Share

บทที่ 250

Author: จุ้ยหลิงซู
พวกของลู่ทงเพื่อจะกินฝีมือของฟู่จาวหนิงก็เอาเป็นเอาตายกันหมด

น้ำในละธารสาดกระเซ็นวุ่นวายอยู่พักหนึ่ง พวกเขาทางนั้นใช้สิบแปดศิลปะการต่อสู้มาจับปลา มีคนใช้ชุดคลุมเป็นถุงน้ำ มีคนใช้กระบี่แทง มีคนใช้หินล้อม มีคนใช้สองมือจับ และยังมีคนถักแหจับปลาเลยด้วย

"พระชายา ข้าน้อยก็ลงไปจับปลาด้วยไหม? อีกเดี๋ยวท่านจะได้ย่างปลาให้ท่านอ๋องกิน?" ชิงอีกดเสียงต่อเอ่ยกับฟู่จาวหนิง

พวกของลู่ทงทางนั้นก็ยิ่งส่งเสียงโหวกเหวก สีหน้าของท่านอ๋องก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ

อย่าถามเขา ว่าท่านอ๋องใส่หน้ากากครึ่งหน้าอยู่แล้วรู้ได้อย่างไรว่าสีหน้าเขาไม่ดี ถึงอย่างไร ตอนที่อารมณ์ท่านอ๋องไม่ดี มุมปากก็จะเม้ม กรามขบแน่น มองออกได้อยู่

ชิงอี คิดถึงกระต่ายย่างก่อนหน้านี้ของตนเอง ก็รู้สึกใจโหวงขึ้นมาหน่อยๆ

ฝีมือย่างเนื้อของพระชายาดีกว่าเขามากเลยจริงหรือ?

ท่านอ๋องหลังจากเข้ามาในป่าเขาก็ไม่ค่อยได้กินอะไรที่ดีดี กว่าที่จะได้กินอิ่มสักครั้งก็คือท่านอ๋องลงมือเอง

"ไปจับเถอะ" ฟู่จาวหนิงมองไปทางเซียวหลันยวน กวักมือ "ท่านมาที่นี่ ข้าจะฝังเข็มให้"

สภาพเขาเช่นนี้ ดูท่าจะไม่รักชีวิตแล้วจริงๆ

ในตอนนี้พวกเขาก็อยู่ด้วยความสัมพันธ์แบบร่วมมือ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 251

    "เซียวหลันยวนท่านนี่มันสุนัขจริงๆ แค่กๆๆ"ฟู่จาวหนิงกลายเป็นหมอนรองรูปคนให้กับเซียวหลันยวนไปแล้ว เกือบหายใจหายคอไม่ทันยังดีจุดที่นางเลือกคือใต้ต้นไม้พอดี ด้านล่างมีใบไม้กองหนาที่ร่วงลงมาอยู่ ค่อนข้างอ่อนนุ่ม"ลุกไม่ไหว หายใจไม่ออก" เซียวหลันยวนพังพาบอยู่บนตัวนาง ไม่มีแรงจะอธิบายเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ อย่าคิดว่าเขาจะเอาเปรียบนางเชียวฟู่จาวหนิงยื่นมือออกไปคลำไปที่แผ่นหลังเขา ลูบไปที่จุดชีพจรของเขาตอนที่นิ้วมือนางกดไปที่แผ่นหลัง กลิ่นอายของเซียวหลันยวนเองก็เกร็งขึ้นมา ลมหายใจเองก็เร่งถี่ขึ้นแผ่นหลังเป็นตำแหน่งจุดมิ่งเหมินของเขา แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยให้คนอื่นมีโอกาสมาแตะแผ่นหลังของตนเอง แล้วที่ส่งแผ่นหลังออกไปได้ จะต้องเป็นคนเขาเชื่อใจแค่ไหนกัน?แต่ว่านิ้วของฟู่จาวหนิงตอนนี้กำลังลูบอยู่ที่จุดชีพจรกับข้อต่อกระดูกที่แผ่นหลังเขา"ผ่อนคลาย" ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเขาเกร็งไปทั้งตัว กล้ามเนื้อก็แข็งแราวกับก้อนหินอย่างไรอย่างนั้น นางกดลงไปบนจุดชีพจรเขาไม่ได้เลย "ถ้าข้าจะสังหารท่านต้องลงทุนขนาดนี้เลยหรือ? รีบๆ ผ่อนคลายได้แล้ว!"นางกัดฟันเอ่ยขึ้น จะกันนางไว้ขนาดนี้ก็พอเสียทีเถอะเซียวหลันย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 252

