อันชิงเชื่อมั่นในตัวฟู่จาวหนิง ไม่ใช่แค่เชื่อมั่นในการเป็นคนของนาง แต่ยังเชื่อมั่นในวิชาแพทย์นาง และยังเชื่อในสายตาของนางด้วยดังนั้นเรื่องนี้นางจึงนึกไว้หลายวันแล้ว ฟู่จาวหนิงก็กลับมาเมืองหลวงพอดี นางดีใจมาก ทันเวลาพอดี ไม่เช่นนั้นนางก็คงอยากจะจะประวิงเวลาการพบหน้ากับคุณชายติงคนนี้ต่อไปเป็นแน่"ตอนไหนล่ะ?""พรุ่งนี้ตอนเที่ยง พี่ชายบอกว่าคุณชายติงจะไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารชิงเว่ย ถึงตอนนั้นให้ข้าเองก็ไปด้วย ที่นั่นมีห้องรับรองที่มีฉากบังลมกั้นเอาไว้ให้"อันเหนียนเองก็รักน้องสาวคนนี้มาก ไม่อยากให้นางต้องแต่งงานโดยไม่รู้อะไรของอีกฝ่ายเลย อยากให้นางไปเห็นด้วยตนเอง ชอบไม่ชอบแล้วค่อยว่ากันฟู่จาวหนิงมองนางแล้วยิ้มขึ้น "สกุลติงหรือ?""ใช่ ฐานะบ้านของเขาก็ถือว่าดีอยู่ แต่ในบ้านไม่มีคนเป็นข้าราชการ เปิดร้านอยู่หลาย ร้านที่ใหญ่ที่สุดเป็นร้านหนังสือ พี่ชายบอกว่าคุณชายติงเขียนหนังสือละครแล้ววางขาย ได้รับความนิยมในหมู่ปัญญาชนในเมืองหลวงด้วย""พี่ชายบอกว่า พวกเราจะไม่ร้องขอให้อีกฝ่ายต้องเป็นข้าราชการ ยังต้องดูที่บุคลิกประจำตัวเขาอีก"คำพูดเหล่านี้อันชิงไม่ได้พูดกับใครเลย พอเจอฟู่จาวหนิงก
ฟู่จาวหนิงหยิบขนมที่ซื้อมาจากเมืองชิงเหยาส่งให้กับนางหลังจากอันชิงออกไป นางเดิมทียังคิดว่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับเซียวหลันยวนเสียหน่อย แต่ก็ไม่มีความคิดนั้นแล้ว จึงกลับไปยังเรือนเจียนเจีย เข้าไปสกัดยาต่อในห้องเภสัชเซียวหลันยวนหลังจากกลับมาก็นอนถึงสองวันเต็มร่างกายของเขาไม่ไหวแล้วจริงๆ ตลอดทางแม้จะมียาของฟู่จาวหนิงอยู่ แต่พอกลับถึงจวนอ๋อง ฉับพลันก็สัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้าในส่วนลึกรู้ว่าในวังถัดจากนี้จะต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เขาก็เลยนอนไถึงสองวันเต็ม พักผ่อนให้ดี สะสมพลังจนเต็มเปี่ยมเพียงแต่พอได้ยินรายงานจากชิงอี บอกว่าอันชิงตอนบ่ายมาหาฟู่จาวหนิง แล้วยังนำจดหมายที่อันเหนียนเขียนมาให้ด้วย เซียวหลันยวนจึงนอนต่อไม่ได้แล้ว"อันเหนียนเขียนจดหมายให้ข้าไหม"ชิงอีส่ายหัว "ไม่มีขอรับ ผู้ตรวจการอันเพียงแค่ให้นางมาส่ง บอกเรื่องที่เขาได้รับคำสั่งให้ติดตามหวางต้าหลางไปต้อนรับองค์หญิงหนานฉือ"แค่ประโยคเดียว"เขาเขียนให้ข้าแค่ประโยคเดียว แต่กลับเขียนจดหมายให้ฟู่จาวหนิงอีกหรือ?"เซียวหลันยวนหน้าดำทมึน"ท่านอ๋อง ไม่เช่นนั้นลองไปถามพระชายาดู ว่าผู้ตรวจการอันเขียนอะไรมาให้ดีไหม?" ชิง
