ภายในงานเลี้ยงหรูหราบรรยากาศชื่นมื่นเต็มไปด้วยความยินดีที่ต่างมาแสดงความยินดีกับบ่าวสาวโดยงานถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์ที่เป็นเรือนหอของทั้งคู่นั่นเอง“สวยมากเลยเมย์”เฟรย่าจับตัวเพื่อนสาวหันซ้ายหันขวามองหาจุดบกพร่องแต่ก็ไม่เจอแม้แต่จุดเดียว“ไร้ที่ติ”เฟรย่าบอกอย่างภูมิใจ“ขนาดลูกสองแล้วยังเป๊ะเว่อร์”จัสมินมองเพื่อนรักอย่างทึ้งๆ“เข้าใจกันผิดแล้วจ้ะ กำลังจะเป็นคุณแม่ลูกสาม”“ห๊ะ!”เฟรย่าร้องออกมาอย่างตกใจ“แหมมกลับมาเจอกันปุบก็ซัมกันหนักเลยนะ รีบมีเจ้าตัวเล็กเลยนะ”จัสมินเย้าแหย่เพื่อนรัก“มีสามีเด็กก็งี้แหละ กินอร่อยนะ”เมธาวีเย้าแหย่เพื่อนกลับโดยไม่ทันได้สังเกตว่าสามีเด็กเดินเข้ามาทันได้ยินพอดี“อร่อยขนาดนั้นเลย”น้ำเสียงทุ้มต่ำถามใบหน้านิ่งเรียบแต่ใบหูกลับแดงซ่านอย่างปิดไม่มิด“มาก ถึงใจสุดๆ”เมธาวีตอบกลับแบบไม่ต้องคิด“เมย์”เฟรย่าสะกิดเพื่อนเพื่อเตือนสติว่าพวกเขาไม่ใช่คนพูดประโยคนั้น“อะไรของแกยายเฟร""ผัวเด็กแก"ทันทีที่ได้ยินคำเฉลยของเพื่อนรักเจ้าสาวของงานถึงกับหน้าถอดสีกันเลยทีเดียว เขาจะหาว่าฉันลามกหรือเปล่าเนี่ยนั้นคือคำถามที่เมธาวีถามตัวเอง"งั้นพวกฉันไปรอในงานนะ"จัสมินบอ
บรรยากาศภายในคอนโดมิเนียมหรูเต็มไปด้วยความกดดันเนื่องจากผู้เป็นเจ้าของห้องอยู่ในอารมณ์เดือดดาลพร้อมที่จะตะบันหน้าใครก็ตามที่กล้ามายุ่งกับเขาในตอนนี้ “ผมว่าพ่อกลับไปเถอะครับ ผมไม่อยากให้ใครมาติวอะไรผมทั้งนั้นแหละ”เด็กหนุ่มเจ้าของห้องบอกผู้เป็นพ่อด้วยความไม่พอใจ “พ่อเองก็ไม่ได้อยากบังคับฟินหรอกนะลูกแต่นี่ก็เพื่ออนาคตของฟินนะ”ประนพผู้เป็นพ่อบอกกับบุตรชายเพียงคนเดียวของเขาอย่างใจเย็นต่างจากทิพย์อาภาผู้เป็นภรรยาที่อยากจะจัดการลูกชายตัวดีเสียให้เข็ดหลาบ “ถ้าไม่อยากให้จ้างครูมาติวแกก็ทำเกรดให้มันดีๆสิแล้วฉันจะไม่บังคับแกอีก!”ทิพย์อาภาว่าให้ลูกชายอย่างเหลืออด ไม่รู้ทำไมลูกชายที่ไอคิวสองร้อยกลับทำคะแนนสอบได้แย่ขนาดนี้ หากไม่ได้ครูประจำชั้นของลูกชายที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอบอกกล่าวเห็นทีสิ้นเทอมนี้ลูกชายของเธอได้สองตกทุกวิชาแน่ “หึ~ แม่จะมาสนใจอะไรผมตอนนี้”ฟีนิกซ์ปรายตามองผู้เป็นแม่เพียงนิดเพราะก่อนหน้านี้แม่ของเขาไม่แม้แต่จะโทรถามสารทุกข์สุขดิบของเขาเลยด้วยซ้ำ “ฟิน! ฉันเป็นแม่แกนะทำไมถึงพูดกับแม่แบบนี้” “แม่เหรอ? เฮอะ~ ก็แค่ทำให้เกิดมาไหม ผมไม่เห็นรู้สึกว่ามีแม่อยู่ในชีวิตเลยด้วยซ้ำ” “ฟิ
