“ กรี๊ด!! คนอะไรปากร้ายสิ้นดี คุณเป็นใคร? ร่ำรวยมากจากไหนไม่ทราบ ถึงได้มาใช้วาจาน่าเกลียดกับฉันอย่างนี้ เพื่อนของฉันเป็นเจ้าของเรือลำนี้ และโรงแรมอีกหลายแห่ง ไม่แน่โรงแรมที่คุณพักอยู่อาจเป็นของเขาด้วยก็ได้ ฉันจะให้คนของเขาเก็บข้าวของ ๆ คุณออกมาทิ้งข้างนอก ให้ไม่มีที่ซุกหัวนอนเลยคอยดู โทษฐานที่บังอาจมาดูถูกฉัน”
“ ฮานะ! มีอะไรน่ะ เกิดอะไรขึ้น ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย นึกว่าใครเสียอีก”
“ อ้อ! มาพอดีเลยยูอิจิ นายคนนี้น่ะสิ ชนฉัน แล้วยังมีหน้ามาดูถูกฉันอีก” ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดมากไปกว่านี้ ยูอิจิก็โผล่มาพอดิบพอดี เมื่อมาถึง หมอหนุ่มก็หันไปถามเพื่อนสาว ก่อนจะหันไปทางบุรุษหนุ่มชาวตางชาติที่เป็นคู่กรณีของฮานะทันที แต่ก็ต้องชะงักไป เมื่อเห็นเขาเต็มตา
“ คุณ!”“ มิสเตอร์โฮเวิ์รด!” คิมฮีจินเอ่ยชื่อเจ้าของร่างใหญ่ อย่างตื่นตระหนก เมื่อวิ่ง
“ ฮ๊ะ! ไม่นะ! ปล่อยฉันนะ ไอ้ยักษ์บ้า! จะพาฉันไปไหน? ปล่อยฉันนะ!ยูอิจิช่วยฉันด้วย!” ร่างสูงใหญ่ค่อนข้างหนาของชายหนุ่มชาวต่างชาติ ทั้งลากทั้งจูง ร่างบางที่พยายามสะบัดตัวออกจากการฉุดกระชากลากถู จนเกิดความโกลาหลเล็ก ๆ ภายในห้องจัดเลี้ยง ผู้ร่วมงานหลายคนที่ยืนอยู่ในจุดนั้น ต่างก็กลายเป็นไทยมุงไปโดยปริยาย โฮเวิ์รดกล่าวขอโทษและขอทางไปตลอดเพื่อพาหล่อนออกไปจากงาน โดยที่มีหญิงสาวร่างบางระหงขืนตัวไว้แถมยังโวยวายไปตลอดทาง ยูอิจิทำท่าจะวิ่งตามเพื่อนสาวที่ถูกกระชากลากถู ออกจากงานไปอย่างเป็นห่วง แต่ก็ถูกมือเรียวยื้อยุดฉุดไว้เสียก่อน“ อย่าตามไปเลยค่ะ ขืนตามไปตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ฉันเชื่อว่ามิสเตอร์โฮเวิ์รดคงไม่ทำอะไรคุณฮานะหรอกค่ะ ฉันเชื่ออย่างนั้น” อะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้เขายอมทำตามอย่างที่หญิงสาวพูด เขาหยุดการกระทำทุกอย่างก่อนจะหันไปมองหญิงสาวที่ดูสุขุม แลดูใจเย็นข้างกาย พลอยทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นเพราะห่วงเพื่อนสาว เย็นลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ อากาศข้างนอกนี่หนาวจริง ๆ ด้วย ลมแรงชะมัด อีตาฝรั่งนั่นหายไปไหนนะ ตั้
ทางด้านหญิงสาว หล่อนมีความรู้สึกถูกชะตาและนึกชอบใจผู้ชายคนนี้ ทำให้แอบอิจฉาอยู่ลึก ๆ กับความรู้สึกดี ๆ ของชายหนุ่มที่มอบให้แก่หญิงสาวชาวไทยนางนั้นนัก หล่อนพอจะเดาเอาจากท่าทางของเขาว่า ชายหนุ่มแคร์เธอผู้นั้นมากเหลือเกิน จะเป็นไปได้ไหมนะ ถ้าเขาจะหันมามองผู้หญิงอย่างหล่อนบ้าง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ชายในอุดมคติ เพราะหล่อนเองไม่เคยวางสเป็คของตัวเองว่าผู้ชายที่ควรจะรัก และทุ่มเทหัวใจให้ เป็นแบบไหน จะว่าไปแล้ว ผู้ชายที่มาจีบหล่อน ล้วนแล้วแต่เข้ามาหาหล่อนเอง เพียงแค่เห็นในแวบแรก