หน้าหลัก / แฟนตาซี / ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ / ตอนที่ 35 เงินปลอมทำให้ผีเป็นทุกข์!

แชร์

ตอนที่ 35 เงินปลอมทำให้ผีเป็นทุกข์!

ผู้เขียน: เฉินม่านอิ๋ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-29 11:14:22

เฒ่ากัวมองเพื่อนในกลุ่มที่ได้รับข้อความในแชทกลุ่ม แล้วทำสัญญาณให้รอจนกว่าหย่งฟางจะมาถึง เพื่อนในกลุ่มพยักหน้าเข้าใจ และเริ่มสนทนาเกี่ยวกับการจัดวางฮวงจุ้ยของบ้านเพื่อฆ่าเวลาไปก่อน เฒ่ากัวขับรถมินิคูเปอร์คันโปรดออกไป เร่งเครื่องมุ่งหน้าไปยังเขาหลงหย่า

เมื่อถึงจุดหมายเขาเบรกกระทันหัน ปิดเครื่องยนต์แล้วดึงกุญแจรถออก ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นเขาไป แม้รูปร่างของเขาจะดูอ้วน แต่ก็สามารถปีนขึ้นเขาได้อย่างรวดเร็ว และคล่องตัวราวกับนก เมื่อถึงหน้าประตูวัดเสวียนเว่ย เฒ่ากัวหยุดหายใจ สบตากับป้ายแล้วเดินเข้าไป ทันทีที่หยู่ถังเห็นชายผู้มีลักษณะคล้ายนักบวชเดินเข้ามาเธอแทบตกใจ

"หย่งฟาง ฉันต้องทำอย่างไรบ้าง?" เฒ่ากัวถามด้วยความรีบร้อน

หย่งฟางหยิบหนังสือที่มีคำอธิบายการทำนายขึ้นมา "คุณรู้จักการทำนายไหม?"

เฒ่ากัวพยักหน้า "ถ้ามีหนังสือก็ไม่มีปัญหา"

"ก็แค่ให้ผู้ที่มาไหว้เทียนจุดธูป และให้คำทำนายไปตามความต้องการ แต่ไม่ต้องให้พวกเขาทำนายกันเอง" หย่งฟางพูดอย

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 36 ทดลองงาน

    หลังจากทุกคนออกจากบ้านตระกูลลี้ ท้องฟ้ายามบ่ายสี่โมงยังคงร้อนอบอ้าวตามบรรยากาศฤดูร้อน หย่งฟางวางแผนจะนั่งรถเมล์กลับไปแถวภูเขาหลงหย่า แล้วค่อยเดินขึ้นเขาเองเพื่อไม่เป็นการรบกวนคุณนายฉู่ระหว่างที่เธอกำลังจะพูดออกมา เพื่อนในกลุ่มที่สวมแว่นกันแดดทรงกลมก็ถามขึ้น “อาจารย์หย่ง คุณจะกลับไปที่วัดใช่ไหม?”หย่งฟางพยักหน้าเล็กน้อย มองเขาอย่างสงสัย เพื่อนที่ใส่แว่นกันแดดยิ้มอย่างเข้าใจ ก่อนจะกางพัดในมือออก “ฉันแซ่ห่าว ชื่อห่าวจาวไฉ”จากนั้นคนอื่นๆ ก็แนะนำตัวตามมาชายในชุดคลุมสีเทาที่หลวมเล็กน้อยเหมือนจี้กง กำลังจัดเข็มขัดทองที่สีเริ่มหลุด “ฉันแซ่หว่าน ชื่อหว่านเจี้ยนเฉวียน ทุกคนเรียกว่าจินเหยาไต้ที่แปลว่าเข็มขัดทอง”ชายรูปร่างกลมเหมือนแพนด้า แม้แต่รอยคล้ำใต้ตาก็ดูกลมเช่นกัน “ไฉหยวนกุ่นกุ่น เรียกผมว่ากุ่นกุ่นก็พอ”อีกสองคน หย่งฟางก็พอจำชื่อเล่นได้ คนหนึ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 37 ชวนทำงาน

