หลังจากทั้งคู่ตกลงคบหากันนี่ก็ผ่านมาหลายสัปดาห์แล้ว ทั้งคู่ไม่ได้เกินเลยกันมีเพียงความรู้สึกเท่านั้นที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและที่สำคัญการที่เมธาวีมาอยู่ที่คอนโดกับฟีนิกซ์มันก็ทำให้เธอมีเวลาติวเข้มให้กับเด็กหนุ่มที่ไม่ค่อยจะสนใจฟังที่เธอสอนสักเท่าไหร่ แต่พอให้ทำแบบฝึกหัดกลับทำได้ทั้งหมดภายในเวลาอันรวดเร็วแต่มักมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอเขาถึงยอมทำในช่วงเย็นเมธาวีที่กำลังทำอาหารเย็นรอเจ้าของห้องอย่างตั้งใจต้องชะงักมือเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงกอดกระชับที่ขาของตนเองก่อนจะก้มลงมองที่สัมผัสนั้น“น้องเมฆ” เมธาวีที่เห็นลูกชายตัวน้อยรีบวางมือจากการทำอาหารด้วยความดีใจมือไม้ที่เคยมั่นคงก็สั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้ นานหลายสัปดาห์ที่เธอต้องห่างบุตรชายเธอคิดถึงมากคิดถึงแต่ก็ไม่สามารถไปหาได้เพราะเหตุผลเหล่านั้น“อุ้มๆๆ” ทันทีที่เด็กชายตัวน้อยเห็นผู้เป็นแม่เขาก็วิ่งเข้ามากอดที่ขาของมารดาอ้อนให้อุ้มด้วยความคิดถึง“น้องเมฆ อึก” ทันทีที่ได้อุ้มแก้วตาดวงใจขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนน้ำตาแห่งความยินดีก็รินไหลออกมาจากดวงตากลมอย่างห้ามไม่อยู่“ถ้าพี่ร้องอีกผมจะให้คนพาเมฆกลับ”“อึก” สิ้นคำขู่เมธาวีก็รีบกลืนก่อนสะอื้นลงคอแทบจะทั
ดวงตากลมจ้องมองกระดาษคำตอบที่มีผลร้อยคะแนนเต็มก็แปลกใจในผลคะแนนอยู่ไม่น้อย เก่งขนาดนี้ทำไมต้องมีติวเตอร์ส่วนตัวอีกจากที่เธอสังเกตฟีนิกซ์แทบจะไม่สนใจที่เธอสอนด้วยซ้ำ ดังนั้นเธอมั่นใจว่าเขาต้องเก่งในระดับหนึ่งเลยแต่สาเหตุที่เขาผลการเรียนแย่คืออะไรกัน“หือ…ร้อยคะแนนเต็มเลยเหรอ”“ครับ”“นี่แสดงว่าที่เหมยลี่พูดวันนั้นก็จริงน่ะสิ”“ที่ว่าพี่สวยน่ะเหรอ”“เฮอะ~ ไม่รู้จริงๆ?”“ก็นั่นมันอดีต”“ฟิน!”“ครับๆๆ ผมตั้งใจสอบให้ได้คะแนนแย่ๆ”“ทำไม”“เรียกร้องความสนใจมั้ง”“แค่นั้นจริงเหรอ”“ก็ไม่หรอกแต่ขอไม่พูดได้ไหม”“อืม”เมื่อเห็นแววตาที่แฝงความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ของเขาสุดท้ายเมธาวีก็เลือกที่จะไม่คาดคั้นเอาคำตอบอีก“ที่ผมยอมตั้งใจเรียนอีกครั้งเพื่อพี่นะ…ดังนั้น”“…”“ขอรางวัลหน่อยสิครับ”“รางวัล? จะเอารางวัลอะไรละ”“หลับตาก่อน”“ทำไมต้องหลับตาด้วย”แม้จะบ่นไปอย่างนั้นแต่เมธาวีก็ยอมทำตามที่เด็กหนุ่มบอกอย่างว่าง่าย“อ๊ะ! อื้อ~”ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อถูกท่อนแขนแกร่งอุ้มเธอขึ้นนั่งที่ตักของเขาแล้วบดจูบที่ริมฝีปากบางของเมธาวีอย่างอ่อนโยน หลอกล่อให้คนพี่คล้อยตามที่เขาทำอย่าง
