ตอนที่ 9
มากกว่าคำว่ารัก........
“คุณธิมีเงินอะไรก็ไม่รู้ค่ะโอนเข้าบัญชีของธิชา”
หญิงสาวตกใจมากที่มีเงินจำนวนหลายแสนบาทโอนเข้าบัญชีของเธอ
“เงินค่าเช่าคอนโดมิเนียมทั้งหมดเลขาของผมโอนให้คุณเอง”
หญิงสาวคิดแต่จะเอาทุกอย่างมาเพื่อใช้ต่อรองถ้าเกิดวันใดที่เธอกับสามีต้องเลิกกันจึงไม่ได้สนใจเรื่องค่าเช่าใด ๆ ในแต่ละเดือน
“คุณให้ธิชาทำไม”
“ก็คอนโดเป็นของคุณค่าเช่าผมก็ต้องให้เจ้าของไม่เห็นแปลกเลย เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมดูเหมือนแปลกใจสงสัยจะลืมไปแล้วว่าตัวเองมีคอนโดให้เช่าหลายห้องเลยนะ”
ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานในห้องนอนตรงเข้ามากอดภรรยาจากทางด้านหลังสองมือของเขาลูบไปที่ท้องของคนตัวเล็กเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง
“เดี๋ยวนี้ภรรยาผมอ้วนลงพุงจังหรือว่าในนั้นไม่ใช่ไขมันแต่เป็นตัวน้อย”
“ไม่ใช่ค่ะ ธิชาอ้วนขึ้น”
คนในอ้อมกอดรีบแกะมือของสามีออกทั้งสองข้างเพราะกลัวว่าถ้าอีกฝ่ายกอดเธอนานกว่านี้มีหวังความลับที่เธอยังไม่พร้อมจะเปิดเผยต้องมาแตกก่อนเวลาแน่ ๆ
ค่ำคืนที่สามของการกลับเข้ามาอยู่ในครอบครัวของสามี ธิชายังคงนอนไม่หลับเพราะเธอยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะบอกคนอื่นเรื่องที่เธอกำลังท้องดีไหม หญิงสาวจึงลงมานั่งเล่นที่สวนหน้าบ้านหวังนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ
“อื้อ..ปล่อย ใคร..อะ”
หญิงสาวได้ยินเหมือนมีเสียงคนเดินอยู่ที่ข้างห้องทำงานของพ่อสามีเธอจึงลุกไปดูแต่ยังไม่ทันถึงกลับถูกมือหนามาปิดปากและพยามกอดเธอไว้แน่น
คนตัวเล็กพยายามดิ้นสุดแรงแต่ก็ไม่สามารถเอาตัวเองหลุดมาจากคนร่างใหญ่ที่จับเธอไว้แน่น มือทั้งสองขั้งถูกมัดไพล่หลังไว้ ปากก็ถูกปิดไว้ด้วยกระดาษกาว ธิชาพยายามองหน้าผู้ชายที่เข้ามาทำร้ายแต่ก็ไม่รู้จักและไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้ามาก่อน
“เอาไงพี่ กลับไหม”
ชายร่างเล็กกว่าที่ยืนแอบอยู่ในมุมมืดเดินออกมาพร้อมด้วยเหล็กยาวและกล่องเครื่องมือช่าง
“อะไรกันแค่อีนี่มาเจอทำไมต้องกลับ มัดมันไว้แล้วกว่าจะมีคนมาเจอก็เช้านู่นแหละลงมือเลยตู้เซฟอยู่ในห้อง”
หญิงสาวฟังบทสนทนาก็พอเดาได้ว่าผู้ชายสองคนนี้ต้องการมาเอาของมีค่าในตู้เซฟ
คนถูกมัดมองไม่เห็นแล้วว่าทั้งสองคนกำลังทำอะไรเพราะตอนนี้เธอถูกจับให้นั่งลงกับพื้นดินและมัดไว้อย่างแน่นเท่าที่ทำได้คือพยายามพาตัวเองไปให้ไกลจากตรงนี้แต่ด้วยความเป็นห่วงลูกในท้องจะกระทบกระเทือน ธิชาจึงตัดสินใจที่นั่งให้นิ่งที่สุด
“ธิชา ธิชา”
ธีภพเปิดประตูบ้านออกมาตามหาภรรยาเพราะตื่นมาแล้วไม่เห็นเธอ สองคนนั้นยังไม่ไป หญิงสาวได้แต่ภาวนาอย่าให้ ชายหนุ่มเดินมาตรงนี้แต่มันก็ไม่เป็นผล
“ธิชา เกิดอะไรขึ้น ใครอยู่แถวนี้มีโจรเข้าบ้าน”
ธีภพรีบแกะเชือกที่มัดแขนของภรรยาและตะโกนให้คนสวนได้ยินเพื่อให้ช่วยกันออกมาจับขโมย
“โวยวายเชียวนะมึง !”
หนึ่งในโจรเล็งปืนมาทางคนทั้งคู่ ธีภพรีบกางแขนของเขาบังตัวภรรยาไว้ทันที
“แกเป็นใคร” ชายหนุ่มถามเพื่อถ่วงเวลา
“พ่อ ! มึงมั้ง อยากดวงซวยมาขวางทางก็ตายไปเถอะ”
ปัง !
