ผลัดกันชิม /2

เธอพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง “พ่อไม่ได้เล่าทุกอย่างเกี่ยวกับเมื่อวานที่ออฟฟิสให้หนูฟัง มันเป็นไงบ้าง”

“พ่อไม่ได้เล่าเหรอ ดูเหมือนพ่อจะไม่รู้เรื่องการเขียนโค้ดหรือการเขียนโปรแกรมเลย พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าพ่อเริ่มต้นบริษัท

ซอฟต์แวร์ได้อย่างไร ไรอันบอกพ่อว่าพ่อเป็นคนวางแผนกลยุทธ์และขาย นั่นเป็นปัญหา พ่อไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโปรแกรมซอฟต์แวร์

ของเราเลย แล้วพ่อจะขายมันได้อย่างไร”

“พ่อจะได้เรียนรู้เอง” นิดส่งวิ้งค์ให้เขาเป็นสัญลักษณ์ว่าอย่าได้กังวลไป

“จริงอยู่ เดาว่าพ่อจะเรียนรู้ได้อยู่แล้ว”

ก่อนที่เธอจะตอบ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง “ฝนจะตกที่ไหน?”

“ฝนจะมา แอปพยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะเริ่มตกในเช้านี้”

“ดี”

เป็นไปตามที่พยากรณ์อากาศคาดการณ์ไว้ ฝนโปรยปรายลงมาตามด้วยเสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่น ขณะที่นิดกำลังจัด

ห้องนอนของเธอ

“นิด! หนูอยู่ไหน! ฝนตกแล้ว มาที่นี่สิ!” เขาตะโกนเรียกเธอ

เธอหัวเราะคิกคักโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นเรื่องแปลกมากที่ได้ยินความตื่นเต้นจากเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินเรื่องธรรมดาๆ

“นิด!”

“มาแล้วๆ” เธอตอบพร้อมทำหน้าตลกๆ ใส่เขา

เธอพบว่าเขายืนอยู่ที่หน้าต่างห้องนั่งเล่นมองออกไป เมื่อเห็นเธอ เขาก็ยิ้ม “มาเลย” เขากล่าว พร้อมกับจับมือเธอ

“เราจะไปไหนกันคะ”

เขาพาเธอไปที่ประตูหน้า “ออกไปเดินเล่นกลางสายฝน”

“อาจจะมีฟ้าแลบ” เธอกล่าวเตือน

“ใครสนใจล่ะ ไปกันเถอะ”

เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่คนเราจะเพลิดเพลินกับสิ่งที่เรียบง่ายเช่นนี้ได้อย่างไร เราสองเดินจูงมือไปตามถนนด้วยรอยยิ้ม

เขาเงยหน้าพร้อมยกมือขึ้นเพื่อสัมผัสสายฝนที่เทลงมา เธอสุขใจที่เห็นเขามีความสุข เธอรู้สึกสนุกไปด้วยแม้ว่าคนขับรถที่ผ่าน

ไปมาจะมองว่าพวกเราเป็นบ้าหรืออะไรก็ตาม…

ฝนที่กระหน่ำลงมาก็ไล่ความอบอุ่นออกไปจากอากาศ ตัวเธอสั่นเทา “กลับกันเถอะ” เธอแนะนำพร้อมกับคว้ามือของเขาไว้

“โอเค”

หลังจากถึงบ้าน ทั้งสองแยกไปอาบน้ำก่อนที่หวัดจะถามหา ท้องของอีริคร้องขึ้นส่งสัญญาณว่าเขาหิวแล้ว

“ไปทานข้าวนอกบ้านกันดีไหม” เขาเอ่ยชวนนิดที่เพิ่งเดินออกมาจากโถงทางเดิน

“ดีเลยค่ะ เราไม่ได้ไปทานข้าวนอกบ้านกันนานแล้ว” นิดยิ้มตอบรับอย่างดีใจ

ในรถเรนจ์โรเวอร์ เขาถามว่า “ไปกินที่ร้านไหนดี”

