บรรยากาศภายในบ้านพักเต็มไปด้วยบรรยากาศอันน่าอึดอัดแต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมธาวีต้องประสบกับความน่าอึดอัดนี้แต่ครั้งนี้มันดูจะหนักหนาเกินกว่าที่เธอจะจัดการได้เพราะด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธจากพ่อผู้ให้กำเนิดดูจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง
“ทำไมแกถึงเลิกกับคุณเมธไม่ปรึกษาฉันสักคำ แกเอาสมองส่วนไหนคิดฮะ!”มือหนาของผู้เป็นพ่อกระชากข้อมือเล็กของลูกสาวด้วยความโมโหจนเจ้าของข้อมือเล็กเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ไม่ได้ต่อต้านการกระทำรุนแรงของผู้เป็นพ่อแม้แต่น้อย “เมย์กับพี่เมธคิดดีแล้วค่ะพ่อ เราไปกันไม่ได้หรอก พ่อเองก็น่าจะรู้ดี”ใช่ข้อนี้พ่อเธอรู้ดีแต่แล้วมันยังไง รักมันกินไม่ได้เงินต่างหากที่เขาต้องการ ดังนั้นเขาจะไปสนมันทำไมแค่เมธาวีเอาเงินมาจากปรเมธให้เขาแค่นั้นก็พอแล้วนี่ “ทำไมจะไม่ได้นี่ไงไปได้จนมีไอ้เมฆมาเป็นภาระแกอยู่นี่ไง”ผู้เป็นพ่อต่อว่าผู้เป็นลูกสาวอย่างเดือดดาลเพราะทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ “พ่ออย่าพูดถึงเมฆแบบนี้ แล้วถึงเมย์กับพี่เมธจะเลิกกันแต่เขาก็ช่วยส่งเสียเมฆเหมือนเดิมค่ะ”นั่นคือความจริงถึงอย่างไรเมธก็ยังเป็นพ่อที่ดีเสมอและก็เพราะมีเมฆานี่แหละปรเมธถึงยอมปล่อยมือจากเมธาวีทั้งที่เขาก็ยังรักเธออยู่ “เฮอะ~แค่นั้นเองเหรอแล้วเงินที่เขาเคยเลี้ยงดูแกละจะทำยังไง”ผู้เป็นพ่อถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันหากเป็นอย่างที่บุตรสาวเขาบอกงั้นเงินที่เมธาวีเคยได้จากปรเมธก็หมดกันน่ะสิ “เมย์หาเลี้ยงตัวเองได้แล้วอีกอย่างนะพี่เมธเขาแต่งงานจดทะเบียนไปแล้ว พ่อจะให้เมย์อยู่เป็นเมียน้อยเขาหรือไง แล้วแม่เขาก็รังเกียจเมย์อย่างกับอะไรดี พ่อช่วยเข้าใจเมย์หน่อยได้ไหม”เมธาวียังคงอธิบายให้ผู้เป็นพ่อฟังอย่างใจเย็นที่สุดเพราะใช้อารมณ์ไปก็มีแต่เรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตไปเสียเปล่าๆ “แกมันโง่ โง่ๆๆๆทิ้งคนรวยๆแบบนั้นได้ไงวะ”ผู้เป็นพ่อใช้นิ้วจิ้มที่หน้าผากของเมธาวีอย่างแรงจนนับครั้งไม่ถ้วนแต่เธอก็ยังคงไม่ตอบโต้เช่นเคยเพราะรู้ดีว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำแบบนั้นสู้ปล่อยผ่านมันไปแบบนี้จะดีกว่า “เขาไม่ทิ้งก็เหมือนทิ้งเมย์ไหมพ่อ อยู่ต่อก็เป็นได้แค่เมียน้อยนะพ่อ”ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้รักผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าพ่อของลูกแต่เธอก็ยินดีที่จะอยู่กับเขาหากว่าเขาไม่ตบแต่งภรรยาใหม่พร้อมทะเบียนสมรสที่เธอไม่เคยมีเพราะครอบครัวสามีคัดค้านแต่ในเมื่อเขาเลือกแล้วเมธาวีก็พร้อมที่จะถอยออกมาดีกว่าที่จะให้ลูกชายของเธอถูกตราหน้าว่าเป็นลูกเมียน้อยแต่คำพูดต่อมาของผู้เป็นพ่อก็ทำเอาเมธาวีถึงกับทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง “เมียน้อยก็ยังดีกว่ามาอยู่บ้านเก่าๆโทรมๆนี่ไหม เออๆๆช่างมันเถอะเดี๋ยวฉันหาคนรวยๆมาให้แกใหม่ก็แล้วกัน” “พ่อ! นี่พ่อเห็นเมย์เป็นอะไร”เมธาวีถามผู้เป็นพ่ออย่างสิ้นหวังในสายตาพ่อเธอมีค่าแค่นี้เหรอ “เลิกพูดมากได้แล้ว แล้วแกมีเงินเหลือบ้างไหมเอามาให้ฉันไปต่อทุนหน่อยสิ”ผู้เป็นพ่อบอกปัดอย่างตัดรำคาญก่อนจะเอ่ยถามถึงเหตุหลักที่ตนต้องเดินทางมาถึงที่นี่ “เมย์ไม่มีหรอก” “แกก็ไปขอคุณเมธสิวะเขารักแกจะตายแค่แกขอทำไมเขาจะไม่ให้” “คุณคะพอเถอะค่ะ ลูกไม่มีก็คือไม่มีสิคะ อย่าบังคับลูกเลย