ธิชาสองมืออุดหูด้วยความกลัวทันที หลังเสียงปืนดังแค่เพียงนัดเดียวไฟทุกดวงในบ้านถูกเปิดคนสวนและคนขับรถทั้งห้าคนวิ่งมาตามเสียงปืน เมื่อพวกโจรเห็นว่ามีคนกำลังวิ่งมาจึงรีบหนีไปพร้อมถุงที่ใส่ทรัพย์สินที่ได้จากตู้เซฟไป
“คุณธี คุณธีอย่าเป็นอะไรนะคะ”
หญิงสาวรีบเอาตักของตัวเองเข้าไปรองศีรษะของสามีสองมือจับไปที่เสื้อชุดนอนที่ตอนนี้มีแต่เลือดเต็มไปหมด
“ธิชาคุณเป็นอะไรไหม มันยิงโดนคุณหรือเปล่า”
ธีภพพูดด้วยเสียงเบาเหมือนคนจะขาดใจแต่ยังไม่ทันที่ภรรยาจะตอบเขาก็หมดสติลง คนรถรีบเอารถออกทันทีโชคยังดีที่โรงพยาบาลอยู่ห่างขากบ้านไม่มากและเวลานี้ท้องถนนโล่งไม่ค่อยมีรถ ชายหนุ่มจึงไปถึงโรงพยาบาลได้เร็ว
เทวนาถโทรศัพท์แจ้งตำรวจและรีบโทรตามให้ณภัทรมาอยู่เป็นเพื่อนลูกสะใภ้เพราะตอนนี้เทวนาถเองก็ไม่ค่อยมีสติเต็มร้อยทั้งตกใจและเป็นห่วงลูกชาย ส่วนธิชาเองไม่ต้องพูดถึงนั่งนิ่ง น้ำตาไหลช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“คุณจะพาสามีฉันไปไหนคะ”
หญิงสาวลุกจากเก้าอีกหน้าห้องฉุกเฉินทันทีเมื่อทางโรงพยาบาลเข็นเตียงของธีภพออกมาจากห้องฉุกเฉิน
“เราต้องทำการผ่าตัดโดยด่วนค่ะ” นางพยาบาลชี้แจง
คุณหมอรีบเดินมาอธิบายถึงอาการและการรักษาที่ต้องทำโดยเร่งด่วนทันทีเพราะต้องให้ทางญาติเซ็นชื่ออนุญาตยินยอมให้ผ่าตัดเวลานี้ธิชายอมทุกอย่างขออย่างเดียวอย่าให้สามีของเธอเป็นอะไร
“คุณธีคุณต้องตื่นขึ้นมาอยู่กับธิชาและลูกนะคะ”
หญิงสาวบีบมือสามีแน่นก่อนที่ทางโรงพยาบาลจะกันตัวเธอออกมาเพราะต้องทำการผ่าตัดทันที
“เธอท้องแล้วทำไมไม่บอกธี”
ณภัทรเดินตามภรรยาเพื่อนมาตั้งแต่ห้องฉุกเฉิน เขาได้ยินทุกคำที่ธิชาพูดกับคนเจ็บจึงตัดสินใจถามทันที
“ฉันกลัว กลัวว่าถ้าคุณธีรู้ว่าฉันท้องแล้วเขาจะมาพรากลูกไป”
“ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้นธิชา” คนถามส่ายหัวอย่างเสียอารมณ์
“ทำไมจะกลัวไม่ได้ คุณก็รู้ว่าที่คุณธีแต่งงานเพราะอะไรอย่าพยายามเล่นบทเพื่อนที่แสนดีในเวลานี้เลยค่ะ ธิชาเห็นข้อความที่คุณคุยกับคุณธีแล้ว”
หญิงสาวรู้สึกโล่งทันทีที่ได้พูดเรื่องที่ค้างคาเธอจมาหลายเดือน
“แต่...ช่างมันเถอะค่ะ ตอนนี้ฉันขอให้คุณธีปลอดภัย ฉันยอมทุกอย่างแล้ว”
ณภัทรได้แต่มองหน้าภรรยาเพื่อน เขาไม่รู้จะพูดอะไรดีความจริงส่วนหนึ่งเขาก็มีส่วนผิดที่ปกปิดเรื่องนี้แต่อีกใจเขาก็อยากจะบอกว่าทุกอย่างมันเป็นแค่ความรู้สึกในช่วงนั้นตอนนี้เพื่อนของเขาไม่ได้คิดเหมือนที่ธิชาเข้าใจ
“ธิชา คือ..ตอนนี้”
“คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้วค่ะ” หญิงสาวร้องห้าม
บรรยากาศหน้าห้องผ่าตัดเงียบสงบเพราะทั้งธิชาและณภัทรต่างไม่พูดอะไรกัน เทวนาถก็กำลังให้การกับตำรวจอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ไม่มีใครเดินผ่านแถวนั้นเลยสักคน
“ธิชาไม่สนใจแล้วนะว่าคุณธีจะแต่งงานเพราะอะไรขอแค่ให้เขาปลอดภัยกลับมาก็พอ ธิชากับลูกจะไม่หนีไปไหนอีกแล้ว คุณก็ไม่ต้องคิดมากธิชาเข้าใจค่ะ”
คนตัวเล็กพูดออกมาท่ามกลางความเงียบ ณภัทรรู้ใจเสียคิดว่าหญิงสาวจะพูดอะไรที่เป็นการต่อว่าเขากับเพื่อน พอได้ยินแบบนี้คนฟังค่อยสบายใจขึ้นมาก็จะเหลือแต่ช่วยกันภาวนาให้เพื่อนของเขาปลอดภัยเท่านั้น