“เกิดอะไรขึ้นครับนายน้อย”“หลังร้าน”ฟีนิกซ์ตอบกลับลูกน้องคนสนิทของปู่โดยไม่หยุดเท้าที่กำลังวิ่งอยู่อย่างเร่งรีบ ในใจได้แต่ภาวนาขอให้หญิงสาวสู้รอจนกว่าเขาจะไปถึง สายตาคมกวาดสายตาไปรอบบริเวณเพื่อหาคนที่เขาเป็นห่วงอย่างกระวนกระวายส่วนลูกน้องของปู่ที่ตามมาก็แยกย้ายกันออกตามหาทั้งที่เจ้านายของเขายังไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่ากำลังหาอะไร แต่ด้วยคอยอารักขาหลานชายเจ้านายอยู่ไม่ห่างพวกเขาจึงรู้ความเคลื่อนไหวของนายน้อยตนอยู่แล้ว“ยะ อย่ายุ่งกับฉัน”เสียงแววดังมาตามสายลมราวกับเสียงกระซิบแต่ฟีนิกซ์ก็จำได้ดีว่านี่คือเสียงของเมธาวีอย่างแน่นอน เด็กหนุ่มจึงวิ่งไปยังจุดที่ได้ยินเสียงของเมธาวีซึ่งตอนนี้เธอกำลังถูกฉุดกระชากให้ขึ้นรถตู้สีดำซึ่งจอดอยู่ทางด้านหลังร้านโดยมีกลุ่มชายชุดดำอยู่บริเวณนั้นนับสิบคนแต่ฟีนิกซ์ก็ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวสักนิด“มึงปล่อยเธอเดี๋ยวนี้”ฟีนิกซ์ประกาศกร้าวอย่างเดือดดาลยิ่งหันไปเห็นรอยแดงที่ข้อมือเล็กเขายิ่งอยากจะฆ่าพวกมันทุกคนให้ตายลงตรงหน้าเขาเสียเดี๋ยวนี้“มึงเป็นใคร”หนึ่งในกลุ่มชายชุดดำตะคอกเสียงถามด้วยความโกรธเคืองเป็นแค่เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมบังอาจมาสั่งเขา งั้นเหรอ มือหยาบกร้
"พวกมึงคิดดีแล้วเหรอที่กล้าแตะต้องเธอ"ฟีนิกซ์หย่อนตัวลงนั่งที่โซฟามุมห้องก่อนจะเอ่ยพูดน้ำเสียงนิ่งเรียบฟังดูน่าเกรงขามและหยิ่งผยองจนคนฟังรู้สึกฉุนเฉียวขึ้นมา แต่ฟีนิกซ์ก็ไม่ได้ใส่ใจ"เฮอะ~ ไอ้เด็กเมื่อวานซืนหน้าอย่างมึงจะทำอะไรพวกกูได้""หึ~ กูทำไม่ได้หรอกแล้วก็ไม่คิดจะทำด้วย...แต่...กูจะให้คนอื่นทำแทนว่ะ"ฟีนิกซ์พูดพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างใจเย็น“ตอนแรกกูว่าจะแค่มาสั่งสอนแต่ตอนนี้กูว่าแค่สั่งสอนคงยังไม่พอ”“ฝากจัดการด้วยนะครับ”ฟีนิกซ์หันไปสั่งหลานชายลูกน้องคนสนิทของผู้เป็นปู่ก่อนจะเดินออกจากโกดังไปเพียงลำพังมุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่แฟนสาวของเขากำลังพักรักษาตัวอยู่ณ โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งร่างเล็กค่อยๆเปิดเปลืองตาขึ้นด้วยความยากลำบากทั้งยังรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นเร็วผิดปกติจนเหงื่อไหลซกราวกับออกกำลังกายมาอย่างหนัก"ฟิน"ริมฝีปากเล็กเรียกเด็กหนุ่มเสียงแหบแห้ง"ตื่นแล้วเหรอเป็นไงบ้าง"ฟีนิกซ์ยื่นน้ำให้หญิงสาวดื่มแก้กระหายเพราะน้ำเสียงเธอแหบแห้งจนเขาอดห่วงไม่ได้"รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวไม่หายเลย"เพราะฤทธิ์ยายังคงหลงเหลืออยู่ภายในร่างกายทำให้ร่างเล็กเผลอกั
ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากเล็กอวบอิ่มอย่างหิวกระหาย ยิ่งได้สัมผัสเนื้อตัวสาวเลือดในกายหนุ่มก็ยิ่งพลุ่งพล่าน เรียวลิ้นสากเกี่ยวกระหวัดเรียวลิ้นเล็กตามสัญชาตญาณความเป็นหนุ่มราวกับผู้เชี่ยวชาญ มอมเมาคนพี่ให้หลงเข้าไปในวังวนของอารมณ์สวาทจนเผลอลืมเลือนความหวาดกลัวไปชั่วขณะ เมื่อเห็นว่าคนพี่คลายความหวาดกลัวลงแล้วฟีนิกซ์จึงเลื่อนมือสัมผัสสองเต้าอวบแผ่วเบาอย่างหลงใหลลากไล้มือสากไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของกายสาวจนไปหยุดอยู่ที่บั้นท้ายงอนงามแล้วบีบขย้ำบั้นท้ายกลมกลึงอย่างหมั่นเขี้ยว"ทำต่อสิครับ"เมื่อคนพี่ที่เผลอไผลไปกับแรงอารมณ์หยุดมือที่กำลังปรนเปรอตน เด็กหนุ่มจึงผละจูบจากริมฝีปากเล็กเพื่อเอ่ยกระตุ้นคนพี่ เมธาวีที่ได้ยินดังนั้นก็เริ่มขยับมือเล็กอีกครั้ง"อะ อ๊า~"“เก่งจัง แค่นี้ผมก็แทบจะแตกแล้ว”มือหนาบีบขย้ำสองเต้าอวบอิ่มอย่างหลงใหลมันช่างเหมาะพอดีมืออะไรอย่างนี้“อื้อ~ เบาหน่อยจะบีบให้แตกเลยหรือไง”ร่างเล็กค่อนขอดเมื่อถูกมือหนาทรมานสองเต้าอวบ แต่คนทำกลับไม่สะทกสะท้านสักนิด ทั้งยังรู้สึกถูกใจด้วยซ้ำ“หิว”“-///-““ขอชิมหน่อยได้ไหม”“อ๊า~”ทันทีที่ยอดปทุมถันถูกครอบครองด้วยริมฝีปากร้อนฉ่าเล
“ชิมไหม”วันนี้เมฆาไปค้างที่บ้านพ่อของเขาทำให้เมธาวีรู้สึกเบื่อๆเลยทำขนมปังกรอบไว้ทานเล่นแก้เบื่อและเอามาทานเล่นระหว่างดูหนังกับฟีนิกซ์“ครับ^^”“กินดีๆสิเลอะหมดแล้ว”เมธาวีใช้มือเช็ดเศษขนมปังกรอบออกจากริมฝีปากหนาของเด็กหนุ่มเรียกรอยยิ้มพอใจจากคนน้องได้อย่างง่ายดาย“ครับๆๆ ป้อนอีกหน่อย”เด็กหนุ่มยังคงออดอ้อนคนพี่อย่างไม่รู้สึกเก้อเขิน ว่างเป็นหยอดมีโอกาสเป็นต้องหากำไลจนคนพี่เริ่มชินชากับความทะเล้นของเขา หึ มีแฟนเด็กมันกระชุ่มกระชวยหัวใจดีเหมือนกันแฮะ“นี่ฉันได้แฟนหรือได้ลูกมาเพิ่มกันแน่เนี่ย”แม้ปากจะบ่นแต่มือก็หยิบป้อนแฟนหนุ่มอย่างไม่อิดออด ก็เขาน่ารักขนาดนี้ใครจะอดใจไหว“ถ้าพี่ลองให้ผม…ก็น่าจะได้ทั้งลูกได้ทั้งแฟนนะครับ”“ทะลึ่ง!”คนพี่ถลึงตาใส่แต่คนพูดกลับลอยหน้าลอยตาได้อย่างน่าหมั่นไส้“ลองดูกันไหมครับ”“ฟินหยุดพูดเลย”“ไม่ลองดูหน่อยเหรอครับ”“ฟินถ้าไม่หยุดพูด ไม่คุยด้วยแล้วนะ”“โอเคๆๆ ยอมแล้วครับ”“แล้วจะกินอีกไหมเนี่ย”“ป้อนก็กินไม่ป้อนจะกินพี่แทน”“เด็กทะลึ่ง”“ทะลึ่งกับพี่คนเดียวนะครับ”“ขอให้จริงเถอะ”“จริงแท้แน่นอน”ไม่พูดเปล่าเด็กหนุ่มยังยักคิ้วหยอกล้อคนพี่ต่ออีก
วันเวลาผ่านไปความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆยิ่งตัวฟีนิกซ์ยิ่งทั้งรักทั้งหวงคนพี่จนแทบจะไม่ยอมออกไปไหนเอาแต่เกาะติดคนรักด้วยความหวงแหนจนบ่อยครั้งที่เพื่อนๆของเขาต้องมาลากตัวไปถึงที่“ไปงานปัจฉิมนิเทศผมไหม”ฟีนิกซ์ถามในขณะที่หญิงสาวยังคงอ่านแผนการสอนอย่างเคร่งเครียดดึงความสนใจเธอให้มายังเด็กหนุ่ม “อยากให้ไปเหรอ”ไม่ได้อยากจะคิดเล็กคิดน้อยแต่การที่เธออายุมากกว่าเด็กหนุ่มถึงห้าปีย่อมถูกมองไม่ดีจากสังคมภายนอกแม้ว่ามันจะไม่ใช่กับทุกคนที่คิดแบบนั้นแต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่คิดเช่นกัน“อืม”เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงหนุนตักคนพี่แทนหมอนก่อนดวงตาคมจะหันมาเผชิญหน้าด้วยช้อนตาขึ้นมองหญิงสาวแววตาแน่วแน่“ไม่อายเหรอที่”ไม่ทันจะได้พูดจนจบประโยค ฟีนิกซ์ก็รู้ได้ทันทีว่าคนพี่จะสื่ออะไร“ไม่อายหรอกอยากให้เมียไปด้วย อยากให้อยู่ในทุกช่วงเวลาดีๆของชีวิตเลย อยากให้ทุกคนรู้ว่านี่แหละคือคนรักของผม”“ขนาดนั้นเลยเหรอ”เมธาวีที่ได้ฟังถึงกับหุบยิ้มไม่ได้เธอรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ได้รับความรักจากคนคนนี้“พี่รู้ไหมว่าที่ผมยอมกลับมาตั้งใจเรียนเป็นเพราะพี่เลยนะ”“ทำไมละ”“เพราะผมอยากจะเป็นที่พึ่ง
เสียงเพลงที่กำลังบรรเลงอย่างเมามันไม่สามารถขับกล่อมให้เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาให้หายจากอารมณ์หงุดหงิดได้เลยมิหนำซ้ำเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มอยู่นั้นยิ่งกระตุ้นอารมณ์หงุดหงิดของเขาเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก“เป็นอะไรของมึงหน้าอย่างกับตูด”พระรามที่เพิ่งเช็คสต๊อกเครื่องดื่มเสร็จเดินเข้ามาหย่อนตัวนั่งตรงข้ามกับฟีนิกซ์เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยต่างจากสายฟ้าที่อดขำไม่ได้เมื่อนึกถึงสีหน้าของเพื่อนรักกับแฟนสาวของเพื่อนมาถึง“มึงก็เหมือนกันไอ้สายฟ้าเป็นห่าอะไร นี่ขนาดแสงแค่นี้กูยังดูออกเลยมามึงกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดง”พระรามว่าให้เพื่อนรักอีกคนที่เอาแต่กลั้นขำไม่ไขข้อสงสัยในตัวฟีนิกซ์ให้หายข้องใจ“ไอ้คิมหันต์ช่วยเมตตากูเถอะบอกกูหน่อยว่าไอ้สองตัวนี้เป็นอะไร”พระรามที่ปล่อยความสงสัยเอาไว้นานๆไม่ได้จำต้องร้องขอคิมหันต์ให้ช่วยไขข้อข้องใจให้กระจ่างแต่ผลที่ได้นั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย“รอดูแล้วกันเดี๋ยวก็รู้”“ไอ้นี่ก็อีกคน ถ้ากูอยากรอกูไม่ถามมึงแต่แรกหรอก”“อยู่นี่กันนี่เองพี่เดินหาอยู่ตั้งนาน ขอนั่งด้วยนะคะเด็กๆ”เฟรย่าที่เพิ่งมาถึงเอ่ยทั้งทายเพื่อนๆของฟีนิกซ์พร้อมกับยิ้มให้อย่างเป็นมิตร“ขอร้องอย่าทำให้ผมโมโห
ภายในงานเลี้ยงหรูหราบรรยากาศชื่นมื่นเต็มไปด้วยความยินดีที่ต่างมาแสดงความยินดีกับบ่าวสาวโดยงานถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์ที่เป็นเรือนหอของทั้งคู่นั่นเอง“สวยมากเลยเมย์”เฟรย่าจับตัวเพื่อนสาวหันซ้ายหันขวามองหาจุดบกพร่องแต่ก็ไม่เจอแม้แต่จุดเดียว“ไร้ที่ติ”เฟรย่าบอกอย่างภูมิใจ“ขนาดลูกสองแล้วยังเป๊ะเว่อร์”จัสมินมองเพื่อนรักอย่างทึ้งๆ“เข้าใจกันผิดแล้วจ้ะ กำลังจะเป็นคุณแม่ลูกสาม”“ห๊ะ!”