อ้อนรัก 5
(หมูหวาน)
เรื่ิองราวเมื่อสองคืนก่อน
“เฮ้ย หมูหวานเบาๆหน่อย เหล้านะเว้ยไม่ใช่น้ำเปล่า”
ดาด้าดึงแก้วเหล้าสีใสออกจากมือฉัน
“มึงเป็นอะไรวะหมูหวาน”
บีจับตัวฉันให้หมุนหาพวกมันก่อนจะถามขึ้นโดยมีดาด้าคอยจ้องคาดคั้นคำตอบอีกคน
“เฮ้อ มึงว่าการทำให้มาเฟียพอใจมันมีวิธีไหนบ้างวะ”
“ห๊ะ !!!? มึงหมายถึง ทำให้มาเฟียหลงรักนะหรอ”
“ไม่ ไม่ใช่แค่ทำให้เขาพอใจก็พอ”
ฉันรีบโบกมือปฏิเสธรัวเร็ว หลงเริง หลงรักอะไรกันแค่ทำให้เขาพอใจเพื่อต้องการร้านคืนแค่นั้นแหละ
“มึงมีอะไรปิดบังพวกกูรึเปล่า”
เป็นอีกครั้งที่เพื่อนตัวดีของฉันจ้องมาทางฉันอย่างจับผิด
“เอาเหอะน๊า ตกลงจะช่วยคิดรึเปล่าเนี่ย”
“เออๆ ถ้ามึงอยากให้เขาพอใจ อันดับแรก มึงต้องรู้จักดูแลเขา”
และนั่นของคือเหตุผลที่ตอนนี้ฉันกำลังยืนถือของในมือพะรุงพะรังอยู่หน้าบ้านของภาคิน
ในตอนแรกที่มาถึง ฉันคิดจะถอยหลังกลับแทบทันทีเมื่อเห็นลูกน้องหน้าโหดหลายสิบคนเดินไปมาทั่วบ้านแต่โชคดีที่เจอเก้าเสียก่อน
“นี่แหละบ้านเฮียภาคิน ยาหยีเข้าไปได้เลยนะ”
“อ้าว แล้วมึงล่ะ”
ฉันรีบรั้งแขนเพื่อนสนิทไว้ ตอนแรกมันก็ทำท่าไม่เห็นด้วยที่ฉันจะเข้ามาแต่พอฉันอธิบายถึงเหตุผล มันก็จะทิ้งฉันไปดื้อๆแบบนี้นี่อะนะ
“กูต้องไปรับน้องกิ๊ฟครับ”
“แต่มึงเป็นเพื่อนกูนะ”
ฉันพยายามส่งสายตาอ้อนวอนไปให้เก้า
“ไม่ว่าง ไปล่ะ อ๋อ อีกอย่างถ้าจะทำให้เฮียพอใจ ทำอะไรที่มีมะเขือเทศนะ เฮียชอบ >_<“
เก้าว่าพลางขยิบตาอย่างน่ารักก่อนจะรีบวิ่งออกไปทิ้งให้ฉันยืนเคว้งคว้างอยู่หน้าบ้านอย่างโดดเดี่ยว
บริเวณบ้านภาคินกว้างมาก กว้างพอที่จะสร้างโรงเรียนได้เลยล่ะ และในบริเวณบ้านก็จะมีบ้านหลายหลังอยู่ในรั้วบ้านเดียวกัน แบ่งกันเป็นสัดเป็นส่วน
“เอาวะ หมูหวานเพื่อร้านขนมไทยในฝัน”
หลายคนอาจจะคิดว่า ทำไมแค่ร้านขนม ร้านเดียว ฉันถึงยอมทำขนาดนี้
ขอบอกตรงๆว่าฉันรักร้านนั้นมากและฉันอยากเปิดมันต่อตอนเรียนจบ ฉันเลยต้องทำทุกทางเพื่อให้ได้มันกลับมา
“ดีนะ วันนี้เตรียมจะมาทำสปาเก็ตตี้พอดี ถ้าเขาชอบมะเขือเทศ ทำสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศดีกว่า”
ฉันคุยกับตัวเองหลังจากเอาทุกอย่างที่ให้แม่บ้านซื้อมา เทลงบนโต๊ะในครัว
“เริ่มจากอะไรก่อนวะ ต้มเส้น ใช่ต้องต้มเส้น”
หมุนซ้าย หมุนขวา นั่นไงหม้อ จากนั้นก็เอามาใส่น้ำ ตั้งไฟ ว้าว ฉันนี่ชาญฉลาดจริงๆ
“หั่นมะเขือเทศต่อดีกว่า”
ฉึก ฉึก แผละ
เรียบร้อย มะเขือเทศลูกโตหลุดจากมือฉันกระเด็นไปกระทบพนัง หล่นแหมะลงกับพื้นอย่างสวยงาม
“ค่อยเก็บล่ะกัน ว๊ายๆ”
โครม ~
ขณะที่ฉันเอี่ยวตัวไปหยิบมะเขือเทศลูกใหม่ เกิดการเสียหลัก ทำให้ฉันล้มลงและไม่พอเพียงเท่านั้น มือฉันดันปัดไข่หล่นตามลงมาด้วย
“ใครวะ!!”
ฉันสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงเข้มตะโกนมาจากด้านบน
“ถ้าไม่ออกมา กูยิงนะ”
“ใจเย็น ฉันเอง”
ฉันรีบกระโดดออกจากเคาน์เตอร์พลางยิ้มแหย่ๆส่งไปให้เขา
“หมูหวาน?”