    ฟู่จาวหนิงมองเขาผาดหนึ่ง ไม่ได้ตอบคำถามของเขา เก็บเข็มลงไปอย่างสงบเซียวหลันยวนพอเห็นท่าทีของนางก็รู้ว่านางคงไม่ตอบคำถามของตนเองแล้วเขาถอนหายใจออกมาเบาๆ เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเขาดีขึ้นบ้างแล้ว ยิ่งไปวก่านั้นหัวใจเองก็กลับมาเป็นปกติ และนางก็ยังกดที่จุดชีพจรบนหลังเขา แล้วลงเข็มไปอีกหลายเข็มนางมีวิชาแพทย์เช่นนี้ ก่อนหน้านี้ไม่ควรถูกคนเอาไปลือกันแย่ๆ ขนาดนั้นสิแต่ว่าผู้เฒ่าฟู่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรตัวนาง บางทีต่อมานางอาจจะเจอกับดวงอะไรเข้า?"ยังไม่ลุกอีก?"ฟู่จาวหนิงเก็บของเสร็จจึงลุกขึ้นมา ปัดๆ เสื้อผ้าเซียวหลันยวนค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง จู่ๆ ก็รู้สึกปวดหัว จึงยื่นมือไปทางนาง "ลุกไม่ไหว เจ้าดึงข้าหน่อย"?ฟู่จาวหนิงถลึงตาโตมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อเซียวหลันยวนไม่ได้กำลังออดอ้อนนางใช่ไหม?ชายทั้งแท่งคนหนึ่ง! สูงกว่านางเกือบจะหนึ่งหัว แต่นี่กลับให้นางคอยดึงด้วยสภาพ "อ่อนแอไร้กำลัง" เนี่ยนะ?"ผัวะ"นางตบมือของเขาออก"อยากลุกก็ลุก ไม่อยากลุกก็นั่งอยู่อย่างนี้แหละ"นางหมนุตัวเดินออกไปจนพุ่มต้นไม้นางจะไปย่างปลาแล้ว ปล่อยเขาไปแล้วกันหลังจากเดินไปหลายก้าวก็เหมือนคิดอะไรออก หมุนตัวมองม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 253

    ไม่นานนัก กลิ่นหอมอหังการก็โถมเข้ามาในจมูก ล้อมจนกลุ่มคนรอบๆ ท้องร้องจ๊อกขึ้นมาชิงอีเองก็เกือบจะน้ำลายไหลแล้วปลาย่างตัวหนึ่งถูกส่งไปที่มือเซียวหลันยวนก่อนฟู่จาวหนิงบอกกับเขาว่า "ท่านกินรสอ่อนหน่อย แล้วก็ใส่วัตถุดิบยาเข้าไปหน่อยหนึ่งด้วย ลองดู ในนี้จะมีกลิ่นยาประหลาดๆ หน่อย รับรองได้ว่าท่านไม่เคยกินมาก่อน"เซียวหลันยวนรับไป เดิมทีคิดจะทำตัวให้สูงส่งเสียหน่อย รอสักครู่แล้วค่อยกัด แต่ผลลัพธ์คือพอรับมาและได้ดมกลิ่นหอมนั่น เขาก็กัดลงไปอย่างทนไม่ไหวคำหนึ่งเนื้อปลาที่สดนุ่มและยังกักเก็บน้ำไว้ระเบิดความสดหวานกับกลิ่นหอมออกมาในปากทันทีในนี้ยังมีกลิ่นยาที่พิเศษมากอยู่ด้วย แค่กลิ่นยานี้ก็ยั่วน้ำลายมากแล้วเขาไม่เคยกินปลาย่างที่อร่อยเช่นนี้มาก่อนเลย!เซียวหลันยวนไม่สนคำพูดของฟู่จาวหนิงแล้ว กัดลงไปอีกคำทันทีชิงอีพอเห็นเขากินอย่างเอร็ดอร่อย ก็รอจนคอยืดยาวกว่าจะวนมาถึงเขาที่พวกเขาได้กินไม่เหมือนกับของเซียวหลันยวน นั่นเป็นรสชาติที่เผ็ดชาหน่อย หนังปลาไหม้เกรียมเล็กน้อย เนื้อปลาหวานนุ่มลื่นชิงอีสวาปามอย่างกับหมาป่าอย่างกับพยัคฆ์"ท่านอ๋อง ฝีมือย่างปลาของพระชายา จะไป๋ซวงอีกสักกี่คนก็เ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 254