“อ๊ะ” ร่างเล็กร้องอุทานด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆ ท่อนแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก็ช้อนร่างเธอขึ้นก่อนจะวางลงที่ตัวถังน้ำมันโดยที่เจ้าของการกระทำยังคงนั่งคร่อมรถอยู่อย่างเดิมสร้างความงงงวยให้กับหญิงสาวไม่น้อย“นั่งนี่แหละ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอกหญิงสาวตรงหน้า ทำให้ใบหน้าหวานสะบัดมองเจ้าของการกระทำอย่างไม่พอใจ“นายจะบ้าเหรออายคนตาย แล้วดูตัวฉันเล็กมากมั้ง” เห็นเธอแบบนี้เธอสูงตั้งร้อยหกสิบห้าเลยนะแต่เจ้าของรถคันนี้ต่างหากที่สูงเกือบร้อยเก้าสิบได้มั้ง“หึ~ ก็ไม่ได้ใหญ่เท่าไหร่นินอกจาก…” ใบหน้าคมกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจเมื่อเมธาวีเผลอตำหนิเขาอย่างเป็นธรรมชาติพร้อมกับพูดจากำกวมกลั่นแกล้งหญิงสาวเล่น“ยิ้มอะไรของนาย” คนตัวเล็กเผลอต่อว่าเด็กหนุ่มอย่างขุ่นเคืองเมื่อเห็นเด็กหนุ่มกระตุกยิ้มที่มุมปากหนาแล้วยกมือขึ้นกอดอกเมื่อเห็นสายตาของเจ้าของรถที่จ้องมองบริเวณหน้าอกของเธอ“ผมชอบนะเวลาพี่พูดแบบนี้ดูเป็นธรรมชาติดี”“นายแกล้งฉันทำไมฮะ! เอ่อ…พี่ขอโทษพี่ลืมตัวไปหน่อย”“พูดแบบนี้ดีแล้วเป็นธรรมชาติดี” เด็กหนุ่มบอกหญิงสาวตรงหน้าตามความจริงไม่ได้รู้สึกโกรธหญิงสาวตรงหน้าสักนิด“ได้ที่ไหนเกิดมีใครรู้ฉันโดนไล่อ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาเมธาวียังคงมาทำหน้าที่เป็นติวเตอร์ส่วนตัวให้กับฟีนิกซ์ตามปกติแต่ไม่ว่าเธอจะสอนหรืออธิบายอะไรฟีนิกซ์ก็ไม่ค่อยจะใส่ใจฟังสักเท่าไหร่เอาแต่ชวนคุยนู่นนี่นั่นไปเรื่อย“นี่! ช่วยตั้งใจฟังหน่อยได้ไหมเดี๋ยวตอนประเมินนายสอบไม่ผ่านจะทำไงไม่ได้ซวยแค่นายนะ”“ทำไมเหรอ ถ้าผมสอบไม่ผ่านพี่จะโดนไล่ออกหรือไง” คนที่เอาแต่เล่นมือถือเอ่ยถามโดยที่ไม่ได้ละสายตาจากหน้าจอมือถือเลยสักนิด“เออสิ!” เมธาวีกระแทกเสียงตอบอย่างลืมตัวแต่คนถามก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองแม้แต่น้อยยังถามต่อหน้าตาเฉย“ทำไมละ”“…”“ถ้ายอมเล่าจะยอมฟัง” ข้อเสนอของเด็กหนุ่มเรียกความสนใจจากเมธาวีได้อย่างดี“จริงเหรอ” เมธาวีถามย้ำอีกครั้งเพราะเธอเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดร้ายแรงเสียหน่อยแต่กลับต้องมารับกรรมจากการกระทำเหล่านั้นเสียได้“อาฮะ”“ก็ก่อนหน้านี้ฉันทำความผิดร้ายแรง…ทำร้ายลูกศิษย์นะสิ”“อธิบายมากกว่านี้หน่อยสิ” ฟีนิกซ์เก็บมือถือวางไว้ที่โซฟาหันมาให้ความสนใจกับสิ่งที่เมธาวีกำลังจะเล่าให้ฟังอย่างให้ความสนใจ“ก็…เด็กคนนั้น…”“ข่มขืนพี่เหรอ” เมื่อเห็นท่าทางลังเลของอีกฝ่ายฟีนิกซ์ก็ลองกระตุ้นคำตอบจากหญิงสาวด้วยวิธีของเขาดูและมันดันได้