เฟรย่าร้องออกมาอย่างตกใจ“แหมมกลับมาเจอกันปุบก็ซัมกันหนักเลยนะ รีบมีเจ้าตัวเล็กเลยนะ”จัสมินเย้าแหย่เพื่อนรัก“มีสามีเด็กก็งี้แหละ กินอร่อยนะ”เมธาวีเย้าแหย่เพื่อนกลับโดยไม่ทันได้สังเกตว่าสามีเด็กเดินเข้ามาทันได้ยินพอดี“อร่อยขนาดนั้นเลย”น้ำเสียงทุ้มต่ำถามใบหน้านิ่งเรียบแต่ใบหูกลับแดงซ่านอย่างปิดไม่มิด“มาก ถึงใจสุดๆ”เมธาวีตอบกลับแบบไม่ต้องคิด“เมย์”เฟรย่าสะกิดเพื่อนเพื่อเตือนสติว่าพวกเขาไม่ใช่คนพูดประโยคนั้น“อะไรของแกยายเฟร""ผัวเด็กแก"ทันทีที่ได้ยินคำเฉลยของเพื่อนรักเจ้าสาวของงานถึงกับหน้าถอดสีกันเลยทีเดียว เขาจะหาว่าฉันลามกหรือเปล่าเนี่ยนั้นคือคำถามที่เมธาวีถามตัวเอง"งั้นพวกฉันไปรอในงานนะ"จัสมินบอ
ทันทีที่ความใหญ่โตถูกกระแทกเข้าช่องทางคับแคบฉ่ำน้ำร่างบางก็โผเข้ากอดเจ้าของการกระทำราวกับต้องการให้คนตัวโตปลอบแต่อีกฝ่ายกลับกระแทกกระทั้นเข้าใส่ร่องเล็กด้วยความกระสัน"อึก~ เบาหน่อยสิจุก"ร่างบางใบหน้าเหยเกเมื่อความใหญ่โตถูกถอนออกแทบจะหลุดออกจากกันก่อนจะกระแทกแทรกเข้ามาจนสุดลำอีกครั้ง“ก็หิว งั้นถ้าไม่อยากจุกก็กระแทกสิ”มาเฟียหนุ่มเอ่ยกระตุ้นให้ร่างบางปรนเปรอตนเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่นั่งนิ่ง“กระแทกผมสิครับพี่เมย์”คนตัวโตอ้อนเหมือนที่หญิงสาวชอบและทุกครั้ง เธอก็แพ้ลูกอ้อนแบบนี้ทุกทีแต่ครั้งนี้กลับผิดคาด หึ~ แต่ถ้าอ้อนไม่ได้ผลงั้นคงต้องบังคับสินะแต่วิธีบังคับในแบบของฟีนิกซ์นั้นเป็นการบังคับแบบเต็มใจเท่านั้นมันจึงจะถึงใจปึก~ ปึก~ ปึก~คนตัวโตกระแทกเอวสวนขึ้นใส่ร่องเล็กคับแคบจนร่างบางกระเด้งกระดอนไปตามแรงกระแทกกระทั้น“อื้อ~ จุก!”ร่างเล็กร้องประท้วงทันทีเมื่อถูกเล่นงานที่ใจกลางความเป็นสาวปัก! ปัก! ปัก!ร่างบางเริ่มขยับโยกส่งตัวตนเข้าช่องน้ำหวานเป็นจังหวะเนิบนาบ“ขอแรงอีกได้ไหมครับ”“มะ มันเสียว”แม้ปากจะปฏิเสธแต่สะโพกมนก็เร่งจังหวะกระแทกตามแรงอารมณ์ที่มีไม่ต่างจากคนร้องขอ“เมียผมแ
หลังจากเพื่อนๆของชายหนุ่มกลับไปทิพย์อาภาก็ถือโอกาสพูดเคลียร์ใจกับลูกสะใภ้เสียเลย"เมย์""คะ?""เรื่องเมื่อตอนนั้นแม่ขอโทษนะแม่ไม่คิดว่าสิ่งที่แม่ทำมันจะทำร้ายหนูขนาดนั้น"ทิพย์อาภาบอกอย่างรู้สึกผิด"เรื่องนั้นเมย์ไม่ได้คิดอะไรแล้วค่ะ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว""ขอบใจนะ""อีกอย่าง...คนที่ช่วยเมย์จากการถูกส่งขายอวัยวะก็คือคุณแม่นี่คะ"เมธาวียิ้มอ่อนให้กับแม่ของชายคนที่เธอรัก"ตอนนั้นเมย์ไม่มั่นใจว่าใช่คุณแม่ไหมแต่หลังจากที่เมย์ออกมาได้แล้วเมย์ก็มารู้ว่าคนที่ช่วยซื้อเมย์ออกมาก็คือเพื่อนของคุณแม่ ที่มีสามีชื่อชยันต์""...""