“ไงพูดอีกสิ..แม่ไฮโซคนเก่ง เงียบทำไมล่ะ” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ กอดกระชับร่างบอบบางให้หน้าอกนุ่มหยุ่น ชิดกับอกกว้างเข้ามาอีก อย่างนึกสนุกที่ได้แกล้งหล่อน ทำเอาหญิงสาวต้องเอียงหน้าหลบ ก้มหน้างุด มือทั้งสองข้างพยายามกันอกแข็ง ๆ ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายส่วนหน้าแนบชิดกับเขาให้มากที่สุด ฮานะรู้สึกถึงลมหายใจร้อนผะผ่าวของเขารินรดที่ข้างแก้มอย่างใกล้ชิด จนทำให้เธอหายใจติด ๆ ขัด ๆ เมื่อรับรู้ว่าใบหน้าของเขาโน้มเข้ามาใกล้จนแทบจะสัมผัสได้
“นี่คุณ! ฉันหายใจไม่ออกแล้วนะ ถอยออกไปห่าง ๆ หน่อยได้ไหม!” เมื่อไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะถอยห่าง หญิงสาวจึงต้องเปล่งเสียงสั่นออกมา พลางออกแรงดันร่างใหญ่หนาที่แนบชิดติดกับตัวอยู่อย่างนั้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเพื่อเจรจากับเขา หากไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อไป ริมฝีปากหนาก็ทาบทับลงมาปิดเรียวปากบางเสียก่อน สัมผัสหนัก ๆ รุกเร้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ริมฝีปากบางถูกบดเคล้าอย่างหนักหน่วงดุดัน คล้ายลงโทษ อีกฝ่ายออกแรงขบเม้ม ตรงริมฝีปากล่างให้หล่อนเจ็บนิด ๆ ฮานะนิ่วหน้าเล็กน้อย เมื่อรู้สึกถึงความวาบหวามยามที่เขาบดขยี้จูบลงมาเสมือนลงทัณฑ์
ห“อ๊ะ! นี่รอย..รอยอะไร หรือว่า..อีตาฝรั่งบ้ากามนั่น! คอยดูนะ ถ้าเจออีกเมื่อไหร่จะฆ่าให้ตายเลยคอยดู! ฮึ๊ย!” หญิงสาวสบถออกมาอย่างหัวเสียสุด ๆ เมื่อเห็นร่องรอยห้อเลือดจาง ๆ ที่ซอกคอขาวนวล ทำยังไงดีล่ะทีนี้พรุ่งนี้หล่อนต้องออกตรวจแต่เช้าเสียด้วย เพราะผู้ชายบ้ากามคนนั้นทีเดียวเลย ถ้าหากว่าคนอื่นเห็นจะว่ายังไง ดีนะที่วันนี้หล่อนบอกกับทางบ้านไว้ว่าจะกลับมานอนที่คอนโดไม่อย่างนั้นละก็..มีหวังต้องโดนซักจนต้องไม่เป็นอันได้หลับได้นอนกันเลยล่ะคืนนี้ คนบ้า! อีตาฝรั่งหน้าโหด หวังว่าคงไม่ได้เจอะได้เจอกันอีก ไม่ว่าจะเป็นชาตินี้หรือชาติหน้า เกิดมายังไม่เคยโดนเพศตรงข้ามแตะเนื้อต้องตัวถึงขนาดนี้เลยสักครั้ง แม้แต่กับฮิโรยูกิ ที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันสมัยเรียนก็ยังไม่เคยทำแบบนี้เลย ไม่นึกเลยว่าเขาจะกล้าทำกับผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อน แล้วแถมเพิ่งเคยเจอหน้ากันวันแรกแบบนี้ได้ ไร้มารยาท โรคจิต..ลามก..บ้ากาม!ความฝัน..มันเป็นความฝัน..มันไม่ใช่ความจริงใช่ไหม? ใครก็ได้ช่วยบอกที“ไม่จริง! ต้องไม่ใช่เรื่องจริง” น้ำรินตะโกนบอกตัวเองในใจ
