“คุณเอเดนไม่ต้องมาส่งฉันก็ได้นะคะ”เมธาวีบอกด้วยความเกรงใจเพราะเธอกับเอเดนต่างก็เป็นคนของฟีนิกซ์ทำงานรับเงินไม่ต่างกัน มิหนำซ้ำเธอคิดว่าเอเดนมีเกียรติและศักดิ์ศรีมากกว่าเธอด้วยซ้ำ “เป็นคำสั่งของนายครับ”เอเดนตอบออกไปตามตรง“เอางั้นก็ได้ค่ะ”ในเมื่ออีกฝ่ายยินดีเธอก็ไม่อยากขัดเพราะเขาก็ต้องรับคำสั่งจากเจ้านายเขาอยู่แล้ว“คุณเมย์มารับใครเหรอครับ”“มารับลูกชายน่ะค่ะ”เมธาวีตอบบอดี้การ์ดหนุ่มด้วยรอยยิ้ม“ลูกชาย!”ลูกชายของหญิงสาวเรียนโรงเรียนระดับนี้มิน่าเจ้านายเขาถึงดูแลเป็นพิเศษ“ชื่อเมฆากับพายุ”“ครับ”ชื่อเด็กชายทั้งสองทำเอาบอดี้การ์ดหนุ่มเงียบไปราวกับหาเสียงตัวเองไม่เจอ“งั้นเมย์ขอตัวสักครู่นะคะ”“ครับ”“นี่นายหญิงเหรอวะ เกือบไปแล้ว เกือบไปแล้วไอ้เอเดนเอ้ย! แล้วทำไมพี่ปราบไม่เตือนกันบ้างวะ”เมธาวีไปยังฝ่ายธุรการเพื่อจ่ายค่าเทอมของลูกๆโดยตอนนี้จ่ายแค่เพียงส่วนของเมฆาก่อนส่วนของพายุยังขาดอีกจำนวนหนึ่ง เดิมเมธาวีเองก็ไม่ได้คิดจะส่งลูกเรียนอินเตอร์แต่แรกแต่เพราะความสามารถของลูกๆสามารถสอบชิงทุนมาได้ ไม่คิดว่าผู้ให้ทุนจะประสบปัญหาหนักแต่เธอก็ไม่ได้คิดเคืองแม้แต่น้อยเพราะนั่นถือเป็น
“นายเชิญคุณเมย์ให้ไปพบครับ”เอเดนขับรถจากกรุงเทพฯเพื่อมารับนายหญิงของเขาไปพบเจ้านายระยะหลังมานี่ค่อนข้างบ่อย“มีเรื่องอะไรเหรอคะ”แม้จะรู้คำตอบของถามตัวเองดีแต่ก็ยังคงรู้สึกจุกอกที่ถูกเรียกหา ฉันคงมีค่าแค่ตอนเขาเรียกหาสินะเมธาวีได้แต่ตัดพ้อในใจที่อะไรๆไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว“ไม่ทราบครับ”เอเดนตอบเลี่ยงทั้งที่รู้คำตอบอยู่แก่ใจนานเกือบสี่ชั่วโมงกว่าที่เอเดนจะขับรถมาถึงกรุงเทพ ไหนจะต้องรถฝ่ารถติดออกมายังคาสิโนซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของเจ้านายเขาที่ได้รับการส่งต่อมาจากคุณปู่ ดวงตากลมเหลือบมองตึกสูงขนาดสิบชั้นที่เป็นแหล่งอบายมุขคุ้นตาที่เธอเคยเยื้องกรายเข้ามาในอดีตเพราะต้องนำเงินมาใช้หนี้พนันให้ผู้เป็นพ่อ“ที่นี่คือ…คาสิโนของฟีนิกซ์เหรอ”เสียงหวานถามน้ำเสียง สั่นเครือจนปิดไม่มิด หากปัจจุบันนี่เป็นคาสิโนของฟีนิกซ์งั้นก็มีความเป็นไปได้สูงที่อดีตคนรักของเธอพัวพันกับธุรกิจผิดกฎหมายแต่มันจะมีเหตุผลอะไรที่ทายาทมหาเศรษฐีอย่างเขาจะต้องมาทำงานพวกนี้เพราะเงินเหรอแต่ฟีนิกซ์ไม่ใช่คนแบบนั้นนี่“เชิญด้านในครับนายรออยู่”เอเดนไม่ได้ตอบคำถามของหญิงสาวทำเพียงแค่ผายมือเชิญให้เธอเข้าไปด้านในตามคำสั่งของเจ้าน
