แชร์

บทที่ 1678

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่พวกเขาเข้ามา แม่นางคนนี้ก็ลุกขึ้น

พวกอันเหนียนนั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง คนมากมายนั่งกันอยู่หลายโต๊ะ กับข้าวเองก็ทยอยกันขึ้นมาแล้ว พอเห็นพวกเขาเข้ามา เสี่ยวเยว่ก็ลุกขึ้นทันที "คุณหนู ทางนี้"

ฟู่จาวหนิงพยักหน้า พวกเขาจะเดินไปทางนั้นต้องผ่านโต๊ะหลายตัว

ตอนที่พวกเขาเดินไป แม่นางคนนั้นก็เดินสุะดุดมาขวางหน้าฟู่จาวหนิง

ฟู่จาวหนิงหยุดลง สบสายตากับนาง เลิกคิ้วงามเล็กน้อย

"เอ่อ น้องสาว ข้าสกุลจู ชื่อว่าจูเฉียนเฉี่ยน ข้าเลี้ยงเจ้าดีไหม? ในเมื่อมีวาสนามมาเจอกันที่จุดพักม้าแล้ว คุยกันหน่อยเป็นไร?"

"ไม่ต้องล่ะ พวกเราเองก็เตรียมจะกินพอดี เห็นไหม?" ฟู่จาวหนิงชี้ไปทางอันเหนียน

"คุณชายคนนี้เป็นสามีเจ้าหรือ? พวกเจ้าเหมาะสมกันดีจริง" จูเฉียนเฉี่ยนมองไปทางอันเหนียน

คำพูดของนางเองก็ไม่ได้มีเจตนาอะไร พอนางเห็นว่าอันเหนียนกับฟู่จาวหนิงอายุใกล้เคียงกัน ยิ่งไปกว่านั้นรูปลักษณ์ภายนอกก็ยังเข้ากันด้วย

"ไม่ใช่" ฟู่จาวหนิงตอบ

"หา? เช่นนั้นก็ขอโทษด้วย ข้าบุ่มบ่ามไปเสียแล้ว..."

"แม่นางก็ดูจะบุ่มบ่ามจริงนั่นล่ะ" ฟู่จาวหนิงตัดบทนาง ยื่นมือออกมาผลักเธอไปข้างๆ เบาๆ "ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายังรบกวนเวลา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1679

    ไฉ่เอ๋อร์ร้อนใจขึ้นมานี่เหมือนแม่นางจะเอาจริงหรือ?"ต่อให้อายุสามสิบ อายุนี้ก็คงจะมีภรรยาอยู่แล้ว จะต้องมีลูกแล้วแน่นอน"หรือว่าแม่นางคิดจะไปเป็นอนุ?"เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าแบกรับชื่อเสียงแบบไหนอยู่?" จูเฉียนเฉี่ยนหัวเราะขืนๆ ขึ้นมา "ข้าเป็นพวกดวงกินผัวนะ คนแรกที่ตายไปก็คู่หมั้นตอนเด็ก คนที่สองคู่หมั้นที่เพิ่งจับเทียบวันเดือนปีเกิดก็ตายอีก คนที่สาม ข้าขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแล้วแท้ๆ เขาดันตาอย่างกะทันหันในบ้านอีก"ได้ยินนางพูดเช่นนี้ ไฉ่เอ๋อร์ปากก็อ้าพะงาบ ขั่วขณะหนึ่งไม่รู้จะพูดอะไรดีเลย"ก็แค่เพราะชื่อเสียงนี้ของข้า พ่อแม่ข้าถึงได้ให้ข้าอย่าอยู่ในบ้าน ไปเมื่อเจ้อแล้วพึ่งพาป้าหรอกหรือ?"จูเฉียนเฉี่ยนใช้ตะเกียบแทงข้าวสวย ถอนหายใจ "ไปเมืองเจ้อแม้จะไม่มีคนรู้อดีตที่น่ากลัวของข้า แต่ถ้าหากยังมาคุยเรื่องแต่งงานอีก แล้วดวงกินผัวข้าเล่นอีกฝ่ายจนตายจะทำอย่างไร?""นั่น..." ไฉ่เอ๋อร์เอ่ยขึ้นแผ่วเบา "แล้วแม่นางตามผู้มีพระคุณคนนี้ ไม่กล้วว่าเขาก็จะ..." โดนดวงกินผัวเล่นจนตายหรือ?"นั่นจะไม่กลายเป็นตอบแทนคุณด้วยการทำร้ายหรือ?" จู่เฉียนเฉี่ยนส่ายหัว "ข้าไม่มีทางเป็นคนไร้คุณธรรมแบบนี้ ดังนั้น ข้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1680