“ใคร!? ใคร? เป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน มิกะใช่ไหม? แล้วตอนนี้..มิกะไปไหนแล้ว มิ..” ยังไม่ทันที่จะร้องเรียกหาตัวช่วย ก็ถูกปิดปากสนิทเสียแล้ว ฮิโรยูกิจูบหล่อนเพื่อกลบเสียงช่างจำนันจาของหญิงสาวก่อนที่หล่อนจะเพ้อเจ้อไปมากกว่านี้“อื้อ อื้อ อื้อ..” เสียงอู้อี้ที่พยายามเบี่ยงหน้าหนีจูบของเขา พยายามเปล่งออกมาอย่างยากลำบาก มือบางทั้งผลักทั้งดันแผงอกแข็ง ๆ ให้ออกห่าง หากร่างหนากลับไม่สะทกสะท้านสักนิด“ถ้าอยากให้ปล่อย ก็ต้องห้ามพูด..ห้ามเถียง..ห้ามตีโพยตีพายอย่างนี้โอเคไหม! ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันจะจูบเธอให้ตายคาห้องนี้แหละ และ..อาจจะไม่หยุดอยู่แค่จูบ..” เมื่อร่างเล็กบางในอ้อมกอด พยักหน้าหงึกหงักขึ้นลงช้า ๆ กับแผงอกของเขาหลังจากที่ยอมหยุดนิ่งได้สักพักแล้ว“หมายความว่าไง พยักหน้า เธอต้องการอย่างหลังใช่ไหม..ฮึ”“มะ..ไม่ใช่นะคะ ฉันจะหยุดพูด หยุดทุกอย่างเลย” หญิงสาวรีบละล่ำละลักบอกออกมาอย่างรีบร้อน เพราะเกรงว่าชายหนุ่มจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่“อืมม์..ดี พูดง่าย ๆ อย่างนี้สิ ค่อยน่าคุยหน่อย” ร่างส
ตอนนี้เขาตระหนักในหัวใจตัวเองแล้วว่า ไม่สามารถมอบหล่อนให้ใครได้อีกแล้ว แม้กระทั่งปล่อยหล่อนให้คลาดสายตาไปไหนไกล ๆ ความจริงแล้วหากว่าเขาจะหักหาญน้ำใจเอากับหล่อนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรีรอว่าหล่อนจะยินยอมหรือไม่ ดูจากเหตุการณ์เมื่อคืนในงานเลี้ยง ชายหนุ่มรู้สึกหวงแหน หึงหวง ไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ คอยจับตามองหาแต่หล่อนแทบทุกฝีก้าว เมื่อเห็นหล่อนอยู่กับผู้ชายอื่น มันทำให้หัวใจเขาเจ็บปวดหนึบ ๆ อยากเข้าไปกระชากผู้ชายทุกคนที่เข้ามาคุยกับหล่อน อยากจะชกให้หน้าหงายไปเลย และป่าวประกาศกับบรรดาหนุ่ม ๆ เหล่านั้นว่าหล่อนเป็นผู้หญิงของเขา แต่หากทำไม่ได้ บัดนี้ฮิโรยูกิ ได้ตอบคำถามในหัวใจของตัวเองอย่างชัดเจนแล้วว่า รัก..หล่อนจนหมดใจ รัก จนอยากทะนุถนอมไว้ ไม่ก้ำเกินหล่อนให้เกินขอบเขต อยากเก็บความรู้สึกหวานซึ้ง ระหว่างหญิงชายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ง่ายเหลือเกินเมื่อได้อยู่ใกล้กัน รอคอยวันที่หล่อนยินยอมพร้อมใจมอบสิ่งที่หวงแหนให้กับเขาด้วยความเต็มใจ เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าการรอคอย อดเปรี้ยวไว้กินหวานมันเป็นเช่นไร มันทั้งทรมาน และมีความสุขไปในคราวเดียวกัน“อะ..เอ่อ..สายแล้ว ฉันจะ
“คนบ้า! คุณจะทำให้ฉันเป็นโรคหัวใจอยู่แล้วนะ” เมื่อปล่อยให้เป็นอิสระได้ ร่างเล็กรีบวิ่งมาล็อกประตูห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันหลังยืนพิงประตูอยู่อย่างนั้นสักพัก แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาให้รีบ ๆ ถ้าขืนชักช้า เขาจะ..