Share

บทที่ 1721

Author: จุ้ยหลิงซู
ไข้หวัดปกติก็สามารถระบาดได้ แต่นางไม่ได้ให้คนทำการกักกัน

ดังนั้นตอนนี้พอได้ยินว่าไปที่ห้องผู้ป่วยนั้น อันเหนียนก็เข้าใจความหมายขึ้นมาทันที

"นางอยู่ที่นั่นคนดียวหรือ? น้ำเสียงเขาเครียดขึ้นมา"

และการเปลี่ยนท่าทีเช่นนี้ของอันเหนียน ต่งฮ่วนจือก็สัมผัสได้แล้วอย่างชัดเจน

เขามองอันเหนียน จากนั้นก็มองฟู่จิ้นเชิน "เกิดอะไรขึ้นหรือ? ห้องผู้ป่วยนั่นมีอะไรผิดปกติไหม?"

"ก่อนหน้านี้มีไป๋หู่กับเสี่ยวเยว่ส่งคนไปที่นั่น ตอนนี้มีฟู่จาวหนิงอยู่คนเดียว" ฟู่จิ้นเชินไม่ได้ตอบคำถามต่งฮ่วนจือ

แต่ต่งฮ่วนจือก็มองออก ว่าในสายตาเขามีความกังวลขึ้นมาเต็มที่

เพียงแต่ชายหนุ่มสองคนนี้ล้วนเป็นพวกไม่ค่อยเผยอารมณ์ออกมาเท่าไรนัก เป็นคนที่หนักแน่นใจเย็นมาก ดังนั้นเขาเองก็พิจารณาถึงความหนักหนาได้ลำบาก

อันเหนียนยกเท้าไปทางนั้นทันที

"ใต้เท้าอัน"

ฟู่จิ้นเชินจับแขนเขาไว้ สายตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย น้ำเสียงเองก็กดลงมา

อันเหนียนได้สติกลับมาในพริบตา ยืนนิ่งไปแล้ว

"นางกำชับอะไรไว้ไหม? ทำตามที่นางว่าเลย" เสียงอันเหนียนเรียบสงบ

แต่ว่า ฟู่จิ้นเชินมองเขาลึกๆ

รู้อยู่แท้ๆ ว่าห้องผู้ป่วยนั้นเป็นตัวแทนของอะไร ขนาดตัวเขาฟู่จาวหนิง
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1722

    "พระชายา" สืออีกังวลมาก มองฟู่จาวหนิงที่นั่งอยู่บนเตียงหลัวฮั่นข้างหน้าต่าง "ท่านจะทำอย่างไร?"หรือว่านางจะอยู่เฝ้าที่นี่ตลอดกัน?ในเมื่อโรคนี้อันตรายขนาดนี้ พระชายาต่างหากถึงจำเป็นต้องมีการคุ้มครองมากที่สุด"อีกเดี๋ยวข้าจะไปห้องข้างๆ ไม่ได้อยู่ที่นี่เฝ้าทั้งคืนหรอก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น "ไม่ต้องกังวล"ตอนกลางคืนที่นางอยู่คนเดียวก็เข้าไปในห้องเภสัช หลายวันช่วงนี้นางล้วนนอนอยู่ในห้องเภสัช ถึงอย่างไรก็เป็นสถานที่ของตนเอง ต้องดีกว่าห้องรับแขกที่จัดขึ้นชั่วคราวมากอยู่แล้วตอนนี้มีโรคที่ระบาดได้ นางมานอนอยู่ในมิติของตนเองประสิทธิภาพในการกักกันก็ยิ่งดีกว่า"แล้วพระชายากินข้าวหรือยัง?" สืออีถาม"อีกเดี๋ยวจะกิน""ข้าจะไปนำอาหารมาให้ จะเอามาเยอะหน่อย พระชายาจะได้กินให้มากอีกนิด""ดีเลย"สืออีออกไปแล้ว พอเห็นสือซานที่อยู่ข้างๆ ประตูวงกลม "ให้คนมาเปลี่ยนกับเจ้าคืนนี้""ไม่ ข้าเฝ้าเองยังวางใจกว่า" สือซานกลับไม่ยอมฟู่จาวหนิงให้เขาเฝ้าที่นี่ไม่ปล่อยให้ใครเข้าไป ใจเขาก็ไม่ค่อยสงบแล้ว ว่ามีโรคร้ายอะไรที่ทำให้พระชายาต้องระมัดระวังขนาดนี้?นางไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้ แล้วตัวนางเองล่ะ?สืออีเองก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1723