แต่กับหมอหนุ่มคนนี้ เขากลับนิ่งเฉยไม่มีหล่อนอยู่ในสายตาแม้เพียงสักนิด เห็นทีว่าความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับเขาจะเป็นเพียงแค่คนรู้จักกันเท่านั้นกระมัง หญิงสาวคงเผลอจ้องมองชายหนุ่มนานเกินไป จนได้ยินเสียงกระแอมออกมาจากลำคอของเขา สะดุ้งตัวนิด ๆ ส่งยิ้มหวานให้ ก่อนจะเอ่ยปากถามอีกฝ่ายอย่างใคร่รู้ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่แก่ใจตัวเองดีแล้ว“เอ่อ..คือ..ฉันอยากรู้ว่าคุณกับคุณน้ำริน เอ่อ..คบกันอยู่หรือเปล่าคะ?” ด้วยความที่ว่า หล่อนเป็นคนหัวนอกนิด ๆ แต่ไม่ถึงกับก๋ากั่นนัก ความต้องการอยากรู้โดยเฉพาะเรื่
“ฮีโร่!” น้ำเสียงเข้มงวด บวกกับความหึงหวง เต็มไปด้วยสีหน้าไม่พอใจ เปล่งออกมาอย่างสุดจะทนกับภาพตรงหน้า พลอยทำให้สองหนุ่มสาวที่อิงแอบกันอยู่สะดุ้งตกใจ ผละออกจากกันแทบไม่ทัน แต่ฝ่ายหญิงในอ้อมแขนแข็งแรงยังคงวางมือไว้ที่บ่าไหล่ของฮิโรยูกิ มองไปยังต้นเสียงอย่างงง ๆ หรี่ตา เพื่อเพ่งพิศคนตรงหน้าด้วยอาการมึน ๆ อยู่“เกิดอะไรขึ้น? เธอเมาเหรอ? เป็นไปได้ยังไงเมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลย” หมอหนุ่มโวยวายออกมาแทบจะทันที เมื่อเห็นอาการคอพับคออ่อนของหญิงสาวในอ้อมอกของเพื่อนรัก“อะไรกันเพื่อนนายกำลังคิดว่า กันมอมเหล้าหล่อนอย่างนั้นหรือ?”“ก็มัน..นายไม่ควรพาเธอออกมาข้างนอกแบบนี้มันไม่เหมาะแล้วอีกอย่างข้างนอกนี่มันหนาว” ฮิโรยูกิ เลิกคิ้วดกดำขึ้นสูง ก่อนจะสังเกตเห็นแววตากรุ่นโกรธฉายออกมาจากดวงตาเล็กเรียวนั้น อย่าบอกนะว่าเพื่อนรักของเขา คิดจริงจังกับผู้หญิงในอ้อมกอดของเขานี่“มา..ส่งคุณน้ำรินมา เดี๋ยวกันจะพาหล่อนไปส่งที่บ้านเอง” ร่างสูงของยูอิจิก้าวเข้าไปยังร่างเล็ก ที่ยืนโงนเงนแนบชิดอยู่กับอกกว้างหลับต
เมื่อมาถึงรถ ฮิโรยูกิก็จัดแจงให้หญิงสาวนั่งทางตอนหลังโดยมีร่างสูงใหญ่ขนาบอยู่ด้านข้างของรถหรู วันนี้ตัวเขาเองก็รู้สึก มึน ๆ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อยู่เหมือนกันจึงจำเป็นต้องอาศัยคนขับรถไปส่งให้ ส่วนภายในงานฮิโรยูกิได้มอบหมายหน้าที่ให้ทานากะ รับผิดชอบทั้งหมด เพราะการได้ทำงานร่วมกันมานานทำให้สามารถไว้ใจเขาได้เต็มร้อยเลยทีเดียว น้ำรินกลายเป็นสาวขี้เมาไปแล้ว สาวน้อยนั่งคอพับคออ่อน ปากก็พูดพร่ำอะไร ที่คนฟังไม่รู้เรื่องเลยสักอย่าง มือก็ปัดป่าย เปะปะไปทั่ว หนำซ้ำยังเอามือเล็กมาลูบคลำที่แขนแข็งแรงของเขา อย่างเผลอไผลไม่ได้สติ ถ้าหากเป็นตอนที่สติดี ๆ ป่านนี้คงวิ่งหนีไปแล้วก็ได้ ฮิโรยูกิหันกลับมาจ้องหน้าคนตัวเล็กข้างกายแทนได้แต่ถอนหายใจ ดวงตาเข้มดุ ในตอนแรกค่อย ๆ เปลี่ยนไป หากมีแววตาอ่อนโยนมาแทนที่ พร้อมกับใช้มือหนา ปัดปอยผมที่ยาวรุ่ยร่ายมาปิดบังดวงหน้าออกให้อย่างเบามือ ฮิโรยูกิเพ่งพิศดวงหน้าขาวใส พลางใช้นิ้วเรียวลากผ่านตั้งแต่หน้าผากกลมมน จมูกเล็ก จนกระทั่งมาถึงริมฝีปากบาง วันนี้หล่อนดูสวย น่ารักด้วยเครื่องแต่งกายและเครื่องสำอางเพียงน้อยนิดที่เขาให้มิกะเอา