    "มีคนตามมาแล้ว"ฟู่จาวหนิงหน้าเปลี่ยนสี"เจ้ากับมันไปก่อนเถอะ" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น "พวกเราจะดึงคนออกไปเอง""ได้เลย"ตอนนี้ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่สนที่จะคุยกับเขาแล้ว ตบลงที่ตัวราชันกวาง "พวกเรารีบไปเถอะ"ราชันกวางพานางเดินตรงไปยังป่าลึกเซียวหลันยวนมองนางจากไป และอดส่งสื่อเสียงให้นางไม่ได้ "เจ้าไปคนเดียวจะกลัวไหม?"ให้นางตามกวางตัวหนึ่งเข้าไปในป่าทึบ จะมีอันตรายไหม?"ไม่กลัว! อย่าพูดไร้สาระเลย รีบไปขวางคนไว้!"เสียงฟู่จาวหนิงส่งออกมาเขาพูดไร้สาระหรือ?เซียวหลันยวนกัดกัดฟันไม่ได้รู้จิตใจคนเอาเสียเลย หรือว่าเขาไม่กังวลต่อตัวนางเลยหรือ? เดิมทียังคิดจะบอกว่าให้เขาเดินไปกับนาง แต่พอได้ยินนางพูดแบบนี้ก็โยนความคิดทิ้งไปพอคิดถึงนางก่อนหน้าที่ซัดงูพิษตายด้วยเข็มเดียว เขาก็รู้สึกว่านางน่าจะไม่มีปัญหาพวกของลู่ทงเองก็ยืนขึ้นมาแล้วเพียงไม่นาน ในป่าด้านหน้าก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาคนที่นำคือโหวอาวุโสน้อยอี้ข้างกายเขายังมีเหล่าเพื่อนสุนัขกลุ่มนั้นด้วย แล้วยังพาองครักษ์มาอีกไม่น้อยเลย บนตัวทุกคนล้วนดูซมซานนิดๆ ดูท่าน่าจะไล่ตามอยู่ในป่ามาครึ่งค่อนวันพอเห็นคนทางนี้ อีกฝ่ายก็ตะลึงงั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 255