โอ๊ย! ไม่เอาแล้วไม่อยากคิด ดังนั้นหญิงสาวจึงรีบปลดพันธนาการอันหนักหน่วงออกจากร่าง เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด ตัวโคร่งเพียงตัวเดียวที่ติดตัวอยู่ น้ำรินก้าวขาเข้ามาในห้องน้ำที่หล่อนเองรู้สึกคุ้นเคยดี เมื่อครั้งแรกที่มาถึงที่นี่เธอได้มาใช้แล้วครั้งหนึ่ง ห้องน้ำอะไรก็ไม่รู้ ช่างใหญ่โตกว้างขวางกว่าห้องนอนที่หล่อนเคยใช้เป็นประจำที่เมืองไทยด้วยซ้ำ ทุก ๆ อย่างภายในห้องนี้ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม เข้ามาด้านในสามารถเห็นทุกอย่างได้หมด เพราะห้องนี้ถูกจัดให้เป็นแบบทะลุปรุโปร่ง ของใช้แต่ละอย่างเชื่อมต่อกัน ทั้งอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ และส่วนอื่น ๆ ก็เช่นกัน ร่างเล็กหันไปสำรวจทุกอย่างรอบกาย พลางลากเท้าบางมาหยุดยืนที่หน้ากระจกใสบานใหญ่ แต่ก็ต้องชะงักงันไปชั่วขณะ เมื่อได้เห็นภาพที่สะท้อนออกมาจากกระจกบางใส ซึ่งในนั้นมีภาพหญิงสาวแก้มแดงระเรื่อ หัวหู ผมเผ้าแลดูยุ่งเห
“ฮีโร่!บอกกันมาทีว่านายไม่ได้ทำอะไรคุณน้ำริน!” น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองนัก อยากให้ภาพตรงหน้าเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น ถึงแม้บนเรือนร่างของหญิงสาวตัวเล็ก ที่เขาหลงรักจะเต็มไปด้วยร่องรอยของการตีตราจองเต็มไปหมดก็ตามที“นายก็เห็น จะให้กันอธิบายอะไรอีก”“นาย! ก็ไหนนายบอกว่าจะพาคุณน้ำรินกลับบ้านยังไงล่ะ แล้วทำไม..ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ คุณน้ำริน เจ้าฮีโร่มันรังแกคุณใช่ไหม? มันบังคับข่มเหงคุณใช่ไหมครับ?! ได้โปรดบอกผมมา! ว่ามันทำอย่างนั้นจริง ๆ ถ้าเป็นแบบนั้น ผมจะฆ่า!มันเอง!” ความโกรธแค้น ขุ่นเคืองเหมือนโดนถูกแย่งของรักไปต่อหน้า ทำให้หมอหนุ่มมาดนิ่ง สุขุม ควบคุมอารมณ์ได้มาตลอด บัดนี้ได้กลับกลายเป็นคนที่ไม่มีสติ ความผิดหวังแทบหมดสิ้นทุกอย่างเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ที่พอจะเดาอะไรต่อมิอะไรออก มันกระจ่างชัดแจ่มแจ๋วขนาดนี้แล้ว ยูอิจิเดินกร่างเข้าไปกระชากไหล่หนาของเพื่อนรักให้เข้ามาเผชิญหน้ากัน ตะคอกออกมาอย่างสุดจะกลั้นอารมณ์ได้แล้ว กรามที่ถูกขบเข้าหากันจนเป็นสันนูน ถูกบดเข้าหากันจนดังกรอด ๆ“ยู..นายฟังกันก่อนสิ
“คุณ?! ก็ไหนคุณบอกว่า..” น้ำรินอุทานออกมาอย่างลืมตัว พลางเอนกายออกห่างจากร่างสูงใหญ่ เมื่อรู้สึกว่าศีรษะ ของเขาเริ่มซุกไซร้จากซอกคอ และเริ่มจะวนเวียนมาที่ริมฝีปากบาง แต่อีกฝ่ายกลับยิ่งกอดกระชับร่างเล็ก ให้แนบชิดเข้าไปอีก ชายหนุ่มยังคงฝืนแรงน้อย ๆ นั่นพร้อมกับพูดงึมงำติดกับซอกคอขาวนวลเนียนของหล่อน รู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังจูบซับ ซ้ำรอยเดิมที่ทำทิ้งไว้ เมื่อคืนที่ผ่านมา“ฮีโร่..เรียกฉันว่า ฮีโร่ สิ”“.........” เมื่อไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ จากปากเล็ก ชายหนุ่มจึงเลื่อนใบหน้าคมเข้มจูบซับระเรื่อยขึ้นมาจากซอกคอ ไล่มาที่แก้มนวลเนียน จนมาถึงริมฝีปากบาง ฮิโรยูกิออกแรงกดน้ำหนักจุมพิตปากบางนุ่มนิ่มที่เขารู้อยู่เต็มหัวใจว่าหวานยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งมวล ฮิโรยูกิจูบซับเรียวปากบางอยู่อย่างนั้นแบบเรียกร้องหลงใหล และอ่อนโยนเหมือนปลอบประโลม มือใหญ่แข็งแรงเริ่มไม่อยู่นิ่ง นิ้วเรียวปะป่ายลูบไล้ตามข้างลำตัว ไล่เรื่อยมาที่ทรวงอกเล็กกะทัดรัดของหล่อนอย่างเมามันในอารมณ์ พลางปลดกระดุมเสื้อที่หล่อนอุตส่าห์ คิดว่าติดไว้อย่างดีแล้ว ให้แยกออกจากกัน สาบเสื้อตัวหลวมค่อย