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนอ๋อง จะต้องปิดบังเซียวหลันยวนไว้ไมไ่ด้นางเดิมทีก็คิดจะบอกเรื่องนี้กับเขา"ถูกต้อง"นางยื่นจดหมายส่งให้เขาดูส่วนชีพจรเขา ก็ดูอ่อนแอลงไปพอควร เลือดลมย่ำแย่ทั้งคู่ แต่ร่างกายของเขาก็ไม่ดีมาตลอดอยู่แล้ว ถึงอย่างไรก็ไม่ถือว่าเลวร้ายลงเซียวหลันยวนรับจดหมายไปมองผาดหนึ่ง "เจ้าจะไปต้าชื่อหรือ?""ใช่ ควรจะไปเสียรอบหนึ่ง"เซียวหลันยวนขมวดคิ้ว"ตอนไหนล่ะ?""อีกสองสามวันกระมัง จัดการแก้พิษให้ท่านก่อน อย่างน้อยต้องรอให้ท่านอาบน้ำยาสักสองสามวันก่อน ส่วนพิษที่เหลืออยู่ ต้องไปหาเอ็นมังกรหยกต่อ"เซียวหลันยวนได้ยินนางพูดเช่นนี้ ในใจก็หวานชื่นอย่างประหลาดในใจนางเขายังอยู่อันดับแรกอยู่ใช่ไหม? แม้กระทั่งออกไปก็ยังจะเพื่อไปหายาให้เขา"ข้าจะไปกับเจ้าด้วย""ไม่ได้" ฟู่จาวหนิงปฏิเสธขึ้นอย่างไม่คิด"เจ้าไปคนเดียวข้าไม่วางใจ"นี่ไปไกลถึงต้าชื่อเลยนะ มีเรื่องอะไรขึ้นมาจะตามไปไม่ทัน ยิ่งกว่านั้นห่างกันตั้งนานขนาดนี้ แค่คิด เซียวหลันยวนก็รู้สึกใจร้อนรนขึ้นเสียแล้ว"หลังจากท่านเริ่มอาบยาจะหยุดกลางคันไม่ได้ ทุกวันต้องอาบยาำนี้ แต่บ้านตระกูลเสิ่นทางนั้นต้องการให
ทำท่าเหมือนไม่เชื่อใจนางขึ้นมาอีกแล้ว?เซียวหลันยวนไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนเองจะมีช่วงที่สับสนเช่นนี้"ท่านเหนื่อยมากในเส้นทางนี้ แล้วก่อนหน้าก็ยังบาดเจ็บหนักอีก ส่งผลกระทบไปถึงรากฐาน คืนนี้เริ่มอาบน้ำยาเลยเถอะ ตอนค่ำก็กินน้อยหน่อย เอาแค่ครึ่งอิ่มก็พอ""ได้""ถ้านอนหลับได้ก็นอนให้มากหน่อย ไม่ใช่สิ่งที่ผิด""ได้"นางพูดอะไร เขาก็ขานรับว่าได้หมด ท่าท่าว่าง่ายเชื่อฟังจนทำเอาฟู่จาวหนิงโกรธต่อไม่ได้เลย"เช่นนั้น ท่านก็พักผ่อนอีกหน่อยเถอะ ข้าจะไปจัดการยาให้" นางยืนขึ้นมาเตรียมตัวจะออกไปเซียวหลันยวนเองก็ยังทนไม่ไหวอยู่ดี "แม่นางอันเองก็มาหาเจ้าหรือ?""โอ้ ใช่ นางมีเรื่องให้ข้าช่วย พรุ่งนี้ตอนกลางวันข้าต้องออกไปรอบหนึ่ง""แม่นางอันต้องการให้เจ้าช่วยหรือ?""ใช่แล้ว" จะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร?ฟู่จาวหนิงคิดออกแล้ว เขาน่าจะรู้เรื่องที่องค์หญิงหนานฉือมาที่แคว้นเจากระมัง? แต่ว่าเขาเองก็ยังไม่ได้เตรียมจะบอกนางกระมังเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ของเมืองหลวงแคว้นเจาเลย แต่เขาไม่คิดจะเอามาพูดดีดีกับนางหน่อยหรือ? รู้สึกว่านางไม่มีความจำเป็นต้องรู้เรื่องเหล่านี้หรือ?"อันเหนียนตอนนี้ออกจากเม