    เพราะเมื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืน ตอนเช้าในช่วงเส้นทางนี้ ความเร็วขบวนรถจึงเน้นไปที่ความเสถียรเป็นหลักฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าจากเมืองหลวงไปเมืองเจ้อน่าจะสามสี่วันก็ไปถึง แต่ต่อมาพอถามฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน จึงรู้ว่าที่เซียวหลันยวนบอกว่าสามสี่วันไปถึง นั่นคือความเร็วของการขี่ม้าคนเดียวแต่แบบพวกเขาที่ขนสัมภาระมากมายเช่นนี้ กลางคืนยังต้องเข้าพัก หยุดพักเพื่อกินข้าวสามมือ ก็ต้องใช้เวลาประมาณหกวัน บวกกับเรื่องฝนหรืออย่างอื่น ความเร็วก็จะยิ่งช้าลง อาจจะไปถึงเจ็ดแปดวันดังนั้นนางจึงส่งองครักษ์สองคนขี่ม้านำไปสำรวจทางข้างหน้าก่อนแล้ว ถึงแม้จะไม่ถึงในสามสี่วัน แต่ก็หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกและเพราะไปได้ช้า จึงถูกคนอื่นตามขึ้นมาแล้วรถม้าของอันเหนียนอยู่หน้าขบวน ฟู่จาวหนิงนั่งอยู่รถม้าคันกลาง เดิมทียังมีรถม้าของฟู่จิ้นเชินตามอยู่ด้านหลังอีก แต่เพราะระหว่างทางพวกเขาต้องรีบเรียนรู้ ดังนั้นฟู่จิ้นเชินจึงอยู่บนรถม้าฟู่จาวหนิงเป็นส่วนใหญ่ด้านหลังมีรถสัมภาระอีกหลายคัน ด้านหลังก็เป็นองครักษ์จวนอ๋องคุมท้ายเพราะล้วนเป็นคนที่ฝึกยุทธ์มา พวกเขาอยู่ท้ายขบวนจึงได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลัง ว่ามีคนไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1

    ณ เมืองหลวง แคว้นเจาบนถนนที่คึกคักหญิงสาวที่สวมชุดงดงามนางหนึ่งกำลังนำทหารหลายคนของนางไปดักขบวนแห่เจ้าสาวขบวนหนึ่งอย่างดุดัน“หลีกไป นี่คือคุณหนูใหญ่จากตระกูลของหมอเทวดาหลี่ หากว่าพวกเจ้าทำให้คุณหนูไม่พอใจระวังจะเดือดร้อน!” ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนต่างพากันรีบหลีกทางให้ในทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลง เหล่าชาวเมืองมองไปที่ขบวนแห่เจ้าสาวที่ถูกตกแต่งด้วยความรู้สึกเห็นใจ “นี่เจ้าสาวจากตระกูลไหนกันเนี่ย? ไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ขัดใจกัน?”“เจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทเซียวกับคุณหนูตระกูลฟู่ คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวนั่นก็ต้องเป็นคุณหนูฟู่นั่นแหละ”โครม เกี้ยวเจ้าสาวถูกทหารของตระกูลหลี่ใช้กำลังบังคับให้หยุดลง หลังจากที่เกี้ยวเจ้าสาวเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียงตุ๊บดังออกมา คล้ายจะเป็นเสียงของศีรษะที่กระแทกอะไรสักอย่าง“ไปเอาตัวฟู่จาวหนิงมา! แล้วก็ไปถอดชุดเจ้าสาวของนางทิ้งซะ!”คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ชี้นิ้วไปยังเกี้ยวเจ้าสาวก่อนจะสั่งออกมาอย่างวางอำนาจ ทันใดนั้นทหารรับใช้ก็วิ่งไปแล้วยื่นมือไปเปิดม่านบังเกี้ยวเจ้าสาวทันทียายเฒ่าผู้ดูแลพิธีที่ยืนอยู่ด้านข้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2

    สมองจาวหนิงผุดภาพร่างกายที่อ่อนแอของผู้เฒ่าฟู่ขึ้นมาฟู่จาวหนิงกับรัชทายาทเซียวเดิมทีมีการหมั้นหมายอยู่ สุขภาพผู้เฒ่าฟู่เองก็ย่ำแย่ลงทุกวัน ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือสามารถเห็นหลานสาวแต่งเข้าจวนตระกูลเซียวได้อย่างราบรื่น ได้มีที่พึ่งพิงในภายภาคหน้า แต่ตระกูลเซียวก็ไม่ยอมเอ่ยเรื่องงานมงคลเสียทีช่วงนี้อาการป่วยของผุ้เฒ่าฟู่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เขาเป็นลมหมดสติอยู่บ่อยครั้ง พอตื่นขึ้นมาก็จะคว้ามือของนางและกังวลเรื่องงานแต่ง ฟู่จาวหนิงก็ร้อนรน ดังนั้นแต่ละวันจึงเอาแต่เซ้าซี้รัชทายาทเซียว หลังถูกปฏิเสธมาหลายครั้ง นางจึงหยิบยกเอาคุณงามความดีที่บิดามารดาของนางเคยช่วยชีวิตองค์รัชทายาทไว้ออกมาให้องค์จักรพรรดิประทานจัดงานแต่งงานให้รัชทายาทเซียวก็ถูกบีบจนต้องจำใจยอมรับการแต่งงานกับฟู่จาวหนิงเซียวเหยียนจิ่งเองก็เป็นบุรุษรูปงามอันดับต้นๆ ในเมืองหลวงจริงๆ คิ้วกระบี่ดวงตาดอกท้อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเชิด รูปหน้ายอดเยี่ยม ร่างสูงโปร่ง เสื้อคลุมสักหลาดพอดีตัวดูสูงส่ง ขับเน้นร่างของเขาออกมาจนตัวดูเป็นคนแต่นิสัยเป็นสุนัขเสียอย่างนั้นไม่แปลกที่หลี่จื่อเหยาหลงใหลเขามาตลอดพอคิดถึงสถาน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 3