“ร้าน Luck’ s ในดาวทาวท์ ดีไหมคะ สเต็กที่นั่นอร่อย” เธอลูบปากทำเป็นน้ำลายสอ

“ดูท่าคงจะต้องอร่อยมากแน่ๆ เราไปกันเถอะ” อีริคเร่งเครื่องออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว

สิบห้านาทีต่อมา…ทั้งสองก็ได้เข้ามายังร้านสเต็กสุดฮอตในเมือง

“สองท่านใช่ไหมคะ” พนักงานกล่าวต้อนรับพร้อมนำทางไปยังที่นั่งในร้าน

“ผมขอเป็นทีโบนสเต็กกับไวน์แดง และอาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่ร้านทุกเมนู” หนักงานรับออเดอร์อึ้งกับยอดออเดอร์

เพราะมันดูจะเยอะมากกับลูกค้าที่มากันแค่สองคน แต่เธอก็ไม่ได้ปริปากอะไรออกไปนอกจากพูดว่า “ได้ค่ะ”

นิชานาถนั่งตกใจในขณะที่พ่อพูดถึงอาหารเกือบทุกจานในเมนู! เธอถามเขาว่าแน่ใจหรือไม่ เขาให้คำยืนยันกับเธอว่าแน่ใจ

“พ่อบ้าไปแล้วเหรอ” เธอถามเมื่อพนักงานเดินออกไป โดยยังคงมึนงงกับคำสั่ง

“เปล่า พ่ออยากลองชิมอาหารทุกจาน คิดว่าเป็นการเรียนรู้อาหารใหม่ๆ แบบย่อๆ”

“แต่... พ่อนึกออกไหมว่ามันจะราคาเท่าไหร่” เธอทำหน้าตาตกใจ

เขายิ้ม “อย่ากังวล สิ่งหนึ่งที่พ่อรู้จากการพบกับไรอันคือ เราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน จริงๆ แล้วเรามีเงินอยู่มากทีเดียว”

สำหรับเธอ นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าพ่อเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ก่อนหน้านี้ เขาค่อนข้างระมัดระวังเรื่องเงินมาก

นั่นเป็นเหตุผลที่เธอเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลแทนที่จะเป็นโรงเรียนเอกชนแพงๆ เหมือนกับเด็กๆ ส่วนใหญ่ในละแวกนั้น

อาหารเย็นมื้อนี้กลายเป็นกิจกรรมที่สนุกที่สุดที่เธอเคยกินมา ทั้งคู่กินทีละคำจากอาหารเกือบยี่สิบจาน พ่อจะแสดงความคิดเห็น

ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร ซึ่งล้วนเป็นเรื่องแปลก ทั้งคู่พลัดกันชิมแล้วสนทนากันอย่างออกรส

พวกเขาตักอาหารใส่ปากกันและพูดคุยเกี่ยวกับแต่ละจานในขณะที่ลูกค้าคนอื่นๆ มองดูด้วยความตื่นตาตื่นใจ

เพราะมีอาหารจานใหม่ทยอยมาเสิร์ฟเรื่อยๆ

เมื่อถึงบ้านก็ดึกดื่นแล้วและทั้งคู่ก็อิ่มกันจนแทบจะเดินไม่ไหว เขาจูบแก้มเธอและกอดเธอแน่น ก่อนจะแยกย้ายเข้าห้องกันไป

---

บนเตียง เธอปล่อยให้วันเวลาผ่านไปในใจของเธอ พร้อมกับยิ้มให้กับตัวเอง ครั้งนี้ ความตื่นเต้นเร้าใจได้รับการต้อนรับ

ครั้งนี้ เธอปล่อยให้จินตนาการของเธอโลดแล่น ปล่อยให้ตัวเองฝันถึงกิจกรรมสุดเซ็กซี่กับพ่อ การสำรวจ การค้นพบ

การถูกสัมผัสและจูบ การกอดกันบนเตียง ครั้งนี้ ขณะที่เธอลูบไล้จุดซ่อนเร้นของเธอ ขณะที่เธอรู้สึกหื่นกระหายมากขึ้น

ความฝันของเธอก็เริ่มร้อนระอุ จากนั้นก็รุนแรงมากยิ่งขึ้น และจุดสุดยอดของเธอก็ระเบิดออกมา ลมหายใจของเธอแทบขาด

