นันนภัสคุยกับเพื่อนอีกพักใหญ่จากนั้นก็ขอตัวกลับเมื่อ ขับรถออกมาจากคลินิกได้ไม่ถึงห้าร้อยเธอก็โทรศัพท์ไปหาน้องชายทันที“ว่ายังไงบ้างคะพี่นัน ใช่เธอจริงๆ ไหมเธอท้องจริงๆ ใช่ไหม”“ใช่เป็นอย่างที่เราคิดไว้นั่นแหละ ตอนนี้เธอฝากครรภ์ที่คลินิกหมอปุ้ย”“หมอปุ้ยที่เป็นเพื่อนสนิทพี่นันใช่ไหม”“ใช่วิวเธอมาฝากครรภ์ที่นี่น่ะ เธอเล่าตรงกับที่นนท์เล่าให้พี่ฟังทุกอย่างและหลังจะนอนกับนนท์แล้วเธอก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนอีกเลยเพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าลูกในท้องของเธอคือลูกของนนท์จริงๆ”“ผมอยากจะเจอเธอ ผมอยากจะคุยกับเธอให้รู้เรื่อง พี่มีเบอร์โทรศัพท์ของเธอไหม”“ใจเย็นสินนท์นี่มันดึกแล้วเอาไว้พรุ่งนี้เราไปปรึกษากับคุณย่าก่อนว่า ทำยังไงกันต่อดีแล้วพี่จะพานนท์มาเจอเธอที่โรงพยาบาลดีไหม”“พี่นันครับผมอยากเจอเธอก่อนพาเธอไปหาคุณย่า”“ทำไมล่ะหรือนนท์จะพูดอะไรกับเธอจะบังคับเธอหรือไปเอาเด็กออกหรือเปล่า”“ผมไม่ใช่คนใจร้ายแบบนั้นนะครับพี่นัน ผมก็แค่อยากจะคุยกับเธอก็แค่นั้นเอง”“ถ้าอยากจะคุยกับเธอพรุ่งนี้ไปหาพี่ที่โรงพยาบาลสักห้าโมงเย็น ตอนนั้นวิวน่าจะเลิกงานพอดี”“ได้ครับพี่”คุณานนท์รู้สึกตื่นเต้นที่รู้ว่าต
“แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วนะวิว เราสองคนก็ผิดพลาดด้วยกันทั้งคู่ ทำไมเราไม่ช่วยกันแก้ไขข้อผิดพลาดด้วยกันล่ะ อีกอย่างผมก็เป็นลูกผู้ชายพอกล้าทำก็ต้องกล้ารับผิดชอบ”“วิว หมอว่าที่นนท์เขาพูดก็ถูกนะ เด็กที่เกิดมาจะได้มีครอบครัวที่อบอุ่น”“แต่....”“คุณกลัวอะไร”“ก็เราสองคนยังไม่รู้จักกันดีเลยนะคะ ฉันกลัวคุณจะมาหลอกแล้วพอลูกคลอดคุณก็จะเอาลูกไปจากฉัน”“นี่หน้าตาผมดูร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ”“วิวหมอจะบอกอะไรให้นะผู้ชายคนนี้เขาชื่อคุณานนท์เป็นน้องชายของฉันเองเขาไม่ใช่คนไม่ดีอย่างที่เธอกลัวหรอกนะ”“อะไรนะคะ” หญิงสาวตกใจเพราะไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะเป็นคนใกล้ตัวเธอมากขนาดนี้“ทำไมต้องตกใจด้วยล่ะ หรือไม่เชื่อที่หมอพูด”“ก็ฉันรู้ไม่รู้มาก่อนว่าคุณนนท์เขาคือน้องชายของหมอค่ะ”“ทีนี้ไว้ใจผมได้หรือยังล่ะ”“ก็พอได้ค่ะ”“ผมว่าเรามาตกลงกันดีกว่าว่าจากนี้จะเอายังไงต่อ”“หมายถึงเรื่องอะไรคะ”“ก็หมายถึงเรื่องของเราไงล่ะ”“มันไม่มีเรื่องของเราหรอกค่ะ คุณบอกเองนี่ว่าเรื่องของเราจะเกิดขึ้นที่นั่นและจบที่นั่น”“ก็ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าฉันจะมีลูกกับคุณ แต่ตอนนี้ผมรู้ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปแล้ว ผมถามหน่อยสิคุณไม่คิดจะตามหาพ่อ
