Share

บทที่ 42

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2024-12-24 20:09:27

ฮ่องเต้พระราชทานของรางวัลให้กับคนตระกูลซูมากมายและยังให้ต้าหลางส่งผักผลไม้ที่เขาบอกมาที่วังหลวงอีกด้วย และยกเลิกการเก็บภาษีของเมืองเจียงซวนเป็นระยะเวลาห้าปี

เมื่อทั้งสองออกจากท้องพระโรงก็มีขุนนางหลายคนเข้ามาพูดคุย ไม่ว่าจวนใดก็อยากได้ผักผลไม้ตระกูลซูเช่นกัน

แต่ต้าหลางก็บอกเพียงให้ติดต่อที่เหลาอาหารเฉิงไฉ เพราะเขามอบสิทธิ์ขาดให้นายท่านฉุยไปแล้ว ต้าหลางยังรับปากว่าจะหาที่ปลูกผักที่เมืองหลวงเพื่อให้ทุกจวนได้กินผักผลไม้ของเขาทุกจวน

"ซูมี่ใช่หรือไม่" เมื่อคนเริ่มกลับไป นายท่านไป๋ก็เดินเข้ามาหาสองคนพ่อลูก

"คารวะท่านใต้เท้าขอรับ/เจ้าค่ะ" สองพ่อลูกตระกูลซูที่มิรู้ว่าผู้ใดก็ทำความเคารพ

"ข้าไป๋เหลี่ยง บิดาไป๋ฮุ่ยหมิ่น"

เมื่อทั้งสามรู้แล้วว่าใครเป็นใครก็พูดคุยกันไม่มาก นายท่านไป๋ยังบอกให้คนตระกูลซูไปกินข้าวที่จวนของเขาอีกด้วย สองพ่อลูกก็รับปากอย่างดี

ต้าหลางกับซูมี่ไปรับจางกุ้ยที่ห้องรับรองเพื่อพากันไปที่จวนหลังใหม่ ก็พบว่าภายในห้องพักของจางกุ้ยมีสตรีที่งดงามนั่งอยู่ด้านในกับนางด้วย

"กระหม่อมซูต้าหลางถวายบังคมฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ"

"หม่อมฉันซูมี่ถวายบังคมฮองเฮาเพคะ" จ้าวกงกงที่บอกทั้งคู่ว่าพระนางคือผ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 43

    เรือนสิบกว่าหลังก็ปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซูมี่นางยังให้เป่าเปาทำบ่อน้ำ เพื่อจะได้นำน้ำในบึงมาใส่ไว้ เมื่อคนทั้งหมดมาถึงสิ่งที่ซูมี่และเป่าเปาได้ทำก็เสร็จเรียบร้อยด้านหน้ายังมีแปลงผักที่ถูกทำขึ้นไว้แล้ว เพื่อใช้เป็นตัวอย่างให้ทุกคนได้ทำตาม"โอ่งน้ำด้านนั้นข้าใส่น้ำดื่มไว้ให้พวกท่านเจ้าค่ะ" ซูมี่ชี้ไปที่โอ่งน้ำที่อยู่หน้าเรือนหลังใหญ่ที่สุดนางได้แบ่งหน้าที่ให้ทุกคนและแต่งตั้งให้หนึ่งในนั้นเป็นพ่อบ้านอีกคนเพื่อจัดการงานต่างๆ เป่าเปาก็เป็นคนเลือกอีกเช่นเคยกว่าจะจัดการทุกเรื่องจบก็เกือบจะกลับเข้าเมืองไม่ทันเพราะเลยเวลาปิดประตูเมือง ซูมี่กับต้าหลางมาถึงจวนก็รีบทานอาหารแล้วแยกย้ายกันไปนอน เมื่อเข้ามาถึงห้องก็พบฮุ่ยหมิ่นนั่งรอนางอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างเสียแล้ว"คารวะนายท่านเจ้าค่ะ" เป่าเปาเดินไปย่อตัวหน้าฮุ่ยหมิ่นอย่างอ่อนหวาน"เป่าเปารึ" ฮุ่ยหมิ่นที่ยังไม่เคยเห็นเป่าเปาในรูปลักษณ์นี้ก็อดจะเอ็นดูนางมิได้ เขาอุ้มเป่าเปาน้อยขึ้นนั่งบนตัก ซูมี่ก็ปล่อยให้ทั้งคู่ได้เล่นด้วยกันไปก่อน นางก็เดินไปอาบน้ำที่โม่ลี่เตรียมไว้ให้นางที่ห้องอาบน้ำด้านนอก เพราะจวนหลังนี้ไม่มีห้องน้ำเหมือนที่จวนเก่า ยังคง