หญิงสาวร่างเล็กที่เอาตัวหลบอยู่ด้านหลังคนตัวสูงตรงหน้า ผละออกจากร่างสูงใหญ่แทบจะทันทีเมื่อได้ยินว่า เพื่อนของหล่อนโทรมา และก่อนที่จะก้าวเท้าเพื่อไปรับโทรศัพท์จากมือบอดี้การ์ดคู่ใจของเขา กลับถูกมือใหญ่คว้าเจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นไปได้เสียก่อน ส่วนอีกข้างที่มีถุงขนาดกลางติดมืออยู่ก็คว้าหมับเข้าที่เอวเล็ก รั้งตัวหล่อนไม่ให้ขยับเขยื้อนกายไปไหนได้อีก“เอ๊ะ!คุณ! นั่นโทรศัพท์ฉันนะ เอาคืนมาเลย”“ใครบอกของเธอ มีโทรศัพท์กับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? แล้วไปขอใช้โทรศัพท์นี่กับเจ้ายู ทำไม?”“ก็..”“ทานากะ นายกลับไปก่อน ขอบใจมากนะที่เป็นธุระให้ บอกท่านปู่ด้วยว่าฉันจะพาน้ำรินกลับแน่ แต่อาจจะสาย ๆ หน่อย เพราะฉันต้องจัดการอะไรบางอย่างให้เรียบร้อยเสียก่อน” ร่างสูงของผู้เป็นนายหันมาทางด้านหญิงสาว พูดใส่หน้าด้วยแววตาดุดัน มองจิกลงมาอย่างคาดโทษ เห็นอาการอย่างนี้แล้ว สงสัยว่าทานากะต้องรีบขอถอนตัวไปก่อนจะดีกว่า เจ้านายของเขาคงต้องการสะสางเรื่องที่ค้างคาใจเพียงลำพังกันสองต่อสองเป็นแน่ มาถึงวินาทีนี้แล้วเขาพอจะเดาเหตุการณ์ออกแล้วว่าอะ
“เอาล่ะ ๆ พอแค่นี้แหละถ้าอยากคุยกับเพื่อน เอาไว้มีโทรศัพท์เป็นของตัวเองก่อนค่อยโทรส่วนนี่..” ฮิโรยูกิยกโทรศัพท์ขนาดจิ๋วของเพื่อนรักชูหราตรงหน้าหญิงสาว ก่อนจะหย่อนโทรศัพท์เจ้าปัญหาลงถังขยะที่อยู่ใกล้ ๆ นั้นอย่างไม่แยแส“อ๊ะ! นั่น..นั่นโทรศัพท์เพื่อนคุณนะ ทำยังงี้ได้ยังไงน่ะ”“แล้วไง เพื่อนฉันรวยหรอกน่า โทรศัพท์แค่เครื่องเดียวเขามีปัญญาซื้อใหม่ได้อยู่แล้ว” เฮอะ! รู้หรอกว่ารวย จะทิ้งจะขว้างอะไร มีค่าขนาดไหน คนระดับเขาคงไม่มามัวห่วงของอยู่หรอก แต่คนอย่างหล่อนนี่สิ อดมองตามของแพง ๆ แบบนั้นไม่ได้ หรือว่าจะรอจังหวะเหมาะ ๆ เอาตอนที่เขาเผลอ เก็บโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่เพิ่งออกมาได้ไม่นาน แถมราคาแพงอีกต่างหากนั่นไปคืนคุณยูอิจิ“นี่..คิดอะไรอยู่ อย่าบอกนะว่าอยากได้ของที่อยู่ในถังขยะนั่น”“มันก็แน่อยู่แล้วล่ะค่ะ ที่คนไม่มีอะไรอย่างฉัน อยากได้ของแพง ๆ แบบนั้นมาเป็นของตัวเองบ้าง แล้วก็อยากจะบอกคุณอีกว่า ในใจฉันตอนนี้ คิดอยากจะหยิบเจ้าโทรศัพท์ที่คุณมองว่ามันไร้ค่า สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ นั้น มาเป็นของฉันใจแทบขาดรออยู่ว่า เ