ใบหน้าบึ้งตึงของเมธาวีเรียกรอยยิ้มขบขันจากเด็กหนุ่มผู้เป็นสารถีขับรถให้กับหญิงสาวตลอดเส้นทาง แม้จะไม่พอใจแค่ไหนแต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ทำให้เมธาวียิ่งหงุดหงิดไปอีก“เอาน่าเดี๋ยวครั้งหน้าผมเอารถยนต์มาแล้วกันโอเคไหม”“ไม่ต้องมีครั้งหน้าหรอกแค่นายไม่ต้องมาส่งจะเป็นพระคุณกับฉันมาก”“แทนตัวผมว่าฟินได้ไหมเรียกนายๆ อยู่นั่นห่างเหินชะมัด”“ได้ข่าวว่าเรารู้จักกันแค่หนึ่งอาทิตย์ บอกไว้เผื่อลืม”“นั่นสินะ งั้น…ผมบอกแม่เปลี่ยนติวเตอร์คนใหม่ก็ได้คงคุยง่ายกว่าพี่เยอะเลย”“เออๆๆ ฟินก็ฟิน ชิ”“ก็แค่นี้”“ขอบคุณนะที่มาส่ง พี่ไปนะ”“เดี๋ยว! เมย์สิครับ”“อะ อะไร?”“แทนตัวเองว่าเมย์ได้ไหมครับ”“ฉันอายุมากกว่านายเอ่อ…ฟินตั้งกี่ปีอย่าปีนเกลียว”“โอเค เปลี่ยนคนติวง่ายกว่าสินะ” ฟีนิกซ์ที่รู้จุดอ่อนของอีกฝ่ายยกเรื่องงานของเธอขึ้นมาข่มขู่อีกหนและแน่นอนว่ามันได้ผลเหมือนเคย“เมย์ก็เมย์ เฮ้อ~ ถ้าไม่ติดว่าโดนทัณฑ์บนไว้นะ” สุดท้ายเมธาวีก็ต้องยอมเด็กหนุ่มจนได้ ฟีนิกซ์ยกยิ้มชอบใจที่แกล้งหญิงสาวได้สำเร็จ“แล้วลูกพี่คนไหนละ” พอได้ในสิ่งที่ต้องการฟีนิกซ์ก็หันไปสนใจกลุ่มเด็กๆ ต่อแต่มองดูแล้วก็ไม่มีเด็กคนไหนที่มีหน้าตาคล้ายกั
บรรยากาศภายในบ้านพักเต็มไปด้วยบรรยากาศอันน่าอึดอัดแต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมธาวีต้องประสบกับความน่าอึดอัดนี้แต่ครั้งนี้มันดูจะหนักหนาเกินกว่าที่เธอจะจัดการได้เพราะด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธจากพ่อผู้ให้กำเนิดดูจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง “ทำไมแกถึงเลิกกับคุณเมธไม่ปรึกษาฉันสักคำ แกเอาสมองส่วนไหนคิดฮะ!”มือหนาของผู้เป็นพ่อกระชากข้อมือเล็กของลูกสาวด้วยความโมโหจนเจ้าของข้อมือเล็กเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ไม่ได้ต่อต้านการกระทำรุนแรงของผู้เป็นพ่อแม้แต่น้อย “เมย์กับพี่เมธคิดดีแล้วค่ะพ่อ เราไปกันไม่ได้หรอก พ่อเองก็น่าจะรู้ดี”ใช่ข้อนี้พ่อเธอรู้ดีแต่แล้วมันยังไง รักมันกินไม่ได้เงินต่างหากที่เขาต้องการ ดังนั้นเขาจะไปสนมันทำไมแค่เมธาวีเอาเงินมาจากปรเมธให้เขาแค่นั้นก็พอแล้วนี่ “ทำไมจะไม่ได้นี่ไงไปได้จนมีไอ้เมฆมาเป็นภาระแกอยู่นี่ไง”ผู้เป็นพ่อต่อว่าผู้เป็นลูกสาวอย่างเดือดดาลเพราะทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ “พ่ออย่าพูดถึงเมฆแบบนี้ แล้วถึงเมย์กับพี่เมธจะเลิกกันแต่เขาก็ช่วยส่งเสียเมฆเหมือนเดิมค่ะ”นั่นคือความจริงถึงอย่างไรเมธก็ยังเป็นพ่อที่ดีเสมอและก็เพราะมีเมฆานี่แหละปรเมธถึงยอมปล่อยมือจากเมธาวีทั้งที่เ
ฟีนิกซ์ talkทุกถ้อยคำที่คนในบ้านสนทนากันผมได้ยินมันอย่างชัดเจนแต่ที่มันทำให้ผมจุกในอกคือเรื่องชีวิตแต่งงานของเมธาวีต่างหาก ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เธอจะเจ็บปวดกับเรื่องที่ต้องเผชิญแค่ไหนกันนะ“อุ้มๆๆ”เสียงเด็กน้อยร้องให้แม่อุ้มดึงสติให้ผมออกมาจากห้วงความคิดของตนเอง“อุ้มๆครับ เมฆหิวหม่ำๆไหมครับไหนนี่หม่ำๆใครเอ่ย”เมธาวียังคงพูดกับลูกน้อยด้วยน้ำเสียงสดใส่หากไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เธอพึ่งร้องไห้ไปหมาดๆคงไม่มีใครดูออก “หึ”นายโชคดีจังนะเมฆที่มีแม่แบบนี้ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!