“ใช่จ้า หมูหวานเอง”
“เธอมาทำอะไร แล้วทำไม”
จะถามว่าทำไมสภาพฉันเละขนาดนี้ล่ะสิ
“ฉันก็มาทำให้นายพอใจตามที่นายบอกไง”
“ด้วยการมาพังครัวบ้านฉันเนี่ยอะนะ”
“แหะๆ นายก็พูดเกินไป”
ภาคินพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ฉันอีกหน่อย สายตาคมกวาดมองไปทั่วห้องครัว
ปุด ปุด ปุด
ระหว่างที่ภาคินกำลังมองหน้าฉันด้วยสายตาเอือมระอา เสียงไม่พึงประสงค์จากเตาด้านในก็ดังขึ้น
“กรี๊ด หมอจะระเบิดแล้ว”
ภาพน้ำเดือดปุดๆจนไหลออกจากหมอลงบนเตา ทำให้ฉันช็อคไม่นอนก่อนจะที่จะรีบวิ่งไปจับหม้อลง
“เฮ้ย อย่าเข้าไปสิวะ”
“ฮรือ ร้อน TT”
ไม่ทันแล้วความโง่เขลาเบาปัญญาของฉัน ทำให้มือฉันแดงเถือกเลย ดีนะแค่นิดเดียว
“ทำไมโง่แบบนี้ห๊ะ !! ไม่เห็นรึไงว่าหม้อมันร้อน ทำไมไม่รู้จักหาผ้ามาจับ”
ภาคินเดินไปปิดแก๊สก่อนจะหันมาตวาดฉันเสียงดัง ฉันเลยทำได้แค่ยืนก้มหน้าสำนึกผิด ไม่รู้จะเถียงเขากลับไปยังไง
“ไหนเอามือมาดูดิ”
ฉันรีบซ่อนมือตัวเองอย่างอัตโนมัติ (กลัวโดนดุอีกอ่า)
“หมูหวาน เอามือมา”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันกลับล่ะ”
พูดจบ ฉันรีบหันหลังเตรียมวิ่งแต่กลับโดนมือหนาคว้าไว้เสียก่อน
“แดงขนาดนี้เลยหรอ”
ภาคินดึงมือฉันพลิกไป พลิกมาพลางพึมพำเบาๆ
“บอกแล้วว่าไม่เป็นไร”
“ยังจะปากดีอีก ไปนั่งไปเดี๋ยวฉันไปเอายาให้”
“ก็บอกว่าไม่เป็นไรไง”
“หมูหวาน ไปนั่ง”
ไม่อยากยอมรับเลยว่าเสียงต่ำๆบวกกับหน้าตานิ่งๆของเขาทำให้ฉันแอบเสียวสันหลังอยู่เหมือนกัน
สุดท้ายฉันเลยต้องพาตัวเองมานั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก ไม่นานภาคินก็เดินเข้ามาพร้อมกล่องยาเล็กๆ
“นึกยังไงถึงมาทำอะไรแบบนี้”
ระหว่างที่เขากำลังทายาให้ฉัน อยู่ๆภาคินก็ถามขึ้น
“ฉันว่ามันคงทำให้นายวุ่นวายมากกว่าพอใจสินะ ครั้งหน้าฉันคงไม่ทำแล้วล่ะ”
“หึ ก็วุ่นวายแต่ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนะ”
เมื่อกี๋เขาพูดอะไรนะ ได้ยินไม่ถนัดเลย
“นายว่าอะไรนะ”
“ลุกขึ้นสิ จะกินมั้ยข้าวหนะ”
เขาไม่ตอบคำถามฉันเพียงแต่เดินยิ้มมุมปากเข้าไปในครัว
“เธอเส้นไปต้ม หวังว่าคงทำเป็นนะ”
“ทำเป็นยะ ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น”
ฉันว่าพลางคว้าเส้นสปาเกตตี้เตรียมเอาไปใส่หม้อแต่
“ใส่เท่าไหร่อะ”
ภาคินที่กำลังหั่นมะเขือเทศหันมาเลิกคิ้วใส่ฉัน ลองคิดดูสิคะ ผู้ชายหน้าโหดมีรอยสักเต็มแขนข้างซ้ายกำลังหั่นมะเขือเทศ
ฉันน่าจะแอบหยิบโทรศัพท์มาถ่ายส่งให้ลูกน้องเขาดูนะเนี่ย
“ไหนบอกไม่ได้โง่ไง”
“ไม่อยากบอกก็ไม่เห็นต้องประชดกันเลย ชิ”
เหอะ ใส่มันลงไปหมดนี่แหละ เอาให้อืดเต็มหม้อเลย หงุดหงิด -_-!!
“ผู้หญิงนี่ขี้งอนกันแบบนี้รึไงวะ”
“แล้วนายจะมา...”
ฉันไม่ทันได้พูดจบก็ต้องชะงักเมื่อภาคินมายืนซ้อนหลังฉันก่อนจะเอื้อมมือไปคีบเส้นในหม้อออก ตอนนี้เลยเหมือนเขากำลังยืนกอดฉันเลยอะ ><\\
“หยิบเกลือใส่ลงไปสิ”
ภาคินกระซิบลงข้างหู ฉันเลยต้องเบี่ยงหน้าหลบแล้วเอื้อมไปหยิบเกลือ
“ใส่ลงไปนิดเดียว”
แง ทำไมต้องมากระซิบใกล้ๆแบบนี้ด้วย ไม่อยากจะบอกเลยว่ามือฉันตอนนี้ที่กำลังจับกระปุกเกลือสั่นเป็นพาร์กินสันเลย
“หึ สั่นแบบนี้เดี๋ยวก็ลงไปทั้งกระปุกหรอก”
มือหนาจับมือฉันข้างที่กำลังถือกระปุกเกลือไว้เพื่อช่วยฉันเทเกลือลงไป
“เอ่อ ได้แล้วใช่มะ”
ฉันรีบวางกระปุกเกลือ ทำท่าจะเดินออกไป ถ้าฉันอยู่ตรงนี้อีกห้านาที ฉันขาดใจตายแน่ กร๊าซ
“เดี๋ยวสิ คอยดูเส้นก่อน”
แต่คนตัวโตด้านหลังกลับรั้งเอวฉันไว้และความรู้สึกเหมือนมีอะไรนูน ทิ่มก้นฉันอยู่ด้านหลังก็ทำให้ฉันสะดุ้งโหยง
“ปล่อยเลยนะ นายมันโรคจิต”
“อะไร ฉันยังไม่ทำอะไรเลย”
ฉันหันหน้าไปมองหน้าตาสุดแสนจะใสซื่อนั่นแต่ก่อนที่ฉันจะด่า คำพูดเขากลับทำให้ฉันถึงกับอ้าปากค้าง
“ไม่มีใครบอกหรอ อย่าใส่ขาสั้นมาบ้านมาเฟีย”
หมับ
มือหนาค่อยๆลูบขึ้นมาบริเวณขาอ่อนฉัน กว่าฉันจะได้สติจากสัมผัสแสนเคลิบเคลิ้มนั่น มือเขาก็เกือบจะถึงบั้นท้ายฉันอยู่เเล้ว
“กรี๊ด ปล่อยเลยนะ”
“ฮ่าๆ แค่แกล้งเล่นเอง”
“ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนาย!!”