    อย่างในเวลานี้ คนเราจะลนลานหวาดกลัวกัน ถึงอย่างไรครอบครัวหญิงสาวคนนั้นก็ป่วยตายกันไปห้าคนแล้วนะ โอกาสตายสูงขนาดนี้ ใครจะไม่กล้วบ้าง?ถ้าเผื่อติดโรคแล้วต้องตายล่ะ..."เช่นนั้นศิษย์น้องหญิงรักษาโรคนี้ได้จริงไหม?" ต่งฮ่วนจือก็ตึงเครียดขึ้นมาแล้ว"เรื่องนี้นางยังไม่ได้บอก เพราะไม่ให้ใครเข้าไปเลย พวกเราตอนี้ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร นางแค่บอกว่าไม่ต้องกังวล"แล้วจะไม่กังวลกันได้อย่างไร?ถึงแม้ฟู่จาวหนิงท้ายสุดจะรักษาโรคนี้ได้ แต่หลังจากระบาดไปจะต้องเป็นช่วงเวลาที่ลำบากมากช่วงหนึ่งแน่"เมืองเจ้อที่นี่เดิมทีก็น่าจะมีหมออยู่ไหม? พวกเขาไม่เข้ามาช่วยเลยหรือ?" ต่งฮ่วนจือถามรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงแค่คนเดียวมันเหนื่อยเกินไปอันเหนียนเล่าสถานการณ์ของหมอที่นี่กับเขาอันที่จริงสองวันนี้เขาก็หาตัวลูกศิษย์ที่อยู่ในโรงหมอแต่เดิมมาได้สามคนแล้ว ให้พวกเขาเก็บข้าวของแล้วมาช่วยกันที่นี่มีฟู่จาวหนิงคอยนำพวกเขา สำหรับพวกเขาถือเป็นโอกาสในการเรียนที่สุดยอดมาก"พรุ่งนี้เช้าจะมีผู้ช่วยหมอสามคนเข้ามา พวกเขาจะมากน้อยก็มีพื้นฐานอยู่บ้าง ถึงตอนนั้นยังสามารถช่วยเหลือได้""เป็นแค่ผู้ช่วยหมอ ศิษย์น้องหญิงค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1724

    "พระชายา เอาข้าวเช้ากับน้ำร้อนมาให้แล้วขอรับ"เสียงของสืออีดังลอดเข้าาฟู่จาวหนิงเดินออกไป "วางไว้ตรงนั้นเลย เจ้าอย่าเข้ามานะ"พอเหลือบมองไป นางยังเห็นฟู่จิ้นเชินด้วย พวกเขาคนหนึ่งหิ้วน้ำร้อน คนหนึ่งถืออาหารเช้า"จาวหนิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?" ฟู่จิ้นเชินยืนนิ่ง ถึงแม้อยากจะเดินเข้ามา แต่ก็รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะไม่ให้เขาเข้าไป"ข้าไม่เป็นไร คนป่วยข้างนอกพวกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงถามถึงสองพี่น้องเสี่ยวเฟิงเสี่ยวยา พอรู้ว่าพวกเขาไม่เป็นไร นางจึงวางใจลงได้ถือว่าโชคดีจริงๆ ที่หญิงสาวคนนี้มาถึงหลังจากที่พวกเขาทำงานไปแล้วหลายวัน ตอนนี้คนอื่นๆ ปรับตัวได้แล้ว ทำงานกันได้สมเหตุสมผลหมดแล้ว รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรถ้าเป็นเมื่อสามวันก่อน พอนางออกห่าง คนป่ววยพวกนั้นก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร คงจะวุ่นวายกันไปหมดแน่"ผู้ช่วยหมอสามคนที่ใต้เท้าอันหามาก็เพิ่งมาถึง ข้าให้เสี่ยวเยว่นำพวกเขาไปแล้ว ข้าเห็นว่าพวกเขาเองก็มือไม้คล่องแคล่วทำงานได้ดีอยู่ เจ้าไม่ต้องกังวล""ได้ สืออี ไปดูทหารขุนพลบัญชาการกับผู้ประสบภัยคนอื่นที่สัมผัสกับป้าคนนี้หน่อย ระวังด้วยนะ" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"่ขอรับ"สืออี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1725