    Last Updated : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 44

    ฮูหยินไป๋เห็นผักผลไม้ที่ได้มาก็รีบให้บ่าวนำไปทำอาหารเพิ่มให้ทันมื้อเย็นที่ใกล้จะเริ่มตั้งโต๊ะแล้วทันทีฝ่ายสตรีก็แยกตัวมาคุยกันที่ศาลาริมน้ำ ปล่อยให้พวกบุรุษนั่งคุยกันในห้องโถง ฮูหยินไป๋พูดคุยกับสองแม่ลูกตระกูลซูอย่างถูกคอ ยิ่งเห็นผ้าไหมที่นำมาตัดชุดของทั้งคู่ก็ยิ่งสนใจ"ข้าไม่ประหลาดใจเลย หากฮองเฮาจะพอพระทัยผ้าไหมของเจ้า" ฮูหยินไป๋เอ่ยกับจางกุ้ย"หากฮูหยินไป๋ชอบ ข้านำมาด้วยหลายผืนท่านก็เก็บไว้ตัดชุดเถิดเจ้าค่ะ หากไม่พอก็ให้บ่าวไปแจ้งที่จวนของข้า ข้าจะฝากมาให้ท่านอีก" จางกุ้ยก็มิได้หวงของที่มีมากมาย คนที่อยากได้ก็เป็นมารดาของฮุ่ยหมิ่นต่อไปคงจะเป็นบ้านดองของนางเอง"เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจเจ้าแล้วนะ" สองคนปิดปากหัวเราะอย่างชอบใจ ฮูหยินรองต่อให้อยากได้มากเพียงใดนางก็ไม่ลดตัวไปขอกับสตรีชาวบ้านแน่ซูมี่รับรู้ทุกการกระทำของฮูหยินรองอยู่ตลอดเวลา แต่ในเมื่อนางยังไม่ได้ทำอันใดที่เป็นการล่วงเกินหรือล้ำเส้นนางกับมารดา ซูมี่จึงมองข้ามไปเสียก่อนเวลาผ่านไปได้ไม่นาน สาวใช้ก็มาตามทั้งหมดให้ไปร่วมรับประทานอาหารที่ห้องโถงหลัก ฮุ่ยหมิ่นเดินออกมารับซูมี่เขาให้นางไปนั่งติดกับเขา วันนี้ไป๋ฮุ่ยหลิงก็อยู่ด้วย

    Last Updated : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 45

    เช้าวันรุ่งขึ้นข่าวใหญ่ของเมืองหลวงแทนที่จะเป็นเรื่องที่ตระกูลไป๋ส่งแม่สื่อมาสู่ขอสตรีตระกูลซูกลับเป็นเรื่องการล้มป่วยลงของฮ่องเต้ ตอนนี้หมอหลวงยังหาวิธีการรักษามิได้เลยฮุ่ยหมิ่นที่กลับมาถึงจวนของตนตอนที่ฟ้ายังไม่สว่างก็พบเสี่ยวจงที่มาดักรอแจ้งเรื่องพระอาการของฮ่องเต้ให้เขาทราบ นายท่านไป๋เดินทางเข้าวังตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนายท่านไป๋หาตัวฮุ่ยหมิ่นไม่พบจึงให้เสี่ยวจงรอแจ้งเรื่อง หากฮุ่ยหมิ่นกลับมาถึงเรือนให้รีบตามเข้าวังโดยด่วน ฮุ่ยหมิ่นเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าก็รีบร้อนออกจากจวนไปอย่างรวดเร็วภายในวังหลวง ทหารและองครักษ์เสื้อแพรเข้ามาควบคุ้มอยู่ทุกตำหนัก ฮุ่ยหมิ่นเมื่อมาถึงก็ถูกนางกำนัลพาไปที่ห้องบรรทมของฮ่องเต้ที่ตอนนี้มีฮองเฮา องค์ชายใหญ่ รวมถึงขุนนางคนสำคัญอยู่ภายในเหตุที่เขาเข้ามาได้ในครั้งนี้เป็นเพราะฮองเฮาเรียกตัวให้เข้ามาพบเพื่อให้ฮุ่ยหมิ่นช่วยเรื่องวางกำลังคนรอบเมืองหลวงมิให้อ๋องหรือองค์ชายองค์ใดก่อกบฏ ในยามนี้"ท่านพ่อ" ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยเรียกบิดาเมื่อเข้ามาด้านใน เชื้อพระวงศ์หลายพระองค์นั่งอยู่ห้องด้านในอีกชั้นหนึ่ง ด้านนอกจึงมีเพียงขุนนางเท่านั้น "มาแล้วรึ" นายท่านไป๋มองมาที่บุตรชา