“คร๊าบ ใครจะกล้าเอาว่าที่เมียมาเป็นเพื่อนเล่น”
‘ไม่มีใครบอกหรอ อย่าใส่ขาสั้นมาบ้านมาเฟีย’
ภาคิน
—————-
อร๊าย รุกน้องหนักไปนะภาคิน
ใครไม่เขิน ไรท์เขิน >_<
อยากอ่านต่อ คอมเมนท์หน่อยนะคนดี
อ้อนรัก 6(หมูหวาน)กริ๊ง กริ๊งอื้อ เสียงอะไรมาดังรบกวนเวลานอนคนอื่นแบบนี้เนี่ย ฉันดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปงแต่เสียงนั่นก็ยังไม่เงียบหายไปกริ๊ง กริ๊ง“โว้ย ใครโทรมานักหนาวะ”ฉันลุกขึ้นนั่งพลางขยี้หัวตัวเองจนยุงเหยิง เอื้อมมือไปหยิบมือถือเครื่องบางมากดรับ“โทรมาทำไม”“พูดให้มันดีๆหน่อย”เอ๊ะ เสียงเหมือนคนแก่ขี้บ่นแบบนี้มัน ฉันลืมตามองชื่อบนจอมือถือและก็กระจ่างแจ้งคนที่โทรมาปลุกฉันตั้งแต่แปดโมงเช้า ห๊ะ แปดโมงเช้า ชิบหาย สายแล้ว ฉันมีควิซ ตอนเก้าโมง 0-0“เฮ้ หมูหวานยังอยู่มั้ย หมูหวาน!”สิบนาทีผ่านไปฉันวิ่งออกมาจากห้องน้ำด้วยความเร็วสูง สายตาหันไปเห็นมือถือบนเตียงที่ยังแสดงหน้าจอว่าปลายสายยังถือสายรออยู่“ฮัลโหล ทำไมไม่วาง”“จะให้วางได้ไง ก็ยังไม่ได้คุย”“อ่ะๆ แล้วนายมีอะไร”“เช้านี้เธอไม่มา”อย่าพึ่งงงไปจ๊ะ คือตลอดระยะเวลาหลายอาทิตย์มาเนี่ย ฉันได้รับมอบหน้าที่เข้าไปทำอาหารเช้าให้คุณภาคินเขามาแบบงงๆแต่ฉันก็ไม่ได้ติดอะไรนะ มันไม่ได้หนักหนาอะไร ถ้าเทียบกับการที่ฉันจะได้ร้านคืน“เห็นอยู่ว่าตื่นสาย แค่นี้ก่อนนะ จะแต่งหน้า”“ทำไมถึงตื่นสาย”“ก็เมื่อคืนฉันไป... อุ๊ป”เกือบหลุดปากไปแล้วไง ก็เมื่
อ้อนรัก 7ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูทำให้ฉันซึ่งกำลังช้อปปิ้งสินค้าในไอจีอยู่ต้องหยุดเลื่อนดูสินค้าเพื่อเดินไปเปิดประตู“สวัสดีครับคุณหมูหวาน นายสั่งให้พวกผมมารับคุณ”ชายในชุดสูทสีดำสองคนกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย“มารับฉัน รับไปไหน?”“บ้านนายครับ คุณมีเวลาครึ่งชั่วโมงในการเก็บเสื้อผ้าเพื่อย้ายไปอยู่บ้านนายครับ”“ไปบอกเจ้านายของพวกคุณว่า ฉันจะทำตามสัญญาแต่ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”ฉันยื่นคำขาด ทำท่าจะปิดประตูแต่โดนมือของใครสักคนดักประตูไว้“ถ้าอย่างนั้น พวกผมต้องขอโทษด้วยนะครับ”พูดจบคนที่ตัวใหญ่กว่าก็ตรงเข้ามาจับฉันพาดบ่าเดินดุ่มๆลงทางบันไดหนีไฟ“กรี๊ด ปล่อยฉันนะ ปล่อย”“ผมว่าคุณหมูหวานไม่ควรดิ้นนะครับ”ผู้ชายอีกคนที่ตามหลังฉันมาติดๆกล่าวขึ้นแต่มีหรอ ฉันจะฟัง“ไม่ !! ฉันจะร้องดังๆ เอาให้พวกนายถูกจับเลย”“ถ้าอย่างนั้น ผมคงต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ”หมับหลังจากผู้ชายคนนั้นเอาผ้าผืนสีขาวมาโป๊ะฉัน สติทั้งหมดของฉันก็ดับวูบไปทันทีบ้านภาคิน“ตื่นได้แล้ว เธอจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน”แรงสะกิดตรงไหล่ทำให้ฉันนึกรำคาญเลยปัดไล่มัน คงเป็นยุงละมั้ง“เฮ้ เธอกล้าปัดมือฉันหรอ”คราวนี้จากแรงสะกิดเบาๆ ก
อ้อนรัก 8(หมูหวาน)ฉันนั่งกอดอกมองเก้ากินอาการเช้าอย่างสุขสมและไม่รีบร้อนใดๆด้วยความหงุดหงิด“มึงกินเร็วๆได้มั๊ยเก้า”“ยาหนีป้อนเค้าสิ”เก้าหันมาฉีกยิ้มกว้างให้ฉัน ฉันเลยผลักหน้าผากมันออก อย่าคิดว่าฉันจะมีซัมติงกับเก้านะเราสนิทกันตั้งแต่ปี1 จนฉันรู้ไส้ รู้พุงมันหมดแล้ว คบแค่เพื่อนหนะดีแล้ว“เก้า เดี๋ยวเอาของไปบ้านใหญ่ให้เฮียหน่อย”“เฮียไม่ใช้ลูกน้องเฮียละ”ภาคินปรายตาคมมองเก้า เก้าเลยรีบพยักหน้ารับก่อนจะหันมาสั่งเสียฉัน“ยาหยีให้เฮียไปส่งล่ะกันนะ”“ไม่ เดี๋ยวกูรอมึงได้”“เก้า มึงเอาของไปให้บ้านใหญ่เสร็จ เอาโกโก้(ไซบีเรียน) ไปหาหมอด้วย”“ทำไมต้องผมด้วยอ่ะเฮีย”“เดี๋ยวกูให้บัตรวีไอพีร้านกู”เมื่อได้ยินอย่างนั้นจากหน้าตาอมทุกข์ของเพื่อนฉันเมื่อครู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นทันตาเห็น“ทุกอย่างฟรีนะเฮีย”“เออ”“รักเฮียที่สุด ผมไปล่ะ”และเพื่อนตัวดีของฉันก็วิ่งหายออกจากบ้านไปโดยไม่หันมาอำลาฉันด้วยซ้ำ“จะกลับคอนโดไม่ใช่หรอ ลุกดิ”“นายแกล้งหางานให้เก้ามันใช่มั๊ย”ภาคินหันมายกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินล้วงกระเป๋านำออกไปหน้าบ้านอร๊าก ฉันอยากจะข่วนหน้าหล่อๆนั่นเสียจริง ให้ตายเถอะคอนโด PPฉันมาถึงคอน