ธิชานอนรออยู่ที่เก้าอี้หน้าห้องผ่าตัดเกือบหกชั่วโมง หญิงสาวสะดุ้งตื่นเมื่อเพื่อนของสามีมาปลุกว่าทางโรงพยาบาลจะพาธีภพไปยังห้องไอซียูจนกว่าเขาจะฟื้น
“ธิชากลับไปบ้านก่อนไหม”
“ไม่ค่ะ คุณณภัทรกลับไปพักก่อนก็ได้ค่ะ ธิชาจะอยู่ดูคุณธี”
เทวนาถเดินมาพอดีพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่และผ้าห่มอีกหนึ่งผืน
“พ่อกลับไปเอาของมาให้คว้าอะไรมาได้ก็เอามาก่อนไปนอนรอที่ห้องพักข้าง ๆ พ่อติดต่อไว้ให้แล้ว”
โรงพยาบาลมีห้องพักสำหรับญาติที่ต้องการเฝ้าผู้ป่วยที่อยู่ห้องไอซียูถึงจะราคาแพงแต่เทวนาถก็ยินดีจ่าย
“นอนพักนะลูก หลานพ่อจะได้แข็งแรง”
ธิชามองพ่อสามีด้วยความตกใจเพราะเธอยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขาเลยทำมเขาถึงรู้
“ไม่ต้องตกใจไป พ่อได้ยินที่ลูกบอกธีหน้าห้องฉุกเฉิน ห่วงเจ้าธีได้แต่อย่าลืมห่วงตัวเองนะ”
เทวนาถแวะคุยกับหมอมาแล้ว เขาจึงสบายใจขึ้นกับอาการลูกชายเพราะกระสุนไม่โดนจุดอันตรายแต่เสียเลือดไปมากต้องใช้เวลาพักฟื้นสักพักก็จะกลับมาเป็นปกติได้เหมือนเดิม
ตอนที่ 1ความทรงจำที่เลวร้าย........“ภพ” เทวนาถเรียกชื่อลูกชายที่กำลังทำเป็นมองไม่เห็นเขาที่นั่งรออยู่ที่โซฟากลางบ้าน “คุณพ่อ...มานั่งทำไมตรงนี้ ดึกแล้วยังไม่เข้านอนพรุ่งนี้จะความดันสูงได้นะครับ” ธีภพเมื่อหลีกไม่ได้ก็เปลี่ยนใจกลับมานั่งคุยกับบิดาแทนทั้งที่รู้ว่าพ่อของเขากำลังจะพูดเรื่องที่เขาไม่อยากฟัง “ลูกจำอาพชรเพื่อนของพ่อที่เคยมาที่บ้านเราบ่อย ๆ จำได้ไหม วันนี้ลูกสาวเขาโทรศัพท์มาบอกพ่อว่าพชรมีอาการ หัวใจล้มเหลวเฉีบพลัน พ่อตามไปที่โรงพยาบาลแต่ไม่ทัน ทุกอย่างมันเร็วมากเมื่อวานตอนบ่ายยังไปดื่มกาแฟด้วยกันอยู่เลย ” “ผมเสียใจด้วยนะครับคุณพ่อ ” ธีภพไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อเพราะตอนนี้บิดาของเขาอยู่ในห้วงอารมณ์ที่เศร้าจนเขาไม่กล้าพูดอะไรมาก “ชีวิตพ่อก็ยังไม่รู้ว่าจะมีพรุ่งนี้ได้อีกสักกี่วัน ธีภพลูกก็รู้ว่าพ่อมีห่วงอยู่เพียงเรื่องเดียวมันยากนักหรือที่ลูกจะทำให้พ่อสบายใจหรือจะรอให้พ่อต้องไปอย่างพชรลูกถึงจะทำให้พ่อได้” เทวนาถพูดจบก็ลุกจากโซฟาและเดินขึ้นไปยังห้องนอนด้วยท่าทางเหมือนคนกำลังสิ้นหวัง
ตอนที่ 2เธอคือคนที่ใช่........ “คุณธีผ่านมาทำอะไรแถวนี้คะ” ธิชาหันไปถามเจ้านายทันทีหลังจากที่ขึ้นมานั่งบนรถเพราะบ้านของธีภพไม่ได้อยู่ทางเดียวกับคอนโดที่เธออยู่เสียหน่อย “ผมแวะมาทำธุระให้คุณพ่อเห็นธิชาบ่นว่ารถติดก็เลยแวะ มารับกลัวเริ่มงานเดือนแรกเธอจะไปสายเดี๋ยวหัวหน้าแผนกจะว่าเอา” ธีภพโกหกอย่างไม่มีพิรุธเพราะเขาเตรียมคำตอบมาแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันเขาถึงได้ยอมตื่นเช้าและรีบมารับธิชาทั้งที่มันเป็นคนละทางกับที่ทำงานของเขา “คุณธีแวะร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งข้างหน้าหน่อยค่ะ” “แวะทำไมเธอหิวหรือ” “หิวสิคะ อาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญร้านนี้อร่อยมาก ธิชากินเกือบทุกวันเลยค่ะเพราะปกติลงรถประจำทางเสร็จก็จะซื้อเดินกินไปจนถึงที่บริษัทก็อิ่มพอดี” ธีภพไม่เต็มใจจอดแต่ก็ไม่รู้จะใช้เหตุผลอะไรเพราะเขาแค่คิดว่าอาหารข้างทางมันดูไม่สะอาดและไม่น่าจะอร่อยแต่ก็ต้องยอมจอดให้สาวน้อยได้ลงไปซื้อกิน “คุณธีอ้าปากค่ะเดี๋ยวธิชาป้อนเองรับลองคุณจะต้องติดใจแน่ ๆ” ชายหนุ่มทำตัวว่านอนสอนง่ายอ้าปากให้อีกฝ่ายป้อนทั้งข้าวเหนีย