    "นั่นน่ะสิ!" ลู่ทงมองไปรอบๆ เหมือนกำลังกดเสียงต่ำเพื่อคุยกับเจิ้งหยาง อันที่จริงเขาเป็นคนเสียงดัง คำพูดที่พูดมาก็ยังทำให้โหวอาวุโสน้อยอี้ได้ยินอยู่ดี"มีราชันกวางจริงๆ! แล้วยังบาดเจ็บอีกด้วย พวกเราอย่ามามัวจับปลาย่างปลาเลย รีบออกหาดีกว่า! ถึงอย่างไรพวกเรานั่งกินปลาอยู่ตั้งครึ่งค่อนวันก็ยังไม่เห็น จะต้องอยู่ที่อื่นแน่ รีบไปเถอะ เหลือพวกนี้ทิ้งไว้ให้พวกเขาแล้วกัน"โหวอาวุโสน้อยอี้พอได้ยินคำพูดเขา ก็มองๆ รอบตัวพวกเขามีกองไฟกับก้างปลาอยู่กองหนึ่งจริงๆข้างลำธารมีรอยเลือดกับเกล็ดปลาบางส่วนที่พวกเขาจัดการปลาเอาไว้ดูแล้วพวกเขาเพิ่งจะจับปลายางปลากินกันจริงๆ แล้วยังอยู่ที่นี่นานพอควรอีกด้วยถ้าราชันกวางผ่านที่นี่ไปจริง แล้วยังบาดเจ็บอีกด้วย พวกเขาจะปล่อยมันหนีไปได้หรือ? จะต้องจัดการล่ามันไปนานแล้วแน่นอน!แต่ว่ารอบตัวพวกเขาไม่มีสัตว์ที่ล่าไว้สักตัว ไม่ต้องพูดถึงราชันกวางเลยถ้าเห็นเหยื่อชั้นดีขนาดนั้น คนเหล่านี้จะปล่อยไปได้อย่างไร?เซียวหลันยวนยืนขึ้นมา ส่งสายตาให้กับชิงอี จู่ๆ ร่างก็แฉลบออกไป ข้ามลำธารตรงไปยังทางตรงข้ามกับป่าชิงอีเอ่ยกับพวกลู่ทงอย่างรวดเร็ว "ไป!"เขาเองก็รีบตามอ๋อ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 256

    มากขนาดนี้เชียว!ทั้งหมดล้วนเป็นเบญจมาศหรือว่าราชันกวางตัวนี้คิดจะพานางมาดูดอกไม้ผืนนี้?"น้องกวาง! เจ้าเยี่ยมจริงๆ!"ฟู่จาวหนิงกอดราชันกวาง กระโดดโลดเต้นขึ้นมาอย่างดีใจวัตถุดิบยานี้ นางจะบอกว่าล้ำค่ามากก็ไม่ถึงขนาดนั้น เพราะว่ามันไม่ใช่วัตถุดิบยาที่สร้างกล้ามเนื้อเอ็นกระดูก หรือทำให้คนตายฟื้นกลับมาได้แต่วัตถุดิบยานี้ต่างหากที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด จะป่วยน้อยเจ็บน้อยก็ล้วนต้องการมันอย่างอาการที่ธาตุไฟมากเกินไป อาการลมร้อนต่างๆ ปวดหัวปวดฟัน เจ็บคอเจ็บตา หูอื้อท้องผูก อาการเจ็บป่วยเล็กๆ ต่างๆ ล้วนสามารถใช้ได้ยาเบญจมาศชนิดนี้ประสิทธิภาพยังมากกว่าพวกเบญจมาศครรภ์เบญจมาศแขวนเบญจมาศหลวงเบญจมาศป่าดอกเงินทองอะไรพวกนั้นเสียอีกฟู่จาวหนิงเด็ดดอกหนึ่งออกมาลองดม กระทั่งยังพบว่ากลิ่นของมันยังดีมากด้วย ในกลิ่นหอมมีกลิ่นหวานอ่อนๆหรือก็คือตัวยานี้ถึงตอนนั้นถ้าสกัดเป็นยาเด็ก เด็กๆ ก็จะพอกินได้ดังนั้นถ้าคำนวณขึ้นมาจริงๆ ดอกไม้ผืนนี้ มีมูลค่ามหาศาลมากแน่นอน ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ใช่มองแค่มูลค่าของมัน แต่หลังจากนี้ถ้าต้องการวัตถุดิบนี้ นางเองก็ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว!นี่เป็นข้อมูลที่มีอยู่ใ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 257

