เซียวหลันยวนได้ยินเสียงหัวเราะของฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าสิ่งที่นางอยากพูด ไม่น่าจะใช่เรื่องดี"อะไรหรือ?""สร้างจักรพรรดิหุ่นเชิดขึ้นมา จากนั้นท่านก็ไปเป็นผู้สำเร็จราชการแทน เช่นนี้ก็ไม่ต้องมีสนมวังหลังแล้ว แล้วก็ไม่ต้องถูกคนคอยกดดันด้วย"เซียวหลันยวนปิดปากของนางไว้"ข้าไม่เคยเห็นใครที่กล้าแบบเจ้ามาก่อนเลย กล้าพูดมันทุกอย่าง""อุ๊บๆ..." ก็ไม่ใช่ท่านให้ข้าพูดหรือไรกัน?เซียวหลันยวนเข้าใจความหมายของนาง"อืม ข้าคือคนที่แหกคอกบุ่มบ่ามเสิบสานแบบนั้นนั่นล่ะ ใครจะรู้ว่าเจ้ายังกล้ายิ่งกว่าข้าเสียอีกเขาคิดมาตลอดว่ามีแต่เขานี่ล่ะที่กล้าพูดจาเหลวไหลฟู่จาวหนิงหัวเราะคิกคักทั้งสองคนหยอกล้อกันอยู่ครู่หนึ่งเซียวหลันยวนจึงพูดอย่างเป็นทางการ "อันเหนียนบอกว่าเจ้าจะไปซื้อยาจากโรงยาทงฝูหรือ?""เรื่องนี้เขาก็บอกท่านด้วยหรือเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงดึงแขนเขา "ถ้าซื้อจากพันธมิตรโอสถได้ก็จะดีกว่า แต่ว่าร้านสาขาที่อยู่ใกล้ที่นี่ที่สุด ศิษย์พี่รองก็ขนวัตถุดิบยาเข้ามาหมดแล้ว ถ้าจะหาอีกก็ต้องไปหาสถานที่ที่ไกลออกไปหน่อย แต่โรงยาทงฝูของเมืองหลวงกับในเมืองเจ้อ พวกเรายังไม่ได้เข้าไปหาเลย"อาจารย์เคยบอกไว้ ผู
"ไม่รู้สิ รอเจ้าบอกมาแล้วกัน แต่ว่าไม่ว่าจะเท่าไร ถ้าเจ้าต้องการ ข้าก็จะไปหามา" เซียวหลันยวนบีบคางนางเบาๆ มองนางอย่างตั้งใจ "ข้าคือสามีเจ้านะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ข้าก็หวังให้เจ้าคิดถึงและมาหาข้าเป็นคนแรก"เขาหวังว่านางมีเรื่องอะไรที่ลำบากจะสามารถมาหาเขาเป็นคนแรกได้ พึ่งพาเขาเสียหน่อย อย่าเอาแต่ข้ามตัวเขาไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น"ข้าคิดว่าเรื่องวัตถุดิบยา..." ซือถูไป๋เขาทำเรื่องพวกนี้อยู่ ดังนั้นไปหาเขาน่าจะตรงไปตรงมามากกว่า ดังนั้นนางจึงคิดถึงซือถูไป๋ขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณแต่นางท้ายสุดก็ยังต้องล้มเลิกความคิดนี้ไปนี่?แต่ว่า ครั้งนี้นางไม่ได้คิดถึงเซียวหลันยวนเลยนางเดิมทีก็เป็นคนของพันธมิตรโอสถใต้หล้า ศิษย์พี่ของนางก็อยู่ที่นี่ อาจารย์ก็กำลังคิดหาวิธี ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าพวกเขาหาวัตถุดิบยาได้ทางตรงกว่าเซียวหลันยวนเซียวหลันยวนส่ายหัว "หนิงหนิง หลายครั้ง ที่เจ้าไม่ค่อยจะเข้าใจเรื่องอำนาจเท่าไรนัก"ขณะฟู่จาวหนิงกำลังคิดประโยคนี้ของเซียวหลันยวน พวกของชิงอีในที่สุดก็ตามมาถึงแล้วขบวนรถที่ยิ่งใหญ่ ทำเอาคนทั้งหมดตกตะลึงผู้บริหารท้องถิ่นโหยวนำขบวนรถมาที่นี่ ต่งฮ่วนจือพวกเขาก็ออกไปดูแว