“เข้าไปพักในห้องพักรับรองก่อนฉันจะได้เคลียร์งานให้เสร็จด้วย”“อืม”เมธาวีพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายแล้วเดินเข้าห้องรับรองไปก๊อก~ ก๊อก~ ก๊อก~“เข้ามา”ทันทีที่ได้รับอนุญาตจากเจ้านายปราบปรามก็เข้ามารายงานตามที่ได้รับแจ้งจากบอดี้การ์ดด้านล่าง“คุณเดือนหยาดขอพบครับ”เดือนหยาดนั้นเป็นลูกสาวของ คู่ค้าคนสำคัญทำให้ฟีนิกซ์ไม่อยากจะทำให้เกิดความบาดหมางระหว่างเธอกับเขา จึงจำต้องยอมให้เธอเข้าพบอย่างยากที่จะเลี่ยง“อืม ให้เข้ามาสิ”ทันทีที่เข้ามาในห้องทำงานของฟีนิกซ์ได้เดือนหยาดก็เข้ามาหย่อนตัวลงนั่งที่ตักของฟีนิกซ์และเริ่มปลดกระดุมเสื้อของชายหนุ่มออกที่ละเม็ดอย่างยั่วยวนการกระทำของเธออยู่ในสายตาของเมธาวีนับตั้งแต่ที่เดือนหยาดเดินเข้ามาแต่ไม่มีใครทันได้สังเกต“ทำอะไรกันน่ะ!”เสียงหวานตะเบ็งเสียงกร้าวอย่างเดือดดาลเมื่อหัวเข็มขัดหนังราคาแพงถูกปลดออกด้วยมือของเดือนหยาด นี่มันอะไรกันผู้ชายคนนี้เป็นบ้าอะไรทำไมถึงได้ทำเรื่องแบบนี้ เดือนหยาดนั้นเป็นลูกสาวของคู่ค้าคนสำคัญทำให้ฟีนิกซ์ไม่อยากจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาตามหลังจึงจำต้องยอมให้หญิงสาวเข้าหาอย่างเลี่ยงไม่ได้“ว้าย! ฟินคะนี่ใครกัน”“นี่มันเรื่อ
รสจูบจากริมฝีปากหนาดึงดูดความสนใจจากร่างบางจนเผลอลืมความเจ็บปวดที่ใจกลางสาวจนหมดสิ้น สอดแทรกเรียวลิ้นเล็กดูดชิมความหวานจากโพรงปากหนาด้วยความโหยหาจากจิตใต้สำนึกที่พยายามเก็บซ่อนมันเอาไว้ มือหนาบีบขย้ำบั้นท้ายงอนด้วยความหลงใหลกระตุ้นอารมณ์ของคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดีจากความฝืดเคืองก่อนหน้าค่อยๆหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าหญิงสาวมีความพร้อมที่จะรับบทรักจากเสือหลับแบบเขาแล้วกายแกร่งก็หยัดกายลุกขึ้นนั่งอย่างง่ายดาย“ถอดให้ฉันสิ”มือบางปลดเสื้อเชิ้ตแบรนด์ดังที่ชายหนุ่มสวมอยู่ออกตามคำสั่งอย่างว่าง่าย“ต่อสิ”ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มร้ายเพราะรู้ดีว่าอดีตแฟนสาวของตนจะต้องสนองอารมณ์เขาได้อย่างถึงใจอย่างแน่นอน ยิ่งเวลาโกรธแบบนี้มีเหรอที่เธอจะยอมปล่อยให้เขาหยามเธอได้ “อะ อ๊า~”สะโพกมนเริ่มขยับโยกกายเข้าหาร่างแกร่งเป็นจังหวะเนิบนาบโดยที่ชายหนุ่มทำเพียงแต่โอบประคองแผ่นหลังของเธอไว้เท่านั้นซึ่งนั่นเท่ากับว่าเพลงรักบทนี้เมธาวีจะต้องเป็นคนบรรเลงมันเอง"ทำได้แค่นี้เหรอ"ชายหนุ่มพูดอย่างท้าทายถ้อยคำสบประมาททำเอาคนฟังถึงกับหน้าสั่น หึ~ แล้วนายจะได้รู้ สะโพกมนเริ่มขยับกระแทกกลืนกินตัวตนชายหนุ่มจนเกิดเส