“ก็ถ้าผมแต่งงานกับคุณก็เท่ากับประกาศให้ทุกคนรู้ว่าตอนนี้ผมไม่โสดแล้วพ่อกับแม่ของผมก็จะได้เลิกหาผู้หญิงให้สัก”“ที่คุณยอมรับผิดชอบลูกในท้องของฉันก็เพราะเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า”“มันก็มีส่วนนิดหน่อยแบบว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวยังไงล่ะ ตอนนี้คุณท้องแล้วผมว่าพ่อแม่ของผมก็ต้องยอมรับและยอมให้เราแต่งงานกัน” คุณานนท์คิดว่าบิดามารดาจะเลิกยุ่งกับเรื่องคู่ครองของเขา“แล้วถ้าเกิดพ่อกับแม่ของคุณนนท์รับแค่เด็กในท้องล่ะคะ คุณนนท์จะทำยังไง” หญิงสาวยังคงเป็นกังวล“พ่อกับแม่ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องนี้แทนผมหรอก คนที่จะสนใจเรื่องนี้ก็คือผมเดียว”“แล้วคุณย่าของคุณนนท์ล่ะคะ คุณนนท์มั่นใจไหมว่าท่านจะยอมรับเรื่องนี้ได้ เรื่องท้องก่อนแต่งในสายตาผู้ใหญ่มันดูไม่ดีเลยนะคะ ฉันกลัวคุณนนท์จะมีปัญหา” เมื่อคิดถึงตรงนี้วิรัลพัชรก็หน้าเครียดเพราะถ้าเขาจะให้เธอย้ายไปอยู่กับเขาแล้วทำให้เขามีปัญหากับผู้ใหญ่มันก็จะกลายเป็นว่าเธอไปสร้างปัญหาให้กับเขา“คนอื่นผมไม่รู้ว่าคิดยังไงแต่คุณย่าท่านเป็นคนมีเหตุผลมากผมว่าท่านต้องดีใจมากถ้ารู้ว่าผมกำลังจะมีเหลนให้ท่าน เย็นนี้เราไปเจอคุณย่าเลยดีกว่าไหม พี่นันไปกับผมด้วยนะ” คุณานนท์มั
หลังจากรับประทานอาหารค่ำเสร็จแล้วคุณานนท์ก็ประคองคุณย่าชมนาดเข้ามานั่งในห้องรับแขกโดยมีวิรัลพัชรเดินตามมานั่งด้วย“คุณย่าครับเราสองคนมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณย่า” ชายหนุ่มเริ่มเปิดหัวข้อสนทนา“เรื่องสำคัญอะไรนะ ใช่เรื่องที่เราเคยคุยกันไว้หรือเปล่าล่ะลูก” คุณย่าชมนาดกำลังเดาว่าผู้หญิงที่คุณานนท์พามาทานอาหารเย็นในวันนี้น่าจะกำลังท้องเพราะท่านสังเกตว่าเธอรับประทานอาหารมากกว่าปกติและหน้าตาก็ดูมีน้ำมีนวล แต่ก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่เพราะเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก อีกอย่างหลานชายก็ไม่เคยพูดถึงผู้หญิงคนไหนให้ฟังเลย“ใช่แล้วครับคุณย่า มันเป็นอย่างที่คุณย่ากับป้าสำรวยพูดผมแพ้ท้องแทนเมียจริงๆ ครับ”“นี่หนูวิวกำลังท้องอยู่ใช่ไหมลูก” คุณย่าชมนาดถามด้วยความตื่นเต้น“ใช่ค่ะคุณย่า” วิรัลพัชรตอบอย่างไม่ค่อยเต็มเสียงเท่าไหร่เพราะกลัวว่าท่านจะดุ“แล้วหนูท้องได้กี่สัปดาห์แล้วล่ะลูกย่าไม่เห็นว่าท้องของหนูจะโตเลยนะ”“ประมาณสิบสองสัปดาห์แล้วค่ะคุณย่า”“เรื่องมันเป็นยังไงกันนะ หนูท้องได้ตั้งสิบสองอาทิตย์แล้วทำไมนนท์ถึงเพิ่งพามาพบย่าล่ะ”“ขอโทษครับคุณย่า พอดีช่วงนี้ผมงานยุ่งนะครับ วิวเขาก็งานยุ่งเราก็เลยไม่ค่อยที่คุยกั