    จู่ๆ นางก็รู้สึกว่า ถ้าคอมพิวเตอร์ยังสามารถเชื่อมไปยุคปัจจุบันได้ เช่นนั้นนางถ้าบันทึกข้อมูลเพิ่มเข้าไป ยุคปัจจุบันจะมีการอัพเดทไหม? จะมีคนอีกมากที่ได้เห็นวัตถุดิบยานี้ไหม?ในคลังข้อมูลยังมีวัตถุดิบยาที่ขาดแคลนรูปภาพอยู่ อย่างยาเบญจมาศนี้ ด้านในไม่มีรูปที่เกี่ยวกับยาเบญจมาศเลยถ้าหลังจากนางบันทึกเพิ่มเติมทั้งหมดเข้าไป ไม่แน่ว่าหลังจากนี้อาจจะมีคนสามารถหายาเบญจมาศพบก็ได้คิดถึงจุดนี้ฟู่จาวหนิงก็ตื่นเต้นขึ้นมาว่าแล้วก็รีบบันทึกภาพยาเบญจมาศเข้ไาปในคอมพิวเตอร์ทันที ขณะเดียวกันก็ยังถ่ายภาพของหญ้าเสินหนงที่ชัดเจนกว่าอีกหลายใบใส่เข้าไปด้วยการอัพเดทคลังข้อมูลวัตถุดิบยา นางเหมือนทำเรื่องเรื่องหนึ่งสำเร็จไปได้ด้วยดีแล้วก็วัตถุดิบยาเหล่านั้นในพิธีเดิมพันโอสถก่อนหน้า กลับไปถ้ามีเวลานางจะจัดการบันทึกเข้าไปทีละชนิดๆเลยออกมาจากห้องเภสัช ฟู่จาวหนิงเด็ดดอกไม้ต่อ จากนั้นก็ขุดหญ้าเสินหนงออกมาไม่น้อยในพื้นที่ยาเบญจมาศผืนนี้อาจจะเหมาะกับการเติบโตของหญ็าเสินหนง ขุดมาได้มากพอควรเลยจริงๆหลังจากเด็ดดอกไม้มาไม่น้อย นางยังเก็บหนังงูที่สมบูรณ์ออกมาจากในกองหญ้าได้อีกสองผืน สิ่งนี้ก็เอาไปทำยาได้ นางไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 258

    ไม่รอฟู่จาวหนิงได้ทันวิเคราะห์ แสงไฟทางนั้นก็สว่างขึ้นมา คบไฟหลายคบก็ชูขึ้น ส่องสว่างคนทั้งหมดและส่องสะท้อนจนนางหลบไปไหนไม่ได้ด้วยอีกฝ่ายล้วนสวมชุดคล่องตัว พกกระบี่ยาวคนทีนำมาเป็นชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองยี่สิบสาม หน้าตาไม่เลว เพียงแต่สายตาที่พิจารณาตัวฟู่จาวหนิงทำให้นางรู้สึกไม่ค่อยดีนักและข้างกายพวกเขายังมีหญิงสาวอีกสองคน พวกนางสวมชุดผู้ชาย รวมผมสูง เพียงแต่หน้าอกนั่นกับเอวนั้นบอกคนอื่นว่าพวกนางเป็นหญิงสาวที่ร่างสะโอดสะองรอบด้านมีม้าหลายตัว บนม้าแบกเหยื่อล่าเอาไว้มากมายฟู่จาวหนิงยังเห็นเลียงผาอีกสองตัว และยังมีไก่ป่าที่มีขนยาวอีกตัว นอกจากนี้ยังมีกระต่ายป่าอีกหลายตัว"มานี่"ชายหนุ่มคนนั้นกระดิกนิ้วหาฟู่จาวหนิงราวกับกระดิกนิ้วเรียกสุนัขอย่างไรอย่างนั้นระหว่างฟู่จาวหนิงกับพวกเขายังมีพุ่มหนามพุ่มเล็กอยู่ น่าจะเพราะสาเหตุนี้ พวกเขาจึงยังไม่เข้ามาฟุ่จาวหนิงมองเห็นว่ามีคนง้างธนูมาทางนาง และรู้ว่านางยังหนีไม่ได้ชั่วคราว"พวกเจ้าเป็นโจรภูเขาที่สังหารคนแล้วชิงของมาหรือ?"นางจงใจถามขึ้นคำหนึ่งคนเหล่านั้นตกตะลึงไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็มีคนหัวเราะร่าขึ้นมามีคนกลับโกรธขึ้

