"เฮ้อ"ผู้เฒ่าฟู่เห็นสภาพนาง ในใจก็เข้าใจขึ้นมา"เจ้าพูดมาตามตรง ถ้าเจ้าชอบอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา ปู่ก็จะไม่รู้สึกว่าแปลกประหลาด"อันที่จริง ผู้ชายอย่างอ๋องเจวี้ยน ก็คงจะมีหญิงสาวไม่น้อยเข้ามาชอบพอ หน้าตาเองก็หล่อเหลาเหลือเกิน มองแค่ครึ่งหน้า มองแค่รูปร่าง ยืนอยู่ที่ไหนก็ดูราวไผ่หยกกลางกระแสลม สง่ามีราศีพอได้ยินเสียง ก็เหมือนกับเสียงพิณเสนาะหูแล่นผ่าน ราวกับสายลมแผ่วลูบผ่านใบหูแล้วยังตัวตนฐานะอีก อ๋องเจวี้ยนแคว้นเจา ในมือมีองครักษ์เงามังกร แล้วยังมีตราประทับแคว้นเจาอีก ยังไม่ต้องพูดเรื่องอื่น ถ้าหากมีแคว้นอื่นส่งหนังสือแคว้นเข้ามา จะเชื่อมสัมพันธ์ทั้งสองแคว้นก็ดี หรือว่าจะเปิดการค้าระหว่างสองแคว้นก็ตาม กระทั่งการตัดแบ่งเมืองเพื่อชดเชยอะไรเทือกนั้น ก็ยังต้องให้อ๋องเจวี้ยนส่งตราประทับออกมาใช้เลยสำหรับแคว้นต่างๆ นี่ถือเป็นครั้งแรก ยังไม่เคยได้ยินที่ไหนเป็นเช่นนี้เพราะการพูดเช่นนี้องค์จักรพรรดิที่นั่งอยู่บนบัลลังก์จะไม่กระอักเลือดเลยหรือ? น่าอดสูเสียจริงแล้วถ้าพูดขึ้นมา อ๋องเจวี้ยนเองก็แทบจะมีตัวตนฐานะเทียบเท่ากับผู้สำเร็จราชการแทนแล้วเป็นเช่นนี้ ไท่ซ่างหวงก็ยังทิ้งสิ่งยืนยันอะไร
ผุ้เฒ่าฟู่เองก็คอยข่าวคราวสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินอยู่ตลอด"ท่านปู่ ตอนนี้พกวเราตรวจสอบเรื่องครั้งนั้นมาได้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังต้องตรวจสอบต่ออีก"ฟู่จาวหนิงคิดคิดแล้วจึงรู้สึกว่าควรปลอบใจผู้เฒ่าฟู่เสียหน่อย "พิษในอดีตตอนนั้น เป็นสิ่งที่กลุ่มสำนักที่ชื่อว่าลัทธิเทพทำลายล้างวางลงมา หรือก็คือกลุ่มสำนักที่วางยาพิษใส่จงเจี้ยนนั่นเอง ตอนนี้พวกเราต้องตรวจสอบจุดนี้ ว่าพ่อแม่ของข้าในอดีตได้ไปเข้าร่วมกลุ่มสำนักนี้หรือไม่"ผู้เฒ่าฟู่พอได้ยินคำพูดนางก็ตื่นเต้นขึ้นมา"จริงหรือ? เช่นั้นถ้าหากตรวจมาได้ว่าพวกเขาไม่ได้เข้าร่วมลัทธิเทพทำลายล้าง ก็อธิบายได้ว่าเรื่องนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาใช่ไหม?""โดยพื้นฐานคือใช่"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า "ดังนั้นท่านปู่เองก็ต้องคิดอย่างละเอียดด้วย ตอนนั้นพวกเขามีเจอกับคนแปลกๆ บ้างไหม พูดอะไรมาบ้าง อย่างเช่นในบ้านจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากนี้จะมีอนาคตแบบนั้นแบบนี้""คำพูดเหล่านี้พ่อแม่เจ้าไม่เคยพูดเลย"ผู้เฒ่าฟู่ยืนยันจุดนี้ออกมาทันทีเขาถอนหายใจ มองฟู่จาวหนิง "ที่เจ้าถามเรื่องนี้ นั่นเพราะเจ้าไม่เคยเจอพ่อแม่ของเจ้า แล้วหลายปีนี้ข้าเองก็ไม่ค่อยเอ่ยถึงพวกเขากั