“นนท์มีอะไรหรือเปล่าถึงไม่อยากให้หนูวิวไปทำงานล่ะ”“ก็วิวเขาทำงานที่เดียวกับและแม่ของผมนะครับย่า ผมกลัวว่าจะมีปัญหาในที่ทำงาน”“เรื่องพ่อกับแม่นนท์ไม่ต้องห่วงหรอกย่าคิดว่าจะจัดการเรื่องนี้เองได้”“ผมหวังว่าพ่อกับแม่คงไม่มายุ่งกับวิวที่บริษัทและคงมาพังงานแต่งงานของผมนะครับย่า”“คุณนนท์พูดน่ากลัวจังเลยค่ะ เราไม่แต่งงานก็ได้นะคะ”“ย่าคิดว่าเขาคงไม่กล้าทำอย่างนั้นหรอกหนูวิวก็ไม่ต้องกลัวไปนะ”“คุณย่าคะมันจะมีผลกระทบกับงานหรือเปล่าถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ของคุณนนท์รู้ว่าวิวท้องกับคุณนนท์”“ถ้าคุณไม่สบายใจที่จะทำงานที่โรงพยาบาล ก็ไปทำงานที่บริษัทผมก็ได้นะเห็นว่าฝ่ายบัญชีกำลังอยากได้คนอยู่พอดี”“ย่าว่าหนูวิวอย่าถึงขั้นเปลี่ยนงานเลย เปลี่ยนงานใหม่ปรับตัวใหม่เดี๋ยวจะเครียดเอานะ ทำงานต่อที่เดิมนั่นแหละ แต่ถ้าหลังจากคลอดแล้วจะทำที่โรงพยาบาลต่อหรือไปทำที่บริษัทของนนท์ก็ค่อยว่ากันอีกที ย่าคิดว่าพ่อกับแม่โตเขาเป็นผู้ใหญ่มากพอ ถ้าแต่งงานแล้วเขาก็คงทำอะไรไม่ได้ หนูวิวไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกนะยังไงย่าก็จะช่วยให้หนูเอง”“ขอบคุณค่ะคุณย่า” เมื่อคุณย่าของเขาสนับสนุนแบบนี้หญิงสาวก็เบาใจ“แล้วหนูวิวพร้อมที่จะย้ายมาท
วิรัลพัชรเก็บของใช้ที่จำเป็นลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ส่วนของใช้ที่ไม่จำเป็นเธอก็ยังเก็บไว้ที่เดิมเพราะไม่แน่ใจเลยว่าตนเองจะย้ายไปอยู่กับคุณานนท์ได้นานแค่ไหน เพราะเธอกับเขานั้นรู้จักกันแค่เพียงผิวเผินหญิงสาวกลัวว่าไปอยู่ที่นั่นแล้วจะไม่มีความสุข เธอจึงยังไม่บอกเจ้าของหอพักว่าจะย้ายออก เพราะถ้าอยู่ที่นั่นไม่ได้หญิงสาวก็จะได้กลับมาอยู่ที่นี่วันนี้เป็นวันเสาร์วิรัลพัชรมีนัดจะไปซื้อของกับคุณานนท์ หลังจากทานอาหารเช้าที่ร้านด้านล่างหอพักแล้วหญิงสาวก็ขึ้นไปเก็บของต่ออีกนิดหน่อยระหว่างรอให้ชายหนุ่มมารับเมื่อถึงเวลานัดคุณานนท์ก็ขับรถมาจอดด้านล่างหอพัก“รอนานหรือเปล่า”“ไม่นานหรอกค่ะ คุณนนท์ตรงเวลามาก”“เราไปกันเลยนะ คุณอยากซื้ออะไรบ้างได้ลิสต์รายการมาหรือเปล่า”“ไม่เลยค่ะวิวคงซื้อไม่เยอะหรอกค่ะ”ชายหนุ่มขับรถพาหญิงสาวมายังศูนย์การค้าขนาดใหญ่ทั้งสองตรงไปยังแผนกเสื้อผ้าเด็กและพากันเดินวนอยู่หลายรอบแต่ก็ยังไม่ตัดสินใจซื้อ“คุณนนท์คะชุดเด็กมีแต่สวยๆ ทั้งนั้นเลย”“ผมก็ว่าอย่างนั้น”“วิวเลือกไม่ถูกเลยค่ะ”“เราเอาไปทั้งหมดนี้เลยมั้ยล่ะ”“วิวว่าวันนี้ดูแบบไว้ก่อนดีไหมคะ”“ทำไมล่ะอยากได้แบบไหนก็ซื้อเลยไ
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้วคุณานนท์ก็ขับรถกลับมาที่หอพักของวิรัลพัชรอีกครั้ง ชายหนุ่มไปช่วยเธอเอากระเป๋าเดินทางมาใส่หลังรถจากนั้นก็ขับรถพาเธอกลับบ้านที่ตนเองอาศัยอยู่กับคุณย่าชมนาดมาตั้งแต่เป็นเด็ก“มากันแล้วเหรอลูกทำไมของมีแค่นั้นเองล่ะ” คุณย่าชมนาดที่ตั้งหน้ารอรับหลานสะใภ้เดินออกมาดูและถามขึ้นเมื่อเห็นว่ากระเป๋าเดินทางของหญิงสาวมีแค่ใบเดียวอีกทั้งของที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าก็มีน้อยกว่าที่ตนเองคิดไว้“ของวิวไม่เยอะหรอกค่ะคุณย่า”“แล้วของใช้เด็กล่ะลูก ได้ซื้อมากันหรือยัง”“ยังเลยค่ะคุณย่า