เซียวหลันยวนสายตามองออกไป รู้สึกแค่ว่า นี่มันโชคร้ายอะไรกันเนี่ย?คนที่นั่งอยู่โต๊ะนี้ ก็คือซือถูไป๋นั่นเองซือถูไป๋ลากหน้างามๆ ไร้ตำหนิมานั่งอยู่ที่นี่ บนโต๊ะตรงหน้ามีหมี่อยู่ชามหนึ่งส่วนเขาสวมหน้ากากอยู่ซือถูไป๋เดิมทีไม่กล้ายืนยันว่าเป็นเขา แต่สายตาของเซียวหลันยวนมีความบีบคั้นกดดันมากเกินไป ไม่มีทางเป็นคนธรรมดาแน่นอนดังนั้นต่อให้ไม่เห็นหน้าเขา ซือถูไป๋ก็ยังมองออก"อ๋อง...เจวี้ยน?"ซือถูไป๋กดเสียงลงต่ำเซียวหลันยวนไม่สนใจเขา แต่เอียงตามองไปยังแขกที่กำลังพูดถึงหมอเทวดาคนงามนั่น"หมอเทวดาคนงามนั่นเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสตู้ด้วย ยอดเยี่ยมจริงๆ"ผู้อาวุโสตู้?เซียวหลันยวนได้ยินชื่อผู้อาวุโสตู้ ก็รู้สึกงงงันไปก็ไม่แปลก ฟู่จาวหนิงไม่ได้บอกเรื่องผู้อาวุโสตู้กับเขา พอเพิ่งจะเจอหน้ากันทั้งสองก็ทะเลาะกันบ้านแตก วันต่อมาตื่นขึ้นก็ยังทะเลาะต่ออีกรอบ มีเวลามาคุยกันเสียที่ไหนซือถูไป๋ไม่เห็นสีหน้าเขา และไม่รู้ว่ามองออกถึงความงงงันของเขาได้อย่างไร จึงเอ่ยขึ้นเสียงเบากับเขาว่า "ผู้อาวุโสตู้คือพ่อครัวชื่อดังของต้าชื่อ ฝีมือการครัวเทียบได้พอพอกับหมอหลวงในวัง เสิ่นเสวียนเคยเชิญผู้อาวุโสต
โต๊ะพังดังโครม บะหมี่น้ำบนโต๊ะก็คำมำลงมา น้ำแกงสาดไปบนตัวซือถูไป๋เขารีบลุกเลี่ยงออกมา แต่เสื้อผ้าก็ยังเปียกไปดวงใหญ่การเคลื่อนไหวทางนี้ทำให้คนทั้งหมดมองเข้ามาภายใต้สายตาตกตะลึงของสามีภรรยาแผงบะหมี่ ซือถูไป๋ก็ยิ้มจำใจ หยิบเงินออกมาส่วนหนึ่ง"ข้าชดใช้ให้ ขอโทษด้วย"หลังจากชดใช้เงินออกไป ซือถูไป๋ก็มองแผ่นหลังเซียวหลันยวนแล้วส่ายหัวอ๋องเจวี้ยน บางครั้งก็ดูไร้เดียงสาเสียเหลือเกินแต่ว่า ฟู่จาวหนิงตอนนี้ไม่ได้กลับไป อ๋องเจวี้ยนมาปรากฎตัวที่นี่ตามลำพัง นี่อธิบายได้ว่าพวกเขาทั้งสองคนความสัมพันธ์ห่างเหินจากการที่แยกกันหลายเดือนแล้วหรือเปล่า?ถ้าหากเป็นเช่นนี้ล่ะก็ นี่มันไม่ใช่โอกาสหรือ?นี่สินะความจริงใจคือพลังอันยิ่งใหญ่ สั่นคลอนได้ทุกสรรพสิ่งวันนี้หลังจากได้ยินเรื่องหออันดับหนึ่ง ซือถูไป๋ก็ยิ่งปล่อยวางฟู่จาวหนิงไม่ลงถ้าหากการแสดงออกถึงความใกล้ชิดกับความเข้าอกเข้าใจตัวฟู่จาวหนิงเมื่อครู่ ทำให้อ๋องเจวี้ยนกับฟู่จาวหนิงแตกแยกกันได้ นั่นก็ถือว่าดีมากๆอ๋องเจวี้ยนกับฟู่จาวหนิงถ้าทะเลาะกันขึ้นมาได้ ทะเลาะกันไปหลายๆ ครั้ง ความสัมพันธ์ก็จะเกิดรอยร้าวแน่ขอแค่มีรอยร้าย ก็คือมีโอกาส