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1884

    และมีเหล่าขุนนางใหญ่แอบคุยกันถึงเรื่องนี้องค์จักรพรรดิโมโหจนล้มป่วยส่วนเหล่าทูตจากแคว้นหมิ่นก็ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง หลังจากหยวนอี้กลับมา ก็บอกกับภายนอกว่าไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อม แล้วจึงอยู่แต่ในวังราชนิเวศน์ไม่ออกไปพบใครตอนนี้ยังออกไปลำบากแต่ความเป็นจริงคือเนื่องจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบาดเจ็บ จำเป็นต้องหลบเพื่อพักฟื้นก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็แต่งตัวเป็นสาวใช้วังซ่อนอยู่ในวังราชนิเวศน์ระหว่างทางจากเมืองเจ้อกลับเมืองหลวง นางเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เฉินเซียวตายไปแล้ว องครักษ์ของนางก็ตาย เหลือแค่นางคนเดียว ตอนนี้จึงจำใจต้องพึ่งพาหยวนอี้ไปก่อนไม่ใช่แค่หยวนอี้ที่บาดเจ็บ นางเองก็บาดเจ็บด้วยก่อนหน้านี้ป่วยไปรอบหนึ่ง บวกกับการบาดเจ็บครั้งนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผอมลงไปมากเมืองเจ้อเองก็สงบไปอีกหลายวันครึ่งเดือนต่อมา ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ควบคุมโรคระบาดเอาไว้ได้ทั้งหมด เมืองเจ้อยกเลิกการปิดเมืองคนทั้งเมืองล้วนดีใจกันอย่างบ้าคลั่งวันที่ฟู่จาวหนิงจะออกจากเมืองเจ้อ ประชาชนทั้งเมืองก็มาล้อมส่งที่ถนนอยู่ในเมืองเจ้อนานขนาดนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกผูกพันกับเมืองเจ้อขึ้นมาแล้ว แต่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1883

    โจวติ้งเจินถูกผลักออกไปจากเมืองเจ้อมาได้ครึ่งทางเขาก็ได้สติขึ้นมา พอรู้ว่าตนเองต้องถอนกำลังแบบนี้ ก็โมโหจนแทบจะเป็นลมไปอีกรอบแต่เขาก็ถ่ายหนักจนตัวโยน ตอนนี้แค่แรงจะด่าก็ยังไม่มีเพราะในป่าในเขา เขากระทั่งไม่มีกระดาษแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ใบไม้กับกิ่งไม้มาจัดการ ตอนนี้รูทวารเองก็เต็มไปด้วยแผล ขยับทีก็เจ็บเหลือแสน"กลับ กลับไป..."รองขุนพลเห็นสภาพแบบนี้ของเขา ก็เอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจว่า "ท่านขุนพล ครั้งนี้พวกเราช่างมันเถอะ อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนร่วมมือกัน วิธีการก็ชั้นต่ำมาก ไม่รู้ว่ายาพวกนั้นของพวกเขาจัดการมาอย่างไร ถ้าพวกเรายังไปอีก ไม่รู้ว่าต้องติดยากันอีกกี่รอบนะ"ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทางนั้นก็ไม่มีอะไรกินกันแล้ว เดิมทีคิดว่าวันสองวันก็น่าจะจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ใครจะคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะไร้เหตุผล ถึงกับใช้วิธีการแบบนี้แล้ววรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนก็ห่างชั้นกับพวกเขา ตราบใดที่ไม่ต้องปะทะกับท่านขุนพล เขาก็แฝงเข้ามาในกลุ่มพวกเขาได้ ถ้าหากเข้ามาก็ไม่มีใครขวางอยู่หรอกพวกเขาถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ ยังไม่รู้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร ต่อให้ไม่ตายชีวิตก็น่าจะหายไปซักครึ่งอยู่"ท่านขุน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1882