หลังจากนั้นก็เป็นมาเฟียที่ชื่อชยันต์ที่รับตัวเมย์มาส่งคุณปู่เอง""เมย์พยายามจะบอกเรื่องนี้กับฟินในตอนนั้นแต่เขาก็หายหน้าไป""แม่ตั้งใจช่วยเมียผมแต่แรกแล้วเหรอ""อืม ก็ฟินรักเขาขนาดนั้นแม่จะปล่อยเขาเป็นอะไรไปได้ยังไง""...""ความสุขของฟินก็คือความสุขของแม่ ถึงแม้ความรักของแม่ฟินจะไม่ต้องการก็ตาม"คนเป็นแม่น้ำตาคลอด้วยความน้อยใจที่ลูกไม่เคยรักเธอเลย"ใครบอกว่าฟินไม่รักแม่"ฟีนิกซ์เดินเข้าไปสวมกอดคนเป็นแม่น้ำตาคลอ"ฟินรักแม่นะ รักมากด้วยฟินต้องการแม่มาตลอด"คนเป็
กว่าที่หมอจะยอมให้มาเฟียหนุ่มกลับบ้านได้ก็กินเวลาไปถึงหนึ่งสัปดาห์เต็ม พื้นที่แออัดในห้องพักสี่เหลี่ยมทำอารมณ์มาเฟียหนุ่มค่อนข้างหงุดหงิดทำให้พยาบาลที่เขามาทำหน้าที่ทำงานกันค่อนข้างลำบากเดือดร้อนหมอเดนิสต้องเขามาทำการรักษาให้แบบส่วนตัว“ครั้งหน้ากรุณาอย่าเจ็บนะครับหมอขอร้อง”เดนิสบอกมาเฟียหนุ่มด้วยความเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมเอาแต่ใจของคนไข้แต่คนไข้กลับไม่สะทกสะท้านสักนิด“แกเป็นหมอไม่มีสิทธิปฏิเสธคนไข้แบบฉัน”“คนไข้แบบแกหมอปกติที่ไหนจะรักษาได้”เดนิสมองฟีนิกซ์อย่างเบื่อหน่าย แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องเป็นเจ้าของไข้เพื่อนจอมเอาแต่ใจแต่ครั้งนี้ฟีนิกซ์ดันบ้ากว่าเดิมไม่เห็นเมียไม่ยอมล้างแผลไม่ยอมกินยา“คุณเมย์ได้กลับไปพักผ่อนบ้างไหมครับ”เมื่อพูดกับคนไข้ไปก็เปล่าประโยชน์เดนิสจึงหันมาสนใจหญิงสาวที่ใบหน้าอิดโรยราวกับคนอดหลับอดนอน“ไอ้หมอคุยกับคนไข้ก็พอครับอย่าเสือกยุ่งกับเมียคนไข้”“เฮ้อ~ ว่างก็ไปเช็คประสาทบ้างนะ”จากที่กำลังเป็นห่วงหญิงสาวเพียงคนเดียวในห้องพักผู้ป่วยเดนิสชักอยากจะพาเพื่อนตัวเองไปเช็คประสาทขึ้นมาแล้ว“ขอโทษแทนเขาด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรหรอกครับผมชินแล้ว ตอนอยู่อังกฤษมั
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงเย็นสองบอดี้การ์ดคนสนิท ก็เข้ามาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เจ้านายหนุ่มภายในห้องพักแต่ดูเหมือนว่ามีอยู่หนึ่งคนที่ท่าทางแปลกไปจนเจ้านายหนุ่มสังเกตได้“ปราบ”“ครับนาย"“เอเดนมันเป็นอะไรของมันมองฉันอย่างกับฉันไปหยิกไข่มัน”ตั้งแต่ตอนที่เดินเข้ามาพร้อมเมธาวีเอเดนก็เอาแต่มองค้อนเจ้านายหนุ่มไม่หยุดนี่ถ้าเป็นผู้หญิงเขาคงคิดว่าเอเดนงอนเขาอยู่แน่ๆ“เอ่อ”ปราบปรามกระอักกระอ่วนอยู่ไม่น้อยเพราะจะให้เขาตอบไปตามตรงก็กลัวจะทำให้เจ้านายไม่พอใจ“เฮอะ”พอได้ยินเจ้านายว่าตัวเองแบบนั้นความน้อยใจยิ่งเพิ่มขึ้นจนลืมความเกรงกลัวที่เคยมีต่อเจ้านายแถมยังสะบัดหน้าหนีผู้เป็นนายราวกับสาวน้อยงอนคนรัก“เอเดนแกอย่าทำแบบนี้ขอร้องฉันจะอ้วก”ฟีนิกซ์เห็นท่าทางของมือซ้ายคนสนิทอดขยาดไม่ได้ ตัวโตอย่างกับควายมาทำตัวเป็นสาวน้อยไปได้“ผมทำอะไรก็ไม่ดีในสายตานายหรอกครับ”พูดจบก็สะบัดหน้าหนีอีกรอบฟีนิกซ์ถึงกับกุมขมับกับท่าทางของเอเดน เรียกได้ว่าหมดคำจะพูด“ลากตัวมันออกไปเถอะฉันรำคาญลูกตา”“ครับนาย”ปราบปรามโค้งหัวให้เจ้านายเล็กน้อยแล้วเดินไปลากตัวเอเดนออกไปแต่เอเดนกลับไม่ยอมง่ายๆจนสุดท้ายฟีนิกซ์ก็จำต้องมา