ฟู่จาวหนิงดึงสติกลับมาไม่ได้ไปพักหนึ่งนางมองเซียวหลันยวน เพราะอยู่ใกล้มากที่สุด แต่ก็ยังมองเห็นตาของเขา รู้สึกแค่ว่าในตาของเขามีประกายดวงดาวอยู่...อา นั่นเป็นครั้งแรกที่นางเกิดอาการคลั่งรักจนอยากจะบ้าอยากจะตายเพื่อเขา อยากจะใช้เวทมนต์กระแทกกำแพงให้ดังก้องเพื่ออ๋องเจวี้ยน"ท่านทำได้อย่างไรกัน? องค์จักรพรรดิยอมได้อย่างไร?"ฟู่จาวหนิงกดเสียงต่ำ ถามเซียวหลันยวนขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อคำนวณจากจดหมายก่อนหน้า จนถึงตอนที่เขานำวัตถุดิบยาและคนจำนวนมากมาที่นี่ ระหว่างนี้ก็เหมือนใช้เวลาไปไม่มากเลยหรือก็คือ เขาจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จได้ จะต้องใช้ความกล้าหาญและกลยุทธ์มากมาย ทำปั๊ปก็เสร็จปุ๊ปเลยทีเดียวนี่เป็นประโยคที่พูดได้ชัดเจนที่สุดแล้ว"เขาจะยอมเห็นด้วยได้อย่างไรกัน?" เซียวหลันยวนเอ่ยอย่างสงย "ก็แค่ขวางข้าไม่อยู่เท่านั้น""หนึ่งครั้งสองครั้ง สามครั้งสี่ครั้งแบบนี้ เกรงว่าเขาคงไม่ทนต่อไปแล้ว ท่านไม่กลัวว่าเขาจะก่อเรื่อง แล้วพุ่งเข้ามาแว้งกัดท่านหรือไรกัน?"ฟู่จาวหนิงคิดถึงความยากลำบากตอนที่เขาจัดการเรื่องนี้ที่เมืองหลวง ก็อดรู้สึกปวดใจขึ้นมาไม่ได้เซียวหลันยวนมองออกถึงความเป็นห่วงในสาย
แต่ว่าหมอหลินเองอันที่จริงก็ไม่ค่อยเข้าใจ ตอนนั้นที่ฟู่จาวหนิงอายุสิบสามสิบสี่ปี นางไม่รู้อะไรเลยจริงๆ ตอนที่ไปหาเขาที่โรงหมอเล็ก เรียกได้ว่าน่าสงสารไม่มีที่พึ่งพาเลย ตอนที่พูดถึงอาการของท่านปู่ ก็แทบจะร้องไห้ออกมาแล้วแต่ก็ไม่รู้เพราะอะไร พอนางอายุสิบหกปี เริ่มตั้งแต่วันที่ถอนหมั้นกับรัฐทายาทเซียว ก็เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างไรอย่างนั้นตอนนี้นางเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่แล้ว กลายเป็นหมอเทวดาที่เลื่องชื่อไปทั่วพอคิดถึงตอนนั้นที่ตนเองเตือนฟู่จาวหนิงไป บอกให้ผู้เฒ่าฟู่ได้กินดื่มดีดี จากไปอย่างสงบ อย่าเสียเงินทองมาซื้อหยูกยาเลย หมอหลินก็รู้สึกว่าตนเองหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาจู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจละอายใจจนขึ้นมาพูดกับฟู่จาวหนิงก่อน นี่คงจะไม่ถูกฟู่จาวหนิงเย้ยหยันเอาหรอกกระมัง?เขาก็แค่จู่ๆ นึกถึงเรื่องในอดีตออกเท่านั้น จึงอยากจะชดเชยเสียหน่อย กระตือรือร้นหน่อย ช่วยฟู่จาวหนิงให้มากขึ้นอีกหน่อยครั้งนี้ หลังจากเขาได้ยินคำพูดของอ๋องเจวี้ยนในจวนอ๋องเจวี้ยน ก็เป็นคนแรกที่ไม่คิดอะไรมาก แล้วเลือกมาที่เมืองเจ้อทันทีในเมื่อมาแล้ว ก็อย่าให้เสียเปล่า อย่างน้อยก็ต้องลงแรงกันบ้าง"หมอหลินไม่ได้ทำอะ