ที่ผ่านมาลูกก็ทำเพื่อเรามามากพอแล้วนะคะ”มานีแม่ของเมธาวีพยายามห้ามปรามผู้เป็นสามีด้วยความสงสารลูกสาว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอต้องทนดูลูกทุกข์ใจโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้มาตลอด “เงียบไปเลย โถ่เว้ย! เออๆๆไว้ฉันจะมาใหม่เตรียมเงินไว้ให้ฉันด้วยละ”พูดจบคนเป็นพ่อก็เดินออกจากบ้านไปไม่สนใจว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร “อึก~”ทันทีที่ทุกอย่างสงบลงน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลอาบสองแก้มนวลอย่างน่าสงสาร “ไม่เป็นไรนะลูกแม่ขอโทษนะที่ช่วยอะไรเมย์ไม่ได้เลย”ผู้เป็นแม่คุกเข่าลงสวมกอดผู้เป็นลูกสาวด้วยความสงสารจับใจ “อือ เมย์ไม่โทษแม่หรอกว่าแต่ทำไมแม่กับพ่อถึงมาที่นี่ได้คะ”เมธาวีปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ “เงินพ่อหมดนั่นแหละ คงขอคุณเมธแล้วเขาไม่ให้นั่นแหละ”ผู้เป็นแม่บอกลูกสาวด้วยความหนักใจ “แล้วรู้เรื่องเมฆได้ไงคะ” “คุณเมธบอกน่ะสิ” “อืม แต่เมย์ขอไม่กลับไปนะคะ แม่เข้าใจเมย์ใช่ไหม”เมธาวีบอกผู้เป็นแม่ด้วยความหวั่นใจกลัวว่าแม่เธอจะไม่เห็นด้วยกับการเลิกราครั้งนี้อีกคน “เข้าใจลูกแม่เข้าใจ เมย์ทุกข์มามากแล้วแม่ขอโทษนะที่ไม่เคยช่วยอะไรเมย์ได้เลย”ผู้เป็นแม่บอกลูกสาวด้วยความรู้สึกผิด “แม่ไม่ต้องขอโทษเมย์หรอกค่ะแต่เมย์ทนทรมานมามากเกินพอแล้วค่ะแม่ การที่ต้องถูกขืนใจโดยที่ขัดขืนอะไรไม่ได้เลยมันทรมาน ทรมานมากๆเลยนะแม่ ฮือๆๆๆ แม่ก็รู้ว่าหนูไม่ได้รักพี่เมธ เมย์ไม่อยากกลับไป ฮือๆๆ”เมธาวีร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจหากคนเป็นพ่อสงสารเธอบ้าง ชีวิตของเธอคงไม่ทุกข์ทรมานอย่างที่ผ่านมา แต่พ่อแท้ๆกลับไม่เคยสนใจไยดีแถมยังคิดจะใช่เธอเป็นตัวทำเงินเสียอย่างนั้น “โถ่เมย์ แม่ขอโทษนะลูก”ผู้เป็นแม่ที่เห็นลูกสาวร้องไห้ปานจะขาดใจก็ได้แต่กอดปลอบลูกเพราะไม่รู้จะช่วยลูกสาวเพียงคนเดียวของเธออย่างไรดี “อึก! แง่ๆๆ”ทันทีที่ได้ยินเสียงร้องไห้งอแงเพราะเพิ่งตื่นนอนของลูกชายตัวน้อยเมธาวีก็รีบปาดน้ำตาออกจากแก้มนวลเพราะไม่อยากให้ลูกชายตัวน้อยเห็น “โอ๋ๆๆ เมฆน้อยของแม่ แม่อยู่นี่ครับไหนๆมาๆเติมพลังกันหน่อย”เมธาวีหอมแก้มยุ้ยของลูกด้วยความหมั่นเขี้ยว แค่ได้เห็นหน้าลูกเธอก็รู้สึกใจชื้นขึ้นกว่าก่อนหน้าเป็นเท่าตัว "ตื่นแล้วเหรอครับคนเก่งไหนมาให้ยายอุ้มหน่อยครับ"ผู้เป็นยายที่เพิ่งมีโอกาสได้เจอหลานอ้าแขนออกกว้างหวังจะอุ้มเด็กชายตัวน้อยด้วยความเอ็นดู เมฆาที่เห็นอย่างนั้นก็อ้อนให้ผู้เป็นยายอุ้มทันที "อุ้มๆๆ" "หือ ลืมแม่เลยนะ" "แม่ หม่ำๆๆ" “555/555”ความขี้อ้อนของเด็กน้อยเรียกรอยยิ้มของแม่และยายได้อย่างง่ายดาย ก๊อก~ ก๊อก~ ก๊อก~ เสียงเคาะประตูดึงความสนใจของคนทั้งสามให้หันไปมองยังต้นตอของเสียง “เดี๋ยวเมย์ไปดูเองค่ะ”ฟีนิกซ์ talkทุกถ้อยคำที่คนในบ้านสนทนากันผมได้ยินมันอย่างชัดเจนแต่ที่มันทำให้ผมจุกในอกคือเรื่องชีวิตแต่งงานของเมธาวีต่างหาก ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เธอจะเจ็บปวดกับเรื่องที่ต้องเผชิญแค่ไหนกันนะ“อุ้มๆๆ”เสียงเด็กน้อยร้องให้แม่อุ้มดึงสติให้ผมออกมาจากห้วงความคิดของตนเอง“อุ้มๆครับ เมฆหิวหม่ำๆไหมครับไหนนี่หม่ำๆใครเอ่ย”เมธาวียังคงพูดกับลูกน้อยด้วยน้ำเสียงสดใส่หากไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เธอพึ่งร้องไห้ไปหมาดๆคงไม่มีใครดูออก “หึ”นายโชคดีจังนะเมฆที่มีแม่แบบนี้ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!