ตอนที่ 3สุดท้ายคือ........ ความสัมพันธ์ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนเจอกัน ทุกวันเพราะหลังจากที่ธิชายอมเป็นคนรักเจ้านายสุดหล่อก็ย้ายเธอไปทำงานที่เดียวกับเขาทันที ธิชาพาธีภพไปทำความรู้จักกับพ่อแม่ของเธอหลังจากนั้นไม่ถึงเดือนเทวนาถก็ทำหน้าที่พ่อไปสู่ขอสาวให้ลูกชายทันที “คุณธีคะเราเพิ่งคบกันไม่ถึงปีมันเร็วไปไหมที่เราจะแต่งงานกัน” หญิงสาวเริ่มรู้สึกกลัวเมื่อเพื่อน ๆ หลายคนต่างพากันทักท้วงเพราะทั้งคู่ยังรู้จักกันได้ไม่เท่าไหร่ “ทำไมถึงคิดแบบนั้นคนเราจะอยู่ด้วยกันได้ไหมมันไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าเราคบกันมานานแค่ไหนแต่มันอยู่ที่ว่าเราอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขหรือความทุกข์มากกว่ากัน ธิชาไม่มีความสุขหรือเปล่าเวลาที่อยู่กับผม” ธีภพเล่นบทหน้าเศร้าเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมแต่งงานด้วย “ธิชามีความสุขที่สุดเลยค่ะ แต่แค่อดคิดไม่ได้ว่ามันเร็วไป” “กว่าจะถึงวันแต่งงานก็อีกตั้งหลายเดือน รวม ๆ แล้วเราก็คบกันเกือบปีและทุกวันนี้เราก็อยู่ด้วยกันทุกวันบางคนคบกันเป็นหลายปีแต่เจอกันแค่เดือนละครั้ง อย่าคิดมากไปเลยชีวิตของแต่ ละคนมั
ตอนที่ 4ตัดสินใจ........ ธิชาตัดสินใจที่จะไม่อ่านข้อความย้อนหลังต่อเพราะเท่าที่เธอเห็นตอนนี้มันก็มากพอที่จะทำให้หัวใจของเธอเหมือนจะขาดลง ความรักที่มันเกิดขึ้นในหัวใจเธอและหญิงสาวคิดมาตลอดว่ามันก็คงเกิดขึ้นกับธีภพเหมือนกันแต่สุดท้ายกลายเป็นว่าเธอกำลังรักเขาฝ่ายเดียวชายหนุ่มที่เพียบพร้อมทุกอย่างขอเธอแต่งงานเพียงเพราะคิดว่าเธอดูซื่อเหมาะกับการที่เขาจะหลอกใช้เป็นเครื่องมือทำให้บิดาของเขาพอใจก็เท่านั้น “คุณธีไม่จริงใช่ไหม คุณรักธิชาและเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน” สาวน้อยนั่งร้องไห้สองมือลูบเบา ๆ ลงไปที่ท้องของเธอ ที่ตอนนี้มีอีกชีวิตกำลังเติบโตอยู่ในนั้นเป็นพยานความรักของเธอที่มีต่อสามีแต่ตอนนี้ธิชาเริ่มไม่แน่ใจว่าข่าวดีที่เธอรอจะบอก กับคุณพ่อคนใหม่เธอควรเลือกที่จะเก็บไว้เป็นความลับก่อนดีหรือเปล่า “ธิชา ผมกลับมาแล้ววันนี้ลืมเอาโทรศัพท์ไป ไม่ได้คุยกันเลย” ธีภพกลับมาถึงบ้านก็รีบเข้ามาหาภรรยาที่กำลังทำอาหารมื้อเย็นอยู่ในครัวทันที “โทรศัพท์อยู่บนโต๊ะทำงานของคุณธีนะคะ กลับมา เหนื่อย ๆ ไปอาบน้ำก่อนดีไหม อาบน้ำเสร็จกับข้าวก็