เพราะความเหนื่อยล้าประกอบกับความหิวเข้าก่อกวนคนที่สลบคาอกชายหนุ่มจำต้องลืมตาตื่นขึ้นมาหาอะไรรองท้องก่อนที่จะเป็นลมเป็นแล้งคาเตียงให้อายชาวบ้านอีก แต่พอจะลุกขึ้นจากเตียงก็ได้รู้ว่าร่างกายเธอกำลังถูกฟีนิกซ์สวมกอดอยู่ เมธาวีค่อยๆแกะมือของชายหนุ่มออกจากเอวคอดแต่ก็ไม่สำเร็จซ้ำยังกอดแน่นกว่าเดิม“อื้อ~”ฟีนิกซ์ครางออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อถูกรบกวนการนอน“นี่ปล่อยก่อนได้ไหม”เมื่ออดทนต่อความหิวไม่ไหวเมธาวีจึงจำต้องปลุกชายหนุ่มเพื่อให้ปล่อยเธอออกไปหาอะไรรองท้องก่อน“ไม่”ฟีนิกซ์ตอบกลับทันควันโดยที่ยังไม่ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยซ้ำ“นายอิ่มแล้วแต่ฉันยังไม่อิ่มนี่”เมธาวีต่อว่าชายหนุ่มอย่างประชดประชัน เธอไม่ใช่คนหื่นกามแบบเขานะที่แค่ได้ปลดปล่อยก็อิ่มท้องได้“ก็ไม่บอก”ชายหนุ่มพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างเล็กอย่างรวดเร็ว“ว๊าย! นี่ๆๆไม่ใช่แบบนั้น ฉันหมายถึงฉันหิวข้าว”เมธาวีที่ไม่คิดว่าจะถูกชายหนุ่มจู่โจมกะทันหันผลักหน้าอกแกร่งให้ถอยห่างอย่างตื่นกลัวลำพังแค่ศึกเก่าก็หนักหนาจะแย่แล้ว จะทนศึกบทใหม่อย่างไรไหวขนาดไม่ได้เห็นด้วยตายังรู้สึกถึงอาการบวมได้“ชิ”ชายหนุ่มจิ๊ปากอย่างขัดใจนึกว่าจะได้ปลดปล่อยอีกสักหนแต่หญ
ณ บริษัท PKM“รีบใส่เสื้อผ้าซะผมมีธุระต่อ”ฟีนิกซ์บอกร่างเล็กที่กำลังนอนหมดเรี่ยวแรงเพราะถูกเขาสูบเรี่ยวแรงจนหมด ในขณะที่ตัวเขาเองนั้นแต่งตัวจวนจะเสร็จแล้วก่อนจะหยิบเข็มขัดหนังราคาแพงขึ้นมาใส่“…”ร่างบางไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำใดออกมา พยายามพยุงร่างกายที่บอบช้ำขึ้นมาหยิบอาภรณ์ที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นขึ้นมาสวมใส่เงียบๆ“รับไปสิ”เช็คเงินสดจำนวนหกหลักถูกวางลงที่โต๊ะทำงานของชายหนุ่มเหมือนกับว่าต้องการเลี่ยงการสัมผัสกับอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว ราวกับรังเกียจทั้งที่ก่อนหน้าทั้งคู่เพิ่งจะลึกซึ้งกันเสร็จหมาดๆ“ขอบคุณค่ะ”ร่างบางกล่าวขอบคุณทั้งที่ในใจเจ็บหน่วงจนไม่อยากเอื้อนเอ่ยคำใดแต่ก็ทำได้แค่เพียงเก็บงำความรู้สึกเอาไว้“ออกไปได้แล้ว”“…”ชิ~ มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้วฟีนิกซ์ที่น่ารักของเธอได้ตายจากไปแล้ว หากไม่จนปัญญาจนหาทางออกไม่ได้เธอคงไม่ยอมเฉียดกายเข้ามาขอเงินจากเขาอีกแน่ๆ ทำไม! ทำไมกันนะโชคชะตาทำไมใจร้ายนักทั้งที่ตัดใจจากมาแล้วแท้ๆทำไมต้องให้เธอกลับมาเจอกับเขาอีก ทำไมจังหวะชีวิตถึงได้ย่ำแย่ขนาดนี้“ยื่นอยู่ทำไมอีก ไปสิ”ชายหนุ่มรีบเอ่ยเร่งเพราะตอนนี้ใกล้ได้เวลาประชุมผู้ร่วมลงทุนในกลุ่มผู้ค้
ทันทีที่ทั้งคู่ถึงโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังซึ่งมีค่ารักษาสูงจนน่าใจหายทั้งคู่ก็มุ่งตรงไปยังจุดชำระเงินทันที โดยปกติแล้วเมธาวีจะพาลูกๆไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิแต่ด้วยทางโรงเรียนที่ลูกๆของเธอเรียนอยู่นั้นเป็นโรงเรียนเอกชนชันนำทั้งยังต้องส่งนักเรียนเข้ารักษาโรงพยาบาลในเครือเมื่อเด็กเจ็บป่วยจึงต้องส่งตัวเข้ารักษาที่นี่จะย้ายก็ไม่ทันแล้วเพราะทางโรงพยาบาลได้ทำการรักษาไปแล้ว“พ่อฟิน”เด็กน้อยที่เห็นฟีนิกซ์มาก็ดีใจวิ่งกระโดดกอดชายหนุ่มด้วยความดีใจ ชายหนุ่มทำเพียงแค่ปรายตามองเด็กน้อยที่กำลังมองเขาอยู่ก่อนแล้วพร้อมกับขยิบตาส่งสัญญาณให้เมฆาตามน้ำไปเพราะมีเรื่องจะคุยกับเด็กน้อย“เธอไปทำธุระของเธอเถอะ”“งั้นฉันขอตัว เมฆไปกัน”“แต่…”เมฆามีท่าทีลังเล ด้วยอยากอยู่เล่นกับชายหนุ่มเพราะไม่ได้เจอกันนานหลายวันเด็กน้อยก็อยากจะอยู่กับชายหนุ่มให้หายคิดถึง“ให้เมฆอยู่นี่แหละเธอไปเถอะ”เมื่อชายหนุ่มบอกอย่างนั้นเมธาวีก็จำต้องยอมทำตามที่ทั้งคู่ต้องการ เมื่อร่างเล็กเดินห่างออกไปจนลับตาชายหนุ่มจึงย่อตัวลงนั่งยองๆตรงหน้าเด็กน้อย“ทำไมพ่อฟินเย็นชาใส่แม่เมย์ล่ะครับ”เด็กน้อยเอียงคอมองชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจเมื่อก่อน
“นี่คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”เมธาวีทอดสายตามองคฤหาสน์หลังงามซึ่งตั้งอยู่แถบชานเมืองอย่างแปลกใจ ก็จะไม่ให้แปลกใจได้อย่างไรปกติเรียกมาใช้งานเสร็จก็ให้กลับ มาวันนี้พามาคฤหาสน์หลังโตเสียอย่างนั้น“คืนนี้เราจะค้างที่นี่”ฟีนิกซ์บอกโดยที่ไม่ได้หันมองหญิงสาวข้างกายก่อนจะถอดเสื้อสูทส่งให้มือขวาคนสนิทแล้วเดินไปยังห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์เห็นอย่างนั้นเมธาวีจึงรีบสาวเท้าวิ่งตามมาเฟียหนุ่มไปติดๆ“ค้างที่นี่? แต่แพลนงานหลังประชุมเสร็จเราจะกลับเลยไม่ใช่เหรอ”“วันนี้ฉันเหนื่อยมากขอพักสักสองสามชั่วโมงได้ไหม”นั้นคือเรื่องจริงเพราะตั้งแต่ที่ได้พบกับเมธาวีวันนั้นเขาก็เทียวไปเทียวกลับระยะทางเกือบหกร้อยกิโลเมตรแทบทุกวัน(ไปเกือบสามร้อยกลับอีกเกือบสามร้อย)“แต่ฉันเป็นห่วงลูก”เมธาวีบอกออกไปตามตรงเพราะเธอไม่รู้ว่าวันนี้จะต้องค้างที่กรุงเทพฯทำให้เธอไม่ทันได้เตรียมตัวและไม่ได้ฝากผู้เป็นแม่ให้ช่วยไปรับบุตรชายทั้งสองแทน“งั้นกลับก็กลับ”เห็นท่าทางของหญิงสาวดูจะไม่เต็มใจ มาเฟียหนุ่มเองก็ไม่อยากจะฝืนใจ สุดท้ายจึงยอมตามใจหญิงสาวเพราะว่าวันนี้ที่นี่ก็ไม่ได้มีงานสำคัญอะไรแล้วฝากให้ปราบปรามดูแลแทนก็ไม่มีอะไรน่าห่วง“เด
ภายในงานเลี้ยงหรูหราบรรยากาศชื่นมื่นเต็มไปด้วยความยินดีที่ต่างมาแสดงความยินดีกับบ่าวสาวโดยงานถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์ที่เป็นเรือนหอของทั้งคู่นั่นเอง“สวยมากเลยเมย์”เฟรย่าจับตัวเพื่อนสาวหันซ้ายหันขวามองหาจุดบกพร่องแต่ก็ไม่เจอแม้แต่จุดเดียว“ไร้ที่ติ”เฟรย่าบอกอย่างภูมิใจ“ขนาดลูกสองแล้วยังเป๊ะเว่อร์”จัสมินมองเพื่อนรักอย่างทึ้งๆ“เข้าใจกันผิดแล้วจ้ะ กำลังจะเป็นคุณแม่ลูกสาม”“ห๊ะ!”