"ข้าแค่หมายถ้าสมมติว่า"ฟู่จาวหนิงเกือบถูกเสียงนั้นของเขาทำให้ไปต่อไม่ได้เสียแล้ว"เรื่องที่ไม่มีวี่แววแบบนี้จะสมมติมาทำไมกัน?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขาฟู่จาวหนิงชะงักจะว่าไปก็จริงถ้ายังไล่ตามต่อไปก็จะหมายถึงนางปล่อยวางไม่ลงเรื่องราวยังไม่ได้เกิดขึ้นเลยนะ"องค์จักรพรรดิตอนนี้ยังไม่ได้เรียกท่านเข้าวัง เขาจะต้องรู้เรื่องที่องครักษ์ลับเหล่านั้นหลับไปสองวันที่หาดริมน้ำแล้ว ถ้าในใจท่านคิดไว้แล้วก็ดี ข้าจะไปเตรียมยาก่อนนะ"ฟู่จาวหนิงเตรียมจะเดินออกไปอีก"แม่นางอัน" ส่งจดหมายอะไรของพี่ชายมาให้หรือ?"อะไรหรือ?""ไม่มีอะไร พรุ่งนี้เจ้าไปก็พาคนไปด้วยล่ะ""ได้"พอเห็นฟู่จาวหนิงออกไป ประตูก็ถูกปิดลง เซียวหลันยวนถอนหายใจฮู่ รู้สึกว่าในใจเปรี้ยวฝาดชิงอีเดินเข้ามาแล้วเขาเพิ่งจะได้ยินบทสนทนาของท่านอ๋องกับพระชายา ตอนนี้พอเห็นท่าทางท่านอ๋องดูกลัดกลุ้ม ก็อดถามขึ้นไม่ได้ "ท่านอ๋อง ท่านไม่ใช่อยากถามพระชายาหรือ บนจดหมายของผู้ตรวจการอันเขียนอะไรไว้?"แล้วทำไมไม่ถามออกไปตรงๆ ล่ะ? ทำเอาเขาร้อนรนจะแย่แล้วเซียวหลันยวนเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "เจ้าจะไปรู้อะไร?"เขาไม่รู้หรอก ท่านอ๋องไม่ใช่ว่ากำ
ถ้าใบหน้าของท่านอ๋องไม่ดีขึ้นมา ไม่ใช่ว่าทั้งชีวิตคงไม่ได้พบปะผู้คนอีกหรือ? วันคืนเช่นนั้นคงจะยากลำบากเอามากๆอันที่จริง องค์จักรพรรดิถ้ามองเห็นใบหน้าของท่านอ๋อง ก็น่าจะวางใจกับตัวเขาได้แล้ว คนที่ใบหน้าพิกลพิการเป็นจักรพรรดิไม่ได้หรอก เช่นนี้ก็อธิบายได้ว่าท่านอ๋องไม่ใส่ใจกับตำแหน่งนั้นแล้วแต่ว่าพอเขากลับมาคิดก็ยังรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ถึงตอนนั้นองค์จักรพรรดิอาจจะใช้เหตุผลนี้ ทำให้เขาส่งของในมือทั้งหมดออกไปก็ได้ถึงอย่างไรถ้าแค่ไม่เชื่อใจไม่ชอบ ถ้าไม่เอาของทั้งหมดกลับไปก็คงวางใจลงมาไม่ได้ฟู่จาวหนิงเตรียมกลับเรือนเจียนเจีย ระหว่างทางก้ถูกคนสองคนขวางเอาไว้"พระชายา"ฟู่จาวหนิงยืนนิ่ง มองสองคนนี้อยู่พักหนึ่งจึงจำพวกนางได้นี่เกือบจะมองไม่ออกเสียแล้วไป๋ซวงกับจินเสวี่ยนั่นเองตอนที่เพิ่งเจอกับสองสาวใช้นี้ เสื้อผ้าดูหรูหรา หน้าตางามสง่า ผิวละเอียดละเมียดละไม ดูเหมือนเป็นคุณหนูจากครอบครัวคนชั้นสูงอย่างไรอย่างนั้นแล้วตอนนั้นสีหน้าพวกนางก็หยิ่งทะนง สายตาที่มองมาก็สูงส่งเหลือประมาณ ถ้าไม่รู้ยังคิดว่าพวกนางเป็นคุณหนูชั้นสูงไปเสียแล้วแต่ตอนนี้ไป๋ซวงกับจินเสวี่ยดูสวมชุดสาวใช้เรียบง่ายข