ตอนที่ 5ยังไม่รู้ใจตัวเอง........ “คุณพ่อครับทำไมบ้านเงียบจัง” ธีภพกลับมาถึงบ้านพร้อมกับบิดาปกติเวลานี้จะต้องได้ยินเสียงภรรยาทำกับข้าวอยู่ในครัวแต่ในบ้านกลับเงียบมากมีเพียงแค่คนสวนเท่านั้นที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ด้านนอกเพราะแม่บ้านของที่นี่จะมาแบบไปกลับไม่ได้มีใครค้างคืน “ไม่สบายหรือเปล่าเมื่อตอนสายเห็นทำท่าแปลก ๆ พ่อจะถามว่าไม่สบายหรือเปล่าก็ไม่ทันขึ้นบ้านไปเสียก่อน” ธีภพรีบวิ่งขึ้นไปบนบ้านและเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนด้วยความรู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์อะไรบ้างอย่าง ห้องนอนที่ปิดไฟมืดสนิททำเอาชายหนุ่มที่ใจคอไม่ดีอยู่แล้วรู้สึกเหมือนหัวใจจะหลุดร่วงลงไปอยู่กับพื้น ประตูตู้เสื้อผ้าที่ปิดไม่สนิทกระเป๋าเดินทางที่หายไป ธีภพทรุดตัวลงนั่งบนเตียงทันทีเมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองเริ่มอ่อนแรง “ธิชา ธิชา” เทวนาถรีบวิ่งตามเสียงตะโกนเรียกหาภรรยาของลูกชายที่ดังจนไปถึงชั้นล่างด้วยความตกใจ “เกิดอะไรขึ้นธี” “ธิชาไปแล้ว เธอไปแล้วครับทำไมต้องเป็นแบบนี้ในที่สุดเธอก็ทิ้งผมไปเหมือนคุณแม่” คนเป็นพ่อได้แต่นั่งลงข้าง ๆ โอบกอดลูกชายไ
ตอนที่ 6ปมหลัง........ เช้าวันนี้ธิชาตั้งใจจะไปฝากท้องเพราะตัวเธอเองก็ยังไม่แน่ใจว่าตอนนี้ชีวิตน้อย ๆ ในท้องมีอายุครรภ์เท่าไหร่ “ตอนนี้คุณท้องได้สองเดือนแล้วนะคะ ” คุณหมอท่าทางใจดีส่งสมุดฝากท้องให้ธิชาเพื่อให้เธอเขียนรายละเอียดลงไป สิ่งที่เธอไม่ตอบและเลือกที่จะเว้นว่างไว้คือชื่อของบิดา “ไม่เขียนชื่อบิดาได้ใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามแบบไม่แน่ใจเพราะกลัวว่าคุณหมออาจจะบังคับให้เขียนลงไปบางทีมันอาจจะเป็นข้อมมูลที่จำเป็น “ถ้าคุณแม่ไม่สะดวกก็ไม่เป็นอะไรค่ะ” ธิชาส่งยิ้มอย่างสบายใจให้คุณหมอเพ
ตอนที่ 7หลอกตัวเอง........ “มีอะไรเร่งด่วนถึงได้โทรตามฉันมากินข้าวด้วยแบบนี้” ธีภพถามเพื่อนสนิทด้วยความสงสัยที่อยู่ดี ๆ ณภัทรก็โทรศัพท์ตามเขาให้มากินข้าวเย็นด้วยทั้งที่ตอนนี้พระอาทิตย์ยังไม่ทันจะตกดินเลย “ก็..เอ่อ จริง ๆ มันก็ไม่ได้เร่งด่วนอะไร ฉันแค่มาลองคิดดูว่าบางทีที่เมียแกหนีไปอาจจะเป็นเพราะเขารู้ว่าที่โดนขอแต่งงานเป็นเพราะกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือของแกหรือเปล่า” คนโกหกพยายามทำท่าทางให้มีพิรุธน้อยที่สุดเพราะถ้าเพื่อนของเขาเกิดสงสัยขึ้นมาแล้วคาดคั้นความจริงขึ้นมาชายหนุ่มกลัวว่าตัวเองจะเผลอบอกความจริงที่เขาเจอกับธิชาวันนี้ออกไป “เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ ธิชาจะรู้ได้อย่างไรกันนอกจากแกกับฉันก็ไม่มีใ
ตอนที่ 8ยอมแล้วยอมทำตามหัวใจ........ วันนี้ก็เป็นเหมือนเช่นทุกวันที่ธีภพมานั่งที่ร้านอาหารใกล้กับประตูเข้าออกของห้างสรรพสินค้าเพียงเพราะหวังว่าจะเจอกับภรรยา ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ชายหนุ่มเฝ้ารอข่าวจากบริษัทนักสืบและออกตามหาด้วยตัวเองแต่ไม่มีแม้ข่าวคราวอะไรให้เขาได้รู้เพิ่มเติม “เอาผัดมักกะโรนีกุ้งหนึ่งจานแล้วก็เอาผัดมะโรนีหมูสับ กลับบ้านหนึ่งที่ด้วยค่ะ” คนที่กำลังนั่งใจลอยมองผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาอย่างสิ้นหวังรู้สึกตัวชาไปทั้งตัวเมื่อได้ยินเสียงของผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหลังของเขาสั่งอาหารเพราะมันเป็นเสียงที่เขาคุ้นเคยและกำลังนั่งคิดถึงเจ้าของเสียงอยู่ ธีภพลังเลว่าตัวเองควรจะหันไปดูที่มาของเสียงที่แสนคุ้นเคยนั้นดีไหมเพราะเขากลัวว่าถ้าเป็นธิชาจริง