เฟรย่าร้องออกมาอย่างตกใจ“แหมมกลับมาเจอกันปุบก็ซัมกันหนักเลยนะ รีบมีเจ้าตัวเล็กเลยนะ”จัสมินเย้าแหย่เพื่อนรัก“มีสามีเด็กก็งี้แหละ กินอร่อยนะ”เมธาวีเย้าแหย่เพื่อนกลับโดยไม่ทันได้สังเกตว่าสามีเด็กเดินเข้ามาทันได้ยินพอดี“อร่อยขนาดนั้นเลย”น้ำเสียงทุ้มต่ำถามใบหน้านิ่งเรียบแต่ใบหูกลับแดงซ่านอย่างปิดไม่มิด“มาก ถึงใจสุดๆ”เมธาวีตอบกลับแบบไม่ต้องคิด“เมย์”เฟรย่าสะกิดเพื่อนเพื่อเตือนสติว่าพวกเขาไม่ใช่คนพูดประโยคนั้น“อะไรของแกยายเฟร""ผัวเด็กแก"ทันทีที่ได้ยินคำเฉลยของเพื่อนรักเจ้าสาวของงานถึงกับหน้าถอดสีกันเลยทีเดียว เขาจะหาว่าฉันลามกหรือเปล่าเนี่ยนั้นคือคำถามที่เมธาวีถามตัวเอง"งั้นพวกฉันไปรอในงานนะ"จัสมินบอ
ทันทีที่ความใหญ่โตถูกกระแทกเข้าช่องทางคับแคบฉ่ำน้ำร่างบางก็โผเข้ากอดเจ้าของการกระทำราวกับต้องการให้คนตัวโตปลอบแต่อีกฝ่ายกลับกระแทกกระทั้นเข้าใส่ร่องเล็กด้วยความกระสัน"อึก~ เบาหน่อยสิจุก"ร่างบางใบหน้าเหยเกเมื่อความใหญ่โตถูกถอนออกแทบจะหลุดออกจากกันก่อนจะกระแทกแทรกเข้ามาจนสุดลำอีกครั้ง“ก็หิว งั้นถ้าไม่อยากจุกก็กระแทกสิ”มาเฟียหนุ่มเอ่ยกระตุ้นให้ร่างบางปรนเปรอตนเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่นั่งนิ่ง“กระแทกผมสิครับพี่เมย์”คนตัวโตอ้อนเหมือนที่หญิงสาวชอบและทุกครั้ง เธอก็แพ้ลูกอ้อนแบบนี้ทุกทีแต่ครั้งนี้กลับผิดคาด หึ~ แต่ถ้าอ้อนไม่ได้ผลงั้นคงต้องบังคับสินะแต่วิธีบังคับในแบบของฟีนิกซ์นั้นเป็นการบังคับแบบเต็มใจเท่านั้นมันจึงจะถึงใจปึก~ ปึก~ ปึก~คนตัวโตกระแทกเอวสวนขึ้นใส่ร่องเล็กคับแคบจนร่างบางกระเด้งกระดอนไปตามแรงกระแทกกระทั้น“อื้อ~ จุก!”ร่างเล็กร้องประท้วงทันทีเมื่อถูกเล่นงานที่ใจกลางความเป็นสาวปัก! ปัก! ปัก!ร่างบางเริ่มขยับโยกส่งตัวตนเข้าช่องน้ำหวานเป็นจังหวะเนิบนาบ“ขอแรงอีกได้ไหมครับ”“มะ มันเสียว”แม้ปากจะปฏิเสธแต่สะโพกมนก็เร่งจังหวะกระแทกตามแรงอารมณ์ที่มีไม่ต่างจากคนร้องขอ“เมียผมแ
หลังจากเพื่อนๆของชายหนุ่มกลับไปทิพย์อาภาก็ถือโอกาสพูดเคลียร์ใจกับลูกสะใภ้เสียเลย"เมย์""คะ?""เรื่องเมื่อตอนนั้นแม่ขอโทษนะแม่ไม่คิดว่าสิ่งที่แม่ทำมันจะทำร้ายหนูขนาดนั้น"ทิพย์อาภาบอกอย่างรู้สึกผิด"เรื่องนั้นเมย์ไม่ได้คิดอะไรแล้วค่ะ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว""ขอบใจนะ""อีกอย่าง...คนที่ช่วยเมย์จากการถูกส่งขายอวัยวะก็คือคุณแม่นี่คะ"เมธาวียิ้มอ่อนให้กับแม่ของชายคนที่เธอรัก"ตอนนั้นเมย์ไม่มั่นใจว่าใช่คุณแม่ไหมแต่หลังจากที่เมย์ออกมาได้แล้วเมย์ก็มารู้ว่าคนที่ช่วยซื้อเมย์ออกมาก็คือเพื่อนของคุณแม่ ที่มีสามีชื่อชยันต์""...""หลังจากนั้นก็เป็นมาเฟียที่ชื่อชยันต์ที่รับตัวเมย์มาส่งคุณปู่เอง""เมย์พยายามจะบอกเรื่องนี้กับฟินในตอนนั้นแต่เขาก็หายหน้าไป""แม่ตั้งใจช่วยเมียผมแต่แรกแล้วเหรอ""อืม ก็ฟินรักเขาขนาดนั้นแม่จะปล่อยเขาเป็นอะไรไปได้ยังไง""...""ความสุขของฟินก็คือความสุขของแม่ ถึงแม้ความรักของแม่ฟินจะไม่ต้องการก็ตาม"คนเป็นแม่น้ำตาคลอด้วยความน้อยใจที่ลูกไม่เคยรักเธอเลย"ใครบอกว่าฟินไม่รักแม่"ฟีนิกซ์เดินเข้าไปสวมกอดคนเป็นแม่น้ำตาคลอ"ฟินรักแม่นะ รักมากด้วยฟินต้องการแม่มาตลอด"คนเป็