ผู้เฒ่าฟู่เองก็ดูลังเลเอามากๆ ใจเขาก็ห่วงฟู่จาวหนิง ครั้งนี้เพิ่งจะกลับมาสองวันเอง ยังไม่ได้พักผ่อนให้ดีดีเลยไปต้าชื่อ ต้องไปช่วยชีวิตคนป่วย นั่นก็เป็นเรื่องเร่งด่วนเอามากๆ จะพักผ่อนก็ไม่ได้อีก?"ร่างกายของเจ้าจะไหวไหม?""ข้าไม่เป็นไร แต่ท่านปู่ทางนี้""ข้าไปรอเจ้าที่บ้านได้ ไม่เป็นไร" ผู้เฒ่าฟู่แม้จะกังวลนาง ไม่อยากให้นางไปไหนไกล แต่เห็นท่าทีของนางแล้วเหมือนตัดสินใจเรียบร้อยว่าจะไปต้าชื่อ จะว่าไปนั่นก็เป็นยายของนางด้วย ไม่ไปก็คงจะไม่ได้"แต่ก็ไม่รู้ว่าเจ้าจะเร่งออกไปเช่นนี้" เจาจะไปทันไหมฟู่จาวหนิงเองก็อ่านจดหมายอีกรอบ"ท่านลุงบอกว่าเขาอยู่ทางนั้นหาหมอมีชื่อจากสมาคมหมอใหญ่ได้แล้ว จะคอยรักษาไท่ไท่อาวุโสไปก่อน ข้าจะจัดการเรื่องทางนี้ให้เสร็จแล้วค่อยออกเดินทาง"นางคิดว่าถ้ามีหมอก็ยังสามารถยื้อสถานการณ์ไท่ไท่อาวุโสเสิ่นให้มั่นคงได้ ถ้าหากอาการป่วยถึงจุดวิกฤตแล้วจริงๆ นางจะเร่งเดินทางไปอย่างไรก็คงไม่ทันการเส้นทางจากแคว้นเจาไปต้าชื่อเองก็ไกลแสนไกล ไม่ใช่ว่าวันสองวันจะไปถึง"ได้ ข้าทางนี้ก็รู้จักหมออยู่หลายคน คิดแล้วน่าจะพอทำให้อาการของไท่ไท่อาวุโสคงที่ได้อยู่ เพียงแต่ไม่แน่ว่าจ
อันชิงเชื่อมั่นในตัวฟู่จาวหนิง ไม่ใช่แค่เชื่อมั่นในการเป็นคนของนาง แต่ยังเชื่อมั่นในวิชาแพทย์นาง และยังเชื่อในสายตาของนางด้วยดังนั้นเรื่องนี้นางจึงนึกไว้หลายวันแล้ว ฟู่จาวหนิงก็กลับมาเมืองหลวงพอดี นางดีใจมาก ทันเวลาพอดี ไม่เช่นนั้นนางก็คงอยากจะจะประวิงเวลาการพบหน้ากับคุณชายติงคนนี้ต่อไปเป็นแน่"ตอนไหนล่ะ?""พรุ่งนี้ตอนเที่ยง พี่ชายบอกว่าคุณชายติงจะไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารชิงเว่ย ถึงตอนนั้นให้ข้าเองก็ไปด้วย ที่นั่นมีห้องรับรองที่มีฉากบังลมกั้นเอาไว้ให้"อันเหนียนเองก็รักน้องสาวคนนี้มาก ไม่อยากให้นางต้องแต่งงานโดยไม่รู้อะไรของอีกฝ่ายเลย อยากให้นางไปเห็นด้วยตนเอง ชอบไม่ชอบแล้วค่อยว่ากันฟู่จาวหนิงมองนางแล้วยิ้มขึ้น "สกุลติงหรือ?""ใช่ ฐานะบ้านของเขาก็ถือว่าดีอยู่ แต่ในบ้านไม่มีคนเป็นข้าราชการ เปิดร้านอยู่หลาย ร้านที่ใหญ่ที่สุดเป็นร้านหนังสือ พี่ชายบอกว่าคุณชายติงเขียนหนังสือละครแล้ววางขาย ได้รับความนิยมในหมู่ปัญญาชนในเมืองหลวงด้วย""พี่ชายบอกว่า พวกเราจะไม่ร้องขอให้อีกฝ่ายต้องเป็นข้าราชการ ยังต้องดูที่บุคลิกประจำตัวเขาอีก"คำพูดเหล่านี้อันชิงไม่ได้พูดกับใครเลย พอเจอฟู่จาวหนิงก