หมอลินมองคนที่ถอยออกไปพวกนั้น ในใจก็กรีดร้องแหลมขึ้นมา...พวกเจ้ามันโง่!นี่มันโอกาสหายากขนาดไหน! ได้ติดตามไปรักษาคนป่วยข้างกายพระชายาอ๋องเจวี้ยน ได้ยินว่านางไม่หวงวิชาด้วย แล้วยังเอาจริงเอาจังต่างหาก ดังนั้นติดตามนางไปจะได้เรียนรู้ไม่น้อยเลย!บางที พอผ่านเรื่องนี้ไป วิชาแพทย์ของเขาก็อาจจะพัฒนาไปอีกขั้นก็ได้!ถ้ากหากเขาติดตามไปกับพระชายาอ๋องเจวี้ยน ค้นคว้าตำรับยารักษาโรคนี้ได้ เช่นนั้นหลังจากนี้ในโรงหมอที่เมืองหลวง ตัวตนฐานะก็จะไม่ใช่แบบตอนนี้แล้ว!นี่เป็นโอกาสที่เขาอยากได้แต่ก็ไม่เคยจะได้มาเลยนะสองสามปีนี้ พอได้ยินว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนรักษาใครหาย เขาก็รู้สึกคันยุบยิบ อยากจะไปทักทายนาง แต่ก็ทำใจไม่ได้เสียที แล้วยังกลัวว่าฟู่จาวหนิงจะจำเรื่องในอดีตได้แล้วหันมาโกรธเขาแต่ตอนนี้โอกาสมากองอยู่ตรงหน้าเขาแล้วหมอหลินรู้สึกว่า ครั้งนี้ที่มาเมืองเจ้อคือถูกต้องแล้วในการเดินทางนี้ ยังมีคนไม่น้อยที่แอบนินตาอ๋องเจวี้ยน บอกว่าเขาอหังการเกินไป จะลากพวกเขามาเมืองเจ้อให้ได้แต่หมอหลินกลับรู้สึกซาบซึ้งตัวอ๋องเจวี้ยน ถ้าไม่ใช่อ๋องเจวี้ยน เขาจะมีโอกาสเช่นนี้ได้อย่างไร!หมอหลินตอนนี้มองคนโง่เ
"อย่างนี้เรียกว่าฉลาดได้อย่างไรกัน? คุณชายหยวนเลิกล้อเล่นได้แล้ว อ๋องเจวี้ยนจะต้องตามไปข้างกายพระชายาแน่ ท่านทำงานอยู่ข้างๆ พระชายา ท่านอ๋องจะไม่พบท่านได้อย่างไรกัน?"ถึงตอนนั้นเขาต้องมารับผิดชอบอีก ใครให้เขามาปกป้องคุณชายหยวน?ยิ่งไปกว่านั้น เขายังไม่รู้ว่าเป้าหมายที่หยวนอี้ทำแบบนี้คืออะไร ทำไมถึงทำให้เขารู้สึกลนลานนักนะ"เมื่อครู่ข้าเห็นหมอเทวดาฟู่กับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันแล้ว รู้สึกว่าความรักสามีภรรยาของพวกเขานั้นดีมาก" หยวนอี้ตอบไม่ค่อยจะตรงคำถาม"แน่นอนสิ เห็นพูดกันว่าอ๋องเจวี้ยนเป็นคนที่โกรธได้เพื่อพระชายาของเขา""เช่นนั้น หมอเทวดาฟู่ตอนนี้จะไปรักษาคนป่วยพวกนั้น เห็นบอกว่าระบาดได้รุนแรงมาก แล้วนางทำไมจึงให้อ๋องเจวี้ยนติดตามอยู่ข้างกายตลอดล่ะ? ข้ากลับรู้สึกว่า หลังจากนี้ หมอเทวดาฟู่ไม่น่าจะมีโอกาสได้อยู่กับอ๋องเจวี้ยนเท่าไรนักหรอก"หมอหลวงเผียวงงงันไปทำไมถึงรู้สึกว่าคุณชายหยวนดูจะเข้าใจสามีภรรยาอ๋องเจวี้ยนดีเหลือเกิน?"นั่นก็ไม่ได้เช่นกัน พระชายาอ๋องเจวี้ยนเองก็อาจจะสงสัยตัวตนของท่านด้วย""นางเองก็ไม่เคยเห็นข้า ยิ่งไม่มีทางรู้จักคนทั้งหมดข้างกายหมอหลวงเผียวด้วย แล้วนี่ก็