ผมตัดสินใจเคาะประตูในที่สุด ไหนๆก็มาแล้วนี่ ถ้าโดนด่าค่อยกลับแล้วกัน“ใครมาน่ะ พ่อเรากลับมาหรือเปล่า”“เดี๋ยวเมย์ไปดูเองค่ะ”เสียงของเมธาวีบอกกับแม่ของเธอตามมาด้วยเสียงปลดล็อกประตูแอ๊ด~ทันทีที่ประตูเปิดออกใบหน้าของเมธาวีก็ปรากฏแก่สายตาของผม วันนี้เมธาวีใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นธรรมดาๆแต่ดูมีเสน่ห์ชะมัด“อ้าวฟินมาได้ไงอ่ะ”เสียงหวานของเมธาวีเรียกสติของผมให้กลับมาอีกครั้ง“พอดีวันนี้ว่าง มาหาเพื่อนกินข้าว”ผมชูถุงอาหารหลายอย่างที่ซื้อมาด้วยให้เมธาวีดู“เอ่อ…จะกินที่นี่เหรอ”เมธาวีถามผมสีหน้าเป็นกัง
วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนทำให้เด็กหนุ่มเปลี่ยนแพลนจากที่ว่าจะไปเที่ยวสวนสนุกเป็นเดินห้างสรรพสินค้าแทนเพราะกลัวเมธาวีและลูกชายตัวน้อยของเธอจะไม่สบายเอา“พี่เมย์ พี่หิวไหม”“ไม่”เจ้าของใบหน้าหวานปฏิเสธทันทีแบบไม่ต้องคิดโครกคราก~แต่เสียงท้องเจ้ากรรมกลับร้องประท้วงเรียกรอยยิ้มขำจากเด็กหนุ่มได้อย่างอดไม่อยู่“-///-”ใบหน้าที่เคยขาวใสแดงซ่านขึ้นมาด้วยความอับอาย ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะรู้สึกหิวสักนิดแต่พออยู่ต่อหน้าเขาดันมาร้องโครกครากเสียอย่างนั้น“หึ~ ทานชาบูกันไหม”“อาหารตามสั่งก็พอ”ด้วยรู้อยู่แล้วว่าเด็กหนุ่มจะต้องจ่ายค่าอาหารทั้งหมดอย่างแน่นอนเมธาวีจึงเลือกที่จะทานอาหารที่ไม่แพงมากนัก“ผมกินได้แค่ไม่กี่อย่างเองไปกินชาบูเถอะนะ”“อะ เอางั้นก็ได้”สุดท้ายเมธาวีก็จำต้องยอมตามใจเด็กหนุ่มเพราะเขาคงจะทานอะไรแบบเธอไม่ได้จริงๆ“ส่งเมฆมาสิพี่อุ้มเอง”“เดินไปเหอะผมอุ้มได้น่า”ท่อนแขนแกร่งกอดกระชับร่างป้อมราวกับกลัวว่าจะถูกแยกเด็กน้อยไปจากอกไม่ต่างจากเจ้าของร่างป้อมน้อยที่ติดเด็กหนุ่มไม่ต่างกันทั้งที่เพิ่งเจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง“ป้อๆอุ้ม”เด็กน้อยในอ้อมแขนกอดคอฟีนิกซ์ไว้แน่นเพราะกลัวผู้เป็นมารด
บรรยากาศโดยรอบดูผ่อนคลายจนเจ้าของใบหน้าหวานหลับตาพริ้มด้วยความผ่อนคลายเลยไม่ทันเห็นว่ามีดวงตาคมกำลังจ้องมองเธออยู่ในระยะประชิด“บรรยากาศดีชะมัด”“ผมก็ว่างั้นแหละ”ดวงตากลมลืมตาขึ้นด้วยความตกใจที่จู่ๆก็ได้ยินเสียงทุ้มอันคุ้นเคยของฟีนิกซ์ในระยะประชิดไม่รู้ว่าเขามาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ ไหนบอกว่าจะถึงช้าหน่อยไงนี่มันยังไม่ถึงเวลานัดด้วยซ้ำ“ฟะ ฟิน มาตั้งแต่เมื่อไหร่”เมธาวีที่เห็นเด็กหนุ่มยื่นหน้าหล่อๆของเขาเข้ามาจนจะชนกันอยู่แล้วรีบขยับตัวถอยห่างแล้วเอ่ยถามเสียตะกุกตะกักเพราะความประหม่า“สักพักแล้วแหละครับ แต่คนบางคนกลับไม่เห็นผมซะงั้น”ทั้งที่เขานั่งอยู่ใต้ร่มไม้ใกล้ๆแท้ๆแต่เธอกลับไม่เห็นเขาเสียอย่างนั้นทั้งที่เขาเห็นเธอตั้งแต่เดินเข้ามาที่สวนสาธารณะแล้ว“อ่อ อืมโทษทีพี่ไม่ทันสังเกต”“ชอบไหมครับ”“ชอบนะ บรรยากาศดีเลย เหนื่อยจากงานมาพอได้มองธรรมชาติแบบนี้ก็ผ่อนคลายดี”“ผมหมายถึง…ชอบผมไหมครับ”“นายนี่จริงๆเลย”เมธาวีส่ายหน้าระอาแต่ก็ยังเผลออมยิ้มออกมาเพราะความน่ารักของเด็กหนุ่มรุ่นน้องอย่างไม่รู้ตัว“พี่เมย์”“หือ มีอะไรเหรอดูเครียดๆนะ”“ผม…ขอติวเพิ่มได้ไหม ผมกลัวทำคะแนนสอบได้ไม่ดี