อ้อนรัก 9(หมูหวาน)ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มซึ่งเป็นเวลาที่ฉันควรนอนตีพุงอยู่ที่ห้องหลังจากไปกินซูชิกับพวกบีและดาด้ามาแต่ฉันกลับต้องขับรถกลับไปบ้านภาคินไม่ใช่เพราะเขาสั่งหรอก แต่เป็นเพราะฉันเองที่ลืมกุญแจไว้บ้านเขา แหะๆ >_บ้านภาคินช่วงนี้ฉันเข้าออกบ้านภาคินได้อย่างสะดวกสบาย พวกการ์ดหน้าประตูก็เริ่มยิ้มแย้มกับฉันบ้าง(คือเมื่อก่อนไม่ยิ้มเลยหนะ)“ไปไหนของเขานะ”ภายในมันปิดไฟมืด มีเพียงเเสงไฟจากสวนหน้าบ้านเท่านั้นฉันจอดรถตรงที่จอดรถก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ฉันไม่ได้มีกุญแจบ้านเขาหรอกแต่บ้านเขาไม่เคยล็อกเลยต่างหากเป็นฉันก็คงไม่ล็อคหรอก การ์ดในบ้านแน่นหนากว่ากุญแจขนาดนี้“อยู่นี่เอง”เมื่อเห็นกุญแจของตัวเอง ฉันเลยรีบตรงเข้าไปหยิบและจังหวะที่ฉันหันหลังกลับมา“เฮ้ย นายไปทำอะไรมา ทำไมแผลเยอะขนาดนี้”เจ้าของบ้านเดินเข้ามาในบ้านด้วยสภาพสะบักสะบอม ตรงหางคิ้วและมุมปากมีเลือดไหลซิบๆ“มาทำอะไร หรือคิดถึงฉัน”เหลือเชื่อเลย มีแผลเต็มตัว ภาคินยังหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ฉันได้“ฉันแค่ลืมของเถอะ”ฉันเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าภาคิน ที่พึ่งเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟา“มองหน้าฉันทำไม?”“นายไปโรงพยาบาลเถอะ”“ไม่จำเป็น แผ
อ้อนรักมาเฟีย 10(หมูหวาน)ไลน์ คานทองประดับคริสตัลB : คืนนี้อย่าลืมวันเกิดกูหมูหวาน : กูอาจจะไปไม่ได้B : ไม่ได้นะ มึงมีเหตุผลอะไร?หมูหวาน : ปวดหัวง่ะดาด้า : อย่ามาสตอค่ะB : เออ ถ้ามึงไม่มา กูจะไปลากมึงมาเองฉันก้มลงมองมือถือสลับกับเงยหน้ามองร่างสูงที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ที่โต๊ะทำงานฮรือ ฉันจะไปวันเกิดบีได้ไงล่ะ ในเมื่อ กฎในสัญญา ฉันต้องกลับบ้านก่อนห้าโมงหรือจะแอบหนีไปดี ไม่ได้ๆ โดนจับได้คงไม่คุ้ม ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องขอตรงๆ“นาย โจ๊กได้ล่ะนะ”ฉันตะโกนบอกภาคินซึ่งเขาไม่ได้ลุกมาเพียงแต่ตอบกลับมาเสียงเรียบๆเท่านั้น“อืม ตั้งไว้ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวไปกิน”เอาไงดีวะ ฉันชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง มือประสานกันแน่น ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป“วันนี้ขอไปงานวันเกิดบีที่ร้านxxxนะ”“ไม่ได้!!!”“ทำไมถึงไม่ได้ แค่ไปวันเกิดเพื่อนเองนะ”ฉันว่าพลางไปยืนเท้าเอวหน้าโต๊ะทำงานของภาคินเจ้าของใบหน้าหล่อเงยหน้าขึ้นมองฉันก่อนจะพูดด้วยเสียงเรียบ“เพราะฉันไม่อนุญาต”อะไรของเขานักหนา นี่ก็อุส่ามาขอดีๆล่ะนะ ยังจะมาวางมาดอีกแต่เอาวะเพื่อความสงบสุขในชีวิต ลองอ้อนหน่อยล่ะกัน“ภาคิน หมูหวานขอไปหน่อยนะคะ”เป็นครั้งแรกที่ฉัน
อ้อนรัก 11(ภาคิน)“รีบมากรึไง”“รีบสิ นี่เลทมาจะสองชั่วโมงแล้ว”ลูกหมูตัวเล็กหันมาพูดอย่างรีบร้อน“ฉันไปก่อนนะ”“เดี๋ยว เข้าไปพร้อมกัน”ผมดึงแขนเธอไว้ หมูหวานตวัดสายตามองผมเขม็งแต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจวันนี้เป็นวันศุกร์คนในร้านจึงเยอะเป็นพิเศษ ผมและหมูหวานเดินมาถึงทางเข้า ลูกน้องผมก็รีบวิ่งเข้ามาหา“สวัสดีครับนาย”“วันนี้เป็นไงบ้าง”ระหว่างที่ผมกำลังคุยกับลูกน้องอยู่นั้น ลูกหมูตัวเล็กก็หันมาบอกลาผมก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในร้านด้วยความรวดเร็ว“หมูหวาน เดี๋ยว แมร่งเอ้ย