เสียงร้องครางแห่งความสุขก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมา…

เธอรู้สึกร้อนรุ่ม เหงื่อออก หัวใจเต้นแรง เธอผ่อนคลาย ขาทั้งสองข้างของเธอเลื่อนลงราบไปกับเตียง ครั้งนี้ เธอถึงจุดสุดยอด

อย่างรุนแรงมากกว่าเดิม

เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอรู้เรื่องเซ็กส์ทุกอย่าง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่พูดถึงมัน เพราะทุกที่ ตั้งแต่แฟชั่นไปจนถึงอินเทอร์เน็ต

เซ็กส์แพร่หลายไปทั่ว แม้แต่ในหมู่เพื่อนสาวของเธอ เซ็กส์ก็เป็นหนึ่งในหัวข้อที่ถูกพูดถึงมากที่สุด

นิดไม่คิดว่าเธอเป็นคนขี้อายในเรื่องที่เกี่ยวกับเซ็กส์ เธอไม่เคยพบช่วงเวลาหรือผู้ชายที่ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นมากพอ

เธอไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตน เธออาจจะเคยได้จูบจากจัสตินซึ่งไม่ใช่เซ็กส์ และเขาก็ไม่ใช่แฟนของเธออยู่แล้ว

เธอรู้เรื่องเซ็กส์หลังจากค้นพบปุ่มกระสันหรือที่เรียกว่าคลิตอริสของตัวเองเมื่อสองสามปีก่อน ครั้งแรกนั้นทำให้เธอลืมตาขึ้น

และเธอก็สนุกกับการสำเร็จความใคร่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นั่นคือตอนที่เธอเริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเซ็กส์เป็นครั้งแรก วัยรุ่นมักอยากรู้

อยากลอง ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา เธออยากรู้ว่ามันจะรู้สึกอย่างไร ด้ามจับแปลงหวีผมที่โค้งมนเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ

ไม่ยาวเกินไป ไม่หนาเกินไป เรียบลื่น ต้องลองสองสามครั้ง เจ็บเล็กน้อย และเธอก็เข้าใจว่าการถูกสอดใส่เป็นอย่างไร

ไม่แย่เลย ค่อนข้างดีทีเดียว…

สิ่งที่เธอชอบมากที่สุดคือการเล่นกับคลิตอริสของตัวเอง รู้สึกถึงความอบอุ่นลื่นๆ ที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้น คลื่นของความรู้สึก

เสียวซ่านที่นุ่มนวลทวีความรุนแรงขึ้น ความรู้สึกเสียวซ่านกลายเป็นความสุข ความสุขของการถึงจุดสุดยอดนี่มันช่างน่าอัศจรรย์

เธอนอนเงียบๆ สงสัยว่าพ่อมีใจให้เธอหรือเปล่า เซ็กของเขาดีไหม? แม้กระทั่งก่อนที่เขาจะความจำเสื่อม เธอไม่เคยเห็นเขา

อยู่กับผู้หญิง ไม่เคยเห็นเขาออกเดทเลย…

ชัดเจนว่าเขาชอบอยู่กับเธอ เธอแน่ใจ แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขารู้สึกดึงดูดใจเธอ? มันน่าตื่นเต้นไม่ใช่หรือ!

เธอขมวดคิ้ว เขาอาจลืมอดีตของเขาไปแล้ว แต่เขารู้ว่าการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้องนั้นผิด

แม้แต่เธอเองก็ยังคิดว่าการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้องเป็นแนวคิดที่น่ารังเกียจ แต่นั่นมันก่อนหน้านั้นแล้ว นั่นเป็นตอนที่

พ่อเป็นพ่อคนเก่า ไม่ใช่พ่อคนใหม่ คนนี้!

เสียงฝนตกหนักลงมาอีกครั้งทำให้ความคิดของเธอสงบลง เหตุการณ์ในช่วงสี่สัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เธออมยิ้ม

เธอหวังว่าจะมีทางที่เธอและพ่อจะได้ใกล้ชิดกันมากกว่านี้เพิ่มขึ้นไปอีก…