    Last Updated : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 46

    ซูมี่เดินตามหลังฮุ่ยหมิ่นเข้าไปด้านใน คนทั้งหมดเหมือนเห็นนางก็หันมามองอย่างแปลกใจ ฮุ่ยหมิ่นพาซูมี่เข้าไปในห้องบรรทมโดยไม่สนสายตาของผู้ใด"เจ้าเป็นผู้ใด เข้ามาได้อย่างไร" กุ้ยเฟยหันมาตวาดเสียงแหลมใส่ซูมี่"คุณหนูซูหรือ" ฮองเฮาหันมามองซูมี่ด้วยน้ำตาที่ไหลอาบแก้มซูมี่หันไปถวายบังคมให้ฮองเฮา ก่อนที่จะเดินเข้าไปหยุดที่ข้างเตียงของฮ่องเต้ กุ้ยเฟยและองค์ชายรองพยายามจะไล่นางออกไป แต่ฮุ่ยหมิ่นและหยางกงกงก็มาขัดขวางพวกเขาไว้"ฮองเฮาท่านให้ผู้อื่นออกไปก่อนได้หรือไม่เจ้าค่ะ" สิ้นเสียงของซูมี่กุ้ยเฟยก็กรีดร้องออกมาอย่างไม่ยินยอม"พวกเจ้าจะก่อกบฏ หรือ" นางร้องออกมาเสียงดัง พร้อมทั้งตะโกนแจ้งบิดาของนางที่อยู่ด้านนอก"คำกล่าวหาของพระสนมหม่อมฉันมิอาจรับไว้ได้ แต่ถ้าพระสนมจะขัดขวางไม่ให้หม่อมฉันช่วยฝ่าบาทก็ต้องมาดูว่าผู้ใดที่คิดจะก่อกบฏ " มีหรือที่ซูมี่นางจะยอม นางมิได้ทำอันใดผิด นางจะยอมได้อย่างไร"เจ้า เจ้า" กุ้ยเฟยจ้องมองซูมี่อย่างโกรธแค้น"พานางออกไป" ฮองเฮาตรัสให้องครักษ์พาตัวทุกคนออกจากห้องไป ภายในห้องจึงเหลือเพียงฮองเฮา หยางกงกง ฮุ่ยหมิ่นและซูมี่เท่านั้นซูมี่นางให้เสี่ยวไป๋นำผลไม้ชุบชีวิตมาให้

    Last Updated : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 47

    รุ่งเช้าหยางกงกงก็เดินทางมาที่จวนตระกูลซูพร้อมทั้งพระราชโองการของฮ่องเต้ ของกำนัลนับสิบหีบถูกขนมาที่จวนตระกูลซูอย่างยิ่งใหญ่คนในจวนทั้งหมดเมื่อทราบเรื่องก็รีบเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้วออกมายืนรับพระราชโองการที่หน้าเรือนหยางกงกงยิ้มให้ซูมี่อย่างเอ็นดูก่อนจะกางพระราชโองการแล้วเริ่มอ่านเสียงดังฮ่องเต้พระราชทานตำแหน่งท่านหญิงขั้นหนึ่งมีฐานะเทียบเท่าองค์หญิงให้กับซูมี่แล้วแต่งตั้งซูต้าหลางให้เป็นท่านโหว เพราะความดีความชอบจากการช่วยชีวิตพระองค์ในครั้งนี้ นับว่าที่มอบฐานะใหม่ให้คนตระกูลซูจึงมิได้มากเกินไปนักซูต้าหลางก้มลงคำนับอย่างตกตะลึง เพราะคิดมิถึงว่าตนเองจะได้ตำแหน่งถึงท่านโหว และยังได้พระราชทานจวนหลังใหม่ในเมืองหลวง ที่ดินนอกเมืองอีกนับพันหมู่อีกด้วยก่อนจะกลับซูมี่ส่งถุงน้ำวิเศษให้หยางกงกงพร้อมทั้งกระซิบบอกวิธีการใช้กับเขา ให้เขาพกติดตัวไว้เผื่อเกิดเรื่องฉุกเฉินหยางกงกงคำนับซูมี่อย่างนอบน้อมก่อนจะมองนางด้วยแววตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา เพราะคิดไม่ถึงว่าซูมี่จะให้ของดีเช่นนี้กับตน ตนเห็นตอนที่ฮุ่ยหมิ่นให้ฮ่องเต้ได้ดื่มแล้วก็รู้ว่า สิ่งที่ซูมี่ให้สามารถช่วยชีวิตคนไว้ได้"คุณหนูซู" เขาเ

    Last Updated : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 48

    ยามค่ำคืนมีผู้บุกรุกเข้ามาในจวนหลังใหม่ของตระกูลซู เพราะเสี่ยวเหอกับเสี่ยวคังที่อยู่ในห้องกับนางทำให้รู้ว่าภายในเรือนมีผู้บุกรุกซูมี่ที่ยังมิได้เข้านอนก็รีบไปที่ห้องของบิดามารดา แล้วพาพวกเขาเข้าไปด้านในมิติ รวมถึงบ่าวในเรือนทั้งหมดด้วยเพราะเรือนของบ่าวอยู่ใกล้กับเรือนหลักนางจึงพาคนทั้งหมดเข้าไปในมิติได้อย่างรวดเร็ว ซูมี่เรียกฟาไฉกับฟูไฉออกมาจากในมิติ แต่เสี่ยวไป๋กับเสี่ยวเฮยดันตามออกมาด้วย"เจ้าหลบอยู่ด้านในเรือนอย่าได้ออกมา" ซูมี่สั่งเสี่ยวไป๋กับเสี่ยวเฮย เพราะหากมีคนหลุดรอดออกไปจากเรือนของนางแล้วนำเรื่องที่นางมีสัตว์ป่าอยู่ในเรือนออกไปพูดคงไม่เกิดผลดีกับนางแน่ แล้วนางยังไม่รู้ว่าผู้บุกรุกเป็นผู้ใด มาด้วยเรื่องอันใดซูมี่กระโดดขึ้นไปบนหลังคาเพื่อสังเกตการณ์ ผู้บุกรุกเข้ามาอย่างเงียบเฉียบนางมองดูก็รู้ว่าเป็นมือสังหารมาเพื่อเอาชีวิตคนตระกูลซูเป็นแน่ เพราะมากันถึงห้าสิบนายก่อนที่มือสังหารจะเข้ามาถึงเรือน ซูมี่กระโดดลงไปด้านล่างเพื่อเผชิญหน้ากับพวกมือสังหาร"ผู้ใดส่งเจ้ามา" ซูมี่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย"มิต้องรู้ว่าผู้ใด ในเมื่อวันนี้ตระกูลซูต้องสิ้นชื่อ เจ้าจะอยากรู้ไปเพื่ออันใด