    เสียงโครมดังขึ้น เซียวเหยียนจิ่งรู้สึกว่าเลือดถูกต้มจนเดือดปุดขึ้นมาถึงกระหม่อม"ฟู่!จาว!หนิง!"เขากัดฟันเอ่ยชื่อฟู่จาวหนิงออกมาทีละคำๆนางกล้าดีอย่างไร จึงกล้ามาหยามหมิ่นเขาเช่นนี้?ชาวบ้านรอบๆ ก็ล้วนตาโตพูดไม่ออกกันหมด จากนั้นจึงมองพวกเขาทั้งสองและพยักหน้าเห็นด้วยแบบไม่รู้ตัว พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่คุณหนูฟู่พูดออกมานั้นถูกต้องเซียวเหยียนจิ่งจ้องนางอย่างเกลียดชัง "ฟู่จาวหนิง เจ้าอย่ามาเสียใจภายหลังแล้วกัน! ข้าตอนนี้จะคอยดู ว่าเจ้าจะไสหัวกลับไปอย่างไร! เจ้าอย่าลืมว่าปู่ของเจ้า ตอนนี้เขาก็เหมือนจะเหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วสินะ เจ้าเชื่อไหมว่าพอเจ้าเหยียบเข้าประตูจวนไปและเขารู้ว่าเจ้าถูกถอนหมั้น เขาคงขาดใจตายทันทีแน่?"ฟู่จาวหนิงจ้องเขาตาลุกโชนเซียวเหยียนจิ่งเจ้าผู้ชายขยะ ป่านนี้แล้วยังจะมาคุกคามนางอีก!แต่ฟู่จาวหนิงก็รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ผิดเลย ผู้เฒ่าฟู่เวลานี้คงทนรับเรื่องแรงๆ ไม่ไหวเซียวเหยียนจิ่งพอเห็นนางไม่โต้กลับ ก็หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมา "แล้วก็ที่เจ้าหยามหมิ่นรัชทายาทอย่างข้าวันนี้ ข้าจดจำไว้หมดแล้ว เจ้าอย่าได้หวังว่าจะหาสามีได้อีก"เขาจะคอยดูว่าตระกูลไหนจะก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 4

    "จวนอ๋องเซียว?"ชายหนุ่มในรถม้าพอลิ้มรสสามคำนี้ น้ำเสียงก็เปลี่ยนทันควัน "ไสหัวไปไกลๆ"เซียวเหยียนจิ่งตะลึงงันด้วยโทสะ รู้ถึงตัวตนฐานะเขาแล้ว แต่กลับยังไล่ให้เขาไสหัวไป?"ไม่ได้ยินที่ท่านอ๋องพูดหรือ?" ทหารตบลงที่หัวม้า ม้างามก็ยกเท้าหน้าขึ้นทันที ถีบพัดเซียวเหยียนจิ่งออกไปอย่างแรง"อ๊า!"เซียวเหยียนจิ่งถูกม้าถีบจนปลิว ตกกระแทกลงไปที่หน้าหลี่จื่อเหยาพอดี นางรีบร้อนเข้าไปประคองตัวเขา "พี่เซียว!"นางกระโจนตัวขึ้น ถลึงตาไปทางรถม้าด้วยความโกรธ "อ๋องเจวี้ยนอะไรกัน! คุณหนูอย่างข้าไม่เห็นจะเคยได้ยิน ขนาดพี่ชายองค์รัชทายาทก็ยังรักข้ายอมให้ข้ามาตลอด แล้วเจ้าสูงส่งกว่าท่านพี่องค์รัชทายาทหรือ? ข้าจะบอกเจ้านะ บิดาข้าคือหมอเทวดาหลี่!"ทหารที่เดิมทีชักกระบี่ออกมาแล้วพอได้ยินคำว่าหมอเทวดาหลี่ ท่าทางก็หยุดลงทันที เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิง ลังเลขึ้นมา"อ๋องเจวี้ยนจะเสียเวลาอีกไม่ได้ โทษของเจ้าคนโง่ที่ไม่เคารพต่อท่านอ๋อง ข้าจะสั่งสอนนางแทนท่านอ๋องเอง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงขรึม กระชากกระบี่ของทหารออกมา สาวเท้าขึ้นหน้าไปทางหลี่จื่อเหยา ชูกระบี่ แสงเย็นวาบ เสียงแควกดังขึ้น หลี่จื่อเหยารู้สึกหน้าอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 5