ผมตัดสินใจเคาะประตูในที่สุด ไหนๆก็มาแล้วนี่ ถ้าโดนด่าค่อยกลับแล้วกัน“ใครมาน่ะ พ่อเรากลับมาหรือเปล่า”“เดี๋ยวเมย์ไปดูเองค่ะ”เสียงของเมธาวีบอกกับแม่ของเธอตามมาด้วยเสียงปลดล็อกประตูแอ๊ด~ทันทีที่ประตูเปิดออกใบหน้าของเมธาวีก็ปรากฏแก่สายตาของผม วันนี้เมธาวีใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นธรรมดาๆแต่ดูมีเสน่ห์ชะมัด“อ้าวฟินมาได้ไงอ่ะ”เสียงหวานของเมธาวีเรียกสติของผมให้กลับมาอีกครั้ง“พอดีวันนี้ว่าง มาหาเพื่อนกินข้าว”ผมชูถุงอาหารหลายอย่างที่ซื้อมาด้วยให้เมธาวีดู“เอ่อ…จะกินที่นี่เหรอ”เมธาวีถามผมสีหน้าเป็นกัง
วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนทำให้เด็กหนุ่มเปลี่ยนแพลนจากที่ว่าจะไปเที่ยวสวนสนุกเป็นเดินห้างสรรพสินค้าแทนเพราะกลัวเมธาวีและลูกชายตัวน้อยของเธอจะไม่สบายเอา“พี่เมย์ พี่หิวไหม”“ไม่”เจ้าของใบหน้าหวานปฏิเสธทันทีแบบไม่ต้องคิดโครกคราก~แต่เสียงท้องเจ้ากรรมกลับร้องประท้วงเรียกรอยยิ้มขำจากเด็กหนุ่มได้อย่างอดไม่อยู่“-///-”ใบหน้าที่เคยขาวใสแดงซ่านขึ้นมาด้วยความอับอาย ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะรู้สึกหิวสักนิดแต่พออยู่ต่อหน้าเขาดันมาร้องโครกครากเสียอย่างนั้น“หึ~ ทานชาบูกันไหม”“อาหารตามสั่งก็พอ”ด้วยรู้อยู่แล้วว่าเด็กหนุ่มจะต้องจ่ายค่าอาหารทั้งหมดอย่างแน่นอนเมธาวีจึงเลือกที่จะทานอาหารที่ไม่แพงมากนัก“ผมกินได้แค่ไม่กี่อย่างเองไปกินชาบูเถอะนะ”“อะ เอางั้นก็ได้”สุดท้ายเมธาวีก็จำต้องยอมตามใจเด็กหนุ่มเพราะเขาคงจะทานอะไรแบบเธอไม่ได้จริงๆ“ส่งเมฆมาสิพี่อุ้มเอง”“เดินไปเหอะผมอุ้มได้น่า”ท่อนแขนแกร่งกอดกระชับร่างป้อมราวกับกลัวว่าจะถูกแยกเด็กน้อยไปจากอกไม่ต่างจากเจ้าของร่างป้อมน้อยที่ติดเด็กหนุ่มไม่ต่างกันทั้งที่เพิ่งเจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง“ป้อๆอุ้ม”เด็กน้อยในอ้อมแขนกอดคอฟีนิกซ์ไว้แน่นเพราะกลัวผู้เป็นมารด
ภายในงานเลี้ยงหรูหราบรรยากาศชื่นมื่นเต็มไปด้วยความยินดีที่ต่างมาแสดงความยินดีกับบ่าวสาวโดยงานถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์ที่เป็นเรือนหอของทั้งคู่นั่นเอง“สวยมากเลยเมย์”เฟรย่าจับตัวเพื่อนสาวหันซ้ายหันขวามองหาจุดบกพร่องแต่ก็ไม่เจอแม้แต่จุดเดียว“ไร้ที่ติ”เฟรย่าบอกอย่างภูมิใจ“ขนาดลูกสองแล้วยังเป๊ะเว่อร์”จัสมินมองเพื่อนรักอย่างทึ้งๆ“เข้าใจกันผิดแล้วจ้ะ กำลังจะเป็นคุณแม่ลูกสาม”“ห๊ะ!”