ดื้อจริงๆ”“ให้ผมตามไปมั้ยครับนาย”ผมส่ายหน้าให้ลูกน้องแทนคำตอบ ก่อนจะหันมาคุยเรื่องงานต่ออย่างน้อยเธอก็ยังอยู่ในร้านของผม คงไม่มีอะไรหรอกหลังจากคุยงานกับลูกน้องเสร็จ ผมเลยเข้ามานั่งที่โต๊ะประจำของตัวเองซึ่งไฟว์นั่งอยู่ก่อนแล้ว“มึงนั่งยิ้มอะไรวะ”ผมถามเพื่อน ขณะเดินมาถึงโต๊ะแล้วเห็นมันนั่งหัวเราะอยู่คนเดียว“มึงดูน้องหมูหวานดิ น่ารักชิบหาย”ชื่อของบุคคลที่สามส่งผลให้ผมรีบหันไปมองทันทีแล้วภาพที่เห็นก็ทำเอาผมถึงกับอมยิ้มเหมือนกันลูกหมูตัวเล็กกำลังเต้นท่าแปลกๆซึ่งมันก็ยังน่ารักอยู่ดี“อาทิตย์หน้า ไอแทนกับไอไทมาถึงแล้วนะ”“เออ
อ้อนรัก 12(ภาคิน)หลังจากผมรวบรวมสติอยู่หลายนาที ผมก็หันกลับไปหาลูกหมูตัวเล็กที่กำลังทะเลาะกับตุ๊กตาอยู่และนั่นยิ่งทำให้เลือดลมผมสูบฉีดมากกว่าเดิม เธอดูน่ารักและน่าขย้ำจริงๆ ให้ตายเถอะ“ลูกหมูไปอาบน้ำ จะได้มานอน”“^_^”ยิ้ม เธอไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มกว้างกลับมาเท่านั้น ให้ตายสิผมไม่เคยเห็นผู้หญิงเมาแล้วทำตัวน่ากินขนาดนี้มาก่อนเลย“ไม่ต้องมายิ้มเลย”“อิอิ ปายอาบน้ำกาน”ลูกหมูตัวเล็กกระโดดลงจากเตียง ถอดชุดเดรสสั้นของตัวเองออกก่อนจะลากผมวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ“ขาว เอ้ย ระวังขาหน่อยสิ”ผมเริ่มควบคุมสติตัวเองไม่อยู่อีกครั้ง ผิวเนียนขาว สัมผัสนุ่นนิ่มทำให้ลูกชายผมตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง“อิอิ ม่ายล้มหรอกกก”“อาบเสร็จแล้วเรียกนะ”“ม่ายอาบด้วยกานหรอ”ผมพ่นลมหายใจออกมาเพื่อควบควมสติของตัวเอง แต่ลูกหมูตัวเล็กก็ยังส่งสายตาออดอ้อนกลับมาอีก“ลูกหมู ตอนนี้เธอไม่มีสติ ฉันไม่อยากทำอะไรคนไม่มีสติ”“ทำไมอะ ไม่อยากกินหมูหวานหรา อาย่อยน๊า”การกระทำแสนน่าขย้ำของเธอ ทำเอาผมถึงกับตบหน้าผากตัวเอง“แมร่งเอ้ย เธอทำตัวเองนะ”ในที่สุดสติผมก็ขาดจนได้ ผมโน้มลงประจูบกับปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อก่อนจะเลื่อนมือไปปลดตระขอบราแ
อ้อนรัก 13(หมูหวาน)ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ฉันต้องควานหาผ้าห่มมาคลุมตัวแสงแดดอ่อนๆกระทบโดนหน้าฉันจนฉันต้องพลิกตัวหนีมัน“โอ๊ย”เพียงแค่ฉันขยับตัว ความปวดก็ร้าวไปทั้งตัว“อ้าว ตื่นละหรอ”เสียงเข้มที่คุ้นเคยทำให้ฉันตวัดสายตาไปมองเจ้าของเสียงก่อนจะค่อยๆดันตัวเองขึ้นนั่ง“กินข้าวมั๊ย”ภาคินถามขึ้นแต่เพียงฉันสบตากับเขา ภาพเรื่องราวเมื่อคืนก็แล่นเข้ามาในหัวแทบทันที“ทำไมหน้าแดงแบบนั้น ไข้ขึ้นหรอ”เขายื่นมือมาหมายจะอังหน้าผากฉันแต่ฉันถอยหลังหนีซะก่อน“ฉันไม่เป็นไร”ฉันปฏิเสธและพยายามหลบตาเขา นั่นทำให้ฉันเห็นสภาพรอบห้อง“ทะ...ทำไมห้องเละแบบนี้”ข้าวของภายในห้องกระจัดกระจาย พวกหมอน ตุ๊กตาฉันนอนเกลื่อนกลาดเต็มพื้นห้องและยิ่งไปกว่านั้นเมื่อฉันหันไปเห็นสภาพห้องน้ำที่ประตูเปิดอยู่ก็ถึงกับอุทานเสียงดัง“เชี่ย ห้องน้ำฉัน”“ไม่เห็นต้องตกใจเลย เดี๋ยวฉันให้คนมาจัดการให้”“ไม่ ไม่ได้นะ!!”ฉันไม่มีทางให้คนอื่นมาเห็นสภาพห้องฉันแบบนี้เด็ดขาด คนอื่นเห็นต้องรู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้น น่าอายจะตาย“อะไรของเธอวะ”ภาคินดูเหมือนจะไม่ค่อยสบอารมณ์เช่นกัน“ฉันจะทำเอง นายกลับไปได้แล้ว”“อย่ามาอวดเก่ง แค่เดินเธอย