ฮิโรยูกิหายใจติด ๆ ขัด ๆ แทบสะดุดลมหายใจตัวเอง เมื่อก้มลงไปมองดวงหน้าหญิงสาวอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าหล่อนละเมอจริง ๆ ไม่ได้แกล้งยั่วเขาอย่างที่กำลังทำอยู่นี่ แต่ก็ต้องเกร็งร่างทั้งร่างแทบจะทันทีเมื่อสบกับนัยน์ตาปรือหวานฉ่ำและดวงหน้าที่เคยขาวใสไร้ที่ติ ถูกแต่งแต้มด้วยสีระเรื่อ คงเพราะจากแอลกอฮอล์ ใบหน้าเล็กแหงนเงย มาอยู่ใกล้กับปลายจมูกของเขาจนชายหนุ่มต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ..หล่อนคงไม่รู้ว่ากิริยาท่าทางที่เผยอเรียวปากบางน้อย ๆ ปลายลิ้นแตะเลียที่ริมฝีปากตัวเองราวกับหิวน้ำเต็มประดา ภาพตรงหน้าช่างยั่วยวนกิเลสตัณหาให้ลุกกระพืออย่างง่ายดาย ชายหนุ่มตัดสินใจกอดกระชับวงแขนรัดร่างบอบบางที่หลับใหลไม่รู้เรื่องราวอะไรทั้งสิ้นนั้น พลิกร่างหล่อนให้นอนหงาย ก่อนจะสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ พลางก้มหน้าลงไปหาใบหน้าที่ยั่วยวนเขาจนสติแทบแตกกระเจิงตรงหน้า ฮิโรยูกิค่อย ๆ แต้มริมฝีปากไปที่หน้าผากกลมมน ไล่เรื่อยตามไรผมข้างแก้มจนถึงลำคอ ก่อนจะวกกลับขึ้นไปที่ริมฝีปากแห้งผากของอีกฝ่ายด้วยความกระหายอยาก ก่อนจะกดจุมพิตที่แสนดูดดื่มลงไปบนเรียวปากของหญิงสาวที่ดูเหมือ
“ไงพูดอีกสิ..แม่ไฮโซคนเก่ง เงียบทำไมล่ะ” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ กอดกระชับร่างบอบบางให้หน้าอกนุ่มหยุ่น ชิดกับอกกว้างเข้ามาอีก อย่างนึกสนุกที่ได้แกล้งหล่อน ทำเอาหญิงสาวต้องเอียงหน้าหลบ ก้มหน้างุด มือทั้งสองข้างพยายามกันอกแข็ง ๆ ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายส่วนหน้าแนบชิดกับเขาให้มากที่สุด ฮานะรู้สึกถึงลมหายใจร้อนผะผ่าวของเขารินรดที่ข้างแก้มอย่างใกล้ชิด จนทำให้เธอหายใจติด ๆ ขัด ๆ เมื่อรับรู้ว่าใบหน้าของเขาโน้มเข้ามาใกล้จนแทบจะสัมผัสได้“นี่คุณ! ฉันหายใจไม่ออกแล้วนะ ถอยออกไปห่าง ๆ หน่อยได้ไหม!” เมื่อไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะถอยห่าง หญิงสาวจึงต้องเปล่งเสียงสั่นออกมา พลางออกแรงดันร่างใหญ่หนาที่แนบชิดติดกับตัวอยู่อย่างนั้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเพื่อเจรจากับเขา หากไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อไป ริมฝีปากหนาก็ทาบทับลงมาปิดเรียวปากบางเสียก่อน สัมผัสหนัก ๆ รุกเร้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ริมฝีปากบางถูกบดเคล้าอย่างหนักหน่วงดุดัน คล้ายลงโทษ อีกฝ่ายออกแรงขบเม้ม ตรงริมฝีปากล่างให้หล่อนเจ็บนิด ๆ ฮานะนิ่วหน้าเล็กน้อย เมื่อรู้สึกถึงความวาบหวามยามที่เขาบดขยี้จูบลงมาเสมือนลงทัณฑ์ ห
