ฟู่จาวหนิงรับมือกับเซียวหลันยวนไปเรียบร้อยถ้ารู้แต่แรกคงไม่บอกเขาแล้ว พอพูดออกไป ความสนใจเขาเลยพุ่งไปอยู่ที่ “งานวิจัยน้อย” นั่นเสียแล้วก่อนที่จะนอนเซียวหลันยวนยังถอนหายใจ การไปช่วยผู้ประสบภัยครั้งนี้ นางจะต้องไม่มีเวลาไม่มีความคิด จนต้องเลื่อนเจ้างานวิจัยเล็กนี้ออกไปก่อนแน่นอนเดิมทีทั้งสองคนกำลังพูดเรื่องเป็นการเป็นงานอยู่ หัวข้อสนทนาตอนหลังก็เปลี่ยนไปแล้ววันต่อมา ฟู่จาวหนิงตื่นตอน เฝิ่นซิงกับหงจั๋วเองก็เข้ามาช่วยนางแต่งตัว"พระชายา ครั้งนี้ท่านหญิงปิงอวี้คนนั้นจะต้องพยายามทำให้ตัวเองดูดีมีเสน่ห์แน่นอน ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นการพบคนครั้งแรกหลังจากนางขึ้นเป็นท่านหญิง ดังนั้น ท่านเองก็จะทำชุ่ยไม่ได้ จะต้องแต่งตัวให้ดูดี"สองสาวใช้เมื่อคืนนี้หารือกันค่อนคืน ว่าวันนี้จะให้พระชายาใส่อะไร สวมอะไรฟู่จาวหนิงหัวเราะอย่างจนใจ"ข้าไม่ได้ไปแย่งชิงอะไรกับนางเสียหน่อย""พวกเรารู้ว่าพระชายาอย่างท่านไม่ไปแย่งอะไรกับใคร แต่พวกเราก็ไม่อยากให้คนอื่นมาดูถูกท่าน!"ฟู่จาวหนิงถูกพวกนางดึงมาที่หน้ากระจก ยังไม่ทันนั่งลง พวกนางก็หยิบชุดกระโปรงหรูหราออกมาแล้ว นำมาเทียบบนตัวนาง"ชุดนี้หรือ?""รู้สึก
"พรวด" ฟู่จาวหนิงสนุกขึ้นมาแล้ว "มองมาตั้งนานขนาดนี้ ยังไม่เบื่ออีกหรือ?"ได้ยินว่าชายหนุ่มรักความสดใหม่ ไม่ว่าภรรยาจะสวยแค่ไหน ดอกไม้ป่าข้างนอกที่แตกต่างก็ย่อมดึงดูดพวกเขาได้"ไม่มีทางเบื่อ" เซียวหลันยวนกอดนาง"ท่านรักข้าแค่เปลือกนอกจริงๆ ด้วย" ฟู่จาวหนิงจงใจพูดขึ้น"รักหมดนั่นล่ะ รูปลักษณ์ของเจ้าข้าชอบหมด แต่ถ้ามีแต่รูปลักษณ์ภายนอก คงชอบได้ไม่นานนัก ทว่าพอมีเจ้าอยู่ด้านใน ความชอบนี้จึงยั่งยืนยาวนาน"ใครไม่รักความสวยความงามบ้างล่ะ? แต่ความงามก็เป็นแค่ความประทับใจแรกพบ หากจะทำให้ยั่งยืน ก็ต้องมีจิตวิญญาณด้วยเขาโชคดีแค่ไหน ที่มีภรรยาแบบนี้ ภายนอกกับจิตวิญญาณเขารักมันทั้งหมด"เซียวหลันยวน ท่านตอนนี้ยิ่งปากหวานขึ้นทุกวันแล้วนะ"ฟู่จาวหนิงเพิ่งเงยหน้า ริมฝีปากก็ถูกเขากดลงมา"ประทินปาก..." ของข้าประทินปากของฟู่จาวหนิงนางทำขึ้นมาเอง ใส่แต่วัตถุดิบที่ไม่มีพิษอย่างพวกน้ำผึ้งดอกไม้เข้าไป ดังนั้นจึงดูมันวาวเป็นพิเศษ แล้วยังเป็นสีธรรมชาติ ไม่เหมือนกับที่ด้านนอกขายกัน ที่มีแต่แดงก่ำ แดงดอกท้อ แดงเลือดดันั้นหลังจากทาแล้วจึงดูน่าดึงดูดพอเห็นนาง เซียวหลันยวนก็อดเข้ามาจูบไม่ได้แล้วจู