วิวจะรอให้รู้ก่อนว่าลูกเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แล้วค่อยซื้อค่ะ”“ย่าก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย”“ถ้ารู้ว่าเด็กในท้องเป็นผู้หญิงของหรือผู้ชายคุณย่าไปช่วยวิวเลือกซื้อนะคะ เพราะถ้าให้วิวไปซื้อกับคุณนนท์สองคนคงซื้อของมาไม่ครบแน่เลยค่ะ”“ได้จ้ะ แล้วกินอะไรกันมาหรือยัง”“คุณนนท์พาวิวไปกินข้าวมาแล้วค่ะ คุณย่าล่ะคะ”“ย่าก็กินข้าวกลางวันแล้ว เดี๋ยวหนูไปนั่งคุยกับย่าในห้องนั่งเล่นนะ”“วิวขอเอาของขึ้นไปเก็บก่อนได้ไหมคะ”“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ของพวกนั้นให้เด็กเขาจัดการกันเถอะหนูไปนั่งพักกับย่าดีกว่านะ ย่ามีเรื่องจะคุยก
นี่เป็นคืนแรกที่วิรัลพัชรและคุณานนท์จะได้อยู่กันตามลำพังอีกครั้งหลังจากค่ำคืนเร่าร้อนที่เกาะพงัน หญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนและเดินออกมาจากห้องแต่งตัวก็เห็นว่าเจ้าของห้องยังนั่งทำงานอยู่เธอเลยเดินเข้าไปคุยกับเขา“ปกติคุณนนท์ทำงานดึกแบบนี้ตลอดหรือเปล่าคะ”“ไม่หรอกแต่วันนี้มีงานค้างนิดหน่อยนะ คุณง่วงหรือยังล่ะวิว”“ยังค่ะปกติวิวก็นอนดึกอยู่แล้ว”“แต่ต่อไปนี้ห้ามนอนดึกนะ ถ้าง่วงก็ไปนอนก่อนได้เลย” ชายหนุ่มพูดแล้วเงยหน้าขึ้นมามองก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นว่าชุดนอนของหญิงสาวมันไม่เหมาะกับอายุของเธอเลยสักนิด เสื้อลายการ์ตูนกับกางเกงขาสั้นเมื่ออยู่บนตัวของวิรัลพัชรแล้วมันลดอายุลงไปอีกค่อนข้างมาก“คุณนนท์ยิ้มอะไรคะ”“ก็ผมตลกชุดนอนของคุณไงล่ะ ใส่แบบนี้เหมือนเด็กๆ เลยในตู้ก็มีชุดนอนที่ผมซื้อมาให้ใหม่นะเห็นหรือเปล่า”“เห็นค่ะ”“แล้วทำไมไม่ใส่ล่ะ”“ก็วิวคิดว่าใส่แบบนี้มันก็นอนสบายเหมือนกันนี่คะ”“ตอนนี้ท้องยังไม่โตคุณก็ใส่แบบนี้ไปก่อนแต่ ถ้าท้องโตขึ้นมากกว่านี้ก็คงต้องเลิกใส่กางเกงตกลงไหม”“ตกลงค่ะ คุณนนท์จะทำงานอีกเยอะมั้ย”“ไม่หรอกมีอะไรหรือเปล่า”“เปล่าค่ะ คืนนี้วิวขอนอนที่โซฟาปลายเตียงได้ไหม”“ได้ยั
“หนูวิวเข้าไปในห้องผ่าตัดนานหรือยังลูก” คุณสุนันทาถามนันนภัสด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้ว่าจะได้หลานชายเธอก็เปิดใจยอมรับวิรัลพัชรและดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่เห่อหลานในท้องมากกว่าใครทั้งมด“เข้าไปเกือบยี่สิบนาทีแล้วครับแม่” คุณานนท์ที่ยืนจับเวลาอยู่บอกกับมารดา“ต้องใช้เวลาผ่าตัดนานแค่ไหนนัน”“ส่วนใหญ่ก็ประมาณสี่สิบถึงหนึ่งชั่วโมง ชั่วโมงถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน”“อาการแทรกซ้อนอะไรครับพี่นัน แล้ววิวจะมีอาหารแทรกซ้อนไหม” คุณานนท์รีบถามเพราะตอนนี้เขาห่วงคนที่อยู่ในห้องผ่าตัดมากห่วงทั้งคนเป็นแม่และลูกที่กำลังจะเกิดมา“ก็เช่นรกลอกตัวไม่ดีมีเลือดออกเยอะอะไรประมาณนั้น