เฟรย่าร้องออกมาอย่างตกใจ“แหมมกลับมาเจอกันปุบก็ซัมกันหนักเลยนะ รีบมีเจ้าตัวเล็กเลยนะ”จัสมินเย้าแหย่เพื่อนรัก“มีสามีเด็กก็งี้แหละ กินอร่อยนะ”เมธาวีเย้าแหย่เพื่อนกลับโดยไม่ทันได้สังเกตว่าสามีเด็กเดินเข้ามาทันได้ยินพอดี“อร่อยขนาดนั้นเลย”น้ำเสียงทุ้มต่ำถามใบหน้านิ่งเรียบแต่ใบหูกลับแดงซ่านอย่างปิดไม่มิด“มาก ถึงใจสุดๆ”เมธาวีตอบกลับแบบไม่ต้องคิด“เมย์”เฟรย่าสะกิดเพื่อนเพื่อเตือนสติว่าพวกเขาไม่ใช่คนพูดประโยคนั้น“อะไรของแกยายเฟร""ผัวเด็กแก"ทันทีที่ได้ยินคำเฉลยของเพื่อนรักเจ้าสาวของงานถึงกับหน้าถอดสีกันเลยทีเดียว เขาจะหาว่าฉันลามกหรือเปล่าเนี่ยนั้นคือคำถามที่เมธาวีถามตัวเอง"งั้นพวกฉันไปรอในงานนะ"จัสมินบอ
ทันทีที่ความใหญ่โตถูกกระแทกเข้าช่องทางคับแคบฉ่ำน้ำร่างบางก็โผเข้ากอดเจ้าของการกระทำราวกับต้องการให้คนตัวโตปลอบแต่อีกฝ่ายกลับกระแทกกระทั้นเข้าใส่ร่องเล็กด้วยความกระสัน"อึก~ เบาหน่อยสิจุก"ร่างบางใบหน้าเหยเกเมื่อความใหญ่โตถูกถอนออกแทบจะหลุดออกจากกันก่อนจะกระแทกแทรกเข้ามาจนสุดลำอีกครั้ง“ก็หิว งั้นถ้าไม่อยากจุกก็กระแทกสิ”มาเฟียหนุ่มเอ่ยกระตุ้นให้ร่างบางปรนเปรอตนเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่นั่งนิ่ง“กระแทกผมสิครับพี่เมย์”คนตัวโตอ้อนเหมือนที่หญิงสาวชอบและทุกครั้ง เธอก็แพ้ลูกอ้อนแบบนี้ทุกทีแต่ครั้งนี้กลับผิดคาด หึ~ แต่ถ้าอ้อนไม่ได้ผลงั้นคงต้องบังคับสินะแต่วิธีบังคับในแบบของฟีนิกซ์นั้นเป็นการบังคับแบบเต็มใจเท่านั้นมันจึงจะถึงใจปึก~ ปึก~ ปึก~คนตัวโตกระแทกเอวสวนขึ้นใส่ร่องเล็กคับแคบจนร่างบางกระเด้งกระดอนไปตามแรงกระแทกกระทั้น“อื้อ~ จุก!”ร่างเล็กร้องประท้วงทันทีเมื่อถูกเล่นงานที่ใจกลางความเป็นสาวปัก! ปัก! ปัก!ร่างบางเริ่มขยับโยกส่งตัวตนเข้าช่องน้ำหวานเป็นจังหวะเนิบนาบ“ขอแรงอีกได้ไหมครับ”“มะ มันเสียว”แม้ปากจะปฏิเสธแต่สะโพกมนก็เร่งจังหวะกระแทกตามแรงอารมณ์ที่มีไม่ต่างจากคนร้องขอ“เมียผมแ
หลังจากเพื่อนๆของชายหนุ่มกลับไปทิพย์อาภาก็ถือโอกาสพูดเคลียร์ใจกับลูกสะใภ้เสียเลย"เมย์""คะ?""เรื่องเมื่อตอนนั้นแม่ขอโทษนะแม่ไม่คิดว่าสิ่งที่แม่ทำมันจะทำร้ายหนูขนาดนั้น"ทิพย์อาภาบอกอย่างรู้สึกผิด"เรื่องนั้นเมย์ไม่ได้คิดอะไรแล้วค่ะ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว""ขอบใจนะ""อีกอย่าง...คนที่ช่วยเมย์จากการถูกส่งขายอวัยวะก็คือคุณแม่นี่คะ"เมธาวียิ้มอ่อนให้กับแม่ของชายคนที่เธอรัก"ตอนนั้นเมย์ไม่มั่นใจว่าใช่คุณแม่ไหมแต่หลังจากที่เมย์ออกมาได้แล้วเมย์ก็มารู้ว่าคนที่ช่วยซื้อเมย์ออกมาก็คือเพื่อนของคุณแม่ ที่มีสามีชื่อชยันต์""...""หลังจากนั้นก็เป็นมาเฟียที่ชื่อชยันต์ที่รับตัวเมย์มาส่งคุณปู่เอง""เมย์พยายามจะบอกเรื่องนี้กับฟินในตอนนั้นแต่เขาก็หายหน้าไป""แม่ตั้งใจช่วยเมียผมแต่แรกแล้วเหรอ""อืม ก็ฟินรักเขาขนาดนั้นแม่จะปล่อยเขาเป็นอะไรไปได้ยังไง""...""ความสุขของฟินก็คือความสุขของแม่ ถึงแม้ความรักของแม่ฟินจะไม่ต้องการก็ตาม"คนเป็นแม่น้ำตาคลอด้วยความน้อยใจที่ลูกไม่เคยรักเธอเลย"ใครบอกว่าฟินไม่รักแม่"ฟีนิกซ์เดินเข้าไปสวมกอดคนเป็นแม่น้ำตาคลอ"ฟินรักแม่นะ รักมากด้วยฟินต้องการแม่มาตลอด"คนเป็