“อ๊ะ! นี่รอย..รอยอะไร หรือว่า..อีตาฝรั่งบ้ากามนั่น! คอยดูนะ ถ้าเจออีกเมื่อไหร่จะฆ่าให้ตายเลยคอยดู! ฮึ๊ย!” หญิงสาวสบถออกมาอย่างหัวเสียสุด ๆ เมื่อเห็นร่องรอยห้อเลือดจาง ๆ ที่ซอกคอขาวนวล ทำยังไงดีล่ะทีนี้พรุ่งนี้หล่อนต้องออกตรวจแต่เช้าเสียด้วย เพราะผู้ชายบ้ากามคนนั้นทีเดียวเลย ถ้าหากว่าคนอื่นเห็นจะว่ายังไง ดีนะที่วันนี้หล่อนบอกกับทางบ้านไว้ว่าจะกลับมานอนที่คอนโดไม่อย่างนั้นละก็..มีหวังต้องโดนซักจนต้องไม่เป็นอันได้หลับได้นอนกันเลยล่ะคืนนี้ คนบ้า! อีตาฝรั่งหน้าโหด หวังว่าคงไม่ได้เจอะได้เจอกันอีก ไม่ว่าจะเป็นชาตินี้หรือชาติหน้า เกิดมายังไม่เคยโดนเพศตรงข้ามแตะเนื้อต้องตัวถึงขนาดนี้เลยสักครั้ง แม้แต่กับฮิโรยูกิ ที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันสมัยเรียนก็ยังไม่เคยทำแบบนี้เลย ไม่นึกเลยว่าเขาจะกล้าทำกับผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อน แล้วแถมเพิ่งเคยเจอหน้ากันวันแรกแบบนี้ได้ ไร้มารยาท โรคจิต..ลามก..บ้ากาม!ความฝัน..มันเป็นความฝัน..มันไม่ใช่ความจริงใช่ไหม? ใครก็ได้ช่วยบอกที“ไม่จริง! ต้องไม่ใช่เรื่องจริง” น้ำรินตะโกนบอกตัวเองในใจ
“ใคร!? ใคร? เป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน มิกะใช่ไหม? แล้วตอนนี้..มิกะไปไหนแล้ว มิ..” ยังไม่ทันที่จะร้องเรียกหาตัวช่วย ก็ถูกปิดปากสนิทเสียแล้ว ฮิโรยูกิจูบหล่อนเพื่อกลบเสียงช่างจำนันจาของหญิงสาวก่อนที่หล่อนจะเพ้อเจ้อไปมากกว่านี้“อื้อ อื้อ อื้อ..” เสียงอู้อี้ที่พยายามเบี่ยงหน้าหนีจูบของเขา พยายามเปล่งออกมาอย่างยากลำบาก มือบางทั้งผลักทั้งดันแผงอกแข็ง ๆ ให้ออกห่าง หากร่างหนากลับไม่สะทกสะท้านสักนิด“ถ้าอยากให้ปล่อย ก็ต้องห้ามพูด..ห้ามเถียง..ห้ามตีโพยตีพายอย่างนี้โอเคไหม! ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันจะจูบเธอให้ตายคาห้องนี้แหละ และ..อาจจะไม่หยุดอยู่แค่จูบ..” เมื่อร่างเล็กบางในอ้อมกอด พยักหน้าหงึกหงักขึ้นลงช้า ๆ กับแผงอกของเขาหลังจากที่ยอมหยุดนิ่งได้สักพักแล้ว“หมายความว่าไง พยักหน้า เธอต้องการอย่างหลังใช่ไหม..ฮึ”“มะ..ไม่ใช่นะคะ ฉันจะหยุดพูด หยุดทุกอย่างเลย” หญิงสาวรีบละล่ำละลักบอกออกมาอย่างรีบร้อน เพราะเกรงว่าชายหนุ่มจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่“อืมม์..ดี พูดง่าย ๆ อย่างนี้สิ ค่อยน่าคุยหน่อย” ร่างส
การกระทำของทั้งสองได้เรียกน้ำตาให้กับคนที่พบเห็น บริเวณห้องฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี ชั่ววินาทีนั้นราวกับว่าได้หยุดทุกสิ่งทุกอย่างให้หยุดอยู่กับที่ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ป่วยที่ร้องโอดโอย เพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลบริเวณหน้าขา เพิ่งถูกเข็นผ่านเข้ามาภายใน ต้องหยุดชะงักงันไปชั่วขณะ เหลือบมองมายังคู่หนุ่มสาวทั้งสองด้วยความงุนงงสงสัย ลืมความเจ็บปวดเมื่อครู่ไปเลยทีเดียว