กว่าที่หมอจะยอมให้มาเฟียหนุ่มกลับบ้านได้ก็กินเวลาไปถึงหนึ่งสัปดาห์เต็ม พื้นที่แออัดในห้องพักสี่เหลี่ยมทำอารมณ์มาเฟียหนุ่มค่อนข้างหงุดหงิดทำให้พยาบาลที่เขามาทำหน้าที่ทำงานกันค่อนข้างลำบากเดือดร้อนหมอเดนิสต้องเขามาทำการรักษาให้แบบส่วนตัว“ครั้งหน้ากรุณาอย่าเจ็บนะครับหมอขอร้อง”เดนิสบอกมาเฟียหนุ่มด้วยความเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมเอาแต่ใจของคนไข้แต่คนไข้กลับไม่สะทกสะท้านสักนิด“แกเป็นหมอไม่มีสิทธิปฏิเสธคนไข้แบบฉัน”“คนไข้แบบแกหมอปกติที่ไหนจะรักษาได้”เดนิสมองฟีนิกซ์อย่างเบื่อหน่าย แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องเป็นเจ้าของไข้เพื่อนจอมเอาแต่ใจแต่ครั้งนี้ฟีนิกซ์ดันบ้ากว่าเดิมไม่เห็นเมียไม่ยอมล้างแผลไม่ยอมกินยา“คุณเมย์ได้กลับไปพักผ่อนบ้างไหมครับ”เมื่อพูดกับคนไข้ไปก็เปล่าประโยชน์เดนิสจึงหันมาสนใจหญิงสาวที่ใบหน้าอิดโรยราวกับคนอดหลับอดนอน“ไอ้หมอคุยกับคนไข้ก็พอครับอย่าเสือกยุ่งกับเมียคนไข้”“เฮ้อ~ ว่างก็ไปเช็คประสาทบ้างนะ”จากที่กำลังเป็นห่วงหญิงสาวเพียงคนเดียวในห้องพักผู้ป่วยเดนิสชักอยากจะพาเพื่อนตัวเองไปเช็คประสาทขึ้นมาแล้ว“ขอโทษแทนเขาด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรหรอกครับผมชินแล้ว ตอนอยู่อังกฤษมั
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงเย็นสองบอดี้การ์ดคนสนิท ก็เข้ามาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เจ้านายหนุ่มภายในห้องพักแต่ดูเหมือนว่ามีอยู่หนึ่งคนที่ท่าทางแปลกไปจนเจ้านายหนุ่มสังเกตได้“ปราบ”“ครับนาย"“เอเดนมันเป็นอะไรของมันมองฉันอย่างกับฉันไปหยิกไข่มัน”ตั้งแต่ตอนที่เดินเข้ามาพร้อมเมธาวีเอเดนก็เอาแต่มองค้อนเจ้านายหนุ่มไม่หยุดนี่ถ้าเป็นผู้หญิงเขาคงคิดว่าเอเดนงอนเขาอยู่แน่ๆ“เอ่อ”ปราบปรามกระอักกระอ่วนอยู่ไม่น้อยเพราะจะให้เขาตอบไปตามตรงก็กลัวจะทำให้เจ้านายไม่พอใจ“เฮอะ”พอได้ยินเจ้านายว่าตัวเองแบบนั้นความน้อยใจยิ่งเพิ่มขึ้นจนลืมความเกรงกลัวที่เคยมีต่อเจ้านายแถมยังสะบัดหน้าหนีผู้เป็นนายราวกับสาวน้อยงอนคนรัก“เอเดนแกอย่าทำแบบนี้ขอร้องฉันจะอ้วก”ฟีนิกซ์เห็นท่าทางของมือซ้ายคนสนิทอดขยาดไม่ได้ ตัวโตอย่างกับควายมาทำตัวเป็นสาวน้อยไปได้“ผมทำอะไรก็ไม่ดีในสายตานายหรอกครับ”พูดจบก็สะบัดหน้าหนีอีกรอบฟีนิกซ์ถึงกับกุมขมับกับท่าทางของเอเดน เรียกได้ว่าหมดคำจะพูด“ลากตัวมันออกไปเถอะฉันรำคาญลูกตา”“ครับนาย”ปราบปรามโค้งหัวให้เจ้านายเล็กน้อยแล้วเดินไปลากตัวเอเดนออกไปแต่เอเดนกลับไม่ยอมง่ายๆจนสุดท้ายฟีนิกซ์ก็จำต้องมา