    ในตอนนี้แฮชแท็ก#หย่งฟางศาสตร์ลี้ลับ แฟนคลับและแอนตี้ต่างพากันเข้ามาแบ่งปันประสบการณ์ เกี่ยวกับศาสตร์ลี้ลับของหย่งฟางกันอย่างคึกคัก[หย่งฟางดูดีจริงๆ เสียดายจังที่เธอออกจากวงการไปแล้ว][หย่งฟางทำนายดวงได้แม่นมาก บอกสถานการณ์ตอนนี้ของฉันได้ตรงเป๊ะ คำแนะนำที่ให้มาก็ชัดเจนและมีเหตุผล][ไปวัดมาครึ่งวัน พอกลับถึงบ้านก็รู้สึกว่าวัดนี้ก็เหมือนวัดทั่วไปนะ ไม่ได้ลี้ลับเท่าไหร่ แต่ขอพรและรับยันต์มาแล้ว ลองรอดูผลก่อน แล้วจะมาเล่าให้ฟัง][กรี๊ดดด ดีใจมากที่ได้เจอหย่งฟาง][คนที่ไปช่วงบ่ายบอกว่า 55555 อดเจอหย่งฟางเพราะเธอมีธุระออกไป น่าอิจฉาคนที่ไปเช้าจริงๆ]@ยูซึฟองสบู่รีโพสต์:[ฉันก็ไปช่วงบ่ายเหมือนกันนะ แต่เจอหย่งฟางพอดี เธอกลับมาราวห้าโมง พวกเรารออยู่สิบกว่าคนก็ถือว่าคุ้มค่าเลย เธอน่ารักใจดีมาก แจกยันต์ให้ฟรี และยังบอกให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 38 เรื่องประหลาดในหมู่บ้าน

    เฒ่ากัวที่ดูเคร่งเครียดรีบแก้ตัวทันที “ไม่ใช่ว่ากลัวนะ”หย่งฟางเข้าใจจึงพูดต่อ “งั้นคุณลองจุดธูปสามดอกอีกครั้งดีไหม ลองถามเทพเจ้าดูว่าท่านจะให้คุณมาที่นี่หรือเปล่า ถ้าท่านอนุญาตแปลว่าคุณมีพรสวรรค์พิเศษจริงๆ”เฒ่ากัวฟังแล้วก็ผ่อนคลายลง พร้อมทั้งส่ายหน้าเล็กน้อย “เอาเถอะ ทำก็ทำไปเลยแล้วกัน” เมื่อใจของเขาแน่วแน่ขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องรบกวนเทพเจ้าอีกต่อไป“ดีมาก! พวกเราสี่เสือตลาดใต้สะพาน จะช่วยกันฟื้นฟูวัดเสวียนเว่ยแห่งนี้ ให้ยิ่งใหญ่และรุ่งเรือง!” ห่าวจาวไฉกล่าวพลางชนแก้วกับจินเหยาไต้หลังจากปัญหาเรื่องคนทำงานได้รับการแก้ไข หย่งฟางก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นวันถัดมา ทั้งสี่คนก็เริ่มเข้ามาทำงาน เฒ่ากัวมีประสบการณ์แก้ปัญหาเรื่องคำทำนายมาแล้ว ส่วนอีกสามคนก็ทำงานได้อย่างรวดเร็วเมื่อหย่งฟางแนะนำนิดหน่อยวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาทำบุญที่วัด เป็นพนักงานออฟฟิศที่มาขอพรเรื่องหน้าที่การงานและโชคลาภ สี่คนแบ่งหน้าที่กันทำตามความถนัด หย่งฟางมองดูวิหารหลักของเทพเจ้า และควันธูปที่ลอยอ้อยอิ่งอย่างพอใจ ก่อนจะลงจากภูเขาเมื่อถึงตีนเขาเธอเห็นรถของเฒ่ากัวที่เบาะหลังเต็มไปด้วยสัมภาระ เธอจึงเดินผ่านถน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่39 ต้นเหตุของอาการประหลาด

    หลังจากผู้ใหญ่บ้านทั้งสามพาเด็กสองคนกลับบ้านไปกินข้าว หย่งฟางเริ่มเดินสำรวจรอบๆ หมู่บ้าน ซึ่งไม่ได้ใหญ่มากนักแต่เธอเดินวนไปหลายรอบ ก็ยังไม่เจอสิ่งผิดปกติ ทำให้เริ่มสับสนกับแนวทางการสืบสวน หรือบางทีควรจะขอความช่วยเหลือจากรายการ เดินใกล้วิทยาศาสตร์ ดี? แต่เธอปัดความคิดนั้นทิ้งไปหย่งฟางตัดสินใจรอจนถึงกลางคืน เพราะบางสิ่งมักจะเผยตัวในยามราตรี หากมีอะไรเกิดขึ้น เธอจะคอยดูแลผู้ใหญ่บ้านสามคน และพร้อมจัดการหากสิ่งนั้นลงมือเธอหยุดเดินถ่ายภาพมุมกว้างของทางเข้าหมู่บ้าน แล้วส่งเข้าในกลุ่มงานที่วัดเสวียนเว่ย [@ทุกคน ห้าโมงเย็นปิดวัดแล้วมาที่หมู่บ้านนี้รับงานหน่อยค่ะ] พร้อมแนบตำแหน่งที่ตั้งขณะวางโทรศัพท์ลง สายตาของเธอก็สะดุดที่บ้านหลังเล็กๆ ทางซ้าย บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ริมรั้วทางเข้าหมู่บ้าน ประดับด้วยริบบิ้นสีแดงซีดและหน้าบ้านมีที่ปักธูป กองขี้ธูปสูงเป็นภูเขา ส่วนใหญ่ถูกฝนชะจนขาวซีด มีเพียงไม่กี่ก้านที่ยังใหม่อยู่ หย่งฟางเดินเข้าไปใกล้ๆ จึงเห็นว่ามันคือศาลเจ้าหลี้นายฮูหยิน มักถูกบูชาเพื่อการมีบุตร คุ้มครองหญิงมีครรภ์ หากในอดีตหมู่บ้านเสวียนมีคนอยู่น้อย ศาลเจ้าหลี้นายฮูหยินก็คงเป็นการบูชาเพื่อเพิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่40 ไม่ใช่ผีร้าย แต่กลายเป็นเทพธิดา