ตอนที่ 9มากกว่าคำว่ารัก........ “คุณธิมีเงินอะไรก็ไม่รู้ค่ะโอนเข้าบัญชีของธิชา” หญิงสาวตกใจมากที่มีเงินจำนวนหลายแสนบาทโอนเข้าบัญชีของเธอ “เงินค่าเช่าคอนโดมิเนียมทั้งหมดเลขาของผมโอนให้คุณเอง” หญิงสาวคิดแต่จะเอาทุกอย่างมาเพื่อใช้ต่อรองถ้าเกิดวันใดที่เธอกับสามีต้องเลิกกันจึงไม่ได้สนใจเรื่องค่าเช่าใด ๆ ในแต่ละเดือน “คุณให้ธิชาทำไม” “ก็คอนโดเป็นของคุณค่าเช่าผมก็ต้องให้เจ้าของไม่เห็นแปลกเลย เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมดูเหมือนแปลกใจสงสัยจะลืมไปแล้วว่าตัวเองมีคอนโดให้เช่าหลายห้องเลยนะ”
ตอนที่ 8ยอมแล้วยอมทำตามหัวใจ........ วันนี้ก็เป็นเหมือนเช่นทุกวันที่ธีภพมานั่งที่ร้านอาหารใกล้กับประตูเข้าออกของห้างสรรพสินค้าเพียงเพราะหวังว่าจะเจอกับภรรยา ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ชายหนุ่มเฝ้ารอข่าวจากบริษัทนักสืบและออกตามหาด้วยตัวเองแต่ไม่มีแม้ข่าวคราวอะไรให้เขาได้รู้เพิ่มเติม “เอาผัดมักกะโรนีกุ้งหนึ่งจานแล้วก็เอาผัดมะโรนีหมูสับ กลับบ้านหนึ่งที่ด้วยค่ะ” คนที่กำลังนั่งใจลอยมองผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาอย่างสิ้นหวังรู้สึกตัวชาไปทั้งตัวเมื่อได้ยินเสียงของผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหลังของเขาสั่งอาหารเพราะมันเป็นเสียงที่เขาคุ้นเคยและกำลังนั่งคิดถึงเจ้าของเสียงอยู่ ธีภพลังเลว่าตัวเองควรจะหันไปดูที่มาของเสียงที่แสนคุ้นเคยนั้นดีไหมเพราะเขากลัวว่าถ้าเป็นธิชาจริง
ตอนที่ 7หลอกตัวเอง........ “มีอะไรเร่งด่วนถึงได้โทรตามฉันมากินข้าวด้วยแบบนี้” ธีภพถามเพื่อนสนิทด้วยความสงสัยที่อยู่ดี ๆ ณภัทรก็โทรศัพท์ตามเขาให้มากินข้าวเย็นด้วยทั้งที่ตอนนี้พระอาทิตย์ยังไม่ทันจะตกดินเลย “ก็..เอ่อ จริง ๆ มันก็ไม่ได้เร่งด่วนอะไร ฉันแค่มาลองคิดดูว่าบางทีที่เมียแกหนีไปอาจจะเป็นเพราะเขารู้ว่าที่โดนขอแต่งงานเป็นเพราะกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือของแกหรือเปล่า” คนโกหกพยายามทำท่าทางให้มีพิรุธน้อยที่สุดเพราะถ้าเพื่อนของเขาเกิดสงสัยขึ้นมาแล้วคาดคั้นความจริงขึ้นมาชายหนุ่มกลัวว่าตัวเองจะเผลอบอกความจริงที่เขาเจอกับธิชาวันนี้ออกไป “เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ ธิชาจะรู้ได้อย่างไรกันนอกจากแกกับฉันก็ไม่มีใ
ตอนที่ 6ปมหลัง........ เช้าวันนี้ธิชาตั้งใจจะไปฝากท้องเพราะตัวเธอเองก็ยังไม่แน่ใจว่าตอนนี้ชีวิตน้อย ๆ ในท้องมีอายุครรภ์เท่าไหร่ “ตอนนี้คุณท้องได้สองเดือนแล้วนะคะ ” คุณหมอท่าทางใจดีส่งสมุดฝากท้องให้ธิชาเพื่อให้เธอเขียนรายละเอียดลงไป สิ่งที่เธอไม่ตอบและเลือกที่จะเว้นว่างไว้คือชื่อของบิดา “ไม่เขียนชื่อบิดาได้ใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามแบบไม่แน่ใจเพราะกลัวว่าคุณหมออาจจะบังคับให้เขียนลงไปบางทีมันอาจจะเป็นข้อมมูลที่จำเป็น “ถ้าคุณแม่ไม่สะดวกก็ไม่เป็นอะไรค่ะ” ธิชาส่งยิ้มอย่างสบายใจให้คุณหมอเพ