ทางด้านผู้สูงอายุทั้งสาม ถึงกับอึ้งไปกับการกระทำของทั้งสองหนุ่มสาว ความรู้สึกตื้นตัน และเห็นความตั้งใจจริงของทั้งสอง แสดงให้รู้ว่าพวกเขารักกันมากมายขนาดไหน ฝ่ายชายถึงกับสามารถตัดขาดจากสมบัติและวงศ์ตระกูลได้เลย เพื่อแลกกับการได้ครองรักกับหญิงสาวร่างเล็กบอบบางข้างกาย ลี ฮาซันถึงกับหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับที่หางตา มองไปทางด้านผู้เป็นสามีคล้องวงแขนเข้ากับลำแขนของอีกฝ่ายซุกหน้ากับอกของสามี ด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ ทางด้านลี จางชีก็มีอาการไม่ต่างจากกันนัก จึงแตะที่แขนของภรรยาอย่างปลอบประโลม ชายชราหนึ่งเดียวนั้นก็ไม่ได้มีอาการแตกต่างจากคนอื่นเท่าใดนัก ร่างที่ค่อนข้างค้อมเล็กน้อย ไขว้มือที่เหี่ยวย่นไว้ด้านหลังข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างวางอยู่บน
น้ำรินพยายามลืมตาตื่น รู้สึกมึนงงไปหมด อาการคลื่นไส้ จะเป็นลม หายเป็นปลิดทิ้งหลังจากที่ได้ให้น้ำเกลือ และนอนพักเต็มอิ่มแล้ว ดวงตาที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำอุ่น ๆ เค็ม ๆ ถูกเช็ดออกจากดวงหน้าด้วยนิ้วเรียวใหญ่อย่างเบามือของผู้เป็นสามี“ตื่นแล้วหรือ? เป็นไงบ้าง? ยังเวียนหัวอยู่หรือเปล่า?” คำถามรัวถี่ติด ๆ กันจนคนถูกถามแทบตอบไม่ทัน จึงได้แต่ส่ายศีรษะไปมาเบา ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ หล่อนไม่อยากให้เขาเป็นกังวลมากนัก“ไอ้หมอหัวล้านกับเจ้ายูมันให้เธอกลับบ้านได้ แต่ฉันว่าเธอยังไม่แข็งแรงดีเลย ยังไงนอนพักดูอาการที่นี่สักคืนดีไหม” ผู้เป็นภรรยาส่ายหัวดิกเมื่อ ได้ยินผู้เป็นสามีบอกให้นอนพักที่นี่สักคืน“ไม่เอาค่ะ หายดีแล้ว ไม่เวียนหัว ไม่คลื่นไส้ ไม่มีอาการอะไรทั้งนั้นแล้ว ฉันหายดีแล้วจริง ๆ นะคะ” อยากจะบอกเหลือเกินว่า แค่ตื่นขึ้นมาแล้วได้เจอหน้าเขา มาอยู่ใกล้ ๆ อย่างนี้อาการต่าง ๆ ก็หายเป็นปลิดทิ้งทันทีเลยล่ะ“จริงนะ ห้ามโกหก เป็นพยาบาลอะไรไม่ชอบโรงพยาบาลเฮ้อ!” ชายหนุ่มชะโงกหน้า มองเสี้ยวหน้าภรรยาตัวน้อยด้วยความมันเขี้ยว มือใหญ่วางแปะที่ศีรษะเล็กนั้น เขย่าเบา ๆ อย่างเอ็นดู“กลับบ้านกันเถอะนะคะ” คนไข้ตัว
“ดี..แล้วก็เอาหัวล้าน ๆ ของไอ้หมอคนเมื่อกี้ออกไปห่างเมียกันหน่อยได้ไหม กันไม่ชอบขี้หน้ามันเลยว่ะ” ฮิโรยูกิหันมากระซิบข้างหูเพื่อนรักทันทีที่หันไปเห็นแพทย์คนเมื่อสักครู่ เดินเลี่ยงออกไปทางด้านซ้ายของเตียงคนไข้ นั่นก็เรียกรอยยิ้มให้ยูอิจิได้เป็นอย่างดี ขี้หึงจริง ๆ นะเพื่อนเรา แม้แต่หมอแก่ร่างท้วม กับหัวที่มีผมทางตอนหน้าเหลือน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ไปหาว่าเขาหัวล้านซะนี่ ร้ายจริง ๆ“ออกไปก่อนเถอะเพื่อน ไม่ต้องห่วงทางนี้ กันจะช่วยดูให้อีกแรงหนึ่ง” คำยืนยันของยูอิจิ บอกว่าภรรยาของเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ร่างสูงจึงยอมถอยห่างออกมาแต่ไม่ได้ไปไหนไกล เขายังคงปักหลักยืนอยู่ห่าง ๆ ในมุมห้องแคบนั้น พลางกอดอกมองแพทย์และพยาบาลตรวจร่างกายหล่อนเงียบ ๆ“ฮีโร่..