    หย่งฟางเองก็เพิ่งเคยเจอกับผีที่น่ากลัว และประหลาดถึงเพียงนี้เป็นครั้งแรก ยันต์และคาถาที่ใช้ในการปราบผีทั้งหลายกลับไร้ผลสิ้นเชิง ผีสาวตนนี้ไม่สะทกสะท้านต่ออุปกรณ์ขับไล่ปีศาจทุกชนิด หรือว่าวันนี้เธอแค่โชคไม่ดี? ไม่! มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นแค่โชคร้ายธรรมดา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพาเฒ่ากัวมาฝึกภาคสนาม หากยังปล่อยให้สถานการณ์ล้มเหลวอีก ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของเธอคงพังทลาย เมื่อคิดได้ดังนั้น หย่งฟางจึงโยนดาบไม้ให้กับเฒ่ากัว “ตั้งรับให้ดี ถ้าถูกโจมตีพวกคุณก็ฟาดไปให้เต็มที่ ทำให้รู้ว่าพวกคุณไม่ใช่หมูที่ใครจะมาเคี้ยวได้ง่ายๆ”คำพูดที่ฟังดูไม่รับผิดชอบนี้ ทำเอาเฒ่ากัวและพรรคพวกแทบจะอยากถามกลับว่า ‘เราควรหนีดีไหม?’แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันตั้งสติ หย่งฟางก็พับแขนเสื้อขึ้นและเตรียมลงมือทันที เธอคว้าจับข้อเท้าของผีสาวไว้แน่น จนผีตนนั้นกรีดร้องดังลั่น และก่อนที่จะทันรู้ตัว ร่างของวิญญาณสาวก็ถูกกระชากลงมาจากเพดาน แต่แล้วผีร้ายก็ปรับตัวได้ทันที แปรสภาพเป็นเงาดำและฉวยโอกาสหลุดจากมือเธอ จากนั้นพุ่งเข้าใส่ชายชราที่นอนอยู่บนเตียงทันทีหย่งฟางก้าวไปข้างหน้าสองก้าวอย่างว่องไว คว้าจับเงาดำนั้นไว้อีกครั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่41 เทพธิดาถูกลงโทษ

    “คนพวกนี้ตื่นขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุว่าทำอะไรผิดไป เพียงแค่หลับไปสามสี่วันแล้วกลับมาเหมือนเดิม การลงโทษของท่านมันเปลี่ยนอะไรได้จริงหรือ? หรือว่าท่านแค่อยากให้พวกเขาขอบคุณที่ทำให้ได้นอนสบาย?” หย่งฟางกล่าวน้ำเสียงเย้ยหยันเล็กน้อย เทพธิดาฟังแล้วถึงกับนิ่งไป เพราะคิดตามและเริ่มรู้สึกว่าอาจหุนหันไป รู้ว่าไม่สามารถทำร้ายมนุษย์ได้ แต่ก็ไม่ทันพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ “ถ้างั้น...ควรทำยังไงล่ะ?!” ถามอย่างกระวนกระวาย มองหย่งฟางด้วยสายตาเต็มไปด้วยความหวัง ทันใดนั้นเฒ่ากัวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็แนะนำขึ้น “บางทีถ้ามีคำเตือนจากเทพเจ้า อาจทำให้พวกเขาเกรงกลัวบ้าง” “ไม่ได้หรอก ข้าไม่สามารถปรากฏตัวให้คนธรรมดาเห็นได้ จะให้เตือนยังไง? หรือเจ้าจะส่งข่าวแทน?” เทพธิดาน้อยถามด้วยความสับสน หย่งฟางยิ้มมุมปากเล็กน้อย ราวกับมีแผนในใจแล้ว “ท่านแค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอค่ะ” หลังฟังแผนแล้วหนิงหมี่จึงยอมทำตาม หย่งฟางจึงคลายเชือกแดงให้ และทันทีที่ได้รับอิสระเทพธิดาน้อยก็หายวับไป เฒ่ากัวและห่าวจาวไฉปลุกหัวหน้าหมู่บ้านทั้งสามให้ตื่นเมื่อพวกเขาลืมตาขึ้นมาก็ยังงุนงง หย่งฟางจึงบอกพวกเขาว่า “ฉันได้คุยกับเจ้าแม่หลี้นายฮูหยินแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่42 ปกป้องวัดเสวียนเว่ยด้วยวิธีของคนรวย