    Last Updated : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 49

    ฮุ่ยหมิ่นเห็นว่าไม่มีเรื่องอันใดแล้วก็พาคนของเขากลับไปพร้อมกับผู้ตรวจการ ก่อนที่จะย้อนกลับมาใหม่อีกครั้ง ในลานเรือนบ่าวก็ช่วยกันทำความสะอาดคราบเลือดทั้งหมดเรียบร้อยแล้วฮุ่ยหมิ่นรีบเข้าไปในห้องของซูมี่ เขาบอกกับนางแล้วว่าจะย้อนกลับมา เพราะกลัวว่านางจะเข้าไปในมิติเพื่อดูเสี่ยวคังจึงบอกให้รอเขาเสียก่อนซูมี่เมื่อพาฮุ่ยหมิ่นเข้าไปในมิติแล้ว ทั้งคู่ก็รีบไปที่ถ้ำของเสี่ยวเฮยเพื่อดูอาการของเสี่ยวคัง ทั้งหมดมารอที่ถ้ำของเสี่ยวเฮยแล้ว และตอนนี้เจ้าลูกหมาป่าก็ลุกขึ้นเดินได้แล้วซูมี่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะบาดแผลของเสี่ยวคังในยามนี้ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว "นายหญิงท่านไม่ยอมให้ข้าออกไปด้วย" เป่าเปาหน้าบูดต่อว่าซูมี่"เจ้าเป็นเพียงเด็กน้อยข้าไม่อยากให้เจ้าเห็นเรื่องที่น่าหวาดกลัว" ซูมี่ลูบผมของเป่าเปาอย่างเบามือ"เหอะ ครั้งนี้ข้าไม่โกรธท่านก็ได้ แต่ครั้งหน้าท่านต้องให้ข้าไปทำเรื่องสนุกเช่นนี้ด้วย" ซูมี่ส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจนางไม่อยากจะคิดเลยว่ายังจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีกหรือ แต่ถ้านางไม่จัดการเรื่องทั้งหมดให้เสร็จสิ้น จะกล้าทิ้งบิดามารดาให้อยู่ทางนี้เพียงลำพังได้อย่างไรทั้งสองเมื่อเห็นว

    Last Updated : 2024-12-24
  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 50

    โรงน้ำชา โรงเตี๊ยมล้วนแต่พูดคุยเรื่องโจรปล้นตระกูลสวีอย่างสนุกปาก เพราะทางการยังไร้ร่องรอยของโจร แม้จะตรวจค้นทุกจวนแล้วแต่ก็ไม่อาจหาสมบัติของตระกูลสวีพบ"ตระกูลสวีไปล่วงเกินเทพองค์ใดเข้า" นี่คือคำพูดที่ชาวเมืองพูดถึงกันในยามนี้ยามนี้ตระกูลสวีล้วนวุ่นวาย เพราะนายท่านของจวนล้มป่วยเสียครึ่งจวน เงินทองที่เคยมีใช้อย่างสุรุ่ยสุร่ายยามนี้ก็ขาดแคลนนัก ต้องนำสินเดิมของฮูหยินและเหล่าอนุทั้งหลายออกมาใช้จ่ายในเรือนไปก่อนถึงแม้จะเหลือร้านค้าในมืออีกหลายร้านก็ไม่อาจทำให้ตระกูลสวีฟื้นขึ้นมาได้ในเร็ววัน แผนการที่จะแย่งชิงบัลลังก์ขององค์ชายรองจึงต้องระงับไว้ชั่วคราวแม้แต่ฮ่องเต้ยังอดประหลาดใจมิได้ ที่ผ่านมาหลายวันยังหาร่องรอยของสมบัติทั้งหมดที่หายไปไม่พบแม้จวนตระกูลสวีหรือตำหนักของกุ้ยเฟยจะวุ่นวายมากเพียงใดก็ไม่เกี่ยวกับจวนโหว ในยามนี้จางกุ้ยตรวจพบว่าตั้งครรภ์เสียแล้วต้าหลางถึงกับแจกรางวัลให้กับทุกคนในเรือนอย่างใจกว้าง ซูมี่นางก็นำเงินที่ได้จากตระกูลสวีมาแจกบ่าวในเรือนถึงคนละห้าสิบตำลึงเงินบ่าวเดิมที่อยู่มานานก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับเงินจำนวนนี้ เพราะพวกเขาได้มามากกว่านี้มากนัก แต่บ่าวที่ถูกซื้อตัวมา