ฟู่จาวหนิงหัวเราะ"ความสัมพันธ์มันก่อตัวขึ้นมานั่นล่ะ ก่อหนน้านี้ก็มีช่วงที่เขาทำให้ข้าโมโหแทบคลั่งตายเหมือนกัน"ยิ่งไปกว่านั้นตอนแรกสุด พวกเขายังมีความสัมพันธ์แบบจะฆ่ากันตายจริงๆ ด้วยก่อนหน้านางนี้นางแอบด่าเซียวหลันยวนว่าเป็นผู้ชายหมาๆ น้อยเสียที่ไหน"จริงหรือ? ตอนนี้มองไม่ออกเลยว่าอ๋องเจวี้ยนจะทำให้เจ้าโมโหได้"ถ้าไม่ได้เห็นกับตา ใครจะเชื่อว่าอ๋องเจวี้ยนที่ถูกือกันว่าเย็นชาอย่างมากมาแต่ไหนแต่ไร จะโปรดปรานฟู่จาวหนิงเสียขนาดนี้?น้ำเสียงเวลาพูดจาก็หวานหยดย้อย"ตอนนี้ดีมากจริงๆ"โดยเฉพาะเมื่อคือน หลังจากที่พูดว่าไม่อยากให้นางมีโอกาสต้องดื่มยาน้ำเลี่ยงตั้งครรภ์ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าเซียวหลันยวนหล่อเหลากว่าแต่ก่อนเยอะเลยชายหนุ่มที่สามารถสะกดความบุ่มบ่ามของตนเองเพื่อสุขภาพร่างกายของนางได้ ต้องบวกคะแนนให้จริงๆ"แต่ว่า จาวหนิง อ๋องเจวี้ยนยังคงสวมหน้ากากอยู่ หน้าของเขายังไม่ดีขึ้นหรือ?"หลังจากฟางซือฉิงเข้ามา เซียวหลันยวนก็สวมหน้ากากไว้แล้วเมื่อวานนางไม่กล้ามองหน้าเขา วันนี้ก็มองไม่เห็นหน้าเขาแล้วฟางซือฉิงเดิมทีรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ควรพูดมาก กลัวว่าถ้าไปสาดเกลือใส่แผลฟู่จาวหน
ยิ่งไปกว่านั้น เทียบกับตอนที่ฟู่จาวหนิงมาก่อนหน้านี้ประดับประดาเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอย่างเช่น โคมไฟสลักงานปักที่เป็นเอกลักษณ์พวกนั้นตอนนี้แม้จะเป็นกลางวัน ดคมไฟวังยังไม่จุดสว่าง แต่ตอนกลางวันก็ยังมองเห็นงานเย็บปักด้านบนนั้นอย่างชัดเจน แต่ละชิ้นล้วนวิจิตรประณีต ฝีมือไม่ธรรมดามีคุณหนูหลายคนกำลังชื่นชมโคมไฟวังเหล่านั้น ดูชอบกันมาก แต่ละคนดูหลงใหลจนวางไม่ลงกันเลยทีเดียว"ข้าอยากจะเอากลับไปสักใบจัง สวยกมากเลย เมืองหลวงของพวกเราไม่มีปรากฏโคมไฟงานปักแบบนี้มาก่อนเลย""สวยมากจริงๆ นั่นล่ะ ท่านหญิงปิงอวี้กับฮูหยินเฉินเอาแค่ฝีมือด้านนี้ ก็ทำให้พวกนางเป็นที่สนใจในเมืองหลวงได้แล้ว"ฟู่จาวหนิงได้ยินคำวิจารณ์ของเหล่าแม่นางพวกนั้น ฟางซือฉิงเองก็ดูสนใจกับโคมไฟวังเหล่านั้นเหมือนกัน มองๆ ฟู่จาวหนิง สีหน้าก็ประหลาดใจหน่อยๆ"ทำไมหรือ? เจ้าอยากไปดูโคมไฟวังพวกนั้นหรือ? อยากดูก็ไปดูสิ""เจ้าไม่ใช่ไม่ชอบเฉินฮ่าวปิงหรือ? เจ้าไม่ชอบ ข้าก็ไม่ชอบ" เฉินฮ่าวปิงบอกฟู่จาวหนิงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่"ไม่ถึงกับต้องขนาดนั้น ถึงข้าจะรู้สึกไม่ค่อยดีกับเฉินฮ่าวปิงนัก แต่ว่า งานปักของพวกนางก็ประณีตสวยง