การกระทำของทั้งสองได้เรียกน้ำตาให้กับคนที่พบเห็น บริเวณห้องฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี ชั่ววินาทีนั้นราวกับว่าได้หยุดทุกสิ่งทุกอย่างให้หยุดอยู่กับที่ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ป่วยที่ร้องโอดโอย เพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลบริเวณหน้าขา เพิ่งถูกเข็นผ่านเข้ามาภายใน ต้องหยุดชะงักงันไปชั่วขณะ เหลือบมองมายังคู่หนุ่มสาวทั้งสองด้วยความงุนงงสงสัย ลืมความเจ็บปวดเมื่อครู่ไปเลยทีเดียว ทางด้านผู้สูงอายุทั้งสาม ถึงกับอึ้งไปกับการกระทำของทั้งสองหนุ่มสาว ความรู้สึกตื้นตัน และเห็นความตั้งใจจริงของทั้งสอง แสดงให้รู้ว่าพวกเขารักกันมากมายขนาดไหน ฝ่ายชายถึงกับสามารถตัดขาดจากสมบัติและวงศ์ตระกูลได้เลย เพื่อแลกกับการได้ครองรักกับหญิงสาวร่างเล็กบอบบางข้างกาย ลี ฮาซันถึงกับหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับที่หางตา มองไปทางด้านผู้เป็นสามีคล้องวงแขนเข้ากับลำแขนของอีกฝ่ายซุกหน้ากับอกของสามี ด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ ทางด้านลี จางชีก็มีอาการไม่ต่างจากกันนัก จึงแตะที่แขนของภรรยาอย่างปลอบประโลม ชายชราหนึ่งเดียวนั้นก็ไม่ได้มีอาการแตกต่างจากคนอื่นเท่าใดนัก ร่างที่ค่อนข้างค้อมเล็กน้อย ไขว้มือที่เหี่ยวย่นไว้ด้านหลังข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างวางอยู่บน
น้ำรินพยายามลืมตาตื่น รู้สึกมึนงงไปหมด อาการคลื่นไส้ จะเป็นลม หายเป็นปลิดทิ้งหลังจากที่ได้ให้น้ำเกลือ และนอนพักเต็มอิ่มแล้ว ดวงตาที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำอุ่น ๆ เค็ม ๆ ถูกเช็ดออกจากดวงหน้าด้วยนิ้วเรียวใหญ่อย่างเบามือของผู้เป็นสามี“ตื่นแล้วหรือ? เป็นไงบ้าง? ยังเวียนหัวอยู่หรือเปล่า?” คำถามรัวถี่ติด ๆ กันจนคนถูกถามแทบตอบไม่ทัน จึงได้แต่ส่ายศีรษะไปมาเบา ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ หล่อนไม่อยากให้เขาเป็นกังวลมากนัก“ไอ้หมอหัวล้านกับเจ้ายูมันให้เธอกลับบ้านได้ แต่ฉันว่าเธอยังไม่แข็งแรงดีเลย ยังไงนอนพักดูอาการที่นี่สักคืนดีไหม” ผู้เป็นภรรยาส่ายหัวดิกเมื่อ ได้ยินผู้เป็นสามีบอกให้นอนพักที่นี่สักคืน“ไม่เอาค่ะ หายดีแล้ว ไม่เวียนหัว ไม่คลื่นไส้ ไม่มีอาการอะไรทั้งนั้นแล้ว ฉันหายดีแล้วจริง ๆ นะคะ” อยากจะบอกเหลือเกินว่า แค่ตื่นขึ้นมาแล้วได้เจอหน้าเขา มาอยู่ใกล้ ๆ อย่างนี้อาการต่าง ๆ ก็หายเป็นปลิดทิ้งทันทีเลยล่ะ“จริงนะ ห้ามโกหก เป็นพยาบาลอะไรไม่ชอบโรงพยาบาลเฮ้อ!” ชายหนุ่มชะโงกหน้า มองเสี้ยวหน้าภรรยาตัวน้อยด้วยความมันเขี้ยว มือใหญ่วางแปะที่ศีรษะเล็กนั้น เขย่าเบา ๆ อย่างเอ็นดู“กลับบ้านกันเถอะนะคะ” คนไข้ตัว
“ดี..แล้วก็เอาหัวล้าน ๆ ของไอ้หมอคนเมื่อกี้ออกไปห่างเมียกันหน่อยได้ไหม กันไม่ชอบขี้หน้ามันเลยว่ะ” ฮิโรยูกิหันมากระซิบข้างหูเพื่อนรักทันทีที่หันไปเห็นแพทย์คนเมื่อสักครู่ เดินเลี่ยงออกไปทางด้านซ้ายของเตียงคนไข้ นั่นก็เรียกรอยยิ้มให้ยูอิจิได้เป็นอย่างดี ขี้หึงจริง ๆ นะเพื่อนเรา แม้แต่หมอแก่ร่างท้วม กับหัวที่มีผมทางตอนหน้าเหลือน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ไปหาว่าเขาหัวล้านซะนี่ ร้ายจริง ๆ“ออกไปก่อนเถอะเพื่อน ไม่ต้องห่วงทางนี้ กันจะช่วยดูให้อีกแรงหนึ่ง” คำยืนยันของยูอิจิ บอกว่าภรรยาของเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ร่างสูงจึงยอมถอยห่างออกมาแต่ไม่ได้ไปไหนไกล เขายังคงปักหลักยืนอยู่ห่าง ๆ ในมุมห้องแคบนั้น พลางกอดอกมองแพทย์และพยาบาลตรวจร่างกายหล่อนเงียบ ๆ“ฮีโร่..