ตอนที่ 5ยังไม่รู้ใจตัวเอง........ “คุณพ่อครับทำไมบ้านเงียบจัง” ธีภพกลับมาถึงบ้านพร้อมกับบิดาปกติเวลานี้จะต้องได้ยินเสียงภรรยาทำกับข้าวอยู่ในครัวแต่ในบ้านกลับเงียบมากมีเพียงแค่คนสวนเท่านั้นที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ด้านนอกเพราะแม่บ้านของที่นี่จะมาแบบไปกลับไม่ได้มีใครค้างคืน “ไม่สบายหรือเปล่าเมื่อตอนสายเห็นทำท่าแปลก ๆ พ่อจะถามว่าไม่สบายหรือเปล่าก็ไม่ทันขึ้นบ้านไปเสียก่อน” ธีภพรีบวิ่งขึ้นไปบนบ้านและเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนด้วยความรู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์อะไรบ้างอย่าง ห้องนอนที่ปิดไฟมืดสนิททำเอาชายหนุ่มที่ใจคอไม่ดีอยู่แล้วรู้สึกเหมือนหัวใจจะหลุดร่วงลงไปอยู่กับพื้น ประตูตู้เสื้อผ้าที่ปิดไม่สนิทกระเป๋าเดินทางที่หายไป ธีภพทรุดตัวลงนั่งบนเตียงทันทีเมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองเริ่มอ่อนแรง “ธิชา ธิชา” เทวนาถรีบวิ่งตามเสียงตะโกนเรียกหาภรรยาของลูกชายที่ดังจนไปถึงชั้นล่างด้วยความตกใจ “เกิดอะไรขึ้นธี” “ธิชาไปแล้ว เธอไปแล้วครับทำไมต้องเป็นแบบนี้ในที่สุดเธอก็ทิ้งผมไปเหมือนคุณแม่” คนเป็นพ่อได้แต่นั่งลงข้าง ๆ โอบกอดลูกชายไ
ตอนที่ 4ตัดสินใจ........ ธิชาตัดสินใจที่จะไม่อ่านข้อความย้อนหลังต่อเพราะเท่าที่เธอเห็นตอนนี้มันก็มากพอที่จะทำให้หัวใจของเธอเหมือนจะขาดลง ความรักที่มันเกิดขึ้นในหัวใจเธอและหญิงสาวคิดมาตลอดว่ามันก็คงเกิดขึ้นกับธีภพเหมือนกันแต่สุดท้ายกลายเป็นว่าเธอกำลังรักเขาฝ่ายเดียวชายหนุ่มที่เพียบพร้อมทุกอย่างขอเธอแต่งงานเพียงเพราะคิดว่าเธอดูซื่อเหมาะกับการที่เขาจะหลอกใช้เป็นเครื่องมือทำให้บิดาของเขาพอใจก็เท่านั้น “คุณธีไม่จริงใช่ไหม คุณรักธิชาและเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน” สาวน้อยนั่งร้องไห้สองมือลูบเบา ๆ ลงไปที่ท้องของเธอ ที่ตอนนี้มีอีกชีวิตกำลังเติบโตอยู่ในนั้นเป็นพยานความรักของเธอที่มีต่อสามีแต่ตอนนี้ธิชาเริ่มไม่แน่ใจว่าข่าวดีที่เธอรอจะบอก กับคุณพ่อคนใหม่เธอควรเลือกที่จะเก็บไว้เป็นความลับก่อนดีหรือเปล่า “ธิชา ผมกลับมาแล้ววันนี้ลืมเอาโทรศัพท์ไป ไม่ได้คุยกันเลย” ธีภพกลับมาถึงบ้านก็รีบเข้ามาหาภรรยาที่กำลังทำอาหารมื้อเย็นอยู่ในครัวทันที “โทรศัพท์อยู่บนโต๊ะทำงานของคุณธีนะคะ กลับมา เหนื่อย ๆ ไปอาบน้ำก่อนดีไหม อาบน้ำเสร็จกับข้าวก็
ตอนที่ 3สุดท้ายคือ........ ความสัมพันธ์ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนเจอกัน ทุกวันเพราะหลังจากที่ธิชายอมเป็นคนรักเจ้านายสุดหล่อก็ย้ายเธอไปทำงานที่เดียวกับเขาทันที ธิชาพาธีภพไปทำความรู้จักกับพ่อแม่ของเธอหลังจากนั้นไม่ถึงเดือนเทวนาถก็ทำหน้าที่พ่อไปสู่ขอสาวให้ลูกชายทันที “คุณธีคะเราเพิ่งคบกันไม่ถึงปีมันเร็วไปไหมที่เราจะแต่งงานกัน” หญิงสาวเริ่มรู้สึกกลัวเมื่อเพื่อน ๆ หลายคนต่างพากันทักท้วงเพราะทั้งคู่ยังรู้จักกันได้ไม่เท่าไหร่ “ทำไมถึงคิดแบบนั้นคนเราจะอยู่ด้วยกันได้ไหมมันไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าเราคบกันมานานแค่ไหนแต่มันอยู่ที่ว่าเราอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขหรือความทุกข์มากกว่ากัน ธิชาไม่มีความสุขหรือเปล่าเวลาที่อยู่กับผม” ธีภพเล่นบทหน้าเศร้าเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมแต่งงานด้วย “ธิชามีความสุขที่สุดเลยค่ะ แต่แค่อดคิดไม่ได้ว่ามันเร็วไป” “กว่าจะถึงวันแต่งงานก็อีกตั้งหลายเดือน รวม ๆ แล้วเราก็คบกันเกือบปีและทุกวันนี้เราก็อยู่ด้วยกันทุกวันบางคนคบกันเป็นหลายปีแต่เจอกันแค่เดือนละครั้ง อย่าคิดมากไปเลยชีวิตของแต่ ละคนมั
ตอนที่ 2เธอคือคนที่ใช่........ “คุณธีผ่านมาทำอะไรแถวนี้คะ” ธิชาหันไปถามเจ้านายทันทีหลังจากที่ขึ้นมานั่งบนรถเพราะบ้านของธีภพไม่ได้อยู่ทางเดียวกับคอนโดที่เธออยู่เสียหน่อย “ผมแวะมาทำธุระให้คุณพ่อเห็นธิชาบ่นว่ารถติดก็เลยแวะ มารับกลัวเริ่มงานเดือนแรกเธอจะไปสายเดี๋ยวหัวหน้าแผนกจะว่าเอา” ธีภพโกหกอย่างไม่มีพิรุธเพราะเขาเตรียมคำตอบมาแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันเขาถึงได้ยอมตื่นเช้าและรีบมารับธิชาทั้งที่มันเป็นคนละทางกับที่ทำงานของเขา “คุณธีแวะร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งข้างหน้าหน่อยค่ะ” “แวะทำไมเธอหิวหรือ” “หิวสิคะ อาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญร้านนี้อร่อยมาก ธิชากินเกือบทุกวันเลยค่ะเพราะปกติลงรถประจำทางเสร็จก็จะซื้อเดินกินไปจนถึงที่บริษัทก็อิ่มพอดี” ธีภพไม่เต็มใจจอดแต่ก็ไม่รู้จะใช้เหตุผลอะไรเพราะเขาแค่คิดว่าอาหารข้างทางมันดูไม่สะอาดและไม่น่าจะอร่อยแต่ก็ต้องยอมจอดให้สาวน้อยได้ลงไปซื้อกิน “คุณธีอ้าปากค่ะเดี๋ยวธิชาป้อนเองรับลองคุณจะต้องติดใจแน่ ๆ” ชายหนุ่มทำตัวว่านอนสอนง่ายอ้าปากให้อีกฝ่ายป้อนทั้งข้าวเหนีย
ตอนที่ 1ความทรงจำที่เลวร้าย........“ภพ” เทวนาถเรียกชื่อลูกชายที่กำลังทำเป็นมองไม่เห็นเขาที่นั่งรออยู่ที่โซฟากลางบ้าน “คุณพ่อ...มานั่งทำไมตรงนี้ ดึกแล้วยังไม่เข้านอนพรุ่งนี้จะความดันสูงได้นะครับ” ธีภพเมื่อหลีกไม่ได้ก็เปลี่ยนใจกลับมานั่งคุยกับบิดาแทนทั้งที่รู้ว่าพ่อของเขากำลังจะพูดเรื่องที่เขาไม่อยากฟัง “ลูกจำอาพชรเพื่อนของพ่อที่เคยมาที่บ้านเราบ่อย ๆ จำได้ไหม วันนี้ลูกสาวเขาโทรศัพท์มาบอกพ่อว่าพชรมีอาการ หัวใจล้มเหลวเฉีบพลัน พ่อตามไปที่โรงพยาบาลแต่ไม่ทัน ทุกอย่างมันเร็วมากเมื่อวานตอนบ่ายยังไปดื่มกาแฟด้วยกันอยู่เลย ” “ผมเสียใจด้วยนะครับคุณพ่อ ” ธีภพไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อเพราะตอนนี้บิดาของเขาอยู่ในห้วงอารมณ์ที่เศร้าจนเขาไม่กล้าพูดอะไรมาก “ชีวิตพ่อก็ยังไม่รู้ว่าจะมีพรุ่งนี้ได้อีกสักกี่วัน ธีภพลูกก็รู้ว่าพ่อมีห่วงอยู่เพียงเรื่องเดียวมันยากนักหรือที่ลูกจะทำให้พ่อสบายใจหรือจะรอให้พ่อต้องไปอย่างพชรลูกถึงจะทำให้พ่อได้” เทวนาถพูดจบก็ลุกจากโซฟาและเดินขึ้นไปยังห้องนอนด้วยท่าทางเหมือนคนกำลังสิ้นหวัง