    หย่งฟางลุกขึ้นและเดินเข้ามาเปิดฝาถังน้ำขนาดใหญ่ ด้านในปรากฏให้เห็นลูกบอลสีเทาเข้มกลิ้งอยู่ ทั้งสี่คนก้มลงไปใกล้ๆ ถังน้ำ อยากมองดูให้ชัดเจนขึ้น ไม่ทันไรก็พบว่าลูกบอลกลิ้งไปรอบๆ แล้วจู่ๆ มันก็พ่นน้ำใส่คนทั้งสี่หย่งฟางดูชินกับสิ่งนี้แล้ว นี่อาจจะเป็นวิธีการทักทายของลูกบอลก็ได้ แต่สำหรับเฒ่ากัวและพวกอีกสามคนต่างตกใจ และรีบเช็ดหน้าตัวเองกันยกใหญ่ ลูกบอลกระโดดขึ้นจากผิวน้ำด้วยท่าทีหงุดหงิด "ยายเด็กน้อย! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอแอบขี้เกียจ! เธอคิดจะให้พวกเขาสวดให้ฉันใช่ไหม?! ฝันไปเถอะ! ถ้าเธอไม่สวด ฉันก็ไม่ไปเกิด!"หย่งฟางเหลือบมองลูกบอลที่กระโดดไปมา ไม่ได้พูดอะไร แล้วปิดฝาถังน้ำให้พวกเขาสวดต่อไป เมื่อรู้แน่ชัดว่ากำลังสวดให้วิญญาณดวงหนึ่ง เฒ่ากัว ห่าวจาวไฉ และกุ่นกุ่นที่ยังสวดไม่จบก็ฮึดสวดจนเสร็จ ในช่วงบ่ายหลังจากปิดวัด หย่งฟางก็เริ่มสอนพวกเขา โดยสอนการทำนายดวงชะตาไปพร้อมๆ กับการสวดมนต์"การดูธูปทำนายของเทพเจ้า ต้องเป็นลูกศิษย์ของวัดเท่านั้นถึงจะเรียนได้ ดังนั้นวิชานี้คงต้องรออีกสักพัก แต่การทำนายดวงแบบอื่นมันง่าย" หย่งฟางกล่าวก่อนจะยกกองหนังสือโบราณขึ้นจากห้องข้างๆ “เอาหนังสือพวกนี้ไปศึก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่43 ใครไปใครศักดิ์สิทธิ์ หมาไปไม่ศักดิ์สิทธิ์

    [เห้ย จริงเหรอ? วัดเสวียนเว่ยเป็นของหย่งฟาง?! คนที่หายไปจากวงการนั่นอ่ะนะ?!][โห ถึงว่าหายไปจากวงการ เพราะต้องกลับมารับช่วงดูแลวัดต่อจากที่บ้านนี่เอง][55555 ไม่ได้ตามข่าวซะนาน ที่แท้ BGM บทสวดที่ฮิตในโซเชียลนั่น หย่งฟางเป็นคนร้องเหรอเนี่ย][ที่วัดศักดิ์สิทธิ์ขนาดนั้นจริงดิ่? อยากไปถานจิงซะแล้วสิ][อ้าว? มีแค่ฉันคนเดียวเหรอที่สนใจ ว่าถึงวัดยังมีทั้งแอนตี้แฟนกับแฟนตัวจริงอยู่? แล้วยังทะเลาะกันอีก หย่งฟางนี่มัน...ทำอะไรก็เป็นจุดดึงความสนใจไปหมด สรุปใครพูดถูกกันแน่เนี่ย ฉันเห็นหลายคนบอกว่า วัดนี้เป็นวัดที่ถูกต้องนะ เลยอยากไปดูเหมือนกัน แต่ก็กลัวว่าไปแล้วจะโชคร้าย][ไม่น่าหรอก ฉันลองเข้าไปดูโปรไฟล์ของคนที่บอกว่าโชคร้ายมาแล้วนะ พวกนั้นดูมีทัศนคติแย่มาก พูดจาแรงๆ ดูเป็นคนไม่ค่อยดีเลย...ฉันเคยได้ยินมาเหมือนกัน ว่าคนที่มีกรรมหนักเวลาไปวัดจะโชคร้าย แบบนี้ไม่น่าจะโทษวัดเค้าได้หรอก][ฉันอยู่ฝั่งวัดนะ คนในแวดวงเศรษฐีที่ถานจิง มีตั้งหลายคนออกมาพูดสนับสนุนวัดเสวียนเว่ย คนพวกนั้นมีเงินขนาดนั้นแล้ว ไม่น่าจะโดนหย่งฟางจ้างมาโกหกหรอก วัดนี้ต้องมีอะไรดีแน่ๆ แล้วพวกที่บอกว่าโชคร้ายก็มีแค่ไม่กี่คนเองที่ออก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26

บทล่าสุด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่85 ใครเคาะประตู (จบเล่ม2)