กว่าที่หมอจะยอมให้มาเฟียหนุ่มกลับบ้านได้ก็กินเวลาไปถึงหนึ่งสัปดาห์เต็ม พื้นที่แออัดในห้องพักสี่เหลี่ยมทำอารมณ์มาเฟียหนุ่มค่อนข้างหงุดหงิดทำให้พยาบาลที่เขามาทำหน้าที่ทำงานกันค่อนข้างลำบากเดือดร้อนหมอเดนิสต้องเขามาทำการรักษาให้แบบส่วนตัว“ครั้งหน้ากรุณาอย่าเจ็บนะครับหมอขอร้อง”เดนิสบอกมาเฟียหนุ่มด้วยความเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมเอาแต่ใจของคนไข้แต่คนไข้กลับไม่สะทกสะท้านสักนิด“แกเป็นหมอไม่มีสิทธิปฏิเสธคนไข้แบบฉัน”“คนไข้แบบแกหมอปกติที่ไหนจะรักษาได้”เดนิสมองฟีนิกซ์อย่างเบื่อหน่าย แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องเป็นเจ้าของไข้เพื่อนจอมเอาแต่ใจแต่ครั้งนี้ฟีนิกซ์ดันบ้ากว่าเดิมไม่เห็นเมียไม่ยอมล้างแผลไม่ยอมกินยา“คุณเมย์ได้กลับไปพักผ่อนบ้างไหมครับ”เมื่อพูดกับคนไข้ไปก็เปล่าประโยชน์เดนิสจึงหันมาสนใจหญิงสาวที่ใบหน้าอิดโรยราวกับคนอดหลับอดนอน“ไอ้หมอคุยกับคนไข้ก็พอครับอย่าเสือกยุ่งกับเมียคนไข้”“เฮ้อ~ ว่างก็ไปเช็คประสาทบ้างนะ”จากที่กำลังเป็นห่วงหญิงสาวเพียงคนเดียวในห้องพักผู้ป่วยเดนิสชักอยากจะพาเพื่อนตัวเองไปเช็คประสาทขึ้นมาแล้ว“ขอโทษแทนเขาด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรหรอกครับผมชินแล้ว ตอนอยู่อังกฤษมั
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงเย็นสองบอดี้การ์ดคนสนิท ก็เข้ามาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เจ้านายหนุ่มภายในห้องพักแต่ดูเหมือนว่ามีอยู่หนึ่งคนที่ท่าทางแปลกไปจนเจ้านายหนุ่มสังเกตได้“ปราบ”“ครับนาย"“เอเดนมันเป็นอะไรของมันมองฉันอย่างกับฉันไปหยิกไข่มัน”ตั้งแต่ตอนที่เดินเข้ามาพร้อมเมธาวีเอเดนก็เอาแต่มองค้อนเจ้านายหนุ่มไม่หยุดนี่ถ้าเป็นผู้หญิงเขาคงคิดว่าเอเดนงอนเขาอยู่แน่ๆ“เอ่อ”ปราบปรามกระอักกระอ่วนอยู่ไม่น้อยเพราะจะให้เขาตอบไปตามตรงก็กลัวจะทำให้เจ้านายไม่พอใจ“เฮอะ”พอได้ยินเจ้านายว่าตัวเองแบบนั้นความน้อยใจยิ่งเพิ่มขึ้นจนลืมความเกรงกลัวที่เคยมีต่อเจ้านายแถมยังสะบัดหน้าหนีผู้เป็นนายราวกับสาวน้อยงอนคนรัก“เอเดนแกอย่าทำแบบนี้ขอร้องฉันจะอ้วก”ฟีนิกซ์เห็นท่าทางของมือซ้ายคนสนิทอดขยาดไม่ได้ ตัวโตอย่างกับควายมาทำตัวเป็นสาวน้อยไปได้“ผมทำอะไรก็ไม่ดีในสายตานายหรอกครับ”พูดจบก็สะบัดหน้าหนีอีกรอบฟีนิกซ์ถึงกับกุมขมับกับท่าทางของเอเดน เรียกได้ว่าหมดคำจะพูด“ลากตัวมันออกไปเถอะฉันรำคาญลูกตา”“ครับนาย”ปราบปรามโค้งหัวให้เจ้านายเล็กน้อยแล้วเดินไปลากตัวเอเดนออกไปแต่เอเดนกลับไม่ยอมง่ายๆจนสุดท้ายฟีนิกซ์ก็จำต้องมา