    Last Updated : 2024-12-24

Latest chapter

  • อีกด้านของนางร้าย   ตอนจบ

    ซูมี่นางส่งฮ่องเต้และฮองเฮาลงแช่น้ำโดยให้ มามาและหยางกงกงคอยดูแลแล้วก็พาองค์รัชทายาทไปที่ถ้ำของเสี่ยวไป๋"เพราะพระองค์เห็นหม่อมฉันเป็นน้องสาว และหม่อมฉันก็เห็นพระองค์เป็นพี่ชาย จึงได้พามาที่ถ้ำของเสี่ยวไป๋" ซูมี่นางอธิบายเรื่องการเปลี่ยนไขกระดูกและการฝึกวรยุทธให้องค์รัชทายาทได้เข้าใจอย่างน้อยองค์รัชทายาทก็ต้องมีวรยุทธไว้ปกป้องพระองค์เอง เพื่อเกิดเหตุการณ์เช่นกบฏองค์ชายรองอีกครั้ง"มี่เออร์ เปิ่นหวางไม่เสียทีที่รักเจ้าเหมือนดั่งน้องสาว" องค์รัชทายาทเอ่ยออกมาจากใจ เพราะเขารักนางเหมือนน้องสาวตั้งแต่ครั้งแรกที่นางช่วยเสด็จพ่อของตนไว้ ไม่คิดว่านางจะไว้ใจตนจนมอบเรื่องวิเศษเช่นนี้ให้"พระองค์อดทนให้ได้นะเพคะ" ซูมี่บอกองค์รัชทายาทเมื่อมาถึงด้านในถ้ำของเสี่ยวไป๋"เปิ่นหวางจะอดทน" ซูมี่พยักหน้าให้ฮุ่ยหมิ่นคอยดูแลองค์รัชทายาท ส่วนนางจะกลับไปดูทางฮ่องเต้ ฮองเฮาก่อนเสียงกรีดร้องขององค์รัชทายาทดังออกมาจากนอกถ้ำ เสี่ยวไป๋ส่งเสียงขึ้นจมูกอย่างดูแคลน"ร้องดังกว่าเจ้าในยามนั้นเสียอีก" ซูมี่อดจะหัวเราะเสียงดังออกมามิได้เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวไป๋เมื่อกลับมาถึงถ้ำของเสี่ยวเฮย ฮ่องเต้ก็ขึ้นจากน้ำมาเรี

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 59

    นายท่านไป๋กับฮูหยินไป๋เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าตรงหน้าของตนได้เปลี่ยนไป แปลงสมุนไพรที่มีสมุนไพรหายากมากมาย ผัก ผลไม้ที่ขึ้นเต็มไปหมดเสี่ยวไป๋ในยามนี้ตัวใหญ่จนน่าตกตะลึง แล้วไหนจะหมาป่าสี่ตัวกับหมีควายที่กำลังวิ่งมาทางนี้อีก ฮูหยินไป๋เกือบจะเป็นลมแต่ถูกฮุ่ยหมิ่นประคองไว้เสียก่อนเป่าเปาที่ปรากฏกายด้วยรูปร่างที่แท้จริงบินไปตรงหน้าของนายท่านไป๋ เขาจ้องมองทุกสิ่งอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แม้จะผ่านเรื่องน่าเหลือเชื่อมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้นับว่าเกินเขาจะรับไว้"มี่เออร์นี่เรื่องอันใด" เขาเอ่ยเสียงที่แทบหาไม่เจอออกมาอย่างอยากเย็นซูมี่เล่าเรื่องภายในมิติของนางให้นายท่านไป๋และฮูหยินไป๋ได้ฟัง นางพาทั้งคู่ไปที่ถ้ำของเสี่ยวเฮย เพื่อให้พวกเขาลงไปแช่ในน้ำ เพราะทั้งคู่ไม่ต้องเปลี่ยนไขกระดูกเช่นนางกับฮุ่ยหมิ่นจึงไม่ต้องไปที่ถ้ำของเสี่ยวไป๋เมื่อทั้งสองลงไปแช่ในน้ำ เพียงหนึ่งชั่วยามเมื่อขึ้นมาจากน้ำต่างก็พบความเปลี่ยนแปลงของตน นายท่านไป๋ที่มีโรคปวดตามข้อตามอายุของตนก็หายเป็นปลิดทิ้ง แม้ก่อนหน้านี้จะกินผักผลไม้ของตระกูลซูแต่ก็ต้องกินเป็นระยะเวลานานถึงจะเห็นผลรูปลักษณ์ของทั้งคู่ก็ดูจะอ่อนเยาว์ขึ้นอ