"ไม่รู้ว่าคุณชายบาดเจ็บตรงไหนบ้างไหม" ชายหนุ่มถาม"ไม่เป็นไร" เซียวหลันยวนตอบมาสองคำชายหนุ่มพอได้ยินคำพูดเขา ก็เกิดประกายในดวงตาขึ้นมาเขาพยักหน้า ประคองภรรยาหมุนตัวเดินออกไปเซียวหลันยวนมองแผ่นหลังพวกเขาหายไปในกลุ่มคน ขมวดคิ้ว และไม่คิดจะเดินเล่นต่อแล้ว หมุนตัวเตรียมจะกลับส่วนสามีภรรยานั้นพอเดินผ่านกลุ่มคน เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา เข้าไปในตรอกเล็กๆ ตรอกหนึ่ง เข้าไปยังบ้านเล็กอีกหลัง ปิดประตูลงกลอนเสร็จ ชายหนุ่มจึงถอนหายใจโล่งออกมาเขาประคองภรรยาเข้าไปนั่งในห้อง หยิบขนมปิ่งในมือชิ้นนั้น เอามาดมที่จมูกเป็นไปตามคาด เหม็นไปแล้วแต่เขาก็ไม่ได้เอาขนมปิ่งโยนทิ้งไป แต่หยิบมาใส่ไว้ในชาม"ฮูหยิน ข้าเอาขนมปิ่งใส่ไว้แล้ว อยู่ที่นี่""ให้เฟยเอ๋อร์ ให้เฟยเอ๋อร์กิน"หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างสับสน ยื่นมือเลิกผมที่สยายรุงรังของตนเอง ถามเขาว่า "นายท่าน ผมของข้ารกรุงรังหรือ?""ข้าจะหวีให้เจ้าเดี๋ยวนี้"เพียงไม่นาน ชายหนุ่มก็หวีผมให้นางจนเรียบร้อย ผูกด้วยผ้าไหมสีฟ้าทะเลสาบ จากนั้นก็ใช้ผ้าเปียกเช็ดหน้ากับมือของนางจนสะอาดใบหน้าสวยอ่อนโยนของหญิงสาวก็ปรากฏออกมาใบหน้าเช่นนี้ ต่อให้ไม่ได้อายุน้อย แต่
เสี่ยวชิ่นเองก็เห็นแล้วนางเอ่ยกับฟู่จาวหนิงอย่างตกตะลึง "คุณชายซือถู?"ที่นี่ห่างจากสถานที่ของซือถูไป๋ค่อนข้างไกล คนละฝั่งฟากกันเลย แล้วตอนนี้ก็ยังเช้าขนาดนี้ ทำไมจึงมาเจอซือถูไป๋ที่นี่กัน?แต่ถ้าจะบอกว่าจงใจ ซือถูไป๋ที่เดินช้าๆ อยู่ด้านหน้า ก็ไม่เห็นพวกนางเลย"คิดไม่ถึงว่าเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อจะเล็กขนาดนี้""คุณหนู จะเดินกลับ หรือเปลี่ยนเส้นทางไหม?" เสี่ยวชิ่นถามขึ้นอย่างกังวลคุณชายซือถูดูแล้วก็ดีอยู่หรอก แต่คุณหนูของนางตอนนี้ยังเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนอยู่ ไม่มีทางก่อเรื่องให้เกิดความน่าอับอายหรอก"ไม่ต้องหรอก ข้าจะเดินทางนี้ ยืดอกกันไปเลย ทำไมจะต้องไปหลบเลี่ยงเขาด้วย?"ตอนพูดคำนี้ฟู่จาวหนิงก็คิดถึงเซียวหลันยวนเซียวหลันยวนถือดีอะไรมาถึงมาสงสัยว่านางกับซือถูไปมีลับลมคมในอะไรกัน แล้วนางต้องมาหลบเลี่ยงซือถูไป๋อย่างนั้นหรือ?ถนนตั้งกว้างขนาดนี้ ใครเดินไม่ได้กันบ้างแต่ว่า นางก็ไมได้เดินเร็วนัก ถึงอย่างไรด้านหน้าก็มีทางเลี้ยวอยู่ รอให้ซือถูไป๋เลี้ยวไปก็ไม่พบตัวนางแล้วซือถูไป๋เลี้ยวไปที่มุมถนนจริงๆฟู่จาวหนิงก็ไม่สนใจเขาอีก เดินทอดน่องไปเรื่อย เมื่อคืนตอนที่เข้ามา นางจำไ