    แม่เฒ่าประคองมือของนาง ตื่นเต้นจนเสียงสั่นพร่าไปหมด"พระชายา ท่านเดินดีดีหน่อยสิ ไอ๊หยาท่านดูสิ พรมแดงก็ปูมาอยู่หน้าเกี้ยวเจ้าสาวแล้ว ที่ประตูยังมีขบวนสาวรับใช้อยู่อีก แต่งกันด้วยเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม นั่นสิเรียกว่าความสุข!""แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเวลาเพียงแค่นี้ จวนอ๋องเจวี้ยนก็จัดการไว้หมดแล้ว"ฟู่จาวหนิงถูกประคองเข้าประตู และได้ยินเสียงตื่นเต้นของแม่เฒ่าพูดกับนางมาตลอดทาง ในใจก็ประหลาดใจอย่างมากเช่นกันหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนรับปากจะแต่งงานบนถนน ระหว่างทางพวกเขาคงจะสั่งคนให้รีบกลับไปถ่ายทอดคำสั่งที่จวนอ๋องอย่างแน่นอน จากนั้นจึงจัดการตระเตรียมขึ้นมาให้ตายเถอะ นางประเมินอ๋องเจวี้ยนคนนี้ต่ำไปใช่ไหมนะกอดความสงสัยนี้ ฟู่จาวหนิงถูกประคองมาถึงโถงรับแขกกลางสวนดอกไม้แห่งหนึ่ง จากนั้นมีสาวใช้สองคนเดินเข้ามารับช่วงต่อจากยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการ"ข้าน้อยเฝิ่นซิงคารวะพระชายา""ข้าน้อยหงจั๋วคารวะพระชายา"เสียงหญิงสาวทั้งสองใสกังวาน หลังจากคารวะต่อฟู่จาวหนิงแล้วจึงอธิบายสถานการณ์กับนาง"พระชายา เวลานี้โถงพิธีการกับห้องหอกำลังจัดเตรียม ท่านอ๋องต้องไปเปลี่ยนชุดมงคล ข่าวการแต่งงานต้องเข้าวังเพื

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 6

    "ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรไหม?"ชิงอีหันไปมองอ๋องเจวี้ยนอย่างตึงเครียด"ลากออกไป" อ๋องเจวี้ยนสีหน้าไร้อารมณ์"ขอรับ!"แม่นมทั้งสองคนยังคิดจะตะโกน แต่ก็ถูกกดจุดขมับแล้วลากออกไปชิงอีจึงหมุนตัว มองไปยังใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว และก็มองเห็นด้านหลังอ๋องเจวี้ยนมีฟู่จาวหนิงยื่นหัวออกมา รู้สึกสงสัยอย่างหนักหญิงสาวที่ชิงกระบี่จากมือเขาได้อย่างรวดเร็ว แต่พอเจอกับแม่นมสองคนกลับปอดแหกขึ้นมาหรือ?แต่ว่าพอเขาคิดอีกทีก็ไม่แปลก ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นคนของฮองเฮา ฟู่จาวหนิงจะกล้าลงมือกับคนของฮองเฮาได้อย่างไร"ท่านอ๋อง จะกราบไหว้ฟ้าดินไหม" เขาถามขึ้นฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาถามเช่นนี้ก็เดินออกมาจากด้านหลังอ๋องเจวี้ยน "ดังนั้น พวกเจ้าที่แท้ไม่คิดจะกราบไหว้ฟ้าดินหรอกหรือ?"ชิงอีนิ่งงัน แต่สายตาที่มองนางกลับตกตะลึงขึ้นมาเขาคิดว่าฟู่จาวหนิงที่ไม่กรีดร้องเมื่อครู่ เพราะว่านางยังไม่เห็นใบหน้าของท่านอ๋อง แต่ตอนนี้นางกลับมองท่านอ๋องด้วยสีหน้าปกติ เห็นได้ชัดว่ามองเห็นแล้วนางไม่กลัวแผลเป็นของท่านอ๋องหรือ?"กราบไหว้ฟ้าดิน พิธีแต่งงานใหญ่" อ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิงอย่างลึกซึ้ง "เจ้าแน่ใจว่าจะไ