    โจวติ้งเจินไม่อยากจะออกไปไกลหน่อยเสียที่ไหน?แต่เขาทำไม่ไหวน่ะสิ!ท้องเสียครั้งนี้ ลากยาวไปถึงสามวัน!คืนวันที่สอง พวกทหารที่เรี่ยวแรงหายไปก็ฟื้นกลับมาพอควรแล้ว โจวติ้งเจินกลับล้มลงไปแทนเขาถ่ายออกมาจนทั้งเนื้อตัวซีดไปหมด ไม่มีแรงจะพูดจาเลยทีเดียวตอนที่เขาเตรียมจะรองขุนพลเตรียมเข้าไปตีเมือง รองขุนพลก็เริ่มท้องเสียบ้างแล้ววันที่สาม เขาออกคำสั่งอย่างอ่อนแรงให้ทหารเข้าไปโจมตีเมือง ให้รองขุนพลน้อยหลายคนนำทหารออกไป เหล่าทหารก็ไม่มีแรงกันขึ้นมาอีก!ทหารกว่าครึ่งล้มลงไปนอนระเนระนาดอีกครั้ง ลุกกันไม่ขึ้นแผนการโจมตีเมืองถูกบีบให้หยุดชะงักอีกครั้งโจวติ้งเจินโมโหจนเกือบจะเส้นเลือดในสมองแตกเขาตอนนี้ยังมองไม่ออกที่ไหนว่าเป็นฝีมือเซียวหลันยวน?แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าอีกฝ่ายวางยามาได้อย่างไร! ยาพวกนั้นทำไมถึงไม่มีสีมีกลิ่นเลย"ต้องเป็นฟู่จาวหนิงแน่ๆ ต้องเป็นยาที่นางทำขึ้นมา..."สุดท้ายโจวติ้งเจินคิดออกถึงจุดนี้ แต่ตอนนี้เขาก็ถ่ายออกมาจนตัวโหวง ลุกไม่ขึ้นที่นี่ไม่มีอะไรที่กินได้แล้ว ต่อให้ล่าสัตว์มา ตอนนี้เขาก็กลืนไม่ลงถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป โจวติ้งเจินรู้สึกว่าตัวเองต้องตายแน่รองขุนพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1881

    อันเหนียนรู้สึกว่า สามีภรรยาอย่างพวกเขาทั้งสองคนถ้าอยู่ด้วยกันนานอีกหน่อย อาจจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกก็ได้ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นคู่สวรรค์สร้าง ใครก็แทรกกลางเข้าไปไม่ได้เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เห็นอันเหนียนกำลังคุยอยู่กับฟู่จาวหนิงเขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงเดินเข้ามา ยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง แต่มองไปทางอันเหนียน"คุยอะไรกัน?"คุยกันสนุกเชียวนะ? เหมือนจะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอันเหนียนด้วยฟู่จาวหนิงเองก็สีหน้ามีชีวิตชีวาเหมือนกันเอาอีกแล้ว อันเหนียนก่นด่าในใจ เจอเข้ากับสายตาของเซียวหลันยวน "กำลังคุยกับพระชายา ว่าพวกท่านตอนนี้นิสัยคล้ายคลึงกันเรื่อยๆ แล้ว""อย่างนั้นหรือ? พวกเราเป็นสามีภรรยา จะคล้ายกันมันก็เรื่องปกตินี่" เซียวหลันยวนบีบแขนฟู่จาวหนิง"มือทำไมเย็นนักล่ะ?" ฟู่จาวหนิงโดนความเย็นของมือเขาดึงความสนใจไปทันที นางพลิกกลับมากุมมือเซียวหลันยวน มืออีกข้างก็ปลดหน้ากากของเขาลงมาพอปลดหน้ากากถึงจะเห็นสีหน้าของเขาดูแล้วยังดีอยู่"ฝนตกลงมาครู่หนึ่ง แล้วนอกเมืองก็อากาศเย็นมาก" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงนางมาไว้ในอ้อมกอด "หนิงหนิงให้ข้ากอดหน่อย เดี๋ยวก็อุ่นขึ้นแล้ว"แค่กๆอันเหนียน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1879

    แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1878

    เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1877

    มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1876

    ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status