เมธาวีเดินออกมาสูดอากาศในช่วงเช้ามืดเหมือนอย่างทุกวันแต่วันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูผิดแปลกไปหมดเริ่มตั้งแต่เด็กหนุ่มบ้านตรงข้ามจากที่เห็นเขากับพ่อจะมานั่งทำกิจกรรมยามเช้ากันในทุกๆวันแต่วันนี้ทั้งคู่กลับสวมสูทพร้อมกับยืนรักษาความปลอดภัยอยู่หน้ารั้วบ้านของเขาแทนแถมยังเอาแต่จ้องมองมาที่บ้านของเธอจนร่างบางรู้สึกประหม่าสุดท้ายเมธาวีก็เดินกลับเข้าบ้านแทนการไปสูดอากาศตามที่ตั้งใจตอนแรก“ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันมีหวังอึดอัดตาย”“อ้าวเมย์ทำไมวันนี้กลับเข้าบ้านเร็วจัง”“แม่เห็นบ้านตรงข้ามยังคะ”“อ่อ เห็นแล้ว”“แล้วแม่ไม่แปลกใจเหรอคะหรือกลัวไหมคะ”“จะกลัวทำไมละคนของพ่อเจ้าพาทั้งนั้น”“นี่แม่ก็รู้เหรอคะ”“รู้สิ”“…”“ก็พวกนั้นเขามากับเจ้านายเขาบ่อยๆน่ะ”“มาบ่อย? ตอนไหนทำไมเมย์ไม่รู้”“ก็ถ้าเมื่อก่อนรู้จะอยู่ที่นี่ต่อไหมล่ะ”“…”“ก็นั่นแหละพ่อเจ้าพาเลยไม่ให้ใครบอกเมย์รวมทั้งแม่ก็ด้วย”“งั้นก็แสดงว่าคนที่ไม่รู้อะไรเลยมีแค่เมย์สินะคะ”“อย่าไปโกรธพ่อเจ้าพาเลยลูก เขาก็ทำหน้าที่ของเขาเต็มที่แล้ว เจ้าพาเองก็ไม่ต้องทนรู้สึกขาดพ่อ”“อืม เมย์ไปชงโกโก้อุ่นๆดื่มก่อนนะคะ”“จ๊ะ”ผู้เป็นแม่มองตามลูก
“นายหญิงไปเยี่ยมนายหน่อยเถอะนะครับ นี่ก็สองวันแล้วนายยังไม่ยอมทานอะไรเลย”เอเดนยังคงพยายามอ้อนวอนนายหญิงของตน“ทนหิวไม่ไหวเขาก็กินเองแหละ”แต่เมธาวีกลับตอบเหมือนไม่ได้ใส่ใจ“แม้แต่แผลก็ไม่ยอมให้หมอตรวจเลยนะครับ”เอเดนเสริมอีกหน“ฉันไปมันก็ไม่ช่วยอะไรหรอก”เธอจะไปช่วยอะไรได้เมื่อไม่กี่วันก่อนก็เพิ่งโดนเขาไล่ตะเพิดมา“ได้สิครับนายรักนายหญิงขนาดนั้น”เอเดนถึงกลับสะบัดคอหันมองปราบปรามอย่างไม่เชื่อหูถึงเขาจะรู้ว่าหญิงสาวมีความสำคัญกับเจ้านายเขามากแต่ก็ยังไม่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำอย่างที่ปราบปรามพูด“ทำไมพี่กล้าพูดแบบนั้นเกิดนายอาละวาดต่อหน้าคุณเมย์จะทำไง”เอเดนกระซิบถามปราบปรามให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน“ไม่มีทาง”“พวกคุณกลับไปเถอะตอนนี้เขาคงแค่สับสน”“ถ้างั้นนายหญิงจำเรื่องเมื่อหาปีก่อนได้ไหมครับ ตอนที่นายหญิงหายไป รู้ไหมครับว่านายต้องแรกทั้งชีวิตเลยนะครับ”เมธาวีที่ไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดในตอนนั้นก็ได้แต่เงียบรอฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมสุดท้ายฟีนิกซ์ถึงยอมปล่อยมือจากเธออย่างง่ายดาย5 ปีก่อนทันทีที่รู้ว่าแฟนสาวหายตัวไปฟีนิกซ์ก็ออกตามหาถึงหนึ่งวันเต็มๆแต่กลับไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย สุด