เมธาวีเดินออกมาสูดอากาศในช่วงเช้ามืดเหมือนอย่างทุกวันแต่วันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูผิดแปลกไปหมดเริ่มตั้งแต่เด็กหนุ่มบ้านตรงข้ามจากที่เห็นเขากับพ่อจะมานั่งทำกิจกรรมยามเช้ากันในทุกๆวันแต่วันนี้ทั้งคู่กลับสวมสูทพร้อมกับยืนรักษาความปลอดภัยอยู่หน้ารั้วบ้านของเขาแทนแถมยังเอาแต่จ้องมองมาที่บ้านของเธอจนร่างบางรู้สึกประหม่าสุดท้ายเมธาวีก็เดินกลับเข้าบ้านแทนการไปสูดอากาศตามที่ตั้งใจตอนแรก“ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันมีหวังอึดอัดตาย”“อ้าวเมย์ทำไมวันนี้กลับเข้าบ้านเร็วจัง”“แม่เห็นบ้านตรงข้ามยังคะ”“อ่อ เห็นแล้ว”“แล้วแม่ไม่แปลกใจเหรอคะหรือกลัวไหมคะ”“จะกลัวทำไมละคนของพ่อเจ้าพาทั้งนั้น”“นี่แม่ก็รู้เหรอคะ”“รู้สิ”“…”“ก็พวกนั้นเขามากับเจ้านายเขาบ่อยๆน่ะ”“มาบ่อย? ตอนไหนทำไมเมย์ไม่รู้”“ก็ถ้าเมื่อก่อนรู้จะอยู่ที่นี่ต่อไหมล่ะ”“…”“ก็นั่นแหละพ่อเจ้าพาเลยไม่ให้ใครบอกเมย์รวมทั้งแม่ก็ด้วย”“งั้นก็แสดงว่าคนที่ไม่รู้อะไรเลยมีแค่เมย์สินะคะ”“อย่าไปโกรธพ่อเจ้าพาเลยลูก เขาก็ทำหน้าที่ของเขาเต็มที่แล้ว เจ้าพาเองก็ไม่ต้องทนรู้สึกขาดพ่อ”“อืม เมย์ไปชงโกโก้อุ่นๆดื่มก่อนนะคะ”“จ๊ะ”ผู้เป็นแม่มองตามลูก
“นายหญิงไปเยี่ยมนายหน่อยเถอะนะครับ นี่ก็สองวันแล้วนายยังไม่ยอมทานอะไรเลย”เอเดนยังคงพยายามอ้อนวอนนายหญิงของตน“ทนหิวไม่ไหวเขาก็กินเองแหละ”แต่เมธาวีกลับตอบเหมือนไม่ได้ใส่ใจ“แม้แต่แผลก็ไม่ยอมให้หมอตรวจเลยนะครับ”เอเดนเสริมอีกหน“ฉันไปมันก็ไม่ช่วยอะไรหรอก”เธอจะไปช่วยอะไรได้เมื่อไม่กี่วันก่อนก็เพิ่งโดนเขาไล่ตะเพิดมา“ได้สิครับนายรักนายหญิงขนาดนั้น”เอเดนถึงกลับสะบัดคอหันมองปราบปรามอย่างไม่เชื่อหูถึงเขาจะรู้ว่าหญิงสาวมีความสำคัญกับเจ้านายเขามากแต่ก็ยังไม่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำอย่างที่ปราบปรามพูด“ทำไมพี่กล้าพูดแบบนั้นเกิดนายอาละวาดต่อหน้าคุณเมย์จะทำไง”เอเดนกระซิบถามปราบปรามให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน“ไม่มีทาง”“พวกคุณกลับไปเถอะตอนนี้เขาคงแค่สับสน”“ถ้างั้นนายหญิงจำเรื่องเมื่อหาปีก่อนได้ไหมครับ ตอนที่นายหญิงหายไป รู้ไหมครับว่านายต้องแรกทั้งชีวิตเลยนะครับ”เมธาวีที่ไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดในตอนนั้นก็ได้แต่เงียบรอฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมสุดท้ายฟีนิกซ์ถึงยอมปล่อยมือจากเธออย่างง่ายดาย5 ปีก่อนทันทีที่รู้ว่าแฟนสาวหายตัวไปฟีนิกซ์ก็ออกตามหาถึงหนึ่งวันเต็มๆแต่กลับไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย สุด