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 58

    เสี่ยวซานก็จัดการหาฤกษ์มงคล พร้อมทั้งหาแม่สื่อไปพูดคุยกับซูถัง ป้าอวี้ บิดามารดาของโม่ลี่เพื่อสุ่ขอนางตามธรรมเนียม เรื่องสินสอดและสินเดิมซูมี่นางก็จัดการให้อย่างใจกว้างจนบ่าวในเรือนที่ชอบพอกันมาบอกกล่าวนางว่าตนอยากจะแต่งกับคนนั้น คนนี้ ซูมี่ก็ไม่ขัดข้องพร้อมทั้งจัดการให้ทุกคน เพราะทุกคนที่กล้ามาพูดกับนางล้วนอยู่กับนางมาตั้งแต่ที่เมืองเจียงซวนงานมงคลของบ่าวในจวนแม่ทัพจัดขึ้นภายในเรือน แม้แต่จวนอื่นก็ไม่อยากจะเชื่อว่า แม่ทัพไป๋กับฮูหยินจะใจกว้างถึงกับจัดงานในบ่าวของตนด้วยเพียงวันเดียวก็มีคู่แต่งงานในจวนถึงห้าคู่ ซูมี่แบกท้องที่ใหญ่โตของนางไปร่วมงานด้วย ทั้งยังอยู่ร่วมรับประทานอาหารกับทุกคน ต้าหลาง จางกุ้ยก็พาบ่าวในจวนของเขามาร่วมงานด้วยเช่นกัน"ท่านพี่ ข้าคิดว่าข้าจะคลอดแล้วเจ้าค่ะ"ซูมี่ดึงแขนเสื้อของฮุ่ยหมิ่นที่ร่วมดื่มเหล้ามงคล"ตามหมอตำแยประเดี๋ยวนี้" ฮุ่ยหมิ่นตกตะลึง เมื่อดึงสติมาได้ เขาก็ตะโกนเสียงดังภายในจวนจึงได้วุ่นวายไปหมด โม่ลี่ที่อยู่ในห้องหอก็อยากจะออกมาดูนายหญิงของตนใจแทบขาด แต่ก็โดนสั่งห้ามไว้ เพราะมีคนอยู่ในจวนมากมายให้นางวางใจได้ แต่นางก็มิยอมฟังยังออกจากห้องหอมาที่เ

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 57

    คุณหนูหานร้องอย่างตกใจ พร้อมทั้งกระโดดไปที่ฮุ่ยหมิ่น แต่มีหรือที่คนอย่างฮุ่ยหมิ่นจะยอมให้สตรีนางอื่นมาโดนตัว เขาพุ่งหลบไปอีกทางอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมที่จะดึงซูมี่ออกห่างมาด้วยคุณหนูหานจึงล้มลงไปกองที่พื้นเสียงดัง สาวใช้ของนางต้องรีบเข้ามาประคองนายของตนอย่างเสียขวัญไหนจะมีเสือขาวที่นอนหมอบจ้องมาทางพวกนางเหมือนจ้องตะครุบเหยื่อ แต่ก็ไม่กล้าที่จะทิ้งนายตนเองมิเช่นนั้นเมื่อกลับจวนไม่รู้ว่าจะโดนลงโทษเช่นใด"ไล่มันออกไปสิเจ้าค่ะ" นางร้องสั่งฮุ่ยหมิ่นให้ไล่เสือขาว"เป็นเจ้าที่ต้องออกไป เสี่ยวไป๋เป็นสัตว์เลี้ยงของมี่มี่" ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยเสียงเย็นอย่างไม่ไว้หน้าคุณหนูหานไม่คิดว่าฮุ่ยหมิ่นไม่รับตัวนางไว้ แล้วยังออกปากไล่นางออกจากจวนอีก นางจึงร้องไห้รีบร้อนออกจากจวนท่านแม่ทัพไปอย่างอับอาย"นางเข้ามาได้อย่างไร" ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยถามบ่าวเสียงเข้ม"ข้าให้นางเข้ามาเองเจ้าค่ะ อยากรู้ว่านางมาด้วยเรื่องอันใด" ซูมี่ถูกฮุ่ยหมิ่นประคองมายังที่นั่ง"แล้วรู้หรือยังว่านางเข้ามาด้วยเรื่องอันใด" เขาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขากับตระกูลหานไม่ได้สนิทถึงขั้นต้องไปมาหาสู่กัน อีกอย่างฮูหยินรองก็ไม่ถูกกับมารดาของตนอีกด้