ฟู่จาวหนิงวุ่นขึ้นมาแล้วจริงๆ มามัวสนใจเซียวหลันยวนไม่ได้เลยแต่ว่า ในใจนางก็ยังอิ่มเอมมากเพราะตอนนี้มีวัตถุดิบยาแล้ว ไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนทำได้อย่างไร ถึงได้รวบรวมวัตถุดิบยาที่นางต้องการมาได้มากขนาดนี้ยิ่งไปกว่านั้น หมอที่เข้ามา ก็มาช่วยเหลือปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างไร!ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตนเองไม่ได้ทำได้ทุกอย่าง กำลังของนางเองก็ไม่ได้มากขนาดนั้น ถ้าแค่ทนๆ เอาก็ยังพอไหว แต่ถ้ายังมีคนป่วยเข้ามาอีกหน่อย นางคงได้คลานแน่ๆแต่ว่าสถานการณ์เช่นนี้ของเมืองเจ้อ คนที่รู้เรื่องภายในต่างก็พยายามหลบเลี่ยง คนที่ไม่รู้เรื่องภายในก็ถอยหนีออกห่าง นางเองก็ไม่รู้ว่าจะไปหาคนจากที่ไหน ดังนั้นจะหาหมอเข้ามาก็ยากเหลือเกินตอนนี้เซียวหลันยวนส่งคนมาช่วยทีเดียวมากมายขนาดนี้ เหมือนยกภูเขาลูกใหญ่ออกไปจากอกนางจริงๆคนที่หมอเหล่านี้พามาก็ไม่น้อย นอกจากคนที่พาลูกศิษย์มาแล้วก็ยังมีคนที่พาคนติดตามมาด้วย กลัวว่าการใช้ชีวิตที่นี่จะไม่คุ้นชิน ไม่มีคนช่วย กระทั่งมีคนที่เอาคนใช้มาที่นี่เพื่อปกป้องตนเองด้วยซ้ำตอนนี้ก็พอดีเลย ทุกคนที่พวกเขาพามาก็ไม่มีเวลาได้ว่างกันเลย แค่ครึ่งชั่วยามเท่านั้น ทุกคนก็ถูกจัดแจงงานไว้เร
เขาเองก็คาดเดาไว้เช่นนี้ในจดหมายที่เขาเขียนให้ท่านอ๋องก่อนหน้านี้ เขียนสถานการณ์ของเมืองเจ้อและอารมณ์ของผู้ประสบภัยเอาไว้แล้ว เรื่องที่สำคัญที่สุด ก็คือมีคนบางกลุ่มที่จงใจยุยงให้ผู้ประสบภัยมีความแค้นเคืองต่อพระชายามีคนอยากทำร้ายพระชายา และยังมีโรคระบาดอีก ท่านอ๋องต้องกังวลอยู่แล้วแต่สืออีก็ไม่คิดว่าท่านอ๋องจะจัดการเคลื่อนกำลังพลเข้ามาโดยตรงในใจฟู่จาวหนิงซับซ้อนขึ้นมา"พวกเจ้ากินกันไปก่อนเถอะ ข้าจะไปเรียกท่านอ๋องพวกเจ้าก่อน""พระชายา อีกเดี๋ยวพวกเราจะส่งอาหารไปที่ห้องพวกท่าน ท่านอ๋องก่อนหน้านี้กำชับไว้" สืออีรีบเอ่ยขึ้น"ดีเลย"เสี่ยวเยว่เผยสีหน้าอยากกินขึ้นมาหน่อยๆ ก่อนหน้านี้นางถือว่าเป็นคนสวยที่เย็นชาคนหนึ่ง แต่เพราะช่วงนี้กินแต่หมั่นโถวแข็งๆ กับข้าวต้มจืดชืดมาหลายวัน ทำเอานางอดใจไม่ค่อยไหวแล้ว"ท่าน๋องเอาของอร่อยมาไม่น้อยเลย"ฟู่จาวหนิงยิ้มๆ "ถ้างั้นคืนนี้ก็กินดีดีกันสักมื้อเถอะ"ตอนที่กลับไป ในห้องก็เงียบลงราวกับไม่มีใครอยู่แต่พอเดินมาข้างเดียว เซียวหลันยวนกำลังหลับลึกอยู่ ลมหายใจแผ่วเบามากฟู่จาวหนิงนั่งลงข้างเตียง ก้มหน้ามองใบหน้าเขาในช่วงแสงอาทิตย์อ่อนๆ ใบหน้าเ
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ
เรียนได้เท่าไรก็เรียนเท่านั้น"ข้าไม่กลัวเหนื่อยหรอก เอาจริงๆ สมัยก่อนข้าเองก็มาจากครอบครัวที่ยากจนด้วย หลายปีมานี้ครอบครัวดีขึ้นมาก แต่ทุกวันข้าก็ยังปลูกผักอยู่ในเรือน แล้วยังฝึกมวยทุกวัน สุขภาพก็ดีมาก""มองออกเลยว่าสุขภาพของหมอหลินดีมาก นี่จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่หมอฟู่พาท่านมาในวันแรก แล้วก็ให้ท่านมาคอยเฝ้าที่นี่นั่นล่ะ"อาเหอรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้แม้ฟู่จาวหนิงจะไม่พูดออกมา แต่ในความเป็นจริงพอคนมาถึงนางก็สังเกตไปแล้ว การที่นางพาหมอหลินมา จะต้องเป็นการคัดเลือกของนางแน่นอน"จริงหรือ? ถ้าพูดเช่นนี้ พระชายาก็ถือว่ามีสายตาเฉียบคมอยู่นะ ฮ่าๆ" หมอหลินแสดงสีหน้าภาคภูมิใจฟู่จาวหนิงกลับไปพร้อมเซียวหลันยวนมีคนถือตะเกียงนำหน้าให้เมืองเจ้อยามนี้ เงียนงันไปหมด ฟ้าดำมืดมีดวงดาวไม่มากบนถนนมีแค่เสียงเท้าของพวกเขา เบามากพอคิด ก็รู้สึกเหมือนเป็นคืนฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีอะไรพิเศษแต่ในใจพวกเขาเข้าใจดี สำหรับเมืองเจ้อแล้ว นี่เหมือนถูกกดทับด้วยลมพายุไว้"อาเหอคนนี้ ดูแล้วไม่เลวเลย" เซียวหลันยวนตัดบทความคิดของฟู่จาวหนิง"อืม เป็นผู้ประสบภัย แต่เป็นคนฉลาด เรียนรู้เร็ว แล้วก็ซื่อสัตย์ด้วย" ความฉ
หมอหลินพอได้ยินคำพูดของอาเหอ ก็รู้สึกว่าตนเองเหมือนจะใจร้ายน่าดู ทำไมเขาถึงไม่คิดจุดนี้กันนะ?แล้วคิดจะจะให้พระชายาอ๋องเจวี้ยนที่เป็นหญิงสาวมาอยู่ดูแลที่นี่อีก ขนาดอ๋องเจวี้ยนตามมาแล้วแท้ๆ หรือคิดจะให้อ๋องเจวี้ยนต้องอยู่ดูแลคนป่วยที่นี่ด้วยกัน?ไอ๊หยา ต้องโทษพระชายาที่รับผิดชอบและตั้งใจมากเกินไป พอถูกนางทำให้ยุ่งขนาดนี้ เขาก็เลยลืมตัวตนฐานะของพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปเสียแล้ว"ใช่ๆๆ ข้าคิดไม่รอบคอบเอง อาเหอพูดถูกต้อง พระชายาท่านรีบกลับไปพักผ่อนเถิด ข้าดูแลที่นี่ให้"ฟู่จาวหนิงหัวเราะขึ้นมาทีหนึ่ง"หมอหลิน ยังมีอีกที่หนึ่งที่ต้องไป ท่านลืมแล้วหรือ?"พวกเขาลืมไปแล้วหรือเปล่า ว่ายังมีบ้านประชาชนอีกแห่งหนึ่งที่รับผู้ป่วยเข้ามาหลายคนอ๊ะ นางตอนนี้จึงยิ้มออกมาได้ ถือเป็นความสุขที่ได้จากความทุกข์หมอหลินตอนนี้จึงนึกออก เขาตบหน้าผาก "ใช่ๆๆ แล้วทางนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ?""นี่ถึงได้เชิญหมอหลินให้มาดูแลที่นี่ ส่วนอาเหอจะไปดูทางนั้นให้ มีเรื่องอะไรพวกท่านก็ให้ข้าราชการด้านนอกมาหาข้าก็พอ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร พรุ่งนี้จะมีคนมาแทนพวกท่าน""เอาตามที่พระชายาว่าเลย"พวกเขาไปในบ้านประชาชนอีกหลังหนึ่ง คน
"มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้เสียที่ไหน?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถลึงตาโต"องครักษ์พวกนั้นเจอกับหัวขโมย พอเห็นว่าเขาผิดปกติจึงเข้าไปจับกุม นี่ถือว่าเป็นการทำความดีกับประชาชนเมืองเจ้อมิใช่หรือ? จะว่าไป ทุกคนก็รู้ว่าโชคอขงองค์หญิงใหญ่นั้นดีมาก ดังนั้นจึงทำให้ท่านเจอกับเรื่องนี้มันมีอะไรแปลกตรงไหนกัน?""แต่ว่า แต่ว่า" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเอ่ยขึ้นเสียงอ่อย "เป็นแบบนี้มันไม่ค่อยสมเหตุสมผลกระมัง?""มีอะไรไม่สมเหตุสมผลกัน ยืนกรานเสียอย่าง พวกเขาจะไม่สงสัยหรก องค์หญิงใหญ่ท่านเป็นคนที่สูงส่งนะ แล้วจะไปทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร?""ไม่ค่อยดีนะแบบนี้?""ไอ๊หยา องค์หญิงใหญ่ท่านฟังข้าเถอะ ไม่เช่นนั้น ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนไปแล้วจริงๆ พวกเรายังต้องอยู่ในเมืองเจ้ออีกนานแค่ไหน""พวกเราตอนนี้ได้ของแล้ว ไปเมืองหลวงกันเองก้ได้""องค์หญิงใหญ่ พวกเราป่วยโรคนี้อยู่นะ หมอเทวดาฟู่ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกับใต้เท้าอันไม่มีทางยอมให้พวกเราไปหรอก ยิ่งไม่ยอมให้เราไปที่เมืองหลวงด้วย เว้นเสียแต่อ๋องเจวี้ยนจะพาพวกเราไป พวกเขาไม่กล้าขวางอ๋องเจวี้ยน"เฉินเซียงตอนนี้มองออกถ้าหากครั้งนี้ไม่ไปด้วยกันกับอ๋องเจวี้ยน ถ้าพวกนางยังต้อง
"องค์หญิงใหญ่ ในกล่องใบนี้มันคืออะไรกันแน่?"เฉินเซียงเองก็อยากรู้อยากเห็นมาก จุดเทียนสว่าง แล้วยกเชิงเทียนเดินเข้ามาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้สึกเครียดอยู่ตอลด ตอนนี้พอนั่งลงมา ก็รีบเทน้ำลงดื่ม เพียงแต่น้ำเย็นไปแล้ว พอดื่มไปนางก็สะดุ้งโหยง"ข้าจะจุดเตาให้ องค์หญิงใหญ่อย่าเพิ่งดื่มน้ำเย็นเลย"เฉินเซียงถึงแม้จะอยากรู้ว่าในกล่องนั้นมีอะไร แต่ก็ยังเป็นสาวใช้วังที่ทุ่มเทอยู่ พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นต้องมาดื่มน้ำเย็นจึงรู้สึกปวดใจตอนที่นางไปวุ่นอยู่นั้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็นั่งมองกล่องใบนั้นอยู่ตรงนั้นกล่องไม้ใบหนึ่ง ดูแล้วก็ไม่ได้มหัศจรรย์อะไร แล้วนางก็มองไม่ออกว่าต้องเปิดจากตรงไหนด้วยจนตอนที่เฉินเซียงเทน้ำร้อนเข้ามา องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เล่นกับกล่องนั้นอยู่พักหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังหาไม่เจอว่าจะเปิดมันอย่างไร"ทำไมถึงเปิดไม่ออก""เปิดไม่ออกหรือ? เพราะด้านในมันขัดกันอยู่หรือเปล่า?"เฉินเซียงเองก็หยิบกล่องนั่นเข้ามาสำรวจ รู้สึกประหลาดใจมาก ไม่มีจุดที่เปิดได้เลยจริงๆ"นี่มันอะไรกัน? หรือจะเป็นไม้ท่อนนึง สลักออกมาเป็นกล่องแบบนี้หรือ? "เฉินเซียงมึนงง"ไม่หรอก ด้านในมีของใส่ไว้" องค์หญ