แต่พี่ว่าวิวคงไปไม่เป็นแบบนั้นหรอกนนท์อย่าห่วงไปเลยนะ”“ผมเป็นห่วงวิวกับลูก”“ใจเย็นนะนนท์ ทุกคนก็เป็นห่วงหนูวิวกันทั้งนั้นแหละ” คุณย่าชมนาดที่นั่งมองหลานชายกระวนกระวายใจเดินไปเดินมาก็พูดขึ้น“ถ้านนท์เป็นห่วงมากๆ เดี๋ยวพี่จะไปดูกล้องห้องผ่าตัดให้ก็แล้วกันนะ ว่าตอนนี้ผ่าตัดไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว” นันนเห็นอาการน้องชายแล้วก็ที่ดูกังวลก็เลยอาสาจะไปดูก็ภาพจากกล่องให้เธอหายเข้าไปในห้องที่อยู่ติดกับห้องผ่าตัดไม่นานก็ออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม“ว่ายัง
ตอนนี้อายุครรภ์ของวิรัลพัชรเข้าสัปดาห์ที่สามสิบเก้าแล้วการไปอัลตราซาวด์มาครั้งล่าสุดกับอาจารย์หมอวัลลภอาจารย์หมอบอกให้เธอเตรียมตัวในการผ่าคลอดเพราะดูแล้วการคลอดตามธรรมชาติน่าจะเป็นไปได้ยากเนื่องจากอายุครรภ์เริ่มมากขึ้นแต่ศีรษะเด็กก็ยังไม่ลงมาอยู่ในอุ้งเชิงกราน คุณหมอแนะนำว่าถ้าหากจะผ่าคลอดตอนนี้ก็สามารถผ่านได้เลยแต่เธอก็อยากจะรอให้อายุครรภ์ครบสี่สิบสัปดาห์ก่อนจึงจะตัดสินใจผ่าคลอดช่วงนี้หญิงสาวไม่ได้ไปทำงานที่โรงพยาบาลเพราะคุณานนท์เป็นห่วงส่วนตัวเขาเองก็เอางานกลับมาทำที่บ้านเพราะอยากจะอยู่ใกล้ชิดกับหญิงสาวเขาก็ว่าเธอจะปวดท้องคลอดระหว่างที่ตัวเองไปทำงาน“วันนี้งานยุ่งหรือเปล่าคะคุณนนท์” หญิงสาวเดินมาถามสามีเมื่อเห็นเขาหน้าเครียดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ค่อนข้างนานแล้วเธอเลยเดินเข้ามาถาม“ยุ่งนิดหน่อยครับแต่ผมคิดว่าจะเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จวันนี้”“ทำไมล่ะคะ”“ก็ผมอยากมีเวลาให้คุณกับลูกอย่างเต็มที่ไงนี่ก็ใกล้ครบกำหนดสี่สิบสัปดาห์แล้วนะวิว คุณตื่นเต้นไหม”“ตื่นเต้นสิวิวทั้งตื่นเต้นทั้งเครียดเลยค่ะ”“ผมเองก็ไม่รู้จะปลอบใจวิวยังไงเลยเพราะนี่มันเป็นลูกคนแรกของเรา ผมก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างมั
วันนี้วิรัลพัชรรู้สึกมีความสุขมากกว่าทุกวันที่ผ่านมาเพราะการแสดงออกของคุณสุนันทาที่มีต่อเธอนั้นมันเปลี่ยนไป ตอนนี้ท่านยอมรับเธอในฐานะลูกสะใภ้ซึ่งเธอไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ หญิงสาวแทบจะหุบยิ้มไม่อยู่ เธอลงมารอคุณานนท์ที่หน้าโรงพยาบาลโดยที่เขายังไม่โทรมาบอกเหมือนกับทุกวันเพราะอยากจะเล่าเรื่องวันนี้ให้กับชายหนุ่มฟัง เมื่อรถเขามาจอดหญิงสาวก็รีบขึ้นไปนั่งอย่างรวดเร็ว“คุณนนท์คะวิวมีเรื่องจะบอกคุณนนท์ด้วยค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยความตื่นเต้นหลังจากเปิดประตูรถเข้ามานั่งข้างคนขับ“เรื่องอะไรดูท่าทางน่าจะเป็นเรื่องดีใช่มั้ยล่ะ”“ค่ะเรื่องดีมากๆ วิวไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นแบบนี้”“เล่ามาสิผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องดีๆ ของวิวมันคือเรื่องอะไร”“คุณรู้มั้ยวันนี้วิวได้เปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ที่ทำงานด้วยค่ะ”“เปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ” เขามองหน้าคนรักด้วยความไม่เข้าใจเท่าไหร่ เพราะปกติแล้วในทุกบริษัทก็จะมีการเปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ให้กับพนักงานตามอายุการใช้งานอยู่แล้ว“ใช่ค่ะ เพราะเก้าอี้ของวิวมันพิเศษกว่าคนอื่น” หญิงสาวพูดไปยิ้มไปทำให้คุณานนท์ยิ่งอยากจะรู้มากขึ้นว่ามันพิเศษยังไง“มันพิเศษยังไ
เนื่องจากได้หยุดสองวันและพักผ่อนอยู่ที่บ้านกับครอบครัวทำให้วันนี้วิรัลพัชรมาทำงานด้วยความสดชื่น วันนี้หญิงสาวก็มาทำงานตามปกติแต่เมื่อมาถึงที่แผนกบัญชีเธอก็ต้องตกใจเพราะตอนนี้เก้าอี้ทำงานของเธอมันเปลี่ยนไป“พี่นิดคะเกิดอะไรขึ้นทำไมเก้าอี้ทำงานของวิวไม่เหมือนคนอื่นเลย” หญิงสาวถามหัวหน้าแผนกที่มักจะมาทำงานก่อนทุกคนเสมอ“คุณสุนันทาสั่งให้คนเอามาเปลี่ยนให้น่ะ”“อะไรนะคะ พี่นิดบอกว่าใครสั่งให้คนเอามาเปลี่ยนให้นะคะ” เธอไม่แน่ใจกับชื่อที่หัวหน้าแผนกเอ่ยออกมา“คุณสุนันทาแม่คุณนนท์ไงล่ะ”“เป็นไปได้ยังไงเขาจะเอาเก้าอี้มาเปลี่ยนทำไม” วิรัพัชรนึกหาเหตุผลไม่ออกเลยว่ามารดาของคุณานนท์จะทำแบบนี้ทำไม“อย่าเพิ่งนั่งนะวิว ปอนด์ขอนั่งก่อน” นัยนาที่เดินเข้ามาได้ยินก็รีบร้องบอก“ทำไมล่ะปอนด์”“ก็เผื่อเขาทำเก้าอี้ที่นั่งแล้วล้มลงไป วิวจะได้ไม่เป็นอะไรไงล่ะปอนด์ขอนั่งก่อนนะ” หญิงสาวพูดด้วยความเป็นห่วง“คงไม่มีใครทำอะไรแบบนั้นหรอกมั้งปอนด์”“ไม่รู้สิปอนด์ดูละครมาเยอะแม่สามีที่ไม่ชอบลูกสะใภ้ก็อยากจะทำให้ลูกสะใภ้แท้งก็ได้นะ”“คิดมากเกินไปหรือเปล่าปอนด์” พนิดามองหน้าลูกน้องของตัวเองแล้วส่ายศีรษะเพราะคิดว่าคุณสุนั
“มันแน่นมากวิว เสียวใช่ไหม”หญิงสาวพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะตามมาด้วยเสียงครางหวานเมื่อสะโพกของคุณานนท์ขยับจังหวะเร็วขึ้น มือหนึ่งช้อนใต้ข้อพับยกขึ้นสูงเพื่อให้ตนเองเข้าได้ลึกสุด อีกมือสอดใต้ร่างมาบีบขยี้หน้าอกของเธอยังไม่ปรานี จังหวะรักไม่รุนแรงแต่เต็มไปด้วยความสุขและความเสียวซ่าน ต่างฝ่ายต่างโหยหาความรู้สึกและอารมณ์แบบนี้มานานหลายเดือน“คุณนนท์...อื้อ....วิวเสียว”“เสียวก็ปล่อยออกมาเลยวิว”ยิ่งได้ยินเขาพูดแบบนี้วิรัลพัชรก็ยิ่งเสียวมากขึ้นฝ่ามือร้อนยังคงหน้าอกอิ่มริมฝีปากจูบไปบนไหล่มน ก่อนจะก้มลงจูบบนริมฝีปากบางที่กำลังหันไปหาเขาอย่างรู้งาน จูบเร่าร้อนหนักหน่วงจนหญิงสาวแทบจะขาดอากาศหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัวที่ ความเสียวซ่านมากยิ่งขึ้นชายหนุ่มผละมือออกจากหน้าอกแล้วลูบฝ่ามือไปตามหน้าท้องนูนเด่นก่อนจะใช้ปลายนิ้วกดเน้นไปบนเกสรสวาททำเอาหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว“อื้อ....อ่า คุณนนท์ขา อย่าทำแบบนั้น”“ไม่ชอบเหรอ ถ้างั้นผมหยุดน่ะ”“เปล่านะ วิวเสียวมากมันจะเสร็จ”หญิงสาวรีบปฏิเสธเพราะกลัวเขาจะหยุดอย่างที่พูด“ผมก็อยากให้วิวเสร็จเพราะตอนวิวเสร็จร่องวิวตอดแน่นมาก ลองก้มดูสิว่าตอนนี้ร่องของว