อ้อนรักมาเฟีย 15(หมูหวาน)บรรยากาศบนโต๊ะอาหารระหว่างฉันกับภาคินค่อนข้างอึมครึมแต่โชคดีที่มีเพื่อนเขาและเก้าอยู่ด้วย บรรยากาศโดยรวมเลยครึกครื้นสนุกสนาน“จริงๆ พี่ได้ยินชื่อน้องหมูหวานมานานแล้วนะครับ พอมาเจอตัวจริง ฉายานางฟ้านี่เหมาะกับน้องมากเลย”พี่ไทพูดพลางฉีกยิ้มกว้างมาให้ฉัน“เหอะ นางมารสิไม่ว่า”ภาคินพูดขึ้น เขาทำลอยหน้าลอยตาแต่พูดแบบนี้เด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าเขาต้องการเหน็บฉัน“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ โฮะๆ”ฉันทำเป็นไม่สนใจภาคิน หันไปตอบพี่ไทแทน“ขนาดนั้นแหละครับ น้องหมูหวานสวยหยดย้อยขนาดนี้”พี่แทนว่าพลางตักปลากระพงทอดน้ำปลาใส่จานฉัน“ขอบคุณมากค่ะ พี่แทนลองทานอันนี้นะคะ อร่อยมาก”ฉันกล่าวขอบคุณก่อนจะทักกุ้งผัดซอสมะขามให้เขาเป็นการตอบแทน“ขอบคุณมะ... เฮ้ย อะไรวะไอคิน น้องเขาตักให้กู”“กูอยากกินชิ้นนี้ มึงเอาชิ้นนี้ไปสิ”ภาคินเอาซ้อมจิ้มกุ้งตัวนั้นเข้าปากแล้วหยิบตัวใหม่ใส่จานเพื่อน“น้องหมูหวาน พี่ก็อยากกินกุ้งนะครับ *0*”“ยาหยี เก้าก็อยากกิน *0*”เหมือนพี่ไฟว์และเก้าพยายามจะกวนตีนใครบ้างคนแถวนี้ ซึ่งดูเหมือนมันก็ได้ผลเพราะพอฉันตักกุ้งให้พวกเขาภาคินก็จิ้มยัดใส่ปากตัวเอง“ไม่ยักรู้นะ
อ้อนรัก 14สี่วันแล้ว สี่วันที่ฉันไม่ได้เจอภาคินเลยเมื่อสี่วันที่แล้ว ฉันไปบ้านเขาเพื่อทำอาหารเช้าให้เขาตามข้อตกลงในสัญญาแต่ลูกน้องเขากลับบอกว่าเขาไปต่างประเทศ ยังไม่มีกำหนดกลับ“จ๊ะเอ๋ ยาหยี”ส่วนคนที่ฉันเจอตลอดทั้งสี่วันคือเก้า โดยทุกวันมันจะซื้อนู้น ซื้อนี่มาให้บอกว่าภาคินฝากมาแต่ภาคินไม่ยอมรับโทรศัพท์ฉันนะ ตลกมั้ยล่ะ“มึงมาทำอะไรทุกวัน”“เอาเค้กใบเตยจากที่บ้านมาให้มึงไง”“เฮ้อ ขอบใจ พี่นายยังไม่กลับอีกหรอ?”เก้าวางแก้วน้ำในมือ หันมาจ้องฉันอย่างจับผิด“ว่าแล้ว ยาหยี มึงกับเฮียมีเรื่องอะไรกัน”“ป๊าว กูก็แค่ถามดู”“เฮียกลับมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แปลกมาก ที่เฮียไม่บอกมึง ทั้งที่เป็นคนสั่งให้กูเอานู้น เอานี่มาให้มึงทุกวัน”ฉันฟังเก้าพูดแล้วได้แต่ถอนหายใจ คำพูดของฉันวันนั้นมันก็แรงเกินไปจริงๆนั้นแหละ“มึงอยากไปหาเฮียมั้ยละ”“เฮ้อ เขาคงไม่อยากเจอกูมั้ง”“เอาหัวเป็นประกันเลย กูว่าเฮียอยากเจอมึง”เก้าพูดพลางตักเค้กเข้าปาก ฉันเลยถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย นี่คือสรุปฉันต้องไปง้อภาคินถูกมั้ย -_-‘“เออ กูไปก็ได้”“หึหึ เอาชุดไปสักสองสามชุดนะยาหยี”“หืม?”“เราจะไปทะเลกัน ^_^”ห้าโมงเย็นฉันและเก้าเด
อ้อนรัก 13(หมูหวาน)ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ฉันต้องควานหาผ้าห่มมาคลุมตัวแสงแดดอ่อนๆกระทบโดนหน้าฉันจนฉันต้องพลิกตัวหนีมัน“โอ๊ย”เพียงแค่ฉันขยับตัว ความปวดก็ร้าวไปทั้งตัว“อ้าว ตื่นละหรอ”เสียงเข้มที่คุ้นเคยทำให้ฉันตวัดสายตาไปมองเจ้าของเสียงก่อนจะค่อยๆดันตัวเองขึ้นนั่ง“กินข้าวมั๊ย”ภาคินถามขึ้นแต่เพียงฉันสบตากับเขา ภาพเรื่องราวเมื่อคืนก็แล่นเข้ามาในหัวแทบทันที“ทำไมหน้าแดงแบบนั้น ไข้ขึ้นหรอ”เขายื่นมือมาหมายจะอังหน้าผากฉันแต่ฉันถอยหลังหนีซะก่อน“ฉันไม่เป็นไร”ฉันปฏิเสธและพยายามหลบตาเขา นั่นทำให้ฉันเห็นสภาพรอบห้อง“ทะ...ทำไมห้องเละแบบนี้”ข้าวของภายในห้องกระจัดกระจาย พวกหมอน ตุ๊กตาฉันนอนเกลื่อนกลาดเต็มพื้นห้องและยิ่งไปกว่านั้นเมื่อฉันหันไปเห็นสภาพห้องน้ำที่ประตูเปิดอยู่ก็ถึงกับอุทานเสียงดัง“เชี่ย ห้องน้ำฉัน”“ไม่เห็นต้องตกใจเลย เดี๋ยวฉันให้คนมาจัดการให้”“ไม่ ไม่ได้นะ!!”ฉันไม่มีทางให้คนอื่นมาเห็นสภาพห้องฉันแบบนี้เด็ดขาด คนอื่นเห็นต้องรู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้น น่าอายจะตาย“อะไรของเธอวะ”ภาคินดูเหมือนจะไม่ค่อยสบอารมณ์เช่นกัน“ฉันจะทำเอง นายกลับไปได้แล้ว”“อย่ามาอวดเก่ง แค่เดินเธอย