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1680

    เพราะเมื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืน ตอนเช้าในช่วงเส้นทางนี้ ความเร็วขบวนรถจึงเน้นไปที่ความเสถียรเป็นหลักฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าจากเมืองหลวงไปเมืองเจ้อน่าจะสามสี่วันก็ไปถึง แต่ต่อมาพอถามฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน จึงรู้ว่าที่เซียวหลันยวนบอกว่าสามสี่วันไปถึง นั่นคือความเร็วของการขี่ม้าคนเดียวแต่แบบพวกเขาที่ขนสัมภาระมากมายเช่นนี้ กลางคืนยังต้องเข้าพัก หยุดพักเพื่อกินข้าวสามมือ ก็ต้องใช้เวลาประมาณหกวัน บวกกับเรื่องฝนหรืออย่างอื่น ความเร็วก็จะยิ่งช้าลง อาจจะไปถึงเจ็ดแปดวันดังนั้นนางจึงส่งองครักษ์สองคนขี่ม้านำไปสำรวจทางข้างหน้าก่อนแล้ว ถึงแม้จะไม่ถึงในสามสี่วัน แต่ก็หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกและเพราะไปได้ช้า จึงถูกคนอื่นตามขึ้นมาแล้วรถม้าของอันเหนียนอยู่หน้าขบวน ฟู่จาวหนิงนั่งอยู่รถม้าคันกลาง เดิมทียังมีรถม้าของฟู่จิ้นเชินตามอยู่ด้านหลังอีก แต่เพราะระหว่างทางพวกเขาต้องรีบเรียนรู้ ดังนั้นฟู่จิ้นเชินจึงอยู่บนรถม้าฟู่จาวหนิงเป็นส่วนใหญ่ด้านหลังมีรถสัมภาระอีกหลายคัน ด้านหลังก็เป็นองครักษ์จวนอ๋องคุมท้ายเพราะล้วนเป็นคนที่ฝึกยุทธ์มา พวกเขาอยู่ท้ายขบวนจึงได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลัง ว่ามีคนไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1679

    ไฉ่เอ๋อร์ร้อนใจขึ้นมานี่เหมือนแม่นางจะเอาจริงหรือ?"ต่อให้อายุสามสิบ อายุนี้ก็คงจะมีภรรยาอยู่แล้ว จะต้องมีลูกแล้วแน่นอน"หรือว่าแม่นางคิดจะไปเป็นอนุ?"เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าแบกรับชื่อเสียงแบบไหนอยู่?" จูเฉียนเฉี่ยนหัวเราะขืนๆ ขึ้นมา "ข้าเป็นพวกดวงกินผัวนะ คนแรกที่ตายไปก็คู่หมั้นตอนเด็ก คนที่สองคู่หมั้นที่เพิ่งจับเทียบวันเดือนปีเกิดก็ตายอีก คนที่สาม ข้าขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแล้วแท้ๆ เขาดันตาอย่างกะทันหันในบ้านอีก"ได้ยินนางพูดเช่นนี้ ไฉ่เอ๋อร์ปากก็อ้าพะงาบ ขั่วขณะหนึ่งไม่รู้จะพูดอะไรดีเลย"ก็แค่เพราะชื่อเสียงนี้ของข้า พ่อแม่ข้าถึงได้ให้ข้าอย่าอยู่ในบ้าน ไปเมื่อเจ้อแล้วพึ่งพาป้าหรอกหรือ?"จูเฉียนเฉี่ยนใช้ตะเกียบแทงข้าวสวย ถอนหายใจ "ไปเมืองเจ้อแม้จะไม่มีคนรู้อดีตที่น่ากลัวของข้า แต่ถ้าหากยังมาคุยเรื่องแต่งงานอีก แล้วดวงกินผัวข้าเล่นอีกฝ่ายจนตายจะทำอย่างไร?""นั่น..." ไฉ่เอ๋อร์เอ่ยขึ้นแผ่วเบา "แล้วแม่นางตามผู้มีพระคุณคนนี้ ไม่กล้วว่าเขาก็จะ..." โดนดวงกินผัวเล่นจนตายหรือ?"นั่นจะไม่กลายเป็นตอบแทนคุณด้วยการทำร้ายหรือ?" จู่เฉียนเฉี่ยนส่ายหัว "ข้าไม่มีทางเป็นคนไร้คุณธรรมแบบนี้ ดังนั้น ข้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1678

    ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่พวกเขาเข้ามา แม่นางคนนี้ก็ลุกขึ้นพวกอันเหนียนนั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง คนมากมายนั่งกันอยู่หลายโต๊ะ กับข้าวเองก็ทยอยกันขึ้นมาแล้ว พอเห็นพวกเขาเข้ามา เสี่ยวเยว่ก็ลุกขึ้นทันที "คุณหนู ทางนี้"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า พวกเขาจะเดินไปทางนั้นต้องผ่านโต๊ะหลายตัวตอนที่พวกเขาเดินไป แม่นางคนนั้นก็เดินสุะดุดมาขวางหน้าฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหยุดลง สบสายตากับนาง เลิกคิ้วงามเล็กน้อย"เอ่อ น้องสาว ข้าสกุลจู ชื่อว่าจูเฉียนเฉี่ยน ข้าเลี้ยงเจ้าดีไหม? ในเมื่อมีวาสนามมาเจอกันที่จุดพักม้าแล้ว คุยกันหน่อยเป็นไร?""ไม่ต้องล่ะ พวกเราเองก็เตรียมจะกินพอดี เห็นไหม?" ฟู่จาวหนิงชี้ไปทางอันเหนียน"คุณชายคนนี้เป็นสามีเจ้าหรือ? พวกเจ้าเหมาะสมกันดีจริง" จูเฉียนเฉี่ยนมองไปทางอันเหนียนคำพูดของนางเองก็ไม่ได้มีเจตนาอะไร พอนางเห็นว่าอันเหนียนกับฟู่จาวหนิงอายุใกล้เคียงกัน ยิ่งไปกว่านั้นรูปลักษณ์ภายนอกก็ยังเข้ากันด้วย"ไม่ใช่" ฟู่จาวหนิงตอบ"หา? เช่นนั้นก็ขอโทษด้วย ข้าบุ่มบ่ามไปเสียแล้ว...""แม่นางก็ดูจะบุ่มบ่ามจริงนั่นล่ะ" ฟู่จาวหนิงตัดบทนาง ยื่นมือออกมาผลักเธอไปข้างๆ เบาๆ "ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายังรบกวนเวลา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1677

    ฟู่จิ้นเชินกำลังจะหมุนตัวออกไป"ช้าก่อน!"แมนางคนนั้นร้องเรียกขเา "ทำไมท่านเห็นข้าแล้วก็จะหนีล่ะ?"ฟู่จิ้นหยุดยืน สงสัยหน่อยๆพูดแบบนี้ ราวกับพวกเขารู้จักกันอย่างนั้นเขาเห็นนางแล้วจะเดินออกไปเสียที่ไหน? ก็แค่เพราะจะไปจ้องแม่นางแปลกหน้าไว้ก็คงไม่ดีนัก มันผิดหรือไรกัน?"แม่นาง ข้าไม่ใช่คนของที่พักม้า" เขาอธิบายขึ้นมาเสียงอบอุ่นดังนั้นถ้ามีเรื่องอะไร ก็ไปหาคนของจุดพักม้านู่น ไม่ใช่มาหาเขา ทุกคนก็เป็นแขกที่มาพักที่นี่กันทั้งนั้น"ข้าก็มองออกอยู่ ในที่พักม้ามีแต่คนหยาบกร้าน ท่านไม่เหมือนกับพวกเขาเลย"ฟู่จิ้นเชินถอยออกมาหลายก้าว "เช่นนั้นแม่นางมีเรื่องอะไรหรือ?""ก็ไม่มีอะไร แค่มาพักในที่พักม้าเท่านั้น พอเห็นว่าที่นี่มีคน ก็เลยอยากรู้ว่าเป็นใคร เช่นนี้ถึงจะได้วางใจหน่อย ดังนั้น ขอถามชื่อท่านหน่อยได้หรือ?"สาวใช้มองแม่นางของตนเอง คิดจะพูดอะไรแต่ก็หยุดไว้นี่มันใช้เรื่องที่หญิงสาวควรทำไหม? แต่นางเองก็เป็นแค่สาวใช้ จะไปเจ้ากี้เจ้าการอะไรแม่นางได้"ข้าน้อยสกุลฟู่ ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร แม่นางตามสะดวกเถิด" ฟู่จิ้นเชินพูดจบก็หมุนตัวรีบเดินไปทางนั้น อันเหนียนยืนอยู่หลังเสา พอเขาเข้าไป ก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1676

    เศรษฐีฟางดีใจมาก ฟู่จิ้นเชินชมลูกสาวตนเองเช่นนี้ เขาเองก็รู้สึกว่าเขาก็เป็นคนดี "คุณชายฟู่ พระชายาอ๋องเจวี้ยนเองก็เป็นคนดีมาก ท่านกับฮูหยินฟู่หลังจากนี้ก็ดีกับนางหน่อยล่ะ เด็กคนนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ""แน่นอน"ยังดีที่ฝนไม่ได้ตกนานมาก พวกเขาคุยกันครู่หนึ่ง ฝนก็หยุดแล้วพวกเขาจึงรีบเดินทางต่อหลังจากนั้นสองชั่วยาม ตอนที่ราตรีเข้ามาก็มาถึงจุดพักม้าแห่งหนึ่ง ใช้ค้างแรมได้"ก่อนหน้านี้ส่งคนเข้ามาแจ้งช่วงเวลาที่น่าจะมาถึง พวกเขาก็น่าจะเตรียมข้าวปลาอาหารไว้แล้ว คุณชายฟู่ พระชายา พวกท่านไปล้างหน้าล้างตากันก่อน อีกเดี๋ยวค่อยลงมาท่านข้าวเถอะ" อันเหนียนเอ่ยขึ้น"ได้" ฟู่จาวหนิงรับขึ้นมาเสียงหนึ่ง"คุณหนู" เสี่ยวเยว่ที่แต่งเป็นเชายเดินเข้ามา "ข้าไปเตรียมน้ำให้ท่านนะ""เสี่ยวเยว่?"ฟู่จาวหนิงมองฟู่จิ้นเชิน เสี่ยวเยว่เดิมทีอยู่ที่บ้านตระกูลฟู่ นางเองก็ไม่ได้เอาสาวใช้มาที่เมืองเจ้อด้วย คิดไม่ถึงว่านางจะตามมาแล้ว"ให้นางติดตามไปเถิด ข้างกายเจ้ามีสาวใช้อยู่บ้างก็ดูสะดวกดี" ฟู่จิ้นเชินทักมาคนก็ตามมาแล้วด้วย จะทำอย่างไรได้อีกกัน?ฟู่จิ้นเชินเสริมขึ้นมาอีกคำหนึ่ง "นี่เป็นความต้องการของอ๋องเจวี้ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1675