    หอพักหญิง อาคาร 3A หน้าห้อง 702หลังจากหญิงสาวในห้อง 701 บอกว่า “ห้อง 702 ไม่มีคนอยู่” คำพูดนั้นทำเอาสาวๆ จากห้อง 602 กรีดร้องด้วยความตกใจสุดขีด ถ้าห้อง 702 ไม่มีใครอยู่ แล้วเสียงฝีเท้าเหล่านั้นมาจากไหน?เสียงกรีดร้องทำลายความเงียบของค่ำคืน ไฟทางเดินที่ควบคุมด้วยเซ็นเซอร์เสียงสว่างวาบขึ้นทีละชั้น เสียงโลหะขูดพื้นดังมาจากชั้นล่าง คุณป้าผู้ดูแลหอพักเปิดประตูห้องพัก รีบมองจอมอนิเตอร์กล้องวงจรปิด แล้วกดลิฟต์ขึ้นมายังชั้น 7“เอะอะอะไรกัน! เสียงดังจนคนทั้งตึกได้ยิน!” เมื่อมาถึง คุณป้าผู้ดูแลตำหนิ ก่อนหันไปมองเด็กๆ “พวกเธอห้อง 602 ใช่ไหม? มาเดินเพ่นพ่านอะไรตอนนี้? ไม่รู้เหรอว่าห้ามออกจากห้องหลังไฟดับ?”หญิงสาวจากห้อง 701 รีบช่วยอธิบาย “พวกเธอบอกว่าได้ยินเสียงคนเดินในห้อง 702 เลยขึ้นมาดู...คุณป้า ห้อง 702 มีใครอยู่หรือเปล่าคะ?”คุณป้ามองพวกเธอด้วยสายตานิ่งเรียบ “ห้อง 702 ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว”คำตอบนั้นทำให้สาวๆ จากห้อง 602 ใจหายวาบ หญิงสาวจากห้อง 701 เริ่มลังเลก่อนถามด้วยเสียงสั่น “ป้า... รุ่นพี่บอกว่าหอพักหญิงที่นี่มีผี เรื่องนั้นจริงหรือเปล่าคะ?”“พวกเธออย่าไปเชื่อเรื่องไร้สาระแบบนั้น” คุณป้

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่84 หอพักหญิง

    "รับคำทำนายก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกัน" หย่งฟางเอ่ยขึ้นพลางมองแถวคนที่ยืนรออยู่ด้านหลังมีผู้หญิงสี่คนเข้ามาถามคำทำนายทีละคน สองคนถามเรื่องการเรียน อีกสองคนถามเรื่องความรัก กุ่นกุ่นช่วยตอบคำทำนาย หย่งฟางไม่ได้พูดเสริมอะไร มีเพียงกระซิบเบาๆ "ทำนายได้ดีมาก จากนี้ลูกค้าอื่นๆ ให้คุณดูแลคนเดียวเลย ทำให้มั่นใจหน่อย อย่าพูดติดขัด ถ้าคิดว่าจะติดก็พูดคำสำคัญสั้นๆ ก็พอ"กุ่นกุ่นพยักหน้า เรื่องนี้เฒ่ากัวเคยสอนเขามาก่อนแล้ว แนะนำให้พูดแบบเว้นจังหวะบ้างเพื่อให้ดูเป็นปริศนาและน่าเกรงขาม จากนั้นหย่งฟางพาผู้หญิงสี่คนไปยังห้องน้ำชา ขอให้พวกเธอดื่มชากันคนละแก้ว"ฉันก็ไม่คิดว่าเราจะได้เป็นเพื่อนร่วมสถาบันกัน ฉันเพิ่งรู้ว่าพี่เรียนที่วิทยาลัยศิลปะถานจิง ตอนฉันเห็นภาพวาดกับชื่อพี่ในห้องแสดงผลงาน" ฉู่เสี่ยวเฉียวพูดขึ้นรูมเมตของเธอพยักหน้า "ใช่เลย หย่ง...อาจารย์" ผู้หญิงคนนั้นลังเลเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะเรียกหย่งฟางว่าอะไรดี"ทำไมเธอถึงไม่มีรูปอยู่ในชั้นวางศิษย์เก่าที่โดดเด่นล่ะ?"หย่งฟางยิ้มก่อนตอบ "เคยเห็นใครทำงานด้านศาสตร์ลึกลับ แล้วไปเป็นศิษย์เก่าที่โดดเด่นบ้างไหม?"คำพูดนั้นทำให้ผู้หญิงทั้งหมดหัวเราะออกมา ข

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่83 ไม่รู้หนังสืออีกคน!