“วันนี้ผมไปส่งนะครับ”“อืม”คนพี่พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายเพราะว่าปฏิเสธไปก็เท่านั้นอย่างไรเสียฟีนิกซ์ก็ต้องหาเหตุผลร้อยแปดมาใช้เป็นเหตุผลจนเธอต้องยอมอยู่ดีเมื่อมาถึงบริเวณหน้าบ้านของเมธาวีฟีนิกซ์ก็ต้องจอดรถที่หน้าประตูรั้วบ้านแทนการขับเข้าไปจอดที่โรงจอดรถตามปกติเพราะตอนนี้มีรถยนต์อีกคันจอดอยู่ก่อนแล้ว“ใครมาเหรอครับ”“พี่เมธน่ะ คงมาหาเมฆ”ทันทีที่ทั้งคู่เปิดประตูเข้ามาในบ้านสายตาทุกคู่ก็จับจ้องมายังพวกเขาโดยมีเมธที่ดูจะแปลกใจกว่าใครเพื่อนที่เห็นเด็กหนุ่มแปลกหน้าปรากฏตัวพร้อมกับอดีตภรรยานอกกฎหมายของเขาแต่เขาก็เลือกที่จะไม่ถามถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เลือกที่จะส่งยิ้มให้ทั้งคู่แทน"ฟินนี่คุณเมธพ่อของน้องเมฆ"เมธาวีเองที่เห็นว่าอดีตสามีของเธอไม่ได้แสดงท่าทีหึงหวงเหมือนแต่ก่อนก็รู้สึกสบายใจไม่น้อยเพราะนั้นคือสัญญาณที่ดีมากๆเพราะมันสื่อว่าเขาได้เปลี่ยนใจไปจากเธอแล้วจริงๆ"สวัสดีครับผมฟินครับ"ฟีนิกซ์ยกมือไหว้ปรเมธเพราะอีกฝ่ายอายุมากกว่าพร้อมกับแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ"ครับ"ปรเมธเองก็รับไหว้เด็กหนุ่มด้วยความยินดี"ป้อๆอุ้มๆ"เมฆาที่เห็นผู้เป็นมารดาและฟีนิกซ์ก็รีบวิ่งมาหาคนทั้งคู่แต่กลับ
"มันจะดีเหรอฟิน"เมื่อเข้ามาถึงห้องพักของฟีนิกซ์เมธาวีก็อดพูดในสิ่งที่กังวลใจอยู่ไม่ได้"เอาอะไรมาไม่ดี""แล้วถ้ามีใครรู้เข้าละ"เมธาวีถามอย่างเป็นกังวลเพราะหน้าที่การงานของเธอก็อาจจะพังเพราะเรื่องนี้ด้วยก็ได้"เลือกเอาจะให้คนรู้หรือไปเป็นเมียน้อยเสี่ย”"เฮ้อ~” สุดท้ายเมธาวีก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างปลงตกกับชีวิต ชั่วชีวิตนี้ได้แต่นึกบ่นในใจว่าคนอย่างเมธาวีจะได้เจอความสงบสุขไหมนะ“อย่าคิดมากเลยอย่างน้อยพี่ก็โชคดีนะที่มีแต่คนรักคนชอบ” ใบหน้าหน้าหล่อโน้มลงมากระซิบบอกที่ข้างใบหูขาวเนียนของคนพี่จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแป้งเด็กที่เจือมา“โอเค ไม่คิดมากก็ได้ แต่ช่วยขยับออกไปหน่อยได้ไหม” ความใกล้ชิดในระยะประชิดทำให้ใจของเมธาวีเต้นรัวยิ่งกว่ากลองยาวเสียจนผู้เป็นเจ้าของกลัวว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะได้ยินเข้า จนต้องเบี่ยงความสนใจให้เด็กหนุ่มขยับตัวออกห่าง“ทำไม? เขินเหรอ” เด็กหนุ่มกระตุกยิ้มชอบใจเมื่อได้แกล้งคนพี่ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะทิ้งลูกระเบิดความเขินอายให้กับหญิงสาวตรงหน้าไว้อีกลูก“อือ” เมธาวีตอบตามตรง“อย่ามาปากแข็ง…เมื่อกี้พี่บอกว่าอือเหรอ”เมธาวีที่เห็นสีหน้าอึ้งๆ ปนยินดีของเด็กหนุ่มเผลอยกยิ้ม
“พี่เมย์!นั่นพี่จะไปไหน” ดวงตาคมเหลือบเห็นหญิงสาวที่เขารอตลอดหลายชั่วโมงกำลังเดินย่องเบาออกจากห้องพักราวกับคนมีความผิดเอ่ยรั้งคนพี่เอาไว้ จนสองขาเล็กชะงักค้างอย่างทำอะไรไม่ถูก“พี่ว่าจะออกไปตลาดน่ะ”“ผมพาไป เดี๋ยวกูมา” ฟีนิกซ์ถอนหายใจกับการกระทำของคนพี่ทั้งที่นัดกันเอาไว้แล้วแท้ๆ ยังจะออกไปทั้งที่ไม่มีเขาไปด้วยอีก“ไอ้นี่ เห็นหญิงดีกว่าเพื่อน” พระรามที่เห็นเพื่อนรักสนใจผู้หญิงมากกว่าพวกตนบ่นให้เพื่อนไม่จริงจังนักก่อนจะโดนเจ้าของห้องสวนกลับ“พูดมากเดี๋ยวกูไล่กลับให้หมดเลย”“กลัวแล้วครับท่านฟิน” พระรามแสร้งยกมือไหว้ท่วมหัวอย่างประชดประชันใส่เพื่อนรักด้วยความหมั่นไส้และผลที่ได้จากการกระทำของตนก็ไม่เกินคาดหมายเพราะได้รับฝ่าเท้าหนักของเพื่อนรักมาเต็มๆ แต่เขาก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรเพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนรักไม่ได้กะเอาเจ็บเพราะถ้าเอาจริงคงได้แผลไปแล้ว“มึงนี่ก็ชอบยั่วโมโหมัน” สายฟ้าว่าให้กับพระราม“แค่หยอกเปล่าวะ”“เออๆๆ ว่าแต่คนนั้นเหรอที่ไอ้ฟินมันชอบอ่ะ”“น่าจะคนนี้แหละ ถ้าไม่มันคงไม่พาเข้ามาหรอก”“สวยใช้ได้เลยนะนั่น” เพชรกล้าเอ่ยชมหญิงสาว“แต่กูหวังว่ามันคงจะแค่เล่นๆนะ เพราะถ้ามันเอาจริงแม่ม