ฮีโร่..ตื่นเถอะ”“อ๊ะ! ฮ๊ะ! ยู..เมียฉันล่ะเมียฉันเป็นไงบ้าง!” ร่างสูงผวาตกใจตื่น เมื่อได้ยินเสียงยูอิจิปลุกให้ตื่น เขาเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“หึ..ตื่นขึ้นมาก็โวยวายเลยนะ คุณน้ำรินปลอดภัยแล้ว หมอให้น้ำเกลือ แล้วย้ายเธอไปนอนพักดูอาการที่ห้องข้าง ๆ โน่นแล้ว”“เหรอ? แล้วอยู่ไหนล่ะ?”“เดี๋ยวสิเพื่อน นี่นายไม่อ
“อือ ๆ ก็ว่าอย่างนั้นล่ะ” แล้วก็มีเสียงงึมงำจากคนรอบข้าง ที่บ่งบอกว่าเห็นด้วยกับความเห็นของเขา และนั่นก็ให้คุณคิม เซยอนชักสีหน้าอย่างไม่พอใจให้สามีทันที“เอาอย่างนี้สิ อะไรที่เป็นฝีมือของเธอ เราก็ชิมอันนั้นก็แล้วกัน..เรามาวัดกันที่รสชาติเป็นไง” และก็เป็นท่านปู่อีกตามเคยที่เอื้อมมือมาช่วยหล่อนไว้ ทำให้น้ำรินลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก การทดสอบเรื่องอาหารผ่านไปด้วยดี ผลที่ออกมาหล่อนได้คะแนนเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าสูงมากเลยทีเดียว และสุดท้ายก็คือการชงชาที่ถูกต้อง ขณะที่กำลังนำถาดน้ำชาไปเสิร์ฟให้ผู้หลักผู้ใหญ่นั้นเอง วูบหนึ่งหล่อนรู้สึกหน้ามืด วิงเวียนจนแทบล้ม แต่ก็พยายามข่มใจไว้ พลางยืดอกขึ้นสูดลมหายใจเพื่อเอาออกซิเจนเข้าปอดลึก ๆ เฮือกหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดเรื่องที่หญิงสาวไม่ต้องการให้เกิดมันก็เกิดขึ้นจนได้“อุ๊บ! อ๊ะ!” เพล้ง! จู่ ๆ หญิงสาวก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อกลิ่นของชาชั้นดีโชยมาแตะเข้าที่จมูก กลิ่นของมันทำให้แก๊สในกระเพาะอาหารปั่นป่วนจนวิ่งมาจุกอยู่ที่ลำคอ แทบอ้วกออกมา เท่านั้นเองโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว หล่อนเผลอยกมือขึ้นมาปิดปาก ทำให้น้ำหนักถูกเทไปที่มืออีก
สามวันแล้วสินะที่หล่อนโดนการทดสอบแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคุณอาหญิง วันแรกเธอให้หล่อนขัดถูเครื่องใช้โบราณที่อยู่ในครัว ทำอยู่เป็นวันกว่าจะเสร็จก็เล่นเอามือถลอกไปเลยทีเดียว ถัดมาอีกวันหนึ่งหล่อนถูกทดสอบการทำอาหารซึ่งหล่อนถนัดนักล่ะ ไม่ว่าเธอจะสั่งให้ทำอะไรหล่อนก็ทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี และนั่นก็ทำให้คุณลี ฮาซัน เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับหล่อนดีขึ้น วันนี้เธอช่วยสอนวิธีชงชาที่ถูกวิธีให้กับหล่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ฮีจินมาเยี่ยมหล่อนเมื่อช่วงบ่าย ก่อนจะกลับหล่อนได้ยื่นของสิ่งหนึ่งมาให้ นั่นก็คือหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลีในแต่ละยุคสมัย คุณลีบอกว่าอีกสองวันจะมีการประชุมผู้อาวุโสของตระกูล