    อันเหนียนยื่นมือไปประคองฟู่จาวหนิง แต่เขาเพิ่งยื่นมือออกไป ตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้ากับเสียงฟางซือฉิงด้านหลัง สีหน้าก็จริงจังขึ้นมา หดมือกลับไปเขาเอียงตัว ให้ฟางซือฉิงผ่านเข้าไปจากนั้นก็ส่งสายตากับฟู่จิ้นเชิน"คุณชายฟู่ เข้าไปในวัดหลบฝนก่อนเถิด" อันเหนียนเอ่ยขึ้นเสียงอ่อนโยน"เชิญท่านผู้ตรวจการอัน"ฟู่จิ้นเชินส่งร่มให้ฟู่จาวหนิง ส่วนตนเองก็เข้าไปในร่มของอันเหนียนฟู่จาวหนิงกางร่ม กระโดดลงมาจากรถม้า ยื่นร่มไปกางบนหัวฟางซือฉิง "ทำไมถึงวิ่งมาที่นี่ล่ะ? ระวังเปียก""จาวหนิง" ฟางซือฉิงใช้ศอกสะกิดนาง จากนั้นมองไปทางอันเหนียน ประชิดตัวนางเอ่ยขึ้นเบาๆ "ผู้ตรวจการชิงนี่อ่อนโยนดีจัง"ภาพที่อันเหนียนกางร่ม แล้วยื่นมือไปหาฟู่จาวหนิงนั่น น่าดูจริงๆแต่นางก็กล้าคิดแค่ในใจ ไม่กล้าพูดออกมาแค่คิดเช่นนั้นก็รู้สึกผิดต่ออ๋องเจวี้ยนแล้วฟู่จาวหนิงตีนาง "ผู้ตรวจการอันโอ่นโยนกับองค์หญิงหนานฉือมากกว่าอีก""อืมอืม"ฟางซือฉินเองก็ไม่กล้าพูดมากกว่านี้"พระชายา รีบเดินเร็ว" ฮูหยินฟางกวักมือหาพวกนาง "ซือฉิงเด็กคนนี้นี่ อายุตั้งเท่าไรแล้ว ยังจะกระโดดโลดเต้นแบบนี้อีก"ยืนรออยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว จะวิ่งแจ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1674

    ด้านนอกรถม้าจู่ๆ มีเสียงเคาะเปาะแปะ และถี่มากฝนตกแล้วเม็ดฝนค่อนข้างใหญ่ แรงที่กระทบตัวรถม้าไม่เบาเลยเสียงพูดคุยด้านนอกก็ดังเพิ่มขึ้นมา พวกเขาล้วนตะโกนให้เร่งความเร็ว วิ่งตรงไปอีกหน่อย ลองดูว่าข้างหน้ามีจุดให้หลบฝนบ้างไหมสองฟากฝั่งถนนทางการก็โล่งโจ้ง ไม่มีต้นไม้ไม่มีเพิ่งน้ำชา ชั่วขณะหนึ่งยังหาที่หลบฝนไม่ได้หิมะแม้จะละลายไปมากแล้ว แต่ตอนนี้พอฝนตกถนนก็เป็นดินโคลนและยังเปียกลื่นด้วยพวกเขานำของมาไม่น้อย หากพลิกคว่ำไปจะสกปรกเอา"ตอนนี้ทำไมมีฝนตกได้เนี่ย?"สืออีที่ขี่ม้าอยู่ด้านนอกก็พูดกับสือซานขึ้นมา"อากาศช่วงครึ่งปีนี้เดิมทีก็ประหลาดอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะมีผู้ประสบภัยตั้งมากมายได้อย่างไร" สือซานถอนใจ "ไม่เช่นนั้นผู้คนจะพูดหรือว่าดวงชะตาของแคว้นเจาเดินมาถึงปลายทางแล้ว?"ดวงชะตาเดินถึงปลายทางแล้ว เช่นนั้นก็อาจจะเกิดภัยธรรมชาติหรือหายนะจากมนุษย์ได้สินะ?ถึงอย่างไรสถานที่ต่างๆ ก็ล้วนประสับภัยกัน พวกเขาทางนี้จู่ๆ ฝนตกหนักก็เหมือนจะไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร"อย่าพูดจาไร้สาระ รีบเร่งเดินทางเถอะ เพิ่มความระมัดระวังด้วย" สืออีตะคอกขึ้นมาคนตระกูลฟางที่รออยู่ในวัดภูเขาแห่งหนึ่งด้าน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1673