เมธาวีเดินออกมาสูดอากาศในช่วงเช้ามืดเหมือนอย่างทุกวันแต่วันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูผิดแปลกไปหมดเริ่มตั้งแต่เด็กหนุ่มบ้านตรงข้ามจากที่เห็นเขากับพ่อจะมานั่งทำกิจกรรมยามเช้ากันในทุกๆวันแต่วันนี้ทั้งคู่กลับสวมสูทพร้อมกับยืนรักษาความปลอดภัยอยู่หน้ารั้วบ้านของเขาแทนแถมยังเอาแต่จ้องมองมาที่บ้านของเธอจนร่างบางรู้สึกประหม่าสุดท้ายเมธาวีก็เดินกลับเข้าบ้านแทนการไปสูดอากาศตามที่ตั้งใจตอนแรก“ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันมีหวังอึดอัดตาย”“อ้าวเมย์ทำไมวันนี้กลับเข้าบ้านเร็วจัง”“แม่เห็นบ้านตรงข้ามยังคะ”“อ่อ เห็นแล้ว”“แล้วแม่ไม่แปลกใจเหรอคะหรือกลัวไหมคะ”“จะกลัวทำไมละคนของพ่อเจ้าพาทั้งนั้น”“นี่แม่ก็รู้เหรอคะ”“รู้สิ”“…”“ก็พวกนั้นเขามากับเจ้านายเขาบ่อยๆน่ะ”“มาบ่อย? ตอนไหนทำไมเมย์ไม่รู้”“ก็ถ้าเมื่อก่อนรู้จะอยู่ที่นี่ต่อไหมล่ะ”“…”“ก็นั่นแหละพ่อเจ้าพาเลยไม่ให้ใครบอกเมย์รวมทั้งแม่ก็ด้วย”“งั้นก็แสดงว่าคนที่ไม่รู้อะไรเลยมีแค่เมย์สินะคะ”“อย่าไปโกรธพ่อเจ้าพาเลยลูก เขาก็ทำหน้าที่ของเขาเต็มที่แล้ว เจ้าพาเองก็ไม่ต้องทนรู้สึกขาดพ่อ”“อืม เมย์ไปชงโกโก้อุ่นๆดื่มก่อนนะคะ”“จ๊ะ”ผู้เป็นแม่มองตามลูก
“นายหญิงไปเยี่ยมนายหน่อยเถอะนะครับ นี่ก็สองวันแล้วนายยังไม่ยอมทานอะไรเลย”เอเดนยังคงพยายามอ้อนวอนนายหญิงของตน“ทนหิวไม่ไหวเขาก็กินเองแหละ”แต่เมธาวีกลับตอบเหมือนไม่ได้ใส่ใจ“แม้แต่แผลก็ไม่ยอมให้หมอตรวจเลยนะครับ”เอเดนเสริมอีกหน“ฉันไปมันก็ไม่ช่วยอะไรหรอก”เธอจะไปช่วยอะไรได้เมื่อไม่กี่วันก่อนก็เพิ่งโดนเขาไล่ตะเพิดมา“ได้สิครับนายรักนายหญิงขนาดนั้น”เอเดนถึงกลับสะบัดคอหันมองปราบปรามอย่างไม่เชื่อหูถึงเขาจะรู้ว่าหญิงสาวมีความสำคัญกับเจ้านายเขามากแต่ก็ยังไม่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำอย่างที่ปราบปรามพูด“ทำไมพี่กล้าพูดแบบนั้นเกิดนายอาละวาดต่อหน้าคุณเมย์จะทำไง”เอเดนกระซิบถามปราบปรามให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน“ไม่มีทาง”“พวกคุณกลับไปเถอะตอนนี้เขาคงแค่สับสน”“ถ้างั้นนายหญิงจำเรื่องเมื่อหาปีก่อนได้ไหมครับ ตอนที่นายหญิงหายไป รู้ไหมครับว่านายต้องแรกทั้งชีวิตเลยนะครับ”เมธาวีที่ไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดในตอนนั้นก็ได้แต่เงียบรอฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมสุดท้ายฟีนิกซ์ถึงยอมปล่อยมือจากเธออย่างง่ายดาย5 ปีก่อนทันทีที่รู้ว่าแฟนสาวหายตัวไปฟีนิกซ์ก็ออกตามหาถึงหนึ่งวันเต็มๆแต่กลับไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย สุด