แม่ลูกฮูหยินเฉินหลังจากมาถึงเมืองหลวงแคว้นเจา ตอนแรกสุดไม่มีที่จะอยู่ด้วยซ้ำ ยังต้องอาศัยอยู่กับต่งฮ่วนจืออยู่เลยดังนั้นถ้าบอกว่าพวกนางมีเงิน ฟู่จาวหนิงยิ่งไม่เชื่อฟางซือฉิงดูไปพักหนึ่งจึงเข้ามา บอกกับนางเสียงแผ่วว่า "โคมไฟวังพวกนี้ใช้ผ้าไหมวาวระยับของต้าชื่อมาปัก ผ้าไหมวาวระยับแพงมากเลยนะ ปกติต้งจะเอามาทำฉากกั้นลม พัดกลม หรือพวกหน้าต่างอะไรพวกนั้น คนปกติทั่วไปไม่มีทางได้ใช้""เจ้ารู้จักผ้าไหมวาวระยับด้วยหรือ?""พ่อข้าเปิดร้านผ้านี่นา ไม่ใช่แค่ขายแต่ผ้าที่บ้านพวกเราทำออกมาเท่านั้น ยังมีผ้าไหมชั้นดีที่หาจากแคว้นต่างๆที่แคว้นเจาไม่มีด้วย บางครั้งก็มีคนมาหาซื้อของที่โดดเด่นไม่มีใครซ้ำ ผ้าไหมวาวระยับนี่พวกเราก็มีอยู่หลายม้วน แพงมาก"ตระกูลฟางทำการค้ากว้างไกล รู้จักข้าวของก็กว้างตาม ฟางซือฉิงจึงรู้จึกมากขึ้นหน่อย"ถ้าอย่างนั้นโคมไฟวังมากขนาดนี้ ดูท่าแต่ละใบราคาคงไม่ธรรมดาเลย""ใช่ เดิมทีแค่ผ้าไหมวาวระยับก็แพงแล้ว บวกกับงานปักชั้นสูงนี่อีก ใบละร้อยตำลึงยังถือว่าถูกไปเลย" ฟางซือฉิงเอ่ยขึ้นพอนางพูดจบก็ยังประหลาดใจหน่อยๆ ถึงอย่างไรที่นี่ก็มีโคมไฟวังอยู่อย่างน้อยสิบหกใบแล้ว นี่ถือว่าไ
ดังนั้นคนไม่น้อยจึงหัวเราะเยาะนาง อยากจะดูว่านางจะใช้ชีวิตเวทนาแค่ไหนตอนนี้พอได้เห็น องค์หญิงหนานฉือก็เหมือนจะงดงามกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด สายตาพริ้วไหวดูมีเสน่ห์ดึงใจอย่างมาก"ดูจากสภาพขององค์หญิงหนานฉือ น่าจะได้รับความโปรดปรานน่าดูเลยกระมัง?""ผู้ตรวจการอันเป็นอัจฉริยะลือชื่อในเมืองหลวงเราเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังหล่อเหลามากด้วย"ใช่ไหมล่ะ ก่อนหน้านี้ยังมีแม่นางตั้งมากมายชอบผู้ตรวจการอันเถอะ น่าเสียดายที่ผู้ตรวจการอันไม่ค่อยออกไปเที่ยว คนที่รู้จึงมีไม่เยอะ ยิ่งไปกว่านั้นยังเคยบอกว่าไม่อยากรีบแต่งงานไม่เช่นนั้นจะวนมาถึงองค์หญิงหนานฉือได้อย่างไรกัน?ตอนนี้พอเห็นองค์หญิงหนานฉือดูดีราศีจับเหมือนเลี้ยงดูมาอย่างมีความสุขเช่นนี้ ก็มีแม่นางหลายคนอดรวดร้าวขึ้นมาไม่ได้ผู้ตรวจการอันต้องดีกับนางมากแน่นอน ไม่เช่นนั้นนางไม่มีทางดูมีความสุขขนาดนี้"ตระกูลของผู้ตรวจการอันก็มีคุณธรรมด้วย ไม่มีการรับอนุภรรยา ไม่มีเรื่องวุ่นวายเหล่านั้นของพวกเรือนหลัง ดูท่าองค์หญิงหนานฉือกับน้องสะใภ้อันชิงก็น่าจะเข้ากันได้ดีด้วย"ฮือๆๆ มองพวกนางแล้วก็อิจฉาถ้ารู้ว่าจะมีความสุขแบบนี้ พวกนางคงหน้าด้านให้
"ท่านพ่อในเมื่อให้องค์จักรพรรดิแต่งตั้งข้าเป็นท่านหญิง นั่นก็คือ แน่นอนว่าให้สถานะกับแม่ข้าด้วย องค์หญิงเจ็ด หลังากนี้คำพูดอย่างลูกสาวบ้านน้อย ได้โปรดอย่าเอ่ยขึ้นอีกเลย" เฉินฮ่าวปิงเอ่ยขึ้นอย่างอย่างอดกลั้นเกินพอแล้ว!นางเป็นท่านหญิงแล้ว แล้วทำไมตัวตนลูกสาวบ้านน้อยถึงยังมากดอยู่บนตัวนางอีก?