หลังจากทั้งคู่ตกลงคบหากันนี่ก็ผ่านมาหลายสัปดาห์แล้ว ทั้งคู่ไม่ได้เกินเลยกันมีเพียงความรู้สึกเท่านั้นที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและที่สำคัญการที่เมธาวีมาอยู่ที่คอนโดกับฟีนิกซ์มันก็ทำให้เธอมีเวลาติวเข้มให้กับเด็กหนุ่มที่ไม่ค่อยจะสนใจฟังที่เธอสอนสักเท่าไหร่ แต่พอให้ทำแบบฝึกหัดกลับทำได้ทั้งหมดภายในเวลาอันรวดเร็วแต่มักมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอเขาถึงยอมทำในช่วงเย็นเมธาวีที่กำลังทำอาหารเย็นรอเจ้าของห้องอย่างตั้งใจต้องชะงักมือเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงกอดกระชับที่ขาของตนเองก่อนจะก้มลงมองที่สัมผัสนั้น“น้องเมฆ” เมธาวีที่เห็นลูกชายตัวน้อยรีบวางมือจากการทำอาหารด้วยความดีใจมือไม้ที่เคยมั่นคงก็สั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้ นานหลายสัปดาห์ที่เธอต้องห่างบุตรชายเธอคิดถึงมากคิดถึงแต่ก็ไม่สามารถไปหาได้เพราะเหตุผลเหล่านั้น“อุ้มๆๆ” ทันทีที่เด็กชายตัวน้อยเห็นผู้เป็นแม่เขาก็วิ่งเข้ามากอดที่ขาของมารดาอ้อนให้อุ้มด้วยความคิดถึง“น้องเมฆ อึก” ทันทีที่ได้อุ้มแก้วตาดวงใจขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนน้ำตาแห่งความยินดีก็รินไหลออกมาจากดวงตากลมอย่างห้ามไม่อยู่“ถ้าพี่ร้องอีกผมจะให้คนพาเมฆกลับ”“อึก” สิ้นคำขู่เมธาวีก็รีบกลืนก่อนสะอื้นลงคอแทบจะทั
ดวงตากลมจ้องมองกระดาษคำตอบที่มีผลร้อยคะแนนเต็มก็แปลกใจในผลคะแนนอยู่ไม่น้อย เก่งขนาดนี้ทำไมต้องมีติวเตอร์ส่วนตัวอีกจากที่เธอสังเกตฟีนิกซ์แทบจะไม่สนใจที่เธอสอนด้วยซ้ำ ดังนั้นเธอมั่นใจว่าเขาต้องเก่งในระดับหนึ่งเลยแต่สาเหตุที่เขาผลการเรียนแย่คืออะไรกัน“หือ…ร้อยคะแนนเต็มเลยเหรอ”“ครับ”“นี่แสดงว่าที่เหมยลี่พูดวันนั้นก็จริงน่ะสิ”“ที่ว่าพี่สวยน่ะเหรอ”“เฮอะ~ ไม่รู้จริงๆ?”“ก็นั่นมันอดีต”“ฟิน!”“ครับๆๆ ผมตั้งใจสอบให้ได้คะแนนแย่ๆ”“ทำไม”“เรียกร้องความสนใจมั้ง”“แค่นั้นจริงเหรอ”“ก็ไม่หรอกแต่ขอไม่พูดได้ไหม”“อืม”เมื่อเห็นแววตาที่แฝงความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ของเขาสุดท้ายเมธาวีก็เลือกที่จะไม่คาดคั้นเอาคำตอบอีก“ที่ผมยอมตั้งใจเรียนอีกครั้งเพื่อพี่นะ…ดังนั้น”“…”“ขอรางวัลหน่อยสิครับ”“รางวัล? จะเอารางวัลอะไรละ”“หลับตาก่อน”“ทำไมต้องหลับตาด้วย”แม้จะบ่นไปอย่างนั้นแต่เมธาวีก็ยอมทำตามที่เด็กหนุ่มบอกอย่างว่าง่าย“อ๊ะ! อื้อ~”ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อถูกท่อนแขนแกร่งอุ้มเธอขึ้นนั่งที่ตักของเขาแล้วบดจูบที่ริมฝีปากบางของเมธาวีอย่างอ่อนโยน หลอกล่อให้คนพี่คล้อยตามที่เขาทำอย่าง
“โอเค โอเค โอเคๆๆๆ ไม่รัก! ไม่รักก็ไม่ต้องรัก!”ฟีนิกซ์ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างยั้งไม่อยู่ เมธาวีที่เห็นอย่างนั้นได้แต่ขยับถอยหนีคนตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว“ถึงพี่จะไม่รักผมแต่พี่ก็ต้องอยู่ที่นี่ ผมจะไม่ยอมให้พี่ไปจากผม”พูดจบฟีนิกซ์ก็อุ้มร่างเล็กขึ้นอย่างง่ายดาย แม้เจ้าของร่างเล็กจะพยายามดิ้นหนีแต่ก็ไม่เป็นผลตุ๊บ! ฟีนิกซ์ทิ้งร่างเล็กลงกับเตียงเต็มแรงก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไปโดยไม่ลืมใส่รหัสล็อกเอาไว้ เมธาวีที่จุกจากการกระแทกไม่อาจวิ่งตามออกไปได้ทัน“ฟินปล่อยฉันออกไปนะ นายจะมาขังฉันไว้แบบนี้ไม่ได้”ฝ่ามือเล็กทุบประตูร้องเรียกคนด้านนอกที่ดูจะขาดสติยั้งคิดไปแล้ว แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับมา“ฟินได้ยินไหม บอกให้เปิดประตู”ไม่ว่าจะร้องเรียกอย่างไรก็ไร้เสียงตอบรับสุดท้ายเมธาวีก็ยอมแพ้แล้วกลับไปรอแฟนหนุ่มที่เตียงเมธาวี Talkeนับตั้งแต่ฉันบอกเลิกฟินไปครั้งนั้นฟินคนเดิมของฉันแทบจะไม่หลงเหลือให้เห็น เขาใจร้ายใจ ใจร้ายกับฉันมากแต่ฉันไม่โกรธเขาสักนิด แม้ว่าเขาจะเป็นอย่างไรฉันก็จะยังรักเขาเพราะเขาไม่ได้อยากร้ายกับฉันหรอก ฉันเชื่อแบบนั้น ที่เขาทำแบบนั้นก็เพราะเขาเมาต่างหากแกร๊ก~เสียงเปิดประตูห้อ