    [สุดยอดไปเลย หย่งฟางไปหาลูกศิษย์มาจากที่ไหนนะ ทั้งหนิงหมี่และหลงหยวนหยวนเ หมาะจะไปเป็นไอดอลทั้งกลุ่มหญิงและชายได้เลย][หย่งฟางเปิดบริษัทจัดการบันเทิงไปเลยเถอะ]ในที่สุด #เสวียนเว่ยเอ็นเตอร์เทนเมนท์ (#บริษัทบันเทิงเสวียนเว่ย) ก็กลายเป็นคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ #วัดเสวียนเว่ย (#ศาสตร์ลึกลับของหย่งฟาง)เหล่าชาวเน็ตช่วยกันแบ่งตำแหน่งให้เสร็จสรรพแล้ว[#บริษัทบันเทิงเสวียนเว่ยCEO: หย่งฟาง อันดับหนึ่งฝ่ายหญิง: หนิงหมี่ อันดับหนึ่งฝ่ายชาย: หลงหยวนหยวน][ส่วนอาจารย์อ้วน กับอีกสามคนก็เป็นผู้จัดการไปละกัน]เหล่าลูกศิษย์มนุษย์ที่คอยติดตามข่าวในโซเชียลเกี่ยวกับวัด: หือ?หยิบโทรศัพท์เก็บกลับไป มองดู ‘อันดับหนึ่งฝ่ายชาย’ และ ‘อันดับหนึ่งฝ่ายหญิง’ตอนนี้เป็นช่วงหกโมงเย็น หลังจากทานอาหารเสร็จ สองคนนี้ก็สู้กันตั้งแต่ฝั่งตะวันออกไปจนถึงฝั่งตะวันตก เพื่อแย่งควันธูปกัน นี่กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ของอันดับหนึ่งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายที่ต้องทำทุกวันไปแล้วเพราะหย่งฟางแจกควันธูปอย่างเท่าเทียม ตอนแรกให้ทั้งคู่คนละสองแท่ง แต่หนิงหมี่ไม่พอใจ “ข้าทำงานตั้งขนาดนี้ ส่วนเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมถึงได้เท่ากับข้า! ข้าไม่สน จ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่82 ได้ศิษย์เพิ่ม

    ณ จุดนี้ในวัดเสวียนเว่ยมีสมาชิกทั้งหมดแปดคนเจ้าของอาราม: หย่งฟางศิษย์: หนิงหมี่, เฒ่ากัว, ห่าวจาวไฉ, จินเหยาไต้ ,ไฉหยวนกุ่นกุ่นผู้พักชั่วคราว: วิญญาณลูกกลมสีเทาผู้ไม่ได้รับเชิญ: หลงหยวนหยวนทั้งแปดคนนี้ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตจากสี่ประเภท ได้แก่ คน เทพ วิญญาณ และปีศาจ"อาจารย์หย่ง คุณคิดจะเก็บสิ่งมีชีวิตทั้งหกไว้ที่นี่หรือ?" ห่าวจาวไฉโบกพัดกระดาษพร้อมถามหย่งฟางเผยยิ้มขมเล็กน้อย จะพูดอย่างไรดี? ตัวตนของหนิงหมี่กับหลงหยวนหยวนนั้น ไม่ใช่ว่าเธอเต็มใจรับเข้ามา คืนนี้พระจันทร์สีเงินส่องสว่างกลางท้องฟ้า หลังจากที่หย่งฟางไหว้เทพเจ้าวัดเสร็จ เธอก็เดินออกจากวิหารหลัก หนิงหมี่กับวิญญาณลูกบอลกลมสีเทา ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนในลาน กำลังตั้งใจเรียนวิชาภาษาชั้นประถมปีที่ 1 ที่ถ่ายทอดสด คราวนี้หย่งฟางเรียนรู้แล้ว เธอจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าที่ตั้งค่าใหม่ให้พวกเขาใช้ขณะเดียวกัน หลงหยวนหยวนที่โดนสองสาวรังเกียจ นั่งอยู่ที่เก้าอี้ในสวนอีกฝั่ง เจ้าหนุ่มชุดดำไม่สนใจเลยที่ตนเองไม่ได้รับความชื่นชอบจากใคร แค่เอนตัวรับลมเย็นอย่างสบายใจ ด้านเฒ่ากัวกับคนอื่นๆ เตรียมไฟฉายและพร้อมจะลงจากภูเขากลับบ้าน"เดี

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่81 เสี่ยวหลงหวังจอมเจ้าเล่ห์