เดิมทีนางยังคิดจะแสดงออกถึงความสูงส่งความหยิ่งยโสสักหน่อย ถึงอย่างไรนางก็เป็นท่านหญิงแล้ว แต่ถูกองค์หญิงเจ็ดพูดเช่นนี้ เกียรติของนางก็หล่นร่วงมาบนพื้นจนหมดชั่วขณะหนึ่ง เฉินฮ่าวปิงรู้สึกว่าสายตาคนทั้งหมดที่มองนางผิดปกติไป"ชิ"องค์หญิงเจ็ดไม่ใส่ใจถ้าไม่เห็นแก่หน้าพระชายาเยว่ นางไม่มีทางมาหรอกชิวอวิ๋นเดิมทีเป็นคนของพระชายาเยว่ ตอนนี้พอเห็นจึงรีบเข้ามาไกล่เกลี่ย"องค์หญิงเจ็ด องค์จักรพรรดิกับพระชายาเยว่ล้วนชื่นชอบงานปักของท่านหญิงมาก ท่านหญิงของพวกเราเองก็เตรียมของขวัญให้กับองค์หญิงเจ็ดและคุณหนูทุกท่านด้วย เป็นงานปักด้วยมือทั้งหมด หวังว่าทุกท่านจะชอบ"นางรีบไปนำของขวัญออกมาทุกคนล้วนได้รับผ้าไหมผืนหนึ่ง"ผ้าไหมประกายหิมะ?"มีแม่นางรับผ้าไหมไปแล้วจำได้ขึ้นมาผ้าไหมประกายหิมะยอดเยี่ยมกว
การปักสองด้านของอันชิงโดดเด่นมากการปักสองด้านของฟางซือฉิงก็ดีมากพวกนางล้วนลงมือปักชุดแต่งงานของตนเองกันเอง ก่อนที่จะตกลงแต่งงานก็เริ่มปักกันแล้วตอนนี้จู่ๆ พอได้ยินว่ามีคนด้อยค่าการปักสองด้าน พวกนางจึงไม่ค่อยสบายใจนักแต่ว่า เมื่อครู่ได้เห็นโคมไฟวังงานปักที่ด้านนอกแล้ว พวกนางเองก็รู้เรื่องฝีมืองานปักของเฉินฮ่าวปิงมาระดับหนึ่ง และรู้ว่าพวกนางนั้นเทียบไม่ได้จริงๆประโยคเมื่อครู่นี้ คนที่พูดคือองค์หญิงหนานฉือองค์หญิงหนานฉือชอบการปักสองด้านอยู่โคมไฟวังงานปักเมื่อครู่เหล่านั้นก็ยังไม่ได้ดูดีดี แต่รู้สึกรำคาญหูและไม่ชอบในความอวดดีของเฉินฮ่าวปิงลูกสาวบ้านน้อยคนหนึ่ง จะมาอวดดีที่นี่ทำไมกัน? แล้วก็ เอางานปักพวกนี้ออกมาแสดงอย่างภาคภูมิใจ จะหยิ่งยโสขึ้นมาก็ไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่ถือดีอย่างไรมาด้อยค่าคนอื่นเขา? ต่อให้มันด้อยค่าจริง แต่ใช้สิ่งที่นางต้องมาพูดไหม?"คารวะองค์หญิงหนานฉือ"มีคนลุกขึ้นยืน คารวะไปทางองค์หญิงหนานฉือแต่ตอนที่เห็นฟู่จาวหนิง ก็มีคนที่เยอะกว่าลุกขึ้นมา และล้วนคารวะให้แก่นาง "คารวะพระชายาอ๋องเจวี้ยน"ก่อนหน้านี้คนไม่น้อยในเมืองหลวงยังคิดจะย่ำฟู่จาวหนิงอยู่เลย แต่พ
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดว่าองค์หญิงหนานฉือจะเอาแบบนี้"มีอะไรต้องอายกัน?" องค์หญิงหนานฉือโยนสายตาให้นาง ไม่ค่อยจะใส่ใจนัก "ตอนนั้นข้าก็หาสามีไปทั่วเมืองหลวง อ๋องเจวี้ยนที่เงื่อนไขดีขนาดนั้น ต้องอยู่ในกลุ่มตัวเลือกของข้าอยู่แล้ว""พี่สะใภ้..." อันชิงดึงแขนเสื้อนางองค์หญิงหนานฉือนี่ก็กล้าพูดไปเรื่อยจริงๆ"แต่ว่า อ๋องเจวี้ยนก็ไม่ได้สนใจข้า ยังดีที่ตอนนี้สามีดีกับข้ามาก พวกเราสองคนรักกันอย่างมั่นคง ไม่เหมือนคู่อ๋องเจวี้ยนหรอก"องค์หญิงหนานฉือพูดอย่างตรงไปตรงมา แล้วยังแสดงความรักให้คนต้องอิจฉาด้วยผู้ตรวจการชิงคนนั้น เอาใจภรรยาได้ด้วยหรือ? ไม่ใช่คนที่เย็นชามากหรอกหรือ?