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 56

    ฮุ่ยหมิ่นก็ตั้งใจทำเช่นที่เขาพูดจริง นับตั้งแต่วันนั้นมา ฮุ่ยหมิ่นก็เหมือนจะเร่งมือเรื่องทำบุตรทุกค่ำคืน เพราะซูมี่นางกลับไปที่จวนโหวทุกวันเพื่อดูน้องชายบ้างวันฮุ่ยหมิ่นกลับมาจากค่ายทหารยังหาภรรยารักไม่พบ จนต้องตามไปที่จวนท่านพ่อตาเพื่อรับนางกลับจวน"เกิดอันใดขึ้น" ฮุ่ยหมิ่นที่เพิ่งกลับมาถึงเรือน ก็เห็นบ่าววิ่งกันให้วุ่น"ท่านแม่ทัพ ฮูหยินนางกินอันใดมิได้ขอรับ บ่าวในเรือนจึงต้องไปทำใหม่เสียหลายรอบ" พ่อบ้านซานรีบบอกฮุ่ยหมิ่น"ตามหมอหรือยัง" ฮุ่ยหมิ่นเหมือนจะลืมไปว่าซูมี่นางรู้วิชาแพทย์"ฮูหยินมิได้ตามขอรับ" พ่อบ้านซานหลบสายตาของฮุ่ยหมิ่น"ประเสริฐ" เขารีบร้อนเดินไปที่เรือนของตนเพื่อดูอาการของซูมี่ และอยากจะตำหนินางที่ไม่ยอมตามหมอ"มี่มี่ เหตุใด เจ้าถึงไม่ตามหมอ" ฮุ่ยหมิ่นเข้ามาถึงก็เอ่ยถามทันทีแต่เมื่อเห็นโม่ลี่ประคองกระโถนในมือเพื่อให้ซูมี่นางอาเจียนก็รีบร้อนเข้ามานั่งข้างนางทันที"ท่านยังมิรู้อีกหรือว่าข้าเป็นอันใด" ซูมี่เอ่ยถามอย่างอ่อนแรง เสี่ยวไป๋ก็เข้ามาซุกอยู่ที่ท้องของนางอย่างห่วงใย"ดื่มก่อนเจ้าค่ะนายหญิง" เป่าเปาส่งถ้วยน้ำในมือของนางให้ซูมี่ เมื่อนางดื่มเข้าไปอาการอยากอาเจี

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 55

    ภายในห้องโถงเรือนหลักของจวนแม่ทัพ ในยามนี้มีเพียงบิดามารดาของฮุ่ยหมิ่นเท่านั้น เพราะเขาแยกจวนมาอยู่ที่จวนท่านแม่ทัพแล้ว วันนี้นายท่านไป๋กับฮูหยินไป๋เพียงมาพักช่วงรับตัวเจ้าสาวเข้าจวน"คารวะท่านพ่อ ท่านแม่เจ้าค่ะ" ซูมี่ยกน้ำชาขึ้นเหนือคิ้วของนาง ส่งให้นายท่านไป๋กับฮูหยินไป๋"นับจากนี้เจ้าเป็นบุตรสาวของข้าอีกคนแล้ว" ฮูหยินไป๋จินชาเล็กน้อย ก่อนจะวางโฉนดที่ดินนอกเมืองให้ซูมี่ห้าร้อยหมู่เพื่อรับขวัญลูกสะใภ้"หากมีเรื่องอันใดที่จัดการไม่ได้ ก็บอกแม่สามีของเจ้าแล้วกัน" นายท่านไป๋ก็ชาขึ้นดื่มเล็กน้อยพร้อมทั้งโบ้ยให้ทางฮูหยินไป๋รับเรื่องไว้ฮุ่ยหมิ่นส่ายหัว เมื่อเห็นมารดาทำหน้าเหมือนอยากจะทุบบิดาของตน ซูมี่นำของที่นางเตรียมไว้มอบให้นายท่านไป๋และฮูหยินไป๋ เมื่อทั้งคู่เปิดดูก็ต้องตกตะลึงจนอ้าปากค้าง เพราะนางให้โสมที่นางปลูกไว้ให้ทั้งสองถึงห้าหัวแต่ถ้าทั้งคู่รู้ว่าโสมของนางมีเป็นพันหัวไม่รู้จะแสดงสีหน้าเช่นไร แม้โสมทั้งห้าหัวจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เช่นที่เสี่ยวเฮยนำมาให้ซูมี่ แต่ถ้าเทียบกับที่จวนอื่นมี ในมือของทั้งคู่ตอนนี้ก็ถือว่าใหญ่ที่สุด ฮูหยินไป๋กอดกล่องไม้ไม่ยอมส่งให้สาวใช้ถือ เมื่อทานอาหารเช

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 54

    ขบวนรับเจ้าสาวออกจากจวนโหวไปจวนแม่ทัพอย่างยิ่งใหญ่ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คงจะเป็นสินเดิมของเจ้าสาวที่มีมากมาย ภายในหีบนอกจากเงินทองแล้ว ของทุกอย่างมีค่าควรเมือง แม้แต่ในราชวังของบางอย่างที่ซูมี่นางมีคงไม่เคยได้พบเห็นตามธรรมเนียมต้องเปิดหีบทุกใบออกเพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าได้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านในมิใช่หีบเปล่า หรือใส่ก้อนหินไว้แทน กล่องที่ดูจะเด่นที่สุดเห็นจะเป็นโสมหัวใหญ่ของเสี่ยวเฮย เพียงมองด้วยตาเปล่าก็คำนวณอายุออกมาน่าจะไม่น้อยกว่าพันปีเป็นแน่ไม่รู้ว่าจวนโหวไปหาของเหล่านี้มาจากที่ใด เพราะข่าวลือที่รู้มา ซูมี่นางเป็นเพียงหญิงชาวบ้านเท่านั้น ต่างคนต่างความคิด ซูมี่อดจะหัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะนางล่วงรู้ความคิดของคนทั้งหมดบางคนคิดว่าจวนท่านแม่ทัพให้นางมา บางคนกล่าวว่าเป็นสินสงครามที่ฮุ่ยหมิ่นยึดมาได้แต่ไม่ส่งเข้าคลังหลวง เรื่องทั้งหมดไม่ว่าชาวเมืองจะคิดเช่นไร แต่คนของราชวงศ์อย่างฮ่องเต้และฮองเฮาล้วนรู้ดีถึงความพิเศษของนาง แต่เขามิได้พูดเรื่องของซูมี่ออกมาเพราะได้รับปากนางไว้แล้ว โสมในวังไม่ใช่จะไม่มีที่อายุนับพันปี แต่เมื่อเทียบกับของที่ซูมี่นำมามอบไว้ให้ย่อมเทียบกันไม่ติดเมื่อมาถึงจวนแม่