ฟู่จาวหนิงหยุดเท้าลง"ข้าตอนนั้นนั่งอยู่ที่ร้านบะหมี่ข้างทาง เขาก็มานั่งลงตรงข้ามข้า ไม่พูดไม่จาก็ใช้กำลังภายในตบลงบนโต๊ะของร้านบะหมี่ บะหมี่หกรดข้าไปทั้งตัวเลย"อะไรนะ?นี่เป็นเรื่องที่เซียวหลันยวนทำออกมาหรือ?ฟู่จาวหนิงรู้สึกไม่อยากเชื่อ เซียวหลันยวนไร้เดียงสาขนาดนี้เชียว?แต่นางก็เอ่ยต่อหน้านิ่ง "ท่านไม่ได้จำคนผิดใช่ไหม?"เซียวหลันยวนจะต้องสวมหน้ากากถึงกล้าออกมาแน่ หน้ากากเขาตอนนี้เองก็คลุมไปทั้งหน้าด้วย หน้าผากก็ยังมองไม่เห็น ซือถูไป๋จะมองเขาออกได้อย่างไรกัน?"ไม่ผิดหรอก ใต้หล้านี้จะมีชายคนไหนที่เหมือนกับอ๋องเจวี้ยนบ้าง ขนาดไม่เผยใบหน้าก็ยังสง่างามได้ขนาดนี้?"เขาอาศัยหน้ากากกับรูปร่าง และท่วงท่าเหล่านั้นถึงมองอ๋องเจวี้ยนออกน่าจะเพราะความรู้สึกระหว่างศัตรูความรัก จึงทำให้สายตาร้ายกาจขึ้นกระมัง?"ต่อให้เป็นเขา คุณชายซือถูกมาบอกข้าแบบนี้ คือคิดจะให้ข้าชดใช้ให้หรือ?""ไม่ใช่เช่นนั้น เขาก็คือเขา ท่านก็คือท่าน" ซือถูไป๋พูดประโยคนี้อย่างลึกซึ้งฟู่จาวหนิงทำเป็นฟังไม่เข้าใจ"แต่ว่า จะว่าอย่างไรก็เพื่อท่านนะ ดังนั้น" ซือถูไป๋เผยสีหน้าน่าสงสารออกมาหน่อยๆ "ท่านเลี้ยงขนมถั่วข้าส
เสี่ยวชิ่นมองแผ่นหลังซือถูไป๋ ถอนใจออกมาเงียบๆ"เจ้าถอนใจอะไรของเจ้าน่ะ?" ฟู่จาวหนิงเองก็ทั้งโมโหทั้งขำ"ไม่ ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ แค่รู้สึกว่าคุณชายซือถูเองก็ดีอยู่นะ หน้าตาเองก็ดีด้วย"เสี่ยวชิ่นรู้สึกจริงๆ ว่าซือถูไป๋หน้าตาดีมาก เห็นหรือเปล่าว่าขนาดป้าที่ขายขนมถั่วมั่วครู่ก็ยังต้องชะเง้อคอมามองเขา? ขนาดว่ามองไม่เห็นตัวคนแล้วก็ยังรู้สึกอาลัยอาวรณ์ขนาดนี้คุณชายซือถูเดินอยู่ในฝูงชนแบบนี้ต้องเจิดจ้าแน่นอนคุณหนูของนางเองก็เหมือนกันนะ ดังนั้นสงอคนนี้ถ้าได้เดินเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ไม่รู้ว่าจะเป็นภาพที่งดงามขนาดไหนฟู่จาวหนิงฟังออกถึงอาการใจคอเหี่ยวแห้งกับหดหู่ของนาง จึงอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้"อย่าคิดเพ้อเจ้อน่า พวกเราไปดีกว่า"นางเดินตรงไปยังจุดที่ได้กลิ่นวัตถุดิบยาเมื่อคืนนี้ถ้าหากซือถูไป๋พูดเรื่องจริง เช่นนั้นก็เป็นไปได้ว่าบ้านหลังนั้นที่นางได้กลิ่นวัตถุดิบยา คือพ่อค้าวัตถุดิบยาที่ซือถูไป๋มาหาถ้าหากเขาแลกเปลี่ยนวัตถุดิบยาสำเร็จแล้ว นางเองก็อาจจะเสียเที่ยวก็ได้แต่ว่าฟู่จาวหนิงก็ยังไม่เปลี่ยนความคิด ถ้าหากครั้งหน้าอีกฝ่ายยังมียามาให้ล่ะ?เพียงไม่นานนางก็เห็นด้านนอกของเรือนหลังหนึ่ง