“คุณพ่อต้องการเพิ่มเท่าไหร่ครับ”ฟีนิกซ์ถาม“ขอเพิ่มสักแสนได้ไหมครับ”“อืม ถ้าขาดเหลืออะไรก็มาหาผมอย่ายุ่งกับพี่เมย์ก็พอ”ในขณะที่พูดฟีนิกซ์ก็เขียนเช็คตามจำนวนที่บิดาของแฟนสาวต้องการไปด้วย เงินน่ะเขาสามารถให้ได้แลกกับความสุขของคนรักเขายินดีอยู่แล้ว“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาครับ”“ขอบคุณครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมของตัวนะครับ”“เอ่อ…”“…”“ผมอยากได้รถสักคัน…จะได้ไหม”“เดียวผมให้คนจัดการให้”พูดจบฟีนิกซ์ก็เดินออกจากอาคารเรียนไปโดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีร่างเล็กของคนรักหลบอยู่ที่มุมตึกจุดที่เขาเดินผ่านไปน้ำตาไหลกลิ้งลงตามแก้มนวลอย่างน่าสงสาร ทุกอย่างที่พ่อและแฟนหนุ่มคุยกันเมธาวีได้ยินมันทั้งหมดความจริงวันนี้เป็นวันเกิดของเมฆาเมธาวีตั้งใจจะมาชวนแฟนหนุ่มไปเตรียมงานวันเกิดให้ลูกชายตัวน้อยด้วยกันแต่กลับมารู้ว่าเขาปิดบังเธอเรื่องพ่ออยู่“ทำไมฟินต้องทำเพื่อฉันขนาดนี้ เดือนละสองแสนพ่อยังมาขอเขาเพิ่มอีกฉันเป็นภาระของนายชัดๆเลยนะฟิน”ทั้งที่เขาทั้งเรียนอย่างหนักถึงสองคณะควบกันคือคณะวิศวกรรมศาสตร์กับเรียนคณะบริหารธุรกิจยังต้องทำงานที่ผับถึงสามสาขาแทบจะไม่มีเวลานอนด้วยซ้ำแต่เงินที่เขาหามาได้กลับเอามาใ
หลังจากกลับมาถึงห้องฟีนิกซ์ก็จัดการง้อแฟนสาวอย่างถึงใจกว่าจะยอมปล่อยให้หญิงสาวได้พักก็กินเวลาร่วมชั่วโมง“รอยนี่คือรอยฟันใช่ไหม”เมธาวีลูบผิวกายจุดที่มีรอยแผลเป็นอย่างเบามือราวกับกลัวว่ามันจะทำให้แฟนหนุ่มเจ็บปวดทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าแผลเป็นนี้มันไม่เจ็บแล้ว“อืม”ฟีนิกซ์ตอบอย่างไม่ใส่ใจมากนักแต่คนถามกลับใจวูบโหวงเมื่อได้ยินอย่างนั้น“เจ็บมากไหม”ฟีนิกซ์ส่ายหน้าเบาๆเป็นคำตอบ เขาไม่คิดจะเล่าที่มาของรอยแผลเป็นนี้หากแต่เห็นดวงตาสั่นระริกของคนรักสุดท้ายเขาก็ยอมเล่าในสิ่งที่คนนอกไม่เคยรู้นอกจากคนในครอบครัวและเด็กชายคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นซึ่งเขาจำเด็กชายคนนั้นไม่ได้แล้ว“รอยฟันย่าผมน่ะครับ”“0_0”“สบายใจได้ ย่าผมเป็นผู้หญิงที่ใจดีสุดๆเลยครับ ย่ารักผมมากๆเลยนะ รักจนยอมตายแทนผมได้…และย่าก็ตายแทนผมจริงๆ”เพียงได้เห็นแววตาสั่นไหวของคนรักฟีนิกซ์ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังตีความหมายไปในทางใดจึงรีบอธิบายต่อโดยที่เมธาวีไม่ต้องเอ่ยถาม“ฟะ ฟินไม่ต้องเล่าก็ได้นะ”“พี่ไม่อยากฟังเรื่องของผมเหรอ”มือหนาลูบศีรษะทุยเล็กอย่างอ่อนโยนไม่ได้รู้สึกแย่สักนิดที่จะเล่าเรื่องราวในชีวิตของตนให้อีกฝ่ายฟัง
งานปัจฉิมนิเทศของโรงเรียนนานาชาติชื่อดังถูกจัดขึ้นเรียกได้ว่าหรูหราเลยทีเดียวมีคนดังมาร่วมงานค่อนข้างเยอะรวมไปถึงเหล่านักธุรกิจต่างก็มากันเยอะเพราะนี่คืองานฉลองวันเรียนจบของลูกหลานคนมีอันจะกิน เมื่อพิธีการช่วงเช้าจบลงก็ถึงเวลางานเลี้ยงในช่วงเย็นเด็กๆที่จบการศึกษาและผู้ปกครองต่างสวมชุดประทินโฉมกันอย่างสวยงามหรูหรา“วันนี้คุณเมธาวีสวยจังเลยครับ”ฟีนิกซ์มองคนรักด้วยสายตาชื่นชมปนหลงใหล วันนี้เมธาวีอยู่ในชุดราตรีเกาะอกเข้ารูปสีดำยามสะท้อนกับแสงไฟเป็นประกายระยิบระยับชวนต้องหันมอง ทั้งท่วงท่าการเดินก็สง่างามดุจนางพญา สวย! บอกได้คำเดียวว่าสวย“คุณฟีนิกซ์ก็แต่งตัวแปลกตามากเลยนะคะ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลย”วันนี้ฟีนิกซ์อยู่ในชุดทักสิโดสีดำดูโดดเด่นจนสาวๆจ้องกันตาเป็นมัน“แค่นี้?”“หล่อมากค่ะ…หล่อจนอยากกลับห้องแล้ว”“พูดแบบนี้กลับกันเถอะแข็งพอดี”“บ้า!”“พี่อยู่ได้ใช่ไหมผมขอไปรวมตัวกับเพื่อนสักหน่อยแล้วจะกลับมาหานะครับ”“ไปเถอะเดี๋ยวเฟรย่าก็มา จัสมินก็มา”“หือ?”“เฟรย่ามาเปิดงานแทนพี่ชายน่ะ ส่วนจัสมินกำลังจะย้ายมาสอนที่นี่”“อ่อ”การเปิดงานดำเนินการจนจบในส่วนพิธีการหลังจากนั้นก็ถึงเ
ความรักของเมธาวีและฟีนิกซ์ดำเนินไปอย่างราบรื่นจนในวันนี้วันที่มารดาของชายหนุ่มปรากฏตัวที่คอนโดมิเนียนของบุตรชายโดยไม่ได้บอกกล่าวเมธาวีที่นั่งรับหน้าอยู่ถึงกับเหงื่อซึมตามขมับบางทั้งที่อากาศเย็นขนาดนี้เหงื่อกลับไหลออกมาราวกับต้องทนกับสภาพอากาศร้อนจัดเสียอย่างนั้น ความกดดันนี้เมธาวีเองก็พึ่งเคยประสบ ตอนพบฟอลเคิลซึ่งเป็นปู่ของชายหนุ่มกลับไม่ได้รู้สึกกดดันขนาดนี้ “เธอทำแบบนี้เธอคิดดีแล้วเหรอ หึ นี่คงคิดจะมาเกาะลูกชายฉันสินะ”นานหลายนาทีกว่าทิพย์อาภาจะยอมปริปากพูดกับหญิงสาว“ไม่ใช่นะคะ”เมธาวีรีบร้อนปฏิเสธแต่ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรในเมื่ออีกฝ่ายได้ตัดสินเธอไปแล้ว“เงียบ! ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวจากเธอ”แค่ได้ยินคำปฏิเสธเพียงไม่กี่คำก็สร้างความเดือดดาลให้กับนักธุรกิจแถวหน้าได้อย่างง่ายดาย ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นได้ไหนลูกชายจะมีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้วอีก“…”“เธออายุเท่าไหร่ ลูกชายฉันอายุเท่าไหร่ เธอเองก็มีวุฒิภาวะมากกว่าลูกชายฉันทำไมไม่รู้จักหักห้ามใจ”“เมย์ขอโทษค่ะ”เมธาวีเองก็ไม่ได้อยากให้ใจไปรักคนเพียบพร้อมในทุกด้านอย่างฟีนิกซ์เลยแต่ใจมันดันรักไปแล้ว“เธอต้องการเงินเท่าไ
ความรู้สึกคับแน่นที่ช่องทางรักเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขากำลังจะต่อบทรักกับเธออีกครั้ง"จะ เอาอีกเหรอ"เมธาวีถามน้ำเสียงตะกุกตะกักเพราะนอกจากเจ้าโลกจะขยายตัวแล้วมันยังกระตุกเร้าอารมณ์เธออีกด้วย“อืม”“งะ งั้นสตาร์รถก่อนไหม…”นิ้วเรียวสวยชี้บอกเพราะกลัวจะขาดอากาศหายใจตายเสียก่อนที่คนตัวโตจะกินอิ่ม“หึ~”ฟีนิกซ์หัวเราะหึในลำคออย่างชอบใจก่อนจะเอื้อมมือไปกดปุ่มสตาร์ทอีกครั้งหากไม่เห็นว่ามีรถแปลกตาจอดอยู่ด้วยเขาจะลากคนพี่ออกไปกินต่อด้านนอก เพราะในรถมันคับแคบเกินไป“รอบนี้ทำเองนะ”สิ้นคำบทรักบทแล้วบทเล่าก็บรรเลงบทแล้วบทเล่าราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย“พี่ใส่ชุดแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน…เหมาะมาก”ฟีนิกซ์เอ่ยบอกในตอนที่คนพี่สวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว“หือ”เมธาวีถึงกับต้องหันมองคนพูดอย่างแปลกใจ ก่อนออกไปบ่นเธอแทบจะทะเลาะกัน ทำไมตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ“ใส่แล้วเซ็กซี่ดี”“-///-”“ใส่แล้วเราเหมาะสมกันดี”“เหมาะสมกัน?”แม้จะรู้สึกเขินกับคำชมใหม่ของคนรักแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าแค่เพียงเธอแต่งตัวแบบนี้มันจะเหมาะสมกันได้อย่างไรแต่ความสงสัยของหญิงสาวก็ค้างคาอยู่ได้ไม่ได้เมื่อฟีนิกซ์เอ่ยต่อ