ให้หล่อนเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อถึงวันนั้นเธอบอกว่าจะคอยช่วยหล่อนอีกแรงหนึ่ง น้ำรินรู้สึกดีใจเหลือเกิน ที่สามารถเอาชนะใจคุณลี ฮาซันได้ เพียงแค่ระยะเวลาอันสั้น ส่วนคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน พ่อบ้านเก่าแก่ ต่างก็ให้ความเป็นกันเองกับหล่อนมากขึ้นผิดกับวันแรก ๆ ที่หล่อนมาถึงที่นี่ลิบลับ หญิงสาวกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งในช่วงเย็น หลังจากร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นกับผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว ร่างเล็กก้าวเข้าไป
ช่วงเดือนพฤษภาคมที่เกาหลีแลดูสดชื่นนัก ความสวยงามของดอกไม้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ พันธุ์ไม้ต่าง ๆ ผลิดอกบานสะพรั่งก่อนที่จะมีใบสีเขียวชอุ่มตามมา ไกด์จำเป็นอธิบายให้หล่อนฟังว่า ริมทางที่รถวิ่งผ่านมาส่วนมากจะเป็นต้นเมเปิลต้นอึนแฮง ( ต้นแป๊ะก๊วย) ต้นบอทือ ( ต้นหลิว) ต้นบอช ( ต้นซากุระ) ต้นชัน (คล้ายต้นสน) ส่วนที่อยู่บนเนินเขาจะมีดอกจิลดัลแล สีชมพูอมม่วง ดอกแคนารีสีเหลือง และดอกซากุระ หรือดอกชนามู สีขาวอมชมพู ต่างผลิดอกออกมาประชัน เปรียบเสมือนสีผ้าต่าง ๆ พืด ปูประดับประดาไว้อย่างสวยงาม ต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ยืนเรียงรายริมถนนเริ่มผลิใบอ่อนบ้างแล้ว ตามกิ่งก้านจะมีนกเจบีตัวเล็ก ๆ สีดำส่งเสียงร้องอย่างร่าเริง รถคันจิ๋ววิ่งลัดเลาะผ่านภูเขาที่ดูคดเคี้ยว จากกรุงโซลออกมาแถวชานเมือง ได้สักพักใหญ่ ๆ คนขับกิตติมศักดิ์ของหล่อนก็หักพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวขวาขึ้นไปบนเนินสูงเบื้องหน้า วิ่งผ่านรั้วกำแพงสูงใหญ่เข้าไปด้านใน ก่อนจะจอดนิ่งสนิทหน้าลานกว้าง น้ำรินก้าวลงจากรถพลางเหม่อ
“อืมม์ เก่งขึ้นทุกวันนะเราใครสอนกันนะ โอ๊ะ! หึ ๆ” พูดออกไปแล้วก็ต้องร้องครวญครางด้วยความเจ็บ เมื่อถูกกำปั้นน้อย ๆ ทุบที่หน้าอกทีหนึ่งจากคนตัวเล็กตรงหน้า แก้มแดงระเรื่อทำให้เขาอดใจไม่ไหว ช้อนร่างหล่อนอุ้มขึ้นมากระชับไว้ในวงแขนอันอบอุ่น ก่อนจะพามาวางลงบนที่นอนโดยมีร่างสูงหนาตามมาติด ๆ ลมหายใจรินรดกันจนแทบจะสัมผัสได้ ตาต่อตาประสานกันนิ่ง ชายหนุ่มแนบหน้าเข้ามาใกล้เกลือกจมูกโด่งสวยเป็นสัน กับแก้มเนียนอมชมพูสูดดมความหอมอย่างรักใคร่หลงใหล ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากจากมุมปากประกบไว้แนบแน่น มือหนึ่งช้อนไว้ที่ท้ายทอยของหล่อน ส่วนมืออีกข้างก็ทำการสำรวจร่างกาย ลูบไล้ไปทั่วก่อนจะสอดหายเข้าไปใต้เนื้อผ้า.. สักพักชุดนอนเนื้อผ้าบางเบาก็ถูกปลดออกจากร่าง เหลือไว้เพียงร่างขาวนวลเนียนกระจ่างตา“ยังเช้าอยู่เลยนะคะ” หญิงสาวจำต้องยกมือขึ้นแตะที่แขนของสามีเป็นเชิงเตือน เมื่อเห็นว่าผู้เป็นสามีจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น“ไม่เห็นเป็นไรเลยเช้า ๆ นั่นแหละดี”“แต่ว่า..คุณต้องไปทำงาน”“อื้อ..อย่าดื้อน่า เมื่อกี้ยังเชื้อเชิญอยู่เลย นะ..ขอหน่อยนะที่รัก หลายวันแล้วนะที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย อีกหน่อยเธอก็ต้องไปที่โซลแล้ว เมื่อถึ
