้นก็บานออกมาช้าๆ แผ่เป็นกลีบๆ สวยงามไร้ที่ติในของเถ้าแก่ใหญ่แทบจะกระโจนหลุดออกมา เขาเกือบจะอุทานส่งเสียง แต่ก็กลัวไปรบกวนฟู่จา
"เช่นนั้นก็ใสหัวไป"เซียวหลันยวนพาคนออกจากคุกใหญ่เหล่าผู้คอมมองพวกเขา "หัวหน้า ตอนนี้ทำอย่างไรดี? นายพันเก๋อบอกไว้แล้ว ถ้าเฮ่อเหลียนเฟยมีความน่าสงสัยที่จะเป็นศัตรู ต้องคุมตัวเขาไว้ก่อนนี่นา"ก่อนหน้านี้ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าก็ดึงคนไว้แล้ว ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนพาเขาเดินวนในคุกไปรอบหนึ่ง จากนั้นกลับเดินกลับไปอย่างองอาจเสียอย่างนั้นพรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อถามขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?เรื่องนี้ จะต้องนำไปให้ฝ่าบาททรงทราบแน่ องค์จักรพรรดิถ้าหากถามหาความรับผิดชอบขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?แต่หัวหน้าคุกก็ไม่กล้าทำอะไรนี่นา"ช่างมัน ผลักไปบนหัวอ๋องเจวี้ยนให้หมดแล้วกัน พรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อซักไซ้ขึ้นมา พวกเราก็บอกไปว่าพวกเราขวางอ๋องเจวี้ยนไม่อยู่"นี่โทษพวกเขาได้ที่ไหน?ฟู่จาวหนิงพอเห็นพวกเขาออกมาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ"เสี่ยวเฟยไม่ต้องอยู่หรือ?" นางถามเซียวหลันยวน"ไม่ต้องให้อยู่แล้ว ให้พวกเขาไปที่จวนอ๋องเองแล้วกัน" เซียวหลันยวนตอบฟู่จิ้นเชินมองเขา "ขอบคุณมาก"นี่คือความหมายที่จะปกป้องพวกเขาแล้วถ้าหากพวกเขาไม่อยู่ในจวนอ๋อง พรุ่งนี้นายพันเก๋อพาคนไปที่บ้านตระกูลฟู่ พวกเขาคงไม่มีทางต่
โป๋จีเอาเรื่องที่เผ่าเฮ่อเหลียนยึดครองเมืองพูดจนกลายเป็นตัวเลือกที่จำใจของพวกเขาเสียอย่างนั้นฟู่จาวเฟยถามยังถามสถานการณ์ในเมืองตอนนี้อีกหน่อย แล้วยังถามเขาว่าทำไมถึงถูกเก๋อมู่กวงจัง รอจนเขา...ตอบมาทีละข้อ ถามขึ้นมาทันที "แล้วจดหมายที่นำมาให้ข้าล่ะ? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ส่งจดหมายให้กับข้าหรือ?"โป๋จีมองไปทางเซียวหลันยวน"นี่คืออ๋องเจวี้ยนสินะ? พวกข้าได้ยินว่า อ๋องเจวี้ยนตอนนี้เป็นพี่เขยของเจ้า""ใช่แล้ว แต่เขากับองค์จักรพรรดิมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี"สายตาโป๋จีหม่นลงเล็กน้อย พวกเขารู้เรื่องนี้"แล้วพ่อแท้ๆ ของเจ้าล่ะ?""เขาฟังพี่สาวข้า""หมอเทวดาฟู่ใช่ไหม?""ใช่ ชื่อเสียงของพี่สาวข้ามากขนาดนี้เลยหรือ? ลือกันไปถึงทางเผ่าแล้วหรือ?" ฟู่จาวเฟยถาม"แน่นอน นางเป็นถึงหมอที่อายุน้อยสุดในสมาคมหมอใหญ่เลยนะ" แล้วยังเป็นหมอหญิงอีก"แล้วจดหมายอยู่ที่ไหนล่ะ?""จะส่งให้เจ้าเลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอก แต่ว่าเจ้าต้องทำเรื่องหนึ่งก่อน จดหมายสำหรับพวกเราแล้วสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะทำร้ายหรอก""เขียนอะไรไว้หรือ?""เจ้าอ่านจดหมายก็จะเข้าใจเอง""ท่านจะให้ข้าช่วยทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวเฟยเริ่มจะเกิด