"ข้าไม่ใช่หมอ แต่ข้าก็สกุลฟู่จริงๆ เจ้าติดตามหมอหลวงคนไหนมาหรือ?" ฟู่จิ้นเชินถามเขาไม่เห็นความเป็นศัตรูจากชายหนุ่มคนนี้เลย ดวงตาชายหนุ่มคนนี้ก็ค่อนข้างจะใสซื่อด้วยแต่ไม่รู้เพราะอะไร ฟู่จิ้นเชินพอเห็นเขาแล้วกลับรู้สึกมีความระแวดระวังขึ้นมาไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่เพิ่งมาถึง ที่พอเห็นผู้ช่วยหมอก็รู้สึกว่ามาเป็นแรงงานได้เลย ในใจรู้สึกลิงโลดขึ้นมาแบบนั้นวันนี้ทุกครั้งที่เขาเห็นคนใหม่เข้ามา ก็จะรู้สึกขึ้นมาได้ด้วยสัญชาตญาณ ว่ามีคนที่มาช่วยแบ่งเบาภาระให้จาวหนิงได้อีกคนแล้ว จาวหนิงจะได้เบาแรงลงหน่อยแต่ตอนนี้พอเห็นชายหนุ่มที่เรียกว่าอาอี้คนนี้ ฟู่จิ้นเชินกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น"ข้าตามหมอหลวงหูมาน่ะ แต่ว่าระหว่างทางที่มาเขาไม่รู้ ข้าแอบขึ้นรถม้าเขาเขาก็ไม่รู้ ดังนั้นตอนนี้จึงมาหาว่าหมอหลวงหูอยู่ที่ไหน"หยวนอี้รู้ว่าหมอหลวงเผียวไม่ยอมเล่นด้วยกับเขา ดังนั้นจึงพูดถึงหมอหลวงหูอีกคนหนึ่งแทนหมอหลวงหูใจกว้าง กล่อมง่าย ยิ่งไปกว่านั้นเขากล่อมไปแค่ไม่กี่คำก็ทำให้หมอหลวงหูยอมรับเป็น 'หลานชาย' ได้แล้ว"ดังนั้นเจ้าจึงชื่อว่าหูอี้สินะ?" ฟู่จิ้นเชินถามเอ่อ...หยวนอี้ สะดุดไปหน่อยๆทำไมถึงต้องเอาแ
นั่นเป็นห่อผ้าห่อหนึ่งหลังจากหยิบออกมาแล้วแกะผ้าหนาๆ ออก กล่องไม้ใบหนึ่งก็ปรากฏออกมาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็น ดวงตาก็เป็นประกาย"สิ่งนี้เลย!""ดีจริงๆ หาพบแล้ว!" เฉินเซียงเองก็ดีใจ"ไป รีบกลับออกไปก่อน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกอดกล่องไม้ไว้ในอก อยากจะรีบออกไปในใจนางลนลาน ถ้าหากถูกคนพบเข้า นางคงจะรู้สึกอายที่ต้องพบคน เป็นถึงองค์หญิงใหญ่จากต้าชื่อ แต่กลับวิ่งเข้ามาขโมยของในบ้านประชาชน!"องค์หญิงใหญ่ ไปก่อนเลย พวกเราจะจัดการเก็บกวาดที่นี่ก่อน" องครักษ์รู้สึกว่าจะให้คนพบไม่ได้ จึงขออยู่ที่นี่ก่อน จะจัดการร่องรอยที่พวกเขามาค้นของให้เป็นเหมือนเดิมก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำสิ่งของตรงไปยังโรงหมอทางนั้น กลัวว่าจะถูกใครพบเห็น ระหว่างทางก็คลุมผ้าเอาไว้มิดชิด ก้มหน้ารีบเดินเข้าห้องไปเสี่ยวเยว่พูดกับไป๋หู่ในความมืดมิด "นางหนีออกไปมืดค่ำแบบนี้ ไม่เป็นไรจริงหรือ?""ท่านอ๋องก่อนจะออกไปบอกไว้แล้วว่าไม่ต้องสนใจนาง แค่อย่าให้นางไปเจอคนอื่นแล้วทำให้คนอื่นติดโรคไปก็พอ"ไป๋หู่สีหน้าไร้อารมณ์ "นางยังคิดว่าใครก็ไม่เห็นพวกนางหรือไรกัน"ทำไมไม่คิดดูหน่อย ว่าห้องข้างฝั่งตะวันตกนั้นมีแต่คนที่ป่วยทั้งน