“วิวผมรู้แล้วว่าคุณยังไม่หลับ”“ก็คุณนนท์ยังคุยอยู่แบบนี้วิวจะหลับล่ะคะ”“เรายังคุยกันไม่จบเลยนะวิว”“แต่วิวคิดว่าวิวจบแล้วค่ะ”“วิวไม่ต้องการจริงเหรอ” ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้กอดเธอจากทางด้านหลัง ฝ่ามือลูบไล้บนหน้าท้องของเธอเบาๆ“ลูกจ๋าขอพ่อมีความสุขกับแม่ได้ไหม” เขากระซิบข้างหูจนหญิงสาวรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว“คุณนนท์ใครเขาให้พูดกับลูกแบบนั้นกันคะ”“ผมต้องการคุณนะวิวมันนานแล้วที่เราไม่ได้นอนด้วยกันและผมนอนกับคุณเกือบทุกคืนแต่ก็ได้แค่กอดผมรู้สึกทรมานมากๆ”“คุณนนท์คะ วิวท้องอยู่นะ”“ผมปรึกษาเรื่องนี้กับคุณหมอแล้วนะ”ชายหนุ่มพูดขณะที่ฝ่ามือก็ลูบไปบนต้นขาขาวเนียนและสอดเข้าใต้ชุดนอนแบบกระโปรงไล้ฝ่ามือไปบนหน้าท้องที่โตขึ้นกว่าเดิม“คุณนนท์ไม่นะคะ”“อย่าห้ามเลยผมทรมานมากจริง ให้ผมนะวิว”เขากระซิบแหบพร่าแล้วฝ่ามือร้อนก็กอบกุมหน้าอกอิ่มที่มันขยายขนาดขึ้นกว่าเดิม“คุณนนท์....”เธอครางแผ่วเบาเมื่อสัมผัสจากฝ่ามือร้อยทำให้ร่างกายอารมณ์ปรารถนาของเธอถูกปลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว“หน้าอกคุณใหญ่ขึ้นใช่ไหม”“มันก็เป็นอาการปกติของคนท้อง”“ดีจัง”เขาเพิ่มแรงบีบบนอกอิ่มปลายนิ้วสะกิดยอดถันปลุกเร้าอารมณ์ของหญิงสาวจน
ในห้องรับแขกของบ้านคุณย่าชมนาดตอนนี้วิรัลพัชรกำลังนั่งดูละครหลังข่าวอยู่กับคุณย่าตามปกติ โดยมีคุณานนท์มานั่งดูละครด้วยช่วงพักโฆษณาชายหนุ่มก็เลยถามวิรัลพัชรถึงเรื่องการตั้งชื่อของลูกในท้อง“ตกลงคุณคิดออกหรือยังวิวจะให้ลูกในท้องชื่อว่าอะไร”“วิวคิดออกหลายชื่อเลยค่ะ คุณนนท์แต่ไม่รู้จะเอาชื่อไหนดีคุณย่าช่วยวิวเลือกหน่อยได้ไหมคะ”“ได้ยังไงล่ะลูกของหนูวิวกับตานนท์ก็ต้องช่วยกันตั้งชื่อเอง”“แต่วิวก็อยากให้คุณย่าช่วยตั้งชื่อด้วย ชื่อเล่นวิวคิดไว้หลายชื่อส่วนชื่อจริงวิวอยากให้คุณย่าเป็นคนตั้ง”“อ้าวทำไมถึงอยากให้ย่าเป็นคนตั้งล่ะ”“วิวอยากให้ลูกได้ชื่อที่เป็นสิริมงคลจากคุณย่าค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นย่าจะลองไปปรึกษาพระที่วัดดูแต่คงต้องรอให้ตาหนูในท้องคลอดออกมาก่อนจะได้เอาวันเวลาไปให้ท่านด้วย” คุณย่าชมนาดรู้สึกดีใจมากที่หลานสะใภ้ให้เธอเป็นคนตั้งชื่อ“ขอบคุณมากค่ะคุณย่า”“แล้วชื่อเล่นล่ะหนูคิดไว้ชื่ออะไรบ้าง”“มีหลายชื่อเลยค่ะมีนิวตัน นับหนึ่ง เนสแล้วก็มีนะโมค่ะ คุณย่ากับคุณนนท์ชอบชื่อไหนคะ”“ทำไมชื่อมีแต่น.หนูทั้งนั้นเลยล่ะไม่เห็นจะมีว.แหวนเหมือนหนูวิวเลย”“ก็วิวอยากให้ลูกมีชื่อเหมือนทุกคนนี่คะ”“ย่าไม