ขอแค่พวกเขาสงสัยในตัวฟู่จาวเฟยก็พอแล้วหัวหน้าคุกกับมือปราบเจียงพวกเขาก็เริ่มสงสัยเช่นนี้แล้วพวกเขามองฟู่จาวเฟย และมองไปยังโป๋จี สีหน้าเองก็กังวลขึ้นมา"คุณชายฟู่ นี่มัน..." มือปราบเจียงเข้าประชิดฟู่จิ้นเชิน กดเสียงต่ำคิดจะเตือนเขาคุณชายฟู่จะฟังไม่ออกได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอยู่ต่อหน้านายพันเก๋อ แล้วเห็นว่าโป๋จีกับคุณชายน้อยฟู่มีความสัมพันธ์อันดีกันล่ะก็ คุณชายน้อยฟู่ก็จะยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกนายพันเก๋อคงไม่มีทางเชื่อคุณชายน้อยฟู่แน่นอนแล้วถ้าคุณชายน้อยฟู่ถูกกำหนดให้เป็นพวกของราชาเฮ่อเหลียน เช่นนั้นก็ถือว่ามีโทษกบฏ อาจจะลากตระกูลฟู่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้กระทั่งว่า อ๋องเจวี้ยนเองก็จะโดนหางเลขไปด้วยแต่ว่า องค์จักรพรรดิก็คิดจะรับมืออ๋องเจวี้ยนชัดเจนขนาดนี้ เช่นนั้นถ้ามีโอกาสจับกุมขึ้นมาจะปล่อยไปได้อย่างไรกัน?มือปราบเจียงรู้ว่าลูกสาวตนเองชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาก ดังนั้นเขาจึงกังวลแทนพระชายาอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา"่ท่านลุงโป๋จี ท่านกำลังพูดอะไรน่ะ? ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าตอนนั้นไม่ได้จงใจทิ้งข้า แล้วก็..."ฟู่จาวเฟยชะงักไป เปลี่ยนคำใหม่ "ราชาเฮ่อเหลียนยังสังหารแม่เลี้ยงข
"ท่านลุงโป๋จี ได้ยินว่าท่านมาส่งจดหมายให้ข้าหรือ?"ฟู่จาวเฟยถามออกมาทันทีโป๋จีก่อนหน้านี้ก็ดีกับเขาพอควร แต่ตอนนี้พอมาคิด ก็น่าจะแค่คิดว่าเขาเป็นลูกชายของราชาเฮ่อเหลียน เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นสายตาของตนเอง ก็แตกต่างกับแต่ก่อนไปแล้วฟู่จาวเฟยตอนนี้ยังพิจารณาออกได้ว่า เมื่อครู่ตอนที่โป๋จีมองเห็นสายตาของเขา นั่นเป็นความตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นเป้าหมายยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ที่เขาถามออกมาโป๋จีก็ยังพิจารณามองเขาอยู่"ใช่แล้ว องค์ชาย" โป๋จีใช้ภาษาเมืองหลวงที่ฟังแล้วแปลกๆ เรียกเขาว่าองค์ชาย จากนั้นก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนด้วยสัญชาตญาณ เปลี่ยนเป็นภาษาเฮ่อเหลียนว่า "ราชาได้รับจดหมายของเจ้า บอกว่าเจ้าหาพ่อแม่ที่แท้จริงพบแล้ว มีตัวตนฐานะใหม่ ดูพึงพอใจมาก"โป๋จีไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนฟังภาษาเฮ่อเหลียนออกฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็ไม่รู้พอเขาฟังประโยคนี้ออกจึงมองไปทางเซียวหลันยวน ตอนนี้จะแปลให้เขาคงไม่สะดวกนัก ถ้าเขาพูดออกมาตอนนี้ เกรงว่าโป๋จีคงไม่พูดความจริงแล้วรอให้เขาพูดสิ่งที่ควรพูดให้จบก่อนแล้วกันคำนี้ของโป๋จี น่าจะพูดให้เขาฟังความหมายของคำพูดนี้ แสดงออกว่าราชาเฮ่อเหลียนรู้แล้วว่าฟู่จาวเฟยเ