"แล้วเขาไปหาตาเฒ่าอู๋ทำไมกัน?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถาม "หมอเทวดาฟู่อยู่ที่นั่นหรือ?"เฉินเซียงเอ่ยขึ้น "องค์หญิงใหญ่ พวกเราตอนที่เพิ่งออกมาเมื่อครู่ เหมือนได้ยินพวกเขาพูดว่า หมอเทวดาฟู่จะพาคนไปรักษาคนป่วยใหม่ที่บ้านของประชาชนอะไรสักอย่าง""เช่นนั้นก็น่าจะเป็นบ้านของตาเฒ่าอู๋ทางนั้น!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมา "แล้วทำอย่างไรดี? ลุงหวังทำไมถึงไปเจอกับนางเล่า? ถ้าเผื่อ เขาเอาเจ้าสิ่งนั้นให้หมอเทวดาฟู่ไปจะทำอย่างไร?""ไม่หรอกกระมัง? เขาเองก็ไม่รู้จักหมอเทวดาฟู่นี่นา""แต่ของสิ่งนั้นเดิมทีเขาก็จะมอบให้อ๋องเจวี้ยนอยู่แล้ว ถ้าเขารู้ว่าหมอเทวดาฟู่เป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน นั่นมันจะไม่..."ไปบรรจบเจอกันแล้วหรือ?พอได้ยินองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพูดเช่นนี้ เฉินเซียงก็ลนลานไปด้วยเช่นกันนี่ก็มีเหตุผลอยู่!แล้วจะทำอย่างไรเล่า?"องค์หญิงใหญ่ จะให้หมอเทวดาฟู่ได้ของไปไม่ได้!"ถ้าหากของถูกฟู่จาวหนิงส่งไปให้อ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนก็จะรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงต่างหากที่เหมาะกับเขา? ถึงอย่างไรเดิมทีอ๋องเจวี้ยนก็ชอบหมอเทวดาฟู่อยู่แล้ว ถึงตอนนั้นจะยิ่งรู้สึกว่านางดีมากขึ้นไปอีก สามารถจำโชคลาภมาให้เขาได้เช่
ชายแก่คนนี้แม้จะสลบไปแล้ว แต่มือของเขากลับยังคงกำฟู่จาวหนิงไว้แน่น ราวกับกลัวว่านางจะหนีไปอย่างไรอย่างนั้นฟู่จาวหนิงลองดึงมือออกมา แต่ชายแก่ก็กำไว้แน่นมาก ถ้าหากฝืนออกแรงดึง นางกลัวว่าถุงมือตนเองจะถูกดึงออกมาหลักๆ คือนางรู้สึกประหลาดใจหน่อยๆนางไม่รู้เลย ว่าตอนนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพาเฉินเซียงกับองครักษ์ หาบ้านชายชราในฝันเจอแล้วอย่างยากลำบาก"องค์หญิงใหญ่ หาพบแล้วจริงๆ!"เฉินเซียงตื่นเต้นมากพวกเขาหาบ้านหลังนี้เจอจริงๆ ตามเบาะแสในฝันขององค์หญิงใหญ่ บ้านหลังนี้เหมือนกับในฝันขององค์หญิงใหญ่ไม่ผิดเพี้ยน อธิบายว่าฝันครั้งนี้ก็ยังเป็นเรื่องจริงองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตื่นเต้นมากเพราะนี่แสดงว่านางจะได้เจอกับชายชราคนนั้นแล้ว สามารถนำกล่องใบนั้นจากเขาได้ เช่นนี้นางก็สามารถเอาของไปพบอ๋องเจวี้ยนได้แล้วยังไม่พูดถึงเรื่องอื่น อย่างน้อยก็ให้อ๋องเจวี้ยนพานางกลับเมืองหลวง เรื่องที่จะให้นางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยนก็น่าจะคุยกันได้กระมังนางเองก็รู้ ถ้าหากจะรีบให้อ๋องเจวี้ยนแต่งงานกับนาง แล้วปกป้องนางแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้แล้วถ้าจะต่อต้านกับฝ่าบาทต้าชื่อ นางเองก็ต้องมีอะไรมากกว่านี้แต่สามารถ