ฟู่จาวหนิงหยิบขนมที่ซื้อมาจากเมืองชิงเหยาส่งให้กับนางหลังจากอันชิงออกไป นางเดิมทียังคิดว่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับเซียวหลันยวนเสียหน่อย แต่ก็ไม่มีความคิดนั้นแล้ว จึงกลับไปยังเรือนเจียนเจีย เข้าไปสกัดยาต่อในห้องเภสัชเซียวหลันยวนหลังจากกลับมาก็นอนถึงสองวันเต็มร่างกายของเขาไม่ไหวแล้วจริงๆ ตลอดทางแม้จะมียาของฟู่จาวหนิงอยู่ แต่พอกลับถึงจวนอ๋อง ฉับพลันก็สัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้าในส่วนลึกรู้ว่าในวังถัดจากนี้จะต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เขาก็เลยนอนไถึงสองวันเต็ม พักผ่อนให้ดี สะสมพลังจนเต็มเปี่ยมเพียงแต่พอได้ยินรายงานจากชิงอี บอกว่าอันชิงตอนบ่ายมาหาฟู่จาวหนิง แล้วยังนำจดหมายที่อันเหนียนเขียนมาให้ด้วย เซียวหลันยวนจึงนอนต่อไม่ได้แล้ว"อันเหนียนเขียนจดหมายให้ข้าไหม"ชิงอีส่ายหัว "ไม่มีขอรับ ผู้ตรวจการอันเพียงแค่ให้นางมาส่ง บอกเรื่องที่เขาได้รับคำสั่งให้ติดตามหวางต้าหลางไปต้อนรับองค์หญิงหนานฉือ"แค่ประโยคเดียว"เขาเขียนให้ข้าแค่ประโยคเดียว แต่กลับเขียนจดหมายให้ฟู่จาวหนิงอีกหรือ?"เซียวหลันยวนหน้าดำทมึน"ท่านอ๋อง ไม่เช่นนั้นลองไปถามพระชายาดู ว่าผู้ตรวจการอันเขียนอะไรมาให้ดีไหม?" ชิง
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนอ๋อง จะต้องปิดบังเซียวหลันยวนไว้ไมไ่ด้นางเดิมทีก็คิดจะบอกเรื่องนี้กับเขา"ถูกต้อง"นางยื่นจดหมายส่งให้เขาดูส่วนชีพจรเขา ก็ดูอ่อนแอลงไปพอควร เลือดลมย่ำแย่ทั้งคู่ แต่ร่างกายของเขาก็ไม่ดีมาตลอดอยู่แล้ว ถึงอย่างไรก็ไม่ถือว่าเลวร้ายลงเซียวหลันยวนรับจดหมายไปมองผาดหนึ่ง "เจ้าจะไปต้าชื่อหรือ?""ใช่ ควรจะไปเสียรอบหนึ่ง"เซียวหลันยวนขมวดคิ้ว"ตอนไหนล่ะ?""อีกสองสามวันกระมัง จัดการแก้พิษให้ท่านก่อน อย่างน้อยต้องรอให้ท่านอาบน้ำยาสักสองสามวันก่อน ส่วนพิษที่เหลืออยู่ ต้องไปหาเอ็นมังกรหยกต่อ"เซียวหลันยวนได้ยินนางพูดเช่นนี้ ในใจก็หวานชื่นอย่างประหลาดในใจนางเขายังอยู่อันดับแรกอยู่ใช่ไหม? แม้กระทั่งออกไปก็ยังจะเพื่อไปหายาให้เขา"ข้าจะไปกับเจ้าด้วย""ไม่ได้" ฟู่จาวหนิงปฏิเสธขึ้นอย่างไม่คิด"เจ้าไปคนเดียวข้าไม่วางใจ"นี่ไปไกลถึงต้าชื่อเลยนะ มีเรื่องอะไรขึ้นมาจะตามไปไม่ทัน ยิ่งกว่านั้นห่างกันตั้งนานขนาดนี้ แค่คิด เซียวหลันยวนก็รู้สึกใจร้อนรนขึ้นเสียแล้ว"หลังจากท่านเริ่มอาบยาจะหยุดกลางคันไม่ได้ ทุกวันต้องอาบยาำนี้ แต่บ้านตระกูลเสิ่นทางนั้นต้องการให