    "อย่างพี่สาวเหอ ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นคนดีมากๆ ไม่เคยทำเรื่องไม่ดีเลย แถมครอบครัวก็ใจดี แม้ว่าเราจะพูดกันไม่นาน แต่ก็เริ่มรู้สึกอึดอัดอยู่เหมือนกัน แต่อย่างที่บอก พราะเธอเป็นคนดี ฉันก็ไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกอึดอัดหรือไม่""ส่วนเรื่องจางยู่เฟ่ย ตั้งแต่ฉันมาที่โลกมนุษย์ ฉันก็เริ่มรู้แล้วว่ามีคนที่ไม่อยากทำอะไรด้วยตัวเอง หลายคนชอบหาทางลัด ถ้ามันเป็นทางที่ถูกต้องก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ค่อยเจอคนที่พยายามหาทางพึ่งพาคนอื่นแบบเธอ ทั้งที่เธอก็มีแขนขาครบ มีโอกาสมากมาย แต่กลับเหมือนมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง คิดแค่ว่าจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชาย" หนิงหมี่พูดไปพร้อมกับทำท่าห่อไหล่เหมือนแมวน้อยที่กำลังครุ่นคิด"แต่พอคิดถึงเป่าฟู่กุ้ยและภรรยาของเขา ฉันก็รู้สึกว่าในโลกมนุษย์ก็ยังมีสิ่งดีๆ บ้างเหมือนกัน" หนิงหมี่พูดสรุปว่า "มนุษย์นี่ซับซ้อนจริงๆ ฉันไม่เข้าใจเลย"หลังจากที่ออกไปทำงานนอกสถานที่มาแค่สองวัน เทพธิดาน้อยก็ได้สัมผัสกับความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ พนักงานบนเครื่องบินเชิญพวกเธอไปยังห้องอาหาร หลังจากทานอาหารจนอิ่มหนำแล้ว หนิงหมี่ก็รู้สึกดีขึ้น"เป่าฟู่กุ้ยสุดยอดจริงๆ!" หนิงหมี่คิด "อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องนอนขดตัวอ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่80 ใครรวยกว่ากัน

    ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอนักพรตสาวตัวน้อย กลุ่มเฮ่ยไป่อู่ฉางก็รีบตื่นเต้นและวิ่งเข้าหาเธอ “หย่งน้อย เธอดูอ้วนขึ้นนะ!”“จะทักทายกันแบบสุภาพกว่านี้ไม่ได้หรือไงคะ?” หย่งฟางพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงอารมณ์ยมทูตขาวผู้เป็นพี่สาว ยื่นมือไปหยิกแก้มเธอทันที “ฉันหมายถึงหน้าเธอดูมีเนื้อขึ้นนะ! เมื่อก่อนเธอผอมกว่านี้”หย่งฟางสะบัดมือของเธอออกเหมือนปัดแมลงวันยมทูตดำก็ทักขึ้นบ้าง “ถ้าจะให้สุภาพ ฉันก็ทำได้” จากนั้นเขาก็พูดต่อ “หย่งน้อย เราเสมือนญาติผู้ใหญ่เห็นเธอเติบโตมาตลอด เธอก็ไม่ได้มาเยี่ยมเราเลย เราคิดถึงเธอ…”ยมทูตขาวพูดเสริมทันที “…พวกเราอยากได้ธูปหอมบ้างน่ะ”นี่แหละคือวิธีทักทายของพวกเขา หย่งฟางไม่ได้พูดอะไร เธอแค่ย่อตัวลงเปิดกระเป๋าเดินทาง แล้วหยิบธูปสองดอกออกมาหนิงหมี่เบิกตากว้าง “นั่นมันของฉันนะ!!” พูดจบก็พยายามจะแย่ง แต่หย่งฟางก็หลบมือไปจุดไฟ แล้วส่งให้ยมทูตขาวดำทันที“แค่นิดเดียว อย่าไปหวงนักเลย เด็กเล็กก็แบบนี้แหละ ชอบหวงของ”ยมทูตขาวดำกินควันธูปอย่างพอใจจนตาหรี่ลงเป่าฟู่กุ้ยมองยมทูตทั้งสองที่กำลังเคลิบเคลิ้ม…พวกเขาไม่ได้มารับเมียเขาไปโลกหลังความตายเหรอ? แล้วทำไมมานั่งกินของฝากที่บ้า

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่79 ได้เวลาต้องไป

    เปาฟู่กุ้ยมองนักพรตสาวด้วยความงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงลังเล "ผม...ผมจะได้เจอเธอจริงๆ เหรอ? ภรรยาของผมไม่ได้...ไปอยู่ที่ยมโลกแล้วหรอกเหรอ?""ภรรยาของคุณน่าจะอยู่ข้างคุณตลอดเวลา เพียงแต่ช่วงนี้เธอคอยเฝ้าดูจางยู่เฟ่ยอยู่ เพราะสงสัยว่าคนคนนั้นจะทำอะไรแปลกๆ เราเลยไม่เห็นวิญญาณเธออยู่ในบ้านคุณตั้งแต่แรก" หนิงหมี่อธิบาย"ผม...ผมอยากเจอเธอ!" เปาฟู่กุ้ยพูดด้วยความรู้สึกสดใสขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับได้รับพลังชีวิต ใบหน้าของเขาดูเปล่งปลั่งทันที ทันใดนั้นก็นึกถึงสภาพตัวเอง จึงรีบลูบหนวดเคราที่เพิ่งงอกยาวและกล่าวออกไป "เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวผมต้องจัดการตัวเองก่อน ภรรยาผมไม่ชอบที่ผมดูสกปรกแบบนี้"หลังจากพูดจบ เปาฟู่กุ้ยลากตัวที่ดูอ้วนกลมขึ้นไปชั้นบน เพราะอาการบวมจากยาต้านซึมเศร้า เมื่อเขากลับลงมาอีกครั้ง หย่งฟางและหนิงหมี่ ก็ได้เห็นเปาฟู่กุ้ยในลุคใหม่ที่สะอาดสะอ้าน เขาโกนหนวดโกนเคราจนเกลี้ยงเกลา สระผมจนหอมสะอาด ใบหน้ากลมอวบอิ่มดูสดใสขึ้นทันที เขาใส่สูทสากลและเนคไทเรียบร้อย สวมรองเท้าหนังแม้หน้าตาของเขาจะไม่หล่อเหลามากนัก โดยเฉพาะส่วนแก้มที่อ้วนดูเหมือนผู้ชายธรรมดา แต่ในลุคนี้เขากลับดูอ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่78 คาถาสะท้อนกลับ