ถ้าหากอีกฝ่ายขายวัตถุดิบยาจริง ขายให้นางรับรองว่าไม่ขาดทุนแต่คนเขาตอนนี้ไม่ยินยอม เช่นนั้นก็ช่างมันแล้วกัน"เจ้ารอก่อน!"หญิงสาวคนนั้นพอเห็นนางหมุนตัวจะไป ก็รีบเรียกนางไว้ฟู่จาวหนิงไม่สนใจ เดินตรงออกไปคนเขาบอกว่านางท่าทางเหมือนขโมยแล้ว ทำไมแค่ถูกเรียกไว้ยังต้องหยุดให้ด้วยล่ะ?"ข้าบอกให้เจ้าหยุดก่อนไม่ได้ยินหรือ!"หญิงสาวพุ่งมาขวางหน้านาง กางมือขวางนางไว้ฟู่จาวหนิงมองนาง "ยังมีธุระหรือ?""บ้านข้ามีวัตถุดิบยาอยู่ชนิดหนึ่ง ล้ำค่าเอามากๆ เจ้าอยากจะเห็นไหม?"เสี่ยวชิ่นพูดขึ้นอย่างทนไม่ไหว "เมื่อครู่เจ้าไม่ใช่บอกไม่ให้พวกเราเข้าไปหรือ ทำไมตอนนี้มาเปลี่ยนใจแล้ว?""ข้าไม่ดูแล้ว" ฟู่จาวหนิงตอบ"แม่นางอย่าเพิ่งโกรธกัน อันที่จริงวัตถุดิบยาบ้านข้าเมื่อวานนี้ก็ขายออกไปหมดแล้ว เมื่อครู่เด็กน้อยเขาพูดจาไม่น่าฟัง แต่ก็เพราะไม่มีวัตถุดิบยาแล้วจริงๆ ดังนั้นเมื่อครู่จึงไม่ยอมให้ท่านเข้าไป" ลุงคนนี้รีบเดินเข้ามาขัดตาทัพ"เมื่อคืนขายออกไปแล้วหรือ?""ใช่ ขายให้กับโรงยาทงฝูไปแล้ว" ลุงตอบมาเสี่ยวชิ่นมองไปทางฟู่จาวหนิง ที่แท้คุณชายซือถูก็ไม่ได้โกหกสินะ? เขาพูดความจริงนี่นา เช่นนั้นวันนี้ตอน
ไป๋หู่กับสือซานสืออีอยู่ห่างไปไม่ไกลนักอีกเดี๋ยวการจะย้ายวัตถุดิบยาออกไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก"คุณหนู คุณชายซือถูเป็นนายน้อยเจ้าของร้านโรงยาทงฝู วัตถุดิบยาที่เขาไม่ซื้อ ยังจะเป็นวัตถุดิบยาได้หรือ?" เสี่ยวชิ่นไม่ค่อยเข้าใจ"ยังไม่เห็น ต้องเห็นก่อนจึงจะรู้""แต่ว่าลุงคนนี้ชื่อว่าหลี่เหล่าสือเลยนะ" เสี่ยวชิ่นระแวงขึ้นมา ไม่รู้ว่าอีกเดี๋ยวจะซื่อสัตย์(เหล่าสือ) จริงๆ ไหมหลี่เหล่าสือแค่ครู่เดียวก็แบกหาบตะกร้าสานใบหนึ่งออกมา พอว่างลงก็พูดว่า "ยังมีอีกกระสอบหนึ่ง ข้าเข้าไปย้ายมาก่อน"ไม่รอให้ฟู่จาวหนิงพูดอะไร เขาก็วิ่งเข้าไปแล้วครู่หนึ่งก็แบกของกระสอบใหญ่ออกมา ดูเหมือนใส่เอาไว้จนแน่นและหนักเอามากๆเสียงตุบดังขึ้น เขาทิ้งกระสอบลงมา หายใจไม่ทั่วท้องเลยทีเดียว"ของพวกเนี้คือสิ่งที่ข้าขุดมาเอง รวมถึงเก็บกลับมาในช่วงสองปีนี้"หลี่เหล่าสืออธิบายกับฟู่จาวหนิง"เพราะข้าขายยาจำนวนมาก รู้จักกับคนในโรงยาทงฝูด้วย ดังนั้นละแวกนี้ก็จะมีคนที่ขุดยาเอาวัตถุดิบยาที่ตนเองขุดส่งมาให้ข้า บ้างอย่างข้าก็ซื้อมาเลย บางอย่างก็ฝากขาย ดังนั้นวัตถุดิบยาที่ข้าเก็บจึงมีมากขึ้นมา"ฟู่จาวหนิงเดินไปที่ของในตะกร้าสาน