ทำท่าเหมือนไม่เชื่อใจนางขึ้นมาอีกแล้ว?เซียวหลันยวนไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนเองจะมีช่วงที่สับสนเช่นนี้"ท่านเหนื่อยมากในเส้นทางนี้ แล้วก่อนหน้าก็ยังบาดเจ็บหนักอีก ส่งผลกระทบไปถึงรากฐาน คืนนี้เริ่มอาบน้ำยาเลยเถอะ ตอนค่ำก็กินน้อยหน่อย เอาแค่ครึ่งอิ่มก็พอ""ได้""ถ้านอนหลับได้ก็นอนให้มากหน่อย ไม่ใช่สิ่งที่ผิด""ได้"นางพูดอะไร เขาก็ขานรับว่าได้หมด ท่าท่าว่าง่ายเชื่อฟังจนทำเอาฟู่จาวหนิงโกรธต่อไม่ได้เลย"เช่นนั้น ท่านก็พักผ่อนอีกหน่อยเถอะ ข้าจะไปจัดการยาให้" นางยืนขึ้นมาเตรียมตัวจะออกไปเซียวหลันยวนเองก็ยังทนไม่ไหวอยู่ดี "แม่นางอันเองก็มาหาเจ้าหรือ?""โอ้ ใช่ นางมีเรื่องให้ข้าช่วย พรุ่งนี้ตอนกลางวันข้าต้องออกไปรอบหนึ่ง""แม่นางอันต้องการให้เจ้าช่วยหรือ?""ใช่แล้ว" จะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร?ฟู่จาวหนิงคิดออกแล้ว เขาน่าจะรู้เรื่องที่องค์หญิงหนานฉือมาที่แคว้นเจากระมัง? แต่ว่าเขาเองก็ยังไม่ได้เตรียมจะบอกนางกระมังเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ของเมืองหลวงแคว้นเจาเลย แต่เขาไม่คิดจะเอามาพูดดีดีกับนางหน่อยหรือ? รู้สึกว่านางไม่มีความจำเป็นต้องรู้เรื่องเหล่านี้หรือ?"อันเหนียนตอนนี้ออกจากเม
"ข้าแค่หมายถ้าสมมติว่า"ฟู่จาวหนิงเกือบถูกเสียงนั้นของเขาทำให้ไปต่อไม่ได้เสียแล้ว"เรื่องที่ไม่มีวี่แววแบบนี้จะสมมติมาทำไมกัน?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขาฟู่จาวหนิงชะงักจะว่าไปก็จริงถ้ายังไล่ตามต่อไปก็จะหมายถึงนางปล่อยวางไม่ลงเรื่องราวยังไม่ได้เกิดขึ้นเลยนะ"องค์จักรพรรดิตอนนี้ยังไม่ได้เรียกท่านเข้าวัง เขาจะต้องรู้เรื่องที่องครักษ์ลับเหล่านั้นหลับไปสองวันที่หาดริมน้ำแล้ว ถ้าในใจท่านคิดไว้แล้วก็ดี ข้าจะไปเตรียมยาก่อนนะ"ฟู่จาวหนิงเตรียมจะเดินออกไปอีก"แม่นางอัน" ส่งจดหมายอะไรของพี่ชายมาให้หรือ?"อะไรหรือ?""ไม่มีอะไร พรุ่งนี้เจ้าไปก็พาคนไปด้วยล่ะ""ได้"พอเห็นฟู่จาวหนิงออกไป ประตูก็ถูกปิดลง เซียวหลันยวนถอนหายใจฮู่ รู้สึกว่าในใจเปรี้ยวฝาดชิงอีเดินเข้ามาแล้วเขาเพิ่งจะได้ยินบทสนทนาของท่านอ๋องกับพระชายา ตอนนี้พอเห็นท่าทางท่านอ๋องดูกลัดกลุ้ม ก็อดถามขึ้นไม่ได้ "ท่านอ๋อง ท่านไม่ใช่อยากถามพระชายาหรือ บนจดหมายของผู้ตรวจการอันเขียนอะไรไว้?"แล้วทำไมไม่ถามออกไปตรงๆ ล่ะ? ทำเอาเขาร้อนรนจะแย่แล้วเซียวหลันยวนเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "เจ้าจะไปรู้อะไร?"เขาไม่รู้หรอก ท่านอ๋องไม่ใช่ว่ากำ