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 53

    ฮุ่ยหมิ่นเดินเข้ามาซูมี่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ซูมี่เห็นท่าไม่ดีนางจึงหายเข้าไปในมิติ ฮุ่ยหมิ่นยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างตกตะลึง ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ เขานั่งรอซูมี่อยู่บนเตียง แต่ไม่เห็นนางออกมาเสียทีจึงได้เขียนจดหมายทิ้งไว้ให้นาง แล้วกลับจวนของตนเองไป เพราะพรุ่งนี้เช้าเขาก็ต้องมารับตัวนางไปอยู่ด้วยที่จวนแล้วซูมี่ที่แอบหลบอยู่ในมิติ นางยังเห็นด้านนอกว่าฮุ่ยหมิ่นทำสิ่งใด เมื่อเขากลับออกไปจากห้องของนางแล้ว ซูมี่ที่กำลังจะออกจากมิติ เสี่ยวไป๋ก็เดินเข้ามาหานาง"ข้าให้ท่านนายหญิง" "นี่คืออันใด" ซูมี่หยิบสิ่งที่เสี่ยวไป๋ให้ขึ้นมา มันเหมือนลูกแก้วกลมใส ขนาดเท่าหัวนิ้วมือ"ท่านกลืนลงไปก็จะรู้" เสี่ยวไป๋มองสบตากับซูมี่ซูมี่นางกลืนลงไปทันที เพราะเชื่อใจเสี่ยวไป๋ เพียงไม่นานภาพเหตุการณ์ต่างๆก็ปรากฏขึ้น ภาพด้านนอกมิติ และภาพชีวิตของสัตว์ป่าทุกตัวที่อยู่ในมิติปรากฏชัดเหมือนนางอยู่ตรงนั้นด้วยตนเองด้านในมิตินางมิได้แปลกใจสักเท่าใด แต่ภาพในเรือนของนางไม่ว่าใครจะทำสิ่งใด เมื่อนางนึกถึงก็จะเห็นผู้นั้นทำสิ่งต่างๆ ทันที แล้วยังล่วงรู้ความคิดของทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องพูดออกมาอีกด้วย"นี่มัน"

  • อีกด้านของนางร้าย   บทที่ 52

    ฮุ่ยหมิ่นนับว่าได้ความดีความชอบที่กลับมาช่วยจัดการกลุ่มกบฏขององค์ชายรองไว้ได้ทัน ฮ่องเต้จะให้ฮุ่ยหมิ่นกลับมาดูแลเมืองหลวง พร้อมทั้งพระราชทานจวนท่านแม่ทัพให้แก่เขาส่วนทางชายแดนเหนือยกให้รองแม่ทัพขึ้นเป็นแม่ทัพแทน ฮุ่ยหมิ่นจึงต้องส่งทหารทางชายแดนเหนือที่ตนพามาด้วยกลับชายแดนไปหลังจากจบเรื่องกบฏองค์ชายรอง ฮุ่ยหมิ่นก็ต้องจัดระเบียบทหารในค่ายของเมืองหลวงเสียใหม่ และต้องใช้เวลาฝึกทหารที่ไม่ได้เรื่องอีกมากนักที่ดินที่ใช้ปลูกเสบียงสำหรับกองทัพ ฮุ่ยหมิ่นก็ใช้น้ำวิเศษของซูมี่ในแปลงผัก และนาข้าว ฮุ่ยหมิ่นจัดการฝึกวรยุทธให้ทหารในค่ายด้วยตนเอง จนใกล้ถึงวันงานเขาจึงได้กลับไปที่เรือนตระกูลไป๋"หมิ่นเออร์ จวนหลังใหม่ของเจ้าจะเข้าไปอยู่เลยหรือไม่" ฮูหยินไป๋เอ่ยถามบุตรชายเมื่อเขาเข้ามาพบนางที่ห้องโถง"ข้าจะเข้าไปอยู่เลยขอรับ เรื่องบ่าวหรือข่าวของในจวนข้าจะจัดการเองขอรับ" เพราะเขาจะให้ซูมี่นางจัดการให้"เช่นนั้นก็แล้วแต่เจ้า" ฮูหยินไป๋มิได้เข้าไปจัดการ เพราะเห็นว่าบุตรชายและซูมี่นางน่าจะจัดการได้ดีตกดึกฮุ่ยหมิ่นก็ไปหาซูมี่ที่เรือนของนาง เพราะเขามิได้พบหน้านางมาหลายวัน นับตั้งแต่ต้องไปจัดการเรื่องภายใ

DMCA.com Protection Status