ฟู่จาวหนิงให้คนส่งข้อความถึงเซียวหลันยวน บอกถึงความต้องการของจินเสวี่ยและไป๋ซวงนางอย่างไรก็ได้ไม่นานนัก เซียวหลันยวนก็ให้ชิงอีกมาอธิบายกับนายโดยเฉพาะ"พระชายา ท่านอ๋องรับปากว่าจะส่งจินเสวี่ยกับไป๋ซวงไปยังยอดเขาโยวชิงแล้ว"ชิงอีอธิบายว่า "อันที่จริงสาวใช้สองคนนี้ก็ไม่ชอบยอดเขาโยวชิงมาโดยตลอด เพราะที่นั่นมันวิเวกวังเวงและน่าเบื่อ พวกนางอยู่ที่นั่นก็วนไปวนมาอยู่กับท่านอ๋อง ดังนั้นพวกนางต่อให้กลับไปที่ยอดเขาโยวชิงก็คงไม่มีความสุขนัก สำหรับพวกนางก็น่าอึดอัดเช่นกัน""แต่พวกนางอยากจะไปกันเอง"ชิงอีชะงักไป "พวกนางอาจจะเห็นว่าครั้งนี้ท่านอ๋องพาท่านออกไปเป็นเวลานาน คงมองออกแล้ว ว่าข้างกายท่านอ๋องคงไม่จำเป็นต้องมีพวกนางอีกแล้ว"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาพูดก็เข้าใจขึ้นมาแล้ว"เซียวหลันยวนในเมื่อรับปากแล้ว ก็ว่าไปตามนั้นนั่นล่ะ""พระชายาถ้ารุ้สึกว่าสาวใช้ในจวนไม่เพียงพอ ก็สามารถเพิ่มคนได้""ไม่ต้อง ข้าไม่เอา"ฟู่จาวหนิงส่ายหน้ารอจนชิงอีออกไป หงจั๋วจึงเอ่ยกับฟู่จาวหนิงว่า "พระชายา ไป๋ซวงกับจินเสวี่ยแบบนี้คงจะปล่อยวางแล้วจริงๆ""พวกนางอยู่ในจวนอ๋องคงลำบากยิ่งกว่า" เฝิ่นซิงเอ่ยขึ้นมาเช่นกั
นางได้ยินเสียงปลดผ้าด้านหลัง ใบหน้าก็ร้อนผะผ่าวเล็กน้อยใจก็เต้นเร็วขึ้นแต่ว่าฟู่จาวหนิงก็บอกตนเองหลายรอบ ว่านางมาแก้พิษให้เขา จะว่อกแว่กไม่ได้ นางเป็นหมอ เขาเป็นผู้ป่วย นี่ไม่ใช่เรื่องปกติหรอกหรือ"เสร็จแล้ว"เซียวหลันยวนแช่ตัวลงไปในน้ำยา รู้ว่าฟู่จาวหนิงเองก็พูดถูกต้อง น้ำยาเป็นสีดำ มองภาพในน้ำได้ไม่ชัด เขาโผล่ออกมาแค่ช่วงไหล่แต่จะมากน้อยก็ยังตึงเครียดอยู่บ้างเพียงแต่เขาก็รู้ทันที ว่าภาพฝันอะไรนั่นมันไม่มีอยู่เลยน้ำยาออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว รูปขุมขนทั้งตัวของเขาล้วนถูกเปิดออก จากนั้นในน้ำก้เหมือนมีเข็มนับพันนับหมื่นเล่มแทงเข้าไปในทุกส่วนของร่างกายเขา ความเจ็บยุบยิบล้อมตัวเขาเข้ามาในพริบตา"เฮ่อ"เซียวหลันยวนร้องขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ จากนั้นจึงกัดฟันไว้ฟู่จาวหนิงหมุนตัวกลับมา เดินมาอยู่ข้างหลังเขา"รู้สึกเจ็บมากใช่ไหม? นี่เป็นเรื่องปกติ ทนเอาหน่อยนะ" นางเห็นหน้าผากเขามีเหงื่อซึม จึงหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดให้เขา"รอจนท่านรู้สึกว่ารับไหวกับความเจ็บปวดนี้แล้วก็บอกข้า ตอนนั้นข้าจะฝังเข็มให้ ผลลัพธ์จะดีมากที่สุด"ตอนนี้เซียวหลันยวนเจ็บปวดจนพูดไม่ออก ทำได้แค่พยักหน้าเขาพยายามจะอดท