อ้อนรัก 12(ภาคิน)หลังจากผมรวบรวมสติอยู่หลายนาที ผมก็หันกลับไปหาลูกหมูตัวเล็กที่กำลังทะเลาะกับตุ๊กตาอยู่และนั่นยิ่งทำให้เลือดลมผมสูบฉีดมากกว่าเดิม เธอดูน่ารักและน่าขย้ำจริงๆ ให้ตายเถอะ“ลูกหมูไปอาบน้ำ จะได้มานอน”“^_^”ยิ้ม เธอไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มกว้างกลับมาเท่านั้น ให้ตายสิผมไม่เคยเห็นผู้หญิงเมาแล้วทำตัวน่ากินขนาดนี้มาก่อนเลย“ไม่ต้องมายิ้มเลย”“อิอิ ปายอาบน้ำกาน”ลูกหมูตัวเล็กกระโดดลงจากเตียง ถอดชุดเดรสสั้นของตัวเองออกก่อนจะลากผมวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ“ขาว เอ้ย ระวังขาหน่อยสิ”ผมเริ่มควบคุมสติตัวเองไม่อยู่อีกครั้ง ผิวเนียนขาว สัมผัสนุ่นนิ่มทำให้ลูกชายผมตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง“อิอิ ม่ายล้มหรอกกก”“อาบเสร็จแล้วเรียกนะ”“ม่ายอาบด้วยกานหรอ”ผมพ่นลมหายใจออกมาเพื่อควบควมสติของตัวเอง แต่ลูกหมูตัวเล็กก็ยังส่งสายตาออดอ้อนกลับมาอีก“ลูกหมู ตอนนี้เธอไม่มีสติ ฉันไม่อยากทำอะไรคนไม่มีสติ”“ทำไมอะ ไม่อยากกินหมูหวานหรา อาย่อยน๊า”การกระทำแสนน่าขย้ำของเธอ ทำเอาผมถึงกับตบหน้าผากตัวเอง“แมร่งเอ้ย เธอทำตัวเองนะ”ในที่สุดสติผมก็ขาดจนได้ ผมโน้มลงประจูบกับปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อก่อนจะเลื่อนมือไปปลดตระขอบราแ
อ้อนรัก 11(ภาคิน)“รีบมากรึไง”“รีบสิ นี่เลทมาจะสองชั่วโมงแล้ว”ลูกหมูตัวเล็กหันมาพูดอย่างรีบร้อน“ฉันไปก่อนนะ”“เดี๋ยว เข้าไปพร้อมกัน”ผมดึงแขนเธอไว้ หมูหวานตวัดสายตามองผมเขม็งแต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจวันนี้เป็นวันศุกร์คนในร้านจึงเยอะเป็นพิเศษ ผมและหมูหวานเดินมาถึงทางเข้า ลูกน้องผมก็รีบวิ่งเข้ามาหา“สวัสดีครับนาย”“วันนี้เป็นไงบ้าง”ระหว่างที่ผมกำลังคุยกับลูกน้องอยู่นั้น ลูกหมูตัวเล็กก็หันมาบอกลาผมก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในร้านด้วยความรวดเร็ว“หมูหวาน เดี๋ยว แมร่งเอ้ย ดื้อจริงๆ”“ให้ผมตามไปมั้ยครับนาย”ผมส่ายหน้าให้ลูกน้องแทนคำตอบ ก่อนจะหันมาคุยเรื่องงานต่ออย่างน้อยเธอก็ยังอยู่ในร้านของผม คงไม่มีอะไรหรอกหลังจากคุยงานกับลูกน้องเสร็จ ผมเลยเข้ามานั่งที่โต๊ะประจำของตัวเองซึ่งไฟว์นั่งอยู่ก่อนแล้ว“มึงนั่งยิ้มอะไรวะ”ผมถามเพื่อน ขณะเดินมาถึงโต๊ะแล้วเห็นมันนั่งหัวเราะอยู่คนเดียว“มึงดูน้องหมูหวานดิ น่ารักชิบหาย”ชื่อของบุคคลที่สามส่งผลให้ผมรีบหันไปมองทันทีแล้วภาพที่เห็นก็ทำเอาผมถึงกับอมยิ้มเหมือนกันลูกหมูตัวเล็กกำลังเต้นท่าแปลกๆซึ่งมันก็ยังน่ารักอยู่ดี“อาทิตย์หน้า ไอแทนกับไอไทมาถึงแล้วนะ”“เออ
อ้อนรักมาเฟีย 10(หมูหวาน)ไลน์ คานทองประดับคริสตัลB : คืนนี้อย่าลืมวันเกิดกูหมูหวาน : กูอาจจะไปไม่ได้B : ไม่ได้นะ มึงมีเหตุผลอะไร?หมูหวาน : ปวดหัวง่ะดาด้า : อย่ามาสตอค่ะB : เออ ถ้ามึงไม่มา กูจะไปลากมึงมาเองฉันก้มลงมองมือถือสลับกับเงยหน้ามองร่างสูงที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ที่โต๊ะทำงานฮรือ ฉันจะไปวันเกิดบีได้ไงล่ะ ในเมื่อ กฎในสัญญา ฉันต้องกลับบ้านก่อนห้าโมงหรือจะแอบหนีไปดี ไม่ได้ๆ โดนจับได้คงไม่คุ้ม ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องขอตรงๆ“นาย โจ๊กได้ล่ะนะ”ฉันตะโกนบอกภาคินซึ่งเขาไม่ได้ลุกมาเพียงแต่ตอบกลับมาเสียงเรียบๆเท่านั้น“อืม ตั้งไว้ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวไปกิน”เอาไงดีวะ ฉันชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง มือประสานกันแน่น ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป“วันนี้ขอไปงานวันเกิดบีที่ร้านxxxนะ”“ไม่ได้!!!”“ทำไมถึงไม่ได้ แค่ไปวันเกิดเพื่อนเองนะ”ฉันว่าพลางไปยืนเท้าเอวหน้าโต๊ะทำงานของภาคินเจ้าของใบหน้าหล่อเงยหน้าขึ้นมองฉันก่อนจะพูดด้วยเสียงเรียบ“เพราะฉันไม่อนุญาต”อะไรของเขานักหนา นี่ก็อุส่ามาขอดีๆล่ะนะ ยังจะมาวางมาดอีกแต่เอาวะเพื่อความสงบสุขในชีวิต ลองอ้อนหน่อยล่ะกัน“ภาคิน หมูหวานขอไปหน่อยนะคะ”เป็นครั้งแรกที่ฉัน