    สืออีขับรถม้าของตนเองออกไปรับคนแล้วเรื่องนี้เดิมทีก็แปลกอยู่หน่อยๆ ตอนนี้คนส่วนใหญ่ล้วนรู้ว่าเมืองเจ้อมีสถานการณ์เป็นอย่างไร ปกติจะไม่เข้ามากัน ต่อให้จะมาเยี่ยมญาติก็ตาม ไม่มีทางเลือกมาในเวลานี้หรือว่าคนที่มาจากต้าชื่อจะไม่เข้าใจสถานการณ์ของที่นี่?แต่ถ้าไม่ใช่ผู้ประสบภัย ถ้าหากในเมืองมีญาติอยู่ล่ะก็ บางทีอาจจะมีเงินอยู่ พอมาถึงจึงไม่ไปยังศูนย์สังเกตการณ์ น่าจะกลับไปที่บ้านญาติเลย หรืออาจจะไปพักโรงเตี๊ยมดังนั้น คนที่มาเป็นใครกันแน่?สืออีคาดเดาไปตลอดทาง แต่ตอนที่เห็นคนที่มา เขาก็ตกตะลึงไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น!ไม่ว่าสืออีจะคิดอย่างไร ก็คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่มาจะเป็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาได้อย่างไรกัน?ชั่วขณะหนึ่ง ในสมองสืออีกคิดไปมากมาย จะมากน้อยก็มีทฤษฏีสมคบคิดอยู่บ้างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกว่าจะสงบลงมาได้ หยุดไปแล้ว พอเห็นสืออี นางก็งงงันไปนิดหน่อย ยังจำเขาไม่ได้เพราะสืออีตอนนี้สวมชุดประหลาดแล้วยังสวมหน้ากากอนามัยด้วยแต่เพราะสายตาที่สืออีมองนาง ทำให้นางเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าจะต้องรู้จักนางแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่ตกตะลึงแบบนี้นางยังสวมผ้าคลุมอยู่ ถ้าม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1726

    ฟู่จาวหนิงเองก็คิดไม่ถึงว่าคนที่มาเมืองเจ้อจะเป็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพวกเขาก่อนหน้านี้คาดการณืไว้ ว่าฝ่าบาทของต้าชื่อไม่มีทางปล่อยให้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นออกมาแน่ที่บอกว่าจะเลือกราชบุตรเขยให้นางแต่เดิม ก็เป็นแค่คำหลอกองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทั้งเพองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนั้นไปที่เมืองจี้ ฝ่าบาทต้าชื่อยังส่งคนไปรับนางกลับวังหลวง ฝ่าบาทต้าชื่อรู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเป็นดาวนำโชคของเขามาตลอด โชคบนตัวนางล้วนจะเอามาไว้บนตัวเขาทั้งหมด ดังนั้นจึงมัดนางไว้ข้างกายแต่ตอนนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่เพียงแค่ออกมาจากวังหลวง แต่ยังเดินทางมาไกลถึงแคว้นเจา?!นี่มันไม่น่าเชื่อจริงๆไม่น่าเชื่อจนฟู่จิ้นเชินกับต่งฮ่วนจือก็กำลังคาดเดาเจตนาการมาขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแต่ว่า ตอนนี้พวกเขาไม่มีโอกาสได้ถาม เพราะฟู่จาวหนิงมีคำสั่ง ไม่ให้ใครก็ตามสัมผัสกับกลุ่มขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพวกขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกจัดไปยังห้องข้างฝั่งตะวันตก อยู่ตรงข้ามกับห้องผู้ป่วยของป้าคนนั้น คั่นไว้ด้วยสวนเล็กๆ ผืนหนึ่งสืออีให้พวกเขาสวมหน้ากากอนามัยทั้งหมดตอนแรกพวกเขาก้ไม่ค่อยยินดีนัก แต่ตอนนี้คนมาถึงแคว้นเจาแล้ว นี่เป็นถิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1727

    สิ่งนี้ทำให้เฉินเซียงรู้สึกไม่พอใจแล้ว ทำไมถึงให้องครักษ์มาอยู่ด้วยกันกับพวกนาง?ห้องส้วมล่ะ? หรือว่าพวกนางต้องใช้ร่วมกับองครักษ์สามคนนี้ด้วย?อย่างนี้ได้ที่ไหน!สืออีหลังจากกำชับเสร็จก็ออกไปเตรียมของสิ่งของที่เหลืออยู่ของพวกเขาตอนนี้ไม่พอแล้วจริงๆ ดังนั้นจึงต้องแบ่งผ้าหุ่มของพวกเขาออกไปสามผืน แล้วนำออกไปของกิน ตอนนี้ก็เป็นแค่หมั่นโถวกับข้าวต้ม บวกกับกับข้าวอีกนิดหน่อย กับข้าวเองก็เหลือไม่มากแล้วหมั่นโถวของพวกเขาตอนนี้ก็ผสมแป้งอื่นเข้าไปด้วยแล้ว ไม่ได้อ่อนนุ่มหอมหวานเหมืนอตอนที่เพิ่งมาแล้ว ถึงอย่างไรกินให้ท้องอิ่มได้ก็ดีมากแล้วอันเหนียนกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวออกหาการบริจาคช่วยเหลือ หวังว่าสองสามวันนี้จะได้ผลลัพธ์อะไรบ้าง ไม่เช่นนั้นคงต้องเอาหมั่นโถวมานึ่งให้เล็กลงหน่อย ไม่แน่อาจจะต้องแบ่งของคนคนหนึ่งเป็นสองส่วนด้วยฟู่จาวหนิงพอดูเรื่องการฉีดยาให้ป้าหนิวเสร็จ ก็ดึงเข็มออก เก็บขวดเปล่ากับตะขอเกี่ยวเล็กกลับไป หลังจากออกประตูมาก็เปลี่ยนชุดป้องกันกับผ้าปิดปากและถุงมือใหม่ จากนั้นจึงไปยังฝั่งตรงข้ามเฉินเซียงพอเห็นนางเข้ามา ก็จำนางได้จากดวงตาของนางเพราะฟู่จาวหนิงห่อตัวมิดชิดย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1728