ถ้าประตูวังปิดแล้ว คืนนี้น่าจะยังไม่ได้พบองค์จักรพรรดิเช่นนั้นพรุ่งนี้ช่วงประชุมเช้าก็น่าจะได้พบ ห่างจากตอนนี้ไม่ถึงสามชั่วยามเซียวหลันยวนไม่พูดอะไรอีกหลังจากเขาได้ข่าวไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องส่งคนไปคุ้มครองนอกวังแน่ เก๋อมู่กวงคืนนี้เข้าวังไม่ได้ ไม่ได้พบองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะต้องรอจนถึงประชุมเช้าแน่นอนช่วงหลายชั่วยามนี้เพียงพอแล้วพวกเขาได้ยินเสียงของฟู่จิ้นเชินแล้วฟู่จิ้นเชินกำลังพูดภาษาเฮ่อเหลียนอยู่"พี่เขย ท่านพ่อกำลังพูดว่า..." ฟู่จาวเฟยคิดจะแปลให้เซียวหลันยวนก่อนอย่างฉลาดเฉลียวรู้ความ แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะโบกไม้โบกมือ"ข้าฟังออกน่ะ""อ๋า?"ฟู่จาวเฟยตกตะลึง"ลืมบอกไป ว่าข้าเป็นภาษาเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กจ้อยที่ธรรมดามากๆ เรื่องหนึ่งหัวหน้าคุกเองก็เหลือบมองเขาอย่างตกตะลึง"ถ้าข้าน้อยจำไม่ผิดล่ะก็ ท่านอ๋องยังพูดภาษาหนานฉือได้ด้วย?""ใช่"หัวหน้าคุกกับฟู่จาวเฟยสบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนล้วนเห็นความตกตลึงในดวงตาของอีกฝ่ายอ๋องเจวี้ยนทำไมถึงพูดได้หลายภาษานัก?เขาไม่ใช่ว่าพักฟื้นอยู่ในยอดเขาโยวชิงตลอดหรือไรกัน? คนทั้ง
เซียวหลันยวนรู้สึกนับถือฟู่จิ้นเชินจริงๆเขาเองก็ไม่ได้มีตัวตนฐานะพิเศษอะไร แต่กลับใช้ความสามารถตนเองเข้าไปในคุกใหญ่ได้ เข้าคุกใหญ่ไปยังพอทำเนา แต่นี่ยังได้พบกับโป๋จีด้วยนี่ร้ายกาจมากจริงๆ"พวกเจ้าให้เขาเข้าไปแบบนี้เลยหรือ?" เซียวหลันยวนรู้สึกแปลกใจจริงๆ"เรื่องนี้ เพราะโป๋จีพูดภาษาเราได้แค่นิดหน่อย คุณชายฟู่เขาพูดภาษาเฮ่อเหลียนได้"หัวหน้าคุกกังวลนิดหน่อย เขาเองก็ไม่รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนยกโทษให้กับสามีภรรยาตระกูลฟู่แล้วหรือยังคนไม่น้อยในเมืองหลวงก็ยังมองความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ออกถ้าหากอ๋องเจวี้ยนโกรธ แล้วหันมาระบายบนตัวเขาจะทำอย่างไรกัน"ท่านอ๋อง ท่านเองก็จะเข้าไปพบโป๋จีคนนั้นหรือ?" เขาถามขึ้นอย่างระมัดระวังอ๋องเจวี้ยนออกมาได้อีกครั้ง แสดงว่าไม่ได้ติดโรคระบาดนั้นมาพวกผู้คุมในคุกใหญ่หลายวันนี้ยังไม่ได้ดื่มยาน้ำของพระชายาอ๋องเจวี้ยน ทุกคนกินอาหารกันวันละสามมื้อ แต่ก็ยังไม่มีใครติดโรคชนิดนั้นเลยดังนั้นพวกเขาเชื่อมั่นในยาขอพระชายาอ๋องเจวี้ยน แน่นอนว่าเชื่อมั่นว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ได้เป็นโรคระบาดด้วย"ข้าเข้าไปไม่ได้หรือ?""ไม่ใช่เช่นนั้น ไม่ใช่แน่นอน ท่านอ๋องเข้าไปได้" หัว
เซียวหลันยวนมองเสิ่นเชี่ยวผาดหนึ่ง"ก็แค่ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาเท่านั้น"มีแผนอะไรเสียที่ไหน?เรื่องเช่นนี้ ต่อให้พวกเขาลงมือตรวจสอบชัดเจน ก็ไม่ใช่อะไรที่จำทำเสร็จในชั่วครู่องค์จักรพรรดิจะต้องหยิบยืมเรื่องนี้แน่นอนใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าทางนี้คงทานได้อีกไม่นานแล้ว อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมาพาฟู่จาวเฟยไปคุกใหญ่ฟู่จาวหนิงกลับเข้าใจความหมายของเซียวหลันยวนขึ้นมา"พวกเราตอนนี้ส่งไปเอง ยังพอจะเลือกห้องขังได้อยู่""ข้าฟังพวกเจ้านั่นล่ะ" เสิ่นเชี่ยวเอ่ยขึ้นทันทีนางต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อลูกสาว ไม่ต้องถามให้ชัดเจนนัก ลูกสาวจะต้องไม่ทำร้ายน้องชายแน่ๆ แค่ฟังนางไว้ก็พอเรื่องในเมืองหลวง พวกเขาจะต้องเข้าใจชัดเจนกว่านางแน่นอน"เรื่องนั้นไม่ควรชักช้าไปกันตอนนี้เลย" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นหมุนตัวออกไปก่อนฟู่จาวหนิงกวักมือให้เสี่ยวเฟย "ไปกัน"ฟู่จาวเฟยเองก็เดิมตามนางไปอย่างเชื่อมั่นทันทีเสิ่นเชี่ยวเดินมาถึงด้านหลัง คารวะให้กับใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้า "ขอบคุณใต้เท้าที่ดูแล""เกรงใจเกินไปแล้ว..."ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าตอบกลับด้วยสัญชาตญาณ จากนั้นก็รู้สึกว่าตนเองในตอนนี้ก็เหมือนจะเกรงใจมากเกินไปเขายังกลายเป
ท่านพี่ในที่สุดก็กลับมาแล้ว ใจของเขาสงบลงมาได้ไม่น้อยเลย"จาวหนิง นี่มาจากในภูเขาหรือ? เหนื่อยแย่เลยสิ?" เสิ่นเชี่ยวยกถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นทันที "เจ้าดื่มชาร้อนนี่ก่อนเถอะ เพิ่งต้มใหม่เลย ยังไม่ได้ดื่ม"นางเห็นฟู่จาวหนิงมีรอยคล้ำใต้ตาจางๆ ในภูเขาคงต้องเหนื่อยมากแน่ๆ และคงไม่ได้พักผ่อนดีนักแต่พอยกถ้วยชาขึ้นมา เสิ่นเชี่ยวก็ยังรู้สึกกระวนกระวายอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะรับน้ำใจของนางไหมฟู่จาวหนิงรับมา ดื่มไปอึกหนึ่ง ผ่อนคลายลงมาได้"เรื่องจดหมายนี่อย่างไรกัน? ก่อนหน้านี้มีอะไรผิดปกติบ้างไหม หรือมีคนมาหาเจ้าบ้างหรือเปล่า?"เสิ่นเชี่ยวถอนใจโล่ง ในใจก็ลิงโลดขึ้นมาแม้ว่าฟู่จาวหนิงตอนนี้อยู่กับพวกเขาจะไม่ค่อยคล้ายกับพ่อแม่ลูกเท่าไรนัก แต่นางเชื่อว่าในด้านความรู้สึกก็ยังพอเห็นได้บ้าง เดิมทีก็ยังมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันอยู่ฟู่จาวเฟยส่ายหัว รีบร้อนรับประกันอย่างขันแข็งขึ้นมา "ท่านพี่ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย ไม่มีคนมาหาข้าด้วย แล้วก็ไม่ได้รับจดหมายอะไรอีก ข้าเองก็ไม่ได้เขียนจดหมายไปด้านนอก""ช่วยนี้มีใครมาที่บ้านไหม?""ไม่มี มีแต่ท่านพ่อที่ออกไปบ่อยๆ ข้าอยู่ในแต่บ้านฝึกยุทธ์" ฟู่จาวเฟ
"อ๋องเจวี้ยนมาถึงแล้ว"ข้าราชการชั้นผู้น้อยคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา รู้ว่าใต้เท้าร้อนรนมาก จึงรีบ เข้ามารายงาน"เร็ว"เขาทางนี้แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว คุกใหญ่ทางนั้นถ้าถามออกมาได้ว่าจดหมายอยู่ที่ไหน ก็คงจะให้เขาเอาฟู่จาวเฟยส่งเข้าคุกใหญ่แน่แต่อ๋องเจวี้ยนก่อนหน้านี้กำชับว่า ก่อนหน้าที่เขาจะกลับมา ฟู่จาวเฟยต้องอยู่ที่นี่ก่อน ห้ามส่งไปคุกใหญ่เขาเองก็ทานไม่ไหวแล้ว เดิมทีฟู่จาวเฟยไม่ได้จะส่งมาที่เขาทางนี้ แต่เป็นจดหมายด่วนของอ๋องเจวี้ยนที่ให้เข้าเข้ามารับช่วงไว้ก่อนแต่เขาเองก็ร้อนรนด้วย เขาเองก็กลัวนี่ ถึงตอนนั้นถ้าค้นเจอจดหมายอะไรเข้า แล้วเกี่ยวข้องกับฟู่จาวเฟยจริง เขาก็จัดการลำบากแล้วถึงอย่างไรฟู่จาวเฟยก็อยู่กับเขาทางนี้ ไม่ได้ลงตรวน ไม่ได้ตี ไม่ได้ขังอีกต่างหาก ยังคงนั่งรออยู่ที่โถงข้างๆแล้วยังมีฮูหยินฟู่ด้วย นั่งอยู่กับลูกชายด้วยกันเขาทำเช่นนี้ ถ้าหากถูกองค์จักรพรรดิรู้เข้า องค์จักรพรรดิคงไม่ละเว้นเขาแน่พอเขาออกไป เสิ่นเชี่ยวกับฟู่จาวเฟยก็ลุกขึ้นยืนทันที ขณะเดียวกันก็มองมาทางเขา"ใต้เท้า?""คุณชายฟู่ไปที่ไหนแล้วกันแน่?"ใต้เท้าหยินจิงเจ้ามองพวกเขา และคิดถึงเรื่องที่เมื่อคร