องค์หญิงเจ็ดถามขึ้นอย่างอดไม่อยู่ "ผู้ตรวจการอันกับเจ้าอย่างมากสุดก็น่าจะปฏิบัติต่อกันด้วยความนับถือเท่านั้นกระมัง แบบเย็นชาๆ หน่อย!"คนที่ดูทื่อๆ บื้อๆ แบบนั้นน่ะนะ จะรักภรรยาปานจะกลืนกิน?องค์หญิงหนานฉือเองก็เหลือบมององค์หญิงเจ็ด นั่นเรียกว่ามีเสน่ห์ดึงดูดใจ"นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? คนเขารักกันแนบแน่นเหมือนกาว คงไม่ต้องมาอธิบายกับพวกเจ้าอย่างละเอียดหรอกกระมัง? พวกเจ้าก็ยังไม่ได้แต่งงานกัน เล่าไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจ"
"เจ้าชอบเซียวหลันยวนหรือ? ขอโทษด้วย มีข้าอยู่ เจ้าแค่จะไปเป็นสาวใช้ในจวนอ๋องเจวี้ยนก็ยังไม่มี""นี่เจ้า!"ตาของคุณหนูหลินสี่แดงก่ำขึ้นมาถูกฟู่จาวหนิงกดไว้แบบนี้ นางทำได้แค่แหงนหน้า รู้สึกว่าท่าทางเช่นนี้ทำให้นางดูไร้เกียรตินางคิดจะดิ้นรนลุกขึ้น แต่แรงของฟู่จาวหนิงก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมากขนาดนี้ นางดิ้นรนไม่ได้เลย"แล้วก็ ไม่ใช่ว่าข้าหยิ่งทะนง ข้าพูดคำไหนคำนั้น คนแบบเจ้าน่ะ มาหิ้วรองเท้าข้าก็ยังไม่คู่ควร"หาเรื่องนางมาตั้งนาน มีเจตนาไม่ดีมากเสียขนาดนี้ แต่ก็ยังมาหาเรื่องเจ็บตัว ฟู่จาวหนิงจะมีเมตตาด้วยได้อย่างไร?ถ้าด่านางจนเงยหน้าไม่ขึ้นได้ นางจะได้ไม่ไปหาเรื่องคนอื่นอีก"ข้าสวยกว่าเจ้า สูงกว่าเจ้า กำลังก็มากกว่าเจ้า วิชาแพทย์ก็ดี ร่างกายปราดเปรียว กล้าหาญเกินใคร โอ้ คำชมนี้เมื่อครู่พวกเจ้าก็เอาแต่ชมข้า ข้าไม่ได้พูดเองนะ แล้วเจ้ามันมีอะไร? ใครให้เจ้าเสนอหน้ามาริษยาตรงหน้าข้ากัน?"ฟู่จาวหนิงก้มมองนางจากที่สูง "แค่ให้เจ้าไปสารภาพรักต่อหน้าเซียวหลันยวนก็ยังไม่กล้าเลยกระมัง? แล้วเจ้าก็รู้ว่าพระชายาตัวจริงอยู่ที่นี่ ก็ยังแสดงออกถึงความอยากเข้าหาสามีคนอื่นอย่างหน้าด้านแบบนี้น่ะนะ? เจ้
"นี่คือแผนของพวกท่านหรือ?"ฟุ่จาวหนิงที่เงียบมาจนถึงตอนนี้เพิ่งจะเอ่ยปากขึ้น ฟังไม่ออกถึงไฟโกรธใดๆ"พูดจบแล้วสินะ?""พระชายาอ๋องเจวี้ยน ยังมีภารกิจของท่านอีก" เฉินฮ่าวปิงยังพูดไม่จบ "ท่านเป็นหมอเทวดา นอกจากรวบรวมวัตถุดิบยาแล้ว ท่านยังมีภารกิจที่ใหญ่ที่สุดอีก ก็คือไปเมืองเจ้อพร้อมกับขบวนพ่อค้าตระกูลฟาง ผู้ประสบภัยที่นั่นังรอท่านไปช่วยรักษาอยู่""ใช่" ชิวอวิ๋ฯพูดตามขึ้นมา "เรื่องนี้พวกเราเองก็หารือกับพระชายาเยว่แล้ว พระชายาบอกว่าเรื่องนี้ต้องทำให้สำเร็จ นั่นเป็นมหากุศลใหญ่ พวกเราจะเลือกหญิงรับใช้สิบคนไปกับท่านด้วย ให้พวกนางคอยฟังการกำชับจากท่าน ช่วยเหลือเป็นลูกมือท่าน ดังนั้นพระชายาอ๋องเจวี้ยนก็ไม่ต้องกังวลเรื่องไม่มีคนช่วยเหลือ""พูดแบบนี้แล้วข้าต้องขอบคุณพวกท่านไหม?""