จากนั้นนางก็ร้อนรนขึ้นมา รีบพลิกค้นของด้านใน แต่ไม่ว่าจะพลิกอย่างไร กล่องใบนั้นก็หายไปแล้ว!พอเห็นท่าทางของเฉินเซียง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็หน้าเปลี่ยนสีทันที"มีอะไรหรือ?""ของหายไปแล้วเจ้าค่ะ!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลุกพรวดขึ้นมา เดินโซซัดโซเซเข้าไป และรื้อคนพลิกหาด้วยเช่นกัน"หายไปได้อย่างไรกัน? ข้าเห็นเจ้าเอามาใส่ในกล่องนี้แล้วแท้ๆ!""นั่นสิ ข้าน้อยวางมันไว้ในนี้จริงๆ แล้วยังลงกลอนไว้อีก หลังจากลงกลอนแล้วก็ไม่ได้เปิดออกอีกเลย แล้วมันหายไปได้อย่างไรกัน?"เมื่อครู่นางเองก็หยิบกุญแจปิ่นปักผมออกมาเปิดกลอน ไม่มีร่องรอยถูกแตะต้องเลย!"รีบหาดูให้ทั่ว"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานมาก สิ่งของไม่ใช่แค่นางต้องการนำไปเจรจาเงื่อนไขเท่านั้น แต่สำหรับอ๋องเจวี้ยนแล้วยังสำคัญมากอีกด้วย ถ้าหากมาหายในมือนาง แล้วอ๋องเจวี้ยนรู้เข้าภายหลัง แล้วนางจะทำอย่างไรกัน?นายบ่าวทั้งสองรื้อค้นในห้องกันเลเเทะ ค้นหาทุกซอกทุกมุม แต่ก็หาไม่พบ"จะต้องถูกหมอเทวดาฟู่เอาไปแล้วแน่ นางเคยเข้ามาในห้องพวกเรา" เฉินเซียงร้องขึ้นมา "ที่นี่มีแต่คนของนาง คนเหล่านั้นล้วนช่วยเหลือนาง ตอนที่พวกเรากลับมาจะต้องถูกคนเห็นแล้วแน่..."
"เฉินเซียง ข้าจะทำอย่างไรดี?"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้เพียงงึมงำถามเฉินเซียง ท่านทีของอ๋องเจวี้ยน กับความเย็นชาของฟู่จาวหนิง เส้นทางที่จะเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยนก็ผ่านไปไม่ได้แล้วนางทำมาถึงจุดนนี้แล้ว จะให้ต้องตกต่ำลงไปอีกนั้นมันก็มากเกินไปยิ่งไปกว่านั้นต่อให้นางจะตกต่ำเรี่ยดิน อ๋องเจวี้ยนเองก็ไม่แน่ว่าจะหวั่นไหว เขามันไร้อารมณ์เกินไปเฉินเซียงนั่งอยู่บนเกาอี้ งอตัวค้อมลงมา ที่โดนฟู่จาวหนิงเตะไปเมื่อครู่ นางรู้สึกว่าตนเองตอนนี้ไม่ดีขึ้นได้เลย ความเจ็บปวดบนร่างกาย ทำให้ในใจนางยิ่งรู้สึกชิงชัง"องค์หญิงใหญ่ ในเมื่ออ๋องเจวี้ยนไร้ความรู้สึกเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเราก็ปล่อยวางเถิด จากที่ข้าน้อยเห็น บางทีอ๋องเจวี้ยนในแคว้นเจาก็เหมือนจะปกป้องตัวเองลำบากอยู่ จักรพรรดิแคว้นเจาคิดจะเล่นงานเขาตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงไม่กล้ารับปาก เพราะเดิมทีเขาก็ไม่มีฝีมืออยู่แล้ว!"เฉินเซียงรู้สึกว่าตอนนี้พูดแย่ๆ กับอ๋องเจวี้ยนแล้ว ยังทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย"ขนาดเขาตอนนี้ยังไม่กล้าปลดหน้ากากลงเลย น่าจะเพราะใบหน้าของเขามันพังยับจนไม่เหลือสภาพแล้วจริงๆ ไม่กล้าจะให้องค์หญิงใหญ่เห็น เขารู้สึกด้อยค่า ใช่แล้ว