“พายุ!”เด็กชายตัวน้อยที่ได้ยินเสียงเรียกอันคุ้นเคยรีบหันตามเสียงเรียก พายุที่เห็นพ่อของเขารีบวิ่งเข้าหาพ่อด้วยความหวาดกลัวฟีนิกซ์ก็รีบกอดเอาลูกรักมาไว้ในอ้อนแขน“พ่อ แม่ แม่เจ็บ”พายุบอกคนเป็นพ่อดวงตาแดงก่ำอย่าง น่าสงสาร แม้จะสงสารลูกชายตัวน้อยแค่ไหนแต่ตอนนี้เขาต้องหาตัวเมธาวีให้เจอก่อนโชคดีเหลือเกินที่ลูกชายวัยแค่สี่ขวบแต่สามารถสื่อสารได้เก่งมากๆ“แม่อยู่ไหน”คนเป็นพ่อถามลูกชายด้วยความกระวนกระวายใจก่อนจะได้สติเมื่อมือขวาคนสนิทเดินเข้ามาพอดี“เมียฉันอยู่ไหน!”“คุณเมย์ยังอยู่ข้างในครับ พวกนั้นมีปืนและมากันหลายคนผมเกรงว่าคุณเมย์จะได้รับอันตรายเลยยังไม่กล้าเข้าไปครับ”เป็นบอดี้การ์ดที่แฝงตัวอยู่คอยดูแลความปลอดภัยของหญิงสาวเป็นผู้รายงาน“บ้าชิบ! ปราบพาลูกฉันไป”ฟีนิกซ์สบถออกมาอย่างหัวเสียแต่ก็ไม่ลืมนึกถึงความปลอดภัยของลูกชาย“แต่..”ปราบปรามไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้เจ้าอยู่กับลูกน้องโดยปราศจากเขาคอยซัพพอร์ต“แกก็รู้ว่าอะไรสำคัญกว่าฉัน”ที่เขายอมผันตัวมาเป็น มาเฟียก็เพื่อความปลอดภัยของเมธาวีแล้วชีวิตเขาจะมีค่าอะไรถ้าเมธาวีและลูกๆของเขาเป็นอะไรไป“ครับนาย”แม้ไม่อยากจะทำตามคำสั่งนี้แต่ปร
ครืด~ ครืด~ ครืด~ เสียงสมาร์ทโฟนแจ้งเตือนสายแล้วสายเล่าแต่เจ้าของเครื่องก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกจากห้องน้ำมารับสายเสียที มีเพียงเสียงสายน้ำที่ตกกระทบพื้นห้องน้ำดังอยู่ไม่ขาดสายสุดท้ายชายหนุ่มจึงถือวิสาสะหยิบมันขึ้นมาดูเผื่อผู้โทรเข้ามาจะมีธุระด่วน“เบอร์ใครไม่เห็นบันทึกไว้”ด้วยความสงสัยชายหนุ่มจึงตัดสินใจกดรับสายแทนหญิงสาวเจ้าของเครื่อง[เมย์พี่รอที่บ้านแล้วนะเมื่อไหร่จะกลับครับพี่อยากกอดเมย์จะแย่แล้ว]“…”ฟีนิกซ์ที่ได้ยินประโยคชวนหงุดหงิดจากปลายสายทำเพียงฟังเงียบๆสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ[เมย์ได้ยินพี่ไหม พูดกับพี่หน่อยสิครับ พี่คิดถึงจะแย่แล้วไหนบอกว่าคืนนี้เราจะค้างด้วยกันไง]“คงไม่ได้! เพราะเมธาวีกำลังนอนเอากับฉันอยู่”[มึงเป็นใคร!]“เลิกยุ่งกับเมียกูซะ! ถ้ามึงยังไม่อยากตาย!”ติ๊ด!ทันทีที่พูดจบฟีนิกซ์ก็กดตัดสายทันทีมือหนากำสมาร์ทโฟน ของหญิงสาวแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนก่อนจะปามันใส่ผนังจนแตกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี เมธาวีที่กำลังอาบน้ำอยู่รีบวิ่งออกมาด้วยนึกเป็นห่วงว่าชายหนุ่มจะได้รับอันตรายอะไรหรือเปล่า“มะ มีอะไรหรือเปล่า”เมธาวีเอ่ยถามชายหนุ่มอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะท่าทางของเขาต