    ฟู่จาวหนิงไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาทำอะไรเหมือนกับสืออี นางเองก็อยากรู้มากว่าฝ่าบาทต้าชื่อยอมปล่อยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นออกมาได้อย่างไรแต่ว่าตอนนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองข้ามปัญหาชื่อเรียกของนางไปแล้ว แต่เอ่ยกับนางอย่างอบอุ่นว่า "เชิญหมอเทวดาฟู่ถามอาการเถิด รบกวนท่านรักษาข้าด้วย"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ไม่ใช่คนโง่ ดูจากชุดแต่งกายประหลาดของฟู่จาวหนิง และการที่ฟู่จาวหนิงไม่ให้นางถอดสิ่งที่เรียกว่าหน้ากากปิดปากออก นางก็เดาได้ทันที ว่าโรคของตนเองน่าจะไม่ใช่โรคธรรมดาแต่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ไม่ลนลานเลยแม้แต่น้อยถึงแม้โชคดีของนางหลายครั้งจะเป็นสิ่งที่คนทำขึ้น แต่เรื่องเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของตัวนางเอง อันที่จริงก็ถือว่ามีโชคดีอยู่มากอย่างเช่นตั้งแต่เด็กนางไม่ค่อยป่วย ต่อให้จะป่วยก็เป็นปัญหาเล็กๆ กระทั่งบางครั้ง การป่วยของนางยังช่วยให้นางเลี่ยงเรื่องแย่ๆ อีกด้วยเหมือนก่อนหน้านี้ที่นี่ไม่รู้ว่าทำไมจึงเวียนหัวจนเป็ฯลม ดังนั้นจึงกลับเมืองหลวงช้าไปสองวัน ผลคือในสองวันนั้น ระหว่างทางมีคนถูกโจรปล้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะนางป่วยจนต้องเลื่อนเวลา เช่นนั้นนางอาจจะไปเจอกับโ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1729

    นางไม่ได้ถามอะไรอีก เดินไปจับชีพจรองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น วัดอุณหภูมิเกือบสี่สิบองศาเลย คิดไม่ถึงว่าเป็นไข้รุนแรงขนาดนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยังทนมาคุยกับนางได้ตั้งหลายคำ"นอกจากตัวร้อน ยังมีตรงไหนไม่สบายอีกไหม? ตรงไหนที่รู้สึกแย่บ้าง?""แค่ก ปวดหัว แล้วก็ดวงตาร้อนผ่าวไปหมด..."องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆ ตรงหน้าก็มืดไป คอพับคงมาฟู่จาวหนิงปฏิกิริยารวดเร็ว เข้ารับนางไว้ทันทีเฉินเซียงตกใจ "องค์หญิงใหญ่!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็โดนเข้าซะแล้วฟู่จาวหนิงดูอยู่พักหนึ่ง ต้นกำเนิดโรคคือครอบครัวของป้าหนิวหลังจากสังเกตก็พบว่าเฉินเซียงก็เริ่มมีไข้อ่อนๆแต่ว่าองครักษ์คนอื่นยังไม่ติด น่าจะเพราะเดิมทีองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้สึกว่าชายหญิงไม่ควรอยู่ใกล้กัน ดังนั้นจึงไม่ค่อยได้เข้าใกล้พวกเขาแต่ยังต้องสังเกตต่อฟู่จาวหนิงให้องครักษ์หลายคนนั้นไปหาห้องพักพักผ่อนก่อน ส่วนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกับเฉินเซียงต้องอยู่ที่ห้องนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหมือนได้พักหายใจมาตอบคำถามฟู่จาวหนิงพอดี จากนั้นก็เป็นไข้จนมึนหัว จนไม่รู้สึกตัวไม่ได้สติฟู่จาวหนิงคิดจะฉีดยาให้นาง แต่เฉินเซียงก็ไม่ยอมไปไหนอ

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1864

    อันเหนียนเองก็โกรธจนเส้นเลือดแทบจะแตกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าองค์จักรพรรดิจะทำแบบนี้!เมืองเจ้อใหญ่ขนาดนี้ คิดจะทอดทิ้งก็ทิ้งเลยรึ!"รีบประคองข้าไปที่หอเมือง" อันเหนียนเองก็ตามไปด้วย เขาจะอยู่แต่ในนี้ไม่ได้เซียวหลันยวนมาถึงบนหอเมืองแล้ว ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรีบเข้ามารับ "ท่านอ๋อง!""สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?""ทหารห้าพันนาย! พวกเขาเข็นปืนใหญ่มาด้วย!" ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวโกรธจัดจริงๆเมืองเจ้อส่งส่วยให้ทุกปีไม่เคยขาด ส่งเข้าคลังหลวงตรงเวลามาตลอด ตำแหน่งภูมิศาสตร์นี้ ก็ถือได้ว่าคอยคุ้มกันแทนเมืองหลวงอยู่ ส่งเส้นเลือดชีพจรเข้าไปให้ องค์จักรพรรดิต่อให้ใช้หัวเข่ามาคิด ก็จะทิ้งเมืองเจ้อไม่ได้!ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?เซียวหลันยวนยืนอยู่บนกำแพงเมืองลมพัดหวิว เขามองฝั่งตรงข้ามใต้กำแพงเมือง แม่ทัพที่นั่งอยู่บนหลังม้าอย่างองอาจ"โจวติ้งเจิน"โจวติ้งเจิน เป็นแม่ทัพที่ดุดันคนหนึ่ง แล้วยังเป็นพวกค่อนข้างป่าเถื่อน มนุษยสัมพันธ์ในราชสำนักแย่มาก แต่เพราะเขาจงรักภักดีสุดๆ กับองค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดิมีเจตนาไหน ไม่ว่าจะไร้เหตุผลเพียงใด โจวติ้งเจินก็สามารถทำตามราชโองการได้อย่างเคร่งครัดตรงไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1863

    หยวนอี้ท้ายสุดก็ยังบาดเจ็บตามไปด้วย ที่เอวถูกอาวุธลับยิงเข้ามา เกือบจะเอาตัวไม่รอดหลังจากกลับถึงเมืองหลวง ทั้งสองคนก็สลบไปและในช่วงสิบวันนี้ คนป่วยในเมืองเจ้อก็เพิ่มมากขึ้นมหาศาล ตายไปอีกชุดใหญ่ในช่วงที่ตึงเครียดที่สุด ยาของฟู่จาวหนิงในที่สุดก็สกัดออกมา ผ่านการใช้ยาไปหลายวัน ก็หยุดยั้งการคุมไม่อยู่ของโรคไว้ได้คนที่ป่วยตายเกือบร้อยคน แต่ว่า ท้ายสุดโรคก็ถูกควบคุมไว้ได้แล้วคนทั้งหมดล้วนถอนใจยาวโล่งอกแต่ตอนนี้เอง คำสั่งลับขององค์จักรพรรดิก็ส่งมาถึงเมืองเจ้อและที่มาด้วยกันยังมีทหารชั้นดีอีกห้าพันนายคืนนี้ ทหารชั้นดีล้อมเมืองเอาไว้ ในมือมีคบเพลิง ยังมีคนง้างธนูเพลิงเล็งมาที่เมืองเจ้อด้วยแสงไฟนอกเมืองเหล่านี้ แน่นอนว่าถูกเหล่าทหารคุ้มครองเมืองพบเข้าพวกเขารีบมารายงานผู้บริหารท้องถิ่นโหยวอย่างเร่งด่วนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวพอได้ยิน เส้นที่ตึงในใจมาหลายวันนี้ก็แทบจะขาดออกจากกัน"มาแล้ว มาจริงๆ แล้ว!"องค์จักรพรรดิคิดจะทิ้งเมืองเจ้อจริงๆ! แล้วนี่จะทำอย่างไรกัน?จะเผาเมืองไหม?"รีบไปเชิญอ๋องเจวี้ยนมา!"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเอ่ยขึ้น ส่วนตนเองก็รีบพุ่งไปที่หอเมืองยืนบนหอเม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1862