“พายุ!”เด็กชายตัวน้อยที่ได้ยินเสียงเรียกอันคุ้นเคยรีบหันตามเสียงเรียก พายุที่เห็นพ่อของเขารีบวิ่งเข้าหาพ่อด้วยความหวาดกลัวฟีนิกซ์ก็รีบกอดเอาลูกรักมาไว้ในอ้อนแขน“พ่อ แม่ แม่เจ็บ”พายุบอกคนเป็นพ่อดวงตาแดงก่ำอย่าง น่าสงสาร แม้จะสงสารลูกชายตัวน้อยแค่ไหนแต่ตอนนี้เขาต้องหาตัวเมธาวีให้เจอก่อนโชคดีเหลือเกินที่ลูกชายวัยแค่สี่ขวบแต่สามารถสื่อสารได้เก่งมากๆ“แม่อยู่ไหน”คนเป็นพ่อถามลูกชายด้วยความกระวนกระวายใจก่อนจะได้สติเมื่อมือขวาคนสนิทเดินเข้ามาพอดี“เมียฉันอยู่ไหน!”“คุณเมย์ยังอยู่ข้างในครับ พวกนั้นมีปืนและมากันหลายคนผมเกรงว่าคุณเมย์จะได้รับอันตรายเลยยังไม่กล้าเข้าไปครับ”เป็นบอดี้การ์ดที่แฝงตัวอยู่คอยดูแลความปลอดภัยของหญิงสาวเป็นผู้รายงาน“บ้าชิบ! ปราบพาลูกฉันไป”ฟีนิกซ์สบถออกมาอย่างหัวเสียแต่ก็ไม่ลืมนึกถึงความปลอดภัยของลูกชาย“แต่..”ปราบปรามไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้เจ้าอยู่กับลูกน้องโดยปราศจากเขาคอยซัพพอร์ต“แกก็รู้ว่าอะไรสำคัญกว่าฉัน”ที่เขายอมผันตัวมาเป็น มาเฟียก็เพื่อความปลอดภัยของเมธาวีแล้วชีวิตเขาจะมีค่าอะไรถ้าเมธาวีและลูกๆของเขาเป็นอะไรไป“ครับนาย”แม้ไม่อยากจะทำตามคำสั่งนี้แต่ปร
ครืด~ ครืด~ ครืด~ เสียงสมาร์ทโฟนแจ้งเตือนสายแล้วสายเล่าแต่เจ้าของเครื่องก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกจากห้องน้ำมารับสายเสียที มีเพียงเสียงสายน้ำที่ตกกระทบพื้นห้องน้ำดังอยู่ไม่ขาดสายสุดท้ายชายหนุ่มจึงถือวิสาสะหยิบมันขึ้นมาดูเผื่อผู้โทรเข้ามาจะมีธุระด่วน“เบอร์ใครไม่เห็นบันทึกไว้”ด้วยความสงสัยชายหนุ่มจึงตัดสินใจกดรับสายแทนหญิงสาวเจ้าของเครื่อง[เมย์พี่รอที่บ้านแล้วนะเมื่อไหร่จะกลับครับพี่อยากกอดเมย์จะแย่แล้ว]“…”ฟีนิกซ์ที่ได้ยินประโยคชวนหงุดหงิดจากปลายสายทำเพียงฟังเงียบๆสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ[เมย์ได้ยินพี่ไหม พูดกับพี่หน่อยสิครับ พี่คิดถึงจะแย่แล้วไหนบอกว่าคืนนี้เราจะค้างด้วยกันไง]“คงไม่ได้! เพราะเมธาวีกำลังนอนเอากับฉันอยู่”[มึงเป็นใคร!]“เลิกยุ่งกับเมียกูซะ! ถ้ามึงยังไม่อยากตาย!”ติ๊ด!ทันทีที่พูดจบฟีนิกซ์ก็กดตัดสายทันทีมือหนากำสมาร์ทโฟน ของหญิงสาวแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนก่อนจะปามันใส่ผนังจนแตกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี เมธาวีที่กำลังอาบน้ำอยู่รีบวิ่งออกมาด้วยนึกเป็นห่วงว่าชายหนุ่มจะได้รับอันตรายอะไรหรือเปล่า“มะ มีอะไรหรือเปล่า”เมธาวีเอ่ยถามชายหนุ่มอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะท่าทางของเขาต