    หลังจากที่จางยู่เฟ่ยพ่นเลือดออกมา หมอกสีเทาที่วนเวียนอยู่ระหว่างคิ้วของเปาฟู่กุ้ย ก็พลันสลายหายไปทันที แม้ว่าจางยู่เฟ่ยจะมองไม่เห็นพลังงานลี้ลับเหล่านี้ แต่เธอกลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อท่านประธานทำตามคำแนะนำของสาวน้อยข้างกายเถ้าแก่เปาเปิดตาขึ้น ยกมือออกหู และมองเลขาอีกครั้งด้วยสายตาที่กลับมาสดใส ปราศจากอาการลุ่มหลงผิดปกติใดๆ จางยู่เฟ่ยตกใจ รีบควานหาบางสิ่งในกระเป๋าของตัวเอง แต่กลับพบว่ามันหายไป“หาอันนี้อยู่หรือเปล่า?” น้ำเสียงเย็นชาแฝงความเหนือชั้นดังมาจากหย่งฟางเมื่อจางยู่เฟ่ยหันไปมอง ก็พบว่ากระดาษยันต์สามเหลี่ยมในมือของหย่งฟาง ถูกฉีกเป็นสองส่วนอย่างเรียบร้อยหนิงมี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ยิ้มขำ ส่วนหญิงสาวในชุดขาวร่างโปร่งแสงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับจางยู่เฟ่ย เธอยกนิ้วโป้งให้หนิงมี่ด้วยความชื่นชมใบหน้าของวิญญาณสาวผู้นี้ คือใบหน้าเดียวกันกับหญิงสาว ในภาพถ่ายที่พบในห้องใต้หลังคา ใช่แล้ว... ภรรยาของเปาฟู่กุ้ยยังไม่ได้ไปสู่สุคติ ช่วงนี้เธอสังเกตเห็นความผิดปกติของสามี และหลังจากจับตามองเลขาส่วนตัว ก็พบว่าคู่กรณีใช้คาถามาควบคุมใจสามีของเธอเธอก็พบว่านักพรตสาวจากสำนั

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 77 คาถาชิงรัก

    เมื่อวางสายไปใบหน้าของเถ้าแก่เปาแสดงอาการหลงใหล ราวกับถูกบางสิ่งควบคุม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความคิดถึงอย่างท่วมท้น หย่งฟางรีบสวดคาถาเคลียร์จิตใจ ก่อนจะใช้นิ้วแตะเบาๆ ที่หน้าผากของเขา ความอ่อนโยนที่เคยแสดงบนใบหน้าของเปาฟู่กุ้ย หยุดชะงักราวกับถูกหยุดเวลา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมาเป็นปกติ แต่ยังคงมีท่าทางงุนงงหย่งฟางเปิดปากถาม "คนที่โทรหาคุณเมื่อกี้คือใคร?""คะ...คือ...เลขาของผม จางยู่เฟ่ย..." เปาฟู่กุ้ยมองหน้าหย่งฟางและหนิงหมี่ด้วยความสงสัย "มีอะไรเหรอครับ?" ดูเหมือนเขาจะไม่สามารถจำความรู้สึกอ่อนโยน และความรักใคร่ที่เคยมีเมื่อครู่ได้เลยหนิงหมี่หันไปมองอาจารย์และกระซิบเบาๆ "คาถาชิงรัก"หย่งฟางพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเปาฟู่กุ้ย "ตอนที่คุณโชคร้ายก่อนหน้านี้ มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่คุณคุยกับเลขาของคุณเสร็จใช่ไหม?"เปาฟู่กุ้ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มจำได้ "เหมือนจะใช่ แต่ว่าช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยเจอโชคร้ายแล้วนะ"หย่งฟางอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบ "เพราะช่วงนี้คุณไม่ได้ปฏิเสธคำขอของเธอเลย คาถาชิงรักคือการที่คุณถูกทำให้ตกหลุมรักคนที่ร่ายคาถานี้ ในตอนแรกคุณยังมีสติ คุณสาม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status