อ้อนรัก 9(หมูหวาน)ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มซึ่งเป็นเวลาที่ฉันควรนอนตีพุงอยู่ที่ห้องหลังจากไปกินซูชิกับพวกบีและดาด้ามาแต่ฉันกลับต้องขับรถกลับไปบ้านภาคินไม่ใช่เพราะเขาสั่งหรอก แต่เป็นเพราะฉันเองที่ลืมกุญแจไว้บ้านเขา แหะๆ >_บ้านภาคินช่วงนี้ฉันเข้าออกบ้านภาคินได้อย่างสะดวกสบาย พวกการ์ดหน้าประตูก็เริ่มยิ้มแย้มกับฉันบ้าง(คือเมื่อก่อนไม่ยิ้มเลยหนะ)“ไปไหนของเขานะ”ภายในมันปิดไฟมืด มีเพียงเเสงไฟจากสวนหน้าบ้านเท่านั้นฉันจอดรถตรงที่จอดรถก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ฉันไม่ได้มีกุญแจบ้านเขาหรอกแต่บ้านเขาไม่เคยล็อกเลยต่างหากเป็นฉันก็คงไม่ล็อคหรอก การ์ดในบ้านแน่นหนากว่ากุญแจขนาดนี้“อยู่นี่เอง”เมื่อเห็นกุญแจของตัวเอง ฉันเลยรีบตรงเข้าไปหยิบและจังหวะที่ฉันหันหลังกลับมา“เฮ้ย นายไปทำอะไรมา ทำไมแผลเยอะขนาดนี้”เจ้าของบ้านเดินเข้ามาในบ้านด้วยสภาพสะบักสะบอม ตรงหางคิ้วและมุมปากมีเลือดไหลซิบๆ“มาทำอะไร หรือคิดถึงฉัน”เหลือเชื่อเลย มีแผลเต็มตัว ภาคินยังหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ฉันได้“ฉันแค่ลืมของเถอะ”ฉันเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าภาคิน ที่พึ่งเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟา“มองหน้าฉันทำไม?”“นายไปโรงพยาบาลเถอะ”“ไม่จำเป็น แผ
อ้อนรัก 8(หมูหวาน)ฉันนั่งกอดอกมองเก้ากินอาการเช้าอย่างสุขสมและไม่รีบร้อนใดๆด้วยความหงุดหงิด“มึงกินเร็วๆได้มั๊ยเก้า”“ยาหนีป้อนเค้าสิ”เก้าหันมาฉีกยิ้มกว้างให้ฉัน ฉันเลยผลักหน้าผากมันออก อย่าคิดว่าฉันจะมีซัมติงกับเก้านะเราสนิทกันตั้งแต่ปี1 จนฉันรู้ไส้ รู้พุงมันหมดแล้ว คบแค่เพื่อนหนะดีแล้ว“เก้า เดี๋ยวเอาของไปบ้านใหญ่ให้เฮียหน่อย”“เฮียไม่ใช้ลูกน้องเฮียละ”ภาคินปรายตาคมมองเก้า เก้าเลยรีบพยักหน้ารับก่อนจะหันมาสั่งเสียฉัน“ยาหยีให้เฮียไปส่งล่ะกันนะ”“ไม่ เดี๋ยวกูรอมึงได้”“เก้า มึงเอาของไปให้บ้านใหญ่เสร็จ เอาโกโก้(ไซบีเรียน) ไปหาหมอด้วย”“ทำไมต้องผมด้วยอ่ะเฮีย”“เดี๋ยวกูให้บัตรวีไอพีร้านกู”เมื่อได้ยินอย่างนั้นจากหน้าตาอมทุกข์ของเพื่อนฉันเมื่อครู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นทันตาเห็น“ทุกอย่างฟรีนะเฮีย”“เออ”“รักเฮียที่สุด ผมไปล่ะ”และเพื่อนตัวดีของฉันก็วิ่งหายออกจากบ้านไปโดยไม่หันมาอำลาฉันด้วยซ้ำ“จะกลับคอนโดไม่ใช่หรอ ลุกดิ”“นายแกล้งหางานให้เก้ามันใช่มั๊ย”ภาคินหันมายกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินล้วงกระเป๋านำออกไปหน้าบ้านอร๊าก ฉันอยากจะข่วนหน้าหล่อๆนั่นเสียจริง ให้ตายเถอะคอนโด PPฉันมาถึงคอน
อ้อนรัก 7ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูทำให้ฉันซึ่งกำลังช้อปปิ้งสินค้าในไอจีอยู่ต้องหยุดเลื่อนดูสินค้าเพื่อเดินไปเปิดประตู“สวัสดีครับคุณหมูหวาน นายสั่งให้พวกผมมารับคุณ”ชายในชุดสูทสีดำสองคนกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย“มารับฉัน รับไปไหน?”“บ้านนายครับ คุณมีเวลาครึ่งชั่วโมงในการเก็บเสื้อผ้าเพื่อย้ายไปอยู่บ้านนายครับ”“ไปบอกเจ้านายของพวกคุณว่า ฉันจะทำตามสัญญาแต่ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”ฉันยื่นคำขาด ทำท่าจะปิดประตูแต่โดนมือของใครสักคนดักประตูไว้“ถ้าอย่างนั้น พวกผมต้องขอโทษด้วยนะครับ”พูดจบคนที่ตัวใหญ่กว่าก็ตรงเข้ามาจับฉันพาดบ่าเดินดุ่มๆลงทางบันไดหนีไฟ“กรี๊ด ปล่อยฉันนะ ปล่อย”“ผมว่าคุณหมูหวานไม่ควรดิ้นนะครับ”ผู้ชายอีกคนที่ตามหลังฉันมาติดๆกล่าวขึ้นแต่มีหรอ ฉันจะฟัง“ไม่ !! ฉันจะร้องดังๆ เอาให้พวกนายถูกจับเลย”“ถ้าอย่างนั้น ผมคงต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ”หมับหลังจากผู้ชายคนนั้นเอาผ้าผืนสีขาวมาโป๊ะฉัน สติทั้งหมดของฉันก็ดับวูบไปทันทีบ้านภาคิน“ตื่นได้แล้ว เธอจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน”แรงสะกิดตรงไหล่ทำให้ฉันนึกรำคาญเลยปัดไล่มัน คงเป็นยุงละมั้ง“เฮ้ เธอกล้าปัดมือฉันหรอ”คราวนี้จากแรงสะกิดเบาๆ ก