พระชายาอ๋องเจวี้ยน เผชิญหน้ากับเรื่องสำคัญ ขอให้ท่านพิจารณาในภาพรวมด้วย ภัยพิบัติหนักหนา ผู้ประสบภัยน่าสงสาร หรือว่าท่านจะใจดำ มีวิชาแพทย์ชั้นสูงอยู่ในมือ แต่กลับไม่สนใจชีวิตผู้บริสุทธิ์อย่างนั้นหรือ?"เฉินฮ่าวปิงสะบัดภาระหนักสุดใส่นางทันที"ใช่เลย พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านเองก็ถือว่าอยู่ในราชวงศ์นะ แบ่งเบาภาระองค์จ
คำพูดของฟู่จาวหนิงกับฟางซือฉิงเมื่อครู่นางได้ยินแล้ว ตอนนี้นางก็คิดเหมือนฟู่จาวหนิง จะลองฟังพวกนางพูดให้จบก่อน ดูว่าหน้าพวกนางจะใหญ่สักแค่ไหนอันชิงกัดริมฝีปากล่างการจะออกสามร้อยตำลึงเพื่อผู้ประสบภัยอันที่จริงก็ไม่ใช่ว่านางไม่ยินยอม แต่ทำไมถึงต้องมาถูกเฉินฮ่าวปิงจัดแจงให้กัน?"พวกเราทางนี้มีสิบสองคน พอคำนวณแล้วก็น่าจะมีเงินที่สามพันกว่าตำลึง ถือเป็นเงินก้อนใหญ่มากแล้ว"เฉินฮ่าวปิงดูตื่นเต้น ถ้าหากเงินสามพันตำลึงอยู่กับนางได้ก็คงดี อันที่จริงให้นางเอาออกมาสามร้อยตำลึงก็เจ็บปวดอยู่แต่ถ้าจะทำเรื่องนี้ก็ไม่มีทางเลือก หลังจากทำสำเร็จ นางก็จะได้รับประโยชน์ที่มากกว่าสามร้อยตำลึง ตอนนี้จึงจ่ายออกไปได้"นี่ยังไม่นับของพระชายาอ๋องเจวี้ยนกับแม่นางฟางนะ"เฉินฮ่าวปิงมองไปทางฟู่จาวหนิงกับฟางซือฉิง "พวกนางก็ไม่ต้องบริจาคเงินแล้ว สามพันกว่าตำลึงนี้ก็ส่งให้แม่นางฟาง จากนั้นแม่นางฟางก็จะเปลี่ยนพวกมันเ็นเสื้อผ้า รองเท้า เสบียงอาหารแล้วก็วัตถุดิบยา แล้วให้ขบวนพ่อค้าของตระกูลฟางส่งไปยังเมืองเจ้อ"องค์หญิงเจ็ดถาม "ต้องจำนวนเท่าไรล่ะ""ข้าได้ยินว่าเมืองเจ้อมีผู้ประสบภัยเกือบหมื่น พวกเราเลยคำนวณไปว
ฟางซือฉิงอ้าปากพะงาบ ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้จะพูดอะไรดีฟู่จาวหนิงกุมมือนางไว้ ขยิบตาให้นาง"ไหนๆ ก็มาแล้ว ฟังพวกนางต่อไปอีกหน่อยเถอะว่าจะจัดการอย่างไร พวกเราก็ถือเสียว่าเปิดโลกทัศน์ก็แล้วกัน"อันที่จริงนางก็อยากจะลองฟังแผนของเฉินฮ่าวปิงต่อจริงๆในเมื่อเฉินฮ่าวปิงเตรียมตัวมาตั้งหลายวัน ทำไมถึงจะไม่ให้โอกาสนางพูดให้จบกันล่ะ?นางเองก็ชอบที่จะรอให้คนอื่นที่กำลังตื่นเต้นดีอกดีใจ แล้วค่อยจัดการทำลายความหวังของคนๆ นั้นทิ้งแค่คิดก็สนุกแล้วถึงอย่างไรก็มาแล้วนี่นะฟางซือฉิงพอได้ยินนางพูดเช่นนี้ ในใจก็สงบลงมา นางฟังฟู่จาวหนิงก็พอแล้วดังนั้นพวกนางจึงไม่รีบร้อนพูดอะไรอีกพวกของเฉินฮ่าวปิงก็ไม่เหมือนไม่ต้องการท่าทีอะไรของฟางซือฉิง พวกนางยังพูดต่ออย่างเบิกบาน เฉินฮ่าวปิงยังวาดฝันต่อ แล้วก็ทำให้เหล่าองค์หญิงคุณหนูพวกนี้หวั่นไหวกันขึ้นมา"ถ้าหากพวกเราสร้างผลงานอะไรได้ ผู้อาวุโสในตระกูลก็จะมองพวกเราสูงขึ้น หลังจากนี้พวกเราก็สามารถช่วงชิงความรุ่งโรจน์ให้กับตระกูลได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี ก็อาจจะได้รับความชื่นชมจากองค์จักรพรรดิก้ได้""ตอนที่ข้าไปว่าเรื่องแต่งงาน ผู้อาวุโสของอี
แต่ว่าพระชายาเยว่ในเมื่อเลือกนาง ส่งนางมาจวนอ๋องเจวี้ยน นางก็ยังรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสดีในการกระโจนขึ้นกิ่งไม้ถึงอย่างไรก็อ๋องเจวี้ยนเลยนะ นั่นอ๋องเจวี้ยนนะ!ไม่มีชื่อเสียง แต่สามารถเป็นหญิงสาวของอ๋องเจวี้ยนได้ก็ยังดี มีค่ำคืนเหล่านั้นที่ได้ใกล้ชิดกับอ๋องเจวี้ยน เป็นความฝันของผู้หญิงตั้งมากมาย!อ๋องเจวี้ยนหล่อเหลา สง่างาม ยิ่งไปกว่านั้นยังรักพวกพ้อง บางที ถ้าต้องต่อสู้กับองค์จักรพรรดิ จวนอ๋องเจวี้ยนอาจจะไม่พ่ายแพ้ไปจริงๆ ก็ได้สู้เสียหน่อย ก็ยังพอมีอนาคตแต่เป็นเพราะฟู่จาวหนิงนางกับพวกอวิ๋นจูล้วนไม่สามารถอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนได้ ฟู่จาวหนิงคือหยิงสาวที่ขี้เหนียวขี้หึง คิดจะครองอ๋องเจวี้ยนแค่คนเดียว!นางไม่มีความสามารถอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยน พระชายาเยว่ก็ไม่ค่อยพอใจกับความสามารถนาง จึงส่งนางมาให้กับเฉินฮ่าวปิงนี่เท่ากับลดระดับลงเสียแล้วเฉินฮ่าวปิงถึงแม้จะเป็นท่านหญิง แต่ชิวอวิ๋นมองไม่ออกเลย ว่าอยู่กับท่านหญิงคนนี้แล้วจะดีได้ จะไปเทียบกับอ๋องเจวี้ยนก็ไม่มีคุณสมบัติ เทียบกับพระชายาเยว่ก็เทียบไม่ได้หลังจากนี้นางต้องติดตามเฉินฮ่าวปิง อย่างมากสุดก็แค่ต้องดูว่าเฉินฮ่าวปิงจะแต่งงานกับ
"พระชายาอ๋องเจวี้ยนเป็นหมอเทวดานี่นะ คนเป็นหมอไม่ใช่ควรรักษาคนเจ็บหรือ?"องค์หญิงเจ็ดพอได้ยินว่าหาเรื่องให้ฟู่จาวหนิง ตอนนี้ก็มีแรงขึ้นมาทันที เรื่องนี้นางว่าได้อยู่!"พระชายาอ๋องเจวี้ยนเก่งกาจมาก ไม่ใช่คนที่พวกเราจะเทียบได้ นางมีความกล้าความสามารถ มีไหวพริบ มีวิชาแพทย์ พวกเราไม่กล้าไปเมืองเจ้อ พวกเรากลัวผู้ประสบภัย แต่นางไม่กลัวแน่ๆ"คุณหนูสี่หลินคนนั้นก็เปลี่ยนท่าทีไปสิ้นเชิง กระตือรือร้นขึ้นมาทันทีสายตาฟู่จาวหนิงเหลือบมองหน้านาง คุณหนูสี่หลินคนนี้นางก็ไม่รู้จัก ทำไมถึงมีเจตนาร้ายกับนางขนาดนี้"ก็คือว่า พระชายาอ๋องเจวี้ยนเพิ่งเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่นี่นะ? แล้วการมีตัวตนฐานะแบบนี้ การรักษาคนเจ็บก็เป็นเร่งที่สมควรนี่ ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังได้ยินว่าหมอของสมาคมหมอใหญ่ล้วนเป็นชายหมด แล้วยังมีอายุมากด้วย พระชายาอ๋องเจวี้ยนเป็นหมอหญิงคนหนึ่ง แล้วอายุก็ยังน้อยที่สุดด้วย ก็ควรจะรีบออกไปสร้างคุณความดีสิ ไม่เช่นนั้นหลังจากนี้หยั่งเท้าไม่มั่นคงในสมาคมหมอใหญ่แล้วจะทำอย่างไรกัน?"มีแม่นางที่อายุมากขึ้นมาหน่อยอีกคนหนึ่ง เอ่ยขึ้นมาเช่นนี้ด้วยน้ำเสียงเรียบสงบหญิงสาวที่อยู่ด้วยกันกับคุณหนูสี่หลินท