งานแต่งงานผ่านไปแล้วแม้ว่ามันจะไม่ราบรื่นอย่างที่ตั้งใจไว้แต่มันก็ทำให้วิรัลพัชรและคุณานนท์มีความเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้นคุณานนท์รู้สึกสงสารหญิงสาวมากๆ ที่ถูกมารดาของตนเองต่อว่าต่อหน้าคนอื่นแบบนั้น ในขณะที่วิรัลพัชรก็รู้สึกดีที่คุณานนท์ทำให้มารดาของเธอมาร่วมงานแต่งงานครั้งนี้ได้ตอนนี้หญิงสาวกำลังเปิดรับคุณานนท์เข้ามาอยู่ในใจ เธอกำลังรักเขาแต่ก็ไม่กล้าบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปเพราะกลัวว่าเขาจะหัวเราะเยาะเพราะรู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้ทันเกิดจากความรับผิดชอบไม่ใช่ความรักเหมือนกับคู่แต่งงานอื่นวันนี้เป็นวันที่วิรัลพัชรต้องไปฝากครรภ์ซึ่งหญิงสาวถึงย้ายมาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลกับอาจารย์หมอวัลลภซึ่งเป็นอาจารย์หมอที่เก่งที่สุดในแผนกสูตินรีเวชตามคำแนะนำของหมอนันนภัสในห้องตรวจนอกจากจะมีคุณแม่มือใหม่นอนอยู่บนเตียงให้คุณหมอทำการอัลตราซาวด์แล้วยังมีคุณย่าชมนาด คุณานนท์และหมอนันนภัสอยู่ในห้องนั้นด้วยทุกคนต่างพากันตื่นเต้นเพราะวันนี้อาจจะรู้เพศเด็กที่อยู่ในท้องแล้วก็เป็นได้คุณหมอนันนภัสมองหน้าจอเครื่องอัลตราซาวด์แล้วยิ้มด้วยความดีใจเมื่อเธอเห็นเพศของหลานตัวน้อยก่อนใคร“หมอนันรู้แล้วใช่ไหมว่าลูกของว
ระหว่างที่ยืนถ่ายรูปอยู่กับวิรัลพัชรหน้าห้องจัดเลี้ยงก็มีสายตาหลายคู่มองหญิงสาวแปลกๆ บางคนก็เดินมามองแล้วกลับไปยืนซุบซิบจนวิรัลพัชรรู้สึกถึงความผิดปกติ“คุณนนท์คะ วิวรู้สึกแปลกๆ ค่ะ ทำไมแขกถึงมองเราสองคนแบบนั้นค่ะ”“นั่นสิมันเกิดอะไรขึ้นกันนะ” ชายหนุ่มกวักมือเรียกเลขาของตนเองที่ยืนอยู่หน้างานเข้ามาถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น“คุณนนท์ค่ะไม่รู้มีใครไปปล่อยข่าวว่าคุณวิวปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อตั้งใจจะจับคุณนนท์และคุณนนท์ถูกบังคับให้แต่งงานเพราะคุณวิวเอาลุกมาขู่ค่ะ” มยุรีบอกกับเจ้านายตามที่เอได้ฟังมา“ใครเป็นคนเอาเรื่องนี้มาพูดคุณพอจะรู้มั้ย” ยุก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะเดี๋ยวจะลองไปถามให้นะคะว่าพวกเขาเอาเรื่องนี้มาจากใคร“ผมว่าเราเข้าไปข้างในเลยดีไหมไม่ต้องถ่ายรูปแล้วก็ได้ผมไม่อยากให้ใครมองคุณด้วยสายตาแบบนั้นเลย”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณนนท์ยังมีอีกหลายคนที่เรายังไม่ถ่ายรูปด้วย ถ้าคืนนี้เราไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับเขาแล้วเราจะมาเสียใจทีหลังนะคะ”“ทนได้แน่นะวิว”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะก็เรื่องที่เขาพูดมันเป็นความจริงนี่คะ”“แต่มันก็เป็นความจริงครึ่งเดียวที่คุณท้องก่อนแต่ง แต่คุณไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาจับผมอย่างที่พวกเขา