ฮีโร่..ตื่นเถอะ”“อ๊ะ! ฮ๊ะ! ยู..เมียฉันล่ะเมียฉันเป็นไงบ้าง!” ร่างสูงผวาตกใจตื่น เมื่อได้ยินเสียงยูอิจิปลุกให้ตื่น เขาเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“หึ..ตื่นขึ้นมาก็โวยวายเลยนะ คุณน้ำรินปลอดภัยแล้ว หมอให้น้ำเกลือ แล้วย้ายเธอไปนอนพักดูอาการที่ห้องข้าง ๆ โน่นแล้ว”“เหรอ? แล้วอยู่ไหนล่ะ?”“เดี๋ยวสิเพื่อน นี่นายไม่อ
“อือ ๆ ก็ว่าอย่างนั้นล่ะ” แล้วก็มีเสียงงึมงำจากคนรอบข้าง ที่บ่งบอกว่าเห็นด้วยกับความเห็นของเขา และนั่นก็ให้คุณคิม เซยอนชักสีหน้าอย่างไม่พอใจให้สามีทันที“เอาอย่างนี้สิ อะไรที่เป็นฝีมือของเธอ เราก็ชิมอันนั้นก็แล้วกัน..เรามาวัดกันที่รสชาติเป็นไง” และก็เป็นท่านปู่อีกตามเคยที่เอื้อมมือมาช่วยหล่อนไว้ ทำให้น้ำรินลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก การทดสอบเรื่องอาหารผ่านไปด้วยดี ผลที่ออกมาหล่อนได้คะแนนเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าสูงมากเลยทีเดียว และสุดท้ายก็คือการชงชาที่ถูกต้อง ขณะที่กำลังนำถาดน้ำชาไปเสิร์ฟให้ผู้หลักผู้ใหญ่นั้นเอง วูบหนึ่งหล่อนรู้สึกหน้ามืด วิงเวียนจนแทบล้ม แต่ก็พยายามข่มใจไว้ พลางยืดอกขึ้นสูดลมหายใจเพื่อเอาออกซิเจนเข้าปอดลึก ๆ เฮือกหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดเรื่องที่หญิงสาวไม่ต้องการให้เกิดมันก็เกิดขึ้นจนได้“อุ๊บ! อ๊ะ!” เพล้ง! จู่ ๆ หญิงสาวก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อกลิ่นของชาชั้นดีโชยมาแตะเข้าที่จมูก กลิ่นของมันทำให้แก๊สในกระเพาะอาหารปั่นป่วนจนวิ่งมาจุกอยู่ที่ลำคอ แทบอ้วกออกมา เท่านั้นเองโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว หล่อนเผลอยกมือขึ้นมาปิดปาก ทำให้น้ำหนักถูกเทไปที่มืออีก
สามวันแล้วสินะที่หล่อนโดนการทดสอบแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคุณอาหญิง วันแรกเธอให้หล่อนขัดถูเครื่องใช้โบราณที่อยู่ในครัว ทำอยู่เป็นวันกว่าจะเสร็จก็เล่นเอามือถลอกไปเลยทีเดียว ถัดมาอีกวันหนึ่งหล่อนถูกทดสอบการทำอาหารซึ่งหล่อนถนัดนักล่ะ ไม่ว่าเธอจะสั่งให้ทำอะไรหล่อนก็ทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี และนั่นก็ทำให้คุณลี ฮาซัน เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับหล่อนดีขึ้น วันนี้เธอช่วยสอนวิธีชงชาที่ถูกวิธีให้กับหล่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ฮีจินมาเยี่ยมหล่อนเมื่อช่วงบ่าย ก่อนจะกลับหล่อนได้ยื่นของสิ่งหนึ่งมาให้ นั่นก็คือหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลีในแต่ละยุคสมัย คุณลีบอกว่าอีกสองวันจะมีการประชุมผู้อาวุโสของตระกูล ให้หล่อนเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อถึงวันนั้นเธอบอกว่าจะคอยช่วยหล่อนอีกแรงหนึ่ง น้ำรินรู้สึกดีใจเหลือเกิน ที่สามารถเอาชนะใจคุณลี ฮาซันได้ เพียงแค่ระยะเวลาอันสั้น ส่วนคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน พ่อบ้านเก่าแก่ ต่างก็ให้ความเป็นกันเองกับหล่อนมากขึ้นผิดกับวันแรก ๆ ที่หล่อนมาถึงที่นี่ลิบลับ หญิงสาวกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งในช่วงเย็น หลังจากร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นกับผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว ร่างเล็กก้าวเข้าไป
ช่วงเดือนพฤษภาคมที่เกาหลีแลดูสดชื่นนัก ความสวยงามของดอกไม้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ พันธุ์ไม้ต่าง ๆ ผลิดอกบานสะพรั่งก่อนที่จะมีใบสีเขียวชอุ่มตามมา ไกด์จำเป็นอธิบายให้หล่อนฟังว่า ริมทางที่รถวิ่งผ่านมาส่วนมากจะเป็นต้นเมเปิลต้นอึนแฮง ( ต้นแป๊ะก๊วย) ต้นบอทือ ( ต้นหลิว) ต้นบอช ( ต้นซากุระ) ต้นชัน (คล้ายต้นสน) ส่วนที่อยู่บนเนินเขาจะมีดอกจิลดัลแล สีชมพูอมม่วง ดอกแคนารีสีเหลือง และดอกซากุระ หรือดอกชนามู สีขาวอมชมพู ต่างผลิดอกออกมาประชัน เปรียบเสมือนสีผ้าต่าง ๆ พืด ปูประดับประดาไว้อย่างสวยงาม ต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ยืนเรียงรายริมถนนเริ่มผลิใบอ่อนบ้างแล้ว ตามกิ่งก้านจะมีนกเจบีตัวเล็ก ๆ สีดำส่งเสียงร้องอย่างร่าเริง รถคันจิ๋ววิ่งลัดเลาะผ่านภูเขาที่ดูคดเคี้ยว จากกรุงโซลออกมาแถวชานเมือง ได้สักพักใหญ่ ๆ คนขับกิตติมศักดิ์ของหล่อนก็หักพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวขวาขึ้นไปบนเนินสูงเบื้องหน้า วิ่งผ่านรั้วกำแพงสูงใหญ่เข้าไปด้านใน ก่อนจะจอดนิ่งสนิทหน้าลานกว้าง น้ำรินก้าวลงจากรถพลางเหม่อ
“อืมม์ เก่งขึ้นทุกวันนะเราใครสอนกันนะ โอ๊ะ! หึ ๆ” พูดออกไปแล้วก็ต้องร้องครวญครางด้วยความเจ็บ เมื่อถูกกำปั้นน้อย ๆ ทุบที่หน้าอกทีหนึ่งจากคนตัวเล็กตรงหน้า แก้มแดงระเรื่อทำให้เขาอดใจไม่ไหว ช้อนร่างหล่อนอุ้มขึ้นมากระชับไว้ในวงแขนอันอบอุ่น ก่อนจะพามาวางลงบนที่นอนโดยมีร่างสูงหนาตามมาติด ๆ ลมหายใจรินรดกันจนแทบจะสัมผัสได้ ตาต่อตาประสานกันนิ่ง ชายหนุ่มแนบหน้าเข้ามาใกล้เกลือกจมูกโด่งสวยเป็นสัน กับแก้มเนียนอมชมพูสูดดมความหอมอย่างรักใคร่หลงใหล ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากจากมุมปากประกบไว้แนบแน่น มือหนึ่งช้อนไว้ที่ท้ายทอยของหล่อน ส่วนมืออีกข้างก็ทำการสำรวจร่างกาย ลูบไล้ไปทั่วก่อนจะสอดหายเข้าไปใต้เนื้อผ้า.. สักพักชุดนอนเนื้อผ้าบางเบาก็ถูกปลดออกจากร่าง เหลือไว้เพียงร่างขาวนวลเนียนกระจ่างตา“ยังเช้าอยู่เลยนะคะ” หญิงสาวจำต้องยกมือขึ้นแตะที่แขนของสามีเป็นเชิงเตือน เมื่อเห็นว่าผู้เป็นสามีจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น“ไม่เห็นเป็นไรเลยเช้า ๆ นั่นแหละดี”“แต่ว่า..คุณต้องไปทำงาน”“อื้อ..อย่าดื้อน่า เมื่อกี้ยังเชื้อเชิญอยู่เลย นะ..ขอหน่อยนะที่รัก หลายวันแล้วนะที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย อีกหน่อยเธอก็ต้องไปที่โซลแล้ว เมื่อถึ