หยวนอี้เข้าใจความหมายของนางขึ้นมาทันทีเขาไม่มีตกตะลึงเลยแม้แต่น้อยแม้ฟู่จาวหนิงจะยังสวมหน้ากาก โผล่มาเพียงตาคู่เดียว แต่เขาก็ยังรู้สึกว่านางมีแรงมาก"ข้าเป็นลูกมือให้ท่านได้จริงๆ นะ ที่นี่ไม่ใช่ว่าขาดกำลังคนอย่างหนักอยู่หรือ?"หยวนอี้ยังอยากจะเสนอตัวเองอยู่"ข้าทำนาได้ปลูกต้นไม้ได้ แล้วก็มีพละกำลัง แต่ไม่ใช่แบบพวกคนไร้ความสามารถนะ พวกงานที่ต้องใช้แรงให้ข้าจัดการได้เลย ในเมื่อที่นี่ขาดคน เช่นนั้นมีคนตัวใหญ่อย่างข้าที่นี่ ไม่ใช้ก็น่าเสียดายนะจริงไหม?""ไม่กล้ารบกวนท่านทูตจากแคว้นหมิ่นหรอก" ฟู่จาวหนิงพูดจบก็หมุนตัวเข้าเรือนไปไป๋หู่ขวางหยวนอี้ไว้ เขาเองก็เข้าไปไม่ได้ ทำได้แค่มองแผ่นหลังของฟู่จาวหนิงอย่างเสียดาย ถอนหายใจออกมา"คุณชายหยวนถ้าหากพุ่งเป้ามาหาจาวหนิงจริง เช่นนั้นก็ล้มเลิกความคิดเสียเถอะ" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้น"คุณชายฟู่ เรื่องนี้ก็น่าจะพูดกับท่านได้กระมัง? อันที่จริงสำหรับพระชายาอ๋องเจวี้ยนแล้ว ก็อาจจะเป็นเรื่องดีด้วยก็ได้""เป็นเจตนาของแคว้นหมิ่น หรือว่าของตัวท่านเองกันล่ะ?""ตอนแรกก็เป็นของตัวข้าเอง แต่ข้าก็กล่อมจักรพรรดิแคว้นของพวกเราไปแล้ว เขาเองก็ฟังเสียงของข้าอ
"ขอบคุณที่ชม"ฟู่จาวหนิงถามกลับอย่างมั่นคง ไม่ได้มีอารมณ์รู้สึกรู้สาอะไรกับคำชมประโยคนี้ของเขาเลย กระทั่งไม่มีอาการตกตะลึงอีกด้วยนี่ทำให้หยวนอี้รู้สึกเกินคาดขึ้นมาเขายังคิดว่าจะทำให้อารมณ์ของฟู่จาวหนิงเปลี่ยนแปลงได้บ้างภายใต้สถานการณ์ที่ตกตะลึงนี้ คิดว่านางจะพูดอะไรออกมาสักประโยคหนึ่งแล้วทำให้เขาเข้าใจความคิดของนางได้อย่างชัดเจนคิดไม่ถึงว่าเขาที่ทำตัวประหลาดออกมา แต่นางกลับนิ่งแบบนี้"ดูท่าหมอฟู่จะได้ยินคำชมมาจนชินแล้วสินะ" หยวนอี้เอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ได้ตอบประโยคนี้ของเขา แต่กลับพิจารณาเขาทั้งตัวหยวนอี้ถูกนางมองจนยืดอกขึ้นด้วยสัญชาตญาณ ยืนตรงแน่วขึ้นมา"ท่านชื่อหยวนอี้ใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงถาม"ขอรับ""ลูกชายหยวนกังทูตแคว้นหมิ่น หยวนอี้ที่ตอนนี้ควรจะคอยสอนขุนนางเกษตรเพาะปลุกอยู่ในเมืองหลวงนั่นน่ะนะ?" ฟู่จาวหนิงพูดออกมาอย่างชัดถ้อยทุกคำหยวนอี้นิ้งค้างไปไม่ใช่สิ นางรู้จักเขาด้วยหรือ?เขาเองก็เลี่ยงพวกหมอหลวงที่รู้จักเขาแล้ว แทบจะพูดได้ว่าซ่อนตัวทั้งคืนเลยทีเดียว ตอนที่เข้ามาก็หลบเลี่ยงคนจากเมืองหลวงที่รู้จักเขาพวกนั้น เตรียมคำพูดเอาไว้เยอะมาก คิดว่าจะพูดอะไรกับฟู่จ
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