    ฟู่จาวหนิงในเมื่อถามขึ้นมาแล้ว เขาจึงบอกกับนางอย่างตั้งใจ"ยังมีอีกเรื่อง ข้าอยากจะเปิดโรงศึกษา ไปเป็นอาจารย์"ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าเขาอยากเป็นอาจารย์สอนหนังสือด้วย"อันที่จริงตอนนั้นถ้าหากข้าไม่ได้ออกไป ข้าก็เกือบได้เดินในสองเส้นทางนี้แล้ว ถ้าหากสอบติดขั้นสูง ก็เข้าวังเป็นข้าราชการ ถ้าหากสอบไม่ผ่าน ก็จะทำโรงศึกษาเพื่อสอนผู้คน"ฟู่จิ้นเชินยิ้มๆ นั่งลงให้สบายอีกหน่อยท่าทางของเขาดูมีรสนิยมอย่างเป็นธรรมชาติ แม้จะเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่ก็ยังดูดีมีเสน่ห์กว่าคนหนุ่มสาวเสียอีก"แต่ว่า เรื่องเหล่านี้มันก็เป็นแค่ความฝัน"คำพูดฟู่จิ้นเชินหักเปลี่ยน มองฟู่จาวหนิง "ข้าไม่รีบร้อนตั้งเป้าหมายอะไรให้ตนเอง เพราะข้ายังรู้สึกได้รางๆ ว่าช่วงสองปีนี้สำหรับแคว้นเจาของพวกเราแล้ว อยู่ในจุดเปลี่ยนที่ยากจะคาดเดา""หมายความว่าอย่างไรหรือ?"ฟู่จาวหนิงนั่งตัวตรง"องค์จักรพรรดิไม่ยอมรับอ๋องเจวี้ยน"นี่คือความจริง แต่ที่ทำให้ฟู่จิ้นเชินพูดออกมาตรงๆ ฟู่จาวหนิงเองก็ยังรู้สึกหดหู่ขึ้นมาบ้าง"ใช่ไหมล่ะ? ท่านว่าทำไมองค์จักรพรรดิถึงได้ใจแคบนักนะ? อันที่จริงเซียวหลันยวนไม่ได้คิดจะนั่งตำแหน่งนั้นด้วยซ้ำ แต่องค์

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1672

    ในเดือนหนึ่ง แถบเมืองหลวงมีฝนตกน้อยมาก น่าจะต้องรอจนถึงเดือนสองแต่ว่าตอนนี้ฟ้าจู่ๆ ก็มืดลง หม่นๆ มืดครึ้ม เหมือนฝนจะตกกลุ่มนี้ของพวกขเายังไม่มีไปรวมกับขบวนพ่อค้าของตระกูลฟาง ยังต้องเดินอีกระยะหนึ่ง ขบวนพ่อค้าตระกูลฟางรอพวกเขาอยู่ที่ริมทางด้านหน้าหลังจากรวมกันต้องเร่งระยะทางอีกครึ่งวันจึงจะไปถึงสถานที่ที่เหมาะจะพักแรม แต่ถ้าถูกฝนนี้ทำให้ล่าช้า พวกเขาคืนนี้คงจะไปกันไม่ถึง แล้วต้องเดินทางกันตลอดทั้งคืน"ไปบอกพระชายาหน่อย พวกเราต้องเพิ่มความเร็ว"อันเหนียนกลัวว่าจู่ๆ ถ้าเพิ่มความเร็วขึ้น ฟู่จาวหนิงจะสงสัย ดังนั้นจึงต้องให้คนไปแจ้งนางหน่อย"่ขอรับ"อันเหนียนครั้งนี้พาผู้ติดตามมาสองคน คนหนึ่งชื่อเสี่ยวเจียง อีกคนหนึ่งชื่อเสี่ยวเจิ้งทั้งสองคนดูแล้วฉลาดเฉลียวคล่องแคล่ว เสียวเจียงพอได้ยินคำพูดของอันเนหียน ก็รีบวิ่งไปทางรถม้าของฟู่จาวหนิง เคาะๆ กำแพงรถม้าเสียก่อน"พระชายา ท้องฟ้าดูไม่ดีเลย เหมือนฝนกำลังจะตก ใต้เท้าของข้าบอกว่าต้องเร่งความเร็วเดินทาง รถม้าอาจจะเขย่าหน่อย พระชายาโปรดให้อภัยด้วย"ฟู่จาวหนิงเลิกม่านออก พอเห็นเสี่ยวเจียง ก็มองไปยังท้องฟ้า พยักหน้าให้"เข้าใจแล้ว"เสี่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status