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทำให้มันสะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายจึงใช้ส้นเท้ากระทืบลงที่หลังเท้าของมันเต็มแรง ก่อนจะก้มลงไปกัดที่มือหยาบหนาบริเวณที่มันโอบเหนือเอวหล่อนขึ้นมา เมื่อถูกฟันคม ๆ ของหล่อนกดลึกเข้าไปในผิวเนื้อจนมันรู้สึกเจ็บ ร้องจ๊ากออกมา จนสะบัดมือ สะบัดเท้าเร่า ๆ หญิงสาวมองเห็นความหวังที่จะรอดไปได้ขึ้นมารำไร จึงรีบสลัดตัวออกจากแขนใหญ่ล่ำ ที่พันธนาการหล่อนอยู่ทันที ก่อนจะก้มลงไปหยิบปืนที่หล่นอยู่แทบเท้าเมื่อครู่ด้วยมืออันสั่นเทา นิ้วชี้กระชับพร้อมที่จะเหนี่ยวไกเพื่อกระชากวิญญาณของพวกมันได้ทุกเมื่อ หญิงสาวอยู่ในท่าเตรียมพร้อมอย่างที่ร่ำเรียนมา ปลายกระบอกปืนส่ายสลับไปมา ระหว่างชายฉกรรจ์ที่ยึดตัวหล่อนและสามีไว้เมื่อครู่อย่างหมายมาด สถานการณ์กลับกลายไปเป็นอีกแบบหนึ่งทันที ฮิโรยูกิย่างสามขุมตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของโทรุ ด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนไอ้สองคนที่กำลังสาละวนอยู่กับการพันธนาการฮีจินอยู่ ชะงักงัน หนึ่งในนั้นพยายามที่จะงัดปืนออกมาจากเอวของมันแต่ถูกเสียงเข้มดุดัน ตะโกนสั่งออกมาเสียก่อน“ทิ้งปืนซะ! ถ้าไม่อยากให้เจ้านายของแกตาย แล้วก็แก้มัดเพื่อนฉัน
“ทำได้ดีมาก..ที่รัก” ฮิโรยูกิยังมีอารมณ์หันมาเอ่ยปากชมหล่อนทันทีที่ร่างเล็ก ๆ วิ่งเข้ามาหลบอยู่ข้างหลังเขา ความขุ่นมัว กรุ่นโกรธก่อนหน้านี้ค่อยผ่อนคลายลงไปได้นิดหนึ่ง เมื่อเห็นว่าหล่อนแก้เผ็ดไอ้คนที่กระทำการอันน่ารังเกียจกับหล่อนได้อย่างไม่น่าเชื่อไม่เสียแรงเลยที่เขาอุตส่าห์ให้หล่อนหัดเรียนรู้วิธีป้องกันตัว เมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมาทั้ง ๆ ที่กลัวเหลือเกินว่าเนื้อตัวของหล่อนจะบอบช้ำจากการฝึกฝน แต่ดูเหมือนว่าภรรยาตัวน้อยของเขาจะติดใจการฝึกหัดทุกรูปแบบเสียจนบางครั้ง ไม่สนใจเขาไปเลยในช่วงนั้น โดยเฉพาะเวลาที่เธอฝึกยิงปืนกับครูหนุ่ม การเอาใจใส่จนออกนอกหน้าของครูฝึกคนนั้น ทำให้เขาต้องย้ายหล่อนให้มาฝึกกับครูผู้หญิงแทน ส่วนครูฝึกคนแรกนั้น ถูกย้ายทันทีในวันถัดมา นี่ล่ะ..ผู้หญิงที่จะมาเป็นนายหญิงของตระกูลคัทซึฮิโกะตัวจริง“หึ ๆ แกแน่มาก ฮิโรยูกิแต่ดูเหมือนว่าแกจะประเมินฉันต่ำไปแล้ว” ฮิโรยูกิกับน้ำรินรู้สึกแปลกใจในคำพูดของโทรุ ที่จู่ ๆ มันก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมาจากลำคอ ทันใดนั้นทั้งสองก็ต้องอ้าปากค้างร้องอุทานออกมาเกือบพร้อมกัน“ฮ