“พายุ!”เด็กชายตัวน้อยที่ได้ยินเสียงเรียกอันคุ้นเคยรีบหันตามเสียงเรียก พายุที่เห็นพ่อของเขารีบวิ่งเข้าหาพ่อด้วยความหวาดกลัวฟีนิกซ์ก็รีบกอดเอาลูกรักมาไว้ในอ้อนแขน“พ่อ แม่ แม่เจ็บ”พายุบอกคนเป็นพ่อดวงตาแดงก่ำอย่าง น่าสงสาร แม้จะสงสารลูกชายตัวน้อยแค่ไหนแต่ตอนนี้เขาต้องหาตัวเมธาวีให้เจอก่อนโชคดีเหลือเกินที่ลูกชายวัยแค่สี่ขวบแต่สามารถสื่อสารได้เก่งมากๆ“แม่อยู่ไหน”คนเป็นพ่อถามลูกชายด้วยความกระวนกระวายใจก่อนจะได้สติเมื่อมือขวาคนสนิทเดินเข้ามาพอดี“เมียฉันอยู่ไหน!”“คุณเมย์ยังอยู่ข้างในครับ พวกนั้นมีปืนและมากันหลายคนผมเกรงว่าคุณเมย์จะได้รับอันตรายเลยยังไม่กล้าเข้าไปครับ”เป็นบอดี้การ์ดที่แฝงตัวอยู่คอยดูแลความปลอดภัยของหญิงสาวเป็นผู้รายงาน“บ้าชิบ! ปราบพาลูกฉันไป”ฟีนิกซ์สบถออกมาอย่างหัวเสียแต่ก็ไม่ลืมนึกถึงความปลอดภัยของลูกชาย“แต่..”ปราบปรามไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้เจ้าอยู่กับลูกน้องโดยปราศจากเขาคอยซัพพอร์ต“แกก็รู้ว่าอะไรสำคัญกว่าฉัน”ที่เขายอมผันตัวมาเป็น มาเฟียก็เพื่อความปลอดภัยของเมธาวีแล้วชีวิตเขาจะมีค่าอะไรถ้าเมธาวีและลูกๆของเขาเป็นอะไรไป“ครับนาย”แม้ไม่อยากจะทำตามคำสั่งนี้แต่ปร
ครืด~ ครืด~ ครืด~ เสียงสมาร์ทโฟนแจ้งเตือนสายแล้วสายเล่าแต่เจ้าของเครื่องก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกจากห้องน้ำมารับสายเสียที มีเพียงเสียงสายน้ำที่ตกกระทบพื้นห้องน้ำดังอยู่ไม่ขาดสายสุดท้ายชายหนุ่มจึงถือวิสาสะหยิบมันขึ้นมาดูเผื่อผู้โทรเข้ามาจะมีธุระด่วน“เบอร์ใครไม่เห็นบันทึกไว้”ด้วยความสงสัยชายหนุ่มจึงตัดสินใจกดรับสายแทนหญิงสาวเจ้าของเครื่อง[เมย์พี่รอที่บ้านแล้วนะเมื่อไหร่จะกลับครับพี่อยากกอดเมย์จะแย่แล้ว]“…”ฟีนิกซ์ที่ได้ยินประโยคชวนหงุดหงิดจากปลายสายทำเพียงฟังเงียบๆสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ[เมย์ได้ยินพี่ไหม พูดกับพี่หน่อยสิครับ พี่คิดถึงจะแย่แล้วไหนบอกว่าคืนนี้เราจะค้างด้วยกันไง]“คงไม่ได้! เพราะเมธาวีกำลังนอนเอากับฉันอยู่”[มึงเป็นใคร!]“เลิกยุ่งกับเมียกูซะ! ถ้ามึงยังไม่อยากตาย!”ติ๊ด!ทันทีที่พูดจบฟีนิกซ์ก็กดตัดสายทันทีมือหนากำสมาร์ทโฟน ของหญิงสาวแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนก่อนจะปามันใส่ผนังจนแตกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี เมธาวีที่กำลังอาบน้ำอยู่รีบวิ่งออกมาด้วยนึกเป็นห่วงว่าชายหนุ่มจะได้รับอันตรายอะไรหรือเปล่า“มะ มีอะไรหรือเปล่า”เมธาวีเอ่ยถามชายหนุ่มอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะท่าทางของเขาต