หลังจากทำแผลเสร็จทั้งคู่ก็ตรงกลับบ้านทันทีโดยมีเมธาวีทำหน้าที่เป็นสารถีขับรถให้กับคนเจ็บเมื่อรถแล่นออกมาจากเขตรั้วโรงพยาบาลเด็กหนุ่มที่แค่เห็นร่างบางในชุดน้อยชิ้นก็เริ่มจินตนาการถึงกิจกรรมเข้าจังหวะของเธอกับเขาขึ้นอีกจนได้เพียะ!~ฝ่ามือเล็กฟาดลงที่ข้อมือของแฟนหนุ่มเมื่อถูกมือซนๆบีบขย้ำเต้าอวบไม่รู้จักเวลา นี่ไม่กลัวรถคว่ำตายหรือไงใครมันจะทนโดนบีบโดนขย้ำหน้าอกโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรได้ นี่คนนะไม่ใช่พระอิฐพระปูน“เอามือออกไปเลยนะ”ตีก็แล้ว หยิกก็แล้ว ไม่สะทกสะท้านสักนิดยอมในความหื่นของเขาจริงๆ“นิดเดียว”ถึงจะโดนฟาดก็ไม่ถอยหรอก ไม่เห็นจะเจ็บสักนิดแต่แสบจนข้อมือแดงเลย แต่เพื่อลูกชายที่น่าสงสารภายใต้กางเกงราคาแพงไอ้ฟินต้องอดทน!“เฮอะ~ นิดแบบไหนละ นิดแบบให้พี่แค่พอลุกไหวเหรอ”เมธาวีประชดประชันแฟนหนุ่มอย่างหมั่นไส้“โถ่~พี่เมย์ ผมยังหนุ่มยังแน่นพี่จะใจร้ายให้ผมกลายเป็นคนเก็บกดหรือไง”“เก็บไว้ใช้ตอนแก่บางก็ได้นะ”ดวงตากลมกลอกตามองบนอย่างเอือมระอา อุตส่าห์พาออกมาเที่ยวผ่อนคลายกลับกลายเป็นสร้างปัญหาให้เขาแถมความหื่นก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลย“ใช่สิผมมัน”“ทำไม! จะงอแงอะไรอีก”“ผมมันเงี่ยน”
“ถ้าคิดว่าแน่ก็เข้ามา”ฟีนิกซ์บอกอย่างท้าทาย“เฮอะ~ ปากดีนักนะมึง เฮ้ย! พวกแกว่าไงจะปล่อยเด็กนี่ไหม”ชายคนเดิมพูดเย้ยหยันให้กับเด็กหนุ่มโดยไม่รู้ตัวเลยว่าตนกำลังก้าวขาลงสู่หายนะ“ปล่อยก็เสียหมาสิวะมันหยามเราขนาดนี้”ชายคนเดิมยังคงประกาศกร้าวอย่างท้าทาย“หึ”ฟีนิกซ์เหยียดยิ้มเย้ยหยันในความกร่างไม่รู้จักที่ของชายแปลกหน้า“ฟินอย่ามีเรื่องเลย”ทันทีที่ได้ยินคำห้ามปรามของแฟนสาวฟีนิกซ์ก็ตวัดสายตามองเธออย่างไม่พอใจ หากกลุ่มคนเหล่านั้นยกพวกมาท้าต่อย เขายังไม่โกรธเท่าคนพวกนี้ไม่ให้เกียร์ติคนรักของเขา“ก็เรื่องมันเข้ามาหาเราเองนี่ครับ”สายฟ้าบอกกับแฟนสาวของเพื่อนโดยมีคิมหันต์พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย“ไม่ต้องห่วงหรอกครับพวกผมเอาอยู่”เพชรกล้าเอ่ยเสริมอีกคน“แต่พวกนั้นมีเป็นสิบเลยนะ”เมธาวีบอกอย่างเป็นกังวล“แค่นั้นเองมากกว่านี้พวกผมก็ผ่านมาแล้ว”สายฟ้าบอกกับเมธาวีสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนใดๆ“ไม่ต้องห่วง ผมช่วยอีกแรง”ภูผาเองก็รู้สึกโกรธแทนและแน่นอนว่าเขาโกรธยิ่งกว่าก็ตอนที่แฟนสาวของตนโดนผลัก“พี่เชื่อใจผมนะ ผมจะปกป้องพี่เอง”"อือ แต่...พี่ไม่อยากเห็นฟินเจ็บเพราะพี่เลย"พูดยังไม่ทันจะจบประโยคดีน้ำตาเจ
“แฟนใครเนี่ยน่ารักชะมัด”เมธาวีหยิกแก้มแฟนหนุ่มไม่แรงนักด้วยความหมั่นเขี้ยว“น่ารักก็รักมากๆนะครับ”“มากอยู่แล้ว”หญิงสาวพูดอย่างเอาอกเอาใจแฟนหนุ่ม สร้างความพอใจให้แฟนหนุ่มไม่น้อย“หึ”“วันนี้ถ้าเป็นเด็กดีคืนนี้เดี๋ยวมีรางวัล”หญิงสาวบอกกับแฟนหนุ่มน้ำเสียงเย้ายวนอย่างสื่อความหมาย“หึ ข้อเสนอน่าสนใจ”เด็กหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจ“ไอ้ห่า หมดเลยราชสีห์กู”คำพูดของพระรามเรียกรอยยิ้มขบขันจากอีกสองเพื่อนรักได้อย่างง่ายดาย“ปล่อยมันเถอะ แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรออย่างน้อยมันก็ไม่ไปต่อยตีเหมือนแต่ก่อนไหมวะ”คิมหันต์บอก“ได้ข่าวว่ามึงก็ไปกับมันไอ้คิม”พระรามว่าอย่างเบื่อหน่ายเมื่อนึกถึงพฤติกรรมของเพื่อนทั้งสองและก็ต้องเป็นเขากับสายฟ้าที่ต้องไปลากตัวเพื่อนทั้งสองกลับมาไม่งั้นคู่อริอาจตายค่ามือเพื่อนทั้งสองได้“นี่ๆเลิกหวานกันสักสองสามชั่วโมงได้ไหมวันนี้ขอสนุกสักวันนะ”เฟรย่าที่นานๆทีจะได้ออกมาเที่ยวอดไม่ได้ที่จะไปปลดปล่อยอารมณ์ตามวิถีสาวรักสนุกแม้จะมีแฟนหนุ่มติดสอยห้อยตามมาด้วยก็ตามที“วันนี้ขอหนึ่งวันนะ นะคะเด็กดี”แค่เพียงโดนลูกอ้อนของแฟนสาวไม่ว่าอะไรเด็กหนุ่มมีหรือจะปฏิเสธคนพี่ได้ลง“จูบ