พอถูกนางพูดออกมา มีทั้งคนที่ตกตะลึง มีทั้งคนที่แอบโกรธ แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร จะมากน้อยก็ยังรู้สึกหวั่นไหวกับข้อเสนอนางถ้าหากพวกนางสามารถทำเรื่องใหญ่นี้ได้สำเร็จ จะได้มีชื่อเสียงระบือในเมืองหลวงจริงไหม ได้รับการชื่นชมยกย่องจริงไหม"พวกท่านจะกังวลอะไรกัน? ข้าได้ยินว่า เมืองหลวงก่อนหน้านี้ก็มีคุณหนูฮูหยินไม่น้อยมาตั้งเพิงโรงทานแจกข้าวต้ม แล้วงานนี้แตกต่างกับการแจกข้าวต้มตรงไหนกัน เป็นเรื่องได้บุญทั้งนั้น ทำเรื่องได้กุศล สำหรับสายตาผู้อาวุโสในตระกูล ก็ถือว่าเป็นรุ่นหลังที่ฉลาดมีความสามารถไหม?"นี่ก็จริง!ช่วงหน้าหนาว อันที่จริงก็มีฮูหยินคุณหนูไม่น้อยที่ไปแจกข้าวต้มไม่ใช่แค่เพื่อเอาใจผู้อาวุโสในตระกูล การทำเรื่องกุศลเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องที่ใครก็แข่งกันทำด้วยก่อนหน้านี้ทุกคนยังแก่งแย่งชิงดีกัน เทียบกันว่าเพิงโรงทานแจกข้าวต้มของตระกูลไหนทำได้ดีกว่า เพิไหนที่มีคนจนมาเข้าแถวรอข้าวต้มเยอะกว่านี่เป็นการสร้างภาพลักษณ์เพื่อเพิ่มชื่อเสียงพูดแบบนี้ ทุกคนเองก็หวั่นไหวขึ้นมาแล้ว รู้สึกว่าข้อเสนอของเฉินฮ่าวปิงนี้เหมือนจะไม่ใช่ไร้สาระ"ท่านหญิงปิงอวี้ดูเหมือนจะไปหาข่าวมาละเอียดเชียว" ฟางซือฉ
เหล่าคุณหนูพวกนี้พอเอ่ยถึงผู้ประสบภัย ก็มีสีหน้าหวาดกลัวและดูถูกพวกนางล้วนมีอำนาจในเมืองหลวง กินดีอยู่ดีมาตั้งแต่เด็ก ผุ้ประสบภัยน่ะห่างจากพวกนางไกลโขเลยกระทั่งจินตนาการ พวกนางก็ยังจินตนาการไม่ออกว่าผู้ประสบภัยเป็นอย่างไรด้วยซ้ำคุณหนูเหล่านี้ไม่กล้าไปสถานที่วุ่นวายมาก่อน ในเมื่อเมืองเจ้อเต้มไปด้วยผู้ประสบภัย แล้วพวกนางจะกล้าไปได้อย่างไรกัน?"จริงด้วย ต่อให้มีผู้ประสบภัยหญิงมากแค่ไหน พวกเราเองจะไปช่วยอะไรได้? หรือว่าพวกเรายังต้องรับพวกนางกลับมาเมืองหลวงด้วย?""นั่นไม่ได้หรอก เมืองหลวงไม่มีทางให้ผู้ประสบภัยเข้ามาแน่""แล้วก็ ถึงแม้จะเป็นหญิง แต่ผู้ประสบภัยก็ยังเป็นผู้ประสบภัย ล้วนเป็นประชาชนชั้นต่ำทั้งนั้น" มีหญิงสาวคนหนึ่งมีสีหน้าดุร้ายขึ้นมาหน่อยๆคำพูดนี้มีหลายคนที่ยอมรับ เพียงแต่ว่า ไม่ได้แสดงออกมาตรงๆเฉินฮ่าวปิงหน้าแข็งทื่อไปคนเหล่านี้เป็นคุณหนูจากตระกูลดังนะ แต่เรื่องใหญ่พวกนี้ก็ทำกันไม่ได้หรือ!แต่ว่านางต้องการเรื่องใหญ่สักเรื่องเพื่อสร้างความนิยมให้ตนเอง ให้คนทั้งแคว้นเจารู้จักท่านหญิงปิงอวี้ในทันทีถึงตอนที่นางมีชื่อเสียง มีบารมี องค์จักรพรรดิก็จะตบรางวัลให้นางอ