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทำให้มันสะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายจึงใช้ส้นเท้ากระทืบลงที่หลังเท้าของมันเต็มแรง ก่อนจะก้มลงไปกัดที่มือหยาบหนาบริเวณที่มันโอบเหนือเอวหล่อนขึ้นมา เมื่อถูกฟันคม ๆ ของหล่อนกดลึกเข้าไปในผิวเนื้อจนมันรู้สึกเจ็บ ร้องจ๊ากออกมา จนสะบัดมือ สะบัดเท้าเร่า ๆ หญิงสาวมองเห็นความหวังที่จะรอดไปได้ขึ้นมารำไร จึงรีบสลัดตัวออกจากแขนใหญ่ล่ำ ที่พันธนาการหล่อนอยู่ทันที ก่อนจะก้มลงไปหยิบปืนที่หล่นอยู่แทบเท้าเมื่อครู่ด้วยมืออันสั่นเทา นิ้วชี้กระชับพร้อมที่จะเหนี่ยวไกเพื่อกระชากวิญญาณของพวกมันได้ทุกเมื่อ หญิงสาวอยู่ในท่าเตรียมพร้อมอย่างที่ร่ำเรียนมา ปลายกระบอกปืนส่ายสลับไปมา ระหว่างชายฉกรรจ์ที่ยึดตัวหล่อนและสามีไว้เมื่อครู่อย่างหมายมาด สถานการณ์กลับกลายไปเป็นอีกแบบหนึ่งทันที ฮิโรยูกิย่างสามขุมตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของโทรุ ด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนไอ้สองคนที่กำลังสาละวนอยู่กับการพันธนาการฮีจินอยู่ ชะงักงัน หนึ่งในนั้นพยายามที่จะงัดปืนออกมาจากเอวของมันแต่ถูกเสียงเข้มดุดัน ตะโกนสั่งออกมาเสียก่อน“ทิ้งปืนซะ! ถ้าไม่อยากให้เจ้านายของแกตาย แล้วก็แก้มัดเพื่อนฉัน
“ทำได้ดีมาก..ที่รัก” ฮิโรยูกิยังมีอารมณ์หันมาเอ่ยปากชมหล่อนทันทีที่ร่างเล็ก ๆ วิ่งเข้ามาหลบอยู่ข้างหลังเขา ความขุ่นมัว กรุ่นโกรธก่อนหน้านี้ค่อยผ่อนคลายลงไปได้นิดหนึ่ง เมื่อเห็นว่าหล่อนแก้เผ็ดไอ้คนที่กระทำการอันน่ารังเกียจกับหล่อนได้อย่างไม่น่าเชื่อไม่เสียแรงเลยที่เขาอุตส่าห์ให้หล่อนหัดเรียนรู้วิธีป้องกันตัว เมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมาทั้ง ๆ ที่กลัวเหลือเกินว่าเนื้อตัวของหล่อนจะบอบช้ำจากการฝึกฝน แต่ดูเหมือนว่าภรรยาตัวน้อยของเขาจะติดใจการฝึกหัดทุกรูปแบบเสียจนบางครั้ง ไม่สนใจเขาไปเลยในช่วงนั้น โดยเฉพาะเวลาที่เธอฝึกยิงปืนกับครูหนุ่ม การเอาใจใส่จนออกนอกหน้าของครูฝึกคนนั้น ทำให้เขาต้องย้ายหล่อนให้มาฝึกกับครูผู้หญิงแทน ส่วนครูฝึกคนแรกนั้น ถูกย้ายทันทีในวันถัดมา นี่ล่ะ..ผู้หญิงที่จะมาเป็นนายหญิงของตระกูลคัทซึฮิโกะตัวจริง“หึ ๆ แกแน่มาก ฮิโรยูกิแต่ดูเหมือนว่าแกจะประเมินฉันต่ำไปแล้ว” ฮิโรยูกิกับน้ำรินรู้สึกแปลกใจในคำพูดของโทรุ ที่จู่ ๆ มันก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมาจากลำคอ ทันใดนั้นทั้งสองก็ต้องอ้าปากค้างร้องอุทานออกมาเกือบพร้อมกัน“ฮ