    ตอนที่รถม้าออกจากเมืองเจ้อได้ครึ่งชั่วยาม ฟู่จาวหนิงเพิ่งวุ่นไปได้ช่วงหนึ่ง จากนั้นจึงเพิ่งพบว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกับเฉินเซียงหายไปนางไปหาเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนกลับไม่รู้สึกเกินคาด"ข้าหลับตาข้างหนึ่งปล่อยพวกนางออกไป"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดว่าจะหลบองครักษ์ของเขาพ้น"ทำไมล่ะ?"ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยเข้าใจทำไมถึงอยากจะปล่อยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหนีไป?"ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าอาการของนางดีขึ้นมากแล้ว""ท่านให้ข้าให้ยานางดีดีในช่วงสุดท้ายนี้"ดังนั้น นางจึงฉีดยาพิเศษให้กับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น อาการป่วยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วจริงๆ โอกาสจะระบาดน้อยมากแล้วนางยังคิดว่าเซียวหลันยวนรู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะมาตายที่นี่ไม่ได้เสียอีก ดังนั้นจึงพยายามรักษานางอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้ดูท่า เขาจะรู้อยู่แล้วว่านางจะออกไป แล้วยังปล่อยให้นางออกไปด้วย?"องครักษ์ลับของฝ่าบาทต้าชื่อมาถึงแล้ว ข้าไม่อยากให้พวกเขาลอบเข้ามาในเมืองเจ้อ ดังนั้นจึงพยายามส่งคนออกไป"เซียวหลันยวนไม่ใช่คนที่ใจดีนัก "หลังจากออกไป จะหนีการจับกุมฝ่าบาทต้าชื่อได้หรือเปล่า ก็ต้องดูโชคของนางแล้ว แล้วก็..."เซียว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1861

    "แคว้นหมิ่นในเมื่อรู้ข่าวแล้วจะช้าเร็วก็คงส่งมาถึงต้าชื่อกับแคว้นเจา ก็สู้ส่งพวกเราออกมาเจรจาร่วมมือก่อนไปเลยดีกว่า"เซียวหลันยวนถามเสียงเรียบ "ดังนั้นพวกเจ้าจึงมาเจรจาร่วมมือ? ร่วมมือว่าจะแบ่งสันปันส่วนตงฉิงกันอย่างไรน่ะหรือ?""ถูกต้อง พวกเราเลือกแคว้นเจาก่อน เป็นการพิจารณาทุกด้าน เพราะแคว้นเจาอยู่ใกล้ตงฉิงหน่อย แคว้นเจายังมีตัวตนอย่างอ๋องเจวี้ยน ขณะเดียวกันก็ยังมี..."หยวนอี้พูดถึงจุดนี้แล้วชะงักไปแต่เซียวหลันยวนกลับเข้าใจความหมายเขาขึ้นมา "ยังมีพระชายาของข้าอยู่หรือ?"หยวนอี้ยอมรับอันเหนียนใจสะดุ้งโหยงคิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงจะเป็นส่วนหนึ่งที่แคว้นหมิ่นนำมาพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย"พวกเจ้าต้องการวิชาแพทย์ของนางหรือ?" เซียวหลันยวนถามเขาเองก็ไม่ได้เผยอารมณ์ของตนเองออกมามากนัก หลังจากได้ยินเรื่องเหล่านี้แล้วโกรธหรือไม่มีปฏิกิริยาใด ก็ไม่ให้หยวนอี้ได้มองออก"วิชาแพทย์ของแคว้นหมิ่นตอนนี้แทบจะอยู่ในกำมือของตระกูลซุน" หยวนอี้ก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะให้พวกเขาได้รู้สถานการณ์ของแคว้นหมิ่น "ตระกูลซุนเป็นตระกูลหมอชั้นสูงที่มีชื่อที่สุดของแคว้นหมิ่น ด้วยเหตุนี้ มีหลายเรื่องที่พวกเขาเป็นคนตัด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1860

    เกี่ยวข้องกับตงฉิง?ตงฉิงอีกแล้วเหรอ?ใต้หน้ากากเซียวหลันยวน สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทำไมช่วงนี้เรื่องหลายเรื่องก็เกี่ยวกับตงฉิงไปหมด? ทำให้เขาแอบรู้สึกเหมือนเป็นตาข่ายผืนใหญ่ กำลังกางมาทางเขาและเขาก็อยู่ในกลางตาข่ายยักษ์นั่นอันเหนียนมองเซียวหลันยวน เอ่ยถามหยวนอี้ขึ้นอย่างสงบ"ตงฉิงไม่ใช่ว่าล่มสลายไปแล้วหรือ?""แต่ว่า สิ่งที่พวกท่านไม่รู้ก็คือ มีความลับหนึ่งเกี่ยวกับตงฉิง ตอนนั้นตงฉิงอันที่จริงมีกลไกการป้องกันตนเองอยู่ แม้จะบอกว่าล่มสลาย แต่อันที่จริงก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น กลไกใหญ่เมืองหลักในจุดต่างๆ พอสะสมพลังถึงระดับหนึ่ง ก็จะทำงานขึ้นมา""พอกลไกทำงาน อุโมงค์และถนนหลักจะเปิดระบบระบายน้ำดินตะกอน แล้วเมืองจักรพรรดิก็จะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง""หลังจากเมืองจักรพรรดิปรากฏขึ้นอีกครั้ง และตอนที่กลุ่มดาวบนท้องฟ้าเคลื่อนย้าย ดาวจักรพรรดิกลับสู่ตำแหน่งเดิม ภูมิประเทศกลับสู่ตำแหน่งที่แน่นอน คลังสมบัติจะปรากฏ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีภูเขาแร่ล้ำค่าอีกหลายลูกที่จะปรากฏด้วย"พอได้ยินหยวนอี้พูดเช่นนี้ อันเหนียนก็อดตกตะลึงไม่ได้"ดังนั้น ความหมายของเจ้าก็คือ พอถึงวันนั้น ตงฉิงที่แม้จะไม่มีคนอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1859

    "เซียวหลันยวนพอได้แล้ว ทำไมถึงผ่านไปไม่ได้เสียที?"ฟู่จาวหนิงถลึงตาใส่เขาเซียวหลันยวนมือหนึ่งโอบเอวนางไว้ อีกมีหนึ่งดึงบังเหียนม้า เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ "ข้าอยากแค่อยากบอกว่า รู้สึกแปลกหน่อยๆ"ฟู่จาวหนิงจึงเพิ่งรู้ว่าเข้าใจเขาผิดแต่ว่า นางเองก็รู้สึกว่าถังสืออวิ้นแปลกๆ เพียงพูดออกมาไม่ได้ว่าแปลกตรงไหนเซียวหลันยวนกลับพูดออกมาแล้ว"เขามีความรู้สึกแบบหนึ่ง ดูคล้ายๆ กับตัวเจ้า"พูดประโยคนี้ออกมาเขาก็ยังรู้สึกเจ็บแปลบอยู่หน่อยๆ ที่มองเห็นจุดคล้ายคลึงกับฟู่จาวหนิงบนตัวชายคนอื่น เขาไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิด"คล้ายข้าหรือ?" ฟู่จาวหนิงรู้ว่าที่เขาพูดมาไม่ใช่หน้าตา"ตอนที่เจอกับข้า ก็ดูสงบกว่าคนอื่นพอสมควร" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นอำนาจของเขา ตอนที่เผชิญหน้ากับคนอื่น สามารถรู้สึกได้ชัดเจนถึงท่าทีที่คนอื่นมีต่อตนเองประชาชนคือความเคารพ ส่วนพวกข้าราชการชนชั้นสูงบางส่วนก็รู้สึกหวาดกลัวเขาแน่นอนยังอาจจะมีอารมณ์อื่นอีก แต่ปกติแล้วก็คือสองอย่างนี้แต่ฟู่จาวหนิงตอนที่เจอเขาครั้งแรกไม่มีสองสิ่งนี้ นางมองเขาเป็นคนระดับเดียวกันอารมณ์สงบมาก ถ้าจะบอกว่าผันผวนบ้าง ก็ไม่ใช่เพราะตัวตนฐานะเขา แต่เป็นเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1858

    "ตอนนี้เจ้าพูดได้ว่าเป็นคนที่มีคุณสมบัติสืบทอดตงฉิงมากที่สุด นั่นจึงเป็นเส้นทางที่เจ้าควรเดินมากที่สุด หลายปีมานี้ เจ้าก็พยายามอย่างหนัก เพื่อตามหาคนตงฉิงที่ยังมีชีวิตรอดเหล่านั้น แล้วจะทิ้งไปแบบนี้เจ้ารับได้หรือ?"ฮูหยินอาวุโสถังมองถังสืออวิ้น ก็เห็นสีหน้าหดหู่ของเขาหายไป สายตากลับมาแน่วแน่อีกครั้ง ในใจจึงถอนใจโล่งออกมาทุกครั้งที่หลานชายมาหานาง จะต้องเพราะมีเรื่องให้หวั่นไหวเพราะนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันยากมากจริงๆแต่ที่นางต้องทำคือให้กำลังใจเขา จะยอมให้เขาละทิ้งไปแบบนี้ไม่ได้"ตงฉิงตอนนั้นคนออกไปตั้งมากมายซึ่งรวมถึงบ้านพวกเราด้วย เรื่องนี้กระทั่งจักรพรรดินีก็ยังไม่รู้ ดังนั้น แม้องค์หญิงใหญ่ภายหลังจะยังมีชีวิต แต่งงาน มีลูก พวกเขาก็ล้วนไม่รู้เรื่องเหล่านี้"นี่จึงเป็นสาเหตุที่ตระกูลถังคิดว่าถังสืออวิ้นมีคุณสมบัติการสืบทอดตงฉิง"พวกเขาไม่รู้ ดังนั้นจึงยังไม่เคยพยายามอะไร เรื่องเหล่านี้ล้วนมีแต่เจ้าที่ทำ คนที่เหนื่อยคือเจ้า"ถังสืออวิ้นถอนใจ"สืออวิ้น ต่อให้องค์หญิงใหญ๋จะมีลูกจริง แต่จากข่าวที่เราตรวจสอบมาตอนนั้น องค์หญิงใหญ่ไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว เด็กที่ไม่มีการเสี้ยมสอนจาก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1857

    ถังสืออวิ้นเดินออกไป ย้ายเก้าอี้เล็กมานั่งลงข้างๆ นาง นวดขาเบาๆ ให้นางเขาเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา "ท่านย่า หรือว่าเราล้มเลิกดีไหม? หลังจากหาสิ่งนั้นพบแล้วยังไงล่ะ..."แต่เขายังพูดไม่ทันจบ ฮูหยินอาวุโสก็ตัดบทเขาทันที"เจ้าพูดอะไรออกมา? จากนี้ไปย่าไม่อยากได้ยินเจ้าพูดอะไรที่ไม่เอาไหนแบบนี้แล้วนะ"ถังสืออวิ้นฟังออกถึงความโกรธในน้ำเสียงนาง จึงเงียบลงกว่าเดิม"สืออวิ้น ข้ารู้ว่าหลายปีนี้เจ้าลำบาก แต่ธนูเมื่อยิงแล้วไม่มีหวนกลับ ถ้าตอนนี้พวกเราล้มเลิกไป แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อกัน?"ถังสืออวิ้นเดิมทีก็เป็นอัจฉริยะอายุน้อย เดิมควรจะมีอนาคตที่สดใสตอนนั้นถ้าเขาเป็นไปตามครรลอง ไปร่วมการสอบเคอจวี่กับอัจฉริยะคนอื่นๆ ด้วยความสามารถของเขา อาจจะได้เข้าสอบเตี้ยนซื่อ แล้วกลายเป็นจอหงวนไปแล้วตอนนี้เขาอาจจะเป็นข้าราชการไปแล้วถึงสามปีแต่ว่า หลายปีมานี้เขาเอาแต่ปิดบังตัวตน ไม่ไปร่วมการสอบเคอจวี่ ไม่ย่ำเข้าสู่เส้นทางข้าราชการ ตอนนี้ก็สิบปีไปแล้วเขาใกล้จะยี่สิบสามแล้วถ้าล้มเลิกเรื่องที่อยู่ในมือไป เขาที่อายุยี่สิบสามก็เรียกได้ว่าไม่มีความสำเร็จอะไรเลย"ท่านย่า พวกเราไปทำการค้าก็ได้...""ไร้สาระ เ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1856

    เพราะอายุถังสืออวิ้นใกล้เคียงกับเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนตอนนั้นก็ให้ความสนใจเขาอยู่ แต่ก็ไม่ได้เจอตัว ดังนั้นเมื่อครู่พอได้ยินชื่อจึงรู้สึกคุ้นๆ"นั่นเป็นชื่อเสียงจอมปลอมเมื่อนานมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะจำได้ด้วย" ถังสืออวิ้นคารวะให้อีกครั้ง"เจ้าไม่เข้าร่วมสอบเคอจวี่มาตลอด" เซียวหลันยวนถาม "หรือว่าไม่เคยขึ้นกระดานมาตลอดกัน?"บางทีมีชื่อเสียงตอนอายุยังน้อย พอเติบโตความสามารถกลับลดต่ำลง กระทั่งการสอบขั้นต้นก็ยังไม่ผ่าน?""ข้าน้อยไม่ได้เข้าร่วมขอรับ""โอ๋? ทำไมกัน?" เซียวหลันยวนรู้สึกอยากรู้ขึ้นมา"เรื่องนี้..."ถังสืออวิ้นดูลำบากใจขึ้นมา ดูเหมือนจะบอกเหตุผลออกมาลำบากเซียวหลันยวนเองก็ไม่คิดจะจี้ต่อ จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา หันไปพูดถึงเรื่องที่เด็กสองคนก่อนหน้านั้นพูดมา"ข้าได้ยินว่า เจ้ารู้สึกว่าพระชายาควรแต่งกับเจ้าหรือ?""แค่กๆๆ!"ถังสืออวิ้นสำลักขึ้นมา หูแดงกว่าเดิม เลิกเสื้อคลุมคุกเข่าลงทันทีเพียงแต่คุกเข่าก็ส่วนหนึ่ง แต่หลังกับแอวเขายังยืดตรง เป็นท่าทางที่ดูทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแออยู่ด้วยกัน"ท่านอ๋องระงับโกรธด้วย! ข้าน้อยแม้จะไม่ได้พูดเช